หลังชนฝา / คนขายของ

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
คนขายของ
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 792
ผู้ติดตาม: 0

หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

หลังชนฝา / โดย คนขายของ

เมื่อสี่สิบปีก่อนดอกเบี้ยฝากประจำ 15% เป็นเรื่องปกติ เมื่อสิบกว่าปีก่อนดอกเบี้ยออมทรัพย์ที่ 5% เป็นเรื่องธรรมดา แต่ในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากดอกเบี้ยเป็นขาลงตลอด จนมาถึงตอนนี้ผู้คนเริ่มรู้สึกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงินเพื่อกินดอกเบี้ยอย่างเดียวดูไม่ดึงดูดใจ ยิ่งหากใครอยู่ในวัยเกษียณ หากต้องการเงินใช้เดือนละ 20,000 บาท ถ้าฝากเงินกินดอกเบี้ยอย่างเดียว เขาเหล่านั้นต้องมีเงิน ในบัญชีฝากประจำอย่างน้อย 25 ล้านบาทขึ้นไป ซึ่งเป็นเรื่องยากที่คนทำงานเป็นพนักงาน เป็นข้าราชการ เป็นลูกจ้าง จะมีเงินเก็บได้ถึงขนาดนั้น ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำทำให้คนส่วนใหญ่ ไม่มีทางเลือก นอกจากต้องออกไปหาการลงทุนที่ให้ผลตอบแทนซึ่งมากกว่าการฝากเงินในธนาคาร

ทางเลือกหนึ่งทีเป็นที่นิยมกันคือการซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งถ้ามองในเรื่องความเสี่ยงแล้วคนส่วนใหญ่เชื่อว่า ความเสี่ยงของพันธบัตรอยู่ในระดับต่ำ เนื่องจากรัฐบาลเป็นประกัน ตอนนี้พันธบัตรของ รัฐบาลไทยให้ดอกเบี้ยอยู่ราวๆ 3.5-4% แต่ถ้าเป็นพันธบัตรรัฐบาลของต่างประเทศ บางประเทศ ให้ดอกเบี้ยสูงมากถึง 8-9% แต่ทั้งนี้ผู้ซื้อต้องรับความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเอง ทางเลือกที่สอง คือการซื้อทองคำเก็บไว้ ด้วยความเชื่อที่ว่าราคาทองคำในระยะยาวนั้นจะชนะ เงินเฟ้อ ยิ่งถ้ามองย้อนกลับไปในช่วง 15 ปีพบว่าราคาทองขึ้นมามากกว่า 3 เท่า ผู้คนจึงให้ความ สนใจ ทางเลือกที่สาม คือการเข้าซื้อหุ้นในกิจการที่เกี่ยวกับสาธารณูปโภคเพราะเชื่อว่าเป็นสิ่ง จำเป็น และไม่ว่าภาวะเศรษฐกิจเป็นอย่างไรคนก็ยังต้องกินต้องใช้ ดังนั้นหุ้นที่เกี่ยวกับการผลิต ไฟฟ้า ประปา จึงน่าสนใจ

แต่ทางเลือกทั้งสามจะเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย 100% ที่นักลงทุนสามารถซื้อและถือลืมไปได้เลย โดยไม่มีโอกาสขาดทุนจริงหรือ? เราจะย้อนไปดูประวัติศาสตร์เพื่อตอบคำถามเหล่านี้กัน ในหนังสือ This time is different: Eight centuries of Financial Folly ได้รวบรวมการผิดนัดชำระหนี้และการปรับโครงสร้างหนี้ของประเทศต่างๆในรอบ 200 ปีที่ผ่านมาพบว่า มีถึง 82 ประเทศที่มีปัญหาทางการเงิน บางประเทศมีปัญหามากกว่า 5 ครั้ง ประเทศที่มีความมั่งคั่งสูงอย่าง เยอรมัน หรือ อังกฤษ ก็เคยประสบปัญหาเหมือนกัน ดังนั้น การลงทุนในพันธบัตร โดยเฉพาะพันธบัตรต่างประเทศ ก็นับว่าไม่ปลอดภัยร้อยเปอร์เซนต์ แล้วทองล่ะ? ถ้าเราหันมาดูราคาทองคำในรอบสี่สิบปีที่ผ่านมาจะเห็นว่ามีรอบการขึ้นใหญ่ อยู่สองรอบ คือในช่วง ปี 1979-1982 และในช่วง 2000-2012 การจับจังหวะของวัฏจักร เป็นเรื่องสำคัญ ถ้าคุณพลาดไปซื้อทองในปี 1980 ที่ราคา 700$/ounce คุณต้องรอไปอีก 27 ปีถึงจะได้ทุนคืน

หุ้นสาธารณูปโภคที่ดูเหมือนจะปลอดภัยมาก แต่ในสถานะการณ์การเงินโลกที่มีความไม่แน่นอนสูงในปัจจุบันนี้ แม้แต่มืออาชีพอย่างผู้จัดการกองทุนชื่อ John Paulson ก็ยังพลาด ซึ่งนิตยสาร FORTUNE รายงานว่าเขาได้เข้าไปซื้อหุ้น Athen Water ของกรีซเมื่อปีที่แล้วมูลค่ากว่า สี่พันล้านบาท กิจการนี้เป็นกิจการผูกขาด แต่ตอนนี้กิจการมีปัญหาเนื่องจากขายน้ำประปาให้รัฐ แต่รัฐไม่มีเงินจะชำระหนี้ คาดกันว่าตอนนี้ Paulsonขาดทุนไปมากกว่า 50%แล้ว

ดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับต่ำอาจจะมีผลดีในแง่กระตุ้นการลงทุนได้มากขึ้น แต่ในอีกด้านหนึ่ง คนที่ไม่มี รายได้ประจำโดยเฉพาะคนวัยเกษียณไม่สามารถดำรงชีพได้ด้วยดอกเบี้ยเงินฝากเพียงอย่างเดียว คนกลุ่มนี้ต้องดิ้นรนเพื่อหาผลตอบแทนในการลงทุนที่สูงขึ้น แต่เพราะขาดความชำนาญ ทำให้อาจ มองการลงทุนด้วยภาพที่สวยหรูเพียงอย่างเดียว ไม่ได้สนใจความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น บางคน ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุนเลย แต่ต้องออกไปสู้ในตลาดทุนตลาดเงินเพราะรายได้หลังเกษียณ ไม่พอเลี้ยงชีพ ต้องออกไปสู้เพราะตอนนี้หลังชนฝาแล้ว การตัดสินใจในการลงทุนอาจทำโดย การอ่านข่าวตามหน้าหนังสือพิมพ์มาสองสามบรรทัดแล้วลงทุนเลย ทำให้ผิดพลาดได้ง่าย เพื่อที่จะฝ่าวงล้อมทุนนิยมนี้ไปได้ ผมใคร่ขอแนะนำให้ทุกบ้านทุกครัวเรือน เริ่มศึกษาหา ความรู้ในการลงทุนอย่างจริงจัง หากท่านไม่ถนัดในเรื่องเงินทอง ก็อาจจะมองหาลูกหลานที่มีแวว เพื่อปั้นขึ้นมาเป็นดาวเด่นในเรื่องลงทุนของครอบครัวท่าน ทั้งนี้เพราะในภาวะดอกเบี้ยต่ำที่ยาวนาน ความรู้เรื่องการลงทุนเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกบ้านควรมีเป็นสมบัติของตัวเอง
อดทนไว้ กำไรยั่งยืน
ลูกหิน
Verified User
โพสต์: 1217
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
ภาพประจำตัวสมาชิก
neuhiran
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 817
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ขอบคุณมากครับ :D
RnD-VI
Verified User
โพสต์: 5620
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
วินัย + แผนการ + ลงรายละเอียด => ขุดหุ้น
fb fanpage : https://www.facebook.com/stockinvestigator
Noinar
Verified User
โพสต์: 136
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

ขอบคุณครับ
" Risk comes from not knowing what you’re doing " Warrent Buffett
mrdew
Verified User
โพสต์: 258
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

:D
ทศพร29
Verified User
โพสต์: 306
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

เยี่ยมครับ
Marquez
Verified User
โพสต์: 15
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ขอบคุณมากครับ
"ความอดทน" คือสิ่งที่ขมขื่น แต่ผลของมัน "หวานชื่นเสมอ"
whiteknight_p
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 315
ผู้ติดตาม: 1

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ขอบคุุณครับพี่ชาย
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
kraikria
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1172
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ขอบคุณครับ
ไม่ควรลงทุนอะไร ถ้าไม่รู้สึกสบายใจในสิ่งนั้น
ภาพประจำตัวสมาชิก
kongkiti
Verified User
โพสต์: 5830
ผู้ติดตาม: 0

Re: หลังชนฝา / คนขายของ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

ขอแปะ Quote จากห้องลับ :D
dr1 เขียน:คุณกวีดีถูกยาว
(แซวแซ่บซี้ดซ้าดจิงๆ เก็บกดมาจากที่ไหน ชวนให้มาระบายใส่ห้องนี้นะจ๊ะ ปลอมล็อกอินมาก็ได้ เพื่อนๆสมาชิกพร้อมจะช่วยกันซ้ำเติม(หุ้น)ให้จร้า..)

อิสรภาพทางการเงิน "ไม่ใช่"รวย แต่คือได้"ทำงานที่ตัวเองรักโดยไม่ต้องห่วงเรื่องการเงิน"
เริ่มง่ายๆโดย "พอ" ถ้าไม่พอก็ให้ "ประหยัด"
แหล่งที่มาของรายได้ เงินเดือน ธุรกิจ สินทรัพย์
สินทรัพย์ คือของสร้างรายได้ ถ้าสร้างภาระคือหนี้สิน
ฝากเงิน1-2% พันธบัตร3% ตราสารหนี้4-5% อสังหากะหุ้น โดยเฉลี่ย12%เท่ากัน ต่างกันที่สภาพคล่อง
ลงทุนหุ้น คุณคือเจ้าของธุรกิจ
เลือกหุ้นดี ซื้อหุ้นถูก ถือหุ้นยาว เป็นการลดความเสี่ยง เพิ่มผลตอบแทน เพื่อความสำเร็จในการลงทุน

1.เลือกหุ้นดี
1.1 กำไรโตสม่ำเสมอยาวๆ ดูeps
Bdms bjc cpall cpf dcc lpn pb ram robins svh บางอันเป็นคอมโม กำไรเหวี่ยง
1.2 อำนาจต่อรองลูกค้าสูงๆ ดูgpm
ห้ามต่ำกว่า10% 20-30%ดี Beauty70%
1.3 เป็นผู้นำ ดูค่าใช้จ่ายดำเนินงานน้อยๆ โฆษณา การตลาดน้อยๆ
1.4 ฐานะการเงินแข็ง ไม่ต้องลงทุนเพิ่มมาก
ดูหนี้มีดอกเบี้ย/ทุน ต่ำ0.5 ดี
1.5 ทำกำไรสูง ดูROE
ตลาดทำได้12% ควรมากกว่า15%และสูงต่อเนื่อง ได้กำไรมาใส่ในส่วนผู้ถือหุ้นเยอะๆ ดี
1.6 ผบห.มีฝีมือ กะธรรมาภิบาล
ดูที่นามสกุล

2. ซื้อหุ้นถูก
ตามหุ้นดูเรื่อยๆ สามัญสำนึกจะบอกเองว่าถูกหรือแพง
รึรอตลาดร่วง20% ผลตอบแทนอีก5ปีน่าจะดี ถ้ารอร่วง30% ดัชนี จาก1670คื 1180 ร่วง50%ซื้ออีก 70%จัดเต็ม
ถ้าลากเส้นล่างสุดดัชนีตอนต้มยำกุ้ง สับพราม หลุมล่างต่อไปอยู่ที่ราว700
เงินเฟ้อสูงสุด 5-6% หุ้นจะลง ถ้าเศรษฐกิจฟื้นช่วงแรกๆเงินเฟ้อเริ่มขึ้น หุ้นขึนเป็นเด้งๆ
เมกา 1987วิกฤติธนาตาร 1997ต้มยำกุ้ง 2007สับพราม 2017อาจเกิดจากจีน
จีนตอนนี้เหมือนไทยตอนต้มยำกุ้ง จากเปิดเสรีการเงิน ให้ต่างชาติซื้อหุ้น

3. ถือหุ้นยาว
ง่ายที่สุด ถ้าซื้อถูกแล้วถือยาว ยิ่งนานยิ่งทวีคูณ 3ล้านไป800ล้านใน50ปี(13%ค่าเฉลี่ยset)

4. กระจายความเสี่ยง
อาจจะหุ้น20% ถือสิบตัวต่างอุตสาหกรรม
Bond30% ทอง10% อสังหา10% ที่เหลือเงินสด


อนาคตตลาดหุ้นไทย
ขึ้นกับโครงสร้างประชากร พบว่าคนอายุ40-50ปีจะมีเงินมากที่สุด
ตอนนี้คนไทยเฉลี่ย 30-40ปี ยังเป็นหนี้สร้างตัว
รออีก10ปี จะมีnew high ใน2ปี และอีก10ปี

.
.
.
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee

FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
โพสต์โพสต์