มาร์ก โมเบียส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
- oatty
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2444
- ผู้ติดตาม: 0
มาร์ก โมเบียส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 1
โลกในมุมมองของ Value Investor 23 พฤษภาคม 2552
ราชาของตลาดหุ้นเกิดใหม่คนหนึ่งของโลกในยามนี้
คงหนีไม่พ้นชื่อของMark Mobius ผู้บริหารกลุ่มกองทุน FranklinTempleton Funds
ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนกว่า 30 กองในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก
ผมเคยพบและพูดคุยกับ “ยูล บรินเนอร์”
แห่งวอลสตรีทคนนี้
ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนและบริหารการเงินของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องให้ข้อมูลแก่นักลงทุนคล้าย ๆ กับIRหรือนักลงทุนสัมพันธ์ในปัจจุบัน
แต่เป็นช่วงเวลาย้อนหลังไปกว่า 20 ปีมาแล้ว
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า มาร์ก โมเบียส
เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเขายังไม่ดัง และยังไม่แก
่ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือ
เขายังเฉียบคมเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับศีรษะที่ยังล้านเลี่ยนแบบ ยูล บรีนเนอร์
ดาราฮอลลีวูดชื่อก้องโลก
ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผมจำความได้ โมเบียสไม่เคยห่างจากตลาดหุ้นเกิดใหม่
โดยเฉพาะประเทศไทย
เขามาๆไปๆและผมเชื่อว่าเขารักเมืองไทย
และเขาลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นอื่น
ในระยะหลัง ๆ เขามาพูดในเมืองไทยบ่อยขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มาพูดที่สถาบันศศินทร์ ผมเองไม่ได้พบโมเบียสมานาน
แต่รู้สึกได้ว่าเขายังคงแข็งแร็งคึกคัก
ยังสามารถทำงานหนักและเดินทางไปทั่วโลก
ทั้ง ๆ ที่มีอายุ 73 ปีเข้าไปแล้ว
ประวัติคร่าว ๆ ของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ
เขาจบปริญญาตรีและโททางด้านการสื่อสารจาก Boston
University
แต่ที่น่าทึ่งก็คือ
ไปจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ
ของโลกทางด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
หลังจากนั้นเขาก็เข้าร่วมงานกับ เซอร์ จอห์น เทมเปิลตัน
ตำนานนักลงทุนผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ของโลก
เกียรติประวัติสำคัญของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ
เขาได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในศตวรรษที่ยี่สิบจากนักลงทุนมืออาชีพ 300 คน
ที่ทำการสำรวจโดย Carson Group ในปี 1999
ลองมาดูกฏการลงทุนต่าง ๆ ที่ มาร์ก โมเบียส ใช
้ กฏเหล่านี้ผมดึงมาจากหนังสือที่เขาเขียนชื่อ Passport to Profit
ซึ่งเขาเขียนถึงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในปี 1999 หรือ
สองปีหลังจากเกิดวิกฤติในเอเซียที่เริ่มจากประเทศไทย
กฎของโมเบียส
ข้อที่ 1. การป้องกันที่ดีที่สุดของคุณก็คือ การกระจายความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุน
กฎข้อที่ 2. ความผันผวนที่รุนแรงคือคุณสมบัติของตลาดหุ้นทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่พัฒนาที่สุด
กฎข้อที่ 5. ถ้าคุณตัดปัจจัยเรื่องของอารมณ์ออกไปและกลยุทธ์ของคุณ
อิงอยู่กับพื้นฐานระยะยาวแล้ว คุณจะสามารถชนะทั้งในช่วงตลาดหุ้นตกและตลาดหุ้นขึ้น
กฎข้อที่ 7. เวลาที่ย่ำแย่อาจจะเป็นเวลาที่ดี
กฎข้อที่9.เมื่อข้อมูลที่จัดเตรียมโดยสถาบันระหว่างประเทศ
และรัฐบาลถูกเผยแพร่ออกมา ราคาหุ้นก็สะท้อนข่าวสารเหล่านั้นไปหมดแล้ว
กฎข้อที่ 10. ซื้อหุ้น “ดี” ในเวลาที่ “แย่” และซื้อหุ้น “แย่” ในเวลาที่ “ดี”
กฎข้อที่ 11. เวลาที่คนคิดว่าเลวร้ายมักจะเป็นเวลาที่ดี ก
ฎข้อที่ 12. หุ้นที่คนคิดว่าแย่มักจะดี
กฎข้อที่ 14. คุณภาพของผู้บริหารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด
กฎข้อที่ 16. การอดทนรอคอยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
กฎข้อที่18.เวลาที่คนมองโลกในแง่ร้ายที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะซื้อ
กฎข้อที่ 19.เวลาที่คนมองโลกในแง่ดีที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะขาย
กฎข้อที่ 20. ถ้าคุณสามารถเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง มันก็สายไปเสียแล้วที่จะซื้อ (หรือขาย)
กฎข้อที่ 22. ซื้อหุ้นเมื่อราคาลง ไม่ใช่ตอนขึ้น
กฎข้อที่ 23. ถ้าตลาดตกลงไป 20% หรือมากกว่าจากจุดสูงสุดและเราเห็นคุณค่าของหุ้น ก็เริ่มทยอยซื้อได้
กฎข้อที่ 24. เวลารักษาความเจ็บป่วยได้เกือบทุกโรค
กฎของโมเบียสข้อที่34.ถ้าสินทรัพย์สุทธิหารด้วยจำนวนหุ้น
ของบริษัทได้ตัวเลขสูงกว่าราคาหุ้นในตลาด
คุณก็อาจพิจารณาได้ว่า มันคือหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าพื้นฐาน
กฎข้อที่ 38. มองหาบริษัทระดับรองที่มี Market Cap. หรือมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดน้อย
แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
กฎข้อที่39.รอให้ตลาดหุ้นเกิดPanicแล้วก็เข้าซื้ออย่างสงบเยือกเย็น กฎข้อที่ 42. บ่อย ๆ ที่ภาพใหญ่ขัดแย้งกับภาพเล็ก
กฎข้อที่43.โดยการศึกษาให้เข้าใจช่องว่างระหว่างภาพใหญ
่และภาพเล็ก
คุณจะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่นำหน้าฝูงชนได้
กฎข้อที่ 45. ตรวจสอบดูพอร์ตของตนเองอย่างละเอียด
หาหุ้นทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100%
ในเวลาหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้น
ที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นไม่มากเท่า
และการคาดการณ์ในอนาคต 5 ปีข้างหน้าก็ไม่ด
ี พิจารณาขายหุ้นเหล่านั้นทิ้งเสีย
กฎข้อที่46.อย่ารักษาผลการลงทุนที่ดีเยี่ยม
โดยการถือหุ้นบลูชิพตัวเก่าที่ไม่เป็นบลูชิพอีกต่อไปแล้ว
กฎข้อที่47.หากลุ่มหุ้นบลูชิพล็อตต่อไปก่อนที่มันจะเริ่มเป็นหุ้นบลูชิพ
และทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎของโมเบียส
ที่ประยุกต์ใช้กับตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ ทั่วโลก ประสบการณ์ที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก
คงทำให้โมเบียสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นมากมาย
และทำให้เขาสามารถฉกฉวยโอกาสสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤติตลาดหุ้นและการฟื้นตัวของมัน
ตัวอย่างที่เราเห็นก็อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
โมเบียสได้ให้สัมภาษณ์และบอกอย่างชัดเจนว่า
เขาคิดว่าตลาดหุ้นกำลังจะบูม
โดยเฉพาะในครั้งนี้จะนำโดยตลาดหุ้นเกิดใหม่
และแล้วตลาดหุ้นก็บูมจริง ๆ และโมเบียสก็คงสามารถทำกำไรได้อย่างงดงาม
หลังจากที่เขาบาดเจ็บอย่างหนักก่อนหน้านั้น
และนี่อาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ในกฎของโมเบียสข้อที่ 70.
ที่ว่า ในบางครั้งคุณอาจจะต้องทำได้แย่กว่าดัชนีตลาดหุ้น
เพื่อที่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะมันในอนาคต
ราชาของตลาดหุ้นเกิดใหม่คนหนึ่งของโลกในยามนี้
คงหนีไม่พ้นชื่อของMark Mobius ผู้บริหารกลุ่มกองทุน FranklinTempleton Funds
ซึ่งประกอบไปด้วยกองทุนกว่า 30 กองในตลาดหุ้นเกิดใหม่ทั่วโลก
ผมเคยพบและพูดคุยกับ “ยูล บรินเนอร์”
แห่งวอลสตรีทคนนี้
ตั้งแต่สมัยที่ผมยังเป็นผู้จัดการฝ่ายวางแผนและบริหารการเงินของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ต้องให้ข้อมูลแก่นักลงทุนคล้าย ๆ กับIRหรือนักลงทุนสัมพันธ์ในปัจจุบัน
แต่เป็นช่วงเวลาย้อนหลังไปกว่า 20 ปีมาแล้ว
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า มาร์ก โมเบียส
เป็นผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่อย่างแท้จริง
อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นเขายังไม่ดัง และยังไม่แก
่ แต่สิ่งที่ผมรู้สึกว่าเขาไม่เปลี่ยนแปลงเลยก็คือ
เขายังเฉียบคมเหมือนเดิม
เช่นเดียวกับศีรษะที่ยังล้านเลี่ยนแบบ ยูล บรีนเนอร์
ดาราฮอลลีวูดชื่อก้องโลก
ตลอดเวลากว่า 20 ปีที่ผมจำความได้ โมเบียสไม่เคยห่างจากตลาดหุ้นเกิดใหม่
โดยเฉพาะประเทศไทย
เขามาๆไปๆและผมเชื่อว่าเขารักเมืองไทย
และเขาลงทุนในตลาดหุ้นไทยค่อนข้างมาก
เมื่อเปรียบเทียบกับกองทุนหุ้นอื่น
ในระยะหลัง ๆ เขามาพูดในเมืองไทยบ่อยขึ้น
เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ได้มาพูดที่สถาบันศศินทร์ ผมเองไม่ได้พบโมเบียสมานาน
แต่รู้สึกได้ว่าเขายังคงแข็งแร็งคึกคัก
ยังสามารถทำงานหนักและเดินทางไปทั่วโลก
ทั้ง ๆ ที่มีอายุ 73 ปีเข้าไปแล้ว
ประวัติคร่าว ๆ ของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ
เขาจบปริญญาตรีและโททางด้านการสื่อสารจาก Boston
University
แต่ที่น่าทึ่งก็คือ
ไปจบปริญญาเอกทางด้านเศรษฐศาสตร์จาก MIT
ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยระดับต้น ๆ
ของโลกทางด้านเศรษฐศาสตร์และบริหารธุรกิจ
หลังจากนั้นเขาก็เข้าร่วมงานกับ เซอร์ จอห์น เทมเปิลตัน
ตำนานนักลงทุนผู้บุกเบิกการลงทุนในตลาดหุ้นเกิดใหม่ของโลก
เกียรติประวัติสำคัญของ มาร์ก โมเบียส ก็คือ
เขาได้รับการโหวตให้เป็นหนึ่งในสิบนักลงทุนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกในศตวรรษที่ยี่สิบจากนักลงทุนมืออาชีพ 300 คน
ที่ทำการสำรวจโดย Carson Group ในปี 1999
ลองมาดูกฏการลงทุนต่าง ๆ ที่ มาร์ก โมเบียส ใช
้ กฏเหล่านี้ผมดึงมาจากหนังสือที่เขาเขียนชื่อ Passport to Profit
ซึ่งเขาเขียนถึงการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยในปี 1999 หรือ
สองปีหลังจากเกิดวิกฤติในเอเซียที่เริ่มจากประเทศไทย
กฎของโมเบียส
ข้อที่ 1. การป้องกันที่ดีที่สุดของคุณก็คือ การกระจายความเสี่ยงโดยการกระจายการลงทุน
กฎข้อที่ 2. ความผันผวนที่รุนแรงคือคุณสมบัติของตลาดหุ้นทุกแห่ง ไม่เว้นแม้แต่ตลาดที่พัฒนาที่สุด
กฎข้อที่ 5. ถ้าคุณตัดปัจจัยเรื่องของอารมณ์ออกไปและกลยุทธ์ของคุณ
อิงอยู่กับพื้นฐานระยะยาวแล้ว คุณจะสามารถชนะทั้งในช่วงตลาดหุ้นตกและตลาดหุ้นขึ้น
กฎข้อที่ 7. เวลาที่ย่ำแย่อาจจะเป็นเวลาที่ดี
กฎข้อที่9.เมื่อข้อมูลที่จัดเตรียมโดยสถาบันระหว่างประเทศ
และรัฐบาลถูกเผยแพร่ออกมา ราคาหุ้นก็สะท้อนข่าวสารเหล่านั้นไปหมดแล้ว
กฎข้อที่ 10. ซื้อหุ้น “ดี” ในเวลาที่ “แย่” และซื้อหุ้น “แย่” ในเวลาที่ “ดี”
กฎข้อที่ 11. เวลาที่คนคิดว่าเลวร้ายมักจะเป็นเวลาที่ดี ก
ฎข้อที่ 12. หุ้นที่คนคิดว่าแย่มักจะดี
กฎข้อที่ 14. คุณภาพของผู้บริหารเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด
กฎข้อที่ 16. การอดทนรอคอยให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า
กฎข้อที่18.เวลาที่คนมองโลกในแง่ร้ายที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะซื้อ
กฎข้อที่ 19.เวลาที่คนมองโลกในแง่ดีที่สุดคือเวลาดีที่สุดที่จะขาย
กฎข้อที่ 20. ถ้าคุณสามารถเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมง มันก็สายไปเสียแล้วที่จะซื้อ (หรือขาย)
กฎข้อที่ 22. ซื้อหุ้นเมื่อราคาลง ไม่ใช่ตอนขึ้น
กฎข้อที่ 23. ถ้าตลาดตกลงไป 20% หรือมากกว่าจากจุดสูงสุดและเราเห็นคุณค่าของหุ้น ก็เริ่มทยอยซื้อได้
กฎข้อที่ 24. เวลารักษาความเจ็บป่วยได้เกือบทุกโรค
กฎของโมเบียสข้อที่34.ถ้าสินทรัพย์สุทธิหารด้วยจำนวนหุ้น
ของบริษัทได้ตัวเลขสูงกว่าราคาหุ้นในตลาด
คุณก็อาจพิจารณาได้ว่า มันคือหุ้นที่มีราคาต่ำกว่าพื้นฐาน
กฎข้อที่ 38. มองหาบริษัทระดับรองที่มี Market Cap. หรือมูลค่าตลาดของหุ้นทั้งหมดน้อย
แต่มีศักยภาพในการเติบโตสูง
กฎข้อที่39.รอให้ตลาดหุ้นเกิดPanicแล้วก็เข้าซื้ออย่างสงบเยือกเย็น กฎข้อที่ 42. บ่อย ๆ ที่ภาพใหญ่ขัดแย้งกับภาพเล็ก
กฎข้อที่43.โดยการศึกษาให้เข้าใจช่องว่างระหว่างภาพใหญ
่และภาพเล็ก
คุณจะสามารถอยู่ในตำแหน่งที่นำหน้าฝูงชนได้
กฎข้อที่ 45. ตรวจสอบดูพอร์ตของตนเองอย่างละเอียด
หาหุ้นทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100%
ในเวลาหนึ่งปีหรือน้อยกว่านั้น
ที่บริษัทมีกำไรเพิ่มขึ้นไม่มากเท่า
และการคาดการณ์ในอนาคต 5 ปีข้างหน้าก็ไม่ด
ี พิจารณาขายหุ้นเหล่านั้นทิ้งเสีย
กฎข้อที่46.อย่ารักษาผลการลงทุนที่ดีเยี่ยม
โดยการถือหุ้นบลูชิพตัวเก่าที่ไม่เป็นบลูชิพอีกต่อไปแล้ว
กฎข้อที่47.หากลุ่มหุ้นบลูชิพล็อตต่อไปก่อนที่มันจะเริ่มเป็นหุ้นบลูชิพ
และทั้งหมดนั้นก็เป็นเพียงบางส่วนของกฎของโมเบียส
ที่ประยุกต์ใช้กับตลาดเกิดใหม่ต่าง ๆ ทั่วโลก ประสบการณ์ที่ยาวนานผ่านร้อนผ่านหนาวมามาก
คงทำให้โมเบียสเรียนรู้ประวัติศาสตร์ของตลาดหุ้นมากมาย
และทำให้เขาสามารถฉกฉวยโอกาสสำคัญครั้งแล้วครั้งเล่า
โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดวิกฤติตลาดหุ้นและการฟื้นตัวของมัน
ตัวอย่างที่เราเห็นก็อย่างที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา
โมเบียสได้ให้สัมภาษณ์และบอกอย่างชัดเจนว่า
เขาคิดว่าตลาดหุ้นกำลังจะบูม
โดยเฉพาะในครั้งนี้จะนำโดยตลาดหุ้นเกิดใหม่
และแล้วตลาดหุ้นก็บูมจริง ๆ และโมเบียสก็คงสามารถทำกำไรได้อย่างงดงาม
หลังจากที่เขาบาดเจ็บอย่างหนักก่อนหน้านั้น
และนี่อาจจะเป็นอย่างที่เขาพูดไว้ในกฎของโมเบียสข้อที่ 70.
ที่ว่า ในบางครั้งคุณอาจจะต้องทำได้แย่กว่าดัชนีตลาดหุ้น
เพื่อที่ว่าคุณจะสามารถเอาชนะมันในอนาคต
"ผู้ทรงธรรมนั่นแหละคือผู้ทรงเกียรติ ผู้มีความดีนั่นแหละคือผู้มีทรัพย์ ผู้รู้จักพอนั่นแหละคือมหาเศรษฐี" ว.วชิรเมธี
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
มาร์ก โมเบียส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 5
บางข้อมันหายไปครับ
- gradius173
- Verified User
- โพสต์: 198
- ผู้ติดตาม: 0
มาร์ก โมเบียส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 6
อ้อผมลืมอ่านว่าดึงมาบางข้อ ขอโทษครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1252
- ผู้ติดตาม: 0
มาร์ก โมเบียส / ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร
โพสต์ที่ 7
ยูล บรินเนอร์ แห่งวอลสตรีท ช่างมีกฎในการลงทุนมากมายจริงๆครับ นับถือๆ
กฎข้อที่ 10. ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจครับ เพราะหุ้น"แย่"ยังไงก็ไม่น่าลงทุน แต่พอผมได้อ่านกฎข้อที่ 12. จึงเข้าใจหุ้น"แย่"อาจหมายความตามกฎข้อนี้ครับ
กฎข้อที่47. ช่างเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริหารกองทุนยิ่งนัก นับถือๆ
มาร์ก โมเบียส พ่อหมอแห่งโลกการลงทุน ไม่ทราบว่าตลาดหุ้นจะบูมเป็นระยะเวลาเท่าใดครับท่าน เป็นไตรมาสหรือมากกว่านั้น :?:
กฎข้อที่ 10. ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจครับ เพราะหุ้น"แย่"ยังไงก็ไม่น่าลงทุน แต่พอผมได้อ่านกฎข้อที่ 12. จึงเข้าใจหุ้น"แย่"อาจหมายความตามกฎข้อนี้ครับ
กฎข้อที่47. ช่างเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้บริหารกองทุนยิ่งนัก นับถือๆ
มาร์ก โมเบียส พ่อหมอแห่งโลกการลงทุน ไม่ทราบว่าตลาดหุ้นจะบูมเป็นระยะเวลาเท่าใดครับท่าน เป็นไตรมาสหรือมากกว่านั้น :?: