Human Factor / คนขายของ
- คนขายของ
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 792
- ผู้ติดตาม: 0
Human Factor / คนขายของ
โพสต์ที่ 1
Human Factor / โดย คนขายของ
สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้ถูกแสดงไว้ในงบดุลของบริษัทคือมูลค่าของผู้บริหาร ผู้บริหารโดยเฉะพาะอย่างยิ่งผู้นำขององค์กรอย่าง CEO มีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กิจการ การตัดสินใจของ CEO สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับตัวธุรกิจได้ อย่างเช่น CEO ของบริษัทให้เช่า วีดีโอและดีวีดีชื่อดัง Blockbuster ได้ปฏิเสธข้อเสนอของ บริษัท Netflix ในปี 2000 ที่จะร่วมกันตั้งบริษัท ออนไลน์ดีวีดีและจัดส่งแผ่นดีวีดีทางไปรษณีย์ เพราะเห็นว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่เล็กเกินไป แต่ตอนนี้ Netflix กลายเป็นบริษัทมูลค่า 25,000 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Blockbuster ได้ยื่นเรื่องล้มละลายไปเมื่อปี 2010 ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก CEO บางท่านซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับ ผู้ถือหุ้น และทำลายความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นกัน
Jack Welch อดีต CEO ของบริษัท General Electric (GE) เขาเริ่มทำงานกับ GE ตั้งแต่ปี 1960 และใช้เวลา 21 ปีในการไต่เต้าจนได้เป็น CEO หลังจากเข้ารับตำแหน่ง เขาได้เปลี่ยนแปลง GE จากที่ เคยเป็นในอดีต โดย GE ในสมัยของ Welch จะทำธุรกิจที่เป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สองของอุตสาหกรรม เท่านั้น ถ้าทำไม่ได้เขาจะขายกิจการนั้นๆ ออกไป ระบบการบริหารงานของ GE ถูกปรับ ให้กระชับขึ้น ลดระดับขั้นตอนในการรายงานลง มีการให้รางวัลอย่างงามแก่พนักงานที่เป็น Top 20% ไม่ใช่แต่เพียง ระดับบนแต่ลงไปถึงระดับกลางด้วย แต่ก็มีกฎที่เข้มงวดที่จะให้พนักงานซึ่งมีผลงานในระดับ Bottom 10% ออกจากงานเพื่อจะได้ใส่คนใหม่ๆเข้ามาในองค์กร นอกจากนั้น GE ในสมัยของ Welch ยังได้นำคอนเซ็ป การพัฒนาคุณภาพที่ชื่อ Six Sigma จากบริษัท Motolora มาเพื่อปรับปรุงความพึงพอใจ ในผลิตภัณฑ์ และบริการ ทำให้จากบริษัทขนาด 12,000 ล้านเหรียญในปี 1981 กลายเป็นบริษัทขนาด 280,000 ล้านเหรียญในปี 2001 จากบริษัทที่ตลาดให้ค่า PE เพียง 12 ในปี 1985 ตลาดกับปรับค่า PE ของ GE ให้สูงถึง 30 เท่าในปี 2001 ภายใต้การบริหารงานของ Welch ผู้ถือหุ้นมีความมั่งคั่งที่สูงขึ้นกัน ทั่วหน้า
แต่ถ้าเราถาม Jim Collins อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยของ Stanford และผู้ร่วมเขียนหนังสือการบริหารธุรกิจชื่อดังอย่าง “Built to Last” และ “Good to Great” ว่าผู้บริหารอย่าง Jack Welch ซึ่งสามารถ สร้างความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างมหาศาลนี้ นับว่าเป็นสุดยอด CEO ไหม? ในบทความหนึ่ง ของเขาซึ่ง เขียนในปี 2013 Jim Collins ได้ตอบว่า “ไม่” แล้วการดูว่าสุดยอด CEO นั้นวัดกันอย่างไร? เขาบอกว่า การที่จะดูว่าใครเป็นสุดยอด CEO นั้นต้องดูตอนที่เขาเหล่านั้นได้วางมือแล้ว ได้เกษียณอายุไปแล้ว แล้วมา ดูกันว่าผลประกอบการขององค์กรเป็นอย่างไรหลังจากนั้น เพราะ CEO ที่เก่งกาจจริงๆต้องเน้นการสร้าง ระบบและองค์กรที่แข็งแกร่งโดยก้าวให้ข้ามพ้นการขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไป
หันกลับมาดู GE เราจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ Welch เกษียณอายุในปี 2001 มูลค่ากิจการของ GE ก็ลดลง และไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีก แต่หากเราพิจารณากิจการอย่าง APPLE ก็จะเห็นว่า Steve Jobs นั้นเข้าข่ายเป็นสุดยอด CEO ตามสเป็ก เพราะถึงแม้ว่าเขาจากไปแต่มูลค่าหุ้นของ APPLE ก็ยังสามารถ ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีก APPLE ก็ยังคงมีนวัตกรรมใหม่มานำเสนอ กำไรของบริษัทก็ทำจุดสูงสุดใหม่ อยู่ตลอดแม้จะไม่มี Steve Jobs แล้วก็ตาม เช่นเดียวกับ Sam Walton ได้วางระบบและรากฐานให้กับ Walmart เพื่อให้เป็นบริษัทค้าปลีกใหญที่สุดในโลก มูลค่ากิจการของ WALMART ยังคงสูงขึ้นได้อีก มากกว่า 3 เท่าหลังจากที่ Sam ได้จากโลกนี้ไป
แม้ว่า Jack Welch อาจดูเป็นรอง Steve Jobs อยู่บ้างแต่เขาก็ยังดีกว่า CEO อีกมากมายที่เรายังไม่ต้อง พูดถึงตอนที่เขาวางมือว่าองค์กรจะเป็นอย่างไร เพราะว่าในขณะที่แม้ว่าเขายังอยู่ในตำแหน่ง ก็ได้สร้าง ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับองค์กร ซึ่งเราคงจำเรื่องเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ENRON, WorldCom หรือเมื่อเร็วๆนี้บริษัท SUNTECH ผู้ผลิตแผงโซล่าเซลรายใหญ่ของโลก ก็มีข่าวว่าอดีต CEO ในตอนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ตั้งบริษัทชื่อ Asia Silicon เพื่อขายวัตถุดิบให้แก่ SUNTECH โดยได้ข้อ ตกลงซึ่งเอื้อต่อ Asia Silicon เป็นอย่างมาก
สำหรับนักลงทุนรายย่อยสิ่งที่ง่ายๆที่พอจะทำได้ เพื่อที่จะติดตามว่าใครเป็นสุดยอดCEO ที่เราสามารถ ไว้วางใจที่จะฝากเงินลงทุนของเราไว้ได้ ผมว่ามี หนึ่ง เมื่อผู้บริหารให้สัมภาษณ์ไว้ ได้ตั้งเป้าหมายใดๆไว้ ไม่ว่ายอดขายหรือกำไร แล้วเขาทำได้อย่างที่พูดไหม? สอง ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำอยู่ เพียงไร? ถ้าเราไป Company Visit ให้ถามเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ อย่าถามแต่เรื่องการเงินเพียงอย่างเดียว เช่น เราไปพบผู้บริหารโรงไฟฟ้า ก็อย่าถามแค่เรื่องเงินลงทุน รายได้ที่คาดหมาย แต่ให้ถามว่าเครื่องจักรที่ใช้ เป็นประเภทไหน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าของคู่แข่งอย่างไรด้วย และ สาม ศึกษาประวัติส่วนตัว ของผู้บริหารว่ามีพื้นเพมาอย่างไร มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลในอีกแง่นึง ประกอบการตัดสินใจ ขอฝากไว้ ก่อนตัดสินใจลงทุนในบริษัทไหน นอกจากตัวธุรกิจที่ควรศึกษาให้ดีแล้ว ก็มีเรื่องผู้บริหารนี่แหละครับที่ควรดูประกอบด้วยว่าเราจะไว้ใจได้ขนาดไหน
สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้ถูกแสดงไว้ในงบดุลของบริษัทคือมูลค่าของผู้บริหาร ผู้บริหารโดยเฉะพาะอย่างยิ่งผู้นำขององค์กรอย่าง CEO มีความสำคัญอย่างมากในการดำเนินธุรกิจ และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่กิจการ การตัดสินใจของ CEO สามารถชี้เป็นชี้ตายให้กับตัวธุรกิจได้ อย่างเช่น CEO ของบริษัทให้เช่า วีดีโอและดีวีดีชื่อดัง Blockbuster ได้ปฏิเสธข้อเสนอของ บริษัท Netflix ในปี 2000 ที่จะร่วมกันตั้งบริษัท ออนไลน์ดีวีดีและจัดส่งแผ่นดีวีดีทางไปรษณีย์ เพราะเห็นว่าตลาดนี้เป็นตลาดที่เล็กเกินไป แต่ตอนนี้ Netflix กลายเป็นบริษัทมูลค่า 25,000 ล้านเหรียญ ในขณะที่ Blockbuster ได้ยื่นเรื่องล้มละลายไปเมื่อปี 2010 ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จัก CEO บางท่านซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่มีส่วนช่วยสร้างความมั่งคั่งให้กับ ผู้ถือหุ้น และทำลายความมั่งคั่งของผู้ถือหุ้นกัน
Jack Welch อดีต CEO ของบริษัท General Electric (GE) เขาเริ่มทำงานกับ GE ตั้งแต่ปี 1960 และใช้เวลา 21 ปีในการไต่เต้าจนได้เป็น CEO หลังจากเข้ารับตำแหน่ง เขาได้เปลี่ยนแปลง GE จากที่ เคยเป็นในอดีต โดย GE ในสมัยของ Welch จะทำธุรกิจที่เป็นเบอร์หนึ่งหรือเบอร์สองของอุตสาหกรรม เท่านั้น ถ้าทำไม่ได้เขาจะขายกิจการนั้นๆ ออกไป ระบบการบริหารงานของ GE ถูกปรับ ให้กระชับขึ้น ลดระดับขั้นตอนในการรายงานลง มีการให้รางวัลอย่างงามแก่พนักงานที่เป็น Top 20% ไม่ใช่แต่เพียง ระดับบนแต่ลงไปถึงระดับกลางด้วย แต่ก็มีกฎที่เข้มงวดที่จะให้พนักงานซึ่งมีผลงานในระดับ Bottom 10% ออกจากงานเพื่อจะได้ใส่คนใหม่ๆเข้ามาในองค์กร นอกจากนั้น GE ในสมัยของ Welch ยังได้นำคอนเซ็ป การพัฒนาคุณภาพที่ชื่อ Six Sigma จากบริษัท Motolora มาเพื่อปรับปรุงความพึงพอใจ ในผลิตภัณฑ์ และบริการ ทำให้จากบริษัทขนาด 12,000 ล้านเหรียญในปี 1981 กลายเป็นบริษัทขนาด 280,000 ล้านเหรียญในปี 2001 จากบริษัทที่ตลาดให้ค่า PE เพียง 12 ในปี 1985 ตลาดกับปรับค่า PE ของ GE ให้สูงถึง 30 เท่าในปี 2001 ภายใต้การบริหารงานของ Welch ผู้ถือหุ้นมีความมั่งคั่งที่สูงขึ้นกัน ทั่วหน้า
แต่ถ้าเราถาม Jim Collins อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยของ Stanford และผู้ร่วมเขียนหนังสือการบริหารธุรกิจชื่อดังอย่าง “Built to Last” และ “Good to Great” ว่าผู้บริหารอย่าง Jack Welch ซึ่งสามารถ สร้างความมั่งคั่งให้ผู้ถือหุ้นได้อย่างมหาศาลนี้ นับว่าเป็นสุดยอด CEO ไหม? ในบทความหนึ่ง ของเขาซึ่ง เขียนในปี 2013 Jim Collins ได้ตอบว่า “ไม่” แล้วการดูว่าสุดยอด CEO นั้นวัดกันอย่างไร? เขาบอกว่า การที่จะดูว่าใครเป็นสุดยอด CEO นั้นต้องดูตอนที่เขาเหล่านั้นได้วางมือแล้ว ได้เกษียณอายุไปแล้ว แล้วมา ดูกันว่าผลประกอบการขององค์กรเป็นอย่างไรหลังจากนั้น เพราะ CEO ที่เก่งกาจจริงๆต้องเน้นการสร้าง ระบบและองค์กรที่แข็งแกร่งโดยก้าวให้ข้ามพ้นการขึ้นอยู่กับตัวบุคคลไป
หันกลับมาดู GE เราจะเห็นได้ว่าหลังจากที่ Welch เกษียณอายุในปี 2001 มูลค่ากิจการของ GE ก็ลดลง และไม่สามารถทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีก แต่หากเราพิจารณากิจการอย่าง APPLE ก็จะเห็นว่า Steve Jobs นั้นเข้าข่ายเป็นสุดยอด CEO ตามสเป็ก เพราะถึงแม้ว่าเขาจากไปแต่มูลค่าหุ้นของ APPLE ก็ยังสามารถ ทำจุดสูงสุดใหม่ได้อีก APPLE ก็ยังคงมีนวัตกรรมใหม่มานำเสนอ กำไรของบริษัทก็ทำจุดสูงสุดใหม่ อยู่ตลอดแม้จะไม่มี Steve Jobs แล้วก็ตาม เช่นเดียวกับ Sam Walton ได้วางระบบและรากฐานให้กับ Walmart เพื่อให้เป็นบริษัทค้าปลีกใหญที่สุดในโลก มูลค่ากิจการของ WALMART ยังคงสูงขึ้นได้อีก มากกว่า 3 เท่าหลังจากที่ Sam ได้จากโลกนี้ไป
แม้ว่า Jack Welch อาจดูเป็นรอง Steve Jobs อยู่บ้างแต่เขาก็ยังดีกว่า CEO อีกมากมายที่เรายังไม่ต้อง พูดถึงตอนที่เขาวางมือว่าองค์กรจะเป็นอย่างไร เพราะว่าในขณะที่แม้ว่าเขายังอยู่ในตำแหน่ง ก็ได้สร้าง ความเสียหายอย่างใหญ่หลวงให้กับองค์กร ซึ่งเราคงจำเรื่องเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น ENRON, WorldCom หรือเมื่อเร็วๆนี้บริษัท SUNTECH ผู้ผลิตแผงโซล่าเซลรายใหญ่ของโลก ก็มีข่าวว่าอดีต CEO ในตอนที่ดำรงตำแหน่งอยู่ได้ตั้งบริษัทชื่อ Asia Silicon เพื่อขายวัตถุดิบให้แก่ SUNTECH โดยได้ข้อ ตกลงซึ่งเอื้อต่อ Asia Silicon เป็นอย่างมาก
สำหรับนักลงทุนรายย่อยสิ่งที่ง่ายๆที่พอจะทำได้ เพื่อที่จะติดตามว่าใครเป็นสุดยอดCEO ที่เราสามารถ ไว้วางใจที่จะฝากเงินลงทุนของเราไว้ได้ ผมว่ามี หนึ่ง เมื่อผู้บริหารให้สัมภาษณ์ไว้ ได้ตั้งเป้าหมายใดๆไว้ ไม่ว่ายอดขายหรือกำไร แล้วเขาทำได้อย่างที่พูดไหม? สอง ผู้บริหารมีความรู้ความเข้าใจในธุรกิจที่ทำอยู่ เพียงไร? ถ้าเราไป Company Visit ให้ถามเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจ อย่าถามแต่เรื่องการเงินเพียงอย่างเดียว เช่น เราไปพบผู้บริหารโรงไฟฟ้า ก็อย่าถามแค่เรื่องเงินลงทุน รายได้ที่คาดหมาย แต่ให้ถามว่าเครื่องจักรที่ใช้ เป็นประเภทไหน มีประสิทธิภาพเหนือกว่าของคู่แข่งอย่างไรด้วย และ สาม ศึกษาประวัติส่วนตัว ของผู้บริหารว่ามีพื้นเพมาอย่างไร มีไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตเป็นอย่างไร เพื่อที่จะได้รู้ข้อมูลในอีกแง่นึง ประกอบการตัดสินใจ ขอฝากไว้ ก่อนตัดสินใจลงทุนในบริษัทไหน นอกจากตัวธุรกิจที่ควรศึกษาให้ดีแล้ว ก็มีเรื่องผู้บริหารนี่แหละครับที่ควรดูประกอบด้วยว่าเราจะไว้ใจได้ขนาดไหน
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน