ที่จริงยังไม่คลอดเลย
คนที่สามเป็นผู้หญิงครับ
เรื่องลูกก็คล้ายๆเรื่องหุ้น
มีเยอะๆเพื่อกระจายความเสี่ยง
แต่ห้ามกระจายความเสี่ยงแม่ของลูกนะ
TSC เป็นหุ้นของกลุ่มไทยซัมมิทและหุ้นส่วนญี่ปุ่น ผลิตสายควบคุมในรถยนต์และรถจักรยานยนต์ รวมถึงผลิตชุดควบคุมรางกระจกรถยนย์ ถ้าดูงบกำไรขาดทุนย้อนหลังประมาณ 4 ปี ยอดขายโตขึ้นเล็กน้อย แต่กำไรค่อยๆลดลงตามมาร์จินสุทธิที่ลดจาก 14% เหลือ 8% ไตรมาสแรกปีนี้กำไรลดลงเหลือ 2% ถ้าดูอย่างนี้ TSC ก็เป็นหุ้นวัฎจักรที่ขึ้นอยู่กับอุตสาหกรรมรถยนต์ รอบของวัฎจักรประมาณ 7-10 ปีตามอายุการใช้งานของรถยนต์ ดังนั้นเวลาที่จะซื้อหุ้นกลุ่มนี้คงเป็นช่วงที่กำไรตกต่ำ P/E จะสูงมาก ให้ดูที่ P/B แทนจะเหมาะสมกว่า ถ้าช่วงการตกต่ำ 3-4 ปี ปีนี้คงเป็นปีแรกๆครับ การพื้นตัวคงเป็นแบบค่อยเป็นค่อยๆไป เหมือนวัฎจักรเศรษกิจช่วงปี 40 ครับ ข้อสังเกตุที่คงต้องติดตาม..bsuntaku เขียน:เรียน ถามคุณลูกอิสานสักเล็กน้อยครับ พอดีผมสนใจ TSC ครับ แต่ข้อมูลค่อนข้างน้อย งบการเงินของ TSC ก็ดี ปันผลก็ดี เป็นบริษัทญี่ปุ่น การควบคุมต้นทุนก็ดี แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่อุตสาหกรรมรถยนต์ตกต่ำ แต่คาดว่าน่าจะต่ำได้ไม่นาน ซึ่งช่วงนี้คาดว่าเป็นช่วงที่ดีที่ควรเข้าไปถือครอง จึงอยากสอบถามคุณลูกอิสานว่า พื้นฐานที่น่าจะพิจารณาอื่นๆ มีอะไรบ้างไหมครับ ขอบคุณคุณลูกอิสานมาก ๆ ครับสำหรับคำตอบ
1.บริษัทมีลูกค้ารายใหญ่ๆ 3 รายคือฮอนด้า โตโยต้า อิซูซุ ดังนั้นอำนาจต่อรองของลูกค้ามีสูง จะเห็นได้ว่าอัตรากำไรสุทธิที่ทำได้มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง กำไรที่เป็นตัวเงินก็ลดลงแม้ยอดขายจะเพิ่ม ยิ่งสถาณการณ์ตอนนี้บริษัทรถยนต์ยังขาดทุน บริษัทผลิตชิ้นส่วนที่มีอำนาจต่อรองต่ำกว่าก็ต้องร่วมรับภาระด้วย จำได้ว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้วบริษัทย้ายไปโรงงานใหม่ ซึ่งได้ BOI ทำให้ไม่ต้องเสียภาษี ก็คาดกันว่ากำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้นจากเหตุผลนี้ แต่สิ่งนี้ไม่เกิดขึ้นกลับตรงกันข้ามคือมาร์จินลดลง ไม่แน่ใจว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้เป็นอย่างนี้ คงมีหลายสาเหตุ
2.อัตราผลตอบแทนเงินปันผลสูง แต่นั่นเป็นฐานกำไรปีที่แล้วเปรียบเทียบกับราคาหุ้นปัจจุบัน แต่กำไรปีนี้คงลดลงมากในอัตราที่มากกว่าการลดลงของยอดขาย โดยไตรมาสแรกปีนี้ทำได้เพียง 10 ล้าน ในขณะที่ปีที่แล้วทำได้ 56 ล้าน ทั้งที่ยอดขายลดลงเพียง 40% เพราะบริษัทมีต้นทุนคงที่ ที่ไม่สามารถลดลงได้ตามยอดขาย เช่นพวกค่าเสื่อมอาคาร อุปกรณ์ ค่าใช้จ่ายบริหาร ดังนั้นการคาดหวังผลตอบแทนเงินปันผลสูงๆ ในระยะอันใกล้นี้คงยากครับ
3.ยอดขายกลุ่มรถจักรยานยนต์ ในกลุ่มรถยนต์ไทยมีการผลิตเพิ่มทุกปี เนื่องจากเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญของโลก แต่ในกลุ่มรถจักรยานยนต์ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 30% กลับมีการผลิตที่ลดลง น่าจะเป็นเพราะตลาดรถจักรยานยนต์ในประเทศอิ่มตัว ในขณะที่การส่งออกลดลงมาก เพราะประเทศลูกค้าหลักๆมีการประกอบรถเองเพื่อทดแทนการนำเข้า ดังนั้นยอดขายในกลุ่มนี้มีแนวโน้มลดลงครับ
โดยภาพรวมแม้บริษัทจะประสบความยากลำบากตามภาวะอุตสาหกรรมรถยนย์ แต่ด้วยงบดุลที่แข็งแกร่งบริษัทน่าจะผ่านวิกฤตในครั้งนี้ไปได้ เวลาที่จะซื้อหุ้นก็คงเป็นช่วงนี้ที่ P/E สูงๆ แต่ P/B ต่ำๆ ส่วนช่วงไหน จังหวะไหนเหมาะที่จะซื้อต้องดูกันเอาเอง เพราะวัฎจักรแต่ละรอบก็กินเวลาค่อนข้างนาน ยังมีเวลาซื้อหุ้นอีกนานครับ...