Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- little wing
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 187
- ผู้ติดตาม: 0
Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
โลกในมุมมองของ Value Investor 12 เมษายน 55
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
การเติบโตของธุรกิจการค้าปลีกสมัยใหม่และธุรกิจ “ระดับชาติ” หลายอย่างนั้นดูเหมือนว่าจะเป็น “แนวโน้มใหญ่” ที่ในที่สุดแล้วก็จะกระจายไปทั่วประเทศและยึดกุมธุรกิจเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กำลังขยายตัวไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ นั้น เราก็จะพบว่ามีธุรกิจที่เจ้าของเป็นคนในท้องถิ่นยังสามารถ “ต่อสู้” กับธุรกิจจาก “ส่วนกลาง” ได้ บางบริษัทนั้นสามารถที่จะขยายตัวไปในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย และถ้ามองจากภายนอก ดูเหมือนว่าร้านของบริษัทท้องถิ่นบางแห่งจะขายดีเท่ากับหรือดีกว่ากิจการ “ระดับชาติ” ที่มาเปิดสาขาอยู่ใกล้ ๆ กัน นี่อาจจะทำให้คนที่สังเกตการณ์คิดไปไกลว่า กิจการท้องถิ่นดังกล่าวอาจจะกลายเป็นคู่แข่งหรือภัยคุกคามกิจการระดับชาติที่กำลังขยายตัวด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นความจริงหรือเป็น “ภาพลวง” กันแน่ ลองมาดูภาพของ “ธุรกิจท้องถิ่น” ที่สามารถ “ต่อกร” กับธุรกิจระดับชาติโดยเฉพาะที่เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ดู
ประเด็นแรกที่ผมจะพูดถึงก็คือ ร้านค้าปลีกท้องถิ่นที่โดดเด่นสามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ระดับชาติได้นั้น เกือบทั้งหมดน่าจะเน้นที่ลูกค้าที่มีรายได้ค่อนไปทางต่ำหรือต่ำที่สุด ในทางการตลาดก็คือเน้นลูกค้าระดับ C ลงไปซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของเครือข่ายระดับชาติ และสินค้าที่ขายนั้นก็จะเน้นสินค้าที่มีราคาถูกเป็นหลัก การตั้งราคาสินค้าก็จะต่ำกว่าสินค้าแบบเดียวกันที่มีขายอยู่ในร้านที่เป็นโมเดินเทรดระดับชาติ สิ่งที่แตกต่างดูเหมือนว่าจะอยู่ที่คุณภาพของบริการที่จะน้อยและด้อยกว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่นเดียวกัน การตกแต่งร้านก็จะไม่หรูหราเท่า บางร้านก็ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ ภาพของร้านก็คือ เป็นร้านที่ขายสินค้าราคาถูกแต่เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือคล้าย ๆ กับร้าน Modern Trade ไม่เหมือนกับร้านค้า “แบบดั้งเดิม” ที่ทำกันในครอบครัวและมีขนาดเล็ก
บริษัทท้องถิ่นที่ “โดดเด่น” นั้น มีในหลากหลายสินค้า ที่เห็นค่อนข้างมากนั้นรวมถึง ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ ร้านเหล่านี้อาจจะมีชื่อที่ “ทันสมัย” และเน้นภาพของความที่มีราคาถูก เช่น อาจจะตั้งชื่อร้านว่า “Home Cheap” ร้านที่มีค่อนข้างมากอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งก็แน่นอนว่ามีการขายเงินผ่อนด้วยซึ่งก็อาจจะตั้งชื่อเป็น “Electronic Cheap” ร้านสะดวกซื้อที่อาจจะมีชื่อว่า “Con Cheap” หรือแม้แต่ร้านประเภท “เมกกะสโตร์”ขายสินค้าหลากหลายสารพัดอย่างและมีขนาดใหญ่โตที่อาจจะตั้งชื่อว่า “Super Cheap” ร้านต่าง ๆ เหล่านี้ บางแห่งก็อาจจะเริ่มมีสาขาที่กระจายออกไปในพื้นที่อื่นของจังหวัดและในจังหวัดใกล้เคียง นั่นทำให้มีภาพและชื่อเสียงดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งและเป็นเสมือนหนึ่งประกาศว่า บริษัทสามารถแข่งขันและอาจจะเอาชนะร้านที่มาจากส่วนกลางระดับชาติได้
ประเด็นที่จะต้องคิดก็คือ บริษัทท้องถิ่นที่ดูเหมือนว่าจะ “ประสบความสำเร็จ” ในการขายสินค้าราคาถูกเป็นหลัก ที่ผมอยากเรียกเป็นคำรวม ๆ ว่าบริษัท “Super Cheap” หรือ SC เหล่านั้น ประสบความสำเร็จจริงหรือ? และถ้าจริง บริษัทจะสามารถขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ จนสามารถแข่งขันกับบริษัทระดับชาติในวงที่กว้างขึ้น และในที่สุดตนเองก็จะกลายเป็นบริษัทระดับชาติได้หรือไม่?
คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างแต่คำว่า “ขายดี” อาจจะไม่ใช่คำตอบ เหตุผลก็คือ การขายดีอาจจะเป็นเพราะว่าร้านนั้นขายสินค้าราคาถูกกว่าปกติ และสินค้าสำหรับลูกค้าที่มีรายได้ต่ำนั้น ลูกค้ามักจะตัดสินใจซื้อโดยเน้นที่ราคาเป็นหลัก ดังนั้น ร้าน SC จึงสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ประเด็นยังมีว่า ลูกค้ามักจะซื้อสินค้าต่อรายการค่อนข้างต่ำ ดังนั้น การที่เราเห็นคนเข้าร้านมากก็ไม่ได้หมายความว่ารายได้ในการขายจะมากเท่า ๆ กับร้านที่ขายสินค้าให้คนที่มีรายได้มากกว่าและในราคาที่สูงกว่า นี่ก็เป็นเรื่องของการขายที่อาจจะเกิด “ภาพลวง” ขึ้นได้
เรื่องที่สำคัญก็คือ บริษัท SC นั้นขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า แต่ต้นทุนการซื้อสินค้านั้นกลับแพงกว่าบริษัทระดับชาติเนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อจาก Supplier ที่น้อยกว่ามาก ดังนั้น มาร์จินหรือกำไรขั้นต้นของ SC จึงน่าจะต่ำมาก อย่างไรก็ตาม อาจจะมีข้อโตแย้งว่า ต้นทุนค่าการขายและโสหุ้ยต่าง ๆ ของ SC นั้นต่ำกว่าบริษัทที่มีเครือข่ายระดับชาติ ดังนั้น SC ก็อาจจะยังมีกำไรได้ แต่นี่เป็นเรื่องที่เราคาดเดามากกว่าข้อเท็จจริง แต่ข้อโต้แย้งก็มีต่อไปว่า ถ้า SC ไม่มีกำไร บริษัทจะอยู่ได้อย่างไรมาค่อนข้างนานและที่สำคัญยังขยายตัวด้วย บางแห่งเริ่มขยายตัวอย่างน่าประทับใจ นี่ไม่ใช่สัญญาณของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำกำไรหรือ?
