โค้ด: เลือกทั้งหมด
ทุกสิ่งทุกอย่าง ย่อมเริ่มต้นจากจุดเริ่มต้นเล็ก ๆ เสมอ ถ้าได้ศึกษาประวัติศาสตร์ของโลกใบนี้ ก็มีสิ่งที่น่าอัศจรรย์หลาย ๆ อย่างเกิดขึ้น ตั้งแต่สิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ข้ามผ่านกาลเวลา มาเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีมันสมองคิดตรรกะได้ซับซ้อนที่สุด อย่างมนุษย์
การลงทุนของผม ก็เริ่มต้นเหมือนสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว ค่อย ๆ วิวัฒนาการ พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ ตามกาลเวลา ผมเริ่มต้นจากเวลาครึ่งชั่วโมงทุกเช้าและเย็นระหว่างเดินทางในรถไฟใต้ดินซึ่งแทบจะไม่มีเพื่อนร่วมทางในช่วงที่เปิดให้บริการใหม่ ๆ อ่านหนังสือเกี่ยวกับการลงทุนระหว่างเดินทางวันละแค่1 ชั่วโมงอย่างตั้งใจ(โชคดีที่ยุคนั้นยังไม่มี Facebook หรือ LINE) ประมาณสองสัปดาห์ก็ได้จบหนึ่งเล่ม เมื่อสะสมไปหลาย ๆ ปีเข้า มันก็ทบต้นเป็นมหัศจรรย์แห่งความรู้ ประกอบกับการใช้เวลาอยู่กับ “หุ้น” ที่ผมมองมาดีแล้ว ผ่านอุปสรรคต่าง ๆ ที่เป็นตัวเร่งวิวัฒนาการมากมาย สั่งสมจนสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียวเมื่อเกือบสิบปีที่แล้วมาไกลกว่าจุดเริ่มต้นมาก
ในชีวิตการลงทุนผมมักจะได้ยินคำถามจากนักลงทุนที่เข้าตลาดใหม่ ๆ อยู่เสมอว่าต้องเวลาที่ยาวนานแค่ไหนสำหรับการค้นหาหุ้นเปลี่ยนชีวิตเรา หรือจะทำให้เราประสบความสำเร็จในการลงทุนได้ ผมอยากจะยกตัวอย่างที่ผมชอบที่สุดตัวอย่างหนึ่งด้วยการตั้งคำถามที่ว่า
“คุณคิดว่าเครื่องบินต้องใช้ Runway หรือลานบิน ยาวแค่ไหนถึงจะบินขึ้นฟ้าได้ ?”
คำตอบคือมันไม่เกี่ยวกับความยาวของลานบินแต่มันขึ้นอยู่กับความเร็วของเครื่องบินต่างหากเมื่อใดที่เครื่องบินสามารถบินได้ด้วยความเร็ว175 ไมล์ต่อชั่วโมงเครื่องบินก็จะบินขึ้นสู่ท้องฟ้าได้ฉันใดฉันนั้นไม่มีใครตอบได้ว่าต้องใช้เวลาเท่าไหร่จึงจะประสบความสำเร็จแต่คำตอบคือขึ้นอยู่กับ “ความเร็วในการศึกษาหาความรู้” ของคุณต่างหาก
อีกคำถามหนึ่งคือ เรารู้ได้อย่างไรว่าวิวัฒนาการเป็นไปในแนวทางที่ถูกต้อง หรือแนวทางการลงทุนที่เราศึกษาอยู่ ใช้ได้จริงแค่ไหนอย่างไร ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตอย่างไดโนเสาร์ ก็สูญพันธุ์ไปเรียบร้อยแล้ว เรารู้ได้อย่างไรว่าดำเนินรอยตามวิวัฒนาการที่ถูกต้อง หรือเราเลือกอาจารย์ถูกคน คำถามนี้ทำให้นึกถึงคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในเรื่องกาลามสูตร หรือพระสูตรที่ทรงแสดงให้ชาวกาลามะ สิบประการ ว่าไม่ให้เชื่อสิ่งใดง่าย ๆ อย่างงมงาย ให้ใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นจริงเสียก่อน ว่าสิ่งนั้นดีหรือไม่ดีก่อนเชื่อ อยากจะบอกว่าส่วนนี้ยากที่สุดและสำคัญที่สุดสำหรับการประสบความสำเร็จในตลาดหุ้น แต่สิ่งที่พิสูจน์ได้ชัดที่สุดคือผลลัพท์ของการลงทุนเราจะต้องดีขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่ถูกบ้างผิดบ้าง ซึ่งระยะเวลาในการพิสูจน์ ผมคิดว่า 2-3 ปี ควรจะเห็นอะไรบางอย่างเกิดขึ้นบ้างในพอร์ตโฟลิโอของเรา
คำถามถัดมาคือ รู้สึกว่าการลงทุนมันยาก มีอะไรต้องเรียนรู้เยอะ มีหลักการให้เรียนรู้มากมาย แต่ผมกลับคิดว่าสิ่งที่ยากเป็นสิ่งที่ดี เพราะถ้ายาก คนจำนวนมากก็จะทำได้ยากเช่นเดียวกัน อันที่จริงคนที่จะลงทุนแล้วประสบความสำเร็จนั้นมีไม่มาก ตรงข้ามกับคนที่อยาก “รวย” ในเส้นทางนี้ ที่เหมือนจะมีมากขึ้นทุก ๆ วัน ไม่ว่าจะยุคสมัยไหน วิชาไหนที่เรียนง่าย ทำง่าย เราควรจะตั้งข้อสงสัยไว้ก่อน วิชาไหนดูเหมือนต้องผ่านด่านสิบแปดอรหันต์ แบบนี้ผลลัพท์มักจะคุ้มค่าเสมอ
คำถามสุดท้ายคือ เราจะเริ่มต้นการลงทุนได้อย่างไร ผมก็อยากกลับไปที่จุดเริ่มต้น ผมเริ่มต้นลงทุนด้วยการอ่านหนังสือเล่มแรก ดังนั้นคำตอบสุดท้าย คือเริ่มต้นจากการลงทุนตัวเองก่อนผมใช้เวลาเกือบหนึ่งปีเขียนหนังสือลงทุนแนวทางเน้นคุณค่าขึ้นมาเล่มหนึ่ง คือ “หุ้นเปลี่ยนชีวิต บนเส้นทาง VI” ซึ่งจะวางแผงวันที่ 22มิ.ย. ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปตั้งใจให้เนื้อหาอ่านง่ายที่สุด แต่ครอบคลุมแนวคิดการลงทุนแบบเน้นคุณค่าไว้ทุกอณูของหนังสือที่จะทำให้นักลงทุนสิ่งมีชีวิตเซลล์เดียว วิวัฒนาการเป็นนักลงทุนที่มีคุณภาพ พยายามขายให้ถูกที่สุดเท่าที่สำนักพิมพ์จะยอมนอกจากนี้ผมยังสอดแทรกวิถีความสุขที่แท้จริงในการลงทุนในตลาดหุ้นรวมถึงสังคมแห่งการแบ่งปัน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมอยากให้มันขยายผลเป็นวงกว้างกับสังคมกลุ่มใหม่ของประเทศไทยในโลกศตวรรษที่ 21 ที่จะใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ อย่างสังคมนักลงทุน