สุขอยู่ที่ใด? / คนขายของ

[คนขายของ]

สุขอยู่ที่ใด? / โดย คนขายของ

ในปัจจุบันมีผู้คนสนใจการลงทุนในหุ้นเป็นจำนวนมาก หลายคนคิดจะสร้างความมั่งคั่งในเวลาอันรวดเร็วจากตลาดหลักทรัพย์ ด้วยความเชื่อว่าความมั่งคั่งจะนำมาซึ่งความสุข แต่เมื่อเขาได้ลองใช้เงินที่อุตส่าห์อดออมมา ลงทุนจริงๆ กลับดูเหมือนว่าความสุขนั้นเป็นเรื่องทีอยู่ไกลแสนไกล นานมาแล้วมีนักลงทุนรุ่นเก๋าท่านหนึ่งเคย กล่าวไว้ว่า “นักลงทุนหุ้นนั้นมีความสุขยาก” เมื่อลองพิจารณาดูก็เห็นว่าน่าจะจริง เพราะเมื่อหุ้นที่เราซื้อราคาลดลง…อันนี้แน่นอนว่าคงไม่สุข แม้หุ้นที่เราซื้อขึ้นไปเราก็จะเสียใจว่าซื้อน้อยไปหน่อย แล้วเมื่อหุ้นขึ้นไปอีกมากๆแล้วเราขายไปแต่ราคาก็ยังไปต่อเราก็จะเสียดายอีก แต่ทั้งหมดนั้นยังไม่เจ็บปวดเท่าเมื่อเพื่อนเราซึ่ง พอร์ตโตเร็วมากในปีนั้นโทรมาเล่าเรื่องความสำเร็จต่างๆในขณะที่พอร์ตเรามีแต่ตัวแดงเถือก ทำให้ไฟริษยาลุกโชนท่วมตัว แล้วความสุขนั้นอยู่ที่ไหน? มั่งคั่งแล้วมีความสุขจริงหรือไม่? และควรลงทุนอย่างไรถึงมี ความสุข?

สิ่งแรกที่เราควรทำ ผมคิดว่าคือการเปลี่ยนทัศนะคติต่อเรื่องที่เชื่อว่ามั่งคั่งเท่ากับความสุข ทั้งนี้เพราะหากเราลองศึกษาชีวิตของผู้ที่มีความมั่งคั่งสูงในอดีต อย่างเช่น พระจักพรรดิชาร์ลที่ 5 แห่งอาณาจักรโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงปกครองดินแดนส่วนใหญ่ในยุโรปตะวันตก และมีอาณานิคมอันกว้างใหญ่ไพศาลในทวีปอเมริกา เราจะเห็นว่าที่ดินและราชสมบัติที่ทรงได้รับมรดกมาทั้งหมดนั้นมากเกินไปจนพระองค์ไม่สามารถบริหารจัดการได้ จนในที่สุดทำให้พระองค์ตัดสินใจสละราชสมบัติทั้งหมดและใช้ชีวิตที่โดดเดี่ยวในบั้นปลาย หรือ ชีวิตของ John Caudwell ในยุคปัจจุบัน มหาเศรษฐีของอังกฤษผู้มีคฤหาสน์ 2 หลัง เรือยอร์ช เฮลิคอปเตอร์ และ รถหรูอีกจำนวนมาก แต่มีปัญหาเรื่องสุขภาพของลูกและความสัมพันธ์กับคู่ครอง จนเขาเอง ให้สัมภาษณ์ยอมรับว่า “แม้การไม่มีเงินอาจนำมาซึ่งความยากลำบาก แต่ก็ใช่ว่าเงินจะซื้อความสุขได้”

Robert Kiyosaki ผู้เขียนหนังสือ Rich Dad Poor Dad เคยกล่าวว่า “หากคุณไม่สามารถมีความสุขได้ในขณะที่กำลังสร้างฐานะ โอกาสที่คุณจะมีความสุขตอนรวยแล้วนั้นมันน้อยเต็มที” ซึ่งผมเห็นด้วยกับเขาในเรื่องนี้ สิ่งที่สองที่จะทำให้เราลงทุนได้อย่างมีความสุขคือ เราต้องมีใจรักในการเป็นนักลงทุนและสนุกกับมัน ถ้าเรารักงานของเรา เราจะทำงานด้วยใจที่มุ่งมั่นและจดจ่อ ผลของงานมักจะออกมาดีในที่สุด ผมเคยได้ยินเพื่อนนักลงทุนเล่าให้ฟังว่า จุดที่ทำให้เขาพลาดในขณะที่พอร์ตกำลังเริ่มโตดี คือการที่เขาเริ่มจะ “เบ่ง” เพื่อให้ถึงเป้าหมายให้เร็วที่สุด เช่น การใช้มาร์จิ้นเป็นจำนวนมาก หรือ การเข้าซื้อหุ้นเก็งกำไรบางตัวตามข่าว ซึ่งเป็นผลให้เกิดปัญหาตามมาอีกมาก ซึ่งจริงๆแล้วความสุขนั้นไม่ได้อยู่ที่การบรรลุเป้าหมาย แต่อยู่ในทุกย่างก้าวที่เดินไปสู่เป้าหมายต่างหาก

ข้อที่สาม เพื่อการลงทุนที่มีความสุขคือ “การลงทุนด้วยความรัก” เพราะนักลงทุนบางคนอาจจะมุ่งเน้นที่กำไรสูงสุด ซื้อต้องได้ต่ำสุด เพื่อขายที่จุดสูงสุด ผมคิดว่าการคิดแบบนี้อาจจะเป็นการลงทุนที่ใจแคบไปซักหน่อย ถ้าคิดแบบหลักการค้า ยี่ปั๊วขายของให้ซาปั๊ว จะขายได้ดี ขายได้คล่อง ต้องให้ซาปั๊วมีกำไรบ้าง การไม่เพ่งแต่จะขายที่จุดสูงสุด จะทำให้จิตใจเราผ่อนคลาย เพราะจุดที่ราคาสูงสุดมักเกิดขึ้นแค่ช้างกระดิกหู งูแลบลิ้น เท่านั้น และการขายที่ราคาพอสมควรทำให้การระบายหุ้นทำได้ง่าย และใช้เวลาไม่นาน คนซื้อหุ้นต่อจากเรา ไปมีความสุขเพราะเอาไปทำกำไรต่อได้ เราเป็นคนขายก็มีความสุขเพราะไม่เครียดจนเกินไป

และข้อที่สี่ นักลงทุนต้องเข้าใจ “องค์ประกอบของความสุข” ผมไม่ปฎิเสธว่า การมีความมั่งคั่งทำให้ชีวิตสะดวกสบาย ความกังวลเรื่องความต้องการขั้นพื้นฐานลดน้อยลง แต่ความมั่งคั่งเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถทำให้เกิดความสุขที่สมบูรณ์ได้ ผมเชื่อว่าความมั่งคั่งจะนำมาซึ่งความสุขโดยสมบูรณ์ได้ต้องมี สุขภาพที่ดี และมีคนที่เรารัก ประกอบกัน ดังนั้นในช่วงที่เรากำลังสร้างความมั่งคั่ง ก็อย่าลืมดูแลทั้งสองอย่างที่สำคัญ พร้อมกันไปด้วย นอกจากนั้น สำหรับนักลงทุนบางกลุ่มที่ใช้ชีวิตแบบ “ทุ่มเททุกอย่างเพื่อให้ถึงเป้าหมาย” มาอย่างยาวนาน จนลืมไปว่าทรัพย์สมบัติที่หามานั้นจะมีประโยชน์ก็ต่อเมื่อใช้จ่ายออกไปในทางที่สมควร ก็ควรนำเงินที่หามาได้มาใช้จ่ายบ้าง

การลงทุนในหุ้นนั้นดูเหมือนจะมีความสุขได้ยาก เพราะระหว่างทางที่จะถึงเป้าหมายนั้น นักลงทุนต้องผจญกับอารมณ์ทั้งความโลภและความกลัวที่ถาโถมกันมาไม่ขาดสาย นอกจากประเด็นที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว สิ่งสำคัญที่สุดที่เป็นกุญแจสำคัญไปสู่ความสุขในการลงทุนก็คือ “การปล่อยวาง” เพราะไม่ว่าจะคำนวณมูลค่าหุ้นมาขนาดไหน สำรวจข้อมูล ตามข่าวกันใกล้ชิดอย่างไร บางทีตลาดก็ไม่ได้เป็นอย่างที่เราคิด การเหวี่ยงไปเหวี่ยงมาของราคาหุ้นเป็นเรื่องที่เราไม่สามารถควบคุมได้ สิ่งที่เราพอทำได้ก็คือ รักษาใจเรา ให้สงบ แล้วมุ่งมั่นลงทุนต่อไปด้วยความรักในอาชีพนักลงทุน

[donnyvi]

ขอบคุณครับพี่ชาย

[Loby]

ช่วยเตือนสติได้ดีครับ ในภาวะตลาดแบบนี้

[neuhiran]

ยอดเยี่ยมเลยครับ ขอบคุณมากๆ