Value Way ฉบับวันที่ 12 มกราคม 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
ไม่มีที่ไหนรอด
สำหรับตลาดหุ้นทั่วโลกแล้ว ปี 2551 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นอีกปีหนึ่งที่นักลงทุนต้องจดจำกันไปอีกนาน ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงกันอย่างถ้วนหน้า ไม่ว่าจะเป็นในเอเซีย ยุโรป อเมริกาเหนือ หรืออเมริกาใต้ นักลงทุนไทยที่คิดว่าการกระจายความเสี่ยงด้วยการลงทุนในต่างประเทศ จะสามารถลดความเสี่ยงจากวิกกฤติการเมืองในประเทศไทยได้ แต่ในความเป็นจริงกลับพบว่าตลาดหุ้นต่างประเทศบางแห่งประสบภาวะขาดทุนมากกว่าตลาดหุ้นไทยเสียอีก เป็นอีกครั้งนับจากเหตุการณ์แบล็คมันเดย์ในปี 2530 ที่ตลาดหุ้นทั่วโลกลดลงอย่างรวดเร็วในเวลาพร้อมๆกัน โดยไม่มีตลาดหุ้นใดฝืนกระแสความตกต่ำครั้งนี้ไปได้
ตลาดหุ้นดาวน์โจนส์ของอเมริกาปิดตลาดวันสิ้นปีที่ี่ 8,776 จุด ลดลง 34% นับเป็นการลดลงมากที่สุดนับจากการเกิดเศรษฐกิจตกต่ำตั้งแต่ปี 1931 (พ.ศ.2474)
ตลาดหุ้นลอนดอน FTSE-100 ปิดที่ 4,434 จุด ลดลง 31.3% มากที่สุดในรอบ 24 ปี
เช่นเดียวกับที่แฟรงเฟริต ตลาดหุ้นเยอรมัน DAX-30 ลดลง 40% เป็นปีที่เลวร้ายที่สุดของตลาดหุ้นเยอรมันในรอบ 20 ปี
ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้เป็นตลาดหุ้นที่มีผลขาดทุนมากที่สุดในโลกโดยลดลงถึง 65.2% ในปีที่ผ่านมา มูลค่าหุ้นหายไปถึง 3 ล้านล้านเหรียญ (12 ล้านล้านบาท)
ตลาดหุ้นญี่ปุ่นลดลง 42% เป็นปีที่ขาดทุนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นญี่ปุ่นนับตั้งแต่ก่อตั้ง
ตลาดหุ้นฮ่องกงลดลง 48% ในปีที่ผ่านมา นับเป็นการลดลงมากที่สุดนับตั้งแต่วิกกฤตนำ้มันช่วงปี 1970 (พ.ศ.2513) รวมทั้งตลาดหุ้นอินเดียที่ตกมากกว่า 50%
ตารางแสดงผลประกอบการปี 2551 ของตลาดหุ้นสำคัญๆทั่วโลก
นิวยอร์ค -33.84%
ลอนดอน -31.3%
ปารีส -42.7%
แฟรงเฟริต -40.4%
มุมไบ -51.9%
สิงคโปร์ -49.2%
ซิดนีย์ -41.3%
ฮ่องกง -48.3%
เซี่ยงไฮ้ -65.2%
โตเกียว -42.1%
ไทย -46.7%
สาเหตุของความตกต่ำของตลาดหุ้นเอเซียทั้งๆที่วิกฤตการเงินและปัญหาฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์เกิดขึ้นในอเมริกาและยุโรปนั้น เนื่องมากจากภาวะเศรษฐกิจถอถอยที่เกิดขึ้นจากประเทศต้นตอของวิกฤตอย่างสหรัฐอเมริกา ทำให้บริษัทข้ามชาติต้องถอนการลงทุนจากตลาดหุ้นในเอเซียเพื่อนำเงินไปจ่ายหนี้ที่เกิดขึ้นในประเทศของตนเอง รวมทั้งสภาพความต้องการสินค้าที่ลดลงจากประเทศในอเมริกาและยุโรป ทำให้เศรษฐกิจของประเทศในเอเซียที่พึ่งพึงการส่งออกได้รับผลกระทบไปด้วย
ส่วนตลาดหุ้นไทยในปี 2551 ดัชนีเมื่อต้นปีอยู่ที่ 842 ปิดตลาดสิ้นปีที่ 449 จุดลดลง 46.7% นับว่าเป็นวิกฤติของตลาดหุ้นไทยอีกครั้งนับจากการลดค่าเงินบาทในปี 2540 นอกเหนือจากปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำจากภายนอกแล้ว ตลาดหุ้นไทยยังได้รับผลกระทบจากปัญหาความไม่แน่นอนทางการเมืองภายในประเทศอีกด้วย
สำหรับปี 2552 นี้ยังไม่มีนักวิเคราะห์ทั้งในและต่างประเทศกล้าฟันธงว่าตลาดหุ้นทั่วโลกจะเป็นไปในทิศทางใด แต่อย่างน้อยเราจะพบว่าในวิกฤติมักจะมีโอกาสเสมอ
ไม่มีที่ไหนรอด : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
ไม่มีที่ไหนรอด : Value Way โดย วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"