ครอบครัวผมได้บริจาคเงินสมทบโครงการปลูกต้นไม้ในประเทศอินเดียร่วมกับ Project Greenhands ของ ishafoundation.org ซึ่งเป็นความสะดวกของเราผู้บริจาคซึ่งอยู่ในสหรัฐอเมริกา มีโอกาสได้ร่วมกับผู้บริจาคทั่วโลก ผ่านเทคโนโลยีโดยใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วินาที ส่งผลให้อาสาสมัครและเจ้าหน้าที่ในท้องถิ่น สามารถดำเนินการปลูกต้นไม้ ริมตลิ่งแม่น้ำ Cauvery ทางใต้ของอินเดีย ซึ่งมีประชากรกว่า 84 ล้านคนได้ การขาดน้ำบริโภคอุปโภคในบริเวณนี้เป็นภัยธรรมชาติที่น่าเป็นห่วง การปลูกต้นไม้หนึ่งต้นใช้เงินประมาณ 42 รูปี (0.60 ดอลลาร์สหรัฐ) โครงการนี้ได้ปลูกต้นไม้กว่า 50 ล้านต้นแล้ว เป้าหมายคือ 2,400 ล้านต้น
Ecosia.org ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ที่เยอรมนี เป็นอีกโครงการหนึ่งที่ใช้ธุรกิจเพื่อสิ่งแวดล้อม เมื่อผู้บริโภคใช้ Ecosia search engine เขาจะนำผลกำไรบริจาคให้องค์กรอาสาสมัครต่างๆ ปลูกต้นไม้ในหลายประเทศทั่วโลก ถึงวันนี้เกินกว่า 106 ล้านต้นแล้ว
ตัวอย่างเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของหลายโครงการเชิงสร้างสรรค์ดูแลระบบนิเวศ ช่วยเหลือเรื่องภัยพิบัติต่างๆ ซึ่งหันมาใช้ความสะดวกของนวัตกรรม ประชาสัมพันธ์การบริหารการเงินแบบโปร่