Value Way ฉบับวันที่ 12 ตุลาคม 2552
โดยวิบูลย์ พึงประเสริฐ
รวยได้ด้วยบัฟเฟต
เจ้าของบริษัทผลิตแบตเตอรี่รถยนต์ในเมืองเสินเจิ้นกลายเป็นคนที่รวยที่สุดในเมืองจีนจากการลงทุนของวอร์เรน บัฟเฟต หวาง ชวนฟู ผู้ก่อตั้งและประธานบริษัทบีวายดี (BYD) ขยับจากอันดับที่ 103 เมื่อปีที่แล้วมาอยู่อันดับหนึ่งของคนที่รวยที่สุดในจีนด้วยทรัพย์สิน 5.1พันล้านเหรียญ (1.78 แสนล้านบาท) จากผลการจัดอันดับของบริษัทที่ปรึกษาฮูรันในเซี่ยงไฮ้
บริษัทมิดอเมริกันอีเนอยี่ (MidAmerican Energy) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัทเบิร์คไชน์ แฮตตาเวย์ (Berkshire Hathaway) ของบัฟเฟตซื้อหุ้นจำนวน 10% ของบริษัทบีวายดีด้วยเงินลงทุน 230 ล้านเหรียญ (8 พันล้านบาท) เมื่อปีที่ผ่านมา ปัจจุบันราคาหุ้นเพิ่มขึ้นกว่าเจ็ดเท่าทำให้เงินลงทุนของบัฟเฟตกลายเป็น 1.7 พันล้านหรียญ (6 หมื่นล้านบาท) เลยทีเดียว
ธุรกิจหลักของบริษัทบีวายดีอยู่ที่การผลิตแบตเตอรี่สำหรับโทรศัพท์มือถือและผลิตรถยนต์นั่ง แต่ราคาหุ้นที่เพิ่มขึ้นมาจากความคาดหวังของนักลงทุนในรถยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทกำลังพัฒนาออกสู่ตลาด
ส่วนคนที่รวยอันดับสองในเมืองจีนคือจาง หยิน ผู้หญิงคนแรกที่ก้าวเข้าสู่ทำเนียบคนรวยที่สุดของจีนเมื่อปี 2006 ปัจจุบันมีทรัพย์สิน 4.9 พันล้านเหรียญ (1.71 แสนล้านบาท) ครอบครัวของเธอเป็นเจ้าของบริษัทผลิตกระดาษรีไซเคิลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน
มิสเตอร์หวางก่อตั้งบริษัทบีวายดีในปี 1995 เริ่มต้นจากขอยืมเงินจากญาติพี่น้องเป็นเงินสามแสนเหรียญ เช่าโรงงานขนาด 2,000 เมตรเพื่อผลิตถ่านโทรศัพท์มือถือแข่งกับสินค้านำเข้าอย่างโซนี่และซันโย ในปี 2000 บริษัทบีวายดีกลายเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่สำหรับมือถือที่ใหญ่ที่สุดในโลก จากบริษัทพนักงานไม่กี่คน ปัจจุบันมีพนักงาน ถึง 130,000 คนใน11 โรงงานทั่วโลกโดย 8 โรงงานอยู่ในจีนและอีก 3 โรงงานในอินเดีย ฮังการีและโรมาเนีย
บริษัทก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ในปี 2003 โดยเข้าซื้อกิจการรัฐวิสากิจผลิตรถยนต์ที่กำลังแย่แห่งหนึ่ง เขามีความรู้เรื่องรถยนต์น้อยมากแต่ด้วยความทุ่มเททำให้ในปีที่ผ่านมารถยนต์รุ่น F3 ของบริษัทเป็นรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดในเมืองจีนแซงเจ้าตลาดอย่างโฟล์คสวาเกน เจตต้าและโตโยต้า โคโรลล่า ล่าสุดบริษัทเริ่มขายรถไฟ้าลูกผสมในตลาดเมืองจีนก่อนผู้ผลิตรายอื่นๆ นอกเหนือจากนั้นปัจจุบันบริษัทบีวายดียังเป็นบริษัทรถยนต์อันดับ 8 ของโลกอีกด้วย
บัฟเฟตรู้จักบริษัทบีวายดีจากการแนะนำของเดวิด โซคอล ซีอีโอของบริษัทมิดอเมริกันอีเนอยี่ ในการลงทุนครั้งนี้ บัฟเฟตต้องละเมดิกฏการลงทุนของเขา บัฟเฟตบอกว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องมือถือหรือแบตเตอรี่เลย รวมทั้งยังไม่รู้ว่ารถยนต์หรือรถไฟฟ้าทำงานอย่างไร แต่เขาเชื่อว่าโซคอลและชาลี มังเกอร์ คู่หูของเขาเข้าใจบริษัทนี้อย่างดี ตอนแรกเขาขอเสนอซื้อหุ้น 25% แต่หวางปฏิเสธ บัฟเฟตบอกว่าเป็นสัญญานที่ดีที่เจ้าของไม่อยากขายบริษัท
นักวิเคราะห์หลายคนบอกว่าบัฟเฟตสนใจในบริษัทนี้เพราะแผนธุรกิจของบริษัทที่จะสร้างรถไฟฟ้า แต่อีกหลายคนเชื่อว่าบริษัทมิดอเมริกันอีเนอยี่สนใจในเทคโนโลยี่แบตเตอรี่ของบริษัทเพื่อนำไปใช้ในการเก็บไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้ากังหันลม แต่ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามตอนนี้ทั้งเจ้าของบริษัทและเจ้าของเงินลงทุนอย่างบัฟเฟตต่างรับทรัพย์จากดีลนี้ไปเต็มๆ
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 795
- ผู้ติดตาม: 0
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 1
Miracle Happens Everyday !
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
"ปาฎิหารย์คือการเดินบนผืนดินและมีความสุขในทุกย่างก้าว"
- holidaytours
- Verified User
- โพสต์: 349
- ผู้ติดตาม: 0
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 3
บัฟเฟตต้องละเมดิกฏการลงทุนของเขา บัฟเฟตบอกว่าเขาไม่มีความรู้เรื่องมือถือหรือแบตเตอรี่เลย รวมทั้งยังไม่รู้ว่ารถยนต์หรือรถไฟฟ้าทำงานอย่างไร แต่เขาเชื่อว่าโซคอลและชาลี มังเกอร์ คู่หูของเขาเข้าใจบริษัทนี้อย่างดี
คงเหมือนเล่าปี่ตอนเอาขงเบ้งมาทำงานอะคับ
เล่าปี่วางแผนไม่เป็น แค่รู้ว่าขงเบ้งวางแผนเก่งก็พอ แหะ ๆ :lol: :lol:
คงเหมือนเล่าปี่ตอนเอาขงเบ้งมาทำงานอะคับ
เล่าปี่วางแผนไม่เป็น แค่รู้ว่าขงเบ้งวางแผนเก่งก็พอ แหะ ๆ :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 413
- ผู้ติดตาม: 0
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 4
ช่วงนี้ทำไมเซียนๆเน้นแหกๆอะไรกันจัง
ดร.นิเวศน์ก็เพิ่งจะแหกกฎที่ว่าไม่ใช้มาร์จิ้น
สุดท้ายก็ไ้ด้กำไรงดงามทั้งคู่เลย
เรื่องนี้น่าจะเป็นข้อคิดว่า กฎมีไว้ให้แหก เอ้ยไม่ใช่ กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น ...แต่หลักการแก่นแท้ยังคงเหมือนเดิม คือซื้อต่ำกว่ามูลค่า
ดร.นิเวศน์ก็เพิ่งจะแหกกฎที่ว่าไม่ใช้มาร์จิ้น
สุดท้ายก็ไ้ด้กำไรงดงามทั้งคู่เลย
เรื่องนี้น่าจะเป็นข้อคิดว่า กฎมีไว้ให้แหก เอ้ยไม่ใช่ กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น ...แต่หลักการแก่นแท้ยังคงเหมือนเดิม คือซื้อต่ำกว่ามูลค่า
-
- Verified User
- โพสต์: 1808
- ผู้ติดตาม: 0
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 5
ผมคิดว่า มันเป็นการปรับเปลี่ยนระหว่าง กลยุทธ์หลัก กับ กลยุทธ์เหนือธรรมดา ของนักลงทุนแต่ละท่านครับAuI_a VI เขียน:ช่วงนี้ทำไมเซียนๆเน้นแหกๆอะไรกันจัง
ดร.นิเวศน์ก็เพิ่งจะแหกกฎที่ว่าไม่ใช้มาร์จิ้น
สุดท้ายก็ไ้ด้กำไรงดงามทั้งคู่เลย
เรื่องนี้น่าจะเป็นข้อคิดว่า กฎมีไว้ให้แหก เอ้ยไม่ใช่ กฎทุกกฎย่อมมีข้อยกเว้น ...แต่หลักการแก่นแท้ยังคงเหมือนเดิม คือซื้อต่ำกว่ามูลค่า
กลยุทธ์หลักทั่วไปในเวลาปกติ ก็ทำตามกฏทั่วไปที่เราวางไว้
กลยุทธ์เหนือธรรมดาคือ การพลิกแพลงตามสถานการณ์พิเศษครับ ไม่ได้ยึดติดว่าจะต้องทำตามกฏของเราตลอดเวลา
อย่างท่าน ดร.นิเวศน์ ก็น่าจะเห็นว่าปีที่แล้วหุ้นถูกมากๆ ก็เลยใช้มาร์จินซะเลยครับ
แต่ตอนนี้เห็นท่านบอกว่าไม่มีมาร์จิ้นแล้วครับ เพราะเป็นเวลาที่หุ้นเป็นปกติแล้ว ไม่ใช่สถานการณ์พิเศษ (ไม่ได้ถูกมากๆอย่างปีที่แล้ว)
อันนี้ก็คือผลที่ได้จากข้างต้นครับ สุดยอดจริงๆครับ ทั้ง 2 ท่านสุดท้ายก็ไ้ด้กำไรงดงามทั้งคู่เลย
"Risk comes from not knowing what you're doing" - Warren Buffet
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
สุดยอดของความซับซ้อนคือความเรียบง่าย
http://www.sarut-homesite.net/
- GeneraX
- Verified User
- โพสต์: 1141
- ผู้ติดตาม: 0
รายได้ด้วยบัฟเฟต :ValueWay วิบูลย์ พึงประเสริฐ
โพสต์ที่ 6
เท่าที่เข้าใจนะครับ MidAmerican Energy เป็นบริษัทHolding ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้าซึ่ง Buffett ซื้อไว้เมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา การที่บริษัทพลังงานแห่งนี้จะไปซื้อหุ้นบริษัทพลังงานด้วยกันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร ซึ่งผมมองว่าธุรกิจแบตเตอรี่ไฟฟ้าก็ไม่ใช่ธุรกิจที่เข้าใจยากและมีการเปลี่ยนแปลงที่หวือหวาอะไร
ที่ผ่านมาBuffettก็ซื้อมาแล้วทั้ง PetroChina รวมถึง ConocoPhillips ซึ่งเป็นการลงทุนตรงจาก Port ของ Berkshire ด้วยซ้ำ เงินลงทุน $230 ล้าน สำหรับ BYD แล้วก็ถือเป็นแค่เศษเงินเท่านั้นเองครับ
หลักการลงทุน Buffett นั้นจริงๆมันไม่มีอะไรตายตัวครับ Buffett จริงๆแล้วก็มีหลักการง่ายๆในการลงทุนในเรื่อง Circle of Competence ซึ่งไม่ได้หมายความว่า Circle ที่ว่านี้จะต้องไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโลโนยีอยู่ด้วยตราบใดที่เรื่องเหล่านั้นเป็นอะไรที่เข้าใจได้
ที่ผ่านมาBuffettก็ซื้อมาแล้วทั้ง PetroChina รวมถึง ConocoPhillips ซึ่งเป็นการลงทุนตรงจาก Port ของ Berkshire ด้วยซ้ำ เงินลงทุน $230 ล้าน สำหรับ BYD แล้วก็ถือเป็นแค่เศษเงินเท่านั้นเองครับ
หลักการลงทุน Buffett นั้นจริงๆมันไม่มีอะไรตายตัวครับ Buffett จริงๆแล้วก็มีหลักการง่ายๆในการลงทุนในเรื่อง Circle of Competence ซึ่งไม่ได้หมายความว่า Circle ที่ว่านี้จะต้องไม่มีเรื่องที่เกี่ยวกับเทคโลโนยีอยู่ด้วยตราบใดที่เรื่องเหล่านั้นเป็นอะไรที่เข้าใจได้
Financial Discipline + Value Investment + Time = Financial Independence