FUTUREPF และ SPF
-
- Verified User
- โพสต์: 1558
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF และ SPF
โพสต์ที่ 2
ช่วงหุ้นแพงๆ เคยสนใจ FUTUREPF เคยซื้อไปด้วย แต่ขายไปซื้อหุ้นแทนแล้ว ส่วน SPF ไม่เคยดู
แต่คิดว่า FUTUREPF ปันผลมันคงที่กว่าเพราะรายได้เป็นค่าเช่า แต่ SPF ขึ้นอยู่กับฤดูการด้วย เพราะธุรกิจมันเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อย่าลืมดูอายุสิทธิเก็บค่าเช่าด้วยนะครับ สองตัวนี้ปันผลพอๆ กัน
แต่คิดว่า FUTUREPF ปันผลมันคงที่กว่าเพราะรายได้เป็นค่าเช่า แต่ SPF ขึ้นอยู่กับฤดูการด้วย เพราะธุรกิจมันเกี่ยวกับการท่องเที่ยว อย่าลืมดูอายุสิทธิเก็บค่าเช่าด้วยนะครับ สองตัวนี้ปันผลพอๆ กัน
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF และ SPF
โพสต์ที่ 3
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- kornjackrit
- Verified User
- โพสต์: 1524
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF และ SPF
โพสต์ที่ 4
ระวังเรื่องสภาพคล่องด้วยนะครับ
:roll: :roll: :roll:
บางกองไม่มีสภาพคล่องเลยครับ
ต้องถือยาวจริงๆ เพราะถ้าขาย
ก็อาจจะได้ราคาไม่ดี
โดยส่วนตัวผมชอบกองที่ซื้อกรรมสิทธิ์(Freehold)
อย่างเช่น TFUND ปันผลอาจจะไม่มาก
แต่ผมว่ามันสบายใจกว่า
ราคาบนกระดาษไม่ค่อยตก
เพราะมี NAV ค้ำอยู่
ส่วนกองที่ซื้อสิทธิ์การเช่า
เวลาจ่ายเงินปันผลจะจ่ายต้นทุนออกมาด้วยนะครับ
เท่ากับว่าเวลาโดนภาษีจะโดน 2 ต่อ
ก็คือภาษีเงินปันผล และ ภาษีเงินต้น
ทั้งๆที่ไม่ควรโดน -*-
ถึงแม้จะได้ปันผลเยอะก็ตาม
และราคาบนกระดาษก็มักจะต่ำกว่า NAV
ระยะสั้นขายก็อาจจะขาดทุนได้
:( :( :(
ปล1.แต่ดูเงินปันผลแต่ละกองแล้ว
น่ามีเก็บไว้ในพอร์ตซัก 5-10 % จริงๆครับ
เป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวด้วย ^ ^
ปล2. ยิ่งบางกองมีรับประกันเงินปันผลในช่วงแรก
อาจจะ 5 -10 ปี ยิ่งคาดการ์ณได้ง่ายว่าจะซื้อ - ขายที่ราคาใด
:D :D :D
:roll: :roll: :roll:
บางกองไม่มีสภาพคล่องเลยครับ
ต้องถือยาวจริงๆ เพราะถ้าขาย
ก็อาจจะได้ราคาไม่ดี
โดยส่วนตัวผมชอบกองที่ซื้อกรรมสิทธิ์(Freehold)
อย่างเช่น TFUND ปันผลอาจจะไม่มาก
แต่ผมว่ามันสบายใจกว่า
ราคาบนกระดาษไม่ค่อยตก
เพราะมี NAV ค้ำอยู่
ส่วนกองที่ซื้อสิทธิ์การเช่า
เวลาจ่ายเงินปันผลจะจ่ายต้นทุนออกมาด้วยนะครับ
เท่ากับว่าเวลาโดนภาษีจะโดน 2 ต่อ
ก็คือภาษีเงินปันผล และ ภาษีเงินต้น
ทั้งๆที่ไม่ควรโดน -*-
ถึงแม้จะได้ปันผลเยอะก็ตาม
และราคาบนกระดาษก็มักจะต่ำกว่า NAV
ระยะสั้นขายก็อาจจะขาดทุนได้
:( :( :(
ปล1.แต่ดูเงินปันผลแต่ละกองแล้ว
น่ามีเก็บไว้ในพอร์ตซัก 5-10 % จริงๆครับ
เป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวด้วย ^ ^
ปล2. ยิ่งบางกองมีรับประกันเงินปันผลในช่วงแรก
อาจจะ 5 -10 ปี ยิ่งคาดการ์ณได้ง่ายว่าจะซื้อ - ขายที่ราคาใด
:D :D :D
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
-
- Verified User
- โพสต์: 238
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF และ SPF
โพสต์ที่ 7
ผมมี SPF ไว้กินปันผลครับ ปีละ 4 งวดๆละ 0.2-0.24 หักภาษี 10% ขอเครดิตไม่ได้
ซื้อมาปีกว่าราคาเฉลี่ย 8.3 กว่าๆ จ่ายปันผลสม่ำเสมอมากน้อยตามช่วงขึ้นลงของฤดูท่องเที่ยว
กองทุนที่เป็น lease hold พอหมดอายุ 30 ปีก้อหมดมูลค่าเป็นศูนย์ แต่เพิ่งผ่านไป 2 ปีกว่า ราคาเหลือ 7.xx บาทก้อไปหน่อย อยากรู้ละเอียดลองคำนวณ DCF ดู
ซื้อมาปีกว่าราคาเฉลี่ย 8.3 กว่าๆ จ่ายปันผลสม่ำเสมอมากน้อยตามช่วงขึ้นลงของฤดูท่องเที่ยว
กองทุนที่เป็น lease hold พอหมดอายุ 30 ปีก้อหมดมูลค่าเป็นศูนย์ แต่เพิ่งผ่านไป 2 ปีกว่า ราคาเหลือ 7.xx บาทก้อไปหน่อย อยากรู้ละเอียดลองคำนวณ DCF ดู
-
- Verified User
- โพสต์: 60
- ผู้ติดตาม: 0
FUTUREPF และ SPF
โพสต์ที่ 8
LUXF ก็็น่าสนนะครับ เป็นFree hold ราคาก็ลงมาเยอะ(จากราคาจอง)
VI AD HOC