แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 1
ผมมองว่าวันนี้ราคาทองคำมีแนวรับอยู่ที่
880-885 ครับเป็นจุดที่น่าซื้อเพื่อทำกำไร
909-920 เป็นแนวต้านที่น่าปล่อยออกเพื่อทำกำไร(ระยะสั้น) ยาวถือต่อไป
พอสูง909ไม่ผ่านทำช็อคลงมาแทนถ้าผ่านรอช็อคใก้ลๆ920แทน
ช่วยกันแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
เผื่อจะเอาไปทำกำไรกัน
ถ้าจะคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารก็แอดมาคุยกันได้นะครับ
[email protected]
880-885 ครับเป็นจุดที่น่าซื้อเพื่อทำกำไร
909-920 เป็นแนวต้านที่น่าปล่อยออกเพื่อทำกำไร(ระยะสั้น) ยาวถือต่อไป
พอสูง909ไม่ผ่านทำช็อคลงมาแทนถ้าผ่านรอช็อคใก้ลๆ920แทน
ช่วยกันแสดงความคิดเห็นด้วยนะครับ
เผื่อจะเอาไปทำกำไรกัน
ถ้าจะคุยเพื่อแลกเปลี่ยนข่าวสารก็แอดมาคุยกันได้นะครับ
[email protected]
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 2
แนวโน้มการซื้อขายวันนี้ผมมองว่าน่าจะวิ่งอยู่ในกรอบ875-900
จุดที่น่าทำกำไรขาลง 891.10 สามารถทำกำไรได้ในช่วงเช้าก่อน15.00
ถ้าซื้อแล้วราคาหลุดขึ้นไป ให้ดูที่895ว่าผ่านไหม ถ้าราคาผ่านให้ล็อค
ก่อนแล้วปลดใก้ล ราคา900 ถ้าไม่ผ่าน895ให้เปิด ขายเพิ่มอีกกตัวหนึ่ง
จุดที่น่าทำกำไรจุดที่2. 895 คาดว่าราคาไม่น่าจะวิ่งขึ้นไปถึง 900 ถ้า
หลุดควรคัสลอสมากกว่าเพราะไม่มั่นใจว่าราคาจะย่อลงมาต่ำกว่า900
ได้อีกหรือเปล่า กลัวว่าจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแทน
แนวรับ 875เป็นจุดที่ราคาไม่สามารถผ่านได้ใน2วันที่ผ่านมา ก็เป็นจุด
ที่น่าซื้อเหมือนกันสำหรับผู้ที่ชอบเสี่ยงหน่อย ถ้าหลุดให้ดูที่แนว 860
ซึ่งต้องลาก15$ อาจจะล็อคไปก่อนถ้าผิดทางจริงสัก 5-10$ แล้วปลด
เพื่อล็อคการขาดทุนไปก่อน
แนวที่ราคาไม่น่าจะถึงได้ 848
รอดูข่าวคืนนี้นะครับ
ประกาศสต็อกน้ำมันดิบNymex Oil 21.30น
ประกาศดอกเบี้ยอเมริกา 01.15น
จุดที่น่าทำกำไรขาลง 891.10 สามารถทำกำไรได้ในช่วงเช้าก่อน15.00
ถ้าซื้อแล้วราคาหลุดขึ้นไป ให้ดูที่895ว่าผ่านไหม ถ้าราคาผ่านให้ล็อค
ก่อนแล้วปลดใก้ล ราคา900 ถ้าไม่ผ่าน895ให้เปิด ขายเพิ่มอีกกตัวหนึ่ง
จุดที่น่าทำกำไรจุดที่2. 895 คาดว่าราคาไม่น่าจะวิ่งขึ้นไปถึง 900 ถ้า
หลุดควรคัสลอสมากกว่าเพราะไม่มั่นใจว่าราคาจะย่อลงมาต่ำกว่า900
ได้อีกหรือเปล่า กลัวว่าจะเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแทน
แนวรับ 875เป็นจุดที่ราคาไม่สามารถผ่านได้ใน2วันที่ผ่านมา ก็เป็นจุด
ที่น่าซื้อเหมือนกันสำหรับผู้ที่ชอบเสี่ยงหน่อย ถ้าหลุดให้ดูที่แนว 860
ซึ่งต้องลาก15$ อาจจะล็อคไปก่อนถ้าผิดทางจริงสัก 5-10$ แล้วปลด
เพื่อล็อคการขาดทุนไปก่อน
แนวที่ราคาไม่น่าจะถึงได้ 848
รอดูข่าวคืนนี้นะครับ
ประกาศสต็อกน้ำมันดิบNymex Oil 21.30น
ประกาศดอกเบี้ยอเมริกา 01.15น
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 3
ตลาดยุโรป: ดอลล์ร่วง, ยูโรทะยาน
-หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนในวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และถ้อยแถลงนี้ก็ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ถึงแม้ดัชนีความเชื่อมั่นอ่อนแอลง
-เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 2% และแสดงความกังวลมากยิ่งขึ้นเรื่องภาวะเงินเฟ้อ แต่เฟดคาดการณ์ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะลดระดับลงในปีนี้
-หลังจากเฟดประกาศผลการประชุม ดีลเลอร์ชั้นนำทั้ง 16 รายในโพลล์รอยเตอร์ก็คาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนสิงหาคมนี้
น้ำมันNYMEX
-สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า ของสหรัฐอ่อนตัวลงเช้านี้ แต่ราคายังทรงตัวเหนือระดับ 139 ดอลลาร์ หลังพุ่งขึ้นเกือบ 4% แตะระดับสูงสุดตลอดการณ์ที่ 140.39 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้
-ราคาน้ำมันปรับตัวลงในเช้าวันนี้หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นผ่านร่างกฎหมายที่ระบุให้คณะกรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ใช้อำนาจทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงอำนาจฉุกเฉินในการจำกัดบทบาทของการเก็งกำไรที่มากเกินไปในตลาดสัญญาล่วงหน้าพลังงานในทันที
-ราคาน้ำมันดิบสหรัฐขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 140.39 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังจากลิเบียแถลงว่ากำลังศึกษาทางเลือกที่เป็นไปได้ในการปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐอาจดำเนินมาตรการต่อสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(OPEC)
-การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆเมื่อวานนี้หลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ และลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้
-นายชาคิบ เคลิล ประธานโอเปกกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า ราคาน้ำมันอาจใต่ขึ้นแตะระดับ 170 ดอลลาร์/บาร์เรล ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและเขาย้ำจุดยืนของโอเปกที่ว่า การเก็งกำไรเป็นสาเหตุที่ดันราคาน้ำมันขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ ไม่ใช่จากปัญหาด้านอุปทาน
ราคาทองขึ้น
-ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันนี้ หลังราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และดอลลาร์ร่วงลงเทียบเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทอง
-ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 914.45/915.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์ค เมื่อวานนี้ที่ระดับ 912.60/913.60 ดอลลาร์ เมื่อราคาพุ่งแตะ 917.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 พ.ค.
แนวโน้มวันนี้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะทะลุ 920 และมีแนวต้านที่ 935
จุดน่าทำกำไรจุดแรก 905
จุดที่สอง 900
จุดที่สาม 895
จุดที่สี่ 890
จุดที่ห้า 880-885
แนวโน้มวันนี้ไม่น่าล็อคเพราะราคาทองคำ กำลังเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
ราคาทองคำไม่น่าจะลงมาต่ำกว่า900และปิดที่ราคา900
วันนี้ควรซื้อ Average มากกว่าครับ
-หลังจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางยุโรป (ECB) กล่าวเตือนในวันพุธว่า อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และถ้อยแถลงนี้ก็ทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า ECB จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์หน้า ถึงแม้ดัชนีความเชื่อมั่นอ่อนแอลง
-เฟดตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 2% และแสดงความกังวลมากยิ่งขึ้นเรื่องภาวะเงินเฟ้อ แต่เฟดคาดการณ์ว่า ภาวะเงินเฟ้อจะลดระดับลงในปีนี้
-หลังจากเฟดประกาศผลการประชุม ดีลเลอร์ชั้นนำทั้ง 16 รายในโพลล์รอยเตอร์ก็คาดว่า เฟดจะตรึงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนสิงหาคมนี้
น้ำมันNYMEX
-สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้า ของสหรัฐอ่อนตัวลงเช้านี้ แต่ราคายังทรงตัวเหนือระดับ 139 ดอลลาร์ หลังพุ่งขึ้นเกือบ 4% แตะระดับสูงสุดตลอดการณ์ที่ 140.39 ดอลลาร์/บาร์เรลเมื่อวานนี้
-ราคาน้ำมันปรับตัวลงในเช้าวันนี้หลังจากสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติด้วยคะแนนเสียงท่วมท้นผ่านร่างกฎหมายที่ระบุให้คณะกรรมาธิการการค้าสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์ (CFTC) ใช้อำนาจทั้งหมดที่มีอยู่ ซึ่งรวมถึงอำนาจฉุกเฉินในการจำกัดบทบาทของการเก็งกำไรที่มากเกินไปในตลาดสัญญาล่วงหน้าพลังงานในทันที
-ราคาน้ำมันดิบสหรัฐขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 140.39 ดอลลาร์เมื่อวานนี้ หลังจากลิเบียแถลงว่ากำลังศึกษาทางเลือกที่เป็นไปได้ในการปรับลดปริมาณการผลิตเพื่อตอบโต้ต่อการที่สหรัฐอาจดำเนินมาตรการต่อสมาชิกกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(OPEC)
-การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันเมื่อวานนี้ยังได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างๆเมื่อวานนี้หลังธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในวันพุธ และลดการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้
-นายชาคิบ เคลิล ประธานโอเปกกล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ว่า ราคาน้ำมันอาจใต่ขึ้นแตะระดับ 170 ดอลลาร์/บาร์เรล ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าและเขาย้ำจุดยืนของโอเปกที่ว่า การเก็งกำไรเป็นสาเหตุที่ดันราคาน้ำมันขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ ไม่ใช่จากปัญหาด้านอุปทาน
ราคาทองขึ้น
-ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเช้าวันนี้ หลังราคาน้ำมันแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และดอลลาร์ร่วงลงเทียบเงินสกุลอื่นๆ ซึ่งได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทอง
-ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 914.45/915.45 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์ค เมื่อวานนี้ที่ระดับ 912.60/913.60 ดอลลาร์ เมื่อราคาพุ่งแตะ 917.20 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 27 พ.ค.
แนวโน้มวันนี้ราคาทองคำมีโอกาสที่จะทะลุ 920 และมีแนวต้านที่ 935
จุดน่าทำกำไรจุดแรก 905
จุดที่สอง 900
จุดที่สาม 895
จุดที่สี่ 890
จุดที่ห้า 880-885
แนวโน้มวันนี้ไม่น่าล็อคเพราะราคาทองคำ กำลังเปลี่ยนเป็นขาขึ้น
ราคาทองคำไม่น่าจะลงมาต่ำกว่า900และปิดที่ราคา900
วันนี้ควรซื้อ Average มากกว่าครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 4
สรุปข่าวสำคัญรายสัปดาห์ ราคาทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน 30-6-51
ราคาทองปรับตัวลงในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์และตลาดหุ้นที่ปรับตัวลง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 925.90/926.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 927.20/928.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อราคาพุ่งสูงถึง 930.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์มายืนเหนือระดับ 141 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกรณีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดัล 143 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 06.53 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์ มาที่ 141.51 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากเคลื่อนตัวใกล้ 142.99 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
รมว.ต่างประเทศของอิหร่านกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่เชื่อว่าอิสราเอลอยู่ในฐานะที่จะโจมตีประเทศของเขาจากประเด็นโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่นายพลของอิหร่านประกาศแผนการเตรียมหลุมศพ 320,000 หลุมสำหรับฝังทหารฝ่ายศัตรู
คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวล่าสุดในสงครามน้ำลายที่รุนแรงขึ้นระหว่างทั้ง 2 ประเทศซึ่งเป็นคู่อริกัน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดคาดการณ์ถึงการโจมตีของอิสราเอลที่อาจจะเป็นไปได้ต่ออิหร่านซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกโดยคาดการณ์นี้เป็นปัจจัยดันราคาน้ำมันสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
คำขู่ของอิหร่านที่ว่า อิหร่านจะทำการควบคุมการขนส่งทางเรือในเส้นทางน้ำมันที่สำคัญในอ่าวอาหรับ ถ้าอิหร่านถูกโจมตี ทำให้เกิดความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน
การขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุส ซึ่งเป็นน่านน้ำมันที่แยกอิหร่านออกจากคาบสมุทรอาหรับ คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการขนส่งน้ำมันที่มีการซื้อขายในโลก
สำนักข่าว Mehr ของอิหร่านรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่น้ำมันระดับสูงของอิหร่านคาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นสู่ 150 ดอลลาร์/บาร์เรลในอนาคตอันใกล้ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นในฤดูร้อน
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแล้วมากกว่า 45% ในปีนี้ โดยขยายแรงบวกต่อจากการปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 6 ปี ขณะที่ภาวะอุปทานไม่สามารถตามทันอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีนและอินเดีย
แรงหนุนเพิ่มเติมมาจากกระแสเงินสดของนักลงทุนรายใหม่ที่เข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และดอลลาร์ที่อ่อนค่า
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดีลเลอร์จะจับตาดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงการลงมติเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางของดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเซีย โดยอ่อนค่าลงหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า เฟด จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้เฟดระบุว่าความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นหลังจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาทองปรับตัวลงในเช้าวันนี้ ขณะที่นักลงทุนเข้าทำกำไรหลังราคาพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่สูงเป็นประวัติการณ์และตลาดหุ้นที่ปรับตัวลง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 925.90/926.90 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 927.20/928.20 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อราคาพุ่งสูงถึง 930.40 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์มายืนเหนือระดับ 141 ดอลลาร์อีกครั้งในช่วงเช้านี้ โดยได้แรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง และสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างอิสราเอลและอิหร่านกรณีโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งทำให้ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ใกล้ระดัล 143 ดอลลาร์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ณ เวลา 06.53 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX พุ่งขึ้น 1.30 ดอลลาร์ มาที่ 141.51 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากเคลื่อนตัวใกล้ 142.99 ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ทำไว้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
รมว.ต่างประเทศของอิหร่านกล่าวเมื่อวานนี้ว่า เขาไม่เชื่อว่าอิสราเอลอยู่ในฐานะที่จะโจมตีประเทศของเขาจากประเด็นโครงการนิวเคลียร์ ขณะที่นายพลของอิหร่านประกาศแผนการเตรียมหลุมศพ 320,000 หลุมสำหรับฝังทหารฝ่ายศัตรู
คำกล่าวนี้เป็นคำกล่าวล่าสุดในสงครามน้ำลายที่รุนแรงขึ้นระหว่างทั้ง 2 ประเทศซึ่งเป็นคู่อริกัน ซึ่งกระตุ้นให้เกิดคาดการณ์ถึงการโจมตีของอิสราเอลที่อาจจะเป็นไปได้ต่ออิหร่านซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่เป็นอันดับ 4 ของโลกโดยคาดการณ์นี้เป็นปัจจัยดันราคาน้ำมันสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
คำขู่ของอิหร่านที่ว่า อิหร่านจะทำการควบคุมการขนส่งทางเรือในเส้นทางน้ำมันที่สำคัญในอ่าวอาหรับ ถ้าอิหร่านถูกโจมตี ทำให้เกิดความวิตกมากขึ้นเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน
การขนส่งน้ำมันผ่านช่องแคบฮอร์มุส ซึ่งเป็นน่านน้ำมันที่แยกอิหร่านออกจากคาบสมุทรอาหรับ คิดเป็นสัดส่วนราว 40% ของการขนส่งน้ำมันที่มีการซื้อขายในโลก
สำนักข่าว Mehr ของอิหร่านรายงานเมื่อวันเสาร์ว่า เจ้าหน้าที่น้ำมันระดับสูงของอิหร่านคาดว่า ราคาน้ำมันดิบจะพุ่งขึ้นสู่ 150 ดอลลาร์/บาร์เรลในอนาคตอันใกล้ขณะที่อุปสงค์เพิ่มขึ้นในฤดูร้อน
ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นแล้วมากกว่า 45% ในปีนี้ โดยขยายแรงบวกต่อจากการปรับตัวขึ้นเป็นเวลา 6 ปี ขณะที่ภาวะอุปทานไม่สามารถตามทันอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีนและอินเดีย
แรงหนุนเพิ่มเติมมาจากกระแสเงินสดของนักลงทุนรายใหม่ที่เข้าซื้อสินค้าโภคภัณฑ์เพื่อประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ และดอลลาร์ที่อ่อนค่า
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ดีลเลอร์จะจับตาดัชนีบ่งชี้เศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงการลงมติเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป ECB ในวันพฤหัสบดีนี้ เพื่อบ่งชี้ทิศทางของดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์ร่วงลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบ 3 สัปดาห์เมื่อเทียบกับยูโรในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเซีย โดยอ่อนค่าลงหลังจากราคาน้ำมันพุ่งขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่แล้ว
ข้อมูลดังกล่าวตอกย้ำการคาดการณ์ในตลาดที่ว่า เฟด จะไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แม้เฟดระบุว่าความเสี่ยงจากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นหลังจากเฟดคงอัตราดอกเบี้ยในสัปดาห์ที่แล้ว
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 5
สรุปข่าวสำคัญ น้ำมัน ทองคำ อัตราแลกเปลี่ยน 1-7-51
ราคาทองทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวานนี้แต่การดีดตัวขึ้นของดอลลาร์อาจกดดันราคา
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 925.25/926.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 925.75/927.15 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งแตะระดับ 935 ดอลลาร์วานนี้ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. หลังราคาน้ำมันดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากปิดร่วงลงวานนี้ เมื่อราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่เหนือ 143 ดอลลาร์จากปัจจัยอุปสงค์ที่ซบเซาของสหรัฐ แม้สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกทวีความตึงเครียด
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX ขยับขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% มาที่ 140.01 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ร่วงลง 21 เซนต์ หรือ 0.15% อยู่ที่ 140 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 139.17-143.67 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA รายงานว่า อุปสงค์น้ำมันสหรัฐในเดือน เม.ย. อยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมราว 863,000 บาร์เรล/วัน และอยู่มนระดับต่ำกว่าปีที่แล้วราว 811,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันในเดือน เม.ย. ปีนี้อยู่ระดับต่ำสุดของเดือน เม.ย. ในรอบ 6 ปี
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า อิหร่านจะเข้าควบคุมการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย หากถูกโจมตี และเตือนประเทศต่างๆในภูมิภาคเกี่ยวกับการตอบโต้ของอิหร่าน
แต่กองเรือที่ 5 ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้อิหร่านขัดขวางการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย
ด้านนายอาลี อัล ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียกล่าวย้ำจุดยืนของซาอุดิอาระเบียเมื่อวานนี้ว่า ราคาน้ำมันกำลังถูกผลักดันส่วนใหญ่โดยการเก็งกำไรและระบุว่า ซาอุดิอาระเบียพร้อมที่จะจัดหาน้ำมันให้กับลูกค้าทั้งหมดที่ต้องการ
ผู้นำบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่บางแห่งได้มาประชุมกันที่กรุงมาดริด และกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ปัจจัยหลักที่กระตุ้นราคาน้ำมันคือปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่การที่นักลงทุนหลั่งใหลเข้ามาลงทุนในตลาดน้ำมัน
EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธ โดยโพลรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจลดลง 200,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มิ.ย. สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
เยนปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเซีย ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายไตรมาส หรือทังกันของธนาคารญี่ปุ่น BOJ พบว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงต่ำกว่าคาด
ในช่วงเช้านี้ ดอลลาร์ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดที่ 105.97 เยน หลังจากข้อมูลทังกันออกมา แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 106.16 เยน โดยฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนการเปิดเผยข้อมูลทังกัน
ยูโรทรงตัวที่ 167.34 เยน หลังจากร่วงลงมาที่ 167.06 เยนหลังการเปิดเผยข้อมูลทังกัน และทรงตัวที่ 1.5762 ดอลลาร์
ยูโรได้แรงหนุนจาการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ และอาจจะปรับขึ้นอีกหลังจากนั้น
ข้อมูลวานนี้ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ในเขตยูโร โซนพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.0% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งมากกว่าเป้า 2% ที่ ECB กำหนดไว้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเขตยูโรโซนพุ่งขึ้น ความเสี่ยงที่ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสัปดาห์นี้นั้นมีแนวโน้มากขึ้น และจะหนุนค่ายูโร
แนวโน้มทองคำวันนี้มีโอกาสลงต่อได้น่าจะใก้ลเคียง900ต้นๆ
จุดน่าทำกำไรขาลง จุดแรกที่น่าเล่นช่วงเช้า 926.8 ถ้าราคาทะลุขึ้นไป
928.8 ก็น่าเข้าเพิ่ม รวมถึงจุด931.3ด้วย คาดว่าราคาไม่น่าจะดีดกลับแรงมากถึง935
วันนี้น่าเล่นขาลงอย่างเดียว ถ้าราคาไม่แรงมากจะทะลุ936 ไม่น่าล็อคครับ
แนวรับ918แนวแรกเล่นช่วงเช้าได้
แนวรับ909แนวสอง
แนวรับ900 ถ้าถึงน่าช้อนซื้อเหมือนกัน
ราคาทองทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ที่ทำไว้เมื่อวานนี้แต่การดีดตัวขึ้นของดอลลาร์อาจกดดันราคา
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 925.25/926.25 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 925.75/927.15 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งแตะระดับ 935 ดอลลาร์วานนี้ ซึ่งสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. หลังราคาน้ำมันดีดตัวแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากปิดร่วงลงวานนี้ เมื่อราคาน้ำมันอ่อนตัวลงจากระดับสูงสุดตลอดกาลที่เหนือ 143 ดอลลาร์จากปัจจัยอุปสงค์ที่ซบเซาของสหรัฐ แม้สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกทวีความตึงเครียด
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX ขยับขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% มาที่ 140.01 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ร่วงลง 21 เซนต์ หรือ 0.15% อยู่ที่ 140 ดอลลาร์ หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 139.17-143.67 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA รายงานว่า อุปสงค์น้ำมันสหรัฐในเดือน เม.ย. อยู่ในระดับต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์เดิมราว 863,000 บาร์เรล/วัน และอยู่มนระดับต่ำกว่าปีที่แล้วราว 811,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งส่งผลให้ปริมาณการใช้น้ำมันในเดือน เม.ย. ปีนี้อยู่ระดับต่ำสุดของเดือน เม.ย. ในรอบ 6 ปี
กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติของอิหร่านเปิดเผยเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า อิหร่านจะเข้าควบคุมการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย หากถูกโจมตี และเตือนประเทศต่างๆในภูมิภาคเกี่ยวกับการตอบโต้ของอิหร่าน
แต่กองเรือที่ 5 ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐและประเทศพันธมิตรจะไม่ปล่อยให้อิหร่านขัดขวางการเดินเรือในอ่าวเปอร์เซีย
ด้านนายอาลี อัล ไนมี รมว.น้ำมันของซาอุดิอาระเบียกล่าวย้ำจุดยืนของซาอุดิอาระเบียเมื่อวานนี้ว่า ราคาน้ำมันกำลังถูกผลักดันส่วนใหญ่โดยการเก็งกำไรและระบุว่า ซาอุดิอาระเบียพร้อมที่จะจัดหาน้ำมันให้กับลูกค้าทั้งหมดที่ต้องการ
ผู้นำบริษัทน้ำมันขนาดใหญ่บางแห่งได้มาประชุมกันที่กรุงมาดริด และกล่าวเมื่อวานนี้ว่า ปัจจัยหลักที่กระตุ้นราคาน้ำมันคือปัจจัยพื้นฐาน ไม่ใช่การที่นักลงทุนหลั่งใหลเข้ามาลงทุนในตลาดน้ำมัน
EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันพุธ โดยโพลรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐอาจลดลง 200,000 บาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 27 มิ.ย. สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.4 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 100,000 บาร์เรล
เยนปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์และยูโรในช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเซีย ขณะที่ผลสำรวจความเชื่อมั่นทางธุรกิจรายไตรมาส หรือทังกันของธนาคารญี่ปุ่น BOJ พบว่าความเชื่อมั่นทางธุรกิจลดลงต่ำกว่าคาด
ในช่วงเช้านี้ ดอลลาร์ร่วงลงแตะจุดต่ำสุดที่ 105.97 เยน หลังจากข้อมูลทังกันออกมา แต่ก็ฟื้นตัวขึ้นมาอยู่ที่ 106.16 เยน โดยฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนการเปิดเผยข้อมูลทังกัน
ยูโรทรงตัวที่ 167.34 เยน หลังจากร่วงลงมาที่ 167.06 เยนหลังการเปิดเผยข้อมูลทังกัน และทรงตัวที่ 1.5762 ดอลลาร์
ยูโรได้แรงหนุนจาการคาดการณ์ของตลาดที่ว่า ธนาคารกลางยุโรป ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.25% ในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ และอาจจะปรับขึ้นอีกหลังจากนั้น
ข้อมูลวานนี้ระบุว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค CPI ในเขตยูโร โซนพุ่งขึ้นมาที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 4.0% ในเดือน มิ.ย. ซึ่งมากกว่าเป้า 2% ที่ ECB กำหนดไว้ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเขตยูโรโซนพุ่งขึ้น ความเสี่ยงที่ ECB จะขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากสัปดาห์นี้นั้นมีแนวโน้มากขึ้น และจะหนุนค่ายูโร
แนวโน้มทองคำวันนี้มีโอกาสลงต่อได้น่าจะใก้ลเคียง900ต้นๆ
จุดน่าทำกำไรขาลง จุดแรกที่น่าเล่นช่วงเช้า 926.8 ถ้าราคาทะลุขึ้นไป
928.8 ก็น่าเข้าเพิ่ม รวมถึงจุด931.3ด้วย คาดว่าราคาไม่น่าจะดีดกลับแรงมากถึง935
วันนี้น่าเล่นขาลงอย่างเดียว ถ้าราคาไม่แรงมากจะทะลุ936 ไม่น่าล็อคครับ
แนวรับ918แนวแรกเล่นช่วงเช้าได้
แนวรับ909แนวสอง
แนวรับ900 ถ้าถึงน่าช้อนซื้อเหมือนกัน
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 6
-สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้นอีกในช่วงเช้านี้ หลังจากปิดที่ระดับสูงสุดเป็นระวัติการณ์เมื่อวานนี้ โดยการลดลงของสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐทำให้นักลงทุนมีความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมัน
-สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรล และการเพิ่มขึ้นที่น้อยกว่าที่คาดไว้ของสต็อกน้ำมันกลั่น ส่งผลให้สัญญาน้ำมัน heating oil ล่วงหน้าพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะปกป้องการเดินเรือในอ่าวอาหรับในกรณีที่อิหร่านปฏิบัติตามคำขู่ที่จะกีดขวางการขนส่งในช่องแคบฮอร์มูส ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันทางทะเลของโลกสูงถึง 40% ถ้าอิหร่านถูกโจมตี
-ความอ่อนแอของดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรเมื่อวานนี้ หลังจากสหรัฐรายงายว่า ภาคเอกชนปรับลดตำแน่งมากกว่าที่คาดในเดือน มิ.ย. และปัจจัยนี้ทำให้มีความเป็นไปได้น้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
-นายมาร์ค แวกกอเนอร์ ประธานบริษัทเอ็กเซล ฟิวเจอร์สกล่าวว่า นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ และปัจจัยนี้จะกดดันดอลลาร์ให้ร่วงลง และการคาดการณ์นี้ก็มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในวันพุธ
วันนี้แนวโน้มยังมีโอกาศขึ้นต่อ ข่าวที่น่าตามประกาศดอกเบี้ยECB 18.45
Nonfarm Payrolls (Jun) 19.30
United States Unemployment Rate (Jun) 19.30
แนวต้าน 946 น่าทำกำไรขาลง
แนวต้าน 952-954 น่าทำกำไรขาลง
จุดน่าซื้อวันนี้
1. 938
2. 935
3. 933 สามจุดนี้มีโอกาสเห็นได้หลัง16.00 น่าช้อนซื้อที่จุดไหนก็ได้
แนวรับ930 ครับ
ถ้ามีการช้อนซื้อแล้วราคาหลุดลงไม่ว่าจะช้อนที่ราคาไหน ก็ให้วัดที่930นะครับถ้าไม่หลุด
ลงถือสู้ดีกว่า ถ้าหลุดจริง น่าล็อคไปก่อนครับ วัดอีกทีที่925
ถ้า ขายไว้แล้วออกไม่ทัน แล้วราคาทะลุ 946 ขึ้นไปแต่เป็นหลัง 18.45 ไปแล้วน่าจะ คัส
ลอส หรือ ล็อคไปก่อน ถ้า ECB ขึ้นดอกเบี้ย ครับ วัดได้ที่จุด 952-954 ค่อย ขายลงเพิ่มอีก
ตัว คาดว่าไม่หน้าทะลุ 954-955 ได้
-สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่าสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 2 ล้านบาร์เรล และการเพิ่มขึ้นที่น้อยกว่าที่คาดไว้ของสต็อกน้ำมันกลั่น ส่งผลให้สัญญาน้ำมัน heating oil ล่วงหน้าพุ่งทะลุระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์
-สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สหรัฐจะปกป้องการเดินเรือในอ่าวอาหรับในกรณีที่อิหร่านปฏิบัติตามคำขู่ที่จะกีดขวางการขนส่งในช่องแคบฮอร์มูส ซึ่งเป็นเส้นทางลำเลียงน้ำมันทางทะเลของโลกสูงถึง 40% ถ้าอิหร่านถูกโจมตี
-ความอ่อนแอของดอลลาร์ยังคงเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน โดยดอลลาร์ร่วงลงเมื่อเทียบกับยูโรเมื่อวานนี้ หลังจากสหรัฐรายงายว่า ภาคเอกชนปรับลดตำแน่งมากกว่าที่คาดในเดือน มิ.ย. และปัจจัยนี้ทำให้มีความเป็นไปได้น้อยลงที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
-นายมาร์ค แวกกอเนอร์ ประธานบริษัทเอ็กเซล ฟิวเจอร์สกล่าวว่า นักลงทุนคาดว่าธนาคารกลางยุโรปจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ และปัจจัยนี้จะกดดันดอลลาร์ให้ร่วงลง และการคาดการณ์นี้ก็มีส่วนทำให้ราคาน้ำมันดิบขึ้นไปทำสถิติสูงสุดในวันพุธ
วันนี้แนวโน้มยังมีโอกาศขึ้นต่อ ข่าวที่น่าตามประกาศดอกเบี้ยECB 18.45
Nonfarm Payrolls (Jun) 19.30
United States Unemployment Rate (Jun) 19.30
แนวต้าน 946 น่าทำกำไรขาลง
แนวต้าน 952-954 น่าทำกำไรขาลง
จุดน่าซื้อวันนี้
1. 938
2. 935
3. 933 สามจุดนี้มีโอกาสเห็นได้หลัง16.00 น่าช้อนซื้อที่จุดไหนก็ได้
แนวรับ930 ครับ
ถ้ามีการช้อนซื้อแล้วราคาหลุดลงไม่ว่าจะช้อนที่ราคาไหน ก็ให้วัดที่930นะครับถ้าไม่หลุด
ลงถือสู้ดีกว่า ถ้าหลุดจริง น่าล็อคไปก่อนครับ วัดอีกทีที่925
ถ้า ขายไว้แล้วออกไม่ทัน แล้วราคาทะลุ 946 ขึ้นไปแต่เป็นหลัง 18.45 ไปแล้วน่าจะ คัส
ลอส หรือ ล็อคไปก่อน ถ้า ECB ขึ้นดอกเบี้ย ครับ วัดได้ที่จุด 952-954 ค่อย ขายลงเพิ่มอีก
ตัว คาดว่าไม่หน้าทะลุ 954-955 ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 7
ถ้า เฮีย เบนพูด นอง พิ่มน้ำหนักในการแก้ปัญ งิน ฟ้อและมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นดอก เบี้ยภายใน ดือนกันยาหรือตุลานี้ ซึ่งสอดคล้องกับความ ห็นของ Yellen, Lacker และ Henig และถ้าพอลสันพูดถึงการแทรกแซงค่า งินดอลล่าร์อีกครั้ง น้องดอลลี่จะ เป็นแนวโน้ม ป็นขาขึ้นในระยะสั้นทันที
-สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากขยับขึ้น 1 เซนต์เมื่อวานนี้เมื่อรายงานของสหรัฐระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากเกินความคาดหมาย
-สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่293.9ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งสต็อกน้ำมันดิบอยู่ที่ 293ล้านบาร์เรล แต่เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการดิ่งลงทางชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ซึ่งไม่ได้มีความเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์กับภูมิภาคอื่นๆของสหรัฐ จึงแทบจะไม่มีผลกระทบต่อราคาสัญญาล่วงหน้า
-อิหร่านทดลองยิงขีปนาวุธ 9 ลูกเมื่อวานนี้ และประกาศเตือนสหรัฐกับอิสลาเอลว่า อิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้การโจมตีใดๆที่มีต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐยังไม่ได้ใช้แนวทางทางการทูตทุกทางเลือกในกรณีอิหร่าน และถ้อยแถลงนี้ช่วยลดความกังวลในตลาดเมื่อวานนี้
-บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ได้ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อการส่งออกน้ำมันจากแหล่งน้ำมันบองกา ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งไนจีเรียในวันพุธ และข่าวนี้ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมัน
-ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่ยังคงมีแรงซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยหลังการทดลองยิงขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งหนุนราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้น 5 ดอลลาร์ที่ตลาดทองนิวยอร์ก
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 929.35/930.35 ดอลล่าร์/ออนซ์เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์กเมื่อวานนี้ที่ระดับ 926.90/298.10 ดอลล่าร์/ออนซ์
-สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐพุ่งขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากขยับขึ้น 1 เซนต์เมื่อวานนี้เมื่อรายงานของสหรัฐระบุว่าสต็อกน้ำมันดิบลดลงมากเกินความคาดหมาย
-สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน (EIA) ของสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานว่า สต็อกน้ำมันดิบร่วงลง 5.9 ล้านบาร์เรล สู่293.9ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 4 ก.ค. โดยเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 ม.ค. ซึ่งสต็อกน้ำมันดิบอยู่ที่ 293ล้านบาร์เรล แต่เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นการดิ่งลงทางชายฝั่งตะวันตกของสหรัฐ ซึ่งไม่ได้มีความเชื่อมโยงทางภูมิศาสตร์กับภูมิภาคอื่นๆของสหรัฐ จึงแทบจะไม่มีผลกระทบต่อราคาสัญญาล่วงหน้า
-อิหร่านทดลองยิงขีปนาวุธ 9 ลูกเมื่อวานนี้ และประกาศเตือนสหรัฐกับอิสลาเอลว่า อิหร่านพร้อมที่จะตอบโต้การโจมตีใดๆที่มีต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ระดับสูงคนหนึ่งในกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐกล่าวว่า สหรัฐยังไม่ได้ใช้แนวทางทางการทูตทุกทางเลือกในกรณีอิหร่าน และถ้อยแถลงนี้ช่วยลดความกังวลในตลาดเมื่อวานนี้
-บริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ได้ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อการส่งออกน้ำมันจากแหล่งน้ำมันบองกา ที่ตั้งอยู่นอกชายฝั่งไนจีเรียในวันพุธ และข่าวนี้ก็ช่วยลดความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมัน
-ราคาทองปรับตัวสูงขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่ยังคงมีแรงซื้อสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยหลังการทดลองยิงขีปนาวุธของอิหร่าน ซึ่งหนุนราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากที่พุ่งขึ้น 5 ดอลลาร์ที่ตลาดทองนิวยอร์ก
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 929.35/930.35 ดอลล่าร์/ออนซ์เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์กเมื่อวานนี้ที่ระดับ 926.90/298.10 ดอลล่าร์/ออนซ์
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 8
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน 11-7-51
ราคาทองอ่อนตัวลงในวันนี้ หลังทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนวานนี้ แต่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งอาจจะเป็นเหตุผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้ออีกครั้ง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 942.35/943.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 944.11/945.30 ดอลลาร์ ขณะที่นักเก็งกำไรเทขายทำกำไร และกลุ่มผู้ผลิตอัญมณีในบางประเทศในเอเชียได้เข้าทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของทอง
ราคาทองทะยานขึ้นสูงถึง 947.40 ดอลลาร์/ออนซ์วานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. เมื่อราคาแตะระดับ 952.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาจะมีความผันผวน โดยผมคิดว่าตลาดกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในขณะนี้ ซึ่งหากราคาทองฝ่าระดับ 950 ดอลลาร์ ผมคิดว่าราคาก็จะมีความน่าสนใจ นายมาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์บริษัท ANZ ในเมลเบิร์นกล่าว
ผมคิดว่าที่ระดับ 950 ดอลลาร์ ราคาอาจจะทะยานขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากอาจกระตุ้นการปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อชดเชยที่ระดับนั้น และอาจจะมีแรงขาดทุนอยู่บ้าง
ราคาทองพุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1030.80 ดอลลาร์ในเดือน มี.ค. จากราคาน้ำมันดิบที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ทองมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นในฐานะแหล่งลงทุนทางเลือก
ราคาน้ำมันทรงตัวที่ 141.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังทะยานขึ้น 4% วานนี้ จากข่าวเกี่ยวกับการทดลองขีปนาวุธเป็นวันที่ 2 ของอิหร่าน ขณะที่ไนจีเรียและบราซิลมีความเสี่ยงจะลดการผลิตอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ
ผมคิดว่าตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันในขณะนี้มากกว่าที่จะเป็นปัจจัยบวกจากดอลลาร์ โดยสิ่งที่ผลักดันตลาดน้ำมันในขณะนี้คือความตึงเครียดทางการเมืองเป็นหลักนายเพอร์แวนกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อวานนี้รับข่าวที่ว่าอิหร่านได้ทดสอบขีปนาวุธเป็นวันที่ 2 ขณะที่ไนจีเรียและบราซิลมีความเสี่ยงจะลดการผลิตอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ขยับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.05% มาที่ 141.72 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ทะยานขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 4.12% มาที่ 141.65 ดอลลาร์ หลังจากมีการซื้อขายในช่วง 135.43 142.10 ดอลลาร์
สื่อของอิหร่านรายงานว่า อิหร่านได้ทดสอบขีปนาวุธอีกหลายลูกในอ่าวเปอร์เซียวานนี้ และสหรัฐเตือนอิหร่านว่าพร้อมจะปกป้องพันธมิตรของสหรัฐขณะที่สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงตึงเครียดอย่างมาก
ขณะเดียวกัน กลุ่มหัวรุนแรงในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของไนจีเรียแถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางกลุ่มจะยกเลิกภาวะหยุดยิงที่ทางกลุ่มเคยประกาศใช้เพียงฝ่ายเดียว เพื่อประท้วงต่อการที่อังกฤษเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไนจีเรียในการจัดการกับภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาค
ทางด้านคนงานของบริษัทปิโตรบาสของบราซิลขู่จะเริ่มผละงานประท้วงเป็นเวลา 5 วันในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งทั้ง 42 แห่งในแหล่งคามโปสซึ่งผลิตน้ำมันกว่า 80% ของบราซิล ขณะที่บราซิลผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน
สำนักงานพลังงานสากล IEA คาดการณ์เมื่อวานนี้ว่า แรงกดดันในตลาดน้ำมันอาจผ่อนคลายลงในปีหน้า ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันลดลงส่งผลให้ความต้องการซื้อน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก ลดลงตามไปด้วย
ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับยูโรช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากร่วงลงวานนี้จากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาคการเงินของสหรัฐ ขณะที่ราคาหุ้นและพันธบัตรของบริษัทสินเชื่อบ้านยักษ์ใหญ่ของสหรัฐดิ่งลงจากความกังวลเรื่องการเพิ่มทุน
ในช่วงเช้านี้ ยูโรทรงตัวที่ 1.5790 ดอลลาร์ แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ และขยับลง 0.1% มาที่ 168.85 เยน ใกล้เคียงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 169.47 เยน ที่ทำไว้ในระบบซื้อขาย EBS ในปลายเดือนที่แล้ว
ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2551
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์
รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ปิดตลาดวันที่ 10 กรกฎาคม 2551ซึ่งมีปัจจัยบวกสนับสนุนราคาให้สูงขึ้น และปัจจัยลบกดดันราคาลดลงสำคัญๆดังนี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI): ปรับเพิ่มขึ้นถึง 5.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 141.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 142.10 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจาก
(+) อิหร่านทดลองขีปนาวุธระยะไกลในอ่าวเปอร์เซียติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เป็นการสร้างสงครามจิดวิทยาตอบโต้อิสราเอลที่ทำการซ้อมรบ และประกาศจะหยุดยั้งการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในตะวันออกกลาง และความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังการ ผลิตน้ำมันดิบ
(+) พนักงานบริษัทน้ำมันของรัฐบาลในบราซิลที่แหล่งขุดเจาะน้ำมัน CAMPOS ที่มีกำลังการผลิตถึง 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกาศประท้วงหยุดงานเป็นเวลา 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 51 เพื่อจะเรียกร้องให้บริษัทฯ นับรวมวันที่ไม่ได้ทำงานที่แท่นขุดเจาะ เป็นเวลางาน
(+)กลุ่มปลดปล่อยอิสรภาพลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ (MEND) ในไนจีเรีย ประกาศยกเลิกการหยุดยิง เพื่อเป็นการตอบโต้ข้อเสนอของอังกฤษที่จะเข้ามาแทรกแซงปัญหาในประเทศของไนจีเรีย
(+)ราคาน้ำมันทำความร้อน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นถึง 7.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจาก IEA กล่าวว่าสภาวะอุปสงค์ / อุปทานของน้ำมันดีเซลทั่วโลก จะยังคงตึงตัวไปจนถึงปีหน้า ทำให้ช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบเช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 132.71 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในช่วงต้นสัปดาห์
ราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 138.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับ
(-)ไม่มีโอกาสในการขนย้ายน้ำมันเบนซินไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากความต้องการที่ลดลง และระดับน้ำมันคงคลังในสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับปกติ
(-)จีนจะนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือน ส.ค. ที่ 120,000 ตัน ลดลงจากเดือน ก.ค. ที่ 300,000 ตัน
ราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 169.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แต่มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสูงมากเย็นนี้ จากราคาที่สหรัฐฯ ที่ปิดตัวสูงขึ้นมาก
(-)ออสเตรเลียนำเข้าน้ำมันดีเซลชนิดกำมะถันต่ำลดลง ทำให้มีอุปทานเหลีอในตลาดมากขึ้น
(+)แม้ว่าอุปทานในภูมิภาคจะมีสูงขึ้น แต่โอกาสในการขนย้ายน้ำมันดีเซลไปยังฝั่งตะวันตกอาจมีสูงขึ้นจากราคาที่สหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับขึ้นมาก จากความต้องการน้ำมันดีเซลทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก
บรรดาผู้นำ 6ชาติ เริ่มเจรานิวเคลียร์
บรรดาผู้แทนเจรจานิวเคลียร์จาก 6 ชาติ เริ่มต้นการเจรจานิวเคลียร์
นายหวู ต้าเหว่ย ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์จีน ระบุในวันแรกของการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่ายที่กรุงปักกิ่ง ว่า เป้าหมายสำคัญของการเจรจาครั้งนี้ คือการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
อันดีระหว่างประเทศต่าง ๆ อันจะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความสงบสุขในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และขั้นตอนที่ผ่านมา รวมถึงการที่เกาหลีเหนือยอมส่งมอบรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ต่อทางการเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นผลตอบแทนของการทำงานหนัก
ก่อนหน้านี้ นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของสหรัฐ ระบุขั้นกระบวนการตรวจสอบรายละเอียดโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อพิสูจน์ว่าเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ส่วนการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่ายครั้งนี้ มีกำหนด 3 วัน แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
สหรัฐคาดเฮอริเคนเบอร์ธาอาจมีกำลังแรงขึ้น
ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐ คาดเฮอริเคน "เบอร์ธา" อาจมีกำลังแรงขึ้นในอีก 24 ชั่วโมง ขณะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่เกาะเบอร์มิวดา
เจ้าหน้าที่สหรัฐขอให้ประชาชนที่เกาะเบอร์มิวดา คอยติดตามข่าวสารความคืบหน้าเส้นทางพายุต่อไป ซึ่งคาดว่าเฮอริเคนกำลังแรงระดับ 2 จะก่อตัวเพิ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้ และยังไม่แน่ชัดว่าจะขึ้นฝั่งเมื่อใด รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางของเฮอริเคนอยู่ห่างจากเกาะเบอร์มิวดาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 877กิโลเมตร โดยมีกำลังลมสูงสุดถึง 170 กิโลเมตร
เวิลด์แบงก์เปิดตัวเครื่องมือชี้วัดการค้าตัวใหม่
นายเกียนนี ซานีนี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าทีมโครงการการค้า สถาบันธนาคารโลก เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้มีการเปิดตัวเครื่องมือชี้วัดการค้าโลกปี 2551 โดยเป็นฐานข้อมูลชิ้นใหม่ที่ธนาคารโลกจัดทำขึ้นครอบคลุม 210 ประเทศ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการค้าและดัชนีชี้วัดจะถูกรวบรวมนำมาไว้ในคู่มือฉบับนี้ โดยข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยพบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 15 จากทั้งหมด 178 ประเทศ ที่มีบรรยากาศที่ดีที่ทำธุรกิจ แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องกฎระเบียบที่มากเกินไป การขาดแคลนทักษะและขาดโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่นอกกรุงเทพฯ
ส่วนข้อมูลด้านการค้า พบว่าการเติบโตทางการค้าและบริการของไทยในปี 2550 อยู่ที่ร้อยละ 7.8 อยู่ในอันดับ 69 จาก 160 ประเทศ ขณะที่ส่วนแบ่งของไทยในการค้าโลกลดลงร้อยละ 1.5 สาเหตุเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นในปี 2549-2550 แต่การส่งออกโดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังสามารถรักษาระดับได้ แม้เศรษฐกิจตลาดส่งออก เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) จะชะลอตัว เพราะไทยการกระจายสินค้าส่ง
นอกจากนี้ ข้อมูลพบว่าการขยายตัวทางการค้าของประเทศกำลังพัฒนาชะลอลงในปี 2550 แต่การขยายตัวทางการค้าของประเทศที่พัฒนาแล้วกลับเพิ่มขึ้น โดยทั้ง 2 กลุ่มขยายตัวร้อยละ 7.7 และพบด้วยว่าประเทศที่ใช้มาตรการกีดกันทางการค้าน้อยลงและมีภาษีศุลกากรต่ำจะมีผลประกอบการทางการค้าดีขึ้น โดยประเทศจอร์เจีย เฮติ อาร์มีเนีย และมอริเชียส อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศแรกในโลกที่มีภาษีนำเข้าเฉลี่ยต่ำสุด
เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลต่อปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน
นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เปิดแถลงข่าวแสดงความกังวลต่อกรณีที่อิหร่านไม่ยอมทำตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ต้องการให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม แม้สหประชาชาติจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เป็นรอบที่ 3 แล้ว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่อิหร่านประกาศจุดยืนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ว่าจะเดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมต่อไป โดยยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นไปเพื่อสันติ ไม่ใช่เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ตามที่ชาติตะวันตกกล่าวหา
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก น้ำมันดิบดีดขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มจากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเคมีภัณฑ์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ
ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังนักลงทุนพอใจข่าวที่ดาว เคมีคอล เตรียมทุ่มงบกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อกิจการจากบริษัทคู่แข่ง ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น แม้จะยังมีสัญญาณทางเศรษฐกิจไม่สดใสจากกลุ่มสถาบันการเงิน ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้นรวดเดียว 5.60 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 141.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,229.02 จุด ปรับขึ้น 81.58 จุด หรือ 0.73% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,257.85 จุด ปรับขึ้น 22.96 จุด หรือ 1.03% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,253.39 จุด ปรับขึ้น 8.70 จุด หรือ 0.70%
ด้านดัชนีหุ้นยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,406.80 จุด ลดลง 122.80 จุด หรือ 2.22% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,305 จุด ลดลง 81.46 จุด หรือ 1.28% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 4,231.56 จุด ลดลง 108.10 จุด หรือ 2.49% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 142.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 5.45 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 940.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 13.60 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 940.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 13.90 ดอลลาร์สหรัฐ
โอเปกไม่สามารถหาน้ำมันมาชดเชยได้ หากอิหร่านถูกโจมตี
นายอับดุลลาห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมัน เป็นสินค้าออกกล่าวที่สำนักงานใหญ่ของโอเปกที่กรุงเวียนนาวันนี้ว่า โอเปกไม่สามารถ ที่จะชดเชยน้ำมันที่ขาดแคลนได้ หากอิหร่านซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกถูกโจมตีและน้ำมันของอิหร่านถูกนำออกจากตลาดโลก .
วิเคราะห์ก่อน และ ผมก็คาดเดาราคาทอง 11/07/2008
ล่าสุด !!!
โอกาสขึ้นต่อ 50 + 1 % โอกาสลง 50 - 1%
วันนี้ฐานยิงจรวดที่มั่นอยู่ที่ 940 คือฐานราคาในวนนี้ เป็นแนวรับแรกแบบอ่อนๆ
เล็งไปที่จุดสูงสุดของแนวต้านที่ไม่น่าทะลุคือ 960
แนวรับที่แข็งพอระรับไว้ได้ กรณีมีการปรับฐานลง 930
ภาพตลาดโดยรวม มีปัจจัยน้ำมันเข้ามาเพิ่ม ราคาทองจำแกว่งตัวช่วงแคบๆ ที่ 940-945 ในตลาดเอเซีย
ก่อนมีการเทขายทำกำไรในตลาด Nymex และมีการช้อน ซื้อเข้ามาอีกครั้งในปริมาณที่เท่าๆ กันหรือมากกว่านิดหน่อย
แนวต้านหากปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 960 ถือว่าเป็นจุดแข็งมากๆ ไม่น่าทะลุแน่นอน หากคืนนี้ถ้าไม่มีการเอาจรวดมายิงเล่นอีก
ราคาท้ายสุดแล้วน่าจะเคลื่อนไว้อยู่ที่ 948-955
ราคาทองอ่อนตัวลงในวันนี้ หลังทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนวานนี้ แต่ดอลลาร์ที่อ่อนค่าและราคาน้ำมันที่แข็งแกร่งอาจจะเป็นเหตุผลให้นักลงทุนกลับเข้าซื้ออีกครั้ง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 942.35/943.35 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 944.11/945.30 ดอลลาร์ ขณะที่นักเก็งกำไรเทขายทำกำไร และกลุ่มผู้ผลิตอัญมณีในบางประเทศในเอเชียได้เข้าทำกำไรจากการพุ่งขึ้นของทอง
ราคาทองทะยานขึ้นสูงถึง 947.40 ดอลลาร์/ออนซ์วานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. เมื่อราคาแตะระดับ 952.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาจะมีความผันผวน โดยผมคิดว่าตลาดกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในขณะนี้ ซึ่งหากราคาทองฝ่าระดับ 950 ดอลลาร์ ผมคิดว่าราคาก็จะมีความน่าสนใจ นายมาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์บริษัท ANZ ในเมลเบิร์นกล่าว
ผมคิดว่าที่ระดับ 950 ดอลลาร์ ราคาอาจจะทะยานขึ้นต่อไปอีก เนื่องจากอาจกระตุ้นการปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อชดเชยที่ระดับนั้น และอาจจะมีแรงขาดทุนอยู่บ้าง
ราคาทองพุ่งทำสถิติสูงสุดตลอดกาลที่ 1030.80 ดอลลาร์ในเดือน มี.ค. จากราคาน้ำมันดิบที่สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับเงินเฟ้อและการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกในสหรัฐ ซึ่งจะทำให้ทองมีความน่าดึงดูดใจมากขึ้นในฐานะแหล่งลงทุนทางเลือก
ราคาน้ำมันทรงตัวที่ 141.76 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังทะยานขึ้น 4% วานนี้ จากข่าวเกี่ยวกับการทดลองขีปนาวุธเป็นวันที่ 2 ของอิหร่าน ขณะที่ไนจีเรียและบราซิลมีความเสี่ยงจะลดการผลิตอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ
ผมคิดว่าตลาดได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันในขณะนี้มากกว่าที่จะเป็นปัจจัยบวกจากดอลลาร์ โดยสิ่งที่ผลักดันตลาดน้ำมันในขณะนี้คือความตึงเครียดทางการเมืองเป็นหลักนายเพอร์แวนกล่าว
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ หลังจากพุ่งขึ้นกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อวานนี้รับข่าวที่ว่าอิหร่านได้ทดสอบขีปนาวุธเป็นวันที่ 2 ขณะที่ไนจีเรียและบราซิลมีความเสี่ยงจะลดการผลิตอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งภายในประเทศ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ขยับขึ้น 7 เซนต์ หรือ 0.05% มาที่ 141.72 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ทะยานขึ้น 5.60 ดอลลาร์ หรือ 4.12% มาที่ 141.65 ดอลลาร์ หลังจากมีการซื้อขายในช่วง 135.43 142.10 ดอลลาร์
สื่อของอิหร่านรายงานว่า อิหร่านได้ทดสอบขีปนาวุธอีกหลายลูกในอ่าวเปอร์เซียวานนี้ และสหรัฐเตือนอิหร่านว่าพร้อมจะปกป้องพันธมิตรของสหรัฐขณะที่สถานการณ์ระหว่างอิหร่านและชาติตะวันตกยังคงตึงเครียดอย่างมาก
ขณะเดียวกัน กลุ่มหัวรุนแรงในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันของไนจีเรียแถลงเมื่อวานนี้ว่า ทางกลุ่มจะยกเลิกภาวะหยุดยิงที่ทางกลุ่มเคยประกาศใช้เพียงฝ่ายเดียว เพื่อประท้วงต่อการที่อังกฤษเสนอที่จะให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลไนจีเรียในการจัดการกับภาวะไร้เสถียรภาพในภูมิภาค
ทางด้านคนงานของบริษัทปิโตรบาสของบราซิลขู่จะเริ่มผละงานประท้วงเป็นเวลา 5 วันในสัปดาห์หน้า ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งทั้ง 42 แห่งในแหล่งคามโปสซึ่งผลิตน้ำมันกว่า 80% ของบราซิล ขณะที่บราซิลผลิตน้ำมันราว 1.8 ล้านบาร์เรล/วัน
สำนักงานพลังงานสากล IEA คาดการณ์เมื่อวานนี้ว่า แรงกดดันในตลาดน้ำมันอาจผ่อนคลายลงในปีหน้า ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมันลดลงส่งผลให้ความต้องการซื้อน้ำมันดิบจากกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก ลดลงตามไปด้วย
ดอลลาร์ทรงตัวเมื่อเทียบกับยูโรช่วงเช้านี้ที่ตลาดเอเชีย หลังจากร่วงลงวานนี้จากความวิตกครั้งใหม่เกี่ยวกับภาคการเงินของสหรัฐ ขณะที่ราคาหุ้นและพันธบัตรของบริษัทสินเชื่อบ้านยักษ์ใหญ่ของสหรัฐดิ่งลงจากความกังวลเรื่องการเพิ่มทุน
ในช่วงเช้านี้ ยูโรทรงตัวที่ 1.5790 ดอลลาร์ แทบไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับช่วงท้ายตลาดนิวยอร์ควานนี้ และขยับลง 0.1% มาที่ 168.85 เยน ใกล้เคียงระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 169.47 เยน ที่ทำไว้ในระบบซื้อขาย EBS ในปลายเดือนที่แล้ว
ไทยออยล์ รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2551
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์
รายงานสถานการณ์น้ำมัน ประจำวันที่ 11 กรกฎาคม 2551 ปิดตลาดวันที่ 10 กรกฎาคม 2551ซึ่งมีปัจจัยบวกสนับสนุนราคาให้สูงขึ้น และปัจจัยลบกดดันราคาลดลงสำคัญๆดังนี้
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI): ปรับเพิ่มขึ้นถึง 5.60 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 141.65 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล โดยไปแตะระดับสูงสุดระหว่างวันที่ 142.10 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจาก
(+) อิหร่านทดลองขีปนาวุธระยะไกลในอ่าวเปอร์เซียติดต่อกันเป็นวันที่ 2 เป็นการสร้างสงครามจิดวิทยาตอบโต้อิสราเอลที่ทำการซ้อมรบ และประกาศจะหยุดยั้งการพัฒนานิวเคลียร์ของอิหร่าน ทำให้เกิดความตึงเครียดขึ้นในตะวันออกกลาง และความกังวลว่าจะส่งผลกระทบต่อกำลังการ ผลิตน้ำมันดิบ
(+) พนักงานบริษัทน้ำมันของรัฐบาลในบราซิลที่แหล่งขุดเจาะน้ำมัน CAMPOS ที่มีกำลังการผลิตถึง 80% ของกำลังการผลิตทั้งหมดของประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ประกาศประท้วงหยุดงานเป็นเวลา 5 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค. 51 เพื่อจะเรียกร้องให้บริษัทฯ นับรวมวันที่ไม่ได้ทำงานที่แท่นขุดเจาะ เป็นเวลางาน
(+)กลุ่มปลดปล่อยอิสรภาพลุ่มแม่น้ำไนเจอร์ (MEND) ในไนจีเรีย ประกาศยกเลิกการหยุดยิง เพื่อเป็นการตอบโต้ข้อเสนอของอังกฤษที่จะเข้ามาแทรกแซงปัญหาในประเทศของไนจีเรีย
(+)ราคาน้ำมันทำความร้อน ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับน้ำมันดีเซลในสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นถึง 7.80 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจาก IEA กล่าวว่าสภาวะอุปสงค์ / อุปทานของน้ำมันดีเซลทั่วโลก จะยังคงตึงตัวไปจนถึงปีหน้า ทำให้ช่วยสนับสนุนราคาน้ำมันดิบเช่นกัน
ราคาน้ำมันดิบดูไบที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.32 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 132.71 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ในช่วงต้นสัปดาห์
ราคาน้ำมันเบนซินที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.33 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 138.66 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ประกอบกับ
(-)ไม่มีโอกาสในการขนย้ายน้ำมันเบนซินไปยังสหรัฐฯ เนื่องจากความต้องการที่ลดลง และระดับน้ำมันคงคลังในสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับปกติ
(-)จีนจะนำเข้าน้ำมันเบนซินในเดือน ส.ค. ที่ 120,000 ตัน ลดลงจากเดือน ก.ค. ที่ 300,000 ตัน
ราคาน้ำมันดีเซลที่ตลาดสิงคโปร์: ปรับลดลง 1.55 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ปิดที่ 169.86 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ แต่มีโอกาสที่จะปรับตัวขึ้นสูงมากเย็นนี้ จากราคาที่สหรัฐฯ ที่ปิดตัวสูงขึ้นมาก
(-)ออสเตรเลียนำเข้าน้ำมันดีเซลชนิดกำมะถันต่ำลดลง ทำให้มีอุปทานเหลีอในตลาดมากขึ้น
(+)แม้ว่าอุปทานในภูมิภาคจะมีสูงขึ้น แต่โอกาสในการขนย้ายน้ำมันดีเซลไปยังฝั่งตะวันตกอาจมีสูงขึ้นจากราคาที่สหรัฐฯ และยุโรปที่ปรับขึ้นมาก จากความต้องการน้ำมันดีเซลทั่วโลกปรับตัวสูงขึ้นมาก
บรรดาผู้นำ 6ชาติ เริ่มเจรานิวเคลียร์
บรรดาผู้แทนเจรจานิวเคลียร์จาก 6 ชาติ เริ่มต้นการเจรจานิวเคลียร์
นายหวู ต้าเหว่ย ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์จีน ระบุในวันแรกของการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่ายที่กรุงปักกิ่ง ว่า เป้าหมายสำคัญของการเจรจาครั้งนี้ คือการทำให้คาบสมุทรเกาหลีปลอดนิวเคลียร์ เพื่อสร้างความสัมพันธ์
อันดีระหว่างประเทศต่าง ๆ อันจะนำมาซึ่งเสถียรภาพและความสงบสุขในภูมิภาคเอเชียตะวันออก และขั้นตอนที่ผ่านมา รวมถึงการที่เกาหลีเหนือยอมส่งมอบรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมนิวเคลียร์ต่อทางการเมื่อไม่นานมานี้ ถือเป็นผลตอบแทนของการทำงานหนัก
ก่อนหน้านี้ นายคริสโตเฟอร์ ฮิลล์ ผู้แทนเจรจานิวเคลียร์ของสหรัฐ ระบุขั้นกระบวนการตรวจสอบรายละเอียดโครงการนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ เพื่อพิสูจน์ว่าเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการนิวเคลียร์หรือไม่ อาจใช้เวลาหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน ส่วนการเจรจานิวเคลียร์ 6 ฝ่ายครั้งนี้ มีกำหนด 3 วัน แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม
สหรัฐคาดเฮอริเคนเบอร์ธาอาจมีกำลังแรงขึ้น
ศูนย์พยากรณ์อากาศสหรัฐ คาดเฮอริเคน "เบอร์ธา" อาจมีกำลังแรงขึ้นในอีก 24 ชั่วโมง ขณะเคลื่อนตัวมุ่งหน้าสู่เกาะเบอร์มิวดา
เจ้าหน้าที่สหรัฐขอให้ประชาชนที่เกาะเบอร์มิวดา คอยติดตามข่าวสารความคืบหน้าเส้นทางพายุต่อไป ซึ่งคาดว่าเฮอริเคนกำลังแรงระดับ 2 จะก่อตัวเพิ่มขึ้นในอีกไม่นานนี้ และยังไม่แน่ชัดว่าจะขึ้นฝั่งเมื่อใด รายงานล่าสุดเมื่อเวลา 05.00 น. ของวันพฤหัสบดี ตามเวลาท้องถิ่น ศูนย์กลางของเฮอริเคนอยู่ห่างจากเกาะเบอร์มิวดาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 877กิโลเมตร โดยมีกำลังลมสูงสุดถึง 170 กิโลเมตร
เวิลด์แบงก์เปิดตัวเครื่องมือชี้วัดการค้าตัวใหม่
นายเกียนนี ซานีนี หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์และหัวหน้าทีมโครงการการค้า สถาบันธนาคารโลก เปิดเผยว่า ธนาคารโลกได้มีการเปิดตัวเครื่องมือชี้วัดการค้าโลกปี 2551 โดยเป็นฐานข้อมูลชิ้นใหม่ที่ธนาคารโลกจัดทำขึ้นครอบคลุม 210 ประเทศ ซึ่งข้อมูลเกี่ยวกับการค้าและดัชนีชี้วัดจะถูกรวบรวมนำมาไว้ในคู่มือฉบับนี้ โดยข้อมูลเกี่ยวกับประเทศไทยพบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 15 จากทั้งหมด 178 ประเทศ ที่มีบรรยากาศที่ดีที่ทำธุรกิจ แต่ยังมีอุปสรรคในเรื่องกฎระเบียบที่มากเกินไป การขาดแคลนทักษะและขาดโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งพื้นที่นอกกรุงเทพฯ
ส่วนข้อมูลด้านการค้า พบว่าการเติบโตทางการค้าและบริการของไทยในปี 2550 อยู่ที่ร้อยละ 7.8 อยู่ในอันดับ 69 จาก 160 ประเทศ ขณะที่ส่วนแบ่งของไทยในการค้าโลกลดลงร้อยละ 1.5 สาเหตุเนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้นในปี 2549-2550 แต่การส่งออกโดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยังสามารถรักษาระดับได้ แม้เศรษฐกิจตลาดส่งออก เช่น สหรัฐ สหภาพยุโรป (อียู) จะชะลอตัว เพราะไทยการกระจายสินค้าส่ง
นอกจากนี้ ข้อมูลพบว่าการขยายตัวทางการค้าของประเทศกำลังพัฒนาชะลอลงในปี 2550 แต่การขยายตัวทางการค้าของประเทศที่พัฒนาแล้วกลับเพิ่มขึ้น โดยทั้ง 2 กลุ่มขยายตัวร้อยละ 7.7 และพบด้วยว่าประเทศที่ใช้มาตรการกีดกันทางการค้าน้อยลงและมีภาษีศุลกากรต่ำจะมีผลประกอบการทางการค้าดีขึ้น โดยประเทศจอร์เจีย เฮติ อาร์มีเนีย และมอริเชียส อยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศแรกในโลกที่มีภาษีนำเข้าเฉลี่ยต่ำสุด
เลขาธิการสหประชาชาติแสดงความกังวลต่อปัญหานิวเคลียร์อิหร่าน
นายบัน คีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เปิดแถลงข่าวแสดงความกังวลต่อกรณีที่อิหร่านไม่ยอมทำตามมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ที่ต้องการให้อิหร่านยุติการเสริมสมรรถนะยูเรเนียม แม้สหประชาชาติจะใช้มาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน เป็นรอบที่ 3 แล้ว เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ขณะที่อิหร่านประกาศจุดยืนเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ว่าจะเดินหน้าเสริมสมรรถนะยูเรเนียมต่อไป โดยยืนกรานว่าโครงการนิวเคลียร์อิหร่านเป็นไปเพื่อสันติ ไม่ใช่เพื่อพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ตามที่ชาติตะวันตกกล่าวหา
ตลาดหุ้นสหรัฐปิดบวก น้ำมันดิบดีดขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นสหรัฐปรับเพิ่มจากข่าวควบรวมกิจการของบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเคมีภัณฑ์ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับเพิ่มขึ้นกว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐ
ปิดการซื้อขายตลาดหุ้นสหรัฐ ดัชนีเคลื่อนไหวในแดนบวก หลังนักลงทุนพอใจข่าวที่ดาว เคมีคอล เตรียมทุ่มงบกว่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซื้อกิจการจากบริษัทคู่แข่ง ช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นมากยิ่งขึ้น แม้จะยังมีสัญญาณทางเศรษฐกิจไม่สดใสจากกลุ่มสถาบันการเงิน ด้านราคาน้ำมันดิบตลาดไนเม็กซ์ พุ่งขึ้นรวดเดียว 5.60 ดอลลาร์สหรัฐ ไปปิดที่ระดับ 141.65 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ทำให้หลังปิดตลาด ดัชนีดาวโจนส์ ปิดที่ 11,229.02 จุด ปรับขึ้น 81.58 จุด หรือ 0.73% ดัชนีแนสแดค ปิดที่ 2,257.85 จุด ปรับขึ้น 22.96 จุด หรือ 1.03% และดัชนีเอสแอนด์พี ปิดที่ 1,253.39 จุด ปรับขึ้น 8.70 จุด หรือ 0.70%
ด้านดัชนีหุ้นยุโรป ดัชนี FTSE 100 ตลาดลอนดอน ปิดที่ 5,406.80 จุด ลดลง 122.80 จุด หรือ 2.22% ดัชนี DAX ตลาดแฟรงก์เฟิร์ต ปิดที่ 6,305 จุด ลดลง 81.46 จุด หรือ 1.28% และดัชนี CAC 40 ตลาดปารีส ปิดที่ 4,231.56 จุด ลดลง 108.10 จุด หรือ 2.49% ส่วนน้ำมันดิบเบรนต์ ตลาดลอนดอน ปิดที่ 142.03 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปรับขึ้น 5.45 ดอลลาร์สหรัฐ
ขณะที่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดที่ 940.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 13.60 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนตลาดลอนดอน ปิดที่ 940.90 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ปรับขึ้น 13.90 ดอลลาร์สหรัฐ
โอเปกไม่สามารถหาน้ำมันมาชดเชยได้ หากอิหร่านถูกโจมตี
นายอับดุลลาห์ ซาเล็ม เอล-บาดรี เลขาธิการองค์การกลุ่มประเทศผู้ส่งน้ำมัน เป็นสินค้าออกกล่าวที่สำนักงานใหญ่ของโอเปกที่กรุงเวียนนาวันนี้ว่า โอเปกไม่สามารถ ที่จะชดเชยน้ำมันที่ขาดแคลนได้ หากอิหร่านซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 2 ของโลกถูกโจมตีและน้ำมันของอิหร่านถูกนำออกจากตลาดโลก .
วิเคราะห์ก่อน และ ผมก็คาดเดาราคาทอง 11/07/2008
ล่าสุด !!!
โอกาสขึ้นต่อ 50 + 1 % โอกาสลง 50 - 1%
วันนี้ฐานยิงจรวดที่มั่นอยู่ที่ 940 คือฐานราคาในวนนี้ เป็นแนวรับแรกแบบอ่อนๆ
เล็งไปที่จุดสูงสุดของแนวต้านที่ไม่น่าทะลุคือ 960
แนวรับที่แข็งพอระรับไว้ได้ กรณีมีการปรับฐานลง 930
ภาพตลาดโดยรวม มีปัจจัยน้ำมันเข้ามาเพิ่ม ราคาทองจำแกว่งตัวช่วงแคบๆ ที่ 940-945 ในตลาดเอเซีย
ก่อนมีการเทขายทำกำไรในตลาด Nymex และมีการช้อน ซื้อเข้ามาอีกครั้งในปริมาณที่เท่าๆ กันหรือมากกว่านิดหน่อย
แนวต้านหากปรับตัวขึ้นอยู่ที่ 960 ถือว่าเป็นจุดแข็งมากๆ ไม่น่าทะลุแน่นอน หากคืนนี้ถ้าไม่มีการเอาจรวดมายิงเล่นอีก
ราคาท้ายสุดแล้วน่าจะเคลื่อนไว้อยู่ที่ 948-955
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 9
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน 14-7-51
ราคาทองพุ่งขึ้นกว่า 2% สู่จุดสูงสุดรอบ 4 เดือนในช่วงการซื้อขายวันศุกร์ที่ตลาดยุโรป ในขณะที่ดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับยูโร,ราคาน้ำมันขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ และตลาดหุ้นดิ่งลงเนื่องจากมีความกังวลเรื่องวิกฤติสินเชื่อ
ราคาทองขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 967.90 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค เป็นต้นมา
ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวสอดคล้องกับราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนมักซื้อทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และภาวะเงินเฟ้อก็ได้รับแรงกระตุ้นจากราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์ใกล้ 143 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายเช้าวันนี้ หลังการดีดตัวขึ้นของดอลลาร์ หลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือแฟนนี เมและเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อการจำนองที่กำลังประสบปัญหาการเงิน
ณ. เวลา 06.49 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบเดือน ส.ค. ของสหรัฐ ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ มาที่ 143.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงมากถึง 2.56 ดอลลาร์ในช่วงแรก แตะ 142.49 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ มาที่ 142.95 ดอลลาร์
การร่วงลงของราคาน้ำมันในเช้านี้ เกิดจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์รวมทั้งการทำกำไรในตลาด นายเจอราร์ด เบิร์ก นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารเนชัลแนล ออสเตรเลียน แบงก์ในเมลเบิร์นกล่าว
แต่ยังมีแนวโน้มในช่วงขาขึ้นอย่างมาก และไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งราคาจากการเข้าใกล้ 150 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ประกาศมาตรการในการปล่อยกู้และซื้อหุ้นในบริษัท แฟนนี เม และบริษัทเฟรดดี แมค โดยสหรัฐจะดำเนินมาตรการนี้ถ้าหากมีความจำเป็น
แฟนนี เมและเฟรดดี แมค มีพอร์ตหนี้ราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปัญหาของบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจจำนองสองแห่งนี้ได้รับความกดดันราคาน้ำมันดิบลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 147.27 ดอลลาร์ ในขณะที่ดีลเลอร์มุ่งความสนใจไปที่ภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะยังคงได้รับแรงหนุนต่อไปจากความกังวลเรื่องปัญหาในการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและไนจีเรีย ในขณะที่การผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันบราซิลในสัปดาห์นี้อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันขึ้นด้วย
สื่อมวลชนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่าอิหร่านจะโจมตีศัตรูก่อนที่ศัตรูจะมีโอกาสยิงใส่อิหร่าน โดยถ้อยแถลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำสงครามทางวาจาที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
การทดลองขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่มีความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและสหรัฐนั้น ได้ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาด้านอุปทานจากอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก
การผละงานที่อาจมีขึ้นในแหล่งน้ำมันสำคัญของบราซิล ซึ่งคิดเป็นกว่า 80% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันของประเทศนั้นยังคงส่งผลให้มีความวิตกด้านปริมาณ
เจ้าหน้าที่สหภาพรายหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มแรงงานในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของบราซิลได้เริ่มผละงานเป็นเวลา 3 วันที่แหล่งน้ำมันหลักๆของประเทศในกัมโปสเบซิน ตั้งแต่เที่ยงคืนวานนี้
ส่วนในไนจีเรีย กลุ่มหัวรุนแรงในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมันไนเจอร์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าทางกลุ่มกำลังยกเลิกการหยุดยิงเพื่อประท้วงข้อเสนอของอังกฤษที่จะเข้าช่วยจัดการภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในประเทศ
การส่งออกน้ำมันจากไนจีเรียลดลง 1 ใน 5 นับตั้งแต่ปี 2006 อันเนื่องมาจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำดังกล่าว
ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้น 7 เท่าแล้วนับตั้งแต่ปี 2002 ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆและทะยานขึ้น 50% เฉพาะในปีนี้ปีเดียว ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากวิกฤติสินเชื่อโลก
ราคาทองพุ่งขึ้นกว่า 2% สู่จุดสูงสุดรอบ 4 เดือนในช่วงการซื้อขายวันศุกร์ที่ตลาดยุโรป ในขณะที่ดอลลาร์ดิ่งลงเมื่อเทียบกับยูโร,ราคาน้ำมันขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ และตลาดหุ้นดิ่งลงเนื่องจากมีความกังวลเรื่องวิกฤติสินเชื่อ
ราคาทองขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของวันที่ 967.90 ดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นจุดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค เป็นต้นมา
ราคาทองมีแนวโน้มปรับตัวสอดคล้องกับราคาน้ำมัน เนื่องจากนักลงทุนมักซื้อทองในฐานะเครื่องมือประกันความเสี่ยงจากภาวะเงินเฟ้อ และภาวะเงินเฟ้อก็ได้รับแรงกระตุ้นจากราคาน้ำมัน
ราคาน้ำมันร่วงลงกว่า 2 ดอลลาร์ใกล้ 143 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายเช้าวันนี้ หลังการดีดตัวขึ้นของดอลลาร์ หลังจากที่กระทรวงการคลังสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ดำเนินการเพื่อช่วยเหลือแฟนนี เมและเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยกู้เพื่อการจำนองที่กำลังประสบปัญหาการเงิน
ณ. เวลา 06.49 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบเดือน ส.ค. ของสหรัฐ ร่วงลง 1.67 ดอลลาร์ มาที่ 143.41 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังจากดิ่งลงมากถึง 2.56 ดอลลาร์ในช่วงแรก แตะ 142.49 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนร่วงลง 1.54 ดอลลาร์ มาที่ 142.95 ดอลลาร์
การร่วงลงของราคาน้ำมันในเช้านี้ เกิดจากการแข็งค่าขึ้นของดอลลาร์รวมทั้งการทำกำไรในตลาด นายเจอราร์ด เบิร์ก นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากธนาคารเนชัลแนล ออสเตรเลียน แบงก์ในเมลเบิร์นกล่าว
แต่ยังมีแนวโน้มในช่วงขาขึ้นอย่างมาก และไม่มีสิ่งใดที่จะยับยั้งราคาจากการเข้าใกล้ 150 ดอลลาร์ในอีกไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือน
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในช่วงการซื้อขายที่ตลาดเอเชียวันนี้ หลังจากกระทรวงการคลังสหรัฐและธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ประกาศมาตรการในการปล่อยกู้และซื้อหุ้นในบริษัท แฟนนี เม และบริษัทเฟรดดี แมค โดยสหรัฐจะดำเนินมาตรการนี้ถ้าหากมีความจำเป็น
แฟนนี เมและเฟรดดี แมค มีพอร์ตหนี้ราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ โดยปัญหาของบริษัทยักษ์ใหญ่ในธุรกิจจำนองสองแห่งนี้ได้รับความกดดันราคาน้ำมันดิบลงในวันศุกร์ที่ผ่านมา หลังจากพุ่งขึ้นไปทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 147.27 ดอลลาร์ ในขณะที่ดีลเลอร์มุ่งความสนใจไปที่ภาวะปั่นป่วนวุ่นวายทางเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งทำให้ปริมาณการใช้น้ำมันในสหรัฐชะลอตัวลงในช่วงที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์กล่าวว่า ราคาน้ำมันจะยังคงได้รับแรงหนุนต่อไปจากความกังวลเรื่องปัญหาในการส่งออกน้ำมันจากอิหร่านและไนจีเรีย ในขณะที่การผละงานประท้วงของคนงานน้ำมันบราซิลในสัปดาห์นี้อาจช่วยหนุนราคาน้ำมันขึ้นด้วย
สื่อมวลชนรายงานเมื่อวานนี้ว่า ประธานาธิบดีอิหร่านกล่าวว่าอิหร่านจะโจมตีศัตรูก่อนที่ศัตรูจะมีโอกาสยิงใส่อิหร่าน โดยถ้อยแถลงนี้เป็นส่วนหนึ่งของการทำสงครามทางวาจาที่ทวีความรุนแรงขึ้นในตะวันออกกลางอันเนื่องมาจากปัญหาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน
การทดลองขีปนาวุธของอิหร่านเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่มีความตึงเครียดมากขึ้นระหว่างอิสราเอลและสหรัฐนั้น ได้ส่งผลให้ตลาดน้ำมันมีความวิตกเกี่ยวกับปัญหาด้านอุปทานจากอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก
การผละงานที่อาจมีขึ้นในแหล่งน้ำมันสำคัญของบราซิล ซึ่งคิดเป็นกว่า 80% ของปริมาณการผลิตน้ำมันดิบ 1.8 ล้านบาร์เรล/วันของประเทศนั้นยังคงส่งผลให้มีความวิตกด้านปริมาณ
เจ้าหน้าที่สหภาพรายหนึ่งกล่าวว่า กลุ่มแรงงานในภาคอุตสาหกรรมน้ำมันของบราซิลได้เริ่มผละงานเป็นเวลา 3 วันที่แหล่งน้ำมันหลักๆของประเทศในกัมโปสเบซิน ตั้งแต่เที่ยงคืนวานนี้
ส่วนในไนจีเรีย กลุ่มหัวรุนแรงในสามเหลี่ยมปากแม่น้ำมันไนเจอร์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าทางกลุ่มกำลังยกเลิกการหยุดยิงเพื่อประท้วงข้อเสนอของอังกฤษที่จะเข้าช่วยจัดการภาวะปั่นป่วนวุ่นวายในประเทศ
การส่งออกน้ำมันจากไนจีเรียลดลง 1 ใน 5 นับตั้งแต่ปี 2006 อันเนื่องมาจากความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำดังกล่าว
ราคาน้ำมันได้พุ่งขึ้น 7 เท่าแล้วนับตั้งแต่ปี 2002 ท่ามกลางอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจากจีนและกลุ่มประเทศเกิดใหม่อื่นๆและทะยานขึ้น 50% เฉพาะในปีนี้ปีเดียว ซึ่งกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศต่างๆที่ย่ำแย่อยู่แล้วจากวิกฤติสินเชื่อโลก
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 10
อิหร่านขู่จะโจมตีอิสราเอล และฐานทัพสหรัฐ
อิหร่านประกาศเตรียมโจมตีอิสราเอล และฐานทัพของสหรัฐฯ ในแถบอ่าวเปอร์เซีย หากตนถูกโจมตีก่อน
สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โมจ์ตาบา โซลนัวร์ ผู้ช่วยคนสนิทของ อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาประกาศเตือนสหรัฐอเมริกา และอิสราเอล ว่า จะถูกโจมตีคืนอย่างหนักหน่วง หากลง
มือโจมตีอิหร่านก่อน
นายโซลนัวร์ ยืนยันว่า อิหร่านจะถล่มใจกลางของประเทศอิสราเอล รวมทั้งจะทำลายฐานทัพของสหรัฐอเมริกาอีก 32 แห่งในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียในทันที หากทั้ง 2 ชาติลงมือโจมตีอิหร่าน
การออกมาขู่ของนายโซลนัวร์ ในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวที่ว่า อิหร่านอาจจะถูกโจมตีโดยสหรัฐฯ และ อิสราเอล หลังจากอิหร่าน ยืนกราน ไม่ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของตน นอกจากนั้น ยังมีผลทำให้
สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยถือเป็นการท้าทายของอิหร่านระลอกใหม่ถัดจากการทดลองยิงขีปนาวุธ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อิหร่าน ยังคงยืนกรานปฏิเสธที่จะยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในโครงการนิวเคลียร์ของตนแม้ว่าสหภาพยุโรปจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่ออิหร่าน รวมทั้ง เสนอให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่
อิหร่านเป็นข้อแลกเปลี่ยนก็ตาม
รัสเซียชี้แผนรับมือขีปนาวุธสหรัฐไม่ได้ผล
รัสเซีย ชี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธของอิหร่าน แสดงให้เห็นแล้วว่าแผนติดตั้งรับภัยขีปนาวุธของสหรัฐไม่มีความจำเป็น
นายเซอร์เก้ ล้าฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่าจากผลการทดลองยิงขีปนาวุธของอิหร่านที่มีพิสัยไกลจำกัดเพียงระยะทาง 2,000 กิโลเมตร หรือ 1,240 ไมล์ เป็นเครื่องที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แผนติดตั้งรับมือภัยขีปนาวุธของสหรัฐในยุโรป ไม่มีความจำป็นก่อนหน้านี้สหรัฐ ต้องการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธในโปแลนด์และสาธารณรัฐเชคเพื่อรับมือภัยขีปนาวุธจากอิหร่านและเกาหลีเหนือขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของทางการอิรักและอิสราเอล ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่ากองทัพอิสราเอลกำลังฝึกฝนการสู้รบทางอากาศในอิรัก โดยใช้น่านฟ้าที่กองทัพสหรัฐดำเนินการอยู่ เพื่อหาทางโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ด้านอิหร่าน ที่ถูกประณามจากหลายฝ่าย หลังทดลองยิงขีปนาวุธ ออกมาระบุว่า อิหร่านพร้อมจะเปิดการเจรจาประเด็นโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งนายซาอีด จาลิลี่ หัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน จะพบกับนายจาเวียร์ โซลาน่า หัวหน้าด้านนโยบายอียูในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์
ฝรั่งเศสปิดโรงงานนิวเคลียร์ชั่วคราว
ฝรั่งเศสสั่งปิดโรงงานนิวเคลียร์ทางตอนใต้ของประเทศเป็นการชั่วคราว หลังเกิดยูเรเนียมรั่วไหล
หน่วยงานด้านการป้องภัยนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส ได้สั้งปิดโรงงานนิวเคลียร์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเป็นการชั่วคราวหลังเกิดยูเรเนียมรั่วไหลไปสู่แหล่งผลิตน้ำท้องถิ่น และยังรั่วไหลสู่แม่น้ำ 2 สาย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองอาวิยง เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งผู้รับผิดชอบโรงงานนิวเคลียร์ดังกล่าวระบุว่า จะพัฒนางานด้านความปลอดภัยให้ดีขึ้น พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ว่าอย่าได้ดื่มน้ำ และรับประทานปลาที่ได้จากแม่น้ำทั้งสองสาย รวมถึงอย่าได้ลงเล่นน้ำ นับจากเกิดการรั่วไหลของยูเรเนียมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การรั่วไหลของยูเรเนียมเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย กลับได้รับการแจ้งเตือนอันตรายในเวลา 10.00 น.ของวันอังคารตามเวลา
หุ้นบริษัทปล่อยกู้ซื้อบ้านสหรัฐดิ่งลง50%
หุ้นบริษัทปล่อยกู้ซื้อบ้านสหรัฐดิ่งลง มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์
หุ้นบริษัทปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านของสหรัฐ 2 แห่ง คือ เฟรดดี้ แม็ค และแฟนนี่ แม ดิ่งลงมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายในตลาดนครนิวยอร์คของสหรัฐ ที่เต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัททั้งสองแห่งดังกล่าว ซึ่งนักลงทุน วิตกว่า รัฐบาลอาจเข้าให้การช่วยเหลือเพื่อพยุงกิจการ โดยก่อนหน้านี้นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่า จะให้การช่วยเหลือบริษัททั้งสองแห่งให้เหมาะกับสภาพการณ์ในปัจจุบันแต่ไม่พร้อมที่จะขายหุ้นของทั้งสองบริษัทให้อยู่ตกในมือของสาธารณชน
ทั้งนี้ บริษัทเฟรดดี้ แม็ค และแฟนนี่ แม ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
โฆษกกต.ยันอิหร่านซ้อมยิงขีปนาวุธ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ยืนยัน การซ้อมยิงขีปนาวุธของอิหร่าน เป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันตนเอง
หนังสือพิมพ์เตหะราน ไทม์ส ( Tehran Times ) หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอิหร่าน รายงานว่า นาย โมฮัมหมัด อาลี ฮอสเซนี โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธของอิหร่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อิหร่านได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธ ประเภทจากพื้นสู่พื้น ( ground to ground missile ) จำนวนหลายลูก ทั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง และพิสัยไกล ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ขู่จะถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน หากอิหร่านไม่ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์
นายฮอสเซนี ยังได้กล่าวโจมตีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยชี้ว่าหัวรบนิวเคลียร์ที่อยู่ในความครอบครองของอิสราเอลต่างหากที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคอย่างแท้จริง
หนังสือพิมพ์ เตหะราน ไทม์ส ยังรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนาง กอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ( U.S. Secretary of State) ที่ได้กล่าวในระหว่างการเยือนจอร์เจียว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน เช่นเดียวกันกับผลประโยชน์ของพันธมิตรของสหรัฐฯ (ซึ่งหมายถึงอิสราเอล)
ทั้งนี้ นาย ฮอสเซนียังได้ประณามสหรัฐอเมริกาและบรรดาชาติตะวันตกว่ามีความลำเอียงและเลือกปฏิบัติต่ออิหร่านโดยทำเป็นมองไม่เห็นพฤติกรรมของอิสราเอลที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคมาโดยตลอด แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันใดๆ จากโลกตะวันตก
จัดพิธีรำลึกครบ26ปี4ชาวอิหร่านหายสาบสูญ
ทางการอิหร่านจัดพิธีรำลึกรอบครบ 26 ปีที่ชาวอิหร่าน 4 คนหายสาบสูญ โดยอิหร่านยังเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองกำลังในอิสราเอล
นายมานูเชอร์ มอตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน มาร่วมงานครบรอบ 26 ปีที่ชาวอิหร่าน 4 คนหายสาบสูญ และจัดขึ้นในกรุงเตหะราน เมื่อวานนี้ โดยในระหว่างพิธี นายมอตตากีกล่าวย้ำถึงข้อสรุปเดิมที่ว่า อิสราเอลและองค์การระหว่างประเทศยังต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อชะตากรรมของชาวอิหร่านทั้ง 4 คน
ที่น่าจะถูกอิสราเอลลักพาตัวไป
ทั้งนี้ ชาวอิหร่าน 4 คนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2525 ขณะเดินทางจากซีเรียไปยังเลบานอนในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในเลบานอน คาดว่ากลุ่มที่ลักพาตัวคือกองกำลังคริสเตียนเลบานอนฝ่ายขวา ที่ส่งตัวพวกเขาให้กับรัฐบาลอิสราเอล อย่างไรก็ดี อิสราเอลได้ปฏิเสธสมมุติฐานนี้มาโดย
รัสเซีย ชี้ ขีปนาวุธอิหร่านมีศักยภาพไม่ร้ายแรง ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป เพื่อมาจับตาดูความเคลื่อนไหว
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าววันนี้ว่า การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่าน แสดงให้เห็นศักยภาพที่จำกัดของอาวุธอิหร่าน และเรื่องนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปของสหรัฐ ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
รัสเซีย ระบุว่า การทดสอบอาวุธของอิหร่าน ยืนยันว่าขีปนาวุธของอิหร่านยิงได้ไกลแค่ 2 พันกิโลเมตร ดังนั้นก็เป็นการยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป เพื่อมาจับตาดูความเคลื่อนไหว หรือตอบสนองต่อภัยคุกคามทำนองนี้
นายเซอร์เกย์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน ซึ่งเขาระบุว่า สหรัฐสามารถเดินหน้าแผนจัดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปได้ แต่เรื่องนี้ควรเป็นการดำเนินการร่วมกันของทุกฝ่าย
ท่าทีของรัสเซียมีขึ้น 3 วัน หลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ คอนโดลีซซ่า ไร้ซ์ ร่วมลงนามกับสาธารณรัฐเช็ค ในการติดตั้งระบบเรด้าร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการป้องกันขีปนาวุธในประเทศนี้ ซึ่งฝ่ายรัสเซียออกมาต่อต้านเรื่องนี้ทันที โดยบอกว่าหากสหรัฐมีการดำเนินการจริง รัสเซียจะตอบโต้ทางการทหาร เพราะมองว่าระบบดังกล่าว บั่นทอนศักยภาพในการป้องกันประเทศของพวกเขา ขณะที่สหรัฐบอกว่าระบบดังกล่าว ใช้เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน
พายุแปซิฟิกนอกชายฝั่งเม็กซิโกอาจมีความรุนแรงและพัฒนาเป็นเฮอร์ริเคนได้
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอ็นเอ็ชซี. ระบุว่าพายุโซนร้อนเอลิดา ซึ่งก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับชายฝั่งประเทศเม็กซิโกอาจมีความรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนได้ในอีก 2 วันข้างหน้า
พายุโซนร้อนเอลิดามีความแรงลมเกือบ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดกรรโชกแรง นับเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 5 ในฤดูกาลนี้ ก่อตัวขึ้นห่างไปทางทิศใต้ของแอ็คคะพูลโค ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศที่สำคัญในเม็กซิโก เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกและตะวันเฉียงเหนือ มีความแรงลม 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เอ็นเอ็ชซี.พยากรณ์ว่า พายุเอลิดาจะมีความแรงเพิ่มขึ้นในช่วงสายวันนี้จนกระทั่งถึงวันพรุ่งนี้
ขณะที่ศูนย์พยากรณ์อากาศของเม็กซิโกเตือนว่าพายุเอลิดาจะพัดขึ้นสู่ภาคใต้ของประเทศในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
อิหร่านประกาศเตรียมโจมตีอิสราเอล และฐานทัพของสหรัฐฯ ในแถบอ่าวเปอร์เซีย หากตนถูกโจมตีก่อน
สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โมจ์ตาบา โซลนัวร์ ผู้ช่วยคนสนิทของ อยาโตลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ได้ออกมาประกาศเตือนสหรัฐอเมริกา และอิสราเอล ว่า จะถูกโจมตีคืนอย่างหนักหน่วง หากลง
มือโจมตีอิหร่านก่อน
นายโซลนัวร์ ยืนยันว่า อิหร่านจะถล่มใจกลางของประเทศอิสราเอล รวมทั้งจะทำลายฐานทัพของสหรัฐอเมริกาอีก 32 แห่งในภูมิภาคอ่าวเปอร์เซียในทันที หากทั้ง 2 ชาติลงมือโจมตีอิหร่าน
การออกมาขู่ของนายโซลนัวร์ ในครั้งนี้ มีขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวที่ว่า อิหร่านอาจจะถูกโจมตีโดยสหรัฐฯ และ อิสราเอล หลังจากอิหร่าน ยืนกราน ไม่ยกเลิกโครงการนิวเคลียร์ของตน นอกจากนั้น ยังมีผลทำให้
สถานการณ์ในตะวันออกกลางทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้นไปอีก โดยถือเป็นการท้าทายของอิหร่านระลอกใหม่ถัดจากการทดลองยิงขีปนาวุธ เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ อิหร่าน ยังคงยืนกรานปฏิเสธที่จะยุติการเสริมสมรรถนะแร่ยูเรเนียมในโครงการนิวเคลียร์ของตนแม้ว่าสหภาพยุโรปจะบังคับใช้มาตรการคว่ำบาตรชุดใหม่ต่ออิหร่าน รวมทั้ง เสนอให้ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจแก่
อิหร่านเป็นข้อแลกเปลี่ยนก็ตาม
รัสเซียชี้แผนรับมือขีปนาวุธสหรัฐไม่ได้ผล
รัสเซีย ชี้ การทดสอบยิงขีปนาวุธของอิหร่าน แสดงให้เห็นแล้วว่าแผนติดตั้งรับภัยขีปนาวุธของสหรัฐไม่มีความจำเป็น
นายเซอร์เก้ ล้าฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย เปิดเผยว่าจากผลการทดลองยิงขีปนาวุธของอิหร่านที่มีพิสัยไกลจำกัดเพียงระยะทาง 2,000 กิโลเมตร หรือ 1,240 ไมล์ เป็นเครื่องที่พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แผนติดตั้งรับมือภัยขีปนาวุธของสหรัฐในยุโรป ไม่มีความจำป็นก่อนหน้านี้สหรัฐ ต้องการติดตั้งระบบป้องกันภัยขีปนาวุธในโปแลนด์และสาธารณรัฐเชคเพื่อรับมือภัยขีปนาวุธจากอิหร่านและเกาหลีเหนือขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ของทางการอิรักและอิสราเอล ปฏิเสธรายงานข่าวที่ระบุว่ากองทัพอิสราเอลกำลังฝึกฝนการสู้รบทางอากาศในอิรัก โดยใช้น่านฟ้าที่กองทัพสหรัฐดำเนินการอยู่ เพื่อหาทางโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน
ด้านอิหร่าน ที่ถูกประณามจากหลายฝ่าย หลังทดลองยิงขีปนาวุธ ออกมาระบุว่า อิหร่านพร้อมจะเปิดการเจรจาประเด็นโครงการนิวเคลียร์ ซึ่งนายซาอีด จาลิลี่ หัวหน้าคณะเจรจานิวเคลียร์อิหร่าน จะพบกับนายจาเวียร์ โซลาน่า หัวหน้าด้านนโยบายอียูในวันที่ 19 กรกฎาคมนี้ที่นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์
ฝรั่งเศสปิดโรงงานนิวเคลียร์ชั่วคราว
ฝรั่งเศสสั่งปิดโรงงานนิวเคลียร์ทางตอนใต้ของประเทศเป็นการชั่วคราว หลังเกิดยูเรเนียมรั่วไหล
หน่วยงานด้านการป้องภัยนิวเคลียร์ของฝรั่งเศส ได้สั้งปิดโรงงานนิวเคลียร์ ที่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเป็นการชั่วคราวหลังเกิดยูเรเนียมรั่วไหลไปสู่แหล่งผลิตน้ำท้องถิ่น และยังรั่วไหลสู่แม่น้ำ 2 สาย ซึ่งอยู่ห่างจากเมืองอาวิยง เมืองท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงเพียง 40 กิโลเมตรเท่านั้น ซึ่งผู้รับผิดชอบโรงงานนิวเคลียร์ดังกล่าวระบุว่า จะพัฒนางานด้านความปลอดภัยให้ดีขึ้น พร้อมกับแจ้งเตือนประชาชนในละแวกใกล้เคียงจุดเกิดเหตุ ว่าอย่าได้ดื่มน้ำ และรับประทานปลาที่ได้จากแม่น้ำทั้งสองสาย รวมถึงอย่าได้ลงเล่นน้ำ นับจากเกิดการรั่วไหลของยูเรเนียมเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่า การรั่วไหลของยูเรเนียมเกิดขึ้นในช่วงกลางคืนของวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น แต่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย กลับได้รับการแจ้งเตือนอันตรายในเวลา 10.00 น.ของวันอังคารตามเวลา
หุ้นบริษัทปล่อยกู้ซื้อบ้านสหรัฐดิ่งลง50%
หุ้นบริษัทปล่อยกู้ซื้อบ้านสหรัฐดิ่งลง มากถึง 50 เปอร์เซ็นต์
หุ้นบริษัทปล่อยกู้เพื่อการซื้อบ้านของสหรัฐ 2 แห่ง คือ เฟรดดี้ แม็ค และแฟนนี่ แม ดิ่งลงมากถึง 50 เปอร์เซ็นต์ ท่ามกลางบรรยากาศการซื้อขายในตลาดนครนิวยอร์คของสหรัฐ ที่เต็มไปด้วยความผันผวน เนื่องจากนักลงทุนยังคงไม่มั่นใจเกี่ยวกับการดำเนินการของบริษัททั้งสองแห่งดังกล่าว ซึ่งนักลงทุน วิตกว่า รัฐบาลอาจเข้าให้การช่วยเหลือเพื่อพยุงกิจการ โดยก่อนหน้านี้นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ ออกมาเปิดเผยว่า จะให้การช่วยเหลือบริษัททั้งสองแห่งให้เหมาะกับสภาพการณ์ในปัจจุบันแต่ไม่พร้อมที่จะขายหุ้นของทั้งสองบริษัทให้อยู่ตกในมือของสาธารณชน
ทั้งนี้ บริษัทเฟรดดี้ แม็ค และแฟนนี่ แม ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐซึ่งเริ่มขึ้นตั้งแต่ปีที่แล้ว
โฆษกกต.ยันอิหร่านซ้อมยิงขีปนาวุธ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ยืนยัน การซ้อมยิงขีปนาวุธของอิหร่าน เป็นการเตรียมความพร้อมในการป้องกันตนเอง
หนังสือพิมพ์เตหะราน ไทม์ส ( Tehran Times ) หนังสือพิมพ์ชื่อดังของอิหร่าน รายงานว่า นาย โมฮัมหมัด อาลี ฮอสเซนี โฆษกกระทรวงต่างประเทศของอิหร่าน ได้ออกมาแถลงยืนยันว่า การซ้อมยิงขีปนาวุธของอิหร่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มพูนศักยภาพในการป้องกันตนเองจากภัยคุกคามที่อาจจะเกิดขึ้น
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา อิหร่านได้ทำการทดสอบยิงขีปนาวุธ ประเภทจากพื้นสู่พื้น ( ground to ground missile ) จำนวนหลายลูก ทั้งขีปนาวุธพิสัยกลาง และพิสัยไกล ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า เป็นการตอบโต้อิสราเอลที่ขู่จะถล่มโรงงานนิวเคลียร์ของอิหร่าน หากอิหร่านไม่ยอมยุติโครงการนิวเคลียร์
นายฮอสเซนี ยังได้กล่าวโจมตีรัฐบาลสหรัฐอเมริกาที่กล่าวหาอิหร่านว่าเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงในภูมิภาคตะวันออกกลาง โดยชี้ว่าหัวรบนิวเคลียร์ที่อยู่ในความครอบครองของอิสราเอลต่างหากที่ถือเป็นภัยคุกคามต่อภูมิภาคอย่างแท้จริง
หนังสือพิมพ์ เตหะราน ไทม์ส ยังรายงานโดยอ้างคำกล่าวของนาง กอนโดลีซซา ไรซ์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ( U.S. Secretary of State) ที่ได้กล่าวในระหว่างการเยือนจอร์เจียว่า รัฐบาลสหรัฐฯ จะทำทุกอย่างเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของชาวอเมริกัน เช่นเดียวกันกับผลประโยชน์ของพันธมิตรของสหรัฐฯ (ซึ่งหมายถึงอิสราเอล)
ทั้งนี้ นาย ฮอสเซนียังได้ประณามสหรัฐอเมริกาและบรรดาชาติตะวันตกว่ามีความลำเอียงและเลือกปฏิบัติต่ออิหร่านโดยทำเป็นมองไม่เห็นพฤติกรรมของอิสราเอลที่คุกคามสันติภาพและความมั่นคงของภูมิภาคมาโดยตลอด แต่กลับไม่เคยได้รับแรงกดดันใดๆ จากโลกตะวันตก
จัดพิธีรำลึกครบ26ปี4ชาวอิหร่านหายสาบสูญ
ทางการอิหร่านจัดพิธีรำลึกรอบครบ 26 ปีที่ชาวอิหร่าน 4 คนหายสาบสูญ โดยอิหร่านยังเชื่อว่าเป็นฝีมือของกองกำลังในอิสราเอล
นายมานูเชอร์ มอตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน มาร่วมงานครบรอบ 26 ปีที่ชาวอิหร่าน 4 คนหายสาบสูญ และจัดขึ้นในกรุงเตหะราน เมื่อวานนี้ โดยในระหว่างพิธี นายมอตตากีกล่าวย้ำถึงข้อสรุปเดิมที่ว่า อิสราเอลและองค์การระหว่างประเทศยังต้องร่วมกันรับผิดชอบต่อชะตากรรมของชาวอิหร่านทั้ง 4 คน
ที่น่าจะถูกอิสราเอลลักพาตัวไป
ทั้งนี้ ชาวอิหร่าน 4 คนหายตัวไปตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม ปี 2525 ขณะเดินทางจากซีเรียไปยังเลบานอนในช่วงที่เกิดสงครามกลางเมืองในเลบานอน คาดว่ากลุ่มที่ลักพาตัวคือกองกำลังคริสเตียนเลบานอนฝ่ายขวา ที่ส่งตัวพวกเขาให้กับรัฐบาลอิสราเอล อย่างไรก็ดี อิสราเอลได้ปฏิเสธสมมุติฐานนี้มาโดย
รัสเซีย ชี้ ขีปนาวุธอิหร่านมีศักยภาพไม่ร้ายแรง ไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป เพื่อมาจับตาดูความเคลื่อนไหว
นายเซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซีย กล่าววันนี้ว่า การทดสอบขีปนาวุธของอิหร่าน แสดงให้เห็นศักยภาพที่จำกัดของอาวุธอิหร่าน และเรื่องนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ชัดเจนว่า ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปของสหรัฐ ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด
รัสเซีย ระบุว่า การทดสอบอาวุธของอิหร่าน ยืนยันว่าขีปนาวุธของอิหร่านยิงได้ไกลแค่ 2 พันกิโลเมตร ดังนั้นก็เป็นการยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นจะต้องใช้ระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรป เพื่อมาจับตาดูความเคลื่อนไหว หรือตอบสนองต่อภัยคุกคามทำนองนี้
นายเซอร์เกย์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวหลังการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศจอร์แดน ซึ่งเขาระบุว่า สหรัฐสามารถเดินหน้าแผนจัดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในยุโรปได้ แต่เรื่องนี้ควรเป็นการดำเนินการร่วมกันของทุกฝ่าย
ท่าทีของรัสเซียมีขึ้น 3 วัน หลังรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ คอนโดลีซซ่า ไร้ซ์ ร่วมลงนามกับสาธารณรัฐเช็ค ในการติดตั้งระบบเรด้าร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการป้องกันขีปนาวุธในประเทศนี้ ซึ่งฝ่ายรัสเซียออกมาต่อต้านเรื่องนี้ทันที โดยบอกว่าหากสหรัฐมีการดำเนินการจริง รัสเซียจะตอบโต้ทางการทหาร เพราะมองว่าระบบดังกล่าว บั่นทอนศักยภาพในการป้องกันประเทศของพวกเขา ขณะที่สหรัฐบอกว่าระบบดังกล่าว ใช้เพื่อป้องกันภัยคุกคามจากอิหร่าน
พายุแปซิฟิกนอกชายฝั่งเม็กซิโกอาจมีความรุนแรงและพัฒนาเป็นเฮอร์ริเคนได้
ศูนย์เฮอร์ริเคนแห่งชาติสหรัฐ หรือ เอ็นเอ็ชซี. ระบุว่าพายุโซนร้อนเอลิดา ซึ่งก่อตัวขึ้นในมหาสมุทรแปซิฟิกใกล้กับชายฝั่งประเทศเม็กซิโกอาจมีความรุนแรงขึ้น จนกลายเป็นพายุเฮอร์ริเคนได้ในอีก 2 วันข้างหน้า
พายุโซนร้อนเอลิดามีความแรงลมเกือบ 75 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พัดกรรโชกแรง นับเป็นพายุโซนร้อนลูกที่ 5 ในฤดูกาลนี้ ก่อตัวขึ้นห่างไปทางทิศใต้ของแอ็คคะพูลโค ซึ่งเป็นสถานที่พักตากอากาศที่สำคัญในเม็กซิโก เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกและตะวันเฉียงเหนือ มีความแรงลม 28 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เอ็นเอ็ชซี.พยากรณ์ว่า พายุเอลิดาจะมีความแรงเพิ่มขึ้นในช่วงสายวันนี้จนกระทั่งถึงวันพรุ่งนี้
ขณะที่ศูนย์พยากรณ์อากาศของเม็กซิโกเตือนว่าพายุเอลิดาจะพัดขึ้นสู่ภาคใต้ของประเทศในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 11
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 15-7-51
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงเช้านี้ ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้ชดเชยความวิตกด้านอุปทานหลังจากกลุ่มคนงานน้ำมันในบราซิลได้ผละงานประท้วง และมีความวิตกว่าความกดอากาศต่ำในมหาสมุทรแอตแลนติกอาจก่อตัวขึ้นเป็นพายุลูกใหม่
สัญญน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.2% มาที่ 144.94 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้บวก 10 เซนต์ หรือ 0.1% มาที่ 145.18 ดอลลาร์
ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อไปเมื่อเทียบกับยูโรในวันนี้ โดยเดินหน้าขึ้นจากจุดต่ำสุดเกือบเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ หลังจากที่สหรัฐประกาศแผนฉุกเฉินเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในบริษัทแฟนนี เมและเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นสถาบันการเงินปล่อยเงินกู้จำนองของสหรัฐ
ด้านคนงานน้ำมันที่บริษัทปิโตรบราสของบราซิลได้ยุติการผลิตในบ่อน้ำมันส่วนใหญ่ในแหล่งน้ำมันแคมโปสในช่วงเริ่มต้นการผละงานที่วางแผนไว้เป็นเวลา 5 วันเมื่อวานนี้
เทรดเดอร์จับตามองภาวะความกดอากาศต่ำที่อยู่ห่างจากเขตเลสเซอร์ แอนทิลส์ ไปทางตะวันออกราว 1300 ไมล์ ซึ่งอาจจะพัฒนาไปเป็นพายุดีเปรสชั่นโซนร้อน
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังคงกังวลกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาด้านอุปทานน้ำมันในไนจีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏไนจีเรียประกาศยุติมาตรการหยุดยิง และกังวลกับอุปทานน้ำมันในอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านกำลังขัดแย้งกับอิสราเอลและชาติตะวันตกในเรื่องโครงการนิวเคลียร์
เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันภายในประเทศ และเพื่อลดแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ออกมาในวันพรุ่งนี้ โดยโพลรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ค. สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 300,000 บาร์เรล
ราคาทองทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นและความวิตกเกี่ยวกับตลาดการเงินได้หนุนให้ความต้องการทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 971.55/972.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 971.20/972.20 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งขึ้นแตะ 974.65 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวานนี้ที่ตลาดนิวยอร์ค ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.
ตลาดมีแรงซื้อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF รายใหญ่ที่สุดของโลก พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวลงเล็กน้อยในช่วงเช้านี้ ขณะที่ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นได้ชดเชยความวิตกด้านอุปทานหลังจากกลุ่มคนงานน้ำมันในบราซิลได้ผละงานประท้วง และมีความวิตกว่าความกดอากาศต่ำในมหาสมุทรแอตแลนติกอาจก่อตัวขึ้นเป็นพายุลูกใหม่
สัญญน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.2% มาที่ 144.94 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้บวก 10 เซนต์ หรือ 0.1% มาที่ 145.18 ดอลลาร์
ดอลลาร์ยังแข็งค่าต่อไปเมื่อเทียบกับยูโรในวันนี้ โดยเดินหน้าขึ้นจากจุดต่ำสุดเกือบเป็นประวัติการณ์เมื่อวานนี้ หลังจากที่สหรัฐประกาศแผนฉุกเฉินเพื่อฟื้นความเชื่อมั่นในบริษัทแฟนนี เมและเฟรดดี แมค ซึ่งเป็นสถาบันการเงินปล่อยเงินกู้จำนองของสหรัฐ
ด้านคนงานน้ำมันที่บริษัทปิโตรบราสของบราซิลได้ยุติการผลิตในบ่อน้ำมันส่วนใหญ่ในแหล่งน้ำมันแคมโปสในช่วงเริ่มต้นการผละงานที่วางแผนไว้เป็นเวลา 5 วันเมื่อวานนี้
เทรดเดอร์จับตามองภาวะความกดอากาศต่ำที่อยู่ห่างจากเขตเลสเซอร์ แอนทิลส์ ไปทางตะวันออกราว 1300 ไมล์ ซึ่งอาจจะพัฒนาไปเป็นพายุดีเปรสชั่นโซนร้อน
นอกจากนี้ เทรดเดอร์ยังคงกังวลกับความเป็นไปได้ที่จะเกิดปัญหาด้านอุปทานน้ำมันในไนจีเรีย หลังจากกลุ่มกบฏไนจีเรียประกาศยุติมาตรการหยุดยิง และกังวลกับอุปทานน้ำมันในอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านกำลังขัดแย้งกับอิสราเอลและชาติตะวันตกในเรื่องโครงการนิวเคลียร์
เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุชของสหรัฐประกาศยกเลิกคำสั่งห้ามขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำมันภายในประเทศ และเพื่อลดแรงกดดันจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยตัวเลขสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ออกมาในวันพรุ่งนี้ โดยโพลรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในช่วงสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 11 ก.ค. สต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 300,000 บาร์เรล
ราคาทองทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน ขณะที่ราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นและความวิตกเกี่ยวกับตลาดการเงินได้หนุนให้ความต้องการทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 971.55/972.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 971.20/972.20 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งขึ้นแตะ 974.65 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อวานนี้ที่ตลาดนิวยอร์ค ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.
ตลาดมีแรงซื้อเพิ่มมากขึ้น ขณะที่การถือครองทองคำแท่งของกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF รายใหญ่ที่สุดของโลก พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันศุกร์
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 12
ราคาน้ำมันสหรัฐฯบวกต่อ:- กังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ บริษัทน้ำมันบราซิลประท้วง เฮอริเคนเริ่มก่อตัว
Posted on Tuesday, July 15, 2008
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI): ปรับเพิ่มขึ้น 0.10 เหรียญ/บาเรล ปิดที่ 145.18 เหรียญ/บาเรล
ในช่วงแรกของการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบ WTI ได้ปรับตัวลดลงประมาณ 2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น (1.5842 เหรียญสหรัฐฯ/ยูโร) หลังจากที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังและธนาคารกลางของสหรัฐฯ ประกาศให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ Fannie Mae และ Freddie Mac ซึ่งเป็นบริษัทให้กู้เงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับตลาดเงินและสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และไม่มั่นใจว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจากภาครัฐฯ จะช่วยให้ตลาดเงินฟื้นขึ้นได้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวกลับลงมาอยู่ที่ 1.5911 เหรียญสหรัฐฯ/ยูโร รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงเช่นกัน จึงทำให้นักลงทุนโยกเงินลงทุนจากตลาดทุนมายังตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงท้ายตลาด
ตลาดกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในบราซิล หลังจากที่คนงานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของบราซิล เริ่มการประท้วงหยุดงานเป็นเวลา 5 วัน เมื่อวานนี้ โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่า การหยุดงานนั้นจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 136,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 7% ของปริมาณการผลิตรวมของทั้งประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การผลิตจะหายไปถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่าร่องความกดอากาศต่ำได้ก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมุ่งหน้าเข้าสู่ตอนกลางของทะเลแคริเบียน ทางใต้ของคิวบา ภายในอีก 5 วันข้างหน้า ซึ่งตลาดกำลังจับตาดูว่า ความกดอากาศต่ำจะเพิ่มกำลังเป็นพายุโซนร้อน และมุ่งหน้าเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของสหรัฐฯ หรือไม่
รมต.คลังสหรัฐฯเผยแผนช่วยเหลือแฟนนี่เม และเฟรดดี้แม็ค
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า มีการเจรจากับรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติเพิ่มอำนาจให้แก่กระทรวงการคลังสหรัฐฯที่จะเข้าไปซื้อหลักทรัพย์หรือหุ้นของแฟนนี่เม และเฟรดดี้แม็ค โดยไม่จำกัดจำนวนและมูลค่า ในขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มอำนาจให้กับกระทรวงการคลังในการปล่อยกู้ธุรกกรรมสินเชื่อค้ำประกันของสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งในตลาดได้อีกด้วย ทั้งนี้ เฟรดดี้แม็ค เตรียมที่จะขายหลักทรัพย์ระยะสั้นมูลค่าสูงถึง 9.9 หมื่นล้านบาทในวันพรุ่งนี้
กระทรวงการคลังสหรัฐฯเผยรายละเอียดแผนฉุกเฉินช่วยเหลือยักษ์สินเชื่อ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯหารือกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐฯ และผู้นำฝ่ายการเมืองของทั้ง 2 พรรคในคืนที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในภาคการเงินหลังจากเกิดการประเมินในทางลบกับสถานะของสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่ง โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯเตรียมเปิดวงเงินกู้เสริมสภาพคล่องให้กับทั้ง 2 แห่ง โดยมูลค่าเงินกู้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลัง โดยปัจจุบันสามารถกู้ยืมได้แห่งละ 2,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.4 หมื่นล้านบาท
ธนาคารกลางสหรัฐฯพร้อมเปิดวงเงินกู้เสริมสภาพคล่องทันที
หากมีความจำเป็นกระทรวงการคลังสหรัฐฯยังเตรียมเข้าไปซื้อหลักทรัพย์หรือเป็นการถือหุ้นของทั้ง แฟนนี่เมและเฟรดดี้แม็ค ด้านเฟดยังเปิดวงเงินกู้ยืมสภาพคล่องฉุกเฉินให้กับทั้ง 2 แห่งในกรณีที่มีการร้องขอไปยังเฟด นอกจากนี้เฟดในฐานะที่กำลังจะมีการอนุมัติบทบาท และอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการกำกับดูแลสถาบันการเงินในสหรัฐฯมากขึ้น โดยเตรียมที่จะเข้าไปให้คำปรึกษาในการจัดตั้งเงินทุนสำรองของทั้ง 2 บริษัท รวมถึงมาตรการสร้างความมั่นคงทางการเงิน
ก.ล.ต.สหรัฐฯเตรียมเข้าตรวจสอบการใช้ข่าวลือในตลาดหุ้น
ก.ล.ต. สหรัฐฯเปิดเผยว่า ได้เตรียมเผยมาตรการที่จะเข้าไปตรวจสอบการควบคุมและจัดการกระแสข่าวลือหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลกระทบทางจิตวิทยาด้านการลงทุนในตลาดทุนสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านไป หลังมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสถานะและความมั่นคงของสถาบันการเงินหลายแห่ง
ธนาคารกลางสหรัฐฯเตรียมผลักดันข้อห้ามการปล่อยสินเชื่อ
เฟดยังพิจารณาหลักเกณฑ์ รวมถึงข้อห้ามสำคัญ ๆ ในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ ที่เข้าไปอยู่ในธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้าน โดยไม่ได้มีการตรวจสอบรายได้ที่แท้จริงของลูกหนี้ ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาถึงศักยภาพและกำลังการผ่อนส่งในอนาคตของลูกหนี้ นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการเงินกู้ที่ไม่ชัดเจน
โอบาม่าชี้มาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินต้องไม่กระทบภาษีคนอเมริกัน
นายบารัค โอบาม่า วุฒิสมาชิกและตัวแทนชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบันที่เข้าไปช่วยเหลือ 2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ของรัฐบาล ทั้งแฟนนี่ เมย์ และเฟรดดี้ แม็ค โดยมาตรการของภาครัฐต้องปกป้องเงินภาษีชาวอเมริกัน ขณะเดียวกันต้องไม่ดำเนินการใด ๆ ที่ช่วยเหลือฝ่ายบริหารจัดการ รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นต่าง ๆ ให้ได้ประโยชน์ ทั้งนี้ นายโอบาม่าย้ำว่า สหรัฐฯ ยังต้องรักษาการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าประเทศ
จอร์จ โซรอส ชี้กรณี 2 ยักษ์สินเชื่อไม่ใช่รายสุดท้าย
นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีที่ได้รับฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวว่า กรณี 2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ของรัฐบาล ทั้งแฟนนี่ เมย์ และเฟรดดี้ แม็คนั้น จะยังไม่จบสิ้นลงอย่างง่าย ๆ และในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอีกด้วย ทำให้เชื่อว่า จะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซาอยู่แล้วให้เนิ่นนานออกไป อย่างไรก็ตาม นายจอร์จ โซรอส กล่าวต่อไปว่า ทั้ง 2 สถาบันไม่ได้มีวิกฤติสภาพคล่องอย่างรุนแรง และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เตรียมความพร้อมอยู่ทุกเวลาที่จะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อเข้าไปช่วยหลืออย่างแน่นอน
CEO บริษัทจีเอ็มเตรียมประกาศแผนปลดพนักงานพรุ่งนี้
นายริก แวกเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) ยักษ์ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของสหรัฐฯ และของโลก กล่าวว่า GM พร้อมแล้วที่จะประกาศแผนปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้นภายใน 6 สัปดาห์ข้างหน้า ด้วยการเน้นไปที่การปลดพนักงานในส่วนสำนักงาน โดยเฉพาะฝ่ายวิศวกร รวมถึงโครงการเกษียณก่อนอายุของพนักงานอีกด้วย ทั้งนี้ การประกาศจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้น หลังยอดขายรถยนต์ของ GM ร่วงลงมากถึง 16% ในปีนี้
BMW AG ชี้แผนปลดพนักงานล่าช้ากว่าเป้าหมาย
บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูหราที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากเยอรมนี เปิดเผยว่า แผนการปรับลดต้นทุนของบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และของโลกที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระยะเวลาในการปลดพนักงานทั้งสิ้นเป็นจำนวน 8,100 คน ภายในสิ้นปีนี้นั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากบางส่วนของแผนการปลดพนักงานในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับโครงการเกษียณก่อนกำหนด ซึ่งผลปรากฏว่า มีพนักงานสมัครใจเข้าโครงการน้อยกว่าที่คิดไว้มาก
จอร์จ บุช ย้ำชัดเจนต้องยกเลิกกฎหมายห้ามขุดเจาะน้ำมัน
นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกขั้นตอนในกระบวนการทางกฎหมาย ที่จะต้องยกเลิกกฎหมายห้ามไม่ให้มีการสำรวจและผลิตน้ำมันดิบ รวมถึงก๊าซธรรมชาติในบริเวณนอกชายฝั่งสหรัฐฯ หลังจากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้มายาวนานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดสหรัฐฯ กล่าวว่า หากการยกเลิกกฎหมายดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ จะทำให้สหรัฐฯ มีแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้อย่างยาวนานมากถึง 10 ปี
เหตุประท้วงในบราซิลหนุนน้ำมันบวกต่อ
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเล็กน้อย จากข่าวการประท้วงของรัฐวิสาหกิจน้ำมันในบราซิล ซึ่งอาจจะทำให้อุปทานน้ำมันหายไป มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น โดยปิโตรนาสต้องลดกำลังการผลิตไป 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร เป็นปัจจัยที่สกัดช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันอีก นั่นก็คือ พายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นในมหาสมุทร แอตแลนติค ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และอาจจะส่งผลต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันได้
ราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจาก นักลงทุนคาดการณ์ว่า อิสราเอล หรือ สหรัฐฯ กำลังเตรียมตัวที่จะโจมตีอิหร่าน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและหันมาให้ความสนใจกับทองคำแทน สถานการณ์ในตลาดหุ้นที่ร่วงลงและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นนี้ทำให้ทองคำกลายเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยและน่าสนใจแทน
หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวรับข่าวร้ายที่เกิดจากตลาดหุ้นสหรัฐ ไล่ตั้งแต่ความกังวลว่า บริษัทแฟนนี เม (Fannie Mae) และเฟรดดี แมค (Freddie Mac) ซึ่งเป็นซึ่งเป็นเสาหลักในการแปลงสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เป็นหลักทรัพย์ (Mortgage-Backed Securities) อาจประสบกับปัญหาความเพียงพอของเงินกองทุน จนรัฐบาลสหรัฐอาจต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพราะต้องระดมเงินทุนเพิ่มเติมรวมกันกว่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
และเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกค้าของธนาคารอินดีแมค แบน คอร์ป ธนาคารปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจากวิกฤตซับไพรม์ จนลูกค้าตื่นแห่ถอนเงินฝากออกไปมูลกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 42,900 ล้านบาท ในช่วง 11 วันทำการที่ผ่าน จนทำให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FIDC) ต้องเข้ามาควบคุมกิจการธนาคารแห่งนี้ เพื่อกอบกู้สถานการณ์ พร้อมทั้งประกาศให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าของอินดีแมคว่า จะให้การคุ้มครองเงินฝาก และพร้อมยุติปัญหาธนาคารแห่งนี้ให้ได้ภายใน 90 วัน แต่ความตื่นตระหนกก็ยังคงไม่ลดลงแต่อย่างใด
ล่าสุด นักวิเคราะห์จากแทบทุกสำนักได้ออกมายืนยัน ตรงกับศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่า ปัญหาของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งจะเริ่มโยงในไปถึงสถาบันการเงินสหรัฐโดยรวม นอกจากจะยังคงสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ แม้ว่าความเป็นไปได้ที่ทางการสหรัฐอาจเข้าไปแบกรับภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการเงินที่มีปัญหาต่าง ๆ อาจสามารถสร้างความมั่นใจของตลาดการเงินและนักลงทุนให้กลับคืนมาได้ในระยะแรก
แต่คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวย่อมหมายถึงภาระทางการคลัง ซึ่งในที่สุดแล้วย่อมจะตกไปยังประชาชนผู้เสียภาษี และอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวที่ยาวนานในลักษณะเดียวกับญี่ปุ่น
ขณะที่ค่าเงินดอลลลาร์สหรัฐเอง ก็จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นระยะ ๆ จากปัญหาดังกล่าว ซึ่งแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อประกอบเข้ากับความกังวลต่อปัญหาอุปทานในตลาดน้ำมัน ก็อาจส่งผลทำให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้เตือนสตินักลงทุนด้วยว่า ควรจะแบ่งแยกปัญหาที่เกิดกับภาคสถาบันการเงินสหรัฐ ออกจากภาคสถาบันการเงินไทย เพราะเป็นคนละประเด็นกัน ส่วนหนึ่งสอดรับคำกล่าวของนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ชี้ว่า ปัญหาในภาคสถาบันการเงินสหรัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถาบันการไทย เนื่องจาก ธปท. และธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ ไม่ได้เข้าไปลงทุนในตราสารที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินที่มีปัญหา ขณะเดียวกัน ปัจจุบันสภาพคล่องของสถาบันการเงินไทยยังดีอยู่ และยังไม่เกิดปัญหาเงินฝืด ทุกอย่างยังเป็นปกติ
แต่ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์ส่วนใหญ่ ได้แนะนักลงทุนให้ชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นชั่วคราว หรือหากต้องการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ให้ซื้อเมื่อดัชนีแกว่งตัวในระหว่าง 690 - 710 จุด เพราะปัญหาในภาคสถาบันการเงินสหรัฐขณะนี้ มีความคล้ายคลึงกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจไทยเมื่อทศวรรษก่อน
Posted on Tuesday, July 15, 2008
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI): ปรับเพิ่มขึ้น 0.10 เหรียญ/บาเรล ปิดที่ 145.18 เหรียญ/บาเรล
ในช่วงแรกของการซื้อขาย ราคาน้ำมันดิบ WTI ได้ปรับตัวลดลงประมาณ 2 เหรียญสหรัฐฯ/บาร์เรล เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯแข็งค่าขึ้น (1.5842 เหรียญสหรัฐฯ/ยูโร) หลังจากที่มีข่าวว่ากระทรวงการคลังและธนาคารกลางของสหรัฐฯ ประกาศให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่ Fannie Mae และ Freddie Mac ซึ่งเป็นบริษัทให้กู้เงินเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม ตลาดยังคงกังวลเกี่ยวกับตลาดเงินและสภาพเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่ตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง และไม่มั่นใจว่าความช่วยเหลือดังกล่าวจากภาครัฐฯ จะช่วยให้ตลาดเงินฟื้นขึ้นได้ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวกลับลงมาอยู่ที่ 1.5911 เหรียญสหรัฐฯ/ยูโร รวมทั้งตลาดหุ้นสหรัฐฯปรับตัวลดลงเช่นกัน จึงทำให้นักลงทุนโยกเงินลงทุนจากตลาดทุนมายังตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ซึ่งรวมถึงน้ำมันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงท้ายตลาด
ตลาดกังวลเกี่ยวกับปริมาณการผลิตน้ำมันดิบในบราซิล หลังจากที่คนงานบริษัทน้ำมันแห่งชาติของบราซิล เริ่มการประท้วงหยุดงานเป็นเวลา 5 วัน เมื่อวานนี้ โดยบริษัทฯ คาดการณ์ว่า การหยุดงานนั้นจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของบริษัทฯ ลดลงประมาณ 136,000 บาร์เรลต่อวัน หรือคิดเป็น 7% ของปริมาณการผลิตรวมของทั้งประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งปรับลดลงน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า การผลิตจะหายไปถึง 300,000 บาร์เรลต่อวัน
ศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานว่าร่องความกดอากาศต่ำได้ก่อตัวขึ้นทางตะวันออกของสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะมุ่งหน้าเข้าสู่ตอนกลางของทะเลแคริเบียน ทางใต้ของคิวบา ภายในอีก 5 วันข้างหน้า ซึ่งตลาดกำลังจับตาดูว่า ความกดอากาศต่ำจะเพิ่มกำลังเป็นพายุโซนร้อน และมุ่งหน้าเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันดิบและก๊าซธรรมชาติที่สำคัญของสหรัฐฯ หรือไม่
รมต.คลังสหรัฐฯเผยแผนช่วยเหลือแฟนนี่เม และเฟรดดี้แม็ค
นายเฮนรี่ พอลสัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า มีการเจรจากับรัฐสภาสหรัฐฯ เพื่อขอให้พิจารณาอนุมัติเพิ่มอำนาจให้แก่กระทรวงการคลังสหรัฐฯที่จะเข้าไปซื้อหลักทรัพย์หรือหุ้นของแฟนนี่เม และเฟรดดี้แม็ค โดยไม่จำกัดจำนวนและมูลค่า ในขณะเดียวกันยังสามารถเพิ่มอำนาจให้กับกระทรวงการคลังในการปล่อยกู้ธุรกกรรมสินเชื่อค้ำประกันของสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งในตลาดได้อีกด้วย ทั้งนี้ เฟรดดี้แม็ค เตรียมที่จะขายหลักทรัพย์ระยะสั้นมูลค่าสูงถึง 9.9 หมื่นล้านบาทในวันพรุ่งนี้
กระทรวงการคลังสหรัฐฯเผยรายละเอียดแผนฉุกเฉินช่วยเหลือยักษ์สินเชื่อ
กระทรวงการคลังสหรัฐฯหารือกับธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐฯ และผู้นำฝ่ายการเมืองของทั้ง 2 พรรคในคืนที่ผ่านมา และได้ข้อสรุปมาตรการที่จะสร้างความเชื่อมั่นในภาคการเงินหลังจากเกิดการประเมินในทางลบกับสถานะของสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่ง โดยกระทรวงการคลังสหรัฐฯเตรียมเปิดวงเงินกู้เสริมสภาพคล่องให้กับทั้ง 2 แห่ง โดยมูลค่าเงินกู้ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของรัฐมนตรีว่ากากระทรวงการคลัง โดยปัจจุบันสามารถกู้ยืมได้แห่งละ 2,250 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 7.4 หมื่นล้านบาท
ธนาคารกลางสหรัฐฯพร้อมเปิดวงเงินกู้เสริมสภาพคล่องทันที
หากมีความจำเป็นกระทรวงการคลังสหรัฐฯยังเตรียมเข้าไปซื้อหลักทรัพย์หรือเป็นการถือหุ้นของทั้ง แฟนนี่เมและเฟรดดี้แม็ค ด้านเฟดยังเปิดวงเงินกู้ยืมสภาพคล่องฉุกเฉินให้กับทั้ง 2 แห่งในกรณีที่มีการร้องขอไปยังเฟด นอกจากนี้เฟดในฐานะที่กำลังจะมีการอนุมัติบทบาท และอำนาจหน้าที่เพิ่มเติมในการกำกับดูแลสถาบันการเงินในสหรัฐฯมากขึ้น โดยเตรียมที่จะเข้าไปให้คำปรึกษาในการจัดตั้งเงินทุนสำรองของทั้ง 2 บริษัท รวมถึงมาตรการสร้างความมั่นคงทางการเงิน
ก.ล.ต.สหรัฐฯเตรียมเข้าตรวจสอบการใช้ข่าวลือในตลาดหุ้น
ก.ล.ต. สหรัฐฯเปิดเผยว่า ได้เตรียมเผยมาตรการที่จะเข้าไปตรวจสอบการควบคุมและจัดการกระแสข่าวลือหรือข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ซึ่งส่งผลให้เกิดผลกระทบทางจิตวิทยาด้านการลงทุนในตลาดทุนสหรัฐฯ ซึ่งเกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลานานพอสมควร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านไป หลังมีกระแสข่าวลือเกี่ยวกับสถานะและความมั่นคงของสถาบันการเงินหลายแห่ง
ธนาคารกลางสหรัฐฯเตรียมผลักดันข้อห้ามการปล่อยสินเชื่อ
เฟดยังพิจารณาหลักเกณฑ์ รวมถึงข้อห้ามสำคัญ ๆ ในการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินประเภทอื่น ๆ ที่เข้าไปอยู่ในธุรกิจสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ โดยมีรายละเอียดที่น่าสนใจ เช่น ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้พิจารณาอนุมัติสินเชื่อบ้าน โดยไม่ได้มีการตรวจสอบรายได้ที่แท้จริงของลูกหนี้ ห้ามไม่ให้เจ้าหนี้อนุมัติสินเชื่อโดยไม่ได้พิจารณาถึงศักยภาพและกำลังการผ่อนส่งในอนาคตของลูกหนี้ นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์บริการเงินกู้ที่ไม่ชัดเจน
โอบาม่าชี้มาตรการช่วยเหลือสถาบันการเงินต้องไม่กระทบภาษีคนอเมริกัน
นายบารัค โอบาม่า วุฒิสมาชิกและตัวแทนชิงชัยตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต กล่าวว่า เห็นด้วยกับมาตรการรัฐบาลสหรัฐฯ ในปัจจุบันที่เข้าไปช่วยเหลือ 2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ของรัฐบาล ทั้งแฟนนี่ เมย์ และเฟรดดี้ แม็ค โดยมาตรการของภาครัฐต้องปกป้องเงินภาษีชาวอเมริกัน ขณะเดียวกันต้องไม่ดำเนินการใด ๆ ที่ช่วยเหลือฝ่ายบริหารจัดการ รวมถึงกลุ่มผู้ถือหุ้นต่าง ๆ ให้ได้ประโยชน์ ทั้งนี้ นายโอบาม่าย้ำว่า สหรัฐฯ ยังต้องรักษาการเคลื่อนย้ายเงินทุนเข้าประเทศ
จอร์จ โซรอส ชี้กรณี 2 ยักษ์สินเชื่อไม่ใช่รายสุดท้าย
นายจอร์จ โซรอส มหาเศรษฐีที่ได้รับฉายาพ่อมดการเงิน กล่าวว่า กรณี 2 สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ด้านสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐฯ ของรัฐบาล ทั้งแฟนนี่ เมย์ และเฟรดดี้ แม็คนั้น จะยังไม่จบสิ้นลงอย่างง่าย ๆ และในขณะเดียวกันก็ไม่ใช่ครั้งสุดท้ายอีกด้วย ทำให้เชื่อว่า จะยิ่งซ้ำเติมภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่ซบเซาอยู่แล้วให้เนิ่นนานออกไป อย่างไรก็ตาม นายจอร์จ โซรอส กล่าวต่อไปว่า ทั้ง 2 สถาบันไม่ได้มีวิกฤติสภาพคล่องอย่างรุนแรง และธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เตรียมความพร้อมอยู่ทุกเวลาที่จะต้องดำเนินการบางอย่างเพื่อเข้าไปช่วยหลืออย่างแน่นอน
CEO บริษัทจีเอ็มเตรียมประกาศแผนปลดพนักงานพรุ่งนี้
นายริก แวกเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) ยักษ์ผลิตรถยนต์อันดับ 1 ของสหรัฐฯ และของโลก กล่าวว่า GM พร้อมแล้วที่จะประกาศแผนปรับลดต้นทุนครั้งใหญ่ ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 โดยจะใช้เวลาทั้งสิ้นภายใน 6 สัปดาห์ข้างหน้า ด้วยการเน้นไปที่การปลดพนักงานในส่วนสำนักงาน โดยเฉพาะฝ่ายวิศวกร รวมถึงโครงการเกษียณก่อนอายุของพนักงานอีกด้วย ทั้งนี้ การประกาศจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้ เพื่อสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้น หลังยอดขายรถยนต์ของ GM ร่วงลงมากถึง 16% ในปีนี้
BMW AG ชี้แผนปลดพนักงานล่าช้ากว่าเป้าหมาย
บริษัท บีเอ็มดับเบิลยู เอจี ผู้ผลิตรถยนต์ระดับหรูหราที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกจากเยอรมนี เปิดเผยว่า แผนการปรับลดต้นทุนของบริษัทท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจสหรัฐฯ และของโลกที่ชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะระยะเวลาในการปลดพนักงานทั้งสิ้นเป็นจำนวน 8,100 คน ภายในสิ้นปีนี้นั้น คงไม่สามารถดำเนินการได้ทันตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ เนื่องจากบางส่วนของแผนการปลดพนักงานในครั้งนี้เกี่ยวข้องกับโครงการเกษียณก่อนกำหนด ซึ่งผลปรากฏว่า มีพนักงานสมัครใจเข้าโครงการน้อยกว่าที่คิดไว้มาก
จอร์จ บุช ย้ำชัดเจนต้องยกเลิกกฎหมายห้ามขุดเจาะน้ำมัน
นายจอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ กล่าวว่า กำลังดำเนินการทุกสิ่งทุกอย่าง และทุกขั้นตอนในกระบวนการทางกฎหมาย ที่จะต้องยกเลิกกฎหมายห้ามไม่ให้มีการสำรวจและผลิตน้ำมันดิบ รวมถึงก๊าซธรรมชาติในบริเวณนอกชายฝั่งสหรัฐฯ หลังจากกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้มายาวนานกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ ผู้นำสูงสุดสหรัฐฯ กล่าวว่า หากการยกเลิกกฎหมายดังกล่าวเป็นผลสำเร็จ จะทำให้สหรัฐฯ มีแหล่งผลิตน้ำมันดิบ ซึ่งสามารถนำไปใช้ได้อย่างยาวนานมากถึง 10 ปี
เหตุประท้วงในบราซิลหนุนน้ำมันบวกต่อ
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กดีดตัวขึ้นเล็กน้อย จากข่าวการประท้วงของรัฐวิสาหกิจน้ำมันในบราซิล ซึ่งอาจจะทำให้อุปทานน้ำมันหายไป มีน้ำหนักเพียงพอที่จะทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวขึ้น โดยปิโตรนาสต้องลดกำลังการผลิตไป 4 แสนบาร์เรลต่อวัน ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับยูโร เป็นปัจจัยที่สกัดช่วงขาขึ้นของราคาน้ำมัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังคงมีปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมันอีก นั่นก็คือ พายุที่อาจจะก่อตัวขึ้นในมหาสมุทร แอตแลนติค ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ และอาจจะส่งผลต่อแท่นขุดเจาะน้ำมันได้
ราคาทองคำพุ่งสูงสุดในรอบ 3 เดือน
ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นที่ระดับสูงสุดในรอบ 3 เดือน เนื่องจาก นักลงทุนคาดการณ์ว่า อิสราเอล หรือ สหรัฐฯ กำลังเตรียมตัวที่จะโจมตีอิหร่าน ทำให้นักลงทุนเกิดความวิตกกังวลและหันมาให้ความสนใจกับทองคำแทน สถานการณ์ในตลาดหุ้นที่ร่วงลงและราคาน้ำมันที่พุ่งขึ้นนี้ทำให้ทองคำกลายเป็นแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยและน่าสนใจแทน
หลังจากตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดตัวรับข่าวร้ายที่เกิดจากตลาดหุ้นสหรัฐ ไล่ตั้งแต่ความกังวลว่า บริษัทแฟนนี เม (Fannie Mae) และเฟรดดี แมค (Freddie Mac) ซึ่งเป็นซึ่งเป็นเสาหลักในการแปลงสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้เป็นหลักทรัพย์ (Mortgage-Backed Securities) อาจประสบกับปัญหาความเพียงพอของเงินกองทุน จนรัฐบาลสหรัฐอาจต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ เพราะต้องระดมเงินทุนเพิ่มเติมรวมกันกว่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา
และเมื่อคืนที่ผ่านมา ลูกค้าของธนาคารอินดีแมค แบน คอร์ป ธนาคารปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยแห่งใหญ่ของสหรัฐ ซึ่งประสบปัญหาขาดทุนอย่างหนักจากวิกฤตซับไพรม์ จนลูกค้าตื่นแห่ถอนเงินฝากออกไปมูลกว่า 1,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 42,900 ล้านบาท ในช่วง 11 วันทำการที่ผ่าน จนทำให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลาง (FIDC) ต้องเข้ามาควบคุมกิจการธนาคารแห่งนี้ เพื่อกอบกู้สถานการณ์ พร้อมทั้งประกาศให้ความมั่นใจแก่ลูกค้าของอินดีแมคว่า จะให้การคุ้มครองเงินฝาก และพร้อมยุติปัญหาธนาคารแห่งนี้ให้ได้ภายใน 90 วัน แต่ความตื่นตระหนกก็ยังคงไม่ลดลงแต่อย่างใด
ล่าสุด นักวิเคราะห์จากแทบทุกสำนักได้ออกมายืนยัน ตรงกับศูนย์วิจัยกสิกรไทย ว่า ปัญหาของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค ซึ่งจะเริ่มโยงในไปถึงสถาบันการเงินสหรัฐโดยรวม นอกจากจะยังคงสร้างความผันผวนต่อตลาดหุ้นสหรัฐแล้ว ยังจะส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ แม้ว่าความเป็นไปได้ที่ทางการสหรัฐอาจเข้าไปแบกรับภาระทางการคลังเพิ่มขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือแก่สถาบันการเงินที่มีปัญหาต่าง ๆ อาจสามารถสร้างความมั่นใจของตลาดการเงินและนักลงทุนให้กลับคืนมาได้ในระยะแรก
แต่คงจะปฎิเสธไม่ได้ว่า การให้ความช่วยเหลือดังกล่าวย่อมหมายถึงภาระทางการคลัง ซึ่งในที่สุดแล้วย่อมจะตกไปยังประชาชนผู้เสียภาษี และอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐต้องใช้ระยะเวลาในการฟื้นตัวที่ยาวนานในลักษณะเดียวกับญี่ปุ่น
ขณะที่ค่าเงินดอลลลาร์สหรัฐเอง ก็จะตกอยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นระยะ ๆ จากปัญหาดังกล่าว ซึ่งแรงกดดันต่อค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เมื่อประกอบเข้ากับความกังวลต่อปัญหาอุปทานในตลาดน้ำมัน ก็อาจส่งผลทำให้ราคาน้ำมันและราคาสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ยังคงเคลื่อนไหวในระดับสูงต่อไป
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ได้เตือนสตินักลงทุนด้วยว่า ควรจะแบ่งแยกปัญหาที่เกิดกับภาคสถาบันการเงินสหรัฐ ออกจากภาคสถาบันการเงินไทย เพราะเป็นคนละประเด็นกัน ส่วนหนึ่งสอดรับคำกล่าวของนางธาริษา วัฒนเกส ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่ชี้ว่า ปัญหาในภาคสถาบันการเงินสหรัฐ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อสถาบันการไทย เนื่องจาก ธปท. และธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ ไม่ได้เข้าไปลงทุนในตราสารที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงินที่มีปัญหา ขณะเดียวกัน ปัจจุบันสภาพคล่องของสถาบันการเงินไทยยังดีอยู่ และยังไม่เกิดปัญหาเงินฝืด ทุกอย่างยังเป็นปกติ
แต่ทั้งนี้ นักวิเคราะห์ด้านกลยุทธ์ส่วนใหญ่ ได้แนะนักลงทุนให้ชะลอการลงทุนในตลาดหุ้นชั่วคราว หรือหากต้องการซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว ให้ซื้อเมื่อดัชนีแกว่งตัวในระหว่าง 690 - 710 จุด เพราะปัญหาในภาคสถาบันการเงินสหรัฐขณะนี้ มีความคล้ายคลึงกับปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจไทยเมื่อทศวรรษก่อน
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 13
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 16-7-51
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลสต็อกรายสัปดาห์ของสหรัฐ หลังจากดิ่งลงกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อวานนี้จากความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันหลังตลาดมีความวิตกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX อ่อนลง 10 เซนต์ หรือ 0.07% มาที่ 138.64 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ดิ่งลง 6.44 ดอลลาร์ หรือ 4.44% มาที่ 136.74 ดอลลาร์ หลังจากมีการซื้อขายในช่วง 135.2 146.73 ดอลลาร์
การปิดตลาดร่วงลงวานนี้ถือเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดในรูปสกุลดอลลาร์นับตั้งแต่ราคาน้ำมันดิ่งลง 10.56 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 1991 หลังสหรัฐเริ่มปฎิบัติการทิ้งระเบิดถล่มอิรักในสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ยอมรับเมื่อวานนี้ว่า ตลาดการเงินมีความวิตกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานะการเงินของสมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (แฟนนี เม) และบรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลาง (เฟรดดี แมค)
คำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ที่ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอลง สินเชื่อที่ตึงตัวขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก เมื่อวานนี้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2008 เป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ โดยเสริมว่าการบริโภคจะยังคงชะลอตัวในปี 2009
ผู้นำสหภาพแรงงานในบราซิลแถลงว่า สหพันธ์คนงานน้ำมันในบราซิลจะเริ่มต้นผละงานประท้วงทั่วประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมงในวันพรุ่งนี้โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตใดใด
การประท้วงในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อขอส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม และเป็นการแสดงความเห็นพ้องกับคนงานน้ำมันในแอ่งคามโปสของบราซิลที่ผละงานเป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมา
บริษัทเชฟรอน คอร์ปแถลงเมื่อวานนี้ว่า ท่อส่งน้ำมันดิบเอสคราวอสในไนจีเรียได้กลับมาจัดส่งน้ำมันอีกครั้ง หลังจากกลุ่มเยาวชนติดอาวุธก่อวินาศกรรมต่อท่อส่งน้ำมันแห่งนี้เมื่อราว 1 เดือนก่อน
ด้านบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อน้ำมันดิบบอนนี ไลท์ในไนจีเรีย
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
ราคาทองร่วงลงในเช้าวันนี้จากแรงเทขายทำกำไรหลังราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนวานนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่มีความวิตกและตลาดการเงินโลกที่อ่อนแรง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 972.80/973.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 975.90/977.90 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งแตะระดับ 987.75 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 19 มี.ค. ก่อนที่การร่วงลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวก
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐทรงตัวในช่วงเช้านี้ ก่อนการเปิดเผยข้อมูลสต็อกรายสัปดาห์ของสหรัฐ หลังจากดิ่งลงกว่า 6 ดอลลาร์เมื่อวานนี้จากความกังวลเรื่องอุปสงค์น้ำมันหลังตลาดมีความวิตกมากขึ้นต่อเศรษฐกิจสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด NYMEX อ่อนลง 10 เซนต์ หรือ 0.07% มาที่ 138.64 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ดิ่งลง 6.44 ดอลลาร์ หรือ 4.44% มาที่ 136.74 ดอลลาร์ หลังจากมีการซื้อขายในช่วง 135.2 146.73 ดอลลาร์
การปิดตลาดร่วงลงวานนี้ถือเป็นการทรุดตัวลงมากที่สุดในรูปสกุลดอลลาร์นับตั้งแต่ราคาน้ำมันดิ่งลง 10.56 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 17 ม.ค. 1991 หลังสหรัฐเริ่มปฎิบัติการทิ้งระเบิดถล่มอิรักในสงครามอ่าวเปอร์เซียครั้งแรก
นายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ เฟด ยอมรับเมื่อวานนี้ว่า ตลาดการเงินมีความวิตกมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับสถานะการเงินของสมาคมการจำนองแห่งชาติของรัฐบาลกลาง (แฟนนี เม) และบรรษัทจำนองสินเชื่อบ้านของรัฐบาลกลาง (เฟรดดี แมค)
คำกล่าวของนายเบอร์นันเก้ที่ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอลง สินเชื่อที่ตึงตัวขึ้น และราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น ได้สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจ ทำให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน โอเปก เมื่อวานนี้ปรับลดคาดการณ์อุปสงค์น้ำมันทั่วโลกสำหรับปี 2008 เป็นครั้งที่ 4 ในปีนี้ โดยเสริมว่าการบริโภคจะยังคงชะลอตัวในปี 2009
ผู้นำสหภาพแรงงานในบราซิลแถลงว่า สหพันธ์คนงานน้ำมันในบราซิลจะเริ่มต้นผละงานประท้วงทั่วประเทศเป็นเวลา 48 ชั่วโมงในวันพรุ่งนี้โดยจะไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตใดใด
การประท้วงในครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อขอส่วนแบ่งกำไรเพิ่ม และเป็นการแสดงความเห็นพ้องกับคนงานน้ำมันในแอ่งคามโปสของบราซิลที่ผละงานเป็นเวลา 5 วันตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นมา
บริษัทเชฟรอน คอร์ปแถลงเมื่อวานนี้ว่า ท่อส่งน้ำมันดิบเอสคราวอสในไนจีเรียได้กลับมาจัดส่งน้ำมันอีกครั้ง หลังจากกลุ่มเยาวชนติดอาวุธก่อวินาศกรรมต่อท่อส่งน้ำมันแห่งนี้เมื่อราว 1 เดือนก่อน
ด้านบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์ยกเลิกภาวะสุดวิสัยต่อน้ำมันดิบบอนนี ไลท์ในไนจีเรีย
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันรายสัปดาห์ในวันนี้เวลา 21.30 น. ตามเวลาประเทศไทย
นักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สต็อกน้ำมันเบนซินอาจลดลง 400,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรล
ราคาทองร่วงลงในเช้าวันนี้จากแรงเทขายทำกำไรหลังราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนวานนี้ ท่ามกลางตลาดหุ้นที่มีความวิตกและตลาดการเงินโลกที่อ่อนแรง
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 972.80/973.70 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 975.90/977.90 ดอลลาร์
ราคาทองพุ่งแตะระดับ 987.75 ดอลลาร์/ออนซ์เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ 19 มี.ค. ก่อนที่การร่วงลงของราคาน้ำมันเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวก
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 14
กังวลภาคการเงินสหรัฐฯกดหุ้นดาวโจนส์ร่วง
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) มีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการแสดงความคิดเห็นของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบาก ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้ได้ฉุดรั้งดัชนีดาวโจนส์ปิดต่ำกว่าระดับ 11,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2549 แม้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
ทั้งนี้ เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศแผนพยุงกิจการแฟนนี แม และ เฟรดดี แมค หลังจากทั้ง 2 บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก โดยแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะพยุงสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตลาดสินเชื่อไม่ให้ประสบปัญหามากไปกว่าปี 2550
นอกจากนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ปรับลดลง 6.44 ดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้สั่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาด แต่ปริมาณซื้อยังไม่มากพอที่จะพยุงตลาดให้ปิดในแดนบวกได้ เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องภาคการเงินในสหรัฐมีน้ำหนักมากกว่าราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
ทั้งนี้ หุ้นแฟนนี เม ร่วงลง 27% หุ้นเฟรดดี แมค ดิ่งลง 26% แม้เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯประกาศใช้มาตรการพยุงสถานะทางการเงินของทั้งสองบริษัทก็ตาม
ขณะที่หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ดิ่งลง 5.32% หลังจากนักวิเคราะห์ของวาโชเวียปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น AIG และคาดว่าผลประกอบการของ AIG จะลดลง ส่วนหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 4.3% และปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปีที่ 14.56 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าซิตี้คอร์ป ควบรวมกิจการกับบริษัททราเวลเลอร์ส กรุ๊ป
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) ดีดตัวขึ้น 4.9% หลังจากซีอีโอของจีเอ็มประกาศแผนลดจำนวนพนักงานและลดปริมาณการผลิตรถยนต์บางประเภท
- Dow Jones ปิดที่ 10,962.54 จุด (-0.84%)
- S&P 500 ปิดที่ 1,214.91 จุด (-1.09%)
- Nasdaq ปิดที่ 2,215.71 จุด (-0.13%)
แรงขายหุ้นแบงก์-อานิสงส์ดาวโจนส์ทรุดฉุดหุ้นลอนดอนปิดลบ
ดัชนีหุ้นลอนดอนร่วงลงกว่า 100 จุด จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นกลุ่มธนาคารหลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารและสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐและในแถบยุโรป และตามการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนัก โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 168 เพนซ์ ,หุ้นบาร์เคลย์สดิ่งลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 261 เพนซ์ และหุ้นลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 273 เพนซ์
ส่วนหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 325 เพนซ์ แม้ธนาคารซานตานเดร์ของสเปนเปิดเผยว่า ทางธนาคารบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อธนาคารอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์แล้วก็ตาม
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะทองแดง โดยหุ้นคาซัคมิส ร่วงลง 81 เพนซ์ ปิดที่ 1434 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 38 เพนซ์ ปิดที่ 547 เพนซ์
- FTSE 100 ปิดที่ 5,171.90 จุด (-2.42%)
- CAC 40 ปิดที่ 4,061.15 จุด (-1.96%)
- DAX ปิดที่ 6,081.70 จุด (-1.91%)
วิตกเศรษฐกิจถดถอย ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบ 17 ปี เนื่องจากนักกังวลว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มทวีความรุนแรงเมื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยอมรับต่อสภาคองเกรสว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก
นักลงทุนจับตาหย่อมความกดอากาศต่ำที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะเลสเซอร์ แอนทิลลีสไปทางตะวันออกราว 1,300 ไมล์ โดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในลักษณะนี้อาจกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐฯจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ปริมาณน้ำมันกลั่นสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองอาจลดลง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.1%
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ลงเหลือ 1.20% จากเดิมที่ระดับ 1.28% เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงและราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น โดยโอเปคระบุในรายงานประจำเดือนว่า โครงสร้างราคาใหม่และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ช่วยสกัดกั้นความต้องการน้ำมันในหลายภูมิภาคไม่ให้ขยายตัวขึ้นมาก โดยโอเปคประมาณการว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 86.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากระดับ 85.78 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2550
- Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 138.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-6.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล)
- Brent ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 138.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-5.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล)
ราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อยแม้ราคาน้ำมันทรุด
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก แต่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นได้ โดยถอยร่นลงจากระดับสูงสุดที่ 989.30 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. และส่งผลให้เกิดแรงเทขายในสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดเงินและเข้าเทรดในตลาดทองคำเพราะเป็นสินค้าที่ปลอดภัย
- ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 978.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+5.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 19.013 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.23 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 6.44 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ 138.74 เหรียญ/บาร์เรล
Posted on Wednesday, July 16, 2008
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 6.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 138.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาซื้อขายระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 135.92 - 146.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากธนาคารกลางแสดงความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมีการเทขายทำกำไรจากนักลงทุน โดยราคาน้ำมันดิบWTIปรับตัวลดลงถึง 4.44% เนื่องจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแสดงความกังวลกับคณะกรรมการวุฒิสภา (Senate Banking Committee) เรื่องภาวะเศรษฐกิจของประเทศในภาคการเงินที่ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติ Subprime ประกอบกับค่าเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องมาจากราคาน้ำมัน ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดคลายความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากเหตุการณ์ประท้วงในบริษัทน้ำมันแห่งชาติบราซิล หลังจากที่บริษัทฯ ออกข่าวว่า การผลิตน้ำมันดิบของบริษัทฯได้รับผลกระทบเพียง 4% หรือคิดเป็น 63,000 บาร์เรลต่อวัน ของปริมาณการผลิตรวมทั้งประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่โอเปคปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในปีนี้ลดลงจากเดิม 1.28% มาอยู่ที่ระดับ 1.2% หรือ 86.81 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ปริมาณการบริโภคลดลง
บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในไนจีเรีย 2 แห่งประกาศยกเลิกภาวะเหตุวิสัย ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบปริมาณรวม 250,000 บาร์เรลต่อวันกลับขึ้นมาตามปกติ
ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และ เฟรดดี แมค ซึ่งเป็นหน่วยงานซึ่งรัฐบาลสหรัฐให้การสนับสนุน (GSE) มีหน้าที่จัดหาสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยและเพิ่มสภาพคล่องให้แก่สถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ซื้อบ้านและนักลงทุน นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับปัจจัยลบจากการแสดงความคิดเห็นของเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่ระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯกำลังเผชิญช่วงเวลายากลำบาก ซึ่งปัจจัยลบเหล่านี้ได้ฉุดรั้งดัชนีดาวโจนส์ปิดต่ำกว่าระดับ 11,000 จุดเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนก.ค.ปี 2549 แม้ราคาน้ำมันดิบร่วงลงมากกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐก็ตาม
ทั้งนี้ เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศแผนพยุงกิจการแฟนนี แม และ เฟรดดี แมค หลังจากทั้ง 2 บริษัทขาดทุนในตลาดปล่อยกู้จำนองจนเป็นเหตุให้ขาดสภาพคล่องอย่างหนัก โดยแผนการดังกล่าวมีเป้าหมายที่จะพยุงสถานะทางการเงินของแฟนนี เม และเฟรดดี แมค อีกทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั่วโลกว่า รัฐบาลสหรัฐพร้อมที่จะใช้มาตรการที่จำเป็นเพื่อปกป้องตลาดสินเชื่อไม่ให้ประสบปัญหามากไปกว่าปี 2550
นอกจากนี้ แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กที่ปรับลดลง 6.44 ดอลลาร์สหรัฐ จะช่วยกระตุ้นนักลงทุนให้สั่งแรงซื้อเข้าหนุนตลาด แต่ปริมาณซื้อยังไม่มากพอที่จะพยุงตลาดให้ปิดในแดนบวกได้ เนื่องจากความวิตกกังวลเรื่องภาคการเงินในสหรัฐมีน้ำหนักมากกว่าราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง
ทั้งนี้ หุ้นแฟนนี เม ร่วงลง 27% หุ้นเฟรดดี แมค ดิ่งลง 26% แม้เฟดและกระทรวงการคลังสหรัฐฯประกาศใช้มาตรการพยุงสถานะทางการเงินของทั้งสองบริษัทก็ตาม
ขณะที่หุ้นอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป (AIG) ดิ่งลง 5.32% หลังจากนักวิเคราะห์ของวาโชเวียปรับลดน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้น AIG และคาดว่าผลประกอบการของ AIG จะลดลง ส่วนหุ้นซิตี้กรุ๊ป ร่วงลง 4.3% และปิดที่ระดับต่ำสุดในรอบหลายสิบปีที่ 14.56 ดอลลาร์สหรัฐ หลังจากมีข่าวว่าซิตี้คอร์ป ควบรวมกิจการกับบริษัททราเวลเลอร์ส กรุ๊ป
หุ้นเจนเนอรัล มอเตอร์ (GM) ดีดตัวขึ้น 4.9% หลังจากซีอีโอของจีเอ็มประกาศแผนลดจำนวนพนักงานและลดปริมาณการผลิตรถยนต์บางประเภท
- Dow Jones ปิดที่ 10,962.54 จุด (-0.84%)
- S&P 500 ปิดที่ 1,214.91 จุด (-1.09%)
- Nasdaq ปิดที่ 2,215.71 จุด (-0.13%)
แรงขายหุ้นแบงก์-อานิสงส์ดาวโจนส์ทรุดฉุดหุ้นลอนดอนปิดลบ
ดัชนีหุ้นลอนดอนร่วงลงกว่า 100 จุด จากแรงขายที่ส่งเข้ากระหน่ำหุ้นกลุ่มธนาคารหลังนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานะทางการเงินของธนาคารและสถาบันการเงินทั้งในสหรัฐและในแถบยุโรป และตามการร่วงลงของดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก อย่างไรก็ตาม ดัชนี FTSE 100 สามารถไต่ขึ้นจากระดับต่ำสุดของวันได้หลังจากราคาน้ำมันดิบร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มธนาคารถูกแรงขายกระหน่ำลงอย่างหนัก โดยหุ้นรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ ดิ่งลง 13 เพนซ์ ปิดที่ 168 เพนซ์ ,หุ้นบาร์เคลย์สดิ่งลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 261 เพนซ์ และหุ้นลอยด์ ทีเอสบี ร่วงลง 10 เพนซ์ ปิดที่ 273 เพนซ์
ส่วนหุ้นอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีเซสเตอร์ ซึ่งเป็นธนาคารปล่อยกู้จำนองรายใหญ่ของอังกฤษ ดิ่งลง 11 เพนซ์ ปิดที่ 325 เพนซ์ แม้ธนาคารซานตานเดร์ของสเปนเปิดเผยว่า ทางธนาคารบรรลุข้อตกลงในการเข้าซื้อธนาคารอัลไลอันซ์ แอนด์ ลีสเตอร์แล้วก็ตาม
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงตามราคาโลหะทองแดง โดยหุ้นคาซัคมิส ร่วงลง 81 เพนซ์ ปิดที่ 1434 เพนซ์ หุ้นอันโตฟากัสต้าร่วงลง 38 เพนซ์ ปิดที่ 547 เพนซ์
- FTSE 100 ปิดที่ 5,171.90 จุด (-2.42%)
- CAC 40 ปิดที่ 4,061.15 จุด (-1.96%)
- DAX ปิดที่ 6,081.70 จุด (-1.91%)
วิตกเศรษฐกิจถดถอย ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วง
ราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 6 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการร่วงลงหนักสุดในรอบ 17 ปี เนื่องจากนักกังวลว่า ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้นอาจส่งผลกระทบอย่างหนักต่อภาวะเศรษฐกิจโดยรวม โดยความกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มทวีความรุนแรงเมื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ยอมรับต่อสภาคองเกรสว่าเศรษฐกิจสหรัฐกำลังเผชิญช่วงเวลาที่ยากลำบาก
นักลงทุนจับตาหย่อมความกดอากาศต่ำที่อยู่ห่างจากหมู่เกาะเลสเซอร์ แอนทิลลีสไปทางตะวันออกราว 1,300 ไมล์ โดยศูนย์เฮอริเคนแห่งชาติของสหรัฐฯระบุว่า หย่อมความกดอากาศต่ำในลักษณะนี้อาจกลายเป็นพายุดีเปรสชันเขตร้อน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตารายงานปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐฯซึ่งกระทรวงพลังงานสหรัฐฯจะเปิดเผยในคืนวันพุธ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบสำรองอาจลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล ปริมาณน้ำมันกลั่นสำรองอาจเพิ่มขึ้น 1.9 ล้านบาร์เรล และปริมาณน้ำมันเบนซินสำรองอาจลดลง 300,000 บาร์เรล ส่วนอัตราการกลั่นน้ำมันอาจเพิ่มขึ้น 0.1%
กลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปค) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของอุปสงค์น้ำมันโลกในปีนี้ลงเหลือ 1.20% จากเดิมที่ระดับ 1.28% เนื่องจากเศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวลงและราคาเชื้อเพลิงที่สูงขึ้น โดยโอเปคระบุในรายงานประจำเดือนว่า โครงสร้างราคาใหม่และเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวได้ช่วยสกัดกั้นความต้องการน้ำมันในหลายภูมิภาคไม่ให้ขยายตัวขึ้นมาก โดยโอเปคประมาณการว่า ความต้องการน้ำมันจะเพิ่มขึ้นเป็น 86.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2551 เพิ่มขึ้นจากระดับ 85.78 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2550
- Nymex ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 138.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-6.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล)
- Brent ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 138.75 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล (-5.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล)
ราคาทองคำปิดบวกเล็กน้อยแม้ราคาน้ำมันทรุด
แม้ว่าราคาน้ำมันดิบตลาดนิวยอร์กร่วงลงอย่างหนัก แต่ราคาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นได้ โดยถอยร่นลงจากระดับสูงสุดที่ 989.30 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค. และส่งผลให้เกิดแรงเทขายในสัญญาสินค้าโภคภัณฑ์ประเภทอื่นๆด้วย
ทั้งนี้ นักวิเคราะห์เชื่อว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับปัญหาของสถาบันการเงินในสหรัฐฯ และ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัวลง ได้กระตุ้นให้นักลงทุนย้ายฐานการลงทุนออกจากตลาดเงินและเข้าเทรดในตลาดทองคำเพราะเป็นสินค้าที่ปลอดภัย
- ทองคำ ส่งมอบเดือนสิงหาคม ปิดที่ 978.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (+5.00 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
- เงิน ส่งมอบเดือนกันยายน ปิดที่ 19.013 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ (-0.23 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์)
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 6.44 เหรียญ/บาร์เรล ปิดที่ 138.74 เหรียญ/บาร์เรล
Posted on Wednesday, July 16, 2008
ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ลดลง 6.44 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ปิดที่ 138.74 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล โดยราคาซื้อขายระหว่างวันอยู่ที่ระดับ 135.92 - 146.73 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากธนาคารกลางแสดงความกังวลต่อสภาพเศรษฐกิจสหรัฐฯ และมีการเทขายทำกำไรจากนักลงทุน โดยราคาน้ำมันดิบWTIปรับตัวลดลงถึง 4.44% เนื่องจากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯแสดงความกังวลกับคณะกรรมการวุฒิสภา (Senate Banking Committee) เรื่องภาวะเศรษฐกิจของประเทศในภาคการเงินที่ยังคงได้รับผลกระทบจากปัญหาวิกฤติ Subprime ประกอบกับค่าเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้นอันเนื่องมาจากราคาน้ำมัน ทำให้ราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นด้วย
นอกจากนี้ ตลาดคลายความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบจากเหตุการณ์ประท้วงในบริษัทน้ำมันแห่งชาติบราซิล หลังจากที่บริษัทฯ ออกข่าวว่า การผลิตน้ำมันดิบของบริษัทฯได้รับผลกระทบเพียง 4% หรือคิดเป็น 63,000 บาร์เรลต่อวัน ของปริมาณการผลิตรวมทั้งประเทศที่ 1.8 ล้านบาร์เรลต่อวันเท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าที่หลายฝ่ายเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
ขณะที่โอเปคปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราการเติบโตของปริมาณความต้องการน้ำมันดิบในปีนี้ลดลงจากเดิม 1.28% มาอยู่ที่ระดับ 1.2% หรือ 86.81 ล้านบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้ปริมาณการบริโภคลดลง
บริษัทผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกในไนจีเรีย 2 แห่งประกาศยกเลิกภาวะเหตุวิสัย ทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบปริมาณรวม 250,000 บาร์เรลต่อวันกลับขึ้นมาตามปกติ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 15
จากสรุปข่าวการประชุมที่เจเนวา ว่าด้วยเรื่องโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน ระหว่าง สหรัฐ และ สหภาพยุโรป
ผลออกมาคือ อิหร่านพยายามอธิบายถึงโครงสร้าง ในการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อทางสันติ อย่างเต็มที่
แต่กระนั้น อิหร่านก็ยังบ่ายเบี่ยงที่ทำตามเงื่อนไขของอียูและสหรัฐ ที่จะให้หยุดการพัฒนายูแรเนียมเป็นการชั่วคราวก่อน
เพื่อการตรวจสอบของ ทางอียูและสหรัฐ อิหร่านพยายามจะยื้อระยะเวลาการพัฒนาต่อไปอีก โดยไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน
โดยทางอียูก็หวังว่าจะได้รับ คำตอบที่ชัดเจนจากอิหร่านภายหลังจากการประชุมอีก 2 สัปดาห์ ส่วนทาง สหรัฐ รัสเชีย และ จีนต่างก็ ขีดเส้นให้อิหร่านหยุดพัฒนายูเรเนียมภายใน 6 สัปดาห์
ผลออกมาคือ อิหร่านพยายามอธิบายถึงโครงสร้าง ในการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อทางสันติ อย่างเต็มที่
แต่กระนั้น อิหร่านก็ยังบ่ายเบี่ยงที่ทำตามเงื่อนไขของอียูและสหรัฐ ที่จะให้หยุดการพัฒนายูแรเนียมเป็นการชั่วคราวก่อน
เพื่อการตรวจสอบของ ทางอียูและสหรัฐ อิหร่านพยายามจะยื้อระยะเวลาการพัฒนาต่อไปอีก โดยไม่ให้คำตอบที่ชัดเจน
โดยทางอียูก็หวังว่าจะได้รับ คำตอบที่ชัดเจนจากอิหร่านภายหลังจากการประชุมอีก 2 สัปดาห์ ส่วนทาง สหรัฐ รัสเชีย และ จีนต่างก็ ขีดเส้นให้อิหร่านหยุดพัฒนายูเรเนียมภายใน 6 สัปดาห์
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 17
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 22-7-51
ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังดอลลาร์ร่วงลงเทียบสกุลหลักอื่นๆและราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ซึ่งหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 966.95/967.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 961.75/963.15 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐร่วงลงในช่วงเช้านี้ ขณะที่พายุโซนร้อนดอลลี ซึ่งเป็นพายุใหญ่ลูกแรกของปีนี้ซึ่งอาจคุกคามบริษัทผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก มีแนวโน้มว่าจะไม่กระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ร่วงลง 73 เซนต์ หรือ 0.6% มาที่ 130.31 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้พุ่งขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 1.7% มาที่ 131.04 ดอลลาร์
พายุโซนร้อนดอลลี พัดเข้าสู่ทางใต้ของเท็กซัสเมื่อวานนี้ และนักพยากรณ์อากาศคาดว่า พายุดังกล่าวจะมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนก่อนที่จะเข้าสู่ฝั่งใกล้ชายแดนเม็กซิโกมรช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้
ความวิตกที่ว่า พายุดอลลีอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นปัจจัยดันราคาน้ำมันล่วงหน้าขึ้นเมื่อวานนี้ แม้ว่าดีลเลอร์กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าพายุดอลลีจะพัดผ่านทางใต้และทางตะวันตกของแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แต่อาจจะสร้างความเสี่ยงต่อโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งบริเวณชายฝั่งในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มชาติมหาอำนาจได้ให้เวลาอิหร่าน 2 สัปดาห์ในการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องในการยุติโครงการนิวเคลียร์ มิฉะนั้นจะเผชิญกับการคว่ำบารตรที่รุนแรงขึ้น หลังการหารือยุติลงโดยไม่มีข้อสรุป แม้ว่าสหรัฐได้เข้าร่วมการหารือดังกล่าวก็ตาม
นางสาวคอนโดลีซซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเตือนอิหร่านเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านจะเผชิญการคว่ำบาตรมากขึ้น หากพ้นกำหนดเส้นตาย 2 สัปดาห์
ความวิตกที่ว่าความขัดแย้งอาจทำให้เกิดภาวะชะงักงันด้านปริมาณน้ำมันจากอิหร่านนั้นได้เป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนนี้
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์ คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 500,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ทองจุดน่าทำกำไรขาขึ้น 961.7 , 959.6 , 957.6
จุดน่าชอตทำกำไรขาลง 976 , 978.8 , 981.2
แนวโน้มยังมองขึ้นได้แต่เป็นการเล่นสั้นๆนะครับ
น้ำมันจุดซื้อทำกำไรขาขึ้น 131.35 หรือ 129.00
จุดนน่าชอตทำกำไรขาลง 133 , 136 , 139 เป็นแนวต้าน
ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง หลังดอลลาร์ร่วงลงเทียบสกุลหลักอื่นๆและราคาน้ำมันพุ่งขึ้น ซึ่งหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัย
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 966.95/967.95 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 961.75/963.15 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐร่วงลงในช่วงเช้านี้ ขณะที่พายุโซนร้อนดอลลี ซึ่งเป็นพายุใหญ่ลูกแรกของปีนี้ซึ่งอาจคุกคามบริษัทผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งในอ่าวเม็กซิโก มีแนวโน้มว่าจะไม่กระทบต่อการผลิตน้ำมันของสหรัฐ
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ส.ค. ที่ตลาด Nymex ร่วงลง 73 เซนต์ หรือ 0.6% มาที่ 130.31 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้พุ่งขึ้น 2.16 ดอลลาร์ หรือ 1.7% มาที่ 131.04 ดอลลาร์
พายุโซนร้อนดอลลี พัดเข้าสู่ทางใต้ของเท็กซัสเมื่อวานนี้ และนักพยากรณ์อากาศคาดว่า พายุดังกล่าวจะมีกำลังเพิ่มขึ้นเป็นพายุเฮอริเคนก่อนที่จะเข้าสู่ฝั่งใกล้ชายแดนเม็กซิโกมรช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้
ความวิตกที่ว่า พายุดอลลีอาจส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเป็นปัจจัยดันราคาน้ำมันล่วงหน้าขึ้นเมื่อวานนี้ แม้ว่าดีลเลอร์กล่าวว่า มีแนวโน้มว่าพายุดอลลีจะพัดผ่านทางใต้และทางตะวันตกของแหล่งขุดเจาะน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐ แต่อาจจะสร้างความเสี่ยงต่อโรงกลั่นน้ำมันบางแห่งบริเวณชายฝั่งในช่วงต่อไปของสัปดาห์นี้
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กลุ่มชาติมหาอำนาจได้ให้เวลาอิหร่าน 2 สัปดาห์ในการปฏิบัติตามข้อเรียกร้องในการยุติโครงการนิวเคลียร์ มิฉะนั้นจะเผชิญกับการคว่ำบารตรที่รุนแรงขึ้น หลังการหารือยุติลงโดยไม่มีข้อสรุป แม้ว่าสหรัฐได้เข้าร่วมการหารือดังกล่าวก็ตาม
นางสาวคอนโดลีซซา ไรซ์ รมว.ต่างประเทศสหรัฐ กล่าวเตือนอิหร่านเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านจะเผชิญการคว่ำบาตรมากขึ้น หากพ้นกำหนดเส้นตาย 2 สัปดาห์
ความวิตกที่ว่าความขัดแย้งอาจทำให้เกิดภาวะชะงักงันด้านปริมาณน้ำมันจากอิหร่านนั้นได้เป็นแรงหนุนให้ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดครั้งใหม่ในเดือนนี้
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ EIA จะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันสัปดาห์ในวันพรุ่งนี้ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์ คาดว่าสต็อกน้ำมันดิบอาจลดลง 500,000 บาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา, สต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 100,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2.2 ล้านบาร์เรล
ทองจุดน่าทำกำไรขาขึ้น 961.7 , 959.6 , 957.6
จุดน่าชอตทำกำไรขาลง 976 , 978.8 , 981.2
แนวโน้มยังมองขึ้นได้แต่เป็นการเล่นสั้นๆนะครับ
น้ำมันจุดซื้อทำกำไรขาขึ้น 131.35 หรือ 129.00
จุดนน่าชอตทำกำไรขาลง 133 , 136 , 139 เป็นแนวต้าน
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 18
ราคาสรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 23-7-51
ราคาทองแทบไม่เปลี่ยนแปลงในเช้าวันนี้ หลังร่วงลงกว่า 1% ที่ตลาดทองนิวยอร์ค
วานนี้
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 948.50/949.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 948.30/949.90 ดอลลาร์
ราคาทองแตะระดับสูงสุดของเช้านี้ที่ 975.95 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ผันผวนวานนี้ ก่อนที่การร่วงลงของราคาน้ำมันจะฉุดราคาทองลงแตะ 942.80 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวลดลงในช่วงเช้านี้ หลังจากดิ่งลงกว่า 3 ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์วานนี้ ขณะที่ตลาดคลายความวิตกต่อความรุนแรงของพายุเฮอริเคนดอลลีที่อาจมีผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะและโรงกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก และมีความวิตกมากขึ้นว่าอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐจะลดลง
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย. ที่ตลาด Nymex ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.19% มาที่ 128.18 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ดิ่งลง 3.09 ดอลลาร์ หรือ 2.36% มาที่ 127.95 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ราคาปิดที่ 127.79 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.
กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐได้ระงับการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไป 5% แล้วเมื่อวานนี้ ก่อนที่พายุลูกแรกจะพัดถล่มบริเวณผลิตน้ำมันแต่ก็คาดว่าการปิดการผลิตดังกล่าวจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ แม้พายุดอลลีทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคนแล้วก็ตาม
บริษัทมาสเตอร์การ์ดเปิดเผยผลสำรวจเมื่อวานนี้ระบุว่า ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้วราว 2% โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้ใช้รถยนต์กำลังปรับลดการเดินทางลง ขณะที่ราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงขึ้น
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากนายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ซึ่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ เฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และเป็นสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด FOMC กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลให้เฟดต้องเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจดลดลง 700,000 บาร์เรล,สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
1. Fed เริ่มกังวลใจอย่างมากกับภาวะเงินเฟ้อเริ่มมีการ ดีเบรด กันในที่ประชุม
ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา
http://money.cnn.com/2008/07/22/news/ec ... 2008072209
2. ราคาน้ำมันที่ลดลงไปมาก
3. จากตัดขายทำกำไรระยะสั้นช่วงมีช่องว่างของระยะเวลาที่ Eu สหรัฐ ให้เวลาอิหร่านตัดสินใจ นักลงทุนคิดว่ามีเวลาพอที่จะกลับมาย้อนซื้อได้
หากสถานะการณ์ จะเกิดสงครามก็ยยังย้อนมาซื้อได้
*** ถ้าอัตราดอกบี้ยเพิ่มทำไมราคาทองลดลง
อธิบายง่ายมากๆ
สมมุตินะครับ หากแบงค์ กรุงไทย แบงค์ใหญ่ๆ ให้ดอกเบี้ยคุณ 20-30% ล่ะ คุณว่าคนจะอาเงินไปฝากเยอะไหม แล้วเลิกเก็งกำไรในทองไปเยอะไหม คำตอบคือคนจะเอาเงินไปฝากมากขึ้นได้ชัวร์ได้เยอะด้วย ความต้องการถือทองคำลดลง ราคา
ราคาทองแทบไม่เปลี่ยนแปลงในเช้าวันนี้ หลังร่วงลงกว่า 1% ที่ตลาดทองนิวยอร์ค
วานนี้
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 948.50/949.50 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 948.30/949.90 ดอลลาร์
ราคาทองแตะระดับสูงสุดของเช้านี้ที่ 975.95 ดอลลาร์ในการซื้อขายที่ผันผวนวานนี้ ก่อนที่การร่วงลงของราคาน้ำมันจะฉุดราคาทองลงแตะ 942.80 ดอลลาร์ ซึ่งต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 11 ก.ค.
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวลดลงในช่วงเช้านี้ หลังจากดิ่งลงกว่า 3 ดอลลาร์แตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 สัปดาห์วานนี้ ขณะที่ตลาดคลายความวิตกต่อความรุนแรงของพายุเฮอริเคนดอลลีที่อาจมีผลกระทบต่อแท่นขุดเจาะและโรงกลั่นน้ำมันในอ่าวเม็กซิโก และมีความวิตกมากขึ้นว่าอุปสงค์น้ำมันของสหรัฐจะลดลง
สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย. ที่ตลาด Nymex ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.19% มาที่ 128.18 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากปิดวานนี้ดิ่งลง 3.09 ดอลลาร์ หรือ 2.36% มาที่ 127.95 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ราคาปิดที่ 127.79 ดอลลาร์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.
กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกของสหรัฐได้ระงับการผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติไป 5% แล้วเมื่อวานนี้ ก่อนที่พายุลูกแรกจะพัดถล่มบริเวณผลิตน้ำมันแต่ก็คาดว่าการปิดการผลิตดังกล่าวจะเป็นเพียงช่วงสั้นๆ แม้พายุดอลลีทวีความรุนแรงเป็นพายุเฮอริเคนแล้วก็ตาม
บริษัทมาสเตอร์การ์ดเปิดเผยผลสำรวจเมื่อวานนี้ระบุว่า ปริมาณการใช้น้ำมันเบนซินในสหรัฐอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงเดียวกันในปีที่แล้วราว 2% โดยข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่า ผู้ใช้รถยนต์กำลังปรับลดการเดินทางลง ขณะที่ราคาน้ำมันกำลังพุ่งสูงขึ้น
ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากนายชาร์ลส์ พลอสเซอร์ ซึ่งเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐ เฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และเป็นสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงในคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด FOMC กล่าวว่า การพุ่งขึ้นของอัตราเงินเฟ้ออาจส่งผลให้เฟดต้องเริ่มต้นปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกน้ำมันในวันนี้ ซึ่งนักวิเคราะห์ที่ได้รับการสำรวจโดยรอยเตอร์คาดว่า สต็อกน้ำมันดิบอาจดลดลง 700,000 บาร์เรล,สต็อกน้ำมันเบนซินอาจเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นอาจเพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรล
1. Fed เริ่มกังวลใจอย่างมากกับภาวะเงินเฟ้อเริ่มมีการ ดีเบรด กันในที่ประชุม
ถึงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา
http://money.cnn.com/2008/07/22/news/ec ... 2008072209
2. ราคาน้ำมันที่ลดลงไปมาก
3. จากตัดขายทำกำไรระยะสั้นช่วงมีช่องว่างของระยะเวลาที่ Eu สหรัฐ ให้เวลาอิหร่านตัดสินใจ นักลงทุนคิดว่ามีเวลาพอที่จะกลับมาย้อนซื้อได้
หากสถานะการณ์ จะเกิดสงครามก็ยยังย้อนมาซื้อได้
*** ถ้าอัตราดอกบี้ยเพิ่มทำไมราคาทองลดลง
อธิบายง่ายมากๆ
สมมุตินะครับ หากแบงค์ กรุงไทย แบงค์ใหญ่ๆ ให้ดอกเบี้ยคุณ 20-30% ล่ะ คุณว่าคนจะอาเงินไปฝากเยอะไหม แล้วเลิกเก็งกำไรในทองไปเยอะไหม คำตอบคือคนจะเอาเงินไปฝากมากขึ้นได้ชัวร์ได้เยอะด้วย ความต้องการถือทองคำลดลง ราคา
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 19
สรุปข่าวสำคัญ ราคาทองคำ น้ำมัน 25-7-51
ราคาทองปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันทำให้ทองมีความน่าสนใจอีกครั้งในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่ราคาโลหะพลาตินั่มทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนจากความวิตกต่ออุปสงค์ที่ลดลง
ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นมาที่ 927.40/928.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 923.00/924.00 ดอลลาร์ เมื่อราคาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 915.80 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน
โพลรอยเตอร์คาดว่า ราคาทองโดยเฉลี่ยจะพุ่งขึ้นกว่า 30% ในปีนี้ และจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยแรงซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจากความเสี่ยงทางการเงินในขณะนี้จะเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์วานนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ระบุว่าเป็นการดีดตัวขึ้นจากคำสั่งซื้อคืน
ณ. เวลา 07.38 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย. ที่ตลาด nymex ขยับขึ้น 6 เซนต์ มาที่ 125.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex ขณะที่ปิดวานนี้พุ่งขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 0.8% มาที่ 125.49 ดอลลาร์ หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ที่ 124.10 ดอลลาร์ในช่วงเช้า
ราคาน้ำมันดิบ Nymex ทรุดตัวลง 23.77 ดอลลาร์ หรือ 16% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 147.27 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.
ราคาร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์จากจุดสูงสุด และในขณะนี้มีแรงซื้อคืนในตลาดที่ถูกเทขายมากเกินไป นายทัตสึโอะ คาเกยาม่า นักวิเคราะห์ของบริษัทคาเนตสึ แอสเซ็ท แมนเนจเมนต์ในโตเกียวกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่ช่องแคบฮุสตัน ชิพกล่าวเมื่อวานนี้ว่าการขนส่งทางน้ำเริ่มขึ้นอีกครั้งในปริมาณจำกัด หลังจากที่หยุดชะงักลงเป็นเวลา 36 ชั่วโมง อันเป็นผลจากคลื่นรุนแรงในทะเล หลังจากที่พายุเฮอริเคนดอลลีกระหน่ำชายฝั่งเท็กซัสเมื่อวันพุธ
คณะกรรมาธิการการเกษตรประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ในการคุมเข้มเพดานสถานะการลงทุนในตลาดน้ำมันและตลาดสัญญาล่วงหน้าอื่นๆ เพื่อสกัดกั้นการบิดเบือนราคาที่เกิดจากกระแสเงินลงทุนของนักเก็งกำไร
เทรดเดอร์จะจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สหรัฐจะรายงานออกมาในวันนี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนและยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. โดยเทรดเดอร์จะใช้ตัวเลขเหล่านี้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก
ราคาทองปรับตัวขึ้นในวันนี้ ขณะที่การดีดตัวขึ้นของราคาน้ำมันทำให้ทองมีความน่าสนใจอีกครั้งในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ แต่ราคาโลหะพลาตินั่มทรงตัวใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 6 เดือนจากความวิตกต่ออุปสงค์ที่ลดลง
ราคาทองสปอตพุ่งขึ้นมาที่ 927.40/928.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 923.00/924.00 ดอลลาร์ เมื่อราคาร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 915.80 ดอลลาร์ ก่อนที่จะดีดตัวขึ้นตามราคาน้ำมัน
โพลรอยเตอร์คาดว่า ราคาทองโดยเฉลี่ยจะพุ่งขึ้นกว่า 30% ในปีนี้ และจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีหน้า โดยแรงซื้อทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยจากความเสี่ยงทางการเงินในขณะนี้จะเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุน
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ หลังจากฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์วานนี้ ขณะที่เทรดเดอร์ระบุว่าเป็นการดีดตัวขึ้นจากคำสั่งซื้อคืน
ณ. เวลา 07.38 น. ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือน ก.ย. ที่ตลาด nymex ขยับขึ้น 6 เซนต์ มาที่ 125.55 ดอลลาร์/บาร์เรล ในการซื้อขายช่วงเช้านี้ผ่านระบบ Globex ขณะที่ปิดวานนี้พุ่งขึ้น 1.05 ดอลลาร์ หรือ 0.8% มาที่ 125.49 ดอลลาร์ หลังจากร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ ที่ 124.10 ดอลลาร์ในช่วงเช้า
ราคาน้ำมันดิบ Nymex ทรุดตัวลง 23.77 ดอลลาร์ หรือ 16% จากระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 147.27 ดอลลาร์ที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.
ราคาร่วงลงกว่า 20 ดอลลาร์จากจุดสูงสุด และในขณะนี้มีแรงซื้อคืนในตลาดที่ถูกเทขายมากเกินไป นายทัตสึโอะ คาเกยาม่า นักวิเคราะห์ของบริษัทคาเนตสึ แอสเซ็ท แมนเนจเมนต์ในโตเกียวกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ท่าเรือที่ช่องแคบฮุสตัน ชิพกล่าวเมื่อวานนี้ว่าการขนส่งทางน้ำเริ่มขึ้นอีกครั้งในปริมาณจำกัด หลังจากที่หยุดชะงักลงเป็นเวลา 36 ชั่วโมง อันเป็นผลจากคลื่นรุนแรงในทะเล หลังจากที่พายุเฮอริเคนดอลลีกระหน่ำชายฝั่งเท็กซัสเมื่อวันพุธ
คณะกรรมาธิการการเกษตรประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐอนุมัติร่างกฎหมายเมื่อวานนี้ในการคุมเข้มเพดานสถานะการลงทุนในตลาดน้ำมันและตลาดสัญญาล่วงหน้าอื่นๆ เพื่อสกัดกั้นการบิดเบือนราคาที่เกิดจากกระแสเงินลงทุนของนักเก็งกำไร
เทรดเดอร์จะจับตาดูตัวเลขเศรษฐกิจที่สหรัฐจะรายงานออกมาในวันนี้ ซึ่งรวมถึงตัวเลขสินค้าคงทนเดือนมิ.ย., ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนก.ค.ของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนและยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค. โดยเทรดเดอร์จะใช้ตัวเลขเหล่านี้ในการประเมินสภาพเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นผู้ใช้น้ำมันรายใหญ่ที่สุดในโลก
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 20
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 28-7-51
ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเช้านี้ โดยมีความน่าดึงดูดใจเพิ่มขึ้นในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวหลังร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 928.00/929.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 927.40/929.40 ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 915.80 ดอลลาร์
เหตุระเบิดหลายครั้งในอินเดีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย ก็ได้ช่วยหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยด้วย
ราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ราว 123 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังร่วงลงในช่วง 2 สัปดาหที่ผ่านมาซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า23 ดอลลาร์ แม้ว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นในอิหร่านและไนจีเรีย
ณ เวลา 06.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบเดือนก.ย.ของสหรัฐขยับขึ้น 9 เซนต์ มาที่ 123.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาดังกล่าวดิ่งลง 2.23 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ มาปิดที่ 123.26 ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลง ต่ำถึง 122.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนอ่อนตัวลง 12 เซนต์ มาที่ 124.40 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความตึงเครียดจากเหตุการณ์ความรุนแรงมีอิทธิพลต่อตลาดน้อยกว่าความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลงในขณะที่รายงานเมื่อไม่นานมานี้แสดงว่า การบริโภคเชื้อเพลิงในสหรัฐและประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ เริ่มลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันทรุดตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 147 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.
"ตลาดให้ความสนใจมากขึ้นต่อประเด็นอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศซื้อขายในขณะนี้" นายมาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ระดับสูงของธนาคารออสเตรเลียน แอนด์ นิวซีแลนด์ (ANZ) ในซิดนีย์กล่าว
นายเพอร์แวนกล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. จากที่เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล/วันในเดือนที่แล้ว ได้ส่งผลถ่วงบรรยากาศการซื้อขายด้วย ซาอุดิอาระเบียยืนยันที่เพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.หลังกลุ่มประเทศผู้บริโภคเรียกร้องให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันขึ้นอีกเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงทางการเมืองในตะวันออกกลางและการคุกคามของกลุ่มกบฏต่อแหล่งน้ำมันของไนจีเรียจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีน ได้หนุนราคาน้ำมันทะยานขึ้นถึง 7 เท่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันอาจจะแตะระดับสูงสุดแล้ว โดยเลห์แมน บราเธอร์สคาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2009
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือ 108.00 เยน โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่สดใสของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ซึ่งได้แก่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ และการดีดตัวขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคจากระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปี
ราคาทองปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในเช้านี้ โดยมีความน่าดึงดูดใจเพิ่มขึ้นในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะที่ราคาน้ำมันทรงตัวหลังร่วงลงต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อวันศุกร์
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 928.00/929.00 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 927.40/929.40 ดอลลาร์ และดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 915.80 ดอลลาร์
เหตุระเบิดหลายครั้งในอินเดีย ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 46 ราย ก็ได้ช่วยหนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งลงทุนที่ปลอดภัยด้วย
ราคาน้ำมันทรงตัวที่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ที่ราว 123 ดอลลาร์/บาร์เรลในวันนี้ หลังร่วงลงในช่วง 2 สัปดาหที่ผ่านมาซึ่งทำให้ราคาน้ำมันดิ่งลงกว่า23 ดอลลาร์ แม้ว่ามีความตึงเครียดมากขึ้นในอิหร่านและไนจีเรีย
ณ เวลา 06.35 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบไลท์ส่งมอบเดือนก.ย.ของสหรัฐขยับขึ้น 9 เซนต์ มาที่ 123.35 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยสัญญาดังกล่าวดิ่งลง 2.23 ดอลลาร์เมื่อวันศุกร์ มาปิดที่ 123.26 ดอลลาร์ หลังจากที่ร่วงลง ต่ำถึง 122.50 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 5 มิ.ย.
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาดลอนดอนอ่อนตัวลง 12 เซนต์ มาที่ 124.40 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า ความตึงเครียดจากเหตุการณ์ความรุนแรงมีอิทธิพลต่อตลาดน้อยกว่าความวิตกเกี่ยวกับความต้องการใช้น้ำมันที่ชะลอตัวลงในขณะที่รายงานเมื่อไม่นานมานี้แสดงว่า การบริโภคเชื้อเพลิงในสหรัฐและประเทศอุตสาหกรรมอื่นๆ เริ่มลดลง ส่งผลให้ราคาน้ำมันทรุดตัวลงจากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เหนือ 147 ดอลลาร์/บาร์เรลที่ทำไว้เมื่อวันที่ 11 ก.ค.
"ตลาดให้ความสนใจมากขึ้นต่อประเด็นอุปสงค์และอุปทาน ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศซื้อขายในขณะนี้" นายมาร์ค เพอร์แวน นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์ระดับสูงของธนาคารออสเตรเลียน แอนด์ นิวซีแลนด์ (ANZ) ในซิดนีย์กล่าว
นายเพอร์แวนกล่าวว่า การคาดการณ์ที่ว่า ซาอุดิอาระเบียจะเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันดิบอีก 300,000 บาร์เรล/วันในเดือนก.ค. จากที่เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล/วันในเดือนที่แล้ว ได้ส่งผลถ่วงบรรยากาศการซื้อขายด้วย ซาอุดิอาระเบียยืนยันที่เพิ่มกำลังการผลิตในเดือนมิ.ย.หลังกลุ่มประเทศผู้บริโภคเรียกร้องให้มีการเพิ่มปริมาณน้ำมันขึ้นอีกเพื่อสกัดกั้นการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์รุนแรงทางการเมืองในตะวันออกกลางและการคุกคามของกลุ่มกบฏต่อแหล่งน้ำมันของไนจีเรียจะเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน
ทั้งนี้ อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นในประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ อาทิ จีน ได้หนุนราคาน้ำมันทะยานขึ้นถึง 7 เท่าในช่วง 6 ปีที่ผ่านมาแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์และการร่วงลงอย่างหนักของราคาน้ำมันทำให้นักวิเคราะห์คาดว่า ราคาน้ำมันอาจจะแตะระดับสูงสุดแล้ว โดยเลห์แมน บราเธอร์สคาดว่าราคาน้ำมันจะอยู่ที่ระดับ 90 ดอลลาร์/บาร์เรลในช่วงสิ้นไตรมาสแรกของปี 2009
ดอลลาร์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงเช้านี้ที่ตลาดโตเกียว โดยแตะระดับสูงสุดในรอบ 1 เดือนเหนือ 108.00 เยน โดยได้รับแรงหนุนจากการเปิดเผยข้อมูลที่สดใสของสหรัฐเมื่อวันศุกร์ซึ่งได้แก่ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดขายบ้านใหม่ และการดีดตัวขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคจากระดับต่ำสุดในรอบ 28 ปี
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 21
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน 29-7-51
ราคาทองปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย ซึ่งได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 932.30/933.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 928.45/929.65 ดอลลาร์ เมื่อราคาพุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ในขณะที่มีความกังวลด้านอุปทานหลังจากกลุ่มกบฏโจมตีท่อส่งน้ำมันดิบสำคัญสองแห่งของบริษัทรอยัลดัทช์ เชลล์ในไนจีเรีย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.19 % มาปิดตลาดที่ 124.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 122.63-125.22 ดอลลาร์ ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.91 เซนต์ หรือ 1.11 %สู่ 3.5620 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3.5222-3.5864 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.77 เซนต์ หรือ 1.24 % สู่ 3.07 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3.0297-3.0810 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์หรือ 1.06 % สู่ 125.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 124.05-126.49 ดอลลาร์
รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินค้าปลีกโดยเฉลี่ยทั่วประเทศของสหรัฐปรับตัวลงต่ำกว่า 4 ดอลลาร์/แกลลอนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์โดยลดลง 10.9 เซนต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับเฉลี่ยที่ 3.96 ดอลลาร์
ในขณะที่การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ มีผลให้ราคาน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันลดลง
ผลการสำรวจสถานีบริการน้ำมันรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วสูตรธรรมดายังคงปรับตัวขึ้น 1.08 ดอลลาร์/แกลลอนจากปีก่อน
ราคาน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันลดลง อันเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบซึ่งคิดเป็นราว 75 % ของต้นทุนในการผลิตน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงราว 23 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งทำไว้เมื่อต้นเดือนนี้ โดยการลดลงทุกๆ 1 ดอลลาร์ของราคาน้ำมันดิบ จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันลดลงราว 2.4 เซนต์/แกลลอน
กระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนไมล์ในการขับรถบนทางหลวงของสหรัฐในช่วงเดือนพ.ค.ลดลง 3.7 % ซึ่งเป็นการลดลงมากเป็นประวัติการณ์
การลดลง 9.6 พันล้านไมล์ นับเป็นการลดลงมากที่สุดเท่าที่ผ่านมาสำหรับเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ตามปรกติแล้วการขับรถสัญจรจะเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากวันหยุดเนื่องในวันเมโมเรียล เดย์และการเริ่มต้นช่วงพักผ่อนในฤดูร้อน
ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การเดินทางบนทางหลวงลดลง 2.98 หมื่นล้านไมล์ หรือ 2.4 % จากช่วงเดียวกันในปี 2007
"ผู้ขับขี่มายังสถานีบริการน้ำมันลดน้อยลง และเราคาดว่าภาวะนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้" นางแมรี ปีเตอร์ส รมว.คมนาคม ของสหรัฐกล่าว
แนวโน้มทองและน้ำมันยังลงได้อีกนะครับ
ราคาทองปรับตัวขึ้นในเช้าวันนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงได้กระทบต่อการผลิตน้ำมันในไนจีเรีย ซึ่งได้หนุนความน่าดึงดูดใจของทองในฐานะแหล่งประกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 932.30/933.30 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 928.45/929.65 ดอลลาร์ เมื่อราคาพุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์/ออนซ์
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX พุ่งขึ้นกว่า 1 ดอลลาร์ในวันจันทร์ ในขณะที่มีความกังวลด้านอุปทานหลังจากกลุ่มกบฏโจมตีท่อส่งน้ำมันดิบสำคัญสองแห่งของบริษัทรอยัลดัทช์ เชลล์ในไนจีเรีย
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.พุ่งขึ้น 1.47 ดอลลาร์ หรือ 1.19 % มาปิดตลาดที่ 124.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 122.63-125.22 ดอลลาร์ ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.91 เซนต์ หรือ 1.11 %สู่ 3.5620 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3.5222-3.5864 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 3.77 เซนต์ หรือ 1.24 % สู่ 3.07 ดอลลาร์ต่อแกลลอน หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 3.0297-3.0810 ดอลลาร์ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนพุ่งขึ้น 1.32 ดอลลาร์หรือ 1.06 % สู่ 125.84 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 124.05-126.49 ดอลลาร์
รัฐบาลสหรัฐเปิดเผยว่า ราคาน้ำมันเบนซินค้าปลีกโดยเฉลี่ยทั่วประเทศของสหรัฐปรับตัวลงต่ำกว่า 4 ดอลลาร์/แกลลอนเป็นครั้งแรกในรอบ 8 สัปดาห์โดยลดลง 10.9 เซนต์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับเฉลี่ยที่ 3.96 ดอลลาร์
ในขณะที่การดิ่งลงของราคาน้ำมันดิบ มีผลให้ราคาน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันลดลง
ผลการสำรวจสถานีบริการน้ำมันรายสัปดาห์ของสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของสหรัฐ (EIA) ระบุว่า ราคาน้ำมันเบนซินไร้สารตะกั่วสูตรธรรมดายังคงปรับตัวขึ้น 1.08 ดอลลาร์/แกลลอนจากปีก่อน
ราคาน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันลดลง อันเป็นผลจากการปรับตัวลงของราคาน้ำมันดิบซึ่งคิดเป็นราว 75 % ของต้นทุนในการผลิตน้ำมันเบนซิน
ราคาน้ำมันดิบทรุดตัวลงราว 23 ดอลลาร์จากระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 147.27 ดอลลาร์/บาร์เรลซึ่งทำไว้เมื่อต้นเดือนนี้ โดยการลดลงทุกๆ 1 ดอลลาร์ของราคาน้ำมันดิบ จะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินที่สถานีบริการน้ำมันลดลงราว 2.4 เซนต์/แกลลอน
กระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า จำนวนไมล์ในการขับรถบนทางหลวงของสหรัฐในช่วงเดือนพ.ค.ลดลง 3.7 % ซึ่งเป็นการลดลงมากเป็นประวัติการณ์
การลดลง 9.6 พันล้านไมล์ นับเป็นการลดลงมากที่สุดเท่าที่ผ่านมาสำหรับเดือนพ.ค. ซึ่งเป็นช่วงที่ตามปรกติแล้วการขับรถสัญจรจะเพิ่มขึ้น อันเป็นผลจากวันหยุดเนื่องในวันเมโมเรียล เดย์และการเริ่มต้นช่วงพักผ่อนในฤดูร้อน
ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ การเดินทางบนทางหลวงลดลง 2.98 หมื่นล้านไมล์ หรือ 2.4 % จากช่วงเดียวกันในปี 2007
"ผู้ขับขี่มายังสถานีบริการน้ำมันลดน้อยลง และเราคาดว่าภาวะนี้จะยังคงดำเนินต่อไปในอนาคตอันใกล้" นางแมรี ปีเตอร์ส รมว.คมนาคม ของสหรัฐกล่าว
แนวโน้มทองและน้ำมันยังลงได้อีกนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 22
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 4-8-51
ราคาทองดีดตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทาน
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 910.55/911.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 909.85/911.45 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 126 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้จากความวิตกเรื่องอุปทาน โดยได้แรงหนุนจากความวิตกต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน, เหตุรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในไนจีเรีย และพายุโซนร้อนที่ก่อตัวขึ้นใกล้อ่าวเม็กซิโก
ณ เวลา 07.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX บวกขึ้น 77 เซนต์ มาที่ 125.87 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากพุ่งขึ้นถึง 1.21 ดอลลาร์
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนขยับขึ้น 81 เซนต์ มาที่ 124.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
"เราเห็นความวิตกมากมายเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ขณะนี้ดูเหมือนว่าจุดสนใจกลับไปอยู่ที่ความวิตกเรื่องอุปทานอีกครั้ง" นายเจอราร์ด เบิร์ก นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ในเมลเบิร์นกล่าว
สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเพิ่มการคว่ำบาตรต่ออิหร่านจากการที่อิหร่านเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องให้ยุติกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ ซึ่งกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้ากันซึ่งอาจจะทำให้อุปทานน้ำมันประสบภาวะชะงักงัน
การประกาศของสหรัฐมีขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากที่ผ่านพ้นกำหนดเส้นตายอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันเสาร์สำหรับอิหร่านในการตอบกลับต่อข้อเสนอจากสหรัฐ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, จีน และรัสเซียสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้ อิหร่านไม่ได้ตอบกลับอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนอดังกล่าวและปธน.มาห์มุด อาห์มาดิเนจาดของอิหร่าน ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า อิหร่าน จะไม่ยอมอ่อนข้อในข้อพิพาทด้านนิวเคลียร์กับกลุ่มมหาอำนาจซึ่งสนับสนุนการคว่ำบาตรทั้ง 3 รอบของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวทางทหารและฝ่ายความมั่นคงของไนจีเรียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มมือปืนได้ลักพาตัวชาวฝรั่งเศส 2 คนใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมน้ำมันที่พอร์ตฮาร์คอร์ทในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ของไนจีเรีย
แหล่งข่าวระบุว่า มือปืนมากกว่า 12 คนได้ซุ่มโจมตีในเมืองออนเน่ในรัฐริเวอร์ส และได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย
ความรุนแรงล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงต่อท่อส่งน้ำมันสำคัญ 2 แห่งของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียลดลงอีก 150,000 บาร์เรล/วัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เทรดเดอร์กำลังจับตามองพายุโซนร้อนเอดูอาร์ด ซึ่งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วห่างจากชายฝั่งรัฐอลาบามาไปทางทิศใต้ราว 161 กิโลเมตร (100 ไมล์)
ศูนย์เฮอริเคนในไมอามีระบุว่า เป็นที่คาดกันว่าพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงที่ใกล้เคียงกับพายุเฮอริเคนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่ชายฝั่งรัฐเท็กซัส โดยมีแนวโน้มว่าพายุลูกนี้อาจพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งหลายแห่งของสหรัฐ และอาจเป็นภัยคุกคามต่อโรงกลั่นน้ำมันในแถบกัลฟ์โคสต์
อย่างไรก็ดี การท่าเรือขนส่งน้ำมันนอกชายฝั่งรัฐหลุยเซียนา (LOOP) ระบุว่า การดำเนินงานยังคงเป็นไปตามปกติเมื่อวานนี้ ในขณะที่บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ อย่างเช่น เชฟรอน, มาราธอน ออยล์ คอร์ป และบีเอชพี บิลลิตันระบุว่า ทางบริษัทกำลังจับตามองพายุลูกนี้และเส้นทางที่อาจพัดผ่าน
วันนี้ข่าวเยอะนะครับ
1. Core Personal Consumtion Expenditure-Prices Index 19.30
2. Personal Income 19.30
3. Personal Spending 19.30
4. Factory Orders 21.00
ราคาทองดีดตัวขึ้นในเช้าวันนี้ หลังราคาน้ำมันพุ่งขึ้นจากความวิตกเกี่ยวกับอุปทาน
ราคาทองสปอตมีการซื้อขายที่ระดับ 910.55/911.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวันศุกร์ที่ระดับ 909.85/911.45 ดอลลาร์
สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าของสหรัฐดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 126 ดอลลาร์ในช่วงเช้านี้จากความวิตกเรื่องอุปทาน โดยได้แรงหนุนจากความวิตกต่อโครงการนิวเคลียร์ของอิหร่าน, เหตุรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในไนจีเรีย และพายุโซนร้อนที่ก่อตัวขึ้นใกล้อ่าวเม็กซิโก
ณ เวลา 07.17 น.ตามเวลาไทย สัญญาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาด NYMEX บวกขึ้น 77 เซนต์ มาที่ 125.87 ดอลลาร์/บาร์เรลในการซื้อขายผ่านระบบ Globex หลังจากพุ่งขึ้นถึง 1.21 ดอลลาร์
ส่วนราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนขยับขึ้น 81 เซนต์ มาที่ 124.99 ดอลลาร์/บาร์เรล
"เราเห็นความวิตกมากมายเกี่ยวกับอุปสงค์ที่ชะลอตัวลงในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาแต่ขณะนี้ดูเหมือนว่าจุดสนใจกลับไปอยู่ที่ความวิตกเรื่องอุปทานอีกครั้ง" นายเจอราร์ด เบิร์ก นักวิเคราะห์สินค้าโภคภัณฑ์จากเนชันแนล ออสเตรเลีย แบงก์ในเมลเบิร์นกล่าว
สหรัฐเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า อิหร่านทำให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติไม่มีทางเลือก นอกจากต้องเพิ่มการคว่ำบาตรต่ออิหร่านจากการที่อิหร่านเพิกเฉยต่อข้อเรียกร้องให้ยุติกิจกรรมด้านนิวเคลียร์ ซึ่งกระตุ้นความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้ากันซึ่งอาจจะทำให้อุปทานน้ำมันประสบภาวะชะงักงัน
การประกาศของสหรัฐมีขึ้นเมื่อวานนี้ หลังจากที่ผ่านพ้นกำหนดเส้นตายอย่างไม่เป็นทางการเมื่อวันเสาร์สำหรับอิหร่านในการตอบกลับต่อข้อเสนอจากสหรัฐ, อังกฤษ, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, จีน และรัสเซียสำหรับการเจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์
ทั้งนี้ อิหร่านไม่ได้ตอบกลับอย่างเป็นทางการต่อข้อเสนอดังกล่าวและปธน.มาห์มุด อาห์มาดิเนจาดของอิหร่าน ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า อิหร่าน จะไม่ยอมอ่อนข้อในข้อพิพาทด้านนิวเคลียร์กับกลุ่มมหาอำนาจซึ่งสนับสนุนการคว่ำบาตรทั้ง 3 รอบของคณะมนตรีความมั่นคงของยูเอ็น
ขณะเดียวกัน แหล่งข่าวทางทหารและฝ่ายความมั่นคงของไนจีเรียเปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กลุ่มมือปืนได้ลักพาตัวชาวฝรั่งเศส 2 คนใกล้กับนิคมอุตสาหกรรมน้ำมันที่พอร์ตฮาร์คอร์ทในเขตสามเหลี่ยมปากแม่น้ำไนเจอร์ของไนจีเรีย
แหล่งข่าวระบุว่า มือปืนมากกว่า 12 คนได้ซุ่มโจมตีในเมืองออนเน่ในรัฐริเวอร์ส และได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่กองทัพเรือ ซึ่งส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย
ความรุนแรงล่าสุดนี้เกิดขึ้นหลังจากการโจมตีของกลุ่มหัวรุนแรงต่อท่อส่งน้ำมันสำคัญ 2 แห่งของบริษัทรอยัล ดัทช์ เชลล์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผลผลิตน้ำมันดิบของไนจีเรียลดลงอีก 150,000 บาร์เรล/วัน
นักวิเคราะห์กล่าวว่า เทรดเดอร์กำลังจับตามองพายุโซนร้อนเอดูอาร์ด ซึ่งก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็วห่างจากชายฝั่งรัฐอลาบามาไปทางทิศใต้ราว 161 กิโลเมตร (100 ไมล์)
ศูนย์เฮอริเคนในไมอามีระบุว่า เป็นที่คาดกันว่าพายุลูกนี้จะพัดขึ้นฝั่งด้วยความรุนแรงที่ใกล้เคียงกับพายุเฮอริเคนในอีกไม่กี่วันข้างหน้าที่ชายฝั่งรัฐเท็กซัส โดยมีแนวโน้มว่าพายุลูกนี้อาจพัดผ่านแหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งหลายแห่งของสหรัฐ และอาจเป็นภัยคุกคามต่อโรงกลั่นน้ำมันในแถบกัลฟ์โคสต์
อย่างไรก็ดี การท่าเรือขนส่งน้ำมันนอกชายฝั่งรัฐหลุยเซียนา (LOOP) ระบุว่า การดำเนินงานยังคงเป็นไปตามปกติเมื่อวานนี้ ในขณะที่บริษัทน้ำมันขนาดใหญ่ อย่างเช่น เชฟรอน, มาราธอน ออยล์ คอร์ป และบีเอชพี บิลลิตันระบุว่า ทางบริษัทกำลังจับตามองพายุลูกนี้และเส้นทางที่อาจพัดผ่าน
วันนี้ข่าวเยอะนะครับ
1. Core Personal Consumtion Expenditure-Prices Index 19.30
2. Personal Income 19.30
3. Personal Spending 19.30
4. Factory Orders 21.00
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 23
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 6-8-51
ราคาทองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เช้าวันนี้ จากราคาน้ำมันที่ร่วงลงและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ราคาทองสปอตดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของเช้าวันนี้ที่ 872.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 16 มิ.ย. ก่อนดีดตัวสู่ 878.55/879.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 876.35/877.95 ดอลลาร์
ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เทียบยูโรและตะกร้าเงิยสกุลหลักวานนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันร่วงลงและ เฟด ยังคงให้ความสนใจในการสกัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 2.24 ดอลลาร์ หรือ 1.84 % มาปิด ตลาดที่ 119.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 118.00-121.23 ดอลลาร์โดยจุดต่ำสุดของวันอังคารถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 116.05 ดอลลาร์ในวันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นมา
ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 6.81 เซนต์ หรือ 2.03 % สู่ 3.2820 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ,ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 4.38 เซนต์ หรือ 1.46 % สู่ 2.9564 ดอลลาร์ต่อแกลลอน , ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปิดดิ่งลง 2.98 ดอลลาร์ หรือ 2.53 % สู่ 117.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน ขณะที่การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และพายุโซนร้อนเอดูอาร์ดเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในสหรัฐหลังจากพัดผ่านชายฝั่งรัฐเท็กซัส
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) และอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อ แต่ไม่ได้บ่งชี้สัญญาณกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ 2.00 % และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ 2.25 %
อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ที่กู้ยืมโดยตรงจากเฟด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน
เฟดได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 2 % นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยรวม 3.25 % ตั้งแต่กลางเดือนก.ย.ปีที่แล้วเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยและวิกฤตการณ์สินเชื่อ
นักลงทุนสหรัฐแสดงความวิตกเศรษฐกิจซบเซา ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ 119.17ดอลลาร์
นิวยอร์ก 6 ส.ค. - น้ำมันดิบยังมีราคาร่วงลงต่อเนื่องในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก วานนี้ โดยล่าสุดน้ำมันดิบมีราคาเหลือไม่ถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และราคาน้ำมันที่สูงเกินไป ทำให้ผู้บริโภคใช้น้ำมันกันอย่างประหยัดมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น จะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย
ระหว่างการซื้อขายเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ที่ตลาดนิวยอร์ก น้ำมันดิบไลต์สวีท งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ราคาดิ่งลงมาอยู่ที่ 118 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นราคาต่ำที่สุด นับจากวันที่ 5 พ.ค. แต่หลังจากนั้นราคาก็ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 119.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์สหรัฐ
น้ำมันดิบไลต์สวีท เคยมีราคาพุ่งไปแตะที่ 147.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 11 ก.ค. แต่หลังจากนั้นราคาก็ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จนมาอยู่ที่ 119.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นส่วนต่างที่หายไปถึง 28 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่นักวิเคราะห์บางคนยังเชื่อมั่นว่า ท้ายที่สุดแล้ว ราคาน้ำมันดิบต้องกลับมาพุ่งทะยานอีกครั้ง เพราะมีหลายปัจจัยที่คอยผลักดันราคาอยู่ ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองในไนจีเรียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งออกน้ำมันแห่งสำคัญของโลก รวมถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดเฮอริเคนลูกใหญ่พัดถล่มแหล่งขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกก็ยังมีมากขึ้น.
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 121.00-118.80 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6.81 เซนต์ ปิดที่ 3.2820 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 4.38 เซนต์ ปิดที่ 2.9564 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.98 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาทองร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์เช้าวันนี้ จากราคาน้ำมันที่ร่วงลงและดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น
ราคาทองสปอตดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดของเช้าวันนี้ที่ 872.35 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ 16 มิ.ย. ก่อนดีดตัวสู่ 878.55/879.55 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดในตลาดทองนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 876.35/877.95 ดอลลาร์
ดอลลาร์พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เทียบยูโรและตะกร้าเงิยสกุลหลักวานนี้ ขณะที่ราคาน้ำมันร่วงลงและ เฟด ยังคงให้ความสนใจในการสกัดแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในเศรษฐกิจสหรัฐ
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 2.24 ดอลลาร์ หรือ 1.84 % มาปิด ตลาดที่ 119.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 118.00-121.23 ดอลลาร์โดยจุดต่ำสุดของวันอังคารถือเป็นจุดต่ำสุดนับตั้งแต่แตะ 116.05 ดอลลาร์ในวันที่ 5 พ.ค.เป็นต้นมา
ราคาน้ำมัน heating oil ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 6.81 เซนต์ หรือ 2.03 % สู่ 3.2820 ดอลลาร์ต่อแกลลอน ,ราคาน้ำมันเบนซิน RBOB ส่งมอบเดือนก.ย.ดิ่งลง 4.38 เซนต์ หรือ 1.46 % สู่ 2.9564 ดอลลาร์ต่อแกลลอน , ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ย.ที่ตลาดกรุงลอนดอนปิดดิ่งลง 2.98 ดอลลาร์ หรือ 2.53 % สู่ 117.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดร่วงลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน ขณะที่การผลิตน้ำมันในอ่าวเม็กซิโกเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ และพายุโซนร้อนเอดูอาร์ดเคลื่อนตัวลึกเข้าไปในสหรัฐหลังจากพัดผ่านชายฝั่งรัฐเท็กซัส
ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed funds rate) และอัตราดอกเบี้ยมาตรฐาน (discount rate) ในการประชุมวานนี้ พร้อมกับแสดงความกังวลเกี่ยวกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมทั้งภาวะเงินเฟ้อ แต่ไม่ได้บ่งชี้สัญญาณกำหนดเวลาในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคต
ทั้งนี้ คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติด้วยคะแนนเสียง 10 ต่อ 1 ให้คงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิงที่ 2.00 % และคงอัตราดอกเบี้ยมาตรฐานที่ 2.25 %
อัตราดอกเบี้ยมาตรฐานคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่เฟดเรียกเก็บจากธนาคารพาณิชย์ที่กู้ยืมโดยตรงจากเฟด ขณะที่อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นคืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ข้ามคืนที่ธนาคารพาณิชย์เรียกเก็บจากการกู้ยืมระหว่างกัน
เฟดได้กำหนดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 2 % นับตั้งแต่เดือนเม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่เฟดได้ลดอัตราดอกเบี้ยรวม 3.25 % ตั้งแต่กลางเดือนก.ย.ปีที่แล้วเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐซึ่งได้รับผลกระทบจากภาวะตกต่ำของตลาดที่อยู่อาศัยและวิกฤตการณ์สินเชื่อ
นักลงทุนสหรัฐแสดงความวิตกเศรษฐกิจซบเซา ฉุดราคาน้ำมันดิบร่วงปิดที่ 119.17ดอลลาร์
นิวยอร์ก 6 ส.ค. - น้ำมันดิบยังมีราคาร่วงลงต่อเนื่องในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์ก วานนี้ โดยล่าสุดน้ำมันดิบมีราคาเหลือไม่ถึง 120 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เนื่องจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ และราคาน้ำมันที่สูงเกินไป ทำให้ผู้บริโภคใช้น้ำมันกันอย่างประหยัดมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวลงและราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้น จะส่งผลให้ความต้องการพลังงานลดน้อยลงด้วย
ระหว่างการซื้อขายเมื่อวานนี้ (5 ส.ค.) ที่ตลาดนิวยอร์ก น้ำมันดิบไลต์สวีท งวดส่งมอบเดือน ก.ย. ราคาดิ่งลงมาอยู่ที่ 118 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ซึ่งถือเป็นราคาต่ำที่สุด นับจากวันที่ 5 พ.ค. แต่หลังจากนั้นราคาก็ค่อย ๆ ไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 119.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์สหรัฐ
น้ำมันดิบไลต์สวีท เคยมีราคาพุ่งไปแตะที่ 147.27 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เมื่อวันที่ 11 ก.ค. แต่หลังจากนั้นราคาก็ดิ่งลงอย่างต่อเนื่อง จนมาอยู่ที่ 119.17 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล เป็นส่วนต่างที่หายไปถึง 28 ดอลลาร์สหรัฐ
แต่นักวิเคราะห์บางคนยังเชื่อมั่นว่า ท้ายที่สุดแล้ว ราคาน้ำมันดิบต้องกลับมาพุ่งทะยานอีกครั้ง เพราะมีหลายปัจจัยที่คอยผลักดันราคาอยู่ ทั้งความขัดแย้งทางการเมืองในไนจีเรียและตะวันออกกลาง ซึ่งเป็นพื้นที่ส่งออกน้ำมันแห่งสำคัญของโลก รวมถึงความเป็นไปได้ที่อาจเกิดเฮอริเคนลูกใหญ่พัดถล่มแหล่งขุดเจาะน้ำมันนอกชายฝั่งอ่าวเม็กซิโก อีกทั้งความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกก็ยังมีมากขึ้น.
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบตลาด NYMEX (New York Mercantile Exchange) ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.24 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.17 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 2 พ.ค.เป็นต้นมา หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 121.00-118.80 ดอลลาร์ ขณะที่สัญญาน้ำมันฮีทติ้งออยล์ส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 6.81 เซนต์ ปิดที่ 3.2820 ดอลลาร์/แกลลอน และสัญญาน้ำมันเบนซินส่งมอบเดือนส.ค.ลดลง 4.38 เซนต์ ปิดที่ 2.9564 ดอลลาร์/แกลลอน ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ที่ตลาด ICE กรุงลอนดอน ส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 2.98 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.70 ดอลลาร์/บาร์เรล
-
- Verified User
- โพสต์: 56
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 24
สรุปข่าวสำคัญราคาทองคำ น้ำมัน 7-8-51
ราคาทองปรับตัวขึ้นที่ 880.60/881.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 878.70/889.90 ดอลลาร์ จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังการร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันพุธ ในขณะที่ตัวเลขของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 59 เซนต์ หรือ 0.5 % มาปิดตลาดที่118.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.11-120.49 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันร่วงลงวานนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน EIA ของสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 269.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งสูงกว่า 5 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน 4.4 ล้านบาร์เรล สู่ 209.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นเกือบ 4 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 13 โดยเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ 133.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของรอยเตอร์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันไต่กลับขึ้นมาได้บ้าง ในขณะที่บริษัทบีพีแถลงว่า ทางบริษัทได้ประกาศภาวะสุดวิสัยของการขนส่งน้ำมันดิบของประเทศอาร์เซอร์ไบจันจากท่าเรือเมืองซีย์ฮานของตุรกี เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดที่ท่อส่งน้ำมัน BTC
ดีลเลอร์กล่าวว่า ตลาดมุ่งความสนใจไปที่ความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันจากไนจีเรียเพราะการโจมตีของกลุ่มกบฏ และกังวลว่าอิหร่านอาจจะระงับการส่งออกน้ำมัน ถ้าหากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกเลวร้ายลง
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐรายงานว่า ชาติมหาอำนาจได้ตกลงกันวานนี้ว่าจะพิจารณาให้สหประชาชาติ UN เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านหลังจากรัฐบาลอิหร่านไม่ได้ให้คำตอบอย่างชัดเจนต่อข้อเรียกร้องของชาติมหาอำนาจที่ให้อิหร่านระงับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์
ราคาทองปรับตัวขึ้นที่ 880.60/881.75 ดอลลาร์/ออนซ์ เมื่อเทียบกับระดับปิดตลาดนิวยอร์คเมื่อวานนี้ที่ระดับ 878.70/889.90 ดอลลาร์ จากแรงซื้อเก็งกำไรหลังการร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 7 สัปดาห์ในสัปดาห์นี้
ราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้า NYMEX ปิดตลาดในแดนลบเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันในวันพุธ ในขณะที่ตัวเลขของรัฐบาลแสดงให้เห็นว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว
ราคาน้ำมันดิบส่งมอบเดือนก.ย.ร่วงลง 59 เซนต์ หรือ 0.5 % มาปิดตลาดที่118.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากเคลื่อนตัวในช่วง 117.11-120.49 ดอลลาร์
ราคาน้ำมันร่วงลงวานนี้ หลังสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงาน EIA ของสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 สัปดาห์ โดยเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรล สู่ 269.9 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 1 ส.ค. ซึ่งสูงกว่า 5 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 300,000 บาร์เรล
สต็อกน้ำมันเบนซินลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 2 ติดต่อกัน 4.4 ล้านบาร์เรล สู่ 209.2 ล้านบาร์เรล ซึ่งคิดเป็นเกือบ 4 เท่าของตัวเลขคาดการณ์ในผลสำรวจของรอยเตอร์ที่คาดไว้ว่าจะลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล และสต็อกน้ำมันกลั่นเพิ่มขึ้นเป็นสัปดาห์ที่ 13 โดยเพิ่มขึ้น 2.8 ล้านบาร์เรล สู่ 133.3 ล้านบาร์เรล มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ในผลสำรวจของรอยเตอร์ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.1 ล้านบาร์เรล
ราคาน้ำมันไต่กลับขึ้นมาได้บ้าง ในขณะที่บริษัทบีพีแถลงว่า ทางบริษัทได้ประกาศภาวะสุดวิสัยของการขนส่งน้ำมันดิบของประเทศอาร์เซอร์ไบจันจากท่าเรือเมืองซีย์ฮานของตุรกี เนื่องจากเกิดเหตุระเบิดที่ท่อส่งน้ำมัน BTC
ดีลเลอร์กล่าวว่า ตลาดมุ่งความสนใจไปที่ความกังวลเรื่องอุปทานน้ำมันจากไนจีเรียเพราะการโจมตีของกลุ่มกบฏ และกังวลว่าอิหร่านอาจจะระงับการส่งออกน้ำมัน ถ้าหากความขัดแย้งระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกเลวร้ายลง
กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐรายงานว่า ชาติมหาอำนาจได้ตกลงกันวานนี้ว่าจะพิจารณาให้สหประชาชาติ UN เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่ออิหร่านหลังจากรัฐบาลอิหร่านไม่ได้ให้คำตอบอย่างชัดเจนต่อข้อเรียกร้องของชาติมหาอำนาจที่ให้อิหร่านระงับกิจกรรมด้านนิวเคลียร์
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 25
thks na krub for posting. I've been following................
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 26
ช่วงนี้ราคาทองคำตกมากเลยครับ
ตอนนี้ก็ประมาณ 855 แล้ว - -"
เ้รื่องแนวโน้มผมไม่ชำนาญ
แต่จากประบการณ์และจากที่เึคยได้อ่านมานะครับ
แนวโน้มทองคำก็น่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่
แต่ว่าตอนนี้กำลังปรับฐาน เพราะเศรษฐกิจอเมริกา
เริ่มฟื้นตัวขึ้น(ทำให้ดอลล่าร์แข็งค่า) ทองเลยลง
ประกอบกับการที่น้ำมันลงอย่างต่อเนื่อง
ปล.ส่วนตัวผมก็คิดว่าน่าจะอยู่ในขาขึ้นนะครับ
ช่วงนี้แค่ปรับฐานเพราะขึ้นมาเยอะมากๆเหมือนน้ำมันอะครับ
:?: :?: :?: :?:
ตอนนี้ก็ประมาณ 855 แล้ว - -"
เ้รื่องแนวโน้มผมไม่ชำนาญ
แต่จากประบการณ์และจากที่เึคยได้อ่านมานะครับ
แนวโน้มทองคำก็น่าจะอยู่ในช่วงขาขึ้นอยู่
แต่ว่าตอนนี้กำลังปรับฐาน เพราะเศรษฐกิจอเมริกา
เริ่มฟื้นตัวขึ้น(ทำให้ดอลล่าร์แข็งค่า) ทองเลยลง
ประกอบกับการที่น้ำมันลงอย่างต่อเนื่อง
ปล.ส่วนตัวผมก็คิดว่าน่าจะอยู่ในขาขึ้นนะครับ
ช่วงนี้แค่ปรับฐานเพราะขึ้นมาเยอะมากๆเหมือนน้ำมันอะครับ
:?: :?: :?: :?:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 393
- ผู้ติดตาม: 0
แนวโน้มทองคำจะไปทางไหนมาช่วยกันครับ
โพสต์ที่ 27
เมื่อเช้าลงไปใกล้ๆ 800 usd/oz แล้วน่ะครับ ถ้าที่ฮั่งเซ่งเฮง ก็บาทล่ะ 13,050 เมื่อเช้านี้
ลงมาโหดมาก ผมไม่เคยเห็นอย่างงี้มาก่อนเลย วันเดียว ลงมา 50 usd...........per oz.
ลงมาโหดมาก ผมไม่เคยเห็นอย่างงี้มาก่อนเลย วันเดียว ลงมา 50 usd...........per oz.