เป่าเทียนให้ดับ : พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
-
- Verified User
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 0
เป่าเทียนให้ดับ : พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 1
พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
สิ่งที่กระผมกลัวที่สุดตอนเริ่มการลงทุนใหม่ๆ หรือ ประมาณอายุยี่สิบต้นๆ เท่ากับบางท่านที่อ่านอยู่ในตอนนี้ ไม่ใช่กลัวความจน หรือความยากลำบากต่างๆ ในชีวืตที่รออยู่ข้างหน้า แต่ หากเป็นคำสั้นที่ดังก้องในหัวตลอดเวลาว่า "เอ็งแพ้แน่ๆๆๆๆๆๆ
แป๊บบบบเดียวผ่านมาสิบกว่าปี ผมไม่กลัวเจ้าความกลัวที่จะขาดทุนที่ตามหลอกหลอนผมอย่างนั้นอีกแล้ว ผมรู้แต่ว่า ในเกมการลงทุนนี้ ไม่ว่าท่านจะมีพรสวรรค์และสติปัญญาล้ำเลิศขนาดไหน ไม่มีใครเลยสักคนที่จะมีภูมิคุ้มกันให้รอดพ้นจากความไม่แน่นอนของตลาดหุ้นไปได้
กระผมคิดติต่างไปเองว่า แรงขับเคลื่อนให้ของคนที่จบใหม่ๆ อยากเข้ามาในเกมนี้คือความปรารถนาในความสำเร็จเหมือนรุ่นพี่หลายๆ ท่านที่วิ่งถึงเส้นชัยคนแล้วคนเล่าได้สำเร็จมาแล้ว
แต่ไม่มีใครจะหลีกเลี่ยงการขาดทุนไปได้
เป่าเทียนให้ดับ
ยกเว้นแต่ว่านักลงทุนท่านนั้นจะลงทุนอย่างระมัดระวังมากเสียจนไม่เคยกล้าคิดด้วยตนเอง จะลงทุนอะไรสักอย่างก็ลงทุนตามคนที่เขาคิดว่าเป็น expert ผู้เชี่ยวชาญหรือตามกลุ่มคน social ที่คิดเหมือนๆ เขา กระผมคิดว่าถ้าอย่างนั้นอย่าลงทุนเลยจะดีกว่า ซึ่งในกรณีนั้นเท่ากับว่าพวกเขาได้ขาดทุนไปแล้วโดยอัตโนมัติ
หลังจากงมโข่งในความปราถนาที่จะร่ำรวยกับเขามาสิบกว่าปี หามันไม่เจอสักที ยิ่งวิ่งเข้าหา มันยิ่งเดินหนี แต่พอยิ่งวิ่งหนีมัน มันกลับวิ่งเข้าหาเรา การคลี่คลายอย่างน่ามหัศจรรย์ราวกับนิทานเด็กแบบนี้ กระผมไม่เข้าใจเลย รู้แต่ว่าชีวิตของกระผมได้เดินหน้าสู่ ความปราถนาที่จะขาดทุนอย่างเต็มตัว
กระผมบอกเลยว่า "เราพร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ" ไม่ใช่เรื่องสนุก
กระผมไม่รู้เลยว่า อุโมงค์แห่งการขาดทุนนั้นจะยาวขนาดไหน และเป็นเวลานานมากแค่ไหนที่แสงสว่างแห่งการกำไรที่ปลายอุโมงค์จะมาถึงเมื่อไหร่ รู้อย่างเดียวว่า ความต้องการที่จะขาดทุนนั้น บังคับให้เราต้องรื้อสิ่งต่าง ๆ ที่ทำให้เราต้องขาดทุน รื้อพวกมันออกมาและเอาเรียงไว้ข้างหน้าและอย่าทำมัน หลีกเหลี่ยงมันให้ได้
ก่อนอื่นใด กระผมต้องเริ่มจากรื้อตัวเองและหยุดหลอกตัวเองว่า กระผมเป็นอะไรที่มากกว่าที่เป็น และการยอมรับตัวเองจะเราสามารถทำผิดได้ การให้อภัยตัวเองจะทำให้เราทุ่ทเทพลังงทั้งหมดไปกับการแก้ไขในสิ่งที่ตจัวเราเองได้ผิดลงไป การยอมรับเรื่องการขาดทุนได้ปลดปล่อยกระผมให้พ้นจากความฝันเฟื่องจินตนาการที่หลอกตัวเองมานานว่าว่า กระผมเป็นอะไรที่มากกว่าที่เป็น
กระผมเชื่อว่า นี่คือประเด็นที่กระผมเขียนบทความนี้และอยากจะบอกคนหนุ่มสาวที่เพิ่งก้าวพ้นข้ามเข้ามาในรั้วการลงทุนแห่งความฝันนี้
"ความฝัน" และ "ความเชื่อมั่น" เป็นสิ่งที่จำเป็นของคนคนหนึ่งที่ปราถนาจะประสบความสำเร็จ แต่ "การยอมรับความจริง" คือ สิ่งที่สำคัญมากว่ามากกกกกกก เพราะมันอาจคือ โฟมล้างหน้าที่มีประสิทธิภาพในการล้างเครื่องสำอางแห่งการหลอกตัวเองที่เคลือบอยู่บนใบหน้าของเรา
กระผมมาเริ่มรู้สึกทีหลัง ปัญญาทึบครับ ความรู้สึกช้า ว่าการปล่อยให้ "วันนี้เป้นวันดีที่กระผมจะขาดทุน" มันดีอย่างนี้เอง อย่างน้อยมันจัดการพันธนาการต่าง ๆ ที่ "เป็นภาพลวงตาไม่จริง" จนหมดสิ้น ความคิดที่จะขาดทุน ก็เหมือนการคิดถึงแต่ว่าเราจะลงไปก้นเหวได้ลึกขนาดไหนละครับ ไอ้ก้นเหวนี่ละครับสำคัญมากนะครับ เพราะมันเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งให้กระผมเหยียบและสร้างชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งได้
(ต้องขอขอบคุณพี่มนและพี่โจอีกครั้งที่ให้โอกาสกระผม กระผมจะขอจดจำไว้ตลอดชีวิตครับ)
ถ้ากระผมไม่คิดถึงกับก้นเหว ไม่ยอมปล่อยตัวเองให้ยอมรับว่าก้นเหวแห่งการขาดทุนนี่มันมีจริง เลิกหลอกตัวเองสักทีว่าลงทุนนี่มีแต่กำไรด้านเดียว โอกาสที่จะทะยานตัวขึ้นแถบไม่มี เพราะหลักของการ "ลุก" เมื่อเรา "ล้ม" ก็คือ ต้องดันตัวเองขึ้นมาโดยใช้พื้นเป็นฐานยันตัว การลอยอยู่ในอากาศ กระผมจะไม่มีอะไรเป็นฐานในการดันตัวขึ้นเลย แต่เมื่อยอมดิ่งใจตัวเองจนถึง "ก้นเหวแห่งการขาดทุน" เมื่อไร เราจะมี "ก้นเหวแห่งการขาดทุน" เป็นที่ค้ำยันและผลักตัวเองให้กระโดดขึ้นมาจากหุบเหวแห่ง "การขาดทุน" ได้สำเร็จ
การคิดถึงว่า กระผมจะขาดทุนได้เพราะอะไรได้มอบความมั่นคงทางจิตใจซึ่งมาจากลมหายใจที่มีสติ เหมือนลมหายใจที่เราเกิดมาแล้วคิดถึงว่าอย่างไรเราต้องตายกันทุกคนอย่างไรอย่างนั้น การยอมรับว่าเราผิดพลาดได้สอนเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับตัวกระผมเองที่ไม่สามารถเรียนรู้ได้ด้วยโดยวิธีอื่นแม้จากในมหาวิทยาลัยก็ตาม ที่สำคัญคือสิ่งที่ได้รับที่มีค่ามากคือ กระผมมีความมุ่งมั่นมากขึ้น และมีวินัยมากกว่าที่คาดคิดไว้ตั้งแต่แรก การเรียนรู้ที่ได้มาหลังจากที่โผล่พ้นจากความคิดที่จะขาดทุนแต่ละครั้ง ได้ก่อร่างสร้างตัวอย่างมีปัญญาและเข้มแข็งกว่าความปราถนาที่จะทำกำไรเสียอีก มันแปลว่า ท่านจะมีความสามารถในการเอาตัวรอดจากความผันผวนในเกมการลงทุนนี้ติดตัวไปตลอดชีวิต
กระผมจะไม่มีวันรู้จักตัวเองอย่างแท้จริงหรือรู้จักความไม่มีประสิทธิภาพของตลาด จะไม่มีวันทำความเข้าใจกับความสัมพันธ์ของทั้ง 2 สิ่งนี้จนกว่าจะถูกทดสอบด้วยความปราถนาที่จะขาดทุนได้
ความรู้แบบนี้หาอ่านจากหนังสือไมได้ มันต้องทำเอง เพราะมันจะได้มาด้วยความยากลำบากในการฝึกคิดอย่างต่อเนื่องอย่างยาวนานเท่านั้น
กระผมพล่ามมาเยอะแล้ว การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นเรื่องที่ยากซับซ้อน และไม่มีใครสามารถควบคุมมันได้อย่างสมบูรณ์ กระผมอิจฉาท่านนักลงทุนที่อายุยังน้อย ถ้าคนแก่อย่างกระผมนั่งทามแมชชีนย้อนเวลากลับไปได้ กระผมจะเขกหัวเองให้แรงๆ และสอนตัวเองให้ยอมรับในสัจธรรมข้อนี้ตั้งแต่แรก
การยอมรับว่าเราทำผิดพลาดได้ การยอมรับว่าไม่ว่าอะไรที่เราทำก็ตาม ไม่ว่าจะเป้นการลงทุน การจีบสาว การโพสลงใน Thaivi ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ การยอมรับในเรื่องที่ว่าเราขาดทุนได้เหมือนกัน สิ่งที่เราคาดคิดอาจจะไม่ใช้อย่างที่เรามั่นใจ เพราะเราไปยึดมั่นกับอะไร สิ่งนั้นก็เป็นจุดอ่อนสำหรับเรื่องนั้น เหมือนกับระบบทุนนิยมที่ยึดติดกับการแลกเปลี่ยนเงิน นักลงทุนป้องกันความเสี่ยงต่างชาติที่เป้นคนยิวเสียส่วนใหญ่ เขาก็โจมตีเรื่องนั้น คนยิวเขาคิดค้นระบบทุนนิยม ตอนเด็ก ๆ เวลาวันศุกร์เย็น เด็กชาวยิวต้องเรียนวิชาการเทรดค้าขายจากคัมภีร์ตาลมุดกันตั้งแต่ 7 ขวบ เขาคลุมเกมทุกอย่าง กระผมรู้แต่ว่าความอ่อนน้อมถ่อมตนในการยอมรับความจริงดังกล่าวและ การเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ จะช่วยให้ท่านรอดพ้นจากความผันผวนของตลาดหุ้นและที่สำคัญเอาชนะความผันผวนของชีวิตท่านได้.
ขอให้ท่านนักลงทุนใหม่ทุกท่าน ประสบความสำเร็จ มีความเจริญรุ่งเรื่องสถาพรยิ่งๆ ขึ้นไปทุกท่านครับ
shalom...... สวัสดีครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 103
- ผู้ติดตาม: 0
เป่าเทียนให้ดับ : พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 3
บทความดีครับ แจ่มเลย ส่วนผมเคยขาดทุน 50% ของport มาแล้วครับ ( ขาดทุนเจ็ดหลักเลย ) ตอนยังไม่เป็น vi ตอนแรกเครียดที่ขาดทุนแต่พอดีเป็นเงินเย็นครับ เลยถือมาเรื่อยๆเวลาผ่ายไปตอนนี้มีกำไรด้วย แต่สิ่งที่สำคัญคือประสบการณ์และสมาธิครับ ถ้าหุ้นตอนนี้ที่ถือจะตกลงมาเยอะๆก็สบายครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
เป่าเทียนให้ดับ : พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 4
บทความดีครับ แต่ผมอ่านแล้ว ยังไม่เข้าถึงแก่นอย่างลึกซึ้ง คงเพราะด้อยสติปัญญาน่ะครับ อ่านอะไรยาวๆหน่อย พาลจะหลับอยู่เรื่อย
แต่ชอบรูปแรกที่ท่านhumdrumแปะไว้มากๆครับ
เป็นรูปที่ดีมากๆเลยครับ ทั้งองค์ประกอบ สีสัน ความรู้สึก
มันดีเสียจนบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ถูกเลยครับ
ชอบครับทั้งบทความ ทั้งรูปภาพ
ขอบพระคุณนะครับที่นำเสนอสิ่งดีๆ
แต่ชอบรูปแรกที่ท่านhumdrumแปะไว้มากๆครับ
เป็นรูปที่ดีมากๆเลยครับ ทั้งองค์ประกอบ สีสัน ความรู้สึก
มันดีเสียจนบรรยายออกมาเป็นตัวอักษรไม่ถูกเลยครับ
ชอบครับทั้งบทความ ทั้งรูปภาพ
ขอบพระคุณนะครับที่นำเสนอสิ่งดีๆ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
- VSนักลงทุนอริยะ
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เป่าเทียนให้ดับ : พร้อมรับสถานการณ์ที่แย่ที่สุดอยู่เสมอ
โพสต์ที่ 5
อ่านแล้ว ต้องนั่งหลับตาเลยครับ
ดีมากกก ครับ
ดีมากกก ครับ