หุ้น SIZE L/ธันวา เลาหศิริวงศ์

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
Thai VI Article
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1827
ผู้ติดตาม: 1

หุ้น SIZE L/ธันวา เลาหศิริวงศ์

โพสต์ที่ 1

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

   ​ศึกชิงหุ้นที่สิงคโปร์เพื่อต่อยอดธุรกิจเครื่องดื่มระดับภูมิภาค การเปลี่ยนแปลงร้านสะดวกซื้อแฟมิลี่มาร์ทในไทยที่จะเกิดขึ้น การเสนอซื้อบริษัท Cove Energy ของบริษัท ปตท.สผ. ตามด้วยการประกาศเพิ่มทุน หรือข่าวการสนใจซื้อกิจการค้าส่งสมัยใหม่ ล้วนเป็นเรื่องน่าชวนติดตามเนื่องจากเป็นพัฒนาการและการเปลี่ยนแปลงของธุรกิจขนาดใหญ่ ความจริงบริษัทขนาดใหญ่ของไทยที่มียอดขายระดับหลายหมื่นล้านขึ้นไปหรือ “หุ้น size L” นั้นส่วนใหญ่เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทย โดยปกติ ผลตอบแทนของหุ้นขนาดใหญ่มักจะไม่หวือหวานักเพราะมีสภาพคล่องสูง ราคาที่ซื้อขายจึงเป็นราคาตลาดที่ผู้ซื้อและผู้ขายพอใจและเคลื่อนไหวอ้างอิงกับผลประกอบการของกิจการเป็นหลัก ลองมาดูกันว่าหุ้น size L มีคุณลักษณะเด่นและข้อจำกัดอย่างไร

   ​ข้อแรก บริษัทใหญ่ส่วนมากเป็นกิจการที่ก่อตั้งและมีประวัติการดำเนินงานยาวนาน มีจุดเด่นและจุดแข็งเปรียบเสมือนมีป้อมค่ายคูเมืองที่แข็งแรง ผ่านร้อนผ่านหนาวและอุปสรรคทุกสภาวะเศรษฐกิจ ส่วนใหญ่มีผลประกอบการดี มีกำไรต่อเนื่อง สถานะการเงินดี น่าเชื่อถือ มีความสัมพันธ์ดีกับผู้เกี่ยวข้อง กิจการบางอย่างถือว่าเป็น Landmark หรือสัญลักษณ์ที่น่าภูมิใจของคนท้องถิ่นหรือของคนประเทศนั้นอีกด้วย ข้อดีก็คือ หากจำเป็น บริษัทใหญ่สามารถกู้หรือระดมทุนที่มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำได้ง่ายกว่า

   ข้อสอง การสร้างบริษัทให้มีรายได้ระดับหมื่นล้านหรือกำไรระดับพันล้านนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย บริษัทใหญ่จึงเป็นกิจการที่มีศักยภาพทางธุรกิจสูง มีอำนาจต่อรองในการซื้อ ขายหรือกระทำธุรกรรมต่างๆ  ถ้าบริษัทเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่แล้ว อาจยิ่งได้ประโยชน์จาก Economy of Scale ของกลุ่มและจากธุรกรรมเกื้อกูลระหว่างกลุ่มบริษัท นั่นคือการเพิ่มศักยภาพของบริษัทในกลุ่มทั้งระบบเพื่อการแข่งขันและการเติบโตเพิ่มขึ้นรวมถึงการขยายกิจการไปยังต่างประเทศ ภาพของการรวมพลัง (Synergy) เพื่อความได้เปรียบเริ่มชัดเจนขึ้นเรื่อยๆ ได้แก่กลุ่มธุรกิจของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี กลุ่มจิราธิวัฒน์ กลุ่มเจียรวนนท์ กลุ่มสหพัฒน์ กลุ่มปตท กลุ่มอินทัช กลุ่มบุญรอด กลุ่มสถาบันการเงินต่างๆ เป็นต้น ว่าที่จริงกลุ่มธุรกิจเหล่านี้เริ่มมีบทบาทสำคัญกับเศรษฐกิจของประเทศมากขึ้นตามลำดับ

   ​ข้อสาม บริษัทใหญ่โดยมากเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียง มั่นคง ผลตอบแทนและสวัสดิการดี ทำเลที่ตั้งสำนักงานสะดวกต่อการเดินทาง มาตรฐานการทำงานดีโดยประเมินผลตอบแทนตามผลงานและความสามารถ มีโอกาสก้าวหน้าของความรับผิดชอบหรือความท้าทายใหม่ๆ ทั้งในและต่างประเทศเพื่อผลตอบแทนที่ดีขึ้น ที่กล่าวมาล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ดึงดูดทรัพยากรบุคคลแถวหน้าเข้ามาช่วยกันขับเคลื่อนองค์กร ไม่ว่าจะเป็นบัณฑิตจบใหม่ทั้งจากในและต่างประเทศ ผู้มีประสบการณ์ทำงาน ผู้บริหารมืออาชีพ ผู้สอบบัญชี แม้กระทั่ง ผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อเข้ามาทำหน้าที่กรรมการหรือที่ปรึกษาของบริษัท ล้วนต้องการเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กรด้วยกัน คำกล่าวที่ว่า “ใหญ่เลือกได้” ก็มีความเป็นจริงอยู่ไม่น้อย

​   ข้อสี่ บริษัทใหญ่ยังคงมุ่งมั่นที่จะดำเนินกิจการอย่างมั่นคงต่อไป แม้ดำเนินธุรกิจการอย่างยาวนานแต่เพื่อความอยู่รอดอย่างยั่งยืนในอนาคต  บริษัทใหญ่ส่วนมากจึงให้ความสำคัญกับนวัตกรรม การวิจัยพัฒนา เทคโนโลยี การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์กร ความโปร่งใส ความยุติธรรมและการปฏิบัติต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างเท่าเทียมกัน เรื่องเหล่านี้ ล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญของการเป็นการองค์กรธรรมาภิบาลที่ดี และเป็นสิ่งที่ผู้ถือหุ้นทุกคนต้องการเพื่อคลายความกังวลหากตั้งใจลงทุนในระยะยาว

   ​ข้อสุดท้าย หุ้นขนาดใหญ่มีมูลค่าตลาดและสภาพคล่องสูงเหมาะกับนักลงทุนสถาบัน ต่างชาติ รวมทั้งนักลงทุนรายใหญ่ การเปิดกว้างของโลกทุนนิยมและการซื้อขายในระดับภูมิภาคที่จะเกิดขึ้น หุ้นขนาดใหญ่ของไทยที่ผ่านเกณฑ์และมีระดับราคาที่น่าลงทุนอาจจะได้ประโยชน์และได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุนต่างชาติที่ต้องการลงทุนในกิจการของไทยมากขึ้นเช่นกัน

   ​อย่างไรก็ตาม บริษัทใหญ่ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน กล่าวคือ ขั้นตอนทำงาน ระเบียบการ และการตัดสินใจที่ต้องรอบคอบรัดกุมอาจทำให้เกิดความยุ่งยาก ล่าช้าและไม่คล่องตัว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูงกว่าเมื่อเทียบกับกิจการขนาดเล็ก ผลประกอบเติบโตแบบก้าวกระโดดเป็นไปได้ยากเนื่องจากมีฐานธุรกิจที่ใหญ่ ราคาหุ้นที่ซื้อขายเป็นราคาตลาดที่ไม่มีส่วนลดมาก การสร้างราคาทำได้ยากและต้องใช้เงินมหาศาล นอกจากนี้เมื่อตลาดมีความผันผวน หุ้นใหญ่จะเป็นหุ้นที่นักลงทุนรายใหญ่ทำธุรกรรมซื้อขายมากกว่าหุ้นขนาดเล็กเนื่องมีสภาพคล่องสูงกว่ามาก ดังนั้น หุ้นขนาดใหญ่จึงเหมาะกับนักลงทุนระยะยาวที่ไม่หวั่นไหวกับความผันผวนของราคาระยะสั้นแต่พอใจกับราคาที่สะท้อนจากผลประกอบจริงของกิจการ

   ​ที่กล่าวมาเป็นเพียงกรณีศึกษาของกิจการขนาดใหญ่ บริษัทจดทะเบียนกว่า 500 แห่งยังประกอบด้วยกิจการหลายขนาดอีกจำนวนมาก ในฐานะ Value Investor ต้องคิด วิเคราะห์กิจการทุกขนาดถึง จุดเด่น จุดแข็ง ข้อจำกัด และประเมินว่าสมเหตุสมผลที่กิจการมีขนาดดังกล่าว การค้นพบกิจการขนาดเล็กในปัจจุบันที่มีผลิตภัณฑ์ ศักยภาพ และความพร้อมในการเติบโตเป็นบริษัทที่ใหญ่ขึ้น ก็คือโอกาสในการทำกำไรอย่างมหาศาล เพราะเมื่อบริษัทเติบโตจากบริษัทขนาดเล็ก มาเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มั่นคงแล้ว มูลค่าของกิจการก็ต้องเติบโตขึ้นเป็นอีกหลายเท่าเป็นเงาตามตัวเช่นกัน คงขึ้นอยู่กับนักลงทุนแต่ละคนที่จะเลือกลงทุนหุ้น size XS, S, M หรือหุ้น size L ที่ซื้อขายอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งความชอบและความถนัดดังกล่าวเป็นความสามารถเฉพาะบุคคล ผมจึงไม่แนะนำให้ลอกเลียนแบบ “ค้นหาแนวทางลงทุนของตนเองให้พบ” ครับ !!
[/size]
ภาพประจำตัวสมาชิก
akindle
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 178
ผู้ติดตาม: 1

Re: หุ้น SIZE L/ธันวา เลาหศิริวงศ์

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณครับ สำหรับบทความดีๆๆ
MaiFuen
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 385
ผู้ติดตาม: 1

Re: หุ้น SIZE L/ธันวา เลาหศิริวงศ์

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณครับ^^
praram2
Verified User
โพสต์: 173
ผู้ติดตาม: 0

Re: หุ้น SIZE L/ธันวา เลาหศิริวงศ์

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมชอบหุ้น size s , m ครับ
ขอบคุณ บทความดีๆ ครับ
โพสต์โพสต์