โค้ด: เลือกทั้งหมด
ทุกปีดิฉันจะนำรายงานการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูงในโลกมามาเสนอให้กับท่านในเดือนมิถุนายน ในปีนี้ก็เช่นกันค่ะ รายงานการสำรวจผู้มีความมั่งคั่งสูง คือมีความมั่งคั่งสุทธิตั้งแต่ 1 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป ชื่อ World Wealth Report 2013 ที่จัดทำโดย Capgemini และ RBC Wealth Management ที่เพิ่งออกมาสดๆร้อนๆ แสดงให้เห็นว่า คนรวยในโลก ณ สิ้นปี 2012 มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 11.97 ล้านคน ใกล้ๆ 12 ล้านคนแล้ว
จำนวนคนรวยที่เพิ่มนี้ คิดเป็นจำนวนที่เพิ่มจากปี 2011 ถึง 1 ล้านคน หรือ 9.2% แต่ความมั่งคั่งรวมเพิ่มขึ้น 10% คือคนจำนวน 11.97 ล้านคนนี้ มีความมั่งคั่งรวมกันถึง 46.2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นความมั่งคั่งเฉลี่ยคนละ 3.86 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 120 ล้านบาท
ถ้าท่านมีความมั่งคั่งเกิน 31 ล้านบาท ดิฉันขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ท่านเป็นหนึ่งใน 12 ล้านเศรษฐีของโลกแล้ว !!
ดังที่ดิฉันเคยเขียนไว้ในปีก่อนๆ การศึกษาข้อมูลของคนรวยๆ ไม่ได้หมายถึงว่าทุกคนต้องตั้งเป้าหมายที่จะต้องมีความมั่งคั่งเท่ากับเศรษฐีเหล่านั้น แต่ศึกษาเพื่อให้ทราบว่าคนรวยเขาลงทุนอย่างไร เหมือนกับที่เจ้าของร้านเสริมสวยของดิฉันปรารภเมื่อดิฉันนำหนังสือเล่มใหม่ไปให้อ่านว่า เวลาที่เธอรับฟังวิธีการใช้เงินของใครก็ตาม จะทราบได้ทันทีว่าคนนี้มีเงินออมมากหรือมีแบบปกติ เพราะคนที่มีเงินออมมากจะคิดละเอียด และมีวิธีการใช้เงินที่มีหลักการ ไม่เหมือนคนทั่วๆไป
ทวีปอเมริกาเหนือยังคงเป็นทวีปที่มีจำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงมากที่สุดคือ 3.73 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวม 12.7 ล้านล้านเหรียญ แต่เอเชียแปซิฟิกไล่ตามมาติดๆ (และดิฉันคาดว่าคงจะแซงได้แน่ๆในปีนี้) คือมีผู้มีความมั่งคั่งสูง 3.68 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวมกัน 12 ล้านล้านเหรียญ
ยุโรปตกไปอยู่อันดับที่สาม โดยมีผู้มีความมั่งคั่งสูง 3.41 ล้านคน มีความมั่งคั่งรวม 11.9 ล้านล้านเหรียญ ที่มองว่ายุโรปเศรษฐกิจไม่ดี เศรษฐียุโรปคงจะได้รับผลกระทบกระเทือนบ้าง แต่โดยเปรียบเทียบแล้วกระทบไม่มากค่ะ อาจจะเป็นเพราะได้ขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง แปลงสภาพเป็นเงินสดไว้ก่อนแล้ว โดยสัดส่วนการถือครองเงินสดปรับเพิ่มขึ้นทั่วโลก และเศรษฐียุโรปถือเงินสดในสัดส่วนค่อนข้างสูงคือ 27.3% และมีความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 8.2% ในปี 2012
ละตินอเมริกา มีจำนวนผู้มีความมั่งคั่งสูงประมาณ 520,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 7.54 ล้านล้านเหรียญ ถือว่ามีความมั่งคั่งต่อคนสูงที่สุด คือ 14.5 ล้านเหรียญ หากศึกษาดูจะพบว่าช่องว่างระหว่างรายได้ของคนรวยกับคนจนในละตินอเมริกาสูงมากค่ะ
ตะวันออกกลางเป็นกลุ่มประเทศที่มีผู้มีความมั่งคั่งสูงจำนวน 490,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 1.81 ล้านล้านเหรียญ และอัฟริกา มีผู้มีความมั่งคั่งสูงจำนวน 140,000 คน มีความมั่งคั่งรวมกัน 1.26 ล้านล้านเหรียญ หรือเฉลี่ยคนละ 9 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว
ขณะที่อภิมหาเศรษฐีหรื ผู้ที่มีความมั่งคั่งสุทธิเกินกว่า 30 ล้านเหรียญ (ประมาณ 930 ล้านบาท) มีจำนวนรวม 111,000 คน ถ้าท่านมีความมั่งคั่งเกินกว่า 930 ล้านบาท ท่านก็เป็นหนึ่งในแสนอภิมหาเศรษฐีของโลกแล้วค่ะ
มาดูการลงทุนของเศรษฐีกันดีกว่าค่ะ ณ ไตรมาสที่ 1 ของปี 2013 เศรษฐีทั้ง 12 ล้านคนในโลกนี้ ค่อนข้างจะลงทุนแบบระมัดระวัง โดยถือครองเงินสดและเงินฝากโดยเฉลี่ยมากถึง 28.2% ลงทุนในหุ้นทุน 26.1% ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ 20% ลงทุนในพันธบัตรและตราสารหนี้ 15.7% และลงทุนในการลงทุนทางเลือก 10.1%
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ในบรรดาเศรษฐีทั้งหลายในโลกนี้ เศรษฐีญี่ปุ่นมีการถือครองเงินสดและเงินฝากในสัดส่วนสูงที่สุด คือ 49.4% แม้อัตราดอกเบี้ยของญี่ปุ่นจะต่ำเตี้ยติดดินมาเป็นเวลานาน แต่คนญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยมีทางเลือกในการลงทุนอื่น เพราะไม่คุ้นกับการลงทุนในต่างประเทศ จะแตกต่างจากบริษัทต่างๆของญี่ปุ่น ที่มีการลงทุนในต่างประเทศเป็นเวลาช้านาน เนื่องจากต้องหนีค่าแรงที่สูงในประเทศ ไปลงทุนในที่ใหม่ๆที่มีต้นทุนการผลิตต่ำกว่า เพื่อให้แข่งขันได้
แต่คนญี่ปุ่นก็ยังมีการลงทุนในหุ้นทุนเป็นสัดส่วนไม่น้อย คือ 22.6% ซึ่งถือว่าเข้าลงทุนในจังหวะที่ดี เพราะหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา
ในการสำรวจ ยังมีการศึกษาประเด็นอื่นๆด้วยเช่น การลงทุนในของที่รักหรือ Passion Investment และพบว่าในไตรมาสแรกของปี 2013 นี้ คนส่วนใหญ่ที่ลงทุนในของที่รักที่ชอบ จะลงทุนในเครื่องประดับ อัญญมณี และนาฬิกา เป็นสัดส่วนสูงที่สุดคือ เฉลี่ย 31.6% รองลงมาเป็นการลงทุนในของสะสมหรูหราเช่น รถยนต์ เรือ เครื่องบินเจ็ต ฯลฯ ในสัดส่วน 19% สำหรับงานศิลปะนั้น คนเลือกลงทุนเป็นสัดส่วนประมาณ 16.9% และ ลงทุนในกีฬา เช่น ทีมกีฬา ม้าแข่ง เรือใบ ประมาณ 8% ส่วนที่เหลือ 24.4% ลงทุนในเรื่องอื่นๆ ทั้งนี้ผู้ศึกษาได้ให้หมายเหตุไว้ว่า ตัวเลขเหล่านี้รวมกันไม่ได้ 100%ค่ะ
ที่ดิฉันเห็นว่าน่าสนใจและอาจจะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบธุรกิจธนบดีธนกิจ คือการสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการให้บริการบริหารสินทรัพย์ของผู้มีความมั่งคั่งสูง จากการสำรวจพบว่าลูกค้าส่วนใหญ่ไม่มีรูปแบบการบริการที่ปักใจเป็นพิเศษค่ะ เช่น การใช้บริการกับสถาบันการเงินแห่งเดียวหรือหลายแห่ง มีอยู่ 41.4% ที่พอใจจะรับบริการจากสถาบันการเงินแห่งเดียว แต่ก็มีอีก 44.2% ที่รับบริการจากแห่งเดียวก็ได้ หลายแห่งก็ได้ และมีเพียง 14.4% เท่านั้นที่ต้องการรับบริการจากหลายแห่ง