ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 122
http://www.thairath.co.th/content/eco/88292
โตโยต้ายันไม่ย้ายฐานฟอร์จูนเนอร์
บริษัทโตโยต้า ประเทศไทย ปฏิเสธข่าวเตรียมย้ายฐานการผลิตฟอร์จูนเนอร์ไปอินโดนีเซีย จากปัญหาการเมือง เผย มียอดสั่งซื้อสูงต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ...
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่มีกระแสข่าวต่างประเทศว่าโตโยต้าจะย้ายฐานการผลิตรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จากไทยไปยังอินโดนีเซีย เนื่องจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศนั้น ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
นายวุฒิกรกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โตโยต้าได้ย้ายไลน์ การผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์จากบริษัท ไทยออโต้เวิร์คส จำกัด (TAW) ไปยังโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงประกอบรถยนต์ที่ใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกสำหรับรถในโครงการไอเอ็มวี (Innovative International Multipurpose Vehicle) โดยขณะนี้ได้เริ่มผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ เพื่อตอบสนองต่อยอดสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดภายในประเทศ
"สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น การส่งออกรถในโครงการไอเอ็มวี มีอัตราการเจริญเติบโต ณ ปัจจุบันที่สูงถึง 55% เมื่อเทียบกับสถิติการส่งออกในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ความต้องการภายในประเทศก็ยังมียอดค้างจองที่มากถึงกว่า 2 เดือน โดยปัจจุบันบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1 กะ เป็น 2 กะ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดดังกล่าว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย ได้อ้างนายจอห์นนี ดาร์มาวาน ประธานพีที โตโยต้า แอสตรา มอเตอร์ แห่ง อินโดนีเซีย ระบุว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ประเทศญี่ปุ่น ได้วางแผนย้ายฐานการผลิตรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นฟอร์จูนเนอร์ จากไทยไปอินโดนีเซีย เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้.
----------------------------------------------------------------
งานนี้ลับ ลวง พราง หรือเปล่าหนอ
โตโยต้ายันไม่ย้ายฐานฟอร์จูนเนอร์
บริษัทโตโยต้า ประเทศไทย ปฏิเสธข่าวเตรียมย้ายฐานการผลิตฟอร์จูนเนอร์ไปอินโดนีเซีย จากปัญหาการเมือง เผย มียอดสั่งซื้อสูงต่อเนื่องทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ...
นายวุฒิกร สุริยะฉันทนานนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากการที่มีกระแสข่าวต่างประเทศว่าโตโยต้าจะย้ายฐานการผลิตรถโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ จากไทยไปยังอินโดนีเซีย เนื่องจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศนั้น ขอยืนยันว่าข่าวดังกล่าวไม่เป็นความจริง
นายวุฒิกรกล่าวว่า ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา โตโยต้าได้ย้ายไลน์ การผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์จากบริษัท ไทยออโต้เวิร์คส จำกัด (TAW) ไปยังโรงงานประกอบรถยนต์โตโยต้าบ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นโรงประกอบรถยนต์ที่ใช้เป็นฐานการผลิตเพื่อการส่งออกสำหรับรถในโครงการไอเอ็มวี (Innovative International Multipurpose Vehicle) โดยขณะนี้ได้เริ่มผลิตรถกระบะและรถอเนกประสงค์ ฟอร์จูนเนอร์ เพื่อตอบสนองต่อยอดสั่งซื้อที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งตลาดต่างประเทศและตลาดภายในประเทศ
"สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น การส่งออกรถในโครงการไอเอ็มวี มีอัตราการเจริญเติบโต ณ ปัจจุบันที่สูงถึง 55% เมื่อเทียบกับสถิติการส่งออกในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ความต้องการภายในประเทศก็ยังมียอดค้างจองที่มากถึงกว่า 2 เดือน โดยปัจจุบันบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1 กะ เป็น 2 กะ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดดังกล่าว"
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในประเทศอินโดนีเซีย ได้อ้างนายจอห์นนี ดาร์มาวาน ประธานพีที โตโยต้า แอสตรา มอเตอร์ แห่ง อินโดนีเซีย ระบุว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ประเทศญี่ปุ่น ได้วางแผนย้ายฐานการผลิตรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นฟอร์จูนเนอร์ จากไทยไปอินโดนีเซีย เริ่มตั้งแต่เดือน ส.ค.นี้.
----------------------------------------------------------------
งานนี้ลับ ลวง พราง หรือเปล่าหนอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 123
เมื่อสิ้นเดือน เค้าทำการย้ายไลน์ TAW มาหนะครับ ซึ่งมี Effect พอสมควร ทำให้กลายเป็นวันหยุดไป ยอดการผลิตลดลงเนื่องจาก โตโยต้าต้องเตรียมไลน์ใหม่ ส่วนเรื่องข่าวย้ายไป อินโด เนี่ยผมก็ไม่แน่ใจนะครับ แต่ยอด TAW เริ่มเข้ามาแระ ตอนนี้กำลัง Trial ระบบอยู่
-
- Verified User
- โพสต์: 1220
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 124
เพิ่งเริ่มเปิดกะไปวันที่ 7 มิ.ย. นี้เองครับ ยังเหนื่อยๆอยู่เลย หลังจากไม่เปิดมาปีกว่าๆ"สำหรับตลาดต่างประเทศนั้น การส่งออกรถในโครงการไอเอ็มวี มีอัตราการเจริญเติบโต ณ ปัจจุบันที่สูงถึง 55% เมื่อเทียบกับสถิติการส่งออกในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ในขณะที่ความต้องการภายในประเทศก็ยังมียอดค้างจองที่มากถึงกว่า 2 เดือน โดยปัจจุบันบริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1 กะ เป็น 2 กะ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดดังกล่าว"
ส่วน ยอด IMV ยังคงสูงต่อเนื่องถึงเดือน ต.ค. โน่นเลย
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 125
แวะเข้ามาทักทายพี่หมอสามัญชนครับ
อยากทราบมุมมองของพี่หมอ ต่อตัว LHK ครับ เป็นกลุ่มยานยนต์อีกตัวที่ผลงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พี่หมอคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
อยากทราบมุมมองของพี่หมอ ต่อตัว LHK ครับ เป็นกลุ่มยานยนต์อีกตัวที่ผลงานดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
พี่หมอคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
- unnop.t
- Verified User
- โพสต์: 924
- ผู้ติดตาม: 1
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 126
ผมเองกลับมองว่าถ้า toyota ย้ายฐานการผลิตไปจริง ๆ น่าจะเป็นผลเสียต่อ toyota มากกว่านะครับ เพราะเมืองไทยเองมีอุตสาหกรรมต่อเนื่องของพวกชิ้นส่วนยานยนต์มาก เป็นลักษณะ cluster คล้าย ๆกับอิเลก ต้นทุนการผลิตน่าจะถูกกว่าการย้ายไปที่อื่น ไม่รู้ว่าผิดถูกประการใด :)
ตลาดหุ้นมักจะหลอกเราด้วย ความโลภ และความกลัว.....
- topgun
- Verified User
- โพสต์: 132
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 128
เรียนถามพี่หมอ....
ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มลงทุนครั้งแรกใน ตลท จนถึงปัจจุบัน
1. กี่ปีแล้วครับ
2. ในเงินลงทุน 100% พี่หมอจัดสัดส่วนเป็นหุ้น ตราสารหนี้ เงินสด ประมาณเท่าไรครับ
ขอบคุณมากครับ
ระยะเวลาตั้งแต่เริ่มลงทุนครั้งแรกใน ตลท จนถึงปัจจุบัน
1. กี่ปีแล้วครับ
2. ในเงินลงทุน 100% พี่หมอจัดสัดส่วนเป็นหุ้น ตราสารหนี้ เงินสด ประมาณเท่าไรครับ
ขอบคุณมากครับ
ชีวิตต้องสู้ ถึงจะมีความหมาย และประสบความสำเร็จ
- ichbinpao
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 794
- ผู้ติดตาม: 0
รอบของหุ้น cycle พี่หมอทราบได้ไงว่า
โพสต์ที่ 132
รบกวนถามพี่หมอหน่อยครับ คือเผอิญพึ่งลงทุนแต่ก็พึ่งหันมาสนใจหุ้นวัฎจักร เลยอยากถามพี่ว่าหมอ พี่หมอทราบได้อย่างไรว่า วงจรธุรกิจของแต่ละอุตสาหกรรมมีรอบกี่ปีครับ พี่หมอทราบได้อย่างไรครับ รบกวนไกด์พอคร่าวๆให้หน่อยครับ เพราะบางทีผมมองว่าเช่นธุรกิจยานยนต์ ถ้ามีการผลิตรถ ecocar ขึ้นมาและปล่อยออกสู่ตลาด cycle นี้จะมีการเปลี่ยนแปลงมากน้อยกว่าเดิมไหมครับ
- SEHJU
- Verified User
- โพสต์: 1238
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 134
ขอเอามาโพสต์ไว้ให้เพื่อนๆอ่านนะครับเผื่อมีประโยชน์สำหรับท่านที่ชอบกลุ่มยานยนต์ เป็นวิธีสังเกตง่ายๆครับ อาจมีถูกผิดไม่ว่ากันนะครับ... เนื้อหานี้เอามาจากที่ผมคุยกับน้องคนหนึ่งแล้วก็ค่อยๆอัพเดตเพิ่มเข้าไปเวลานึกอะไรออก
To: SEHJU
Posted: Thu Apr 15, 2010 4:53 pm
Subject: Re: เรียนถามคุณ SEHJU
SEHJU wrote:
พี่ว่ายานยนต์นี่มันขึ้นมาได้ซักระยะแล้วนะครับ คนที่ดูเป็นเค้าเล่นเก็บกันไปมากแล้วอ่ะครับ
ส่วนพี่ก็ขายออกไปเยอะแล้วที่ถือ SAT ไว้ เพราะถือว่าผลตอบแทนที่ได้มันมาไวกว่าที่คิด ก็เลยไปเล่นตัวใหม่ตามภาษาวัยรุ่นหน่ะ
เอาตามประสบการณ์ของพี่แล้วกันนะครับ ในคำถามที่ว่าเราจะมองยังไงว่าเป็นจุดกลับตัว วิธีการที่พี่ใช้เข้าลงทุนก็มีดังนี้ครับ
พี่ขอตอบเป็นข้อๆนะตามสไตล์ที่พี่ถนัด...
1.ต้องอ่านหนังสือ Beating the Street ของ ปีเตอร์ ลินซ์ ก่อนนะจะได้มีไอเดียอะไรดีๆเกี่ยวกับหุ้นวัฎจักร
พี่ก็เอามาจากหนังสือเล่มนี้แหละครับ แล้วก็มาประยุกต์เพิ่ม
2.ปีเตอร์ ลินซืเค้าเอากราฟมาพล็อตระหว่าง "ยอดขายจริง" กับ "ยอดขายที่ควรจะเป็น"
ยอดขายที่ควรจะเป็นนั้นบริษัทผลิตรถยนต์เค้าวิจัยมาว่ามันต้องเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร
ดังนั้น เส้นกราฟมันจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือค่อยๆเติบโตไปทุกปี... แต่ทีนี้ยอดขายจริงนั้น มันกลับไม่เป็นยังงั้น
เพราะว่า สินค้ายานยนต์ นั้นมันเป็น economic cyclical มันจึงสามารถยืดระยะเวลาในการซื้อออกไปได้
ของพวกนี้มันขึ้นอยู่กับความมันใจของผู้บริโภคและสภาพเศรษฐกิจของผู้ซื้อส่วนใหญ่ แต่มันก็จำเป็น มันจึงมีดีมานด์ที่อั้นอยู่
3.เมื่อยอดขายที่ควรจะเป็นควรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ยอดขายจริงลดต่ำลง
เพราะผู้บริโภคจึงเลื่อนการซื้อออกไป ดังนั้น มันจึงมีดีมานด์ที่ อั้น อยู่ รอวันระเบิดออกมาในตอนอะไรๆเริ่มดูดี...
4.จากข้อมูลของอเมริกาพบว่าวัฎจักรจากจุดเฟื่องฟูมาถึงจุดเฟื่องฟู หรือ จุดตกต่ำมาถึงจุดตกต่ำ
มันอยู่ที่ประมาณ 7-8 ปี ประมาณนี้ แต่มันก็ไม่ได้ตรงเป๊ะๆ ต้องประยุกต์เอาอีกที
5.แต่จากการเอาตัวเลขของประเทศไทยมาพล็อตกราฟ ทั้งในส่วนของยอดขายกับยอดผลิต พี่พบว่า ของไทยอยู่ประมาณ 4-5 ปี
น่าจะมีเหตุผลของมัน ประเทศเราน่าจะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ทำให้ไซเคิลมันสั้นกว่ามั้ง เดาอ่ะ
6.อินดิเคเตอร์ที่ชี้ชัดอีกตัวนึงที่บ่งบอกถึงวัฎจักรก็คือ eps ของ บ.ในอุตสาหกรรมนี้
พี่ก็เอา eps ของ SAT มาพล็อตดูหาความสัมพันธ์ระหว่าง ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศกับ eps ของ บ. พบว่ามันค่อนข้างสัมพันธ์
7.อินดิเคเตอร์อื่นๆที่ใช้ดูประกอบก็คือ พวกยอดจดทะเบียนรถใหม่ อัตราการเก็บภาษีสรรพสามิต (ลินซ์ดูราคารถมือสองด้วย..)
หากมันดูดีก็แสดงว่าความมั่นใจ ผบภ เริ่มกลับมา
ลิงค์เหล่านี้ดูไหวมั้ยคับ
http://apps.dlt.go.th/statistics_web/statistics.html
http://www.thaiauto.or.th/statistic/veh ... uction.asp?
http://www.thaiauto.or.th/index.asp
http://www.dlt.go.th/statistics_web/statistics.html
http://www.toyota.co.th/th/sale_volum.asp
http://www.aic.or.th/data.aspx
http://www.thaiautoparts.or.th/
http://www.satpcl.co.th/investor/index_th.php
8.อีกอย่างที่มันใช้ได้ผลมากๆคือ สังเกตจากคนรอบตัว อย่าง บ. พี่ ตั่งแต่ เดือน พย (2009) ก็เริ่มมีรถป้ายแดงออกกันมาเยอะ มาตอนนี้ก็สิบกว่าคันแล้ว
9.พี่ทราบข่าวจากพรรคพวกว่าในตอนนั้น บ.สมบูรณ์แอดวานซ์ ประกาศรับสมัครวิศวกรหลายเพิ่มหลายอัตรา นี่คืออินดิเคเตอร์ที่ดีตัวนึงเลยทีเดียว
10.ตอนสามบาทพี่ไม่ได้สนใจซื้อ มาห้าบาทเพื่อนชวนก็ยังไม่เอา แต่ตอนนั้นราคามาแถวเจ็ดแปดบาท
พี่เช็คข่าวดูพบว่าตัวเลขยอดขาย mom ของยุโรปนี่แหละเริ่มดีกว่าเดือนที่แล้ว พี่จะดูตัวเลขเทียบกับเดือนที่แล้ว
ไม่ได้เอาไปเปรียบเทียบกับของปีวิกฤตเพราะว่ามันเป็นปีที่ไม่ปรกติอ่ะ
11.พี่ตั้งใจไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จะเล่นเมื่อเห็นสัญญาณกลับตัว เพราะไม่อยากให้เงินทุนจมนาน...
แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะขึ้นมาเมื่อไหร่นะ แต่โอกาสขาดทุนมันน้อยมากๆ
12.อีกอย่างพี่จ้องจะเล่นหุ้นวัฎจักรอยู่แล้ว เพราะอยากได้เด้ง ดูอย่างดร.นิเวศน์ก็ร่ำรวยมาจากSTANLY เสี่ยยักษ์รวยมาจากPTT
พี่หมอสามัญชนก็รวยSATไปเยอะมากๆ นี่แหละนะเล่นหุ้นเมืองไทยต้องเน้นวัฎจักร
13.ลองสังเกตดู eps ตั้งแต่อดีตเลยนะ ซักสิบปีย้อนหลังก็ได้ อย่างของ STANLY เอามาพล็อตดูเลย จะเห็นวัฎจักรได้ดีทีเดียว
แล้วก็มาดูว่ามันไปพีคแถวไหน ลองสังเกตดูไม่ยาก
14.พี่เน้นสังเกตตัวอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่า อุตสาหกรรม มัน leading ผลประกอบการของ บ.
ผลงาน บ. พวกนี้ทั่วโลกบอกเราอยู่แล้วว่ามันแพ้อุตสาหกรรม
15.ถ้าจะรอดู eps คงไม่ทัน เราต้องดูยอดขายและผลิต เพราะมันอัพเดตเดือนต่อเดือนจะไวกว่าให้ eps มายืนยัน
16.ลินซ์บอกว่า สัญญาณซื้อที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อ epsที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ มันต่ำกว่าที่ บ. ทำได้จริง
ตรงนี้พี่ก็รอดู ปรากฎว่าเข้าตำราครับ SAT ทำได้ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์พอสมควรทีเดียว ของไตรมาสสอง 09 มั้ง ลองไปเช็คดูเองนะ
17.สมัยก่อนพีครอบที่แล้ว eps ของ SAT เคยไปพีคที่ปีละ 2.4-2.5 บาท/หุ้น เลยทีเดียว...
ทีนี้เราก็ต้องพยายามมองว่ายอดขายรถรอบนี้มันจะมากกว่ารอบที่แล้วมั้ย
18.ดังนั้นไตรมาสละ 0.5 บ/ห น่าจะไม่ยาก แล้วเราก็เอาไปดูว่า P/E ขณะนั้นมันเท่าไหร่
19.การดู p/e เราจะต้องรู้ว่าเราอยู่ช่วงไหนของวัฎจักร นี่จึงบอกเราว่าการเข้าไปเล่นหุ้นวัฎจักรตอน p/e ต่ำๆมันอันตราย
เพราะ EPS มันกำลังพีคนั่นเอง.. เมื่อมันพีคแล้ว แน่นอนว่าต่อไป ขาลงมันมีโอกาสเกิดมากกว่าขาขึ้น...
20.การเล่นหุ้นวัฎจักรนั้น เมื่อรอให้อะไรๆมันชัดเจน ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว...
ดังนั้นเราต้องหาช็อตเข้าลุยก่อนนักลงทุนคนอื่น และหาช็อตถอยเอาไว้ด้วยเด้อ!!
21.SAT กราฟสวยที่สุด มันเป็นกราฟหุ้นเทพของเสี่ยยักษ์ คือ หุ้นขึ้นวอลุ่มหาย มีคนดูดซัพพลายไปเข้าปี๊บเก็บไว้บ้าน... นั่นคือซื้อเก็บๆ ของดีแน่ๆ อิอิ
ตอนดูกราฟแท่งเทียนของ(กราฟปี) SAT กลับตัวจาก 3 บาท เห็นมันเป็น doji (ขาลงไม่รู้จะให้สัญญาณแบบนี้รึป่าว) ตรงนี้ดูประกอบเฉยๆ
22.ดูปัจจัยภายในอุตสาหกรรมว่ามีตัวเร่งใดมั้ยที่จะทำให้ บ. อุตสาหกรรมนี้ได้รับประโยชน์ เช่น อีโคคาร์ จะทำให้ผลักดันยอดการผลิตรถเพิ่มขึ้นมาก,
รัฐบาลลดภาษี ลดดอกเบี้ย ก็ทำนองนี้ครับ
23.กลุ่มยานยนต์ใน set ดูดีจริงๆมีไม่กี่ตัว.. ต้องคัดๆไว้แล้วโฟกัสเอาตัวที่โดดเด่น
24.อุตสาหกรรมพวกนี้มันเป็นวัฏจักรความยืดหยุ่นมันต่ำเพราะ fixed cost สูง ให้ดูว่าต้นทุนขายต่อยอดขายเป็นอย่างไร เพิ่มหรือลด
เค้าต้องลงทุนอะไรเพิ่มรึป่าวเพื่อเพิ่มยอดขาย หรือ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากก็กำไรบาน
สินค้าพวกนี้จะไปปรับราคาขายก็ลำบาก ฉะนั้น ดีมานด์-ซัพพลาย จึงสำคัญมาก!! เราต้องไปดูว่าดีมานด์จะมาได้จากไหน รถยนต์คนจะซื้อเพราะอะไร
25.หาเพื่อนที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ แล้วสอบถามข้อมูล นั่นคือ ดัชนีชี้นำที่ให้สัญญาณรวดเร็ว
To: SEHJU
Posted: Thu Apr 15, 2010 4:53 pm
Subject: Re: เรียนถามคุณ SEHJU
SEHJU wrote:
พี่ว่ายานยนต์นี่มันขึ้นมาได้ซักระยะแล้วนะครับ คนที่ดูเป็นเค้าเล่นเก็บกันไปมากแล้วอ่ะครับ
ส่วนพี่ก็ขายออกไปเยอะแล้วที่ถือ SAT ไว้ เพราะถือว่าผลตอบแทนที่ได้มันมาไวกว่าที่คิด ก็เลยไปเล่นตัวใหม่ตามภาษาวัยรุ่นหน่ะ
เอาตามประสบการณ์ของพี่แล้วกันนะครับ ในคำถามที่ว่าเราจะมองยังไงว่าเป็นจุดกลับตัว วิธีการที่พี่ใช้เข้าลงทุนก็มีดังนี้ครับ
พี่ขอตอบเป็นข้อๆนะตามสไตล์ที่พี่ถนัด...
1.ต้องอ่านหนังสือ Beating the Street ของ ปีเตอร์ ลินซ์ ก่อนนะจะได้มีไอเดียอะไรดีๆเกี่ยวกับหุ้นวัฎจักร
พี่ก็เอามาจากหนังสือเล่มนี้แหละครับ แล้วก็มาประยุกต์เพิ่ม
2.ปีเตอร์ ลินซืเค้าเอากราฟมาพล็อตระหว่าง "ยอดขายจริง" กับ "ยอดขายที่ควรจะเป็น"
ยอดขายที่ควรจะเป็นนั้นบริษัทผลิตรถยนต์เค้าวิจัยมาว่ามันต้องเพิ่มขึ้นตามจำนวนประชากร
ดังนั้น เส้นกราฟมันจะต้องเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ คือค่อยๆเติบโตไปทุกปี... แต่ทีนี้ยอดขายจริงนั้น มันกลับไม่เป็นยังงั้น
เพราะว่า สินค้ายานยนต์ นั้นมันเป็น economic cyclical มันจึงสามารถยืดระยะเวลาในการซื้อออกไปได้
ของพวกนี้มันขึ้นอยู่กับความมันใจของผู้บริโภคและสภาพเศรษฐกิจของผู้ซื้อส่วนใหญ่ แต่มันก็จำเป็น มันจึงมีดีมานด์ที่อั้นอยู่
3.เมื่อยอดขายที่ควรจะเป็นควรจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เศรษฐกิจไม่ดี ทำให้ยอดขายจริงลดต่ำลง
เพราะผู้บริโภคจึงเลื่อนการซื้อออกไป ดังนั้น มันจึงมีดีมานด์ที่ อั้น อยู่ รอวันระเบิดออกมาในตอนอะไรๆเริ่มดูดี...
4.จากข้อมูลของอเมริกาพบว่าวัฎจักรจากจุดเฟื่องฟูมาถึงจุดเฟื่องฟู หรือ จุดตกต่ำมาถึงจุดตกต่ำ
มันอยู่ที่ประมาณ 7-8 ปี ประมาณนี้ แต่มันก็ไม่ได้ตรงเป๊ะๆ ต้องประยุกต์เอาอีกที
5.แต่จากการเอาตัวเลขของประเทศไทยมาพล็อตกราฟ ทั้งในส่วนของยอดขายกับยอดผลิต พี่พบว่า ของไทยอยู่ประมาณ 4-5 ปี
น่าจะมีเหตุผลของมัน ประเทศเราน่าจะเป็นฐานการผลิตที่ใหญ่ทำให้ไซเคิลมันสั้นกว่ามั้ง เดาอ่ะ
6.อินดิเคเตอร์ที่ชี้ชัดอีกตัวนึงที่บ่งบอกถึงวัฎจักรก็คือ eps ของ บ.ในอุตสาหกรรมนี้
พี่ก็เอา eps ของ SAT มาพล็อตดูหาความสัมพันธ์ระหว่าง ยอดผลิตรถยนต์ในประเทศกับ eps ของ บ. พบว่ามันค่อนข้างสัมพันธ์
7.อินดิเคเตอร์อื่นๆที่ใช้ดูประกอบก็คือ พวกยอดจดทะเบียนรถใหม่ อัตราการเก็บภาษีสรรพสามิต (ลินซ์ดูราคารถมือสองด้วย..)
หากมันดูดีก็แสดงว่าความมั่นใจ ผบภ เริ่มกลับมา
ลิงค์เหล่านี้ดูไหวมั้ยคับ
http://apps.dlt.go.th/statistics_web/statistics.html
http://www.thaiauto.or.th/statistic/veh ... uction.asp?
http://www.thaiauto.or.th/index.asp
http://www.dlt.go.th/statistics_web/statistics.html
http://www.toyota.co.th/th/sale_volum.asp
http://www.aic.or.th/data.aspx
http://www.thaiautoparts.or.th/
http://www.satpcl.co.th/investor/index_th.php
8.อีกอย่างที่มันใช้ได้ผลมากๆคือ สังเกตจากคนรอบตัว อย่าง บ. พี่ ตั่งแต่ เดือน พย (2009) ก็เริ่มมีรถป้ายแดงออกกันมาเยอะ มาตอนนี้ก็สิบกว่าคันแล้ว
9.พี่ทราบข่าวจากพรรคพวกว่าในตอนนั้น บ.สมบูรณ์แอดวานซ์ ประกาศรับสมัครวิศวกรหลายเพิ่มหลายอัตรา นี่คืออินดิเคเตอร์ที่ดีตัวนึงเลยทีเดียว
10.ตอนสามบาทพี่ไม่ได้สนใจซื้อ มาห้าบาทเพื่อนชวนก็ยังไม่เอา แต่ตอนนั้นราคามาแถวเจ็ดแปดบาท
พี่เช็คข่าวดูพบว่าตัวเลขยอดขาย mom ของยุโรปนี่แหละเริ่มดีกว่าเดือนที่แล้ว พี่จะดูตัวเลขเทียบกับเดือนที่แล้ว
ไม่ได้เอาไปเปรียบเทียบกับของปีวิกฤตเพราะว่ามันเป็นปีที่ไม่ปรกติอ่ะ
11.พี่ตั้งใจไว้ก่อนหน้าแล้วว่า จะเล่นเมื่อเห็นสัญญาณกลับตัว เพราะไม่อยากให้เงินทุนจมนาน...
แต่ก็ไม่รู้ว่ามันจะขึ้นมาเมื่อไหร่นะ แต่โอกาสขาดทุนมันน้อยมากๆ
12.อีกอย่างพี่จ้องจะเล่นหุ้นวัฎจักรอยู่แล้ว เพราะอยากได้เด้ง ดูอย่างดร.นิเวศน์ก็ร่ำรวยมาจากSTANLY เสี่ยยักษ์รวยมาจากPTT
พี่หมอสามัญชนก็รวยSATไปเยอะมากๆ นี่แหละนะเล่นหุ้นเมืองไทยต้องเน้นวัฎจักร
13.ลองสังเกตดู eps ตั้งแต่อดีตเลยนะ ซักสิบปีย้อนหลังก็ได้ อย่างของ STANLY เอามาพล็อตดูเลย จะเห็นวัฎจักรได้ดีทีเดียว
แล้วก็มาดูว่ามันไปพีคแถวไหน ลองสังเกตดูไม่ยาก
14.พี่เน้นสังเกตตัวอุตสาหกรรม เพราะเชื่อว่า อุตสาหกรรม มัน leading ผลประกอบการของ บ.
ผลงาน บ. พวกนี้ทั่วโลกบอกเราอยู่แล้วว่ามันแพ้อุตสาหกรรม
15.ถ้าจะรอดู eps คงไม่ทัน เราต้องดูยอดขายและผลิต เพราะมันอัพเดตเดือนต่อเดือนจะไวกว่าให้ eps มายืนยัน
16.ลินซ์บอกว่า สัญญาณซื้อที่ชัดเจนจะเกิดขึ้นเมื่อ epsที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ มันต่ำกว่าที่ บ. ทำได้จริง
ตรงนี้พี่ก็รอดู ปรากฎว่าเข้าตำราครับ SAT ทำได้ดีกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์พอสมควรทีเดียว ของไตรมาสสอง 09 มั้ง ลองไปเช็คดูเองนะ
17.สมัยก่อนพีครอบที่แล้ว eps ของ SAT เคยไปพีคที่ปีละ 2.4-2.5 บาท/หุ้น เลยทีเดียว...
ทีนี้เราก็ต้องพยายามมองว่ายอดขายรถรอบนี้มันจะมากกว่ารอบที่แล้วมั้ย
18.ดังนั้นไตรมาสละ 0.5 บ/ห น่าจะไม่ยาก แล้วเราก็เอาไปดูว่า P/E ขณะนั้นมันเท่าไหร่
19.การดู p/e เราจะต้องรู้ว่าเราอยู่ช่วงไหนของวัฎจักร นี่จึงบอกเราว่าการเข้าไปเล่นหุ้นวัฎจักรตอน p/e ต่ำๆมันอันตราย
เพราะ EPS มันกำลังพีคนั่นเอง.. เมื่อมันพีคแล้ว แน่นอนว่าต่อไป ขาลงมันมีโอกาสเกิดมากกว่าขาขึ้น...
20.การเล่นหุ้นวัฎจักรนั้น เมื่อรอให้อะไรๆมันชัดเจน ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว...
ดังนั้นเราต้องหาช็อตเข้าลุยก่อนนักลงทุนคนอื่น และหาช็อตถอยเอาไว้ด้วยเด้อ!!
21.SAT กราฟสวยที่สุด มันเป็นกราฟหุ้นเทพของเสี่ยยักษ์ คือ หุ้นขึ้นวอลุ่มหาย มีคนดูดซัพพลายไปเข้าปี๊บเก็บไว้บ้าน... นั่นคือซื้อเก็บๆ ของดีแน่ๆ อิอิ
ตอนดูกราฟแท่งเทียนของ(กราฟปี) SAT กลับตัวจาก 3 บาท เห็นมันเป็น doji (ขาลงไม่รู้จะให้สัญญาณแบบนี้รึป่าว) ตรงนี้ดูประกอบเฉยๆ
22.ดูปัจจัยภายในอุตสาหกรรมว่ามีตัวเร่งใดมั้ยที่จะทำให้ บ. อุตสาหกรรมนี้ได้รับประโยชน์ เช่น อีโคคาร์ จะทำให้ผลักดันยอดการผลิตรถเพิ่มขึ้นมาก,
รัฐบาลลดภาษี ลดดอกเบี้ย ก็ทำนองนี้ครับ
23.กลุ่มยานยนต์ใน set ดูดีจริงๆมีไม่กี่ตัว.. ต้องคัดๆไว้แล้วโฟกัสเอาตัวที่โดดเด่น
24.อุตสาหกรรมพวกนี้มันเป็นวัฏจักรความยืดหยุ่นมันต่ำเพราะ fixed cost สูง ให้ดูว่าต้นทุนขายต่อยอดขายเป็นอย่างไร เพิ่มหรือลด
เค้าต้องลงทุนอะไรเพิ่มรึป่าวเพื่อเพิ่มยอดขาย หรือ ไม่ต้องลงทุนอะไรมากก็กำไรบาน
สินค้าพวกนี้จะไปปรับราคาขายก็ลำบาก ฉะนั้น ดีมานด์-ซัพพลาย จึงสำคัญมาก!! เราต้องไปดูว่าดีมานด์จะมาได้จากไหน รถยนต์คนจะซื้อเพราะอะไร
25.หาเพื่อนที่ทำงานในอุตสาหกรรมนี้ แล้วสอบถามข้อมูล นั่นคือ ดัชนีชี้นำที่ให้สัญญาณรวดเร็ว
-
- Verified User
- โพสต์: 1601
- ผู้ติดตาม: 0
ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 135
ขอบคุณพี่หมอ และพี่ชิสุ ครับที่ให้ความรู้
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re:
โพสต์ที่ 138
ขอบคุณพี่หมอครับสามัญชน เขียน:ตอนจะซื้อ sat ผมคิดอย่างนี้ครับ
ความรู้สึกตอนนั้น(วิกฤติเลห์แมน)มีหลายๆอุตสาหกรรมที่โดนกระทบ แต่ตัวที่โดนหนักที่สุดคือยานยนต์กับท่องเที่ยว พอโดนหนักๆราคาจะร่วงกว่าที่โดนจริงหลายเท่าทำให้
1. หุ้นกลุ่มนี้มีโอกาส undervalue สูง ถ้าใช้สำนวนของลูกอิสานก็คือ "ไปหาปลาในที่ที่มีปลา" :lol:
แล้วผมก็มองต่อว่าอุตสาหกรรมยานยนต์จะแย่แบบนี้ตลอดกาลหรือไม่
คำตอบก็คือไม่ ที่จริงแล้วกลุ่มยานยนต์จัดอยู่ในกลุ่ม economical cycle ซึ่งมันจะแย่แบบนี้เวลาเกิดวิกฤติแต่มันจะฟื้นได้เมื่อวิกฤติผ่านไปแล้ว และวงจรของมันก็ประมาณนี้และครับ รอบละ 12 ปีบวกลบไม่มาก ดังนั้น
2. ซื้อเมื่อเริ่มเข้าสูวงจรขาขึ้นหรือเมื่ออะไรๆก็แย่สุดๆแล้ว ถ้าใช้สำนวนของใครไม่รู้เป็นคนฝรั่งเศสผมจำชื่อไม่ได้ เขาบอกว่า "ซื้อเมื่อเลือดนองถนน"
ของทุกอย่าง มีแย่ ก้มีดี วิถีคนกล้าจริงๆๆพี่หมอ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
- Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 139
ขอบคุณครับ ได้ความรู้เยอะเลย
-
- Verified User
- โพสต์: 1024
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 140
ตามมาอ่านเพราะสนใจ ยานยนต์
ขอบคุณมากครับ
ขอบคุณมากครับ
"เพราะเรียบง่าย จึงชนะ"
-
- Verified User
- โพสต์: 81
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 141
ขอบคุณ. ทุกคนในการแบ่งปันประสบการณ์ครับ
อย่า! ตัดสินคนที่ราคา แต่จงดูที่ ค่าของคน...
-
- Verified User
- โพสต์: 5620
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 145
ขอบคุณมากครับ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
-
- Verified User
- โพสต์: 0
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ทำไมตอนนั้นผมซื้อยานยนต์
โพสต์ที่ 146
ขอบพระคุณมากครับ