กำไรแสนล้านในหนึ่งปี:ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ

[PERFECT LUCKY]

Value Way ฉบับวันที่ 28 กันยายน 2552

โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ

กำไรแสนล้านในหนึ่งปี

เป็นเวลาหนึ่งปีเต็มนับจากวันที่ 23 กันยายน 2551 เป็นวันที่วอร์เรน บัฟเฟตทำเงินได้กว่า 1 แสนล้านบาท (3 พันล้านดอลลาร์)จากดีลเพียงดีลเดียว ในช่วงเวลาแห่งความสับสนวุ่นวายของโลกการเงินหลังจากการล้มละลายของบริษัทเงินทุนเลห์แมนบราเดอร์ บัฟเฟต์ทำให้วอลสตรีทต้องตะลึงเมื่อเขาประกาศลงทุนในบริษัทโกลแมนแซคในเวลานั้น

โกลแมนแซคขายหุ้นกู้บุริมสิทธิ์ให้กับบัฟเฟตเป็นเงิน 5 พันล้านเหรียญ (หนึ่งแสนเจ็ดหมื่นห้าพันล้านบาท) ถือว่าเป็นเงินให้กู้จำนวนมากโดยเฉพาะบนความไม่แน่ใจว่าโกลแมนแซคจะล้มตามเลห์แมนบราเดอร์ไปด้วยหรือไม่ บัฟเฟตบอกหลังจากนั้นว่าโกลแมนแซคเป็นสถาบันการเงินที่แตกต่างเพราะมีความสามารถทางการแข่งขันระดับโลก รวมทั้งยังมีทีมผู้บริหารที่ดีเยี่ยมและฐานะทางการเงินที่ดีที่จะสามารถสร้างผลการดำเนินงานให้ดีได้อย่างต่อเนื่อง การลงทุนในหุ้นกู้นี้ได้ราคาที่ดี มีผลตอบแทนที่เหมาะสม และบริษัทมีพนักงานรวมทั้งผู้บริหารที่ดีอีกด้วย

โกลแมนแซคตกลงจ่ายเงินปันผลปีละ 10 เปอร์เซนต์ให้กับบัฟเฟตเป็นจำนวนเงินปีละ 500 ล้านเหรียญ ซึ่งเงินปันผลนี้ไม่ได้ขึ้นกับผลประกอบการหรือราคาหุ้นของบริษัทแต่อย่างใด นอกจากนั้นในดีลนี้ยังมีสิ่งที่บัฟเฟตบอกว่าเป็นโบนัสอีกด้วยนั่นคือสิทธิในการซื้อหุ้นโกลแมนแซคในราคาหุ้นละ 115 เหรียญในวงเงิน 5 พันล้านเหรียญในช่วงเวลาใดก็ได้ภายในเวลาห้าปี

ในช่วงแรกราคาหุ้นของโกลแมนตกลงไปเหลือ 47.41 เหรียญในเดือนพฤศจิกายนปีที่ผ่านมา บัฟเฟตขาดทุนทางบัญชีถึงเกือบ 3 พันล้านเหรียญ นักวิเคราะห์บางคนถึงกับบอกว่าถึงคราวที่บัฟเฟตต้องตัดสินใจผิดพลาดเสียแล้วโดยเฉพาะในดีลของโกลแมนแซคนี้ แต่เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าใครเป็นเซียนจริง ในช่วงเดือนมีนาคมเมื่อราคาหุ้นเริ่มฟื้นตัว เงินลงทุนของบัฟเฟตเริ่มกับมาเท่าทุน นอกเหนือจากนั้นปัจจุบันราคาหุ้นของโกลแมแซคอยู่ที่ 186 เหรียญนั่นหมายความว่าบัฟเฟตได้กำไรจากการลงทุนนี้โดยยังไม่ได้รวมเงินปันผลถึง 3 พันล้านเหรียญ (หนึ่งแสนล้านบาท) เมื่อเทียบกับราคาใช้สิทธิที่ 115 เหรียญ

ทั้งหมดเป็นการขาดทุนและกำไรทางบัญชีล้วนๆเพราะกำไรจริงๆยังไม่เกิดขึ้นจนกว่าจะมีการใช้สิทธิแปลงหุ้นกู้เป็นหุ้นสามัญและขายในตลาด ซึ่งบัฟเฟตให้สัมภาษณ์ว่าเรามีความคิดว่าเราคงจะถือหุ้นกู้ของโกลแมนแซคไปจนกว่าจะครบอายุสัญญา อย่างน้อยเราก็ได้เงินปันผลในแต่ละปี และยังได้กำไรจากการใช้สิทธิอีกด้วย

เหตุผลหนึ่งที่บัฟเฟตตัดสินใจลงทุนในหุ้นกู้ของโกลแมนด์แซคเพราะเขามั่นใจว่าแผนการช่วยเหลือสถาบันการเงินของรัฐบาลอเมริกาจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐสภาอย่างแน่นอน และสุดท้ายแผนการปฏิรูปสถาบันการเงินก็ผ่านการโหวตของรัฐสภาอเมริกาถึงแม้จะเป็นการโหวตรอบที่สอง ทำให้ไม่มีสถาบันการเงินใหญ่ๆล้มละลายตามเลห์แมนบราเดอร์อีก

จวบจนเวลาผ่านไปหนึ่งปี ตลาดทุนและตลาดเงินเริ่มกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ดัชนีราคาหุ้นเพิ่มสูงขึ้นทั่วโลกรวมทั้งพอร์ตการลงทุนของบัฟเฟตในช่วงการเกิดวิกฤติคราวนี้ด้วยเช่นเดียวกัน กำไรหนึ่งแสนล้านบาทในหนึ่งปีคงมีคนไม่มากนักในโลกนี้ที่ทำได้และหนึ่งในนั้นก็คือวอร์เรน บัฟเฟตท่านนี้

[hagrid]

จริงๆ อาจจะมีคนเดียวที่ทำได้แบบนี้

เพราะตอนนั้นคงมีไม่กี่คนหรอกครับ

ที่จะมีเงิน 5 พันล้านเหรียญ ไปซื้อหุ้นบุริมสิทธิ์

และถ้ามี  โกลแมนแซค ก็คงจะไม่ขายให้

เพราะคนที่มีภาพลักษณ์แบบบัฟเฟต คงหาได้ยาก

ยิ่งบริษัทมีปัญหาการได้บัฟเฟตมาถือหุ้น ทำให้

บริษัทดูดีขึ้นแน่นอน

[miracle]

เนี่ยคือการลงทุนบนสิ่งที่ไม่แน่นอน
แต่เขามองออกว่า สุดท้ายมันคืออะไร
เนี่ยคือสิ่งที่ต้องตามหากัน

[ซากคน]

เนี่ยคือการลงทุนบนสิ่งที่ไม่แน่นอน
แต่เขามองออกว่า สุดท้ายมันคืออะไร
เนี่ยคือสิ่งที่ต้องตามหากัน

ในหนังสือคงร่างแต่แนวคิดที่แน่นอน กับตัวอย่างที่แน่นอน  

แต่พอลงสนามจริง

ดูไม่ต่างจาก เกมเดาไพ่ในมือของเซียนพนันเลย  

ซึ่งไม่ใช่เกมของคนทั่วไปที่คิดว่าทุกอย่างเป็นเส้นตรง...  

[austin_bd]

เหมือนเล่น blackjack ป่าวคับ

มันเป็นการยาก ที่จะคาดเดา แต่ก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้....

[nathapon_m]

ถ้าไม่ใช่ Buffett DEAL แบบนี้จะเกิดขึ้นได้มั้ยครับ  :)

[holidaytours]

***โกลแมนแซคตกลงจ่ายเงินปันผลปีละ 10 เปอร์เซนต์ให้กับบัฟเฟตเป็นจำนวนเงินปีละ 500 ล้านเหรียญ

จิง ๆ 10 เปอร์เซ็นสำหรับปู่บัฟ ยังถือว่าน้อยด้วยซ้ำไป อิอิ  :lol:

[phakphum]

[quote="nathapon_m"]ถ้าไม่ใช่ Buffett DEAL แบบนี้จะเกิดขึ้นได้มั้ยครับ

[baby-investor]

ไม่รู้ปีนี้ท่าน dr. มีมูลค่าพอร์ทเพิ่มขึ้นเท่าไหร่นะครับ ปีนี้ถือเป็นปีทองของเซียนจริงๆ

[newbie_12]

ไม่รู้ปีนี้ท่าน dr. มีมูลค่าพอร์ทเพิ่มขึ้นเท่าไหร่นะครับ ปีนี้ถือเป็นปีทองของเซียนจริงๆ

เฉพาะ CPALL และ Hmpro ที่ราคาขึ้นเกือบ 100% ทั้ง 2 ตัวก็แตะๆ 300 ล้านหล่ะมั้งครับ

[nathapon_m]

[quote="phakphum"][quote="nathapon_m"]ถ้าไม่ใช่ Buffett DEAL แบบนี้จะเกิดขึ้นได้มั้ยครับ

[Isabuy]

ผมว่าการตัดสินใจลงทุนในดีลนี้ของบัฟเฟต มีผลในเชิงบวกต่อตลาดเงินอเมริกามากๆ และนั่นคือ positive Domino Effect อย่างปฏิเสธไม่ได้