คำตอบของผมก็คือ อาจจะไม่ใช่! เหตุผลก็คือ ในธุรกิจค้าปลีกนั้น ผู้ขายจะขายเป็นเงินสดในขณะที่การซื้อสินค้าจาก Supplier นั้นเป็นเงินเชื่อซึ่งบางทีกว่าจะจ่ายก็เป็นเวลาหลายเดือน ดังนั้น แม้ว่าบริษัทจะค้าขายไม่มีกำไรหรือขาดทุนบ้าง กระแสเงินสดของบริษัทก็จะไม่ขาด บริษัทสามารถขายสินค้าไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ประสบปัญหาในการดำเนินงาน ว่าที่จริงในบางกรณี บริษัทสามารถขยายงานไปได้เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่มีกำไรเลย เหตุผลก็เช่นเดิมนั่นก็คือ บริษัทยิ่งขายสินค้ามาก เงินสดที่ได้จากการขายก็มากขึ้นในขณะที่เงินที่จะต้องจ่ายให้กับ Supplier กลับถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ ดังนั้น การขยายตัวของธุรกิจจึงอาจจะไม่ใช่เครื่องหมายของการทำกำไรก็ได้
ข้อถกเถียงต่อมาก็คือ เจ้าของธุรกิจ SC คงไม่ทำธุรกิจ หรือตัดสินใจขยายงานโดยที่รู้ว่ากิจการไม่ทำกำไร นี่ก็เป็นข้อโต้แย้งที่มีเหตุผล อย่างไรก็ตามนี่ก็มาถึงจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจของ SC นั่นก็คือ เรื่องของการจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารสินค้าคงคลัง ปัญหาก็คือ เจ้าของหรือผู้บริหารของ SC เองนั้น อาจจะไม่รู้ข้อมูลจริง ๆ ของธุรกิจของตนเองเนื่องจากระบบข้อมูลและบัญชีอาจจะไม่ได้มาตรฐาน เขาอาจจะไม่ได้ตรวจนับสินค้าคงคลังอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงพอ เขาอาจจะประมาณการสินค้าสูญหายหรือล้าสมัยต่ำเกินไปซึ่งทำให้ตัวเลขกำไรนั้นสูงเกินไป นี่เป็นตัวอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากการบริหารงานที่อาจจะมีอีกมากมาย
ถ้าสมมุติว่าทุกอย่างถูกต้อง บริษัท SC นั้น ประสบความสำเร็จจริง ธุรกิจมียอดขายที่ดี มีกำไรจริง มีการบริหารงานและระบบข้อมูลและบัญชีที่เชื่อถือได้ และสามารถขยายงานครอบคลุมในระดับจังหวัดและอาจจะในจังหวัดใกล้เคียงได้สำเร็จ แต่นี่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบริษัทจะสามารถแข่งขันกับบริษัทระดับชาติได้อย่างแน่นอน ประเด็นก็คือ การบริหารงานบริษัทที่มีขนาดของธุรกิจขนาดหนึ่งนั้น อาจจะไม่เหมือนกับการบริหารบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปมาก ระบบการบริหารอาจจะเปลี่ยนแปลงไปมาก การดูแลกิจการโดยบุคคลที่เป็น “เจ้าของ” อาจจะทำได้ไม่ทั่วถึงและนี่อาจจะเป็นข้อจำกัดของบริษัท SC
แน่นอน ต้องมีบริษัท SC ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับชาติได้บ้าง ว่าที่จริงตัวอย่างก็มีอยู่ อย่างไรก็ตาม บริษัท SC จำนวนมากและน่าจะเป็นส่วนใหญ่นั้น ก็ไม่สามารถที่จะเติบโตขึ้นมาท้าทายบริษัทที่มีเครือข่ายระดับชาติได้ SC จำนวนมาก “ล้มหายตายจาก” ไป SC ที่เหลืออยู่จำเป็นต้อง “หาจุดยืน”ของตนเองให้ได้เพื่อที่จะอยู่รอดได้ในระยะยาว แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในบริษัทค้าปลีกระดับชาติแล้ว ความคิดที่ว่า SC จะเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวของบริษัทนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ยังห่างไกลไปมาก
ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
การเติบโตของธุรกิจการค้าปลีกสมัยใหม่และธุรกิจ “ระดับชาติ” หลายอย่างนั้นดูเหมือนว่าจะเป็น “แนวโน้มใหญ่” ที่ในที่สุดแล้วก็จะกระจายไปทั่วประเทศและยึดกุมธุรกิจเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ในระหว่างที่กำลังขยายตัวไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ นั้น เราก็จะพบว่ามีธุรกิจที่เจ้าของเป็นคนในท้องถิ่นยังสามารถ “ต่อสู้” กับธุรกิจจาก “ส่วนกลาง” ได้ บางบริษัทนั้นสามารถที่จะขยายตัวไปในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียงด้วย และถ้ามองจากภายนอก ดูเหมือนว่าร้านของบริษัทท้องถิ่นบางแห่งจะขายดีเท่ากับหรือดีกว่ากิจการ “ระดับชาติ” ที่มาเปิดสาขาอยู่ใกล้ ๆ กัน นี่อาจจะทำให้คนที่สังเกตการณ์คิดไปไกลว่า กิจการท้องถิ่นดังกล่าวอาจจะกลายเป็นคู่แข่งหรือภัยคุกคามกิจการระดับชาติที่กำลังขยายตัวด้วยซ้ำ แต่นี่เป็นความจริงหรือเป็น “ภาพลวง” กันแน่ ลองมาดูภาพของ “ธุรกิจท้องถิ่น” ที่สามารถ “ต่อกร” กับธุรกิจระดับชาติโดยเฉพาะที่เป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ดู
ประเด็นแรกที่ผมจะพูดถึงก็คือ ร้านค้าปลีกท้องถิ่นที่โดดเด่นสามารถแข่งขันกับร้านค้าปลีกสมัยใหม่ระดับชาติได้นั้น เกือบทั้งหมดน่าจะเน้นที่ลูกค้าที่มีรายได้ค่อนไปทางต่ำหรือต่ำที่สุด ในทางการตลาดก็คือเน้นลูกค้าระดับ C ลงไปซึ่งไม่ใช่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักของเครือข่ายระดับชาติ และสินค้าที่ขายนั้นก็จะเน้นสินค้าที่มีราคาถูกเป็นหลัก การตั้งราคาสินค้าก็จะต่ำกว่าสินค้าแบบเดียวกันที่มีขายอยู่ในร้านที่เป็นโมเดินเทรดระดับชาติ สิ่งที่แตกต่างดูเหมือนว่าจะอยู่ที่คุณภาพของบริการที่จะน้อยและด้อยกว่าร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เช่นเดียวกัน การตกแต่งร้านก็จะไม่หรูหราเท่า บางร้านก็ไม่ติดเครื่องปรับอากาศ ภาพของร้านก็คือ เป็นร้านที่ขายสินค้าราคาถูกแต่เป็นสินค้าที่ได้มาตรฐานและมีความน่าเชื่อถือคล้าย ๆ กับร้าน Modern Trade ไม่เหมือนกับร้านค้า “แบบดั้งเดิม” ที่ทำกันในครอบครัวและมีขนาดเล็ก
บริษัทท้องถิ่นที่ “โดดเด่น” นั้น มีในหลากหลายสินค้า ที่เห็นค่อนข้างมากนั้นรวมถึง ร้านขายสินค้าเกี่ยวกับวัสดุก่อสร้างที่มีขนาดใหญ่ในพื้นที่ ร้านเหล่านี้อาจจะมีชื่อที่ “ทันสมัย” และเน้นภาพของความที่มีราคาถูก เช่น อาจจะตั้งชื่อร้านว่า “Home Cheap” ร้านที่มีค่อนข้างมากอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ ร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งก็แน่นอนว่ามีการขายเงินผ่อนด้วยซึ่งก็อาจจะตั้งชื่อเป็น “Electronic Cheap” ร้านสะดวกซื้อที่อาจจะมีชื่อว่า “Con Cheap” หรือแม้แต่ร้านประเภท “เมกกะสโตร์”ขายสินค้าหลากหลายสารพัดอย่างและมีขนาดใหญ่โตที่อาจจะตั้งชื่อว่า “Super Cheap” ร้านต่าง ๆ เหล่านี้ บางแห่งก็อาจจะเริ่มมีสาขาที่กระจายออกไปในพื้นที่อื่นของจังหวัดและในจังหวัดใกล้เคียง นั่นทำให้มีภาพและชื่อเสียงดีขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งและเป็นเสมือนหนึ่งประกาศว่า บริษัทสามารถแข่งขันและอาจจะเอาชนะร้านที่มาจากส่วนกลางระดับชาติได้
ประเด็นที่จะต้องคิดก็คือ บริษัทท้องถิ่นที่ดูเหมือนว่าจะ “ประสบความสำเร็จ” ในการขายสินค้าราคาถูกเป็นหลัก ที่ผมอยากเรียกเป็นคำรวม ๆ ว่าบริษัท “Super Cheap” หรือ SC เหล่านั้น ประสบความสำเร็จจริงหรือ? และถ้าจริง บริษัทจะสามารถขยายตัวออกไปเรื่อย ๆ จนสามารถแข่งขันกับบริษัทระดับชาติในวงที่กว้างขึ้น และในที่สุดตนเองก็จะกลายเป็นบริษัทระดับชาติได้หรือไม่?
คำตอบนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างแต่คำว่า “ขายดี” อาจจะไม่ใช่คำตอบ เหตุผลก็คือ การขายดีอาจจะเป็นเพราะว่าร้านนั้นขายสินค้าราคาถูกกว่าปกติ และสินค้าสำหรับลูกค้าที่มีรายได้ต่ำนั้น ลูกค้ามักจะตัดสินใจซื้อโดยเน้นที่ราคาเป็นหลัก ดังนั้น ร้าน SC จึงสามารถดึงดูดลูกค้ากลุ่มนี้ได้ ประเด็นยังมีว่า ลูกค้ามักจะซื้อสินค้าต่อรายการค่อนข้างต่ำ ดังนั้น การที่เราเห็นคนเข้าร้านมากก็ไม่ได้หมายความว่ารายได้ในการขายจะมากเท่า ๆ กับร้านที่ขายสินค้าให้คนที่มีรายได้มากกว่าและในราคาที่สูงกว่า นี่ก็เป็นเรื่องของการขายที่อาจจะเกิด “ภาพลวง” ขึ้นได้
เรื่องที่สำคัญก็คือ บริษัท SC นั้นขายสินค้าในราคาที่ต่ำกว่า แต่ต้นทุนการซื้อสินค้านั้นกลับแพงกว่าบริษัทระดับชาติเนื่องจากปริมาณการสั่งซื้อจาก Supplier ที่น้อยกว่ามาก ดังนั้น มาร์จินหรือกำไรขั้นต้นของ SC จึงน่าจะต่ำมาก อย่างไรก็ตาม อาจจะมีข้อโตแย้งว่า ต้นทุนค่าการขายและโสหุ้ยต่าง ๆ ของ SC นั้นต่ำกว่าบริษัทที่มีเครือข่ายระดับชาติ ดังนั้น SC ก็อาจจะยังมีกำไรได้ แต่นี่เป็นเรื่องที่เราคาดเดามากกว่าข้อเท็จจริง แต่ข้อโต้แย้งก็มีต่อไปว่า ถ้า SC ไม่มีกำไร บริษัทจะอยู่ได้อย่างไรมาค่อนข้างนานและที่สำคัญยังขยายตัวด้วย บางแห่งเริ่มขยายตัวอย่างน่าประทับใจ นี่ไม่ใช่สัญญาณของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จและทำกำไรหรือ?
คำตอบของผมก็คือ อาจจะไม่ใช่! เหตุผลก็คือ ในธุรกิจค้าปลีกนั้น ผู้ขายจะขายเป็นเงินสดในขณะที่การซื้อสินค้าจาก Supplier นั้นเป็นเงินเชื่อซึ่งบางทีกว่าจะจ่ายก็เป็นเวลาหลายเดือน ดังนั้น แม้ว่าบริษัทจะค้าขายไม่มีกำไรหรือขาดทุนบ้าง กระแสเงินสดของบริษัทก็จะไม่ขาด บริษัทสามารถขายสินค้าไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่ประสบปัญหาในการดำเนินงาน ว่าที่จริงในบางกรณี บริษัทสามารถขยายงานไปได้เรื่อย ๆ ทั้ง ๆ ที่บริษัทไม่มีกำไรเลย เหตุผลก็เช่นเดิมนั่นก็คือ บริษัทยิ่งขายสินค้ามาก เงินสดที่ได้จากการขายก็มากขึ้นในขณะที่เงินที่จะต้องจ่ายให้กับ Supplier กลับถูกเลื่อนออกไปเรื่อย ๆ ดังนั้น การขยายตัวของธุรกิจจึงอาจจะไม่ใช่เครื่องหมายของการทำกำไรก็ได้
ข้อถกเถียงต่อมาก็คือ เจ้าของธุรกิจ SC คงไม่ทำธุรกิจ หรือตัดสินใจขยายงานโดยที่รู้ว่ากิจการไม่ทำกำไร นี่ก็เป็นข้อโต้แย้งที่มีเหตุผล อย่างไรก็ตามนี่ก็มาถึงจุดอ่อนที่สำคัญที่สุดของธุรกิจของ SC นั่นก็คือ เรื่องของการจัดการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารสินค้าคงคลัง ปัญหาก็คือ เจ้าของหรือผู้บริหารของ SC เองนั้น อาจจะไม่รู้ข้อมูลจริง ๆ ของธุรกิจของตนเองเนื่องจากระบบข้อมูลและบัญชีอาจจะไม่ได้มาตรฐาน เขาอาจจะไม่ได้ตรวจนับสินค้าคงคลังอย่างละเอียดถี่ถ้วนเพียงพอ เขาอาจจะประมาณการสินค้าสูญหายหรือล้าสมัยต่ำเกินไปซึ่งทำให้ตัวเลขกำไรนั้นสูงเกินไป นี่เป็นตัวอย่างที่อาจจะเกิดขึ้นเนื่องจากการบริหารงานที่อาจจะมีอีกมากมาย
ถ้าสมมุติว่าทุกอย่างถูกต้อง บริษัท SC นั้น ประสบความสำเร็จจริง ธุรกิจมียอดขายที่ดี มีกำไรจริง มีการบริหารงานและระบบข้อมูลและบัญชีที่เชื่อถือได้ และสามารถขยายงานครอบคลุมในระดับจังหวัดและอาจจะในจังหวัดใกล้เคียงได้สำเร็จ แต่นี่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่าบริษัทจะสามารถแข่งขันกับบริษัทระดับชาติได้อย่างแน่นอน ประเด็นก็คือ การบริหารงานบริษัทที่มีขนาดของธุรกิจขนาดหนึ่งนั้น อาจจะไม่เหมือนกับการบริหารบริษัทที่มีขนาดใหญ่ขึ้นไปมาก ระบบการบริหารอาจจะเปลี่ยนแปลงไปมาก การดูแลกิจการโดยบุคคลที่เป็น “เจ้าของ” อาจจะทำได้ไม่ทั่วถึงและนี่อาจจะเป็นข้อจำกัดของบริษัท SC
แน่นอน ต้องมีบริษัท SC ที่สามารถก้าวขึ้นมาเป็นบริษัทระดับชาติได้บ้าง ว่าที่จริงตัวอย่างก็มีอยู่ อย่างไรก็ตาม บริษัท SC จำนวนมากและน่าจะเป็นส่วนใหญ่นั้น ก็ไม่สามารถที่จะเติบโตขึ้นมาท้าทายบริษัทที่มีเครือข่ายระดับชาติได้ SC จำนวนมาก “ล้มหายตายจาก” ไป SC ที่เหลืออยู่จำเป็นต้อง “หาจุดยืน”ของตนเองให้ได้เพื่อที่จะอยู่รอดได้ในระยะยาว แต่สำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในบริษัทค้าปลีกระดับชาติแล้ว ความคิดที่ว่า SC จะเป็นภัยคุกคามต่อการขยายตัวของบริษัทนั้น น่าจะเป็นสิ่งที่ยังห่างไกลไปมาก
- vi_tal signs
- Verified User
- โพสต์: 631
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 2
ขอบคุณมากครับ ได้แนวคิดเลยว่า จะโตระดับชาติต้องมีการจัดการแบบมืออาชีพ
มันจะมีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 430
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 4
อาจจะเหมือนถึง CJ ก็ได้ ที่กำลังเปิดอยู่ต่างจังหวัด เยอะๆ
http://www.matichon.co.th/online/2011/0 ... 67592l.jpg
http://www.matichon.co.th/online/2011/0 ... 67592l.jpg
ปล ความเห็นส่วนตัว
- gnomeller
- Verified User
- โพสต์: 425
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
Super Cheap มีจริงครับอยู่ที่ภูเก็ต ขนาดว่าบางแห่งมี 7/11 ดัก หน้า กลาง หลัง ท้าย
สู้กันแบบ 4ต่อ 1 แต่ Super Cheap ยังเอาชนะได้เลยครับ
มองว่าการต่อสู้ในพื้นที่ Super Cheap เอาใจคนพื้นที่ไปได้มากกว่า แต่ในระดับตลาดขนาดใหญ่ขึ้นไปยังไม่สามารถตอบสนองได้
เทียบกัน 7/11 สำหรับผมถือว่าดีที่สุดในกรุงเทพ แต่ที่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่ครับ Super Cheap ดีที่สุดสำหรับคนพื้นที่ครับ
สู้กันแบบ 4ต่อ 1 แต่ Super Cheap ยังเอาชนะได้เลยครับ
มองว่าการต่อสู้ในพื้นที่ Super Cheap เอาใจคนพื้นที่ไปได้มากกว่า แต่ในระดับตลาดขนาดใหญ่ขึ้นไปยังไม่สามารถตอบสนองได้
เทียบกัน 7/11 สำหรับผมถือว่าดีที่สุดในกรุงเทพ แต่ที่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่ครับ Super Cheap ดีที่สุดสำหรับคนพื้นที่ครับ
- Juninho
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1054
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 8
นึกถึง ซูเปอร์ ชีพ ภูเก็ต ข้างมหาลัย มอ (วิทยาเขตภูเก็ต) เลย
ไม่เคยเห็น เซเว่นแพ้ เลยเป็นอะไรที่จำได้ขึ้นใจมาก
ไม่น่าเชื่อว่า อยู่ข้างๆ กันเซเว่น ไม่มีคนเข้าเลย
แต่ซูเปอร์ชีพ คนแน่นมาก
พอเข้าไปดูก็รู้ว่า ของถูกกว่าจริงๆ น้ำขวดใสขวดละห้าบาทเอง
ทุกอย่างถูกกว่าหมด ถูกกว่ามากด้วย
สงสัยเซเว่นสาขานี้คงต้องปิดตัวในไม่นาน
ไม่เคยเห็น เซเว่นแพ้ เลยเป็นอะไรที่จำได้ขึ้นใจมาก
ไม่น่าเชื่อว่า อยู่ข้างๆ กันเซเว่น ไม่มีคนเข้าเลย
แต่ซูเปอร์ชีพ คนแน่นมาก
พอเข้าไปดูก็รู้ว่า ของถูกกว่าจริงๆ น้ำขวดใสขวดละห้าบาทเอง
ทุกอย่างถูกกว่าหมด ถูกกว่ามากด้วย
สงสัยเซเว่นสาขานี้คงต้องปิดตัวในไม่นาน
You Can Get It If You Really Want
But you must try, try and try
But you must try, try and try
-
- Verified User
- โพสต์: 483
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 10
บริษัท ซุปเปอร์ชีป จำกัด หรือ ห้างซุปเปอร์ชีป ประกอบกิจการในรูปแบบการ ค้าปลีกและค้าส่งขนาดใหญ่ ภายใต้สโลแกนที่ว่า
" ขายส่ง ขายถูก ถูกทุกตัว " มีแผนกต่าง ๆ ที่รวมเอา
สรรพสินค้าไว้ เพื่อ บริการ จัดจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค
หลากหลายชนิด และสินค้าภาย ใต้แบรนด์ของบริษัทเอง
ตลอดจนศูนย์อาหารที่มีไว้บริการ
โดยทางห้างซุปเปอร์ชีป ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำด้านข้อมูล
นอกจากนี้ทางห้างยังมีการสะสมแต้มคืนกำไร ให้แก่สมาชิกของ
ทางห้างด้วย เพื่อให้ทุกท่าน จับจ่ายซื้อสินค้าในราคาประหยัด
และคุ้มค่ายิ่งขึ้น
บริษัทเปิดทำการ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่ม เปิดจำหน่าย ตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 23.00 น. ท่านสามารถ ชำระเงินค่าสินค้า
ได้ทั้งเงินสด และ เงินเชื่อ อีกทั้ง ทางห้างมีบริการที่จอดรถ
ที่กว้างขวาง และสะดวกสบาย ไว้คอยบริการ
บริการที่ทางห้างได้จัดให้มีขึ้นเพื่อบริการให้แก่ ลูกค้า คือ
บริการส่งสินค้าให้กับลูกค้าถึงที่ตามต้องการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ท่านสามารถเลือกชำระเงินได้ 3 วิธี ได้แก่
เงินสด , เช็ค , บัตรเครดิต
สถานที่ตั้ง : 46/5 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ : (076) 298600
Fax. : (076) 226015
E-mail : [email protected]
" ขายส่ง ขายถูก ถูกทุกตัว " มีแผนกต่าง ๆ ที่รวมเอา
สรรพสินค้าไว้ เพื่อ บริการ จัดจำหน่าย ทั้งสินค้าอุปโภค-บริโภค
หลากหลายชนิด และสินค้าภาย ใต้แบรนด์ของบริษัทเอง
ตลอดจนศูนย์อาหารที่มีไว้บริการ
โดยทางห้างซุปเปอร์ชีป ได้จัดเจ้าหน้าที่ให้คำแนะนำด้านข้อมูล
นอกจากนี้ทางห้างยังมีการสะสมแต้มคืนกำไร ให้แก่สมาชิกของ
ทางห้างด้วย เพื่อให้ทุกท่าน จับจ่ายซื้อสินค้าในราคาประหยัด
และคุ้มค่ายิ่งขึ้น
บริษัทเปิดทำการ ทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ เริ่ม เปิดจำหน่าย ตั้งแต่เวลา 05.00 ถึง 23.00 น. ท่านสามารถ ชำระเงินค่าสินค้า
ได้ทั้งเงินสด และ เงินเชื่อ อีกทั้ง ทางห้างมีบริการที่จอดรถ
ที่กว้างขวาง และสะดวกสบาย ไว้คอยบริการ
บริการที่ทางห้างได้จัดให้มีขึ้นเพื่อบริการให้แก่ ลูกค้า คือ
บริการส่งสินค้าให้กับลูกค้าถึงที่ตามต้องการ โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
ท่านสามารถเลือกชำระเงินได้ 3 วิธี ได้แก่
เงินสด , เช็ค , บัตรเครดิต
สถานที่ตั้ง : 46/5 ถ.เทพกระษัตรี ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต 83000
โทรศัพท์ : (076) 298600
Fax. : (076) 226015
E-mail : [email protected]
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2846
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 14
คงไม่ถึงกับชนะได้หรอกครับ ยาก แต่ถ้าทำให้ Same Store Sales Growth ลดลงแล้วคงเซ็ง เพราะค้าปลีกอะไรไม่สำคัญเท่า Same Store Sale Growth หากตัวนี้โตน้อยหรือไม่โตแล้ว ผู้ถือหุ้นก็เซ็งแล้ว
จริงๆ แล้วพวก Super Cheap ระดับท้องถิ่นผมว่าไม่น่ากลัวเท่า พวก Super Cheap ระดับโลก
อีกหน่อยทางเลือกขายสาขาSuper Cheap ระดับโลก ถูกกฏหมายเล่นงานจำกัด
ทำให้ต้องกระโดดลงมาในสนามนี้ ถ้าอยากจะโตในไทยต่อไป อันนี้เป็นอะไรที่น่าติดตามครับ
จริงๆ แล้วพวก Super Cheap ระดับท้องถิ่นผมว่าไม่น่ากลัวเท่า พวก Super Cheap ระดับโลก
อีกหน่อยทางเลือกขายสาขาSuper Cheap ระดับโลก ถูกกฏหมายเล่นงานจำกัด
ทำให้ต้องกระโดดลงมาในสนามนี้ ถ้าอยากจะโตในไทยต่อไป อันนี้เป็นอะไรที่น่าติดตามครับ
“Market prices are always wrong in the sense that they present a biased view of the future.”, Soros.
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
Blog about the investment playbook https://www.blockdit.com/alphainvesting
-
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 15
-
- Verified User
- โพสต์: 543
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 16
ไม่น่าเชื่อว่ามีกว่า 100 สาขาแล้ว มากกว่า Mini Big C อีก
http://cjexpress2005.com/index.php?opti ... Itemid=286
http://cjexpress2005.com/index.php?opti ... Itemid=286
- OutOfMyMind
- Verified User
- โพสต์: 1242
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 17
ผมเห็นต่างกับ ดร สำหรับบทความนี้
ก่อนที่ห้างระดับชาติ จะเป็นระดับชาติ เขาก็เคยเล็กมาก่อน
ใหญ่แล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นสูตรสำเร็จแห่งชัยชนะในทุกสนามรบ
จริงอยู่ว่ามีความได้เปรียบสูงมาก
แต่ไม่ได้แปลว่าปิดประตูสำหรับคู่แข่งท้องถิ่นที่จะได้เกิด และป้องกันอาณาเขตของตนไว้ไม่ให้รายใหญ่เข้ามาครอบครองไม่ได้อย่างร้อยเปอร์เซนต์
โอกาสทางธุรกิจเกิดขึ้นได้เสมอ
หากรู้ว่าลูกค้าของตนคือใคร
และจะนำส่งคุณค่าของสินค้าของตนสู่มือผู้บริโภคนั้นอย่างมีกำไรได้อย่างไร
เบื้องหลังการขายสินค้าราคาถูกนั้น
ไม่ได้อยู่แค่ โวลุ่มการสั่งซื้อสู้รายใหญ่ไม่ได้ หรือ การบริหารสต๊อกที่อาจมีระบบไม่สมบูรณ์เท่า (ซึ่งแน่ล่ะ อันนี้เป็นจุดอ่อน) แต่อาจจะมีเรือ่งของ merchaindizing ซึ่งอาจเลือกตัวที่แตกต่าง ตัวที่มีเฉพาะในท้องถิ่น หรือ ตัวที่ไม่ได้ list in เข้าไปในรายใหญ่ก็ได้
สรุปผมคิดว่า รายใหญ่ได้เปรียบ แต่ local ก็มีโอกาส หากนั่งวางกลยุทธ์ดีดี
ก่อนที่ห้างระดับชาติ จะเป็นระดับชาติ เขาก็เคยเล็กมาก่อน
ใหญ่แล้วก็ไม่ได้แปลว่าจะเป็นสูตรสำเร็จแห่งชัยชนะในทุกสนามรบ
จริงอยู่ว่ามีความได้เปรียบสูงมาก
แต่ไม่ได้แปลว่าปิดประตูสำหรับคู่แข่งท้องถิ่นที่จะได้เกิด และป้องกันอาณาเขตของตนไว้ไม่ให้รายใหญ่เข้ามาครอบครองไม่ได้อย่างร้อยเปอร์เซนต์
โอกาสทางธุรกิจเกิดขึ้นได้เสมอ
หากรู้ว่าลูกค้าของตนคือใคร
และจะนำส่งคุณค่าของสินค้าของตนสู่มือผู้บริโภคนั้นอย่างมีกำไรได้อย่างไร
เบื้องหลังการขายสินค้าราคาถูกนั้น
ไม่ได้อยู่แค่ โวลุ่มการสั่งซื้อสู้รายใหญ่ไม่ได้ หรือ การบริหารสต๊อกที่อาจมีระบบไม่สมบูรณ์เท่า (ซึ่งแน่ล่ะ อันนี้เป็นจุดอ่อน) แต่อาจจะมีเรือ่งของ merchaindizing ซึ่งอาจเลือกตัวที่แตกต่าง ตัวที่มีเฉพาะในท้องถิ่น หรือ ตัวที่ไม่ได้ list in เข้าไปในรายใหญ่ก็ได้
สรุปผมคิดว่า รายใหญ่ได้เปรียบ แต่ local ก็มีโอกาส หากนั่งวางกลยุทธ์ดีดี
บทความดีดีสำหรับนักลงทุนเน้นคุณค่า
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
https://www.facebook.com/OutOfMyMindOnValueInvestment
- yoyoeffect
- Verified User
- โพสต์: 364
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 18
สำหรับ CJ กับ 7-11
ก็คงจะ share marget กันไป ได้กำไรธุรกิจไปได้ทั้งคู่ มากน้อยตามสัดส่วน margin ของสินค้า
ไม่ทราบว่า CJ มีอาหารสดอุ่นพร้อมทาน มากน้อยแค่ไหนครับ
(ไม่เคยเข้า)
เพราะ 7-11 กำไร 70%มาจาก อาหารสดและเครื่องดื่ม
ในตปท.ผมเห็นร้านค้าลักษณะนี้อยู่มาก หลายแบรนด์หลายสาขา บนถนนเดียวกัน ก็อยู่ได้นาน ธุรกิจไปได้หมดทุกเจ้า
ผมว่าที่แย่ ก็คือ โชว์ห่วย รายย่อย ล้มหายตายจากไปมาก แต่ที่ดีหน่อยคือ รุ่นลูกหลาน โตทำงานในบริษัท หาเลี้ยงพ่อแม่ ตายายได้ ทำไปก็ไม่คุ้มเหนื่อย เก็บค่าเช่ากิน สบายกว่า (ตัวอย่างคนรอบข้าง)
ก็คงจะ share marget กันไป ได้กำไรธุรกิจไปได้ทั้งคู่ มากน้อยตามสัดส่วน margin ของสินค้า
ไม่ทราบว่า CJ มีอาหารสดอุ่นพร้อมทาน มากน้อยแค่ไหนครับ
(ไม่เคยเข้า)
เพราะ 7-11 กำไร 70%มาจาก อาหารสดและเครื่องดื่ม
ในตปท.ผมเห็นร้านค้าลักษณะนี้อยู่มาก หลายแบรนด์หลายสาขา บนถนนเดียวกัน ก็อยู่ได้นาน ธุรกิจไปได้หมดทุกเจ้า
ผมว่าที่แย่ ก็คือ โชว์ห่วย รายย่อย ล้มหายตายจากไปมาก แต่ที่ดีหน่อยคือ รุ่นลูกหลาน โตทำงานในบริษัท หาเลี้ยงพ่อแม่ ตายายได้ ทำไปก็ไม่คุ้มเหนื่อย เก็บค่าเช่ากิน สบายกว่า (ตัวอย่างคนรอบข้าง)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1399
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 19
ครั้งนี้ไม่เห็นด้วยกับ DR
ผมอ่านหนังสือ sam walton ผมได้พบว่าสิ่งที่ทำให้ walmart เป็นผู้ชนะก็เพราะค่าดำเนินงานต่ำ และ ขายสินค้าปริมาณมากและถูก หลายๆคนบอกว่า walmart จะต้องขาดทุนยับและออกจากธุรกิจไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกลับกัน....
ถึงแม้ว่ายุดนี้ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่จะเรียนรู้กลยุทธ์กันเกือบหมดแล้ว เพราะ walmart เป็นต้นแบบ คือขายถูกปริมาณเยอะ เพื่อมีอำนาจต่อรองสูง และสุดท้ายต้อง economics of scale แต่ก็ใช่ว่าในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าจะเหมือนเดิม
ผมไปดูร้าน dohome มั่นใจว่ายอดขายต่อบิลไม่ได้น้อยอย่าง ดร กล่าวเลย(ดร อาจจะไม่ได้หมายถึง dohome ก็ได้) และสินค้าขายต่อวันต่อสาขาดีกว่า hmpro หลายเท่าตัว (ผมเทียบจากสาขาโคราช)
โลกเราหมุนเร็วขึ้นทุกวัน กลยุทธ์ใหม่ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ค้าปลีกอย่าง 7-11 ถ้าไม่ปรับตัวผมก็ไม่เชื่อว่าจะรักษาอัตรากำไรได้แบบนี้ตลอดไป
ผมเปรียบเทียบ net profit margin ระหว่าง hmpro กับ global พบว่ามีอะไรที่แตกต่างกันและไม่เหมือนที่ ดร ว่ามา
ผมอ่านหนังสือ sam walton ผมได้พบว่าสิ่งที่ทำให้ walmart เป็นผู้ชนะก็เพราะค่าดำเนินงานต่ำ และ ขายสินค้าปริมาณมากและถูก หลายๆคนบอกว่า walmart จะต้องขาดทุนยับและออกจากธุรกิจไป แต่ผลลัพธ์ที่ได้มันกลับกัน....
ถึงแม้ว่ายุดนี้ธุรกิจค้าปลีกขนาดใหญ่จะเรียนรู้กลยุทธ์กันเกือบหมดแล้ว เพราะ walmart เป็นต้นแบบ คือขายถูกปริมาณเยอะ เพื่อมีอำนาจต่อรองสูง และสุดท้ายต้อง economics of scale แต่ก็ใช่ว่าในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้าจะเหมือนเดิม
ผมไปดูร้าน dohome มั่นใจว่ายอดขายต่อบิลไม่ได้น้อยอย่าง ดร กล่าวเลย(ดร อาจจะไม่ได้หมายถึง dohome ก็ได้) และสินค้าขายต่อวันต่อสาขาดีกว่า hmpro หลายเท่าตัว (ผมเทียบจากสาขาโคราช)
โลกเราหมุนเร็วขึ้นทุกวัน กลยุทธ์ใหม่ก็เกิดขึ้นได้เสมอ ค้าปลีกอย่าง 7-11 ถ้าไม่ปรับตัวผมก็ไม่เชื่อว่าจะรักษาอัตรากำไรได้แบบนี้ตลอดไป
ผมเปรียบเทียบ net profit margin ระหว่าง hmpro กับ global พบว่ามีอะไรที่แตกต่างกันและไม่เหมือนที่ ดร ว่ามา
มาคุยกันได้ที่นี่ครับ https://www.facebook.com/value.investing.freedom
- ซุนเซ็ก
- Verified User
- โพสต์: 1104
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 20
รายใหญ่ทุกวันนี้ก็ต่างเป็นรายเล็กมาก่อนทั้งนั้น
เซ็นทรัลเคยเป็นร้านขายหนังสือมาก่อน ส่วนห้างไดมารูเจ๊งไปแล้ว
รายเล็กอาจไม่เล็กตลอดไป รายใหญ่ก็อาจไม่ใหญ่ตลอดไป
อย่างสมรภูมิ โคราช, ขอนแก่น, อุบล, ร้อยเอ็ด, ภูเก็ต etc.
จะเห็นได้ชัดเจนว่า "ระดับชาติ" สู้ "ท้องถิ่น" ไม่ได้
และท้องถิ่นทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ เร่งขยายสาขา พยายามจะเป็นระดับชาติเช่นกัน
HomePro สาขาไหนที่โดน Global, DoHome ตามไปประกบ ผมว่า HP มีหนาวไม่น้อย
แน่นอนอย่างที่ ดร. พูด, รายใหญ่ได้เปรียบรายเล็กในด้านเงินทุนและการต่อรองกับ Supplier
แต่ใช่ว่ารายเล็กจะไม่มีทางสู้ ยังมีทางสู้ได้ แม้จะสู้ยากก็ตาม
รายเล็กตายไปเยอะ แต่ถ้ารอดก็รุ่ง และพวกที่รุ่งนี่เองจะกลายเป็น Threat ในอนาคต
มีส่วนทำให้การคำนวน DCF ยาวๆจากวันนี้ เพี้ยนไปไม่มากก็น้อย
เซ็นทรัลเคยเป็นร้านขายหนังสือมาก่อน ส่วนห้างไดมารูเจ๊งไปแล้ว
รายเล็กอาจไม่เล็กตลอดไป รายใหญ่ก็อาจไม่ใหญ่ตลอดไป
อย่างสมรภูมิ โคราช, ขอนแก่น, อุบล, ร้อยเอ็ด, ภูเก็ต etc.
จะเห็นได้ชัดเจนว่า "ระดับชาติ" สู้ "ท้องถิ่น" ไม่ได้
และท้องถิ่นทุกวันนี้ก็ไม่ใช่ย่ำอยู่กับที่ เร่งขยายสาขา พยายามจะเป็นระดับชาติเช่นกัน
HomePro สาขาไหนที่โดน Global, DoHome ตามไปประกบ ผมว่า HP มีหนาวไม่น้อย
แน่นอนอย่างที่ ดร. พูด, รายใหญ่ได้เปรียบรายเล็กในด้านเงินทุนและการต่อรองกับ Supplier
แต่ใช่ว่ารายเล็กจะไม่มีทางสู้ ยังมีทางสู้ได้ แม้จะสู้ยากก็ตาม
รายเล็กตายไปเยอะ แต่ถ้ารอดก็รุ่ง และพวกที่รุ่งนี่เองจะกลายเป็น Threat ในอนาคต
มีส่วนทำให้การคำนวน DCF ยาวๆจากวันนี้ เพี้ยนไปไม่มากก็น้อย
ผมไม่ได้อยู่ในเว็บนี้แล้ว, มีอะไรติดต่อได้ทาง FB - 27/9/2555
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
"วิธีการที่ถูกต้อง มีได้มากกว่าหนึ่งวิธี"
สมุดบันทึกของผม http://suntse.wordpress.com
Facebook https://www.facebook.com/giggswalk
-
- Verified User
- โพสต์: 551
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 22
เป็นอะไรที่น่าสนใจติดตามมากเลยครับ ปกติฝ่ายวิเคราะห์ทำเล วิเคราะห์การตั้งสาขาของ 7-11 เขาน่าจะรอบคอบนะ ถ้าสาขาที่หนึ่งขายไม่ได้ แล้ว 2-3-4 เปิดมาได้ไง แต่อย่างว่าของที่ 7-11 ก็ไม่ได้ถูก แบบนี้ถ้าร้านท้องถิ่นที่จังหวัดอื่นๆมาดู business model ของ SC ที่ภูเก็ตนี่จะเป็นไงหนอ หรือว่า brand loyalty ยึดหัวใจลูกค้าของ 7-11 ในจังหวัดอื่นๆไปหมดแล้วgnomeller เขียน:Super Cheap มีจริงครับอยู่ที่ภูเก็ต ขนาดว่าบางแห่งมี 7/11 ดัก หน้า กลาง หลัง ท้าย
สู้กันแบบ 4ต่อ 1 แต่ Super Cheap ยังเอาชนะได้เลยครับ
มองว่าการต่อสู้ในพื้นที่ Super Cheap เอาใจคนพื้นที่ไปได้มากกว่า แต่ในระดับตลาดขนาดใหญ่ขึ้นไปยังไม่สามารถตอบสนองได้
เทียบกัน 7/11 สำหรับผมถือว่าดีที่สุดในกรุงเทพ แต่ที่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่ครับ Super Cheap ดีที่สุดสำหรับคนพื้นที่ครับ
- gnomeller
- Verified User
- โพสต์: 425
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 23
ที่ภูเก็ตถามใครก็ได้ครับ ว่าถ้ามี Super Cheap ตั้งอยู่คู่กันกับ 7/11 ผมเดาว่า 90% เลือก Super Cheap ครับ
ถามว่าทำไม?
7/11 มีอาหารกึ่งสำเร็จขาย อาจจะต้องเข้าไปอุ่น แต่ Super Cheap มี อาหารอุ่นร้อนพร้อมทานขายเลย เช่น ขนมจีน สูตรคนใต้ แกงไตปลา น้ำเต้าหู้ และผักสดที่อร่อยถูกปากคนใต้จริงๆ คนที่ภูเก็ตนึกอะไรไม่ออก บางทีไม่เข้า TescoLotus นะครับ เข้า Super Cheap
เค้ามีทุกสิงที่คุณต้องการจริงๆ สิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะมีขายในร้านสะดวกซื้อคือ "ปลากัด" ซึ่งที่ Super Cheap มีใส่โหลขาย!!!
ถามว่าทำไม?
7/11 มีอาหารกึ่งสำเร็จขาย อาจจะต้องเข้าไปอุ่น แต่ Super Cheap มี อาหารอุ่นร้อนพร้อมทานขายเลย เช่น ขนมจีน สูตรคนใต้ แกงไตปลา น้ำเต้าหู้ และผักสดที่อร่อยถูกปากคนใต้จริงๆ คนที่ภูเก็ตนึกอะไรไม่ออก บางทีไม่เข้า TescoLotus นะครับ เข้า Super Cheap
เค้ามีทุกสิงที่คุณต้องการจริงๆ สิ่งที่คุณไม่คิดว่าจะมีขายในร้านสะดวกซื้อคือ "ปลากัด" ซึ่งที่ Super Cheap มีใส่โหลขาย!!!
- Linzhi
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1522
- ผู้ติดตาม: 1
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 24
Peter lynch บอกว่า ยากที่จะมี toy r us หรือ walmart ตัวต่อไป
ทุก ๆ ครั้งที่มีกิจการใหม่ๆ พุ่งขึ้นมาเป็นดาวรุ่ง มักจบลงเหมือน ๆ กัน
กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์ แต่ประวัติศาสตร์มีเขียนไว้เยอะแล้วครับ
แต่ผมเชียร์ sme นะ
ทุก ๆ ครั้งที่มีกิจการใหม่ๆ พุ่งขึ้นมาเป็นดาวรุ่ง มักจบลงเหมือน ๆ กัน
กาลเวลาเป็นตัวพิสูจน์ แต่ประวัติศาสตร์มีเขียนไว้เยอะแล้วครับ
แต่ผมเชียร์ sme นะ
ก้าวช้า ๆ และเชื่อในปาฎิหารย์ของหุ้นเปลี่ยนชีวิต
There is no secret ingredient. It's just you.
There is no secret ingredient. It's just you.
- xavi
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 25
เคยคุยกับคนท้องถิ่นที่กว้างขวางในภูเก็ตหลายคน ตอนนี้ supercheap มาแรงจริงครับ 7 11 ต้องกลัวในการประกบกับ supercheap ทุกครั้ง และคนภูเก็ตส่วนมากก็ชอบ super cheap มากกว่าจริงๆครับ
แต่ผมก็เชื่อว่า success story อย่าง super cheap นั้นไม่ไดมีเยอะแน่นอน คงมีเจ้าที่เคยล้มหายตายจากไปเพราะ 7 11อย่างที่ ดร.ว่าไว้เยอะครับ
แต่ผมก็เชียร์คนท้องถิ่นนะครับ อยากให้สร้าง success story แบบ super chaep ให้ได้ครับ
ปล.ผมไม่มีหุ้น cpall นะครับ
แต่ผมก็เชื่อว่า success story อย่าง super cheap นั้นไม่ไดมีเยอะแน่นอน คงมีเจ้าที่เคยล้มหายตายจากไปเพราะ 7 11อย่างที่ ดร.ว่าไว้เยอะครับ
แต่ผมก็เชียร์คนท้องถิ่นนะครับ อยากให้สร้าง success story แบบ super chaep ให้ได้ครับ
ปล.ผมไม่มีหุ้น cpall นะครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1123
- ผู้ติดตาม: 0
Re: Super Cheap/ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 27
เห็นด้วยกับ ดร นิเวศน์ ในส่วนที่ว่า super cheap ทั้งหลายแหล่(รวมถึง super cheap ที่ภูเก็ตด้วย) หากจะขยายเป็นระดับชาติ จะต้องอาศัยการจัดการที่เป็นระบบ เรื่อง logistic ในการบริหารจัดการขนส่งสินค้าและบริหารคงคลังสำคัญมากในการที่จะลดต้นทุนให้ต่ำ โดยที่ยังคงcustomer service level ในระดับที่ดีเอาไว้ได้ เพื่อคงความสามารถในการแข่งขัน และอีกเรื่องหนึ่งคือการบริการของพนักงาน ซึ่งsuper cheap คงยังสู้เซเว่นไม่ได้ในตอนนี้ แต่ผมไม่คิดว่า สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่"ทำได้ยาก"ขนาดนั้น เรื่องlogistic ก็จ้างบุคคลาการทางด้านนี้ไปวิจัยพัฒนาได้ ในไทยมีเพียบ
อีกประเด็นคือ ผมคิดว่า ถึงแม้ผมหรือคุณจะถือหุ้นยักใหญ่ที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ก็ไม่น่าจะนิ่งนอนใจอยู่ได้ หากภาวะการแข่งขันได้เริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย ลองดูนี่ครับ
"ทีมวิจัยของเราได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบริษัทชั้นนำในกลุ่มฟอร์จูน500ในช่วง20ปีที่ผ่านมา ประเด็นที่น่าสนใจคือ 500 บริษัทชั้นนำเมื่อปี 1994 มีถึง 137 บริษัทที่เอาตัวไม่รอดในทศวรรษถัดมา ไม่ล้มละลาย ก็ถูกซื้อกิจการ ที่สำคัญคือบริษัทที่ล่มสลายเหล่านี้ บางบริษัทอยู่ในกลุ่มที่มี ROE สูงที่สุดของสหรัฐเมื่อ10ปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้ได้แก่ รีบอค ถูกซื้อโดยอาดิดาส AT&T ถูกซื้อโดยSBC CBSที่ตกที่นั่งลำบาก motorolaกำลังฟื้นฟู(ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง?)โดยที่ต้องสูญเสียผู้นำตลาดมือถือให้แก่ nokia และ samsung ....และเมื่อไม่นานมานี้ CEO ของFord บริษัทใหญ่ที่สุดอันดับ5ของสหรัฐได้มีบันทึกที่น่าตกใจต่อพนักงานทุกคนว่า รูปแบบทางธุรกิจที่นำพาพวกเราสำเร็จมานานไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะรับประกันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท"
ข้อความจากหนังสือ unstoppable ตีพิมพ์เมื่อปี2551
ปัจจุบัน แม้แต่ยักษ์ใหญ่ที่มีความได้เปรียบอย่างมากมายทั้งหลาย หากไม่ปรับตัวเอาตัวรอดเมื่อสถาณการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วนั้น ก็มีโอกาสเดี้ยงไม่น้อย ยักษ์ใหญ่ที่เข้าข่ายเอาตัวรอดได้เมื่อสถาณการณ์เปลี่ยนไป เช่น IBM ซึ่งต้องปรับตัวไปเน้นบริการแทน ธุรกิจหนังสือพิมพ์(....ยังรอดอยู่ แต่???กำลังdownลงเรื่อยๆรึป่าวหว่า?) หรือ เดอเบียร์ส บริษัทเพชรซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนครองตลาด 3/4 ของโลก ยังต้องโดนไฟลนก้นเมื่อผู้เล่นใหม่ๆเข้ามาทำให้สถาณการณ์เปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนกลยุทธ์เลยรอด
เพราะฉะนั้น ผมว่าหากบริษัทของเราเป็นบริษัทใหญ่โตมีความได้เปรียบโน่นนี่แล้วก็ไม่การันตีความสำเร็จเลยครับหากสถาณการณ์เปลี่ยนไป
ปล.. เอ๊ะ ผมเพิ่งพิมพ์ไปว่า nokia เป็นผู้นำตลาดเมื่อปี2551 เหรอ??? ข่าวล่าสุด หุ้นโนเกียดิ่งพร้อมกับยอดขายที่ตกต่ำสู้คู่แข่งไม่ติด
................................................
อีกประเด็นคือ ผมคิดว่า ถึงแม้ผมหรือคุณจะถือหุ้นยักใหญ่ที่มีความได้เปรียบเชิงแข่งขัน ก็ไม่น่าจะนิ่งนอนใจอยู่ได้ หากภาวะการแข่งขันได้เริ่มเปลี่ยนไปทีละน้อย ลองดูนี่ครับ
"ทีมวิจัยของเราได้ศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับบริษัทชั้นนำในกลุ่มฟอร์จูน500ในช่วง20ปีที่ผ่านมา ประเด็นที่น่าสนใจคือ 500 บริษัทชั้นนำเมื่อปี 1994 มีถึง 137 บริษัทที่เอาตัวไม่รอดในทศวรรษถัดมา ไม่ล้มละลาย ก็ถูกซื้อกิจการ ที่สำคัญคือบริษัทที่ล่มสลายเหล่านี้ บางบริษัทอยู่ในกลุ่มที่มี ROE สูงที่สุดของสหรัฐเมื่อ10ปีที่แล้ว บริษัทเหล่านี้ได้แก่ รีบอค ถูกซื้อโดยอาดิดาส AT&T ถูกซื้อโดยSBC CBSที่ตกที่นั่งลำบาก motorolaกำลังฟื้นฟู(ตอนนี้ไม่รู้เป็นไง?)โดยที่ต้องสูญเสียผู้นำตลาดมือถือให้แก่ nokia และ samsung ....และเมื่อไม่นานมานี้ CEO ของFord บริษัทใหญ่ที่สุดอันดับ5ของสหรัฐได้มีบันทึกที่น่าตกใจต่อพนักงานทุกคนว่า รูปแบบทางธุรกิจที่นำพาพวกเราสำเร็จมานานไม่เพียงพออีกต่อไปที่จะรับประกันความสามารถในการทำกำไรของบริษัท"
ข้อความจากหนังสือ unstoppable ตีพิมพ์เมื่อปี2551
ปัจจุบัน แม้แต่ยักษ์ใหญ่ที่มีความได้เปรียบอย่างมากมายทั้งหลาย หากไม่ปรับตัวเอาตัวรอดเมื่อสถาณการณ์ได้เปลี่ยนไปแล้วนั้น ก็มีโอกาสเดี้ยงไม่น้อย ยักษ์ใหญ่ที่เข้าข่ายเอาตัวรอดได้เมื่อสถาณการณ์เปลี่ยนไป เช่น IBM ซึ่งต้องปรับตัวไปเน้นบริการแทน ธุรกิจหนังสือพิมพ์(....ยังรอดอยู่ แต่???กำลังdownลงเรื่อยๆรึป่าวหว่า?) หรือ เดอเบียร์ส บริษัทเพชรซึ่งเมื่อหลายสิบปีก่อนครองตลาด 3/4 ของโลก ยังต้องโดนไฟลนก้นเมื่อผู้เล่นใหม่ๆเข้ามาทำให้สถาณการณ์เปลี่ยนไป แต่เปลี่ยนกลยุทธ์เลยรอด
เพราะฉะนั้น ผมว่าหากบริษัทของเราเป็นบริษัทใหญ่โตมีความได้เปรียบโน่นนี่แล้วก็ไม่การันตีความสำเร็จเลยครับหากสถาณการณ์เปลี่ยนไป
ปล.. เอ๊ะ ผมเพิ่งพิมพ์ไปว่า nokia เป็นผู้นำตลาดเมื่อปี2551 เหรอ??? ข่าวล่าสุด หุ้นโนเกียดิ่งพร้อมกับยอดขายที่ตกต่ำสู้คู่แข่งไม่ติด
................................................
ความยากจนในจิตใจ คือความยากจนที่แท้จริง