ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 1
จากหน้าถนนนักลงทุน กรุงเทพธุรกิจ วันนี้จันทร์ 7 ก.ค. 46 ในหัวข้อ เล่นหุ้น กระเป๋า ไม่ฉีก ฉบับ หมอยรรยง พันธุ์วงศ์กล่อม ผมพยายามอ่าน 2-3 รอบเพื่อทำความเข้าใจ (ในฐานะผู้ไม่มีประสบการณ์เล่นหุ้นโดยตรงมาก่อนเลย เคยแต่ให้ผู้เชี่ยวชาญ (?)เล่นให้-ผ่านกองทุนรวมเมื่อ 7-8 ปีก่อนและขาดทุนเรียบร้อยไปแล้ว)เพื่อศึกษาวิเคราะห์ว่าคุณหมอท่านนี้ใช้สไตล์การเล่นแบบไหน(VI , VS หรือ S) จึงส่งผลให้ท่านประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น(ว่ากันว่าท่านมีพอร์ตเป็นพันล้าน)และทางญาติผมเอง(ผจก.บริษัทค้าหุ้น)ก็แนะนำให้ศึกษาแนวทางจากท่านเผื่อจะเป็นแนวทางลงทุนในตลาดหุ้นเอาทุนเก่าคืนมาบ้าง แต่ก็ยังไม่สามารถจับประเด็นออกมาได้ว่าควรจัดท่านเป็นนักลงทุนกลุ่มไหน VI, VS หรือ S เพราะเห็นท่านบอกว่าท่านเป็นคนใจร้อนชอบเล่นแบบขึ้นเร็วลงเร็ว (เข้าลักษณะของ Speculator) อีกทั้งท่านก็ยังแนะเรื่องการเลือกหุ้นต้องศึกษาพื้นฐานของบริษัทที่จะลงทุนว่ามีกิจการและผลกำไรเป็นอย่างไร ผู้ถือหุ้นเป็นใคร ฯลฯ (เข้าลักษณะของInvestor)
หากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ท่านใดทราบ(โดยเฉพาะ คุณปรัชญา คุณ CK คุณ Mon money หรือ คุณครรชิต ฯลฯ) หรือ หากตัวท่านเอง(คุณหมอยยรรยง)แวะเวียนผ่านมาที่นี้ โปรดช่วยกรุณาไขข้อข้องใจว่าลงทุนด้วยแนวทางใดกันแน่ จึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จอย่างดีเช่นท่านได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นแมงเม่า แมงมุม ถูกไฟไหม้จนสาหัสสากรรจ์
ขอขอบคุณมาล่วงหน้า
PP
หากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ท่านใดทราบ(โดยเฉพาะ คุณปรัชญา คุณ CK คุณ Mon money หรือ คุณครรชิต ฯลฯ) หรือ หากตัวท่านเอง(คุณหมอยยรรยง)แวะเวียนผ่านมาที่นี้ โปรดช่วยกรุณาไขข้อข้องใจว่าลงทุนด้วยแนวทางใดกันแน่ จึงจะทำให้ประสบผลสำเร็จอย่างดีเช่นท่านได้ เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นแมงเม่า แมงมุม ถูกไฟไหม้จนสาหัสสากรรจ์
ขอขอบคุณมาล่วงหน้า
PP
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 2
หากท่านผู้รู้และมีประสบการณ์ท่านใดทราบ(โดยเฉพาะ คุณปรัชญา
ผมว่าเก่งอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องได้จังหวะ และอาศัยโชคช่วยครับ
เมื่อคนเข้าตลาด10คน ก็ขาดทุนซะ8คน ได้1คน และ
อีกหนึ่งคนอาจถอนตัวเพราะรับสภาพไม่ไหว
การเรียนรู้ การหาประสบการมีต้นทุนครับ ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ
คนเราที่เลิกเล่นหุ้นได้มี2อย่าง
คือหมดทุน
และตาย
บางคนก็เก่งปัจจัยพื้นฐาน บางคนเก่งเทคนิคเคิล
บางคนเก่งแบบจิตวิทยามวลชนอ่านอารมณ์ตลาดออก
บางคนใจถึงหมดแบบนักเลงเป็นหมด(ถ้าไม่หมดก็รวย)
บางคนใครบอกอะไรแนะนำอะไรซื้อตามเขาหมดแบบไม่ต้องเหตุผล
บางคนชอบแบบไม่เสี่ยงกว่าจะซื้อหุ้นได้แต่ละตัว
หาข้อมูลตั้งแต่กิจการอะไร อยู่อุตสาหกรรมแบบไหน
เจ้าของตระกูลอะไร ถือหุ้นใหญ่
ตรวจสอบผลดำเนินงาน ย้อนหลัง 5ปี 10ปี
คาดการไปถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร?
อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เป็นเบอร์1หรือ2หรือไม่ติดอันดับเลย
ต้องรู้แจ้งเห็นจริง และเข้าใจศึกษามาดีพอ
สารพัดครับ
ส่วนผมที่เอาตัวรอดมาได้10กว่าปี
ชอบแบบไม่เสี่ยงครับ
ผมว่าเก่งอย่างเดียวไม่พอครับ ต้องได้จังหวะ และอาศัยโชคช่วยครับ
เมื่อคนเข้าตลาด10คน ก็ขาดทุนซะ8คน ได้1คน และ
อีกหนึ่งคนอาจถอนตัวเพราะรับสภาพไม่ไหว
การเรียนรู้ การหาประสบการมีต้นทุนครับ ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ
คนเราที่เลิกเล่นหุ้นได้มี2อย่าง
คือหมดทุน
และตาย
บางคนก็เก่งปัจจัยพื้นฐาน บางคนเก่งเทคนิคเคิล
บางคนเก่งแบบจิตวิทยามวลชนอ่านอารมณ์ตลาดออก
บางคนใจถึงหมดแบบนักเลงเป็นหมด(ถ้าไม่หมดก็รวย)
บางคนใครบอกอะไรแนะนำอะไรซื้อตามเขาหมดแบบไม่ต้องเหตุผล
บางคนชอบแบบไม่เสี่ยงกว่าจะซื้อหุ้นได้แต่ละตัว
หาข้อมูลตั้งแต่กิจการอะไร อยู่อุตสาหกรรมแบบไหน
เจ้าของตระกูลอะไร ถือหุ้นใหญ่
ตรวจสอบผลดำเนินงาน ย้อนหลัง 5ปี 10ปี
คาดการไปถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร?
อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เป็นเบอร์1หรือ2หรือไม่ติดอันดับเลย
ต้องรู้แจ้งเห็นจริง และเข้าใจศึกษามาดีพอ
สารพัดครับ
ส่วนผมที่เอาตัวรอดมาได้10กว่าปี
ชอบแบบไม่เสี่ยงครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 9795
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 3
พี่ปรัชญาตีตรงเป้าเลยครับ การเข้าใจความเสี่ยงคือหัวใจของการลงทุนทุกชนิดครับ
คนเล่นหุ้น (ที่เรียกกันว่าแมงเม่า) ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจเรื่องความเสี่ยง ซึ่งมีผลต่อผลตอบแทน ไม่ได้แปลว่าเสี่ยงมากจะได้ผลตอบแทนมากนะครับ แต่หมายถึงว่า ถ้าเสี่ยงมากคุณจะต้องหวังผลตอบแทนมากจึงจะคุ้ม
ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปได้ยินชื่อหุ้นตัวหนึ่ง เอาเป็นว่า TPI ละกัน เขาว่ากันว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้ ก็ตามไปซื้อโดยหวังกำไร 10% มั่ง 50% มั่ง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าหุ้นตัวนี้เสี่ยงแค่ไหน ทำธุรกิจอะไร ราคาจะแกว่งได้มากแค่ไหน
นอกเรื่องไปไกล ขอกลับมาที่คุณหมอยรรยงละกันครับ
ชาว VS ส่วนใหญ่จะยกหมอยรรยงว่าเป็นเทพเจ้าแห่ง VS ผมว่าไม่ใช่ครับ (เท่าที่อ่านดู) แต่ก็ไม่ใช่ VI อีกแหละ อันนี้ว่ากันตามนิยามนะครับ
เท่าที่อ่านบทความดู ผมเดาว่าคุณหมอแกเป็นนักลงทุนตัวฉกาจที่อ่านทิศทางเศรษฐกิจขาด เข้าใจกระบวนการของ mass psychology เชี่ยวชาญเกมการเงิน และที่สำคัญจังหวะดีด้วยครับ
เล่นหุ้นนั้น ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทำเงินได้มากๆ ถ้าจังหวะไม่ดี เช่นถ้าตลาดหุ้น side way สักหกเดือน ผมว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครบอกว่าสามารถทำกำไรได้ 3-4 เท่าของพอร์ตในไม่กี่เดือน
คนเล่นหุ้น (ที่เรียกกันว่าแมงเม่า) ส่วนใหญ่จะไม่เข้าใจเรื่องความเสี่ยง ซึ่งมีผลต่อผลตอบแทน ไม่ได้แปลว่าเสี่ยงมากจะได้ผลตอบแทนมากนะครับ แต่หมายถึงว่า ถ้าเสี่ยงมากคุณจะต้องหวังผลตอบแทนมากจึงจะคุ้ม
ยกตัวอย่างเช่นถ้าคุณไปได้ยินชื่อหุ้นตัวหนึ่ง เอาเป็นว่า TPI ละกัน เขาว่ากันว่าจะไปเท่านั้นเท่านี้ ก็ตามไปซื้อโดยหวังกำไร 10% มั่ง 50% มั่ง แต่ไม่เคยรู้เลยว่าหุ้นตัวนี้เสี่ยงแค่ไหน ทำธุรกิจอะไร ราคาจะแกว่งได้มากแค่ไหน
นอกเรื่องไปไกล ขอกลับมาที่คุณหมอยรรยงละกันครับ
ชาว VS ส่วนใหญ่จะยกหมอยรรยงว่าเป็นเทพเจ้าแห่ง VS ผมว่าไม่ใช่ครับ (เท่าที่อ่านดู) แต่ก็ไม่ใช่ VI อีกแหละ อันนี้ว่ากันตามนิยามนะครับ
เท่าที่อ่านบทความดู ผมเดาว่าคุณหมอแกเป็นนักลงทุนตัวฉกาจที่อ่านทิศทางเศรษฐกิจขาด เข้าใจกระบวนการของ mass psychology เชี่ยวชาญเกมการเงิน และที่สำคัญจังหวะดีด้วยครับ
เล่นหุ้นนั้น ต่อให้เก่งแค่ไหนก็ไม่สามารถทำเงินได้มากๆ ถ้าจังหวะไม่ดี เช่นถ้าตลาดหุ้น side way สักหกเดือน ผมว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะมีใครบอกว่าสามารถทำกำไรได้ 3-4 เท่าของพอร์ตในไม่กี่เดือน
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 4
ถ้าตามกระทู้"ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?"แล้วละก็ตอบยากครับ
ผมว่าหากเอาการวิเคราะห์อย่างเดียว(ทั้งพื้นฐานและเทคนิค) คิดว่าไม่น่าจะทำกำไรได้มากมายในเวลาอันสั้นได้หรอกครับ ผมมีความเชื่อว่าบางคนเขามีinsideโดยเฉพาะรายใหญ่ๆ โบรกมักจะมีบริหารพิเศษเช่นไปcompany visitให้เป็นพิเศษ และหลังจากขาใหญ่ซื้อแล้วก็ออกบทวิเคราะห์ล่อเป้าครับ อันนี้ผมไม่ได้คิดเองนะ ผมอ่านจากหนังสือ "ถลกสูตร พ่อมดการเงิน"
ถ้าถามผมจริงๆแล้ว ผมยังยืนยันว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่า สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ และปลอดภัยในระยะยาว รวมถึงความสบายใจเมื่อได้ลงทุนไปแล้วด้วยครับ ซึ่งบางท่านอาจจะมีการวิเคราะห์เทคนิคประกอบเวลาซื้อหรือขาย แต่ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ปัจจัยทางธุรกิจครับ
ผมว่าหากเอาการวิเคราะห์อย่างเดียว(ทั้งพื้นฐานและเทคนิค) คิดว่าไม่น่าจะทำกำไรได้มากมายในเวลาอันสั้นได้หรอกครับ ผมมีความเชื่อว่าบางคนเขามีinsideโดยเฉพาะรายใหญ่ๆ โบรกมักจะมีบริหารพิเศษเช่นไปcompany visitให้เป็นพิเศษ และหลังจากขาใหญ่ซื้อแล้วก็ออกบทวิเคราะห์ล่อเป้าครับ อันนี้ผมไม่ได้คิดเองนะ ผมอ่านจากหนังสือ "ถลกสูตร พ่อมดการเงิน"
ถ้าถามผมจริงๆแล้ว ผมยังยืนยันว่า การลงทุนแบบเน้นคุณค่า สามารถสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจ และปลอดภัยในระยะยาว รวมถึงความสบายใจเมื่อได้ลงทุนไปแล้วด้วยครับ ซึ่งบางท่านอาจจะมีการวิเคราะห์เทคนิคประกอบเวลาซื้อหรือขาย แต่ทั้งหมดนี้อยู่บนพื้นฐานของการวิเคราะห์ปัจจัยทางธุรกิจครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณมากๆครับสำหรับคำตอบที่รวดเร็วทันใจจากทั้ง คุณ ปรัชญา คุณ CK และ คุณ Mon money
อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องเวลาหาประสบการณ์ เห็นคุณหมอท่านบอกว่าต้องอย่างน้อย 3 ปี อย่างนี้ก็หมายความว่าต้องจ่ายค่าเรียนรู้่นานขนาดนั้นเชียวหรือครับ กลับไปอ่านหนังสือที่เขียนถึง Warren Buffett ซึ่งเขากล่าวว่าหลักการลงทุนในตลาดหุ้นมีกฏอยู่ว่า กฏข้อที่ 1 ต้องไม่ขาดทุน กฏข้อที่ 2 ให้กลับไปดูกฏข้อที่หนึ่ง แหมดูจะขัดแย้งกันจนสับสัน ยังไงขอท่านผู้รู้ทั้งหลายกรุณาตีประเด็นนี้ให้แตกได้ไหมครับ เอาประสบการณ์จริงๆในประเทศไทยเราได้ยิ่งดีครับ
ขอขอบคุณอีกรอบครับ
PP
อีกประเด็นหนึ่งคือเรื่องเวลาหาประสบการณ์ เห็นคุณหมอท่านบอกว่าต้องอย่างน้อย 3 ปี อย่างนี้ก็หมายความว่าต้องจ่ายค่าเรียนรู้่นานขนาดนั้นเชียวหรือครับ กลับไปอ่านหนังสือที่เขียนถึง Warren Buffett ซึ่งเขากล่าวว่าหลักการลงทุนในตลาดหุ้นมีกฏอยู่ว่า กฏข้อที่ 1 ต้องไม่ขาดทุน กฏข้อที่ 2 ให้กลับไปดูกฏข้อที่หนึ่ง แหมดูจะขัดแย้งกันจนสับสัน ยังไงขอท่านผู้รู้ทั้งหลายกรุณาตีประเด็นนี้ให้แตกได้ไหมครับ เอาประสบการณ์จริงๆในประเทศไทยเราได้ยิ่งดีครับ
คุณปรัชญา ครับ การหาข้อมูลต่างๆเหล่านี้จากแหล่งไหนเชื่อถือได้ดี ครับ เท่าที่ผมกำลังศึกษาอยู่ผมก็ดูจาก set.or.th ในส่วนของ company list ที่เดียว แต่ก็ยังมีความรู้สึกไม่เต็มอิ่ม หากผู้รู้แแนะนำเพิ่มเติมจะขอบคุณหลายเลยครับ เดินตามผู้ใหญ่แล้วหมาไม่กัดจะดีกว่า ผมว่านะบางคนชอบแบบไม่เสี่ยงกว่าจะซื้อหุ้นได้แต่ละตัว
หาข้อมูลตั้งแต่กิจการอะไร อยู่อุตสาหกรรมแบบไหน
เจ้าของตระกูลอะไร ถือหุ้นใหญ่
ตรวจสอบผลดำเนินงาน ย้อนหลัง 5ปี 10ปี
คาดการไปถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร?
อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เป็นเบอร์1หรือ2หรือไม่ติดอันดับเลย
ต้องรู้แจ้งเห็นจริง และเข้าใจศึกษามาดีพอ
สารพัดครับ
ส่วนผมที่เอาตัวรอดมาได้10กว่าปี
ชอบแบบไม่เสี่ยงครับ
ขอขอบคุณอีกรอบครับ
PP
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 6
กฏข้อที่ 1 ต้องไม่ขาดทุน กฏข้อที่ 2 ให้กลับไปดูกฏข้อที่หนึ่ง เรื่องนี้บอกชัดๆเลยว่าไม่ชอบเสี่ยง BUFFETTมักบอกว่า "ผมจะไม่ทำอะไรในเรื่องที่คนอื่นรู้และเข้าใจดีกว่าผม ผมจะทำอะไรที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของผมเท่านั้น"
หากคุณเริ่มลงทุนพร้อมๆกับการมีอาวุธคือความรู้ความเข้าใจ ความขยัน และที่ขาดไม่ได้คือจิตใจที่มั่นคงซึ่งมักมาพร้อมกับความอึด สิ่งที่คุณได้คือประสบการณ์และผลตอบแทนงามๆครับ ผมยืนยัน จากประสบการณ์ของผมหลังปีกไหม้หลุดไปแล้ว ผมได้ผลตอบแทนที่ดี(ผมพอใจ และ มาร์เก็ตติ้งงง)มาโดยตลอด ถึงแม้บางครั้งจะแพ้ตลาดบางเป็นครั้งเท่านั้น
หากคุณเริ่มลงทุนพร้อมๆกับการมีอาวุธคือความรู้ความเข้าใจ ความขยัน และที่ขาดไม่ได้คือจิตใจที่มั่นคงซึ่งมักมาพร้อมกับความอึด สิ่งที่คุณได้คือประสบการณ์และผลตอบแทนงามๆครับ ผมยืนยัน จากประสบการณ์ของผมหลังปีกไหม้หลุดไปแล้ว ผมได้ผลตอบแทนที่ดี(ผมพอใจ และ มาร์เก็ตติ้งงง)มาโดยตลอด ถึงแม้บางครั้งจะแพ้ตลาดบางเป็นครั้งเท่านั้น
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 7
คุณ Mon money
ขอบคุณที่หยิบยื่นและยืนยันประสบการณ์จริงในไทยให้ทราบ ไม่อย่างนั้นเดี่ยวผมก็เชื่อตามญาติ (ที่เป็น ผจก.โบรก ซึ่งแนะว่าอย่ามัวแต่อ่านตำราวิชาการมากเกินไปใช้ได้ไม่มากหรอกในบ้านเรา) เข้าไปลุยในยุทธจักรตลาดหุ้นโดยไร้วิทยายุทธพื้นฐานสงสัยเสร็จแน่ ไม่อยากพบประวัติซ้ำรอยเก่าครับ
ขอบคุณครับ
PP
ขอบคุณที่หยิบยื่นและยืนยันประสบการณ์จริงในไทยให้ทราบ ไม่อย่างนั้นเดี่ยวผมก็เชื่อตามญาติ (ที่เป็น ผจก.โบรก ซึ่งแนะว่าอย่ามัวแต่อ่านตำราวิชาการมากเกินไปใช้ได้ไม่มากหรอกในบ้านเรา) เข้าไปลุยในยุทธจักรตลาดหุ้นโดยไร้วิทยายุทธพื้นฐานสงสัยเสร็จแน่ ไม่อยากพบประวัติซ้ำรอยเก่าครับ
แสดงว่ามาร์เก็ตติ้งก็ไม่ได้เป็นผู้ให้คำปรึกษาที่ดีที่สุดสำหรับผู้ลงทุนใช่ไหมครับ ต้องพึ่งตัวเองเป็นหลัก หากคุณ Mon money จะช่วยแจกความรู้เรื่องแหล่งข้อมูลต่างๆที่จะช่วยให้ผู้ลงทุนใหม่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุดตามที่ผมสอบถามข้างต้นจะขอบคุณยิ่ง และผมไปพบคำคมของ Warren Buffett อีกประโยคหนึ่งบอกว่า "วอลสตรีตเป็นที่แห่งเดียวเท่านั้นที่คนขับรถโรลสรอยซ์ไปเพื่อขอคำแนะนำจากคนที่นั่งรถไฟใต้ดินไปทำงาน" ไม่ทราบหลักการนี้เหมือนบ้านเราหรือเปล่า".....และ มาร์เก็ตติ้งงง)"
ขอบคุณครับ
PP
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 8
คุณปรัชญา ครับ การหาข้อมูลต่างๆเหล่านี้จากแหล่งไหนเชื่อถือได้ดี ครับ เท่าที่ผมกำลังศึกษาอยู่ผมก็ดูจาก set.or.th ในส่วนของ company list ที่เดียว แต่ก็ยังมีความรู้สึกไม่เต็มอิ่ม หากผู้รู้แแนะนำเพิ่มเติมจะขอบคุณหลายเลยครับ เดินตามผู้ใหญ่แล้วหมาไม่กัดจะดีกว่า ผมว่านะบางคนชอบแบบไม่เสี่ยงกว่าจะซื้อหุ้นได้แต่ละตัว
หาข้อมูลตั้งแต่กิจการอะไร อยู่อุตสาหกรรมแบบไหน
เจ้าของตระกูลอะไร ถือหุ้นใหญ่
ตรวจสอบผลดำเนินงาน ย้อนหลัง 5ปี 10ปี
คาดการไปถึงอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร?
อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เป็นเบอร์1หรือ2หรือไม่ติดอันดับเลย
ต้องรู้แจ้งเห็นจริง และเข้าใจศึกษามาดีพอ
สารพัดครับ
ส่วนผมที่เอาตัวรอดมาได้10กว่าปี
ชอบแบบไม่เสี่ยงครับ
ขอขอบคุณอีกรอบครับ
PP[/quote]
------------------------------------------------------------------------------------
คุณหมอท่านก็เลียนแบบวอเรนมานะครับ ถ้าจับใจความกันจริง ๆ
ตรงที่ว่าเมื่อมีกำไรแล้วห้ามขาดทุน
ก็เหมือนข้อหนึ่งกับข้อสองก็อย่างเดียวกันครับ
ปกติการหาข้อมูลส่วนใหญ่ผมอ่านหนังสือเกี่ยวกับเศรษกิฐครับ
พยายามหาอ่านทุกเล่มเลย
และถ้าเราสนใจอุตสาหกรรมไหนก็ต้องไปเจาะอุตสาหกรรมนั้นๆครับ
อย่างเมื่อก่อนผมเล่นหุ้นยูนิคแก๊ส ผมก็ไปเข้าเวปไซด์พลังงาน
ไปดูว่าเขามีโรงบรรจแก๊สกี่โรง มีถังแก๊สในตลาดกี่ใบ
มีส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับที่เท่าไหร่
มีรถขนส่งแก๊สกี่คัน มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง
ใช้เครื่องปริ๊นออกมาเป็นแฟ้มทั้งข้อมูลของบริษัทเรา
และบริษัทคู่แข่ง หาจุดเด่น และจุดด้อยให้เจอ
มีอยู่ช่วงหนึ่งเมื่อ3ปีก่อนผมชอบเจ้าหุ้นพัดลม
ผมก็ศึกษาใครถือหุ้นใหญ่ โรงงานอยู่ไหน ได้สิทธิพิเศษBOIหรือเปล่า
ผลิตส่งใคร ความเสี่ยงอยู่ตรงไหน
แล้วเราก็รู้ว่าความเสี่ยงอยู่ที่ผู้สั่งซื้อแค่2-3ราย
สินค้าจะขายดีเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้น
ซื้อวัตถุดิบจากใต้หวัน ขายเป็นเงินสกุลดอลล่าร์
สรุปผมยอมถอยเพราะตามค่าเงินทีเดียว3ประเทศไม่ไหวครับ
คือซื้อวัตถุดิบดอลล่าร์ใต้หวันเป็นเหรียญ
ขายเห็นดอลล่าร์US แล้วมาเปลี่ยนเป็นเงินไทย
แล้วเห็นเขาเอาพัดลมมาลดราคาตามห้างบิ๊กซี
คนอื่นอาจดีใจเห็นสินค้าที่เราถือหุ้นมาวางขาย
แต่ผมกลับมองว่าเป็นสินค้าตกรุ่นที่ต่างประเทศคืนกับมาครับ
ต้องบอกชื่อหุ้นมาถึงจะสามารถตอบได้ตรงประเด็นครับ
นี่คือตัวอย่างที่ผมเคยปฏิบัติมา และจะทำกับทุกตัวหุ้นที่ผมถืออยู่ครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 9
ประเด็นที่ว่า มาร์เก็ตติ้งง ก็เพราะเขาเทียบผลตอบแทนของผมกับของลูกค้าอื่นครับ เราได้เป็นกอบเป็นกำกว่า เพื่อนผมที่เล่นเก็งกำไรก็ยืนยันว่าอย่างนั้น เขาบอกว่าเขาเห็นราคามันขึ้นไปมากๆเขาทนไม่ได้ครับ สำหรับผมสบายมาก
เรื่องการหาข้อมูลต้องให้ป๋าปรัชญาสำแดงให้ดูครับ ป๋าแกทำการบ้านดีมาก ละเอียด และรวยมาแล้วจากUGPครับ คาดว่าบริษัทที่ป๋าแกสะสมอยู่ตอนนี้จะซ้ำรอยเดิม แหะๆ ผมก็ตามไปบ้างแล้วครับ
เรื่องการหาข้อมูลต้องให้ป๋าปรัชญาสำแดงให้ดูครับ ป๋าแกทำการบ้านดีมาก ละเอียด และรวยมาแล้วจากUGPครับ คาดว่าบริษัทที่ป๋าแกสะสมอยู่ตอนนี้จะซ้ำรอยเดิม แหะๆ ผมก็ตามไปบ้างแล้วครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 10
ขอบคุณมากครับสำหรับแนวทางปฏิบัติที่คุณปรัญชาอธิบายแจกแจงมาให้ VI ที่ไม่ต้องการกระเป๋าฉีกเรียนรู้กัน ยิ่งกว่าเตรียมตัวสอบไล่เลยนะครับ ผมคิดไม่ถึงเลยว่าต้องเอากันละเอียดถึงขั้นนี้ถึงจะอยู่ในยุทธจักรตลาดหุ้นได้อย่างปลอดภัยเช่นที่คุณปรัชญาประสบผลสำเร็จมาในระยะกว่า 10 ปีที่ผ่านมา"...นี่คือตัวอย่างที่ผมเคยปฏิบัติมา และจะทำกับทุกตัวหุ้นที่ผมถืออยู่ครับ.."
อีกประการครับ ผมไม่เห็นคุณปรัชญาเอ่ยถึงการศึกษาข้อมูลด้านบัญชี งบดุล การเงิน หรือ PE, P/PB, Dividen yield, DPE ฯลฯ ไม่ทราบจุดนี้ต้องเอาใจใ่ส่ด้วยไหมครับ ผมเองไม่มีพื้นฐานเรื่องบัญชีเลย พอเห็น VI ท่านอื่นถกกันเรื่องนี้เป็นงงทุกที ก็พยายามศึกษาเหมือนกัน แต่ยังไม่ทราบจะเริ่มจากหนังสือเล่มไหนจะดีและง่ายครับ เห็นคุณ Mon money ถกเถียงกันเรื่องนี้ในหัวข้อ " ถามความเห็นเกี่ยวกับการพิจารณาในการลงทุนครับ" 3 มิ.ย. 46 โพสต์โดยคุณ Chatchai ผมนี่มึนกับศัพท์ทางบัญชี อยากได้ข้อแนะนำมากเลยครับสำหรับผู้เริ่มต้นเรียนรู้การศึกษาข้อมูลด้านบัญชี
ด้วยความขอบคุณครับ
PP
-
- Verified User
- โพสต์: 435
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 11
คุณ Mon money ครับ
PP
ขอบคุณครับสำหรับหลักและแนวทางข้อนี้ ผมต้องจดจำและนำไปฝึกฝนปฏิบัติให้ได้ครับ"..มาร์เก็ตติ้งง ก็เพราะเขาเทียบผลตอบแทนของผมกับของลูกค้าอื่นครับ เราได้เป็นกอบเป็นกำกว่า เพื่อนผมที่เล่นเก็งกำไรก็ยืนยันว่าอย่างนั้น เขาบอกว่าเขาเห็นราคามันขึ้นไปมากๆเขาทนไม่ได้ครับ สำหรับผมสบายมาก"
PP
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 12
ขออนุญาติตอบแทนพี่ปรัชญาล่ะกันนะครับ
ค่า pe pbv de หรือตัวเล็กต่างในบัญชีก็ต้องใส่ใจด้วยครับ
ข้อมูลของบริษัท ส่วนแบ่งการตลาด หรือปัจจัยต่างๆที่ว่ามาแล้วเป็ยเชิงคุณภาพ
ทีนี้เราก็ต้องมาดูที่ราคา จะซื้อของก็ต้องมีคุณภาพ แต่ราคาก็ไม่ควรแพงเกินไป
pe pbv บอกถึงคุณภาพเทียบกับราคา
ส่วน de ก็บอกถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
หนี้น้อยก็ต้องดีกว่าเป็นธรรมดา เวลาเกิดวิกฤตขึ้นมาจริงๆ บริษัทก็มีโอกาสฟื้นตัวได้มากกว่า
เพราะฉะนั้น de ก็บอกถึงความปลอดภัย ในตัวหุ้นได้ในระดับหนึ่ง
และก็ยังมีอีกหลายๆ อย่างเลยที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
กระแสเงินสด ผู้บริหาร ฯลฯ
ค่า pe pbv de หรือตัวเล็กต่างในบัญชีก็ต้องใส่ใจด้วยครับ
ข้อมูลของบริษัท ส่วนแบ่งการตลาด หรือปัจจัยต่างๆที่ว่ามาแล้วเป็ยเชิงคุณภาพ
ทีนี้เราก็ต้องมาดูที่ราคา จะซื้อของก็ต้องมีคุณภาพ แต่ราคาก็ไม่ควรแพงเกินไป
pe pbv บอกถึงคุณภาพเทียบกับราคา
ส่วน de ก็บอกถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
หนี้น้อยก็ต้องดีกว่าเป็นธรรมดา เวลาเกิดวิกฤตขึ้นมาจริงๆ บริษัทก็มีโอกาสฟื้นตัวได้มากกว่า
เพราะฉะนั้น de ก็บอกถึงความปลอดภัย ในตัวหุ้นได้ในระดับหนึ่ง
และก็ยังมีอีกหลายๆ อย่างเลยที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
กระแสเงินสด ผู้บริหาร ฯลฯ
- ปรัชญา1
- Verified User
- โพสต์: 1092
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 13
คุณyoyo ได้ผ่านการอบรมการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของ กลต.เป็นรุ่นที่1yoyo เขียน:ขออนุญาติตอบแทนพี่ปรัชญาล่ะกันนะครับ
ค่า pe pbv de หรือตัวเล็กต่างในบัญชีก็ต้องใส่ใจด้วยครับ
ข้อมูลของบริษัท ส่วนแบ่งการตลาด หรือปัจจัยต่างๆที่ว่ามาแล้วเป็ยเชิงคุณภาพ
ทีนี้เราก็ต้องมาดูที่ราคา จะซื้อของก็ต้องมีคุณภาพ แต่ราคาก็ไม่ควรแพงเกินไป
pe pbv บอกถึงคุณภาพเทียบกับราคา
ส่วน de ก็บอกถึงความมั่นคงทางการเงินของบริษัท
หนี้น้อยก็ต้องดีกว่าเป็นธรรมดา เวลาเกิดวิกฤตขึ้นมาจริงๆ บริษัทก็มีโอกาสฟื้นตัวได้มากกว่า
เพราะฉะนั้น de ก็บอกถึงความปลอดภัย ในตัวหุ้นได้ในระดับหนึ่ง
และก็ยังมีอีกหลายๆ อย่างเลยที่ไม่ควรมองข้าม เช่น
กระแสเงินสด ผู้บริหาร ฯลฯ
ผมยอมรับความคิดเห็นน้องyoyoครับ
ส่วนผมไม่เป็นเลย เรื่องเทคนิคเรียนหมดเงินซื้อเทปมาดู
แต่เอาดีไม่ได้ไม่กล้าอธิบายครับ
เรื่องดูค่า p/b p/e ต่างๆผมก็ไม่เป็นครับ เดาลูกเดียว
(เผอิญดวงดีเลยอยู่รอดมาได้หลังจากหมดไป2รอบตามที่เขียนกระทู้นั่นคือชีวิตจริงครับ)
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 18
Good !!!
- ktpkhk8
- Verified User
- โพสต์: 202
- ผู้ติดตาม: 0
ลงทุนแบบไหนกระเป๋าไม่ฉีก (VI หรือ Speculator) ?
โพสต์ที่ 19
เหรียญมี 2 ด้าน ใดๆ ในโลก ล้วนไม่มีถูกผิด แล้วแต่ตีความของใคร กฎเกิดจากการกำหนดโดย
ใครก็ได้จะคิดอย่างไรก็ได้ อยู่ที่คิดเพราะคนเราต่างคิดเห็นต่างกันแม้ในเรื่องเดียวกัน
รูปแบบการลงทุนจึงไม่ยึดติดตายตัว หุ้นก็เหมือนกัน ดูไปก็คล้าย fashion มี trend ในแต่ละช่วง
ของเวลาที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา เหมือนสัจจธรรมที่ว่า "ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง" เกิดขึ้น คงอยู่ และดับไป
เป็นธรรมดา การเลือกวิธีการลงทุนจึงไม่ตายตัวเพราะลงทุนหุ้นตัวเดียวกันทั้งที่จำนวน ราคา และเวลาเดียวกัน
แต่ละคนยังได้ผลตอบแทนที่ต่างกัน คนหนึ่งอยากได้ผลตอบแทนเร็ว อีกคนอยากได้ผลตอบแทนในอีกช่วง
เวลาหนึ่ง จิตใจในการซิ้อหุ้นและขายหุ้นที่ต่างกัน ก็ไม่เสมอไปที่ใครจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในแต่ละระยะเวลา
ที่เดินไปข้างหน้า หุ้นพื้นฐานในวันนี้ก็ไม่แน่อาจกลายเป็นหุ้นเก็งกำไรในวันหน้า ในทำนองเดียวกันหุ้นเก็งกำไรวันนี้อาจกลายเป็นหุ้นพื้นฐานในวันหน้าก็ได้เช่นกัน
สรุปความคือ ไม่ต้องสนใจมากนักว่าจะเป็น VI หรือ Speculator เพราะ ไม่มีใครหรืออะไร รับประกันได้ว่าผลตอบแทนของใครจะได้เท่าไหร่หรือเสียเท่าไหร่
** กำไรคือซื้อราคาถูกกว่าราคาขายเสมอ ** อันนี้แน่นอน --ส่วนกระบวนการและวิธีการลงทุนในลักษณะใดก็คงไม่สำคัญ ในความคิดเห็นของผม
*คนลงทุนทุกคนไม่ว่า VI หรือ Speculator ก็คงหวังลงทุนแล้วได้กำไรจริงไหมครับ?
ใครก็ได้จะคิดอย่างไรก็ได้ อยู่ที่คิดเพราะคนเราต่างคิดเห็นต่างกันแม้ในเรื่องเดียวกัน
รูปแบบการลงทุนจึงไม่ยึดติดตายตัว หุ้นก็เหมือนกัน ดูไปก็คล้าย fashion มี trend ในแต่ละช่วง
ของเวลาที่เปลี่ยนไปได้ตลอดเวลา เหมือนสัจจธรรมที่ว่า "ไม่มีอะไรไม่เปลี่ยนแปลง" เกิดขึ้น คงอยู่ และดับไป
เป็นธรรมดา การเลือกวิธีการลงทุนจึงไม่ตายตัวเพราะลงทุนหุ้นตัวเดียวกันทั้งที่จำนวน ราคา และเวลาเดียวกัน
แต่ละคนยังได้ผลตอบแทนที่ต่างกัน คนหนึ่งอยากได้ผลตอบแทนเร็ว อีกคนอยากได้ผลตอบแทนในอีกช่วง
เวลาหนึ่ง จิตใจในการซิ้อหุ้นและขายหุ้นที่ต่างกัน ก็ไม่เสมอไปที่ใครจะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่าในแต่ละระยะเวลา
ที่เดินไปข้างหน้า หุ้นพื้นฐานในวันนี้ก็ไม่แน่อาจกลายเป็นหุ้นเก็งกำไรในวันหน้า ในทำนองเดียวกันหุ้นเก็งกำไรวันนี้อาจกลายเป็นหุ้นพื้นฐานในวันหน้าก็ได้เช่นกัน
สรุปความคือ ไม่ต้องสนใจมากนักว่าจะเป็น VI หรือ Speculator เพราะ ไม่มีใครหรืออะไร รับประกันได้ว่าผลตอบแทนของใครจะได้เท่าไหร่หรือเสียเท่าไหร่
** กำไรคือซื้อราคาถูกกว่าราคาขายเสมอ ** อันนี้แน่นอน --ส่วนกระบวนการและวิธีการลงทุนในลักษณะใดก็คงไม่สำคัญ ในความคิดเห็นของผม
*คนลงทุนทุกคนไม่ว่า VI หรือ Speculator ก็คงหวังลงทุนแล้วได้กำไรจริงไหมครับ?
KTPK8.>>..หุ้นคือแฟชั่น ต้องคอยอัพเดท เสมอๆ.. (Everything can change)