ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

บทความต่างๆ ที่ตีพิมพ์ใน ThaiVI คุณสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม เพื่อการลงทุนแบบเน้นคุณค่า

โพสต์ โพสต์
ภาพประจำตัวสมาชิก
bigshow
Verified User
โพสต์: 730
ผู้ติดตาม: 0

ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

10 ลำดับราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก จากการจัดอันดับของฟอร์บ

นิตยสารฟอร์บ เสนอบทความราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลก เมื่อวันที่ 20 ส.ค. ที่ผ่านมา ระบุว่าพระมหากษัตริย์ของไทยมีพระราชทรัพย์มากที่สุดในบรรดา 15 ราชวงศ์ที่อยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ (1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์) โดยพระราชทรัพย์ที่เพิ่มขึ้นนี้สืบเนื่องจากความโปร่งใสที่เพิ่มขึ้นของสำนักงานทรัพ
ย์สินส่วนพระมหากษัตริย์

ลำดับที่ 2 คือ ชีค คาลิฟา บิน ซาเยด อัล นาห์ยาน แห่งอาบูดาบี (สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) มีพระราชทัพย์ประมาณ 23 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทั้งนี้ ความมั่งคั้งของพระองค์เกิดจากการที่เมืองอาบูดาบีเป็นเมืองที่มีแหล่งน้ำมันสำรองคิ
ดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนั้นอาบูดาบียังมีชื่อเสียงเนื่องมาจากการลงทุนระดับแนวหน้าโดยบรรษัทที่รัฐเป
็นเจ้าของนั่นคือเงินลงทุน 7.5 พันล้านเหรียญฯ ในบริษัท Citibank

จากรายงานของฟอร์บส์นั้น พบว่าพระมหากษัตริย์หลายพระองค์มีพระราชทรัพย์ลดลง เนื่องจากผลกระทบที่ต่างๆ ไป เช่น สุลต่านแห่งบรูไน ซึ่งเป็นกษัตริย์จากเอเชียอีกเพียงประเทศเดียวที่เข้าทำเนียบราชวงศ์ที่รำรวยของฟอร์
บ ราชทรัพย์ของสุลต่านแห่งบรูไน (ทรัพย์สิน 20 พันล้านเหรียญฯ) ลดลงจากปีที่ผ่านมาเนื่องจากต้องลดอัตราการผลิตน้ำมันเนื่องจากปริมาณสำรองน้ำมันในป
ระเทศบรูไนลดลง โดยฟอร์บระว่า กิจการน้ำมันนั้นเป้นมรดกตกทอดของราชวงศ์บรูไนซึ่งเป็นราชวงศ์มุสลิมซึ่งมีอายุกว่า 600 ปี

กษัตริย์โมฮัมมัดที่ 6 แห่งประเทศโมร็อกโก ขณะนี้มีทรัพย์สินรวม 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลงจากปีที่แล้วซึ่งอยู่ที่ 2 พันล้านเหรียญฯ เนื่องจากภัยแล้งที่รุนแรงส่งผลให้อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศชะลออยู่ที่ระ
ดับ 2 เปอร์เซ็นต์

อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่กล่าวมานั้นไม่ได้เกิดขึ้นกับ 6 ราชวงศ์จากประเทศตะวันออกกลาง ซึ่งทำเงินส่วนใหญ่จากการค้าน้ำมัน

อันดับที่ 5 ชีค โมฮัมมัด บิน ราชิด อัล มาคทูม แห่งดูไบ ทรงมีพระราชทรัพย์สุทธิ 18 พันล้านเหรียญฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของ Dubai Holding ซึ่งมีการลงทุนใหญ่ๆ ในหลายบริษัท เช่น โซนี่ และบริษัทผลิตอาวุธ EADS และเมื่อเร็วๆ นี้กองทุนรวมเพื่อการลงทุนของชีคพระองค์นี้ได้ใช้เงิน 5 พันล้านเหรียญฯ เพื่อถือหุ้นในบริษัท MGM Mirage และ 825 ล้านเหรียญฯ เพื่อซื้อกิจการค้าปลีก Barneys New York

อันดับ 6เจ้าชายฮันส์ อาดัมที่ 2 แห่งลิกเตนสไตน์ มีพระราชทรัพย์ทรัพย์ประมาณการ 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยที่ LGT Bank ซึ่งเป็นหล่งทุนหลักของพระองค์ (บริหารโดยราชวงศ์มากว่า 70 ปี)ตกเป็นเป้าในคดีหลีกเลี่ยงภาษีอันอื้อฉาว ซึ่งบริษัทของพระองค์ถูกกล่าวหาว่าช่วยเหลือลูกค้าฐานะดีหลายรายในการ ซุกซ่อน ทรัพย์สิน จากการสืบสวนของวุฒิสมาชิกสหรัฐฯ พบว่าพระอนุชาของพระองค์ (เจ้าชายฟิลิป) มีส่วนเกี่ยวข้องในการนี้ในฐานะที่ดำรงตำแหน่งประธานของ LGT

เจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งโมนาโก เป็นกษัตริย์พระองค์เดียวที่ยังไม่อภิเษกสมรส และถูกร่ำลือว่าทรงส่งแฟนสาวของของพระองค์เข้าเรียนคอร์สติวเข้มภาษาฝรั่งเศส พระองค์มีพระราชทรัพย์ประมาณ 1.4 พันล้านเหรียญฯ ประกอบไปด้วยอสังหาริมทรัพย์ และหุ้นส่วนกิจการคาสิโนในโมนาโก พร้อมทั้งทรงวางแผนที่จะขยายพื้นที่ของประเทศ (ซึ่งมีขนาดเท่ากับ Central Park ในนิวยอร์ก) โดยการสร้างเขตปกครองใหม่ในทะเลซึ่งจะตั้งอยู่บนเสาขนาดมหึมา โครงการดังกล่าวนี้สร้างความวิตกกังวลแก่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอยู่พอสมควร

กษัตริย์เพียงพระองค์เดียวที่ไม่ได้มีมีดินแดนครอบครอง (ในฐานะประมุขแห่งรัฐ) ก็คือ อากาข่าน (ทรงเป็นนักขี่ม้า) ถือเป็นผู้นำจิตวิญญาณของชาวมุสลิมอิสไมลิยาห์ (Ismaili Muslims) กว่า 15 ล้านคนที่กระจายอยู่ทั่วโลก มีพระราชทรัพย์สุทธิอยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านเหรียญฯ เมื่อเร็วๆ นี้พระองค์ได้ซื้อหุ้นในบริษัทประมูลม้าที่ใหญ่ที่สุดของอังกฤษ

พระราชินี 2 พระองค์ที่ติดอยู่มนทำเนียบของฟอร์บ กำลังถูกกล่าวขวัญเกี่ยวกับการสละราชสมบัติ โดยมีข่าวลือว่า พระราชินีบีทริกซ์แห่งเบลเยียม (อันดับที่ 14) จะสละราชบังลังก์เพื่อพระราชโอรส ในขณะที่พระราชินีอลิซาเบธแห่งอังกฤษ (อันดับที่ 12) ทรงวางแผนที่จะคำรงตำแหน่งต่อไป บดบังความหวังของพระราชโอรสอย่างเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ที่มุ่งจะครองราชบัลลังก์ในระยะเวลาอันใกล้นี้

ฟอร์บระบุว่า การประเมิณทรัพย์สินของราชวศ์นั้นต้องใช้ทั้ง ศาตร์และศิลป์ประกอบกันไป เนื่องด้วยความสัมพันธ์ระหว่างความมั่งคั่งของบุคคลกับรัฐนั้นมีลักษณะเฉพาะของแตกต่
างกันไป

ตัวอย่างเช่น กษัตริย์มัสวาติที่ 3 แห่งสวาซิแลนด์ (อันดับที่ 15 ของโลก) เป็นผู้สืบทอด 2 กองทุนรวมที่สร้างขึ้นโดยพระราชบิดาในนามของ Swazi nation ในขณะที่พระองค์ทรงอยู่ในอำนาจนั้นพระองค์มีพระราชอำนาจโดยสมบูรณ์ที่จะใช้จ่ายทรัพย
์สิน ซึ่งนี่เองทำให้พระองค์ทรงสามารถสร้างพระราชวังสำหรับพระมเหสีแต่ละพระองค์รวม 13 พระองค์ และทรงจัดงานเฉลิมฉลองครบรอบวันเฉลิมพระชนมพรรษาอย่างสุดเหวี่ยงในหลายๆ วโรกาส หนึ่งในนั้นคือการฉลองครบรอบพระชนมายุ 40 พรรษาเมื่อไม่นานมานี้ซึ่งมีรายงานว่าใช้เงินมูลค่ากว่า 2.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (85 ล้านบาท)

ในประเทศอังกฤษ สินทรัพย์บางอย่างของราชวงศ์ เช่น พระราชวังบักกิ้งแฮม และเครื่องเพชรของราชวงศ์อังกฤษ (the British crown jewels) ให้ถือว่าเป็นของ British nation ไม่ใช่ของพระราชินีอลิซาเบธ ซึ่งสิ่งของที่กล่าวไปนั้นไม่ถูกนับรวมในโภคทรัพย์สุทธิของพระองค์ เพราะที่จริงแล้ว ความมั่งคั่งของพระองค์มาจากทรัพย์สินในอังกฤษและสก๊อตแลนด์ งานจิตรกรรมและประติมากรรม เครื่องประดับ และแสตมป์สะสมที่รวบรวมโดยพระอัยกา

ฟอร์บระบุว่าได้ติดตามสถานะของราชวงศ์ระดับแนวหน้าจำนวนหนึ่งมาหลายปี (เช่น พระราชินีแห่งอังกฤษ และสุลต่านแห่งบรูไน) แต่การนำเสนอผ่านบทความดังกล่าวเป็นเพียงครั้งที่ 2 ที่เผยแพร่ทำเนียบราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดอย่างละเอียด แต่สถาบันกษัตริย์ของประเทศอย่างสเปนและญี่ปุ่นกลับพลาดที่จะเข้าร่วมการจัดอันดับไป
อย่างน่าเสียดาย

15 ราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลกซึ่งอยู่ในทำเนียบการจัดอันดับของฟอร์บ ยังคงถือครองความมั่งคั่ง แม้จะมีข้อตั้งแต่การหลีกเลี่ยงภาษี จนกระทั่งการยุบสภาผู้แทนราษฎรในประเทศสวาซิแลนด์และคูเวต โดยที่กลุ่มราชวงศ์เหล่านี้มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น131 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จากปีที่ผ่านมามีพระราชทรัพย์รวมกันประมาณการที่ 95 พันล้านเหรียญฯ

ฟอร์บระบุว่า แม้ว่าราชวงศ์ต่างๆ จะถือครองความมั่งคั่ง แต่ก็พบว่าสาเหตุแห่งความมั่งคั่งนั้นหากไม่มาจากมรดกตกทอดก็มาจากพระราชอำนาจซึ่งผู
กโยงกับความเป็นชาติและดินแดน และความมั่งคั่งนี้ก็จะกระจายไปในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ นี่เป็นเหตุผลที่การจัดอันดับมหาเศรษฐีของโลกที่ฟอร์บทำอยู่เป็นประจำไม่นำเอากรณีขอ
งราชวงศ์ต่างๆมาจัดอันดับด้วย ไม่ว่าราชวงศ์เหล่านี้จะมีพระราชทรัพย์สุทธิสูงเพียงใดก็ตาม

ทั้งนี้ ในช่วงต้นของบทความ ฟอร์บรายงานสถานะของกษัตริย์คเยนทรา แห่งเนปาลว่า เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ประชาชนเนปาลได้ลงมติยกเลิกระบอบกษัตริย์ทั้งมีการกดดันให้กษัตริย์เคยนทราย้ายออกจา
กพระราชวังในกรุงกาฐมาณฑุ เนื่องจากพระราชวังดังกล่าวจะถูกใช้ทำพิพิธภันฑ์
ที่มา:

The World's Richest Royals (Tatiana Serafin, www.forbes.com, 20 August 2008)

อ่านบทความแปลฉบับสมบูรณ์จากฟ้าเดียวกัน Forbes รายงาน ราชวงศ์ที่ร่ำรวยที่สุดในโลก

http://www.forbes.com/home/2008/08/20/w ... intro.html
เป็นคนเลว ในสายตาคนอื่น ดีกว่าโกหกตัวเอง ให้เทิดทูนบูชา ติดกับมายาคติ ที่กะลาครอบ
ภาพประจำตัวสมาชิก
kornjackrit
Verified User
โพสต์: 1524
ผู้ติดตาม: 0

ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

โพสต์ที่ 2

โพสต์

อ้างอิงจากบทความ เขียน: พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชแห่งราชอาณาจักรไทย ทรงอยู่ในลำดับสูงสุดของทำเนียบราชวงศ์ที่รวยที่สุดในโลกในปีนี้ โดยมีพระราชทรัพย์ประมาณการได้ล่าสุดกว่า 35 พันล้านเหรียญฯ
(1.19 ล้านล้านบาท ตามอัตราแลกเปลี่ยน 1 บาท: 34 ดอลลาร์)
ขอพระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน

:bow:  :bow:  :bow:
When you become famous, the first thing you should have to remember is not your success story but those who help you along the way.
ภาพประจำตัวสมาชิก
windy12245
Verified User
โพสต์: 24
ผู้ติดตาม: 0

ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ทรงพระเจริญ :bow:
teayza31
Verified User
โพสต์: 8
ผู้ติดตาม: 0

ฟอร์บจัดอันดับใหม่ ราชวงศ์ไทยรวยที่สุดในโลก

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ผมไม่สนใจเรื่องแบบนี้หรอก แต่ที่แน่ๆ ในหลวงของเราดีที่สุด
โพสต์โพสต์