ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 4
มารออ่านด้วยครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 7
ขนาดท่านประธานขอฟัง แปลว่าต้องมีเด็ดๆแน่นอน... รอฟังด้วยคนครับchatchai เขียน:คุณ WEB ลองเล่าประสบการณ์การลงทุนให้ฟังบ้างซิครับ น่าจะมีมากแน่ๆเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 8
มาขอโหวตเรียกร้อง ขอเรียนด้วยอีกคนครับ
แต่ได้ข่าวว่า คุณ WEB พิมพ์สัมผัสไม่ได้เลยไม่ค่อยมาโพสต์
ใครพิมพ์เร็ว ช่วยแกะเทปอัดเสียงมาโพสต์ จะเป็นพระคุณมากครับ
เพราะ จากที่ได้ไปโอมาฮ่า จากบ้านคุณ WEB ผมว่า เค้าสุดยอดแฟนพันธ์แท้ Buffett คนนึงเลยครับ :lol:
แต่ได้ข่าวว่า คุณ WEB พิมพ์สัมผัสไม่ได้เลยไม่ค่อยมาโพสต์
ใครพิมพ์เร็ว ช่วยแกะเทปอัดเสียงมาโพสต์ จะเป็นพระคุณมากครับ
เพราะ จากที่ได้ไปโอมาฮ่า จากบ้านคุณ WEB ผมว่า เค้าสุดยอดแฟนพันธ์แท้ Buffett คนนึงเลยครับ :lol:
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 13
อูย ตาย ตาย ผมจะเล่าอะไรดีหละครับนี่ จาก feedback ที่ผมได้รับมา เนื้อหาใน BizWeek นี่ทำให้ผม overpriced ไปเลย มันดูเหมือนผมมีความรู้ ทั้งทีจริงๆก็ไม่ได้รู้อะไรมาก ส่วนรูปนี่ดู overweight ชัดเจนเลย ผมยอมรับอย่างเดียวว่า คลั่งไคล้ Buffettจริง เพราะนอกจากหนังสือเกี่ยวกับ Buffett ที่ผมมีครบหมด ( อ่านบ้างไม่ได้อ่านบ้าง) ผมยังสะสมสิ่งของต่างๆ เกี่ยวกับ Buffett ไว้เกือบ 70 ชิ้น พูดถึงประสบการณ์ มันก็พอมีนะครับ แต่ความสำเร็จนี่ไม่ได้เยอะ แถมความผิดพลาดนี่เป็นกระบุงเลย เรื่องความสำเร็จความผิดพลาดนี่มันก็แล้วแต่การนิยามของแต่ละคนครับ ถ้าเราซื้อหุ้นมาแล้วขายไปได้กำไร 50 % แต่หุ้นมันขึ้นไปอีกเท่าตัว หรือ เรามองหุ้นอยู่สองตัว แต่หุ้นตัวที่เราเลือกมันให้กำไรน้อยกว่าตัวที่เราไม่ได้ซื้อ เราจะเรียกมันว่าความสำเร็จหรือความผิดพลาด
ห ากเราได้ประเมินตัวเองแล้วว่า เรารักเรื่องการลงทุน ชอบศึกษาและมีคุ ณสมบัติที่เหมาะสม ผมจะมองการเริ่มต้นลงทุนเหมือนกับการหัดขี่จักรยาน ที่เราจะต้องล้มอยู่บ่อยๆ ตอนที่เราล้ม เราจะไม่ได้มองว่ามันเป็นความล้มเหลว เราไม่ได้สงสัยเลยว่าเราจะขี่จักรยานไม่ได้ เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะต้องล้มบ้าง ซึ่งหลังการล้มแต่ละครั้ง เราจะปรับนู่นนิดนี่หน่อย จนสุดท้ายเราก็ขี่มันได้ จากนั้นเราก็จะไม่ค่อยล้มแล้ว ถ้าเราไม่ประมาทและมั่นใจในตัวเองจนเกินไป ตลาดหุ้นมันมีอะไรให้เรียนรู้อยู่ตลอด ทั้งจากหุ้นที่เราซื้อและไม่ได้ซื้อ หากเราได้ศึกษาและตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับมัน ซึ่งมันจะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วกว่าการเรียนรู้วิชาอื่นๆ เวลาเราจะขับรถไปที่จุดหนึ่งๆ สมมติว่า มันมีสองเส้นทางให้เลือก เราจะไม่รู้เลยว่าถ้าเราไปเส้นทางที่เราไม่ได้เลือกมันจะเป็นอย่างไร แต่เรื่องการลงทุนนี่เราจะได้เห็นหมดเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างกับหุ้นแต่ละตัว
ห ากเราได้ประเมินตัวเองแล้วว่า เรารักเรื่องการลงทุน ชอบศึกษาและมีคุ ณสมบัติที่เหมาะสม ผมจะมองการเริ่มต้นลงทุนเหมือนกับการหัดขี่จักรยาน ที่เราจะต้องล้มอยู่บ่อยๆ ตอนที่เราล้ม เราจะไม่ได้มองว่ามันเป็นความล้มเหลว เราไม่ได้สงสัยเลยว่าเราจะขี่จักรยานไม่ได้ เรารู้อยู่แล้วว่าเราจะต้องล้มบ้าง ซึ่งหลังการล้มแต่ละครั้ง เราจะปรับนู่นนิดนี่หน่อย จนสุดท้ายเราก็ขี่มันได้ จากนั้นเราก็จะไม่ค่อยล้มแล้ว ถ้าเราไม่ประมาทและมั่นใจในตัวเองจนเกินไป ตลาดหุ้นมันมีอะไรให้เรียนรู้อยู่ตลอด ทั้งจากหุ้นที่เราซื้อและไม่ได้ซื้อ หากเราได้ศึกษาและตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับมัน ซึ่งมันจะทำให้เราเรียนรู้ได้เร็วกว่าการเรียนรู้วิชาอื่นๆ เวลาเราจะขับรถไปที่จุดหนึ่งๆ สมมติว่า มันมีสองเส้นทางให้เลือก เราจะไม่รู้เลยว่าถ้าเราไปเส้นทางที่เราไม่ได้เลือกมันจะเป็นอย่างไร แต่เรื่องการลงทุนนี่เราจะได้เห็นหมดเลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้างกับหุ้นแต่ละตัว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 14
ผมก็เป็นแค่นักลงทุนรายย่อยธรรมดา ๆ นี่แหละครับ ที่ต่างจากคนอื่นหน่อยก็ตรงงานแปลหนังสือ แรก ๆ ผมก็ลงทุนด้วยการดูโพย 10 หุ้นหลักของโบรกเกอร์และก็พยายามซื้อมันให้ครบทุกตัว ตัวละนิดตัวละหน่อยโดยแค่รู้กว้าง ๆ ว่ามันทำธุรกิจอะไร แต่ไม่ได้ดูค่า P/E, เงินปันผล, งบการเงิน หรืออะไรเลย สุดท้ายก็ขาดทุนหมด ตอนนั้นปี 38 จำได้ว่า P/E ของหุ้นพวกนี้จะสูงมากครับ แต่โบรกเกอร์ก็ยังเชียร์ซื้ออยู่ตลอด ส่วนใหญ่ก็จะซื้อหุ้น Bank/Finance อย่าง KTB, BBL, TFB, PHATRA ช่วงแรกมันก็ยังมีการเด้งกลับให้ขายออกบ้าง แต่ตอนหลังมันลงตลอดจากดัชนี 1000 ต้นลงมาเรื่อย ๆ ถ้าจำไม่ผิด หุ้นตัวแรกที่ผมลงทุนด้วยการดูผลประกอบการก็คือ SE-ED ตอนนั้นดัชนีตกหนักมาก แต่หุ้น SE-ED กลับขึ้นตลอดจาก 28 ไป 36 บาทได้ ต่อมาปี 40 ได้อ่าน Value Investing Made Easy อ่านจบก็มองหาแต่หุ้น NET-NET ครับ ซึ่งตอนนั้นมันก็มีหลายตัวจริง ๆ ไม่ว่าจะเป็น TRU, ONPA, RENOWN, UMW, APRINT, TEM , ICC, TPA เอางบดุลมาดูนั่งคำนวณมูลค่า NET-NET ออกมา บางตัวก็ซื้อ บางตัวก็ไม่ได้ซื้อ แต่รู้สึกว่ามันจะขึ้นทุกตัวครับไม่ว่าหุ้นจะดีหรือไม่ดี จริง ๆ แล้วการดูงบอย่างเดียวแล้วซื้อเลยมันอันตรายมาก เราต้องดูองค์ประกอบของสินทรัพย์และหมายเหตุประกอบด้วย แต่รู้สึกว่ามันจะขึ้นหมด แต่ตัวที่ไม่ดีมันจะมาแย่ตอนหลัง อย่าง TEM นี้คำนวณ NET-NET ได้ 35 บาท ซื้อไปที่ 9 บาทแล้วก็ขายไปที่ 15 บาท ต่อมา Book value ติดลบเลยเพราะ Current Asset (3373 ล้าน) ส่วนใหญ่มันเป็น Receivable ( 1951ล้าน) และ Inventory( 1338 ล้าน) ที่ตอนหลังต้อง Write-off กันขนานใหญ่ ตอนนี้ยังอยู่ Rehabco อยู่เลย Book Value อยู่ที่ -891 อย่าง ICC นี่ NET-NET อยู่ที่ 110 บาทแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ 60-70 บาทอยู่ตั้งนาน ผมซื้อมาจนเบื่อ พอขายไปหุ้นก็ขึ้นเลย ตอนนั้น หุ้นประเภท NET-NET ที่ดูน่าตกใจก็คือ หุ้น UMW มูลค่า NET-NET อยู่ที่ 132 บาท มีเงินสดหุ้นละ 81 บาท แต่ราตาหุ้นอยู่ที่ 15-30 บาทเท่านั้น ตอนหลังหุ้น NET-NET มันก็หายากขึ้น ผมก็ลงทุนแบบ VI แต่หลายๆครั้งก็หลงไปเก็งกำไร ซึ่งก็ขาดทุนทุกที แต่การลงทุนในช่วงวิกฤตนี่มันโดดเดี่ยวจริงๆ ตอนนั้นเจอเพื่อน นี่คุยเรื่องหุ้นได้ไม่เกินสองสามประโยคหรอกครับ มันไม่มีใครอยากพูดคุยเรื่องหุ้นเลยจริงๆ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1139
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 15
ที่ผ่านมา ความผิดพลาดของผมมันมีหลายอย่าง หลัก ๆ เลยก็คือ
1. ขายหุ้นออกไปเร็วเกินไป ทำให้ได้กำไรไม่เต็มที่ การจำต้นทุนที่ซื้อมาไว้บางครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าหุ้นมันขึ้นมาเยอะแล้ว กลัวมันจะลงก็เลยขายไป บางทีก็มองว่าตลาดมันจะลงก็เลยขายหุ้นออก ซึ่งหลายๆครั้ง ตลาดมันลงจริงแต่หุ้นที่เราขายไปมันไม่ลง
2. วิเคราะห์ได้ว่าดีแต่ไม่ได้ซื้อ บางทีก็เกิดความรู้สึกว่าไม่กล้าซื้อ บางทีก็อยากต่อราคาให้ถูกลงอีกหน่อย บางทีราคาหุ้นมันขึ้นไปบ้างแล้วก็เลยรอก่อน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ลงมาให้ซื้อ
3. ถูกครอบงำจากการมองโลกในแง่ดีของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น นักวิเคราะห์ ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือความเห็นของคนมีชื่อเสียง ซื้อหุ้นตอนที่ใคร ๆ ก็บอกว่าดี นี่มันเจ็บตัวทุกทีเลย เวลาที่เรามองแง่ดี เรามักจะเข้าเสี่ยงในระดับที่สูงเกินไป เสียงมันจะก้องอยู่ในสมองว่า อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ แต่พอขาดทุนแล้วถึงจะรู้ตัวว่าฟังผิด เสียงที่ก้องอยู่ในสมองมันเป็น อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ ต่างหาก
ช่วงหลังจากนั้นก็ลงทุนด้วยการดูงบการเงินและรายละเอียดของธุรกิจประกอบกันครับ ซึ่ง ก็มีทั้งวิเคราะห์ถูกและวิเคราะห์ผิด
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่า การซื้อหุ้นมันจะง่ายกว่าการขายหุ้น ผมเคยซื้อหุ้นในราคาที่ถูกได้หลาย ๆ ตัว แต่ขายไปเร็วเกินไป มันอาจจะเพราะเคยขาดทุนมาก่อนเลยหิวโหยผลกำไร หรือบางครั้ง ก็คิดว่าตลาดโดยรวมมันจะลงก็เลยคิดว่าขายไปก่อนดีกว่า นี่แหละการมองหุ้นเป็นหุ้น มันเลยเป็นแบบนี้ ถ้ามองว่ามันเป็นธุรกิจมันอาจจะถือได้นานกว่านี้ อย่างหุ้น TR ผมซื้อที่ 35 บาท ผมดูงบดุลแล้วพบว่าบริษัทมีเงินสดสุทธิ 31 บาท NET-NET 35 บาท และ TR ยังถือหุ้น TCB อีก 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 60-70 บาท (Par 10) ก็ซื้อเลย แต่พอหุ้นมันขึ้นมา ผมก็ขายออกไปที่ราคา 54 บาท ( เกรแฮมบอกว่า พอหุ้นขึ้น 50 % ก็ให้ขาย) คิดว่าได้กำไรเยอะแล้วด้วยซ้ำในช่วงนั้น ถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังขายหมูเป็นประจำครับ ซึ่งทำให้ผมสรุปกับตัวเองว่า ตัวเรายังไม่เก่งเลย ยังต้องอ่านหนังสือและฝึกฝนอีกมาก
1. ขายหุ้นออกไปเร็วเกินไป ทำให้ได้กำไรไม่เต็มที่ การจำต้นทุนที่ซื้อมาไว้บางครั้งมันก็ทำให้เรารู้สึกว่าหุ้นมันขึ้นมาเยอะแล้ว กลัวมันจะลงก็เลยขายไป บางทีก็มองว่าตลาดมันจะลงก็เลยขายหุ้นออก ซึ่งหลายๆครั้ง ตลาดมันลงจริงแต่หุ้นที่เราขายไปมันไม่ลง
2. วิเคราะห์ได้ว่าดีแต่ไม่ได้ซื้อ บางทีก็เกิดความรู้สึกว่าไม่กล้าซื้อ บางทีก็อยากต่อราคาให้ถูกลงอีกหน่อย บางทีราคาหุ้นมันขึ้นไปบ้างแล้วก็เลยรอก่อน แต่สุดท้ายมันก็ไม่ลงมาให้ซื้อ
3. ถูกครอบงำจากการมองโลกในแง่ดีของคนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น นักวิเคราะห์ ข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์ หรือความเห็นของคนมีชื่อเสียง ซื้อหุ้นตอนที่ใคร ๆ ก็บอกว่าดี นี่มันเจ็บตัวทุกทีเลย เวลาที่เรามองแง่ดี เรามักจะเข้าเสี่ยงในระดับที่สูงเกินไป เสียงมันจะก้องอยู่ในสมองว่า อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ แต่พอขาดทุนแล้วถึงจะรู้ตัวว่าฟังผิด เสียงที่ก้องอยู่ในสมองมันเป็น อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ ต่างหาก
ช่วงหลังจากนั้นก็ลงทุนด้วยการดูงบการเงินและรายละเอียดของธุรกิจประกอบกันครับ ซึ่ง ก็มีทั้งวิเคราะห์ถูกและวิเคราะห์ผิด
แต่จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ผมรู้สึกว่า การซื้อหุ้นมันจะง่ายกว่าการขายหุ้น ผมเคยซื้อหุ้นในราคาที่ถูกได้หลาย ๆ ตัว แต่ขายไปเร็วเกินไป มันอาจจะเพราะเคยขาดทุนมาก่อนเลยหิวโหยผลกำไร หรือบางครั้ง ก็คิดว่าตลาดโดยรวมมันจะลงก็เลยคิดว่าขายไปก่อนดีกว่า นี่แหละการมองหุ้นเป็นหุ้น มันเลยเป็นแบบนี้ ถ้ามองว่ามันเป็นธุรกิจมันอาจจะถือได้นานกว่านี้ อย่างหุ้น TR ผมซื้อที่ 35 บาท ผมดูงบดุลแล้วพบว่าบริษัทมีเงินสดสุทธิ 31 บาท NET-NET 35 บาท และ TR ยังถือหุ้น TCB อีก 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 60-70 บาท (Par 10) ก็ซื้อเลย แต่พอหุ้นมันขึ้นมา ผมก็ขายออกไปที่ราคา 54 บาท ( เกรแฮมบอกว่า พอหุ้นขึ้น 50 % ก็ให้ขาย) คิดว่าได้กำไรเยอะแล้วด้วยซ้ำในช่วงนั้น ถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังขายหมูเป็นประจำครับ ซึ่งทำให้ผมสรุปกับตัวเองว่า ตัวเรายังไม่เก่งเลย ยังต้องอ่านหนังสือและฝึกฝนอีกมาก
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 16
WEB,
:lovl: :lovl: :lovl:เสียงมันจะก้องอยู่ในสมองว่า อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ แต่พอขาดทุนแล้วถึงจะรู้ตัวว่าฟังผิด เสียงที่ก้องอยู่ในสมองมันเป็น อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ ต่างหาก
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 17
ถูกใจจริงๆWEB เขียน: เวลาที่เรามองแง่ดี เรามักจะเข้าเสี่ยงในระดับที่สูงเกินไป เสียงมันจะก้องอยู่ในสมองว่า อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ แต่พอขาดทุนแล้วถึงจะรู้ตัวว่าฟังผิด เสียงที่ก้องอยู่ในสมองมันเป็น อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ ต่างหาก
อันนี้จริงๆซะด้วยWEB เขียน: นี่แหละการมองหุ้นเป็นหุ้น มันเลยเป็นแบบนี้ ถ้ามองว่ามันเป็นธุรกิจมันอาจจะถือได้นานกว่านี้ อย่างหุ้น TR ผมซื้อที่ 35 บาท ผมดูงบดุลแล้วพบว่าบริษัทมีเงินสดสุทธิ 31 บาท NET-NET 35 บาท และ TR ยังถือหุ้น TCB อีก 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งตอนนั้นราคาอยู่ที่ประมาณ 60-70 บาท (Par 10) ก็ซื้อเลย แต่พอหุ้นมันขึ้นมา ผมก็ขายออกไปที่ราคา 54 บาท ( เกรแฮมบอกว่า พอหุ้นขึ้น 50 % ก็ให้ขาย) คิดว่าได้กำไรเยอะแล้วด้วยซ้ำในช่วงนั้น ถึงทุกวันนี้ ผมก็ยังขายหมูเป็นประจำครับ ซึ่งทำให้ผมสรุปกับตัวเองว่า ตัวเรายังไม่เก่งเลย ยังต้องอ่านหนังสือและฝึกฝนอีกมาก
"ขายหมู"มันเป็นเรื่องธรรมชาติ
-
- Verified User
- โพสต์: 158
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 18
เสียงมันคล้ายๆกันจริงๆWEB เขียน: เวลาที่เรามองแง่ดี เรามักจะเข้าเสี่ยงในระดับที่สูงเกินไป เสียงมันจะก้องอยู่ในสมองว่า อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากรวยใช่มั๊ยค๊ะ แต่พอขาดทุนแล้วถึงจะรู้ตัวว่าฟังผิด เสียงที่ก้องอยู่ในสมองมันเป็น อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ อยากซวยใช่มั๊ยค๊ะ ต่างหาก
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 19
เอาอีกๆ เอาอีก ๆ ผมว่าอันนี้หนึ่งส่วนเสี้ยวของประสบการณ์ คุณ พรชัย นะครับ
ขอฟังเรื่องต่ออีกนะครับ ได้โปรด
" อยากรวยใช่มั้ยคะ อยากซวยใช่มั้ยคะ อยากรวยใช่มั้ยคะ อยากซวยใช่มั้ยคะ"
:lovl: :lovl: :lovl:
ขอฟังเรื่องต่ออีกนะครับ ได้โปรด
" อยากรวยใช่มั้ยคะ อยากซวยใช่มั้ยคะ อยากรวยใช่มั้ยคะ อยากซวยใช่มั้ยคะ"
:lovl: :lovl: :lovl:
กฎข้อที่1 อย่ายอมขาดทุน กฎข้อที่2 กลับไปดูกฎข้อที่ 1
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 20
ขอบคุณครับพี่WEB
คุณฉัตรชัยด้วยครับที่ตั้งกระทู้นี้
คุณฉัตรชัยด้วยครับที่ตั้งกระทู้นี้
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- Verified User
- โพสต์: 359
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 25
คุณ WEBคะ
เนื่องจากว่าการที่คุณWEBได้มีโอกาสไปถึงโอมาฮา
แล้วแล้วเอ่อ ...จะไม่กรุณา...ให้ได้ดูรูป** โอกาสที่ยิ่งใหญ่** นั้นบ้างหรือคะ
คิดว่าชาตินี้ นอกจากนั่งอ่านหนังสือที่แปลออกมาแล้ว พวกเราคงได้พบ
ท่านวอร์เรน แค่ในฝันเท่านั้น....จะกรุณาเอื้อ เฟื้อ แบ่งให้ได้ดูรูปในงาน
วันที่คุณ WEBได้สัมผัสมือของผู้ที่เป็นนักลงทุนที่อัจฉริยะ ...นั้น
ได้บ้างหรือปล่าวคะ......อยากดูจังค่ะ.....PLEASE.....PLEASE...
เนื่องจากว่าการที่คุณWEBได้มีโอกาสไปถึงโอมาฮา
แล้วแล้วเอ่อ ...จะไม่กรุณา...ให้ได้ดูรูป** โอกาสที่ยิ่งใหญ่** นั้นบ้างหรือคะ
คิดว่าชาตินี้ นอกจากนั่งอ่านหนังสือที่แปลออกมาแล้ว พวกเราคงได้พบ
ท่านวอร์เรน แค่ในฝันเท่านั้น....จะกรุณาเอื้อ เฟื้อ แบ่งให้ได้ดูรูปในงาน
วันที่คุณ WEBได้สัมผัสมือของผู้ที่เป็นนักลงทุนที่อัจฉริยะ ...นั้น
ได้บ้างหรือปล่าวคะ......อยากดูจังค่ะ.....PLEASE.....PLEASE...
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 26
ระหว่างรอคุณ WEB ตระเตรียมภาพก็ดูจาก links นี้ไปพลางๆก่อนนะครับ คุณ meymey เขียน:คุณ WEBคะ
.................................................................
......อยากดูจังค่ะ.....PLEASE.....PLEASE...
http://pg.photos.yahoo.com/ph/m3thodx@p ... pg&.src=ph
ก็ถือว่าได้เห็นบรรยากาศในงาน น่าตื่นเต้นครับ ๆ
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 27
ส่งรูปมาให้ผมก็ได้เดี๋ยวส่งต่อให้web masterเอาขึ้นให้ขอรับ
คุณ WEBแกเป็นคนใจดีและอารมณ์ดีมากครับ ดูแกยิ้มซิ แก้มสองข้างขึ้นเป็นลูกกลมๆเลย :lovl:
คุณ WEBแกเป็นคนใจดีและอารมณ์ดีมากครับ ดูแกยิ้มซิ แก้มสองข้างขึ้นเป็นลูกกลมๆเลย :lovl:
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 28
หรือถ้าต้องการคำบรรยายของผู้ถือหุ้น BRK คนหนึ่งที่เล่าประสพการณ์ที่ได้เข้าร่วมงานครั้งก็ดูตาม link นี้แล้วกันนะครับคุณ meymey เขียน:คุณ WEBคะ
เนื่องจากว่าการที่คุณWEBได้มีโอกาสไปถึงโอมาฮา
แล้วแล้วเอ่อ ...จะไม่กรุณา...ให้ได้ดูรูป** โอกาสที่ยิ่งใหญ่** นั้นบ้างหรือคะ
คิดว่าชาตินี้ นอกจากนั่งอ่านหนังสือที่แปลออกมาแล้ว พวกเราคงได้พบ
ท่านวอร์เรน แค่ในฝันเท่านั้น....จะกรุณาเอื้อ เฟื้อ แบ่งให้ได้ดูรูปในงาน
วันที่คุณ WEBได้สัมผัสมือของผู้ที่เป็นนักลงทุนที่อัจฉริยะ ...นั้น
ได้บ้างหรือปล่าวคะ......อยากดูจังค่ะ.....PLEASE.....PLEASE...
http://www.vinvesting.com/docs/bg/Buffe ... ng2005.pdf
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 29
หรือถ้าจะให้ถึงกึ๊นจริงๆ ก็ต้องเอาโน้ตเนื้อหาการประชุมด้วยจะดีใหญ่เลยครับ โน๊ตฉบับนี้จัดทำโดย Shai Dardashti ซึ่งเป็นนักศึกษาปริญญาตรีวัย 21 ปี แห่งมหาวิทยาลัยแมรี่แลนด์ ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสาวกของ Warren Buffett เชิญคลิ๊ก link ไปอ่านเพื่อเป็นความรู้ประดับสติปัญญาพวกเรากันนะครับmey เขียน:คุณ WEBคะ
เนื่องจากว่าการที่คุณWEBได้มีโอกาสไปถึงโอมาฮา
แล้วแล้วเอ่อ ...จะไม่กรุณา...ให้ได้ดูรูป** โอกาสที่ยิ่งใหญ่** นั้นบ้างหรือคะ
คิดว่าชาตินี้ นอกจากนั่งอ่านหนังสือที่แปลออกมาแล้ว พวกเราคงได้พบ
ท่านวอร์เรน แค่ในฝันเท่านั้น....จะกรุณาเอื้อ เฟื้อ แบ่งให้ได้ดูรูปในงาน
วันที่คุณ WEBได้สัมผัสมือของผู้ที่เป็นนักลงทุนที่อัจฉริยะ ...นั้น
ได้บ้างหรือปล่าวคะ......อยากดูจังค่ะ.....PLEASE.....PLEASE...
http://www.vinvesting.com/docs/bg/Brk20 ... eeting.pdf
เรียกว่าสั่งซื้อ 1 แถม 2 เลยนะครับ คงไม่ว่ากัน
ขอให้โชคดีในการลงทุนครับ
"The man who doesn't read has no advantage over the man who cannot read." Mark Twain
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ประสบการณ์การลงทุนของคุณ WEB
โพสต์ที่ 30
มิน่า ผมมักได้ข่าวว่าแถวรัตนาธิเบศร์ มีรถหมูคว่ำบ่อยๆ ที่แท้ก็รถขนหมูของคุณ WEB นี่เอง แซวเล่นนะครับ
ผมเองก็ยึดถือหลักไม่ทำบาปครับ คนซื้อหุ้นต่อจากผมมักจะได้กำไรแทบทุกคนเลยครับ ดูราคาที่ผมขายซิครับ OGC ขายที่ 40 บาท LANNA ขายที่ 6 บาท MANRIN ขายที่ 13 บาท TIW ขายที่ 60 บาท
ถนนแถวบ้านผมลื่นมากนะครับ รถขนน้ำมันหมูคว่ำประจำเหมือนกันครับ
หวังว่าจะมีภาค 2 ต่อนะครับ คุณ WEB
ผมเองก็ยึดถือหลักไม่ทำบาปครับ คนซื้อหุ้นต่อจากผมมักจะได้กำไรแทบทุกคนเลยครับ ดูราคาที่ผมขายซิครับ OGC ขายที่ 40 บาท LANNA ขายที่ 6 บาท MANRIN ขายที่ 13 บาท TIW ขายที่ 60 บาท
ถนนแถวบ้านผมลื่นมากนะครับ รถขนน้ำมันหมูคว่ำประจำเหมือนกันครับ
หวังว่าจะมีภาค 2 ต่อนะครับ คุณ WEB
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี