พี่มองว่ามีโอกาสขายได้ ถ้าสภาพการเมืองและต่างประเทศเข้าสู่สภาวะปกติ การซื้อหุ้นตัวนี้เลยคล้ายๆกับการเก็งกำไรทัพย์สินแฝงที่ซ่อนไว้อยู่โอกาสที่ขายไม่ได้ก็มีสูง แต่ถ้าขายไม่ได้ อย่างมากพี่ก็ขาดทุนไม่น่าจะเกิน10เปอร์เซนต์ แต่ถ้าขายได้มีโอกาสได้เด้งหนึ่ง มันก็น่าลองครับ แต่ในเมื่อมันคือการเก็งกำไร พี่จึงประดับพอร์ตตัวนี้แค่3เปอร์เซนต์ของพอร์ตเองนะครับnasesus เขียน:สวัสดีครับพี่นริศ ขอรบกวนถามพี่หน่อยครับ พี่คิดว่ากองทุนโรงแรมของ ci จะสำเร็จมั้ยครับ ผมมองว่า ci แบกหนี้ก้อนใหญ่ไว้ส่วนนึงก็เพราะโรงแรมอ่ะครับ
นริศสอนน้อง
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 721
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- nasesus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1278
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 722
ขอบคุณครับพี่ เร็วกว่า ems อีกครับพี่naris เขียน: พี่มองว่ามีโอกาสขายได้ ถ้าสภาพการเมืองและต่างประเทศเข้าสู่สภาวะปกติ การซื้อหุ้นตัวนี้เลยคล้ายๆกับการเก็งกำไรทัพย์สินแฝงที่ซ่อนไว้อยู่โอกาสที่ขายไม่ได้ก็มีสูง แต่ถ้าขายไม่ได้ อย่างมากพี่ก็ขาดทุนไม่น่าจะเกิน10เปอร์เซนต์ แต่ถ้าขายได้มีโอกาสได้เด้งหนึ่ง มันก็น่าลองครับ แต่ในเมื่อมันคือการเก็งกำไร พี่จึงประดับพอร์ตตัวนี้แค่3เปอร์เซนต์ของพอร์ตเองนะครับ
ทางที่ไม่มีไฟ ใช่ว่าไม่มีทาง เพียงแค่การก้าวไปข้างหน้าต้องใช้มากกว่าการหวังพึ่งแค่ดวงตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 953
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 724
หุ้นที่ต้องเล่นกับ การเก็งกำไรทรัพย์สินแฝงที่ซ่อนไว้naris เขียน: พี่มองว่ามีโอกาสขายได้ ถ้าสภาพการเมืองและต่างประเทศเข้าสู่สภาวะปกติ การซื้อหุ้นตัวนี้เลยคล้ายๆกับการเก็งกำไรทัพย์สินแฝงที่ซ่อนไว้อยู่โอกาสที่ขายไม่ได้ก็มีสูง แต่ถ้าขายไม่ได้ อย่างมากพี่ก็ขาดทุนไม่น่าจะเกิน10เปอร์เซนต์ แต่ถ้าขายได้มีโอกาสได้เด้งหนึ่ง มันก็น่าลองครับ แต่ในเมื่อมันคือการเก็งกำไร พี่จึงประดับพอร์ตตัวนี้แค่3เปอร์เซนต์ของพอร์ตเองนะครับ
มีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหนเหรอครับ
จำได้ว่ามีที่พี่นริศโพสไว้ (หรือปล่าว)
บอกว่า หลายๆบริษัทสุดท้ายก็ไม่ยอมปล่อยทรัพย์สินที่ซ่อนไว้ออกมา
หรือปล่อยไม่ได้ครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 725
โอกาสที่จะชนะหรือแพ้ขึ้นกับแต่ละกรณีครับ ตัดสินแทนกันไม่ได้ ส่วนในกรณีCI พี่ก็ประเมินไว้สามระดับ และโอกาสที่จะสียเงินก็ไม่มาก แต่ได้เป็นเด้งมี แล้วทำไมจะไม่คุ้มเสี่ยงดูหล่ะ แต่เห็นไหมว่าพี่ก็ถือเพียง3เปอร์เซนต์ของพอร์ต ถ้าพี่มีข้อมูลมากขึ้นก็เก็บเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนสัญญาณบ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้มันมี ก็ติดตามไม่ให้คลาดสายตาmoonchild เขียน: หุ้นที่ต้องเล่นกับ การเก็งกำไรทรัพย์สินแฝงที่ซ่อนไว้
มีโอกาสชนะมากน้อยแค่ไหนเหรอครับ
จำได้ว่ามีที่พี่นริศโพสไว้ (หรือปล่าว)
บอกว่า หลายๆบริษัทสุดท้ายก็ไม่ยอมปล่อยทรัพย์สินที่ซ่อนไว้ออกมา
หรือปล่อยไม่ได้ครับ
แก้ไขล่าสุดโดย naris เมื่อ อาทิตย์ ก.พ. 14, 2010 7:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- pacabee
- Verified User
- โพสต์: 381
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 726
แล้วอย่างนี้พี่นริศจะคำนวนเคลลี่ฟอมูล่า หรือใช้ทฤษฎีเกมต่าง ๆ เข้าช่วยไหมครับ หรือใช้sense จากประสบการณ์ของตัวเองเป็นหลัก ซึ่งเท่าที่ผมอ่านโอกาสที่จะชนะหรือแพ้ขึ้นกับแตละกรณีครับ ตัดสินแทนกันไม่ได้ ส่วนในกรณีCI พี่ก็ประเมินไว้สามระดับ และดอกาสที่จะสียเงินก็ไม่มาก แต่ได้เป็นเด้งมี แล้วทำไมจะไม่คุ้มเสี่ยงดูหล่ะ แต่เห็นไหมว่าพี่ก็ถือเพียง3เปอร์เซนต์ของพอร์ต ถ้าพี่มีข้อมูลมากขึ้นก็เก็บเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนสัญญาณบ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้มันมี ก็ติดตามไม่ให้คลาดสายตา
ที่พี่นริศเขียนคล้ายๆ กับหนังสือที่ผมเพิ่งอ่านจบไปอะครับ
รบกวนถามอีกนิดพี่นริศใช้บริการของบริษัท BOL ไหมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 953
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 727
ขอบคุณครับnaris เขียน: โอกาสที่จะชนะหรือแพ้ขึ้นกับแตละกรณีครับ ตัดสินแทนกันไม่ได้ ส่วนในกรณีCI พี่ก็ประเมินไว้สามระดับ และดอกาสที่จะสียเงินก็ไม่มาก แต่ได้เป็นเด้งมี แล้วทำไมจะไม่คุ้มเสี่ยงดูหล่ะ แต่เห็นไหมว่าพี่ก็ถือเพียง3เปอร์เซนต์ของพอร์ต ถ้าพี่มีข้อมูลมากขึ้นก็เก็บเพิ่มขึ้นเท่านั้นเอง ส่วนสัญญาณบ่งบอกว่ามีความเป็นไปได้มันมี ก็ติดตามไม่ให้คลาดสายตา
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 728
ขอถามความเห็นพี่นริศเกี่ยวกับหุ้น CYBERครับ
cyber สรุปจาก money talk ของเก่า 22 /12/09
- ก่อตั้งปี 2000 เคยทำเกี่ยวกับ software,multimedia (project by project)จากนั้นก็นำเข้า software
- เปลี่ยน model ธุรกิจ --> สร้าง productเอง เริ่มจาก game บน pc สร้างงานแรกใช้เวลา 3 ปี --> bundle ไปกับเครื่อง HP เลย (50000กล่องแรก)
-->หาตัวแทนจำหน่าย
-ปี 2004 --> พัฒนา game,application(ดูข่าว,dictionary,ภาษาเวียดนามให้nokiaในต่างประเทศ)โทรศัพท์มือถือ
-->bundleไปกับค่ายมือถือเลย(ค่ายมือถือซื้อเป็นlicenseเลย)
-ปี 2006-2007 -->focus ตลาดต่างประเทศ focusที่เกม console เพราะตลาดใหญ่ 70%ของตลาดเกม (30%เป็นเกมpc)
--> trendกำลังเปล่ยนไป คนเล่นไม่ใช่คอเกมอย่างเดียว ทำอย่างอื่นก็ได้เช่นเกม wii ออกกำลังกายก็ได้,rehabก็ได้
-->nintendo sony microsoft ให้เป็นผู้พัฒนาที่ถูกต้อง (3บริษัทเป็นคนปั้มแผ่นด้วย) -->ขายค่ายเกมต่างประเทศ cyberเป็นคนเริ่มidea เขียนโปรแกรมแล้วส่งไปให้ค่ายเกมต่างประเทศขาย ตัวแทนจำหน่าย การันตีตัวเลขให้ cyber จ่ายเป็น license เช่น 5หมื่นแผ่น,8หมื่นแผ่นแล้วแต่ ขายดีหรือขายไม่่ดี
-->พัฒนา softwareที่มี edutainment
ปจบ-->gameconsole 70%
เกมบน pc30% -->ขายบนตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
ปีนี้นำเกมconsoleพัฒนาเป็น edutainment -->english monster เปิดเป็น โรงเรียน -->เด็ก6-12ขวบได้ nintendo ds+software 1500บาทต่อเดือน
(เป็นบริษัทลูก ชื่อ informatic plus) -เลี้ยงmonster จากการท่องศัพท์ ทำการบ้าน etc.
-ที่ รร มี ครู คอยตรวจการบ้านทุกอาทิตย์เจอกัน ครึ่ง ชม/wk ระหว่างนั้นก็กลับไปทำการบ้านที่บ้าน
-1 course 16 months -->คำศัพท์4000คำ,gramma
-สาขาแรก central ชิดลม สาขาละ 100-200คน ครูสาขาละ1 คน
-ปีหน้า 40สาขา 60 franchise เปิดที่ไหนก็ได้ตึกแถวก็ได้ห้างก็ได้-->ผู้ปกครองสนใจfranchiseเยอะ
- เริ่มขาย franchise ช่วง มกรา 4แสนบาท/1 franchise บริษัทนำอุปกรณ์มาให้
-มีแค่สถานที่+4แสนเปิดได้เลย เรื่องครูมีการ trainningให้
-50x60 ตร เมตรก็เปิดได้แล้ว
-อนาคต --> brain trainning, IQ EQ, เลข
-brain trainning -->focusมากกว่าเด็ก
-->ทีมงาน ในบริษัท 60คน ผลิต 40 หลังบ้าน 20
ผลประกอบการ CYBER
ปี
2549
2550
2551
ไตรมาส 1-2 / 2552
รายได้รวม (ล้านบาท)
73.51
77.93
89.99
27.89 -->software game ครึ่งปีน้อยเพราะเป็น seasonal มาในช่วงQ3Q4( Xmas) รายได้สูงเยอะ
อัตรากำไรขั้นต้น (%)
36.08
51.60
53.63
61.65
กำไร (ขาดทุน) (บาท)
- 7.07
-5.43
9.04
6.06
-ในอดีตนำเข้าเกม pc แล้วขาย-->กำไรไม่ดี
-ปจบ software พัฒนาเอง ส่งออกเอง-->GPMดี ปี51,52กำไรดีขึ้น (ปี51,52 GPM 53,60% ตามลำดับ)
-->รายได้ปี 52 น่าจะโตซัก 30%
-->gameconsole เพิ่งลงตลาดปลายปีที่แล้ว
-รายได้ ทางpublisher-->สมมุติ gurantee 50000แผ่น ถ้าขายได้เกินมา จะเป็นกำไร 100%
-ถ้ามีเกม เช่น barby fashion show ถ้าทำยอดขายได้ 1ล้านกล่อง กำไรจะโตมหาศาล(cost fixอยุ่ ลงทุนแค่ครั้งเดียว)
-เกมแนว casual,edutainment จะค่อยๆโตไม่หวือหวา
-ยกตัวอย่าง brainage จากบริษัทญี่ปุ่นขายได้ 14ล้านกล่อง-->ธุรกิจโตเป็นพันล้าน
-จากrecord cyber พัฒนาแล้วจำหน่ายได้หมด มีการคุยกับทาง publisherก่อน ลูกค้าสนใจ จึงเริ่มผลิต ดังนั้นโอกาสขายไม่ได้น้อยมากเพราะตกลงไว้แล้ว
-1ปีทำ 10-15 game pc3-4เรื่อง console 10กว่าๆเรื่อง
-ปีนี้เป็นปีที่ 9ที่ตั้งบริษัทมา คุมค่าใช้จ่าย คุมงบได้ค่อนข้างดี forcast งบได้ค่อนข้างแม่น
-1เรื่อง5หมื่น-แสน กล่อง ปจบขายเป็นทวีป 3ล้าน-10ล้าน ต้นทุนอยู่ไม่เกิน 30%
- ผู้ถือหุ้น -->กองทุน วรรณ 40% (SME)
--> asia equity venture 18%
-->ที่เหลือ ผู้บริหาร เกือบ42%
-อยากเข้า MAI เพราะ เห็นภาพตลาดโลกชัดเจน ระดมทุน ขยายplatform จาก nintendo-->sony-->microsoft ,ขยาย รร
-IPO มกรา ยังไม่ได้กำหนด ราคา range 1.60-2.00 ขาย60ล้านหุ้น ประมาณ 20%
-เป็น new economy cretive economy
cyber สรุปจาก money talk ของเก่า 22 /12/09
- ก่อตั้งปี 2000 เคยทำเกี่ยวกับ software,multimedia (project by project)จากนั้นก็นำเข้า software
- เปลี่ยน model ธุรกิจ --> สร้าง productเอง เริ่มจาก game บน pc สร้างงานแรกใช้เวลา 3 ปี --> bundle ไปกับเครื่อง HP เลย (50000กล่องแรก)
-->หาตัวแทนจำหน่าย
-ปี 2004 --> พัฒนา game,application(ดูข่าว,dictionary,ภาษาเวียดนามให้nokiaในต่างประเทศ)โทรศัพท์มือถือ
-->bundleไปกับค่ายมือถือเลย(ค่ายมือถือซื้อเป็นlicenseเลย)
-ปี 2006-2007 -->focus ตลาดต่างประเทศ focusที่เกม console เพราะตลาดใหญ่ 70%ของตลาดเกม (30%เป็นเกมpc)
--> trendกำลังเปล่ยนไป คนเล่นไม่ใช่คอเกมอย่างเดียว ทำอย่างอื่นก็ได้เช่นเกม wii ออกกำลังกายก็ได้,rehabก็ได้
-->nintendo sony microsoft ให้เป็นผู้พัฒนาที่ถูกต้อง (3บริษัทเป็นคนปั้มแผ่นด้วย) -->ขายค่ายเกมต่างประเทศ cyberเป็นคนเริ่มidea เขียนโปรแกรมแล้วส่งไปให้ค่ายเกมต่างประเทศขาย ตัวแทนจำหน่าย การันตีตัวเลขให้ cyber จ่ายเป็น license เช่น 5หมื่นแผ่น,8หมื่นแผ่นแล้วแต่ ขายดีหรือขายไม่่ดี
-->พัฒนา softwareที่มี edutainment
ปจบ-->gameconsole 70%
เกมบน pc30% -->ขายบนตัวแทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ
ปีนี้นำเกมconsoleพัฒนาเป็น edutainment -->english monster เปิดเป็น โรงเรียน -->เด็ก6-12ขวบได้ nintendo ds+software 1500บาทต่อเดือน
(เป็นบริษัทลูก ชื่อ informatic plus) -เลี้ยงmonster จากการท่องศัพท์ ทำการบ้าน etc.
-ที่ รร มี ครู คอยตรวจการบ้านทุกอาทิตย์เจอกัน ครึ่ง ชม/wk ระหว่างนั้นก็กลับไปทำการบ้านที่บ้าน
-1 course 16 months -->คำศัพท์4000คำ,gramma
-สาขาแรก central ชิดลม สาขาละ 100-200คน ครูสาขาละ1 คน
-ปีหน้า 40สาขา 60 franchise เปิดที่ไหนก็ได้ตึกแถวก็ได้ห้างก็ได้-->ผู้ปกครองสนใจfranchiseเยอะ
- เริ่มขาย franchise ช่วง มกรา 4แสนบาท/1 franchise บริษัทนำอุปกรณ์มาให้
-มีแค่สถานที่+4แสนเปิดได้เลย เรื่องครูมีการ trainningให้
-50x60 ตร เมตรก็เปิดได้แล้ว
-อนาคต --> brain trainning, IQ EQ, เลข
-brain trainning -->focusมากกว่าเด็ก
-->ทีมงาน ในบริษัท 60คน ผลิต 40 หลังบ้าน 20
ผลประกอบการ CYBER
ปี
2549
2550
2551
ไตรมาส 1-2 / 2552
รายได้รวม (ล้านบาท)
73.51
77.93
89.99
27.89 -->software game ครึ่งปีน้อยเพราะเป็น seasonal มาในช่วงQ3Q4( Xmas) รายได้สูงเยอะ
อัตรากำไรขั้นต้น (%)
36.08
51.60
53.63
61.65
กำไร (ขาดทุน) (บาท)
- 7.07
-5.43
9.04
6.06
-ในอดีตนำเข้าเกม pc แล้วขาย-->กำไรไม่ดี
-ปจบ software พัฒนาเอง ส่งออกเอง-->GPMดี ปี51,52กำไรดีขึ้น (ปี51,52 GPM 53,60% ตามลำดับ)
-->รายได้ปี 52 น่าจะโตซัก 30%
-->gameconsole เพิ่งลงตลาดปลายปีที่แล้ว
-รายได้ ทางpublisher-->สมมุติ gurantee 50000แผ่น ถ้าขายได้เกินมา จะเป็นกำไร 100%
-ถ้ามีเกม เช่น barby fashion show ถ้าทำยอดขายได้ 1ล้านกล่อง กำไรจะโตมหาศาล(cost fixอยุ่ ลงทุนแค่ครั้งเดียว)
-เกมแนว casual,edutainment จะค่อยๆโตไม่หวือหวา
-ยกตัวอย่าง brainage จากบริษัทญี่ปุ่นขายได้ 14ล้านกล่อง-->ธุรกิจโตเป็นพันล้าน
-จากrecord cyber พัฒนาแล้วจำหน่ายได้หมด มีการคุยกับทาง publisherก่อน ลูกค้าสนใจ จึงเริ่มผลิต ดังนั้นโอกาสขายไม่ได้น้อยมากเพราะตกลงไว้แล้ว
-1ปีทำ 10-15 game pc3-4เรื่อง console 10กว่าๆเรื่อง
-ปีนี้เป็นปีที่ 9ที่ตั้งบริษัทมา คุมค่าใช้จ่าย คุมงบได้ค่อนข้างดี forcast งบได้ค่อนข้างแม่น
-1เรื่อง5หมื่น-แสน กล่อง ปจบขายเป็นทวีป 3ล้าน-10ล้าน ต้นทุนอยู่ไม่เกิน 30%
- ผู้ถือหุ้น -->กองทุน วรรณ 40% (SME)
--> asia equity venture 18%
-->ที่เหลือ ผู้บริหาร เกือบ42%
-อยากเข้า MAI เพราะ เห็นภาพตลาดโลกชัดเจน ระดมทุน ขยายplatform จาก nintendo-->sony-->microsoft ,ขยาย รร
-IPO มกรา ยังไม่ได้กำหนด ราคา range 1.60-2.00 ขาย60ล้านหุ้น ประมาณ 20%
-เป็น new economy cretive economy
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 729
น้องนีโออุตส่าห์พิมพ์ตั้งยาวแต่พี่คงจะตอบได้ไม่ยาว :lol:
พี่ได้ฟังที่ดร.ท่านสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่พี่ยังมีเรื่องคาใจที่พี่ยังหาคำตอบให้ไม่ได้คือเรื่อง
1.ความรอบรู้เรื่องเกมของพี่ยังไม่มี...พี่ลองดูเกมที่เขาทำขึ้นพี่กลับมองว่าพี่ไม่เก็ตเลย
2.เรื่องความมั่นคงจากผู้ซื้อ ทำไมเขามาพึ่งพิงจากเราทั้งๆที่จีนน่าจะดีและถูกกว่า
3.อำนาจการต่อรองพี่ยังไม่มีคำตอบว่าเรามีอำนาจต่อรองมากน้อยเพียงใด
4.รูปแบบโมเดลธุรกิจของเขาพี่ยังไม่เข้ใจเพียงพอครับ
5.ราคาที่ขายไอพีโอค่อนข้างแพงในสายตาพี่ที่ดูคร่าวๆแต่ถ้าเขาสามารถโตได้อย่างที่เขาว่าไว้จริง ราคาที่เขาขายไอพีโอคงไม่แพงเท่าไหร่
สรุปว่าพี่คงจะต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อสรุปว่าเขาน่าลงทุนหรือไม่ครับ
พี่ได้ฟังที่ดร.ท่านสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่พี่ยังมีเรื่องคาใจที่พี่ยังหาคำตอบให้ไม่ได้คือเรื่อง
1.ความรอบรู้เรื่องเกมของพี่ยังไม่มี...พี่ลองดูเกมที่เขาทำขึ้นพี่กลับมองว่าพี่ไม่เก็ตเลย
2.เรื่องความมั่นคงจากผู้ซื้อ ทำไมเขามาพึ่งพิงจากเราทั้งๆที่จีนน่าจะดีและถูกกว่า
3.อำนาจการต่อรองพี่ยังไม่มีคำตอบว่าเรามีอำนาจต่อรองมากน้อยเพียงใด
4.รูปแบบโมเดลธุรกิจของเขาพี่ยังไม่เข้ใจเพียงพอครับ
5.ราคาที่ขายไอพีโอค่อนข้างแพงในสายตาพี่ที่ดูคร่าวๆแต่ถ้าเขาสามารถโตได้อย่างที่เขาว่าไว้จริง ราคาที่เขาขายไอพีโอคงไม่แพงเท่าไหร่
สรุปว่าพี่คงจะต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อสรุปว่าเขาน่าลงทุนหรือไม่ครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 730
ขอบคุณครับnaris เขียน:น้องนีโออุตส่าห์พิมพ์ตั้งยาวแต่พี่คงจะตอบได้ไม่ยาว :lol:
พี่ได้ฟังที่ดร.ท่านสัมภาษณ์เหมือนกัน แต่พี่ยังมีเรื่องคาใจที่พี่ยังหาคำตอบให้ไม่ได้คือเรื่อง
1.ความรอบรู้เรื่องเกมของพี่ยังไม่มี...พี่ลองดูเกมที่เขาทำขึ้นพี่กลับมองว่าพี่ไม่เก็ตเลย
2.เรื่องความมั่นคงจากผู้ซื้อ ทำไมเขามาพึ่งพิงจากเราทั้งๆที่จีนน่าจะดีและถูกกว่า
3.อำนาจการต่อรองพี่ยังไม่มีคำตอบว่าเรามีอำนาจต่อรองมากน้อยเพียงใด
4.รูปแบบโมเดลธุรกิจของเขาพี่ยังไม่เข้ใจเพียงพอครับ
5.ราคาที่ขายไอพีโอค่อนข้างแพงในสายตาพี่ที่ดูคร่าวๆแต่ถ้าเขาสามารถโตได้อย่างที่เขาว่าไว้จริง ราคาที่เขาขายไอพีโอคงไม่แพงเท่าไหร่
สรุปว่าพี่คงจะต้องทำการบ้านมากขึ้นเพื่อสรุปว่าเขาน่าลงทุนหรือไม่ครับ
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1588
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 734
[quote="moonchild"][quote="sai"][quote="GeneraX"]ขออนุญาติพี่นริศครับ
เอาประสบการณ์ที่เคยอยู่ในวงการเกมคอมนะครับ... ผมไม่ประทับใจกับบริษัทนี้เท่าไหร่...
เอาประสบการณ์ที่เคยอยู่ในวงการเกมคอมนะครับ... ผมไม่ประทับใจกับบริษัทนี้เท่าไหร่...
คนรู้ไม่พูด คนพูดไม่รู้
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 735
อยากถามความเห็นของพี่นริศสำหรับกลุ่ม Electronic อย่าง KCE ด้วยครับ เห็นปีนี้กลุ่มอิเล็คทรอนิคกำลังจะ turnaround เป็นดาวรุ่งเลย และพื้นฐานของ KCE ดูจะเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่ได้ผู้บริหารคนเก่งเข้ามาครับ แต่ไม่ทราบว่ากำไรที่แสดงให้เห็นใน Q ที่ผ่านมาจะยั่งยืนต่อไปหรือไม่ครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 736
พี่มองว่าเขามีโอกาสเทริ์นได้สูง ด้วยองค์ประกอบของตลาดรถยนต์ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สำหรับKCEโตขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ผลิตสินค้าPCBที่จัดส่งให้กลุ่มรถและกลุ่มอื่นๆมีอำนาจการต่อรองราคามากขึ้น แต่ถ้าจะถามว่ายั่งยืนแค่ไหน ทางKCEต้องเข้าไปวิสิทหรือสอบถามผู้บริหารเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในด้านต่างๆครับ เพื่อจะมีความยั่งยืนในด้านการแข่งขันกับจีนที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวLaziale เขียน:อยากถามความเห็นของพี่นริศสำหรับกลุ่ม Electronic อย่าง KCE ด้วยครับ เห็นปีนี้กลุ่มอิเล็คทรอนิคกำลังจะ turnaround เป็นดาวรุ่งเลย และพื้นฐานของ KCE ดูจะเปลี่ยนไปมากนับตั้งแต่ได้ผู้บริหารคนเก่งเข้ามาครับ แต่ไม่ทราบว่ากำไรที่แสดงให้เห็นใน Q ที่ผ่านมาจะยั่งยืนต่อไปหรือไม่ครับ
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามก็มีเรื่องภาระดอกเบี้ย เรื่องค่าเงินยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เรื่องGPMในอดีตที่เหวี่ยงมากพอสมควรครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 737
ขอบคุณพี่นริศมากๆครับ :Dnaris เขียน: พี่มองว่าเขามีโอกาสเทริ์นได้สูง ด้วยองค์ประกอบของตลาดรถยนต์ซึ่งเป็นตลาดที่ใหญ่สำหรับKCEโตขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้ผู้ผลิตสินค้าPCBที่จัดส่งให้กลุ่มรถและกลุ่มอื่นๆมีอำนาจการต่อรองราคามากขึ้น แต่ถ้าจะถามว่ายั่งยืนแค่ไหน ทางKCEต้องเข้าไปวิสิทหรือสอบถามผู้บริหารเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนในด้านต่างๆครับ เพื่อจะมีความยั่งยืนในด้านการแข่งขันกับจีนที่เป็นคู่แข่งที่น่ากลัว
ส่วนปัจจัยเสี่ยงที่ยังต้องติดตามก็มีเรื่องภาระดอกเบี้ย เรื่องค่าเงินยุโรปซึ่งเป็นลูกค้าหลัก เรื่องGPMในอดีตที่เหวี่ยงมากพอสมควรครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 739
ผมก็อยากจะไปแลกเปลี่ยนความรู้กับทุกๆท่านเหมือนกันครับ แต่ช่วงนี้ต้องคอยเคลียร์งานซุปเปอร์ให้น้องอยู่ ช่วงหลังงบq2น่าจะว่างขึ้นครับ ถึงจะไปร่วมงานกับเพื่อนๆได้ ช่วงนี้ให้ท่านอื่นๆรวมมิตติ้งก่อนเลยครับsupparoj เขียน:คุณนริศจะจัด meeting อิสานไหมครับ ผมว่าน้องๆอยากไปนะครับ ผมก็อยากไปครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 740
ชาว thaivi มีมิตติ้งทุกภาคของประเทศไทย นับว่าน่ายินดีครับ :lol: :lol:
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 741
รบกวนถามพี่นริศถึงความมั่นใจในการลงทุนระยะยาวใน KIAT และ HTECH ของพี่หน่อยครับ ว่ามีจุดโดนใจอย่างไรบ้างครับ ขอตั้งหัวข้อซักหน่อยนะครับ
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
4. ขอจุดโดนใจในการลงทุนใน 2 ตัวนี้ของพี่นริศหน่อยคับ :8)
สำหรับผมเพิ่งลงทุน 2 ตัวนี้ได้ไม่นานและสนใจในการทำธุรกิจที่ค่อนข้างเฉพาะทางของทั้ง 2 ตัวนี้ ต้นทุนราวๆนี้ ถือว่าค่อนข้างสูง (ใจร้อนกลัวว่าจะไปไกลกว่านี้ ถือเป็นข้อเสียก็ว่าได้ :( ) เพราะเพิ่งศึกษาแต่ค่อนข้างมั่นใจและประมาณการณ์กำไรในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าไว้ค่อนข้างเยอะทีเดียวว่าน่าจะโตได้อีกเยอะ แต่ยาวกว่านั้นไม่แน่ใจครับว่าจะเป็นอย่างไร รบกวนพี่นริศช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
4. ขอจุดโดนใจในการลงทุนใน 2 ตัวนี้ของพี่นริศหน่อยคับ :8)
สำหรับผมเพิ่งลงทุน 2 ตัวนี้ได้ไม่นานและสนใจในการทำธุรกิจที่ค่อนข้างเฉพาะทางของทั้ง 2 ตัวนี้ ต้นทุนราวๆนี้ ถือว่าค่อนข้างสูง (ใจร้อนกลัวว่าจะไปไกลกว่านี้ ถือเป็นข้อเสียก็ว่าได้ :( ) เพราะเพิ่งศึกษาแต่ค่อนข้างมั่นใจและประมาณการณ์กำไรในอนาคตอีก 2-3 ปีข้างหน้าไว้ค่อนข้างเยอะทีเดียวว่าน่าจะโตได้อีกเยอะ แต่ยาวกว่านั้นไม่แน่ใจครับว่าจะเป็นอย่างไร รบกวนพี่นริศช่วยชี้แนะด้วยนะครับ ขอบคุณล่วงหน้าครับ :D
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 743
[quote="Laziale"]รบกวนถามพี่นริศถึงความมั่นใจในการลงทุนระยะยาวใน KIAT และ HTECH ของพี่หน่อยครับ ว่ามีจุดโดนใจอย่างไรบ้างครับ ขอตั้งหัวข้อซักหน่อยนะครับ
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
-เท่าที่พี่ได้พูดคุยกับคุณพีทและสอบถามเช็คประวัติในอดีต ท่านติดนิสัยฝรั่งมาพอสมควร เรื่องที่จะซิกแซกหาผลประโยชน์เข้าตัวเองคงไม่เกิดครับ ส่วนคุณเกียรติ พี่ยังไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ฟังจากสัมภาษณ์หลายๆครั้งพี่ว่าเขาเป็ฯคนธรรมะธรรมโมระดับหนึ่งเลย และเคยpmกับคนที่รู้จักท่าน เขาคนนั้นบอกว่าพื้นฐานครอบครัวนี้ดี ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีครับ
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
-ตอนนี้ทั้งสองบริษัทค่อนข้างจะมีแผนงานเป้หมายที่ชัดเจนในการเป็นที่หนึ่งของสายงานตน และดูกลยุทธ์ที่ทั้งสองบริษัทที่เน้นมา พี่ชอบในกลยุทธ์และวิถีทางของบริษัททั้งสองครับ
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
-ทั้งสองบริษัทสามารถจะโตได้จากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่โตขึ้น จากโอกาสของตลาดใหม่ๆที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนเป็นบลูโอเชี่ยนอยู่อีกหลายๆปี และทั้งสองบริษัทเป็นผู้นำอยู่ในตลาดก่อนคู่แข่งทำให้่มีภาษีดีกว่า ถ้าอุตสาหกรรมถึงจุดอิ่มตัวครับ
4. ขอจุดโดนใจในการลงทุนใน 2 ตัวนี้ของพี่นริศหน่อยคับ
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
-เท่าที่พี่ได้พูดคุยกับคุณพีทและสอบถามเช็คประวัติในอดีต ท่านติดนิสัยฝรั่งมาพอสมควร เรื่องที่จะซิกแซกหาผลประโยชน์เข้าตัวเองคงไม่เกิดครับ ส่วนคุณเกียรติ พี่ยังไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ฟังจากสัมภาษณ์หลายๆครั้งพี่ว่าเขาเป็ฯคนธรรมะธรรมโมระดับหนึ่งเลย และเคยpmกับคนที่รู้จักท่าน เขาคนนั้นบอกว่าพื้นฐานครอบครัวนี้ดี ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีครับ
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
-ตอนนี้ทั้งสองบริษัทค่อนข้างจะมีแผนงานเป้หมายที่ชัดเจนในการเป็นที่หนึ่งของสายงานตน และดูกลยุทธ์ที่ทั้งสองบริษัทที่เน้นมา พี่ชอบในกลยุทธ์และวิถีทางของบริษัททั้งสองครับ
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
-ทั้งสองบริษัทสามารถจะโตได้จากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่โตขึ้น จากโอกาสของตลาดใหม่ๆที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนเป็นบลูโอเชี่ยนอยู่อีกหลายๆปี และทั้งสองบริษัทเป็นผู้นำอยู่ในตลาดก่อนคู่แข่งทำให้่มีภาษีดีกว่า ถ้าอุตสาหกรรมถึงจุดอิ่มตัวครับ
4. ขอจุดโดนใจในการลงทุนใน 2 ตัวนี้ของพี่นริศหน่อยคับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2147
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 744
[quote="naris"][quote="Laziale"]รบกวนถามพี่นริศถึงความมั่นใจในการลงทุนระยะยาวใน KIAT และ HTECH ของพี่หน่อยครับ ว่ามีจุดโดนใจอย่างไรบ้างครับ ขอตั้งหัวข้อซักหน่อยนะครับ
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
-เท่าที่พี่ได้พูดคุยกับคุณพีทและสอบถามเช็คประวัติในอดีต ท่านติดนิสัยฝรั่งมาพอสมควร เรื่องที่จะซิกแซกหาผลประโยชน์เข้าตัวเองคงไม่เกิดครับ ส่วนคุณเกียรติ พี่ยังไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ฟังจากสัมภาษณ์หลายๆครั้งพี่ว่าเขาเป็ฯคนธรรมะธรรมโมระดับหนึ่งเลย และเคยpmกับคนที่รู้จักท่าน เขาคนนั้นบอกว่าพื้นฐานครอบครัวนี้ดี ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีครับ
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
-ตอนนี้ทั้งสองบริษัทค่อนข้างจะมีแผนงานเป้หมายที่ชัดเจนในการเป็นที่หนึ่งของสายงานตน และดูกลยุทธ์ที่ทั้งสองบริษัทที่เน้นมา พี่ชอบในกลยุทธ์และวิถีทางของบริษัททั้งสองครับ
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
-ทั้งสองบริษัทสามารถจะโตได้จากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่โตขึ้น จากโอกาสของตลาดใหม่ๆที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนเป็นบลูโอเชี่ยนอยู่อีกหลายๆปี
1. ความสามารถและความซื่อสัตย์ของผู้บริหาร
-เท่าที่พี่ได้พูดคุยกับคุณพีทและสอบถามเช็คประวัติในอดีต ท่านติดนิสัยฝรั่งมาพอสมควร เรื่องที่จะซิกแซกหาผลประโยชน์เข้าตัวเองคงไม่เกิดครับ ส่วนคุณเกียรติ พี่ยังไม่เคยคุยเป็นการส่วนตัว แต่เท่าที่ฟังจากสัมภาษณ์หลายๆครั้งพี่ว่าเขาเป็ฯคนธรรมะธรรมโมระดับหนึ่งเลย และเคยpmกับคนที่รู้จักท่าน เขาคนนั้นบอกว่าพื้นฐานครอบครัวนี้ดี ไม่เคยมีประวัติที่ไม่ดีครับ
2. ตำแหน่งทางธุรกิจของบริษัทฯว่าจะสามารถยืนอยู่ในอันดับต้นๆหรืออันดับหนึ่งของตลาดได้ดีแค่ไหน
-ตอนนี้ทั้งสองบริษัทค่อนข้างจะมีแผนงานเป้หมายที่ชัดเจนในการเป็นที่หนึ่งของสายงานตน และดูกลยุทธ์ที่ทั้งสองบริษัทที่เน้นมา พี่ชอบในกลยุทธ์และวิถีทางของบริษัททั้งสองครับ
3. ยอดขายและกำไรของบริษัทจะสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องได้อย่างไร
-ทั้งสองบริษัทสามารถจะโตได้จากภาพรวมของอุตสาหกรรมที่โตขึ้น จากโอกาสของตลาดใหม่ๆที่เกิดขึ้นเปรียบเสมือนเป็นบลูโอเชี่ยนอยู่อีกหลายๆปี
-
- Verified User
- โพสต์: 295
- ผู้ติดตาม: 0
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 745
พี่นริศมีความคิดเห็นเกี่ยวกับ TWFP อย่างไรครับ
1 ความสามารถในการรักษากำไรให้สม่ำเสมอ
2 ปัญหาผู้ถือหุ้นใหญ่ นำหุ้นไปค้ำประกัน
ผมคิดว่า ราคาวัตถุดิบในการผลิต น่าจะเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินการ ถ้าราคาไม่ขึ้นมามากก็น่าจะควบคุมกำไรได้ แต่ถึงอย่างไร ก็สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ เพราะไม่ใช่สินค้าควบคุม
สำหรับหุ้นที่ถูกนำไปค้ำประกัน ผมคิดว่า การที่ ธนาคารรับค้ำประกัน แปลว่า หู้นมีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง สมมุติว่า ธนาคารยึดไป ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบกับผู้ถือหุ้นส่วนอื่นใช่หรือไม่ครับ
รบกวนพี่นริศด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
1 ความสามารถในการรักษากำไรให้สม่ำเสมอ
2 ปัญหาผู้ถือหุ้นใหญ่ นำหุ้นไปค้ำประกัน
ผมคิดว่า ราคาวัตถุดิบในการผลิต น่าจะเป็นต้นทุนหลักในการดำเนินการ ถ้าราคาไม่ขึ้นมามากก็น่าจะควบคุมกำไรได้ แต่ถึงอย่างไร ก็สามารถขึ้นราคาสินค้าได้ เพราะไม่ใช่สินค้าควบคุม
สำหรับหุ้นที่ถูกนำไปค้ำประกัน ผมคิดว่า การที่ ธนาคารรับค้ำประกัน แปลว่า หู้นมีความน่าเชื่อถือระดับหนึ่ง สมมุติว่า ธนาคารยึดไป ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบกับผู้ถือหุ้นส่วนอื่นใช่หรือไม่ครับ
รบกวนพี่นริศด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
นริศสอนน้อง
โพสต์ที่ 750
รูปใหม่ของพี่....ดูแล้วจั๊กกะจี๊หัวใจดีนะครับ :lol:Paul VI เขียน:ชง สบายดีนะ ไม่ค่อยได้คุยกันเลย
คุยกันทางนี้เลย...
สบายดี...ปกติเป็นคำทักทายของลาว...ขอทักพี่มุขคืนแล้วกันนะว่า....สบายดีพี่มุข....ชงก็ไม่ค่อยว่างได้ค้นหาหุ้นหรือทำการบ้านหุ้นตนเองเพิ่มเลยพี่เพราะช่วงนี้ถ่ายงานและเรื่องบ้านมันวุ่นกว่าที่คิดครับ....
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร