โค้ด: เลือกทั้งหมด
ประเทศต่างๆ ในโลกมักมีช่วงเวลาหนึ่งของทุกปีที่มีวันหยุดติดต่อกันนานกว่าปกติ เช่น ช่วงเดือนกุมภาพันธ์มีเทศกาลตรุษจีนหรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน ช่วงต้นเดือนพฤษภาคมจะมี Golden week ของชาวญี่ปุ่น ช่วงปลายเดือนธันวาคมจะมีเทศกาลคริสต์มาสหรือวันขึ้นปีใหม่ของชาวคริสต์ สำหรับชาวไทย ช่วงกลางเดือนเมษายนนี้ มีเทศกาลรดน้ำสงกรานต์หรือวันขึ้นปีใหม่ไทย ซึ่งมีชื่อเสียงและดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้เดินทางเพื่อเข้าร่วมประเพณีในแต่ละปีเป็นจำนวนมาก รัฐบาลไทยกำหนดให้ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นวันผู้สูงอายุและวันครอบครัวเพื่อมุ่งหวังฟื้นฟูขนบธรรมเนียมประเพณีดั้งเดิม อีกด้วย
ชาวไทยแต่ละครอบครัวนั้นใช้เวลาวันหยุดยาวช่วงนี้ทำกิจกรรมที่แตกต่างกัน ส่วนใหญ่มักเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมเพื่อร่วมงานสงกรานต์และเยี่ยมเยี่ยมพบปะญาติผู้ใหญ่ หรือเดินทางเพื่อพักผ่อนเที่ยวท่องทั้งต่างจังหวัดและต่างประเทศ ขณะที่ชาวกรุงเทพส่วนหนึ่งอาจเลือกที่ใช้ชีวิตที่เมืองหลวงอย่างสะดวกสบาย ไม่แออัดอย่างที่เคยเป็น
ในช่วงวันหยุดยาวเช่นนี้ ลองย้อนคิดดูกันว่า แต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมนั้นได้รับผลกระทบอย่างไรบ้าง
กลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์ การเดินทางและปริมาณผู้โดยสารที่มากกว่าปกติน่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจขนส่งทางบก ธุรกิจการบินพาณิชย์ ธุรกิจท่าอากาศยาน ธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน อย่างไรก็ตาม ธุรกิจทางด่วน ธุรกิจขนส่งมวลชนในกรุงเทพ จะได้รับผลกระทบ “ชั่วคราว” จากปริมาณการจราจรและการเดินทางที่ลดลงเช่นกัน
กลุ่มท่องเที่ยวและสันทนาการ หากจองโรงแรมตามจังหวัดท่องเที่ยวต่างๆ ในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมานี้ จะพบว่านี่คือช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ และราคาต่อห้องพักก็อยู่ในเกณฑ์สูงอีกด้วย ธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เช่น ซัพพลายเออร์ป้อนสินค้า อาหารและวัตถุดิบให้แก่โรงแรม ธุรกิจร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้าในจังหวัดเที่ยวท่องก็จะได้รับประโยชน์เช่นกัน
กลุ่มพาณิชย์ แม้รายได้บางสาขาจะได้รับผลกระทบเชิงลบบ้าง แต่ก็ชดเชยจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมากของสาขาตามเส้นทางการเดินทาง สาขาสถานีบริการน้ำมัน สาขาเมืองท่องเที่ยว ด้วยสภาวะอากาศร้อนมากปีนี้ ยอดขายเครื่องดื่มจะเพิ่มสูงขึ้นมากส่งผลดีต่อทั้งผู้ผลิตและผู้จำหน่ายด้วย
กลุ่มอุตสาหกรรมการผลิต โรงงาน ก่อสร้าง พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แม้มีวันหยุดเพิ่มกว่าปกติเพียง 3-4 วันทำการ แต่ทั้งความคืบหน้าการก่อสร้างและผลผลิตจากกระบวนการผลิตจะน้อยลงจากจำนวนวันลดลง การเพิ่มผลผลิตล่วงหน้าหรือทำงานล่วงเวลาอาจทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ส่วนการขายอสังหาริมทรัพย์จะชะลอตัวชั่วคราวเพราะอารมณ์ในการซื้ออาจน้อยลงด้วย
กลุ่มธนาคารพาณิชย์ กลุ่มธุรกิจลิสซิ่ง แม้ธุรกรรมเงินกู้จากลูกค้าใหม่อาจชะลอตัว ข้อดีก็คือรายได้ดอกเบี้ยรับยังดำเนินตามปกติโดยไม่ได้กระทบตามวันหยุดยาวที่เกิดขึ้น
กลุ่มสื่อสาร กลุ่มการแพทย์ เป็นกลุ่มอุตสาหกรรมยังดำเนินไปตามปกติโดยที่ไม่มีผลโดยตรงกับวันหยุดยาว แม้ประเทศไทยมีสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ในช่วงวันหยุดมากที่สุดประเทศหนึ่ง แต่ผู้ถือหุ้นกลุ่มการแพทย์ก็คงไม่ปลื้มนักหากรายได้ของแต่ละโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นจากสาเหตุดังกล่าว
ที่กล่าวมา เป็นเพียงตัวอย่างการวิเคราะห์ผลกระทบของแต่ละธุรกิจและอุตสาหกรรมอย่างง่ายๆ ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การประเมินคุณภาพธุรกิจชัดเจนโดยไม่มีปัจจัยด้านกาลเวลามาเกี่ยวข้อง นักลงทุนจำเป็นต้องเปรียบเทียบผลประกอบการในช่วงเวลาเดียวกันของแต่ละปีโดยเฉพาะกิจการที่มีความผันผวนหรือแปรฝันตามฤดูกาล (Seasonal) เช่นไตรมาสสองของปีปัจจุบันเทียบกับไตรมาสสองของปีที่แล้ว (yoy: year on year) นอกเหนือจากการเปรียบเทียบกับช่วงเวลาก่อนหน้า ไตรมาสปัจจุบันเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ : Quarter on Quarter) เพียงอย่างเดียว
ในฐานะ Value Investor แม้ไม่จำเป็นต้องติดตามการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นอย่างใกล้ชิด แต่ก็ต้องขยัน หมั่นศึกษา ติดตามข่าวสาร ข้อมูลธุรกิจที่อาจส่งผลกระทบต่อปัจจัยพื้นฐานกิจการที่ตนสนใจอย่างสม่ำเสมอ สำหรับวันหยุดยาวที่ผ่านมา นักลงทุนทุกท่านคงจะได้ “หยุดพัก” รวมถึงจัดสรรเวลาทำสิ่งสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อตนและครอบครัวไม่มากก็น้อย
เป้าหมายการลงทุนของแต่ละคนคงไม่ใช่เพียงเพื่อ “ความมั่งคั่ง” จากพอร์ตการลงทุนที่เติบโตขึ้นอย่างช้าๆ แต่รวมถึงการ “มีเวลา” ที่มีคุณภาพมากขึ้นและได้ “ใช้เวลา” เพื่อทำกิจกรรมที่ตนชอบและมีความสุข คำถามก็คือ เราได้ทำในสิ่งที่ “อยากทำ” ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามากน้อยเพียงใด หาก “ไม่ได้ทำ” แสดงว่าเรายังไม่ได้จัดสรรเวลาเพื่อ “สุขสันต์วันหยุด” ดีเท่าที่ควร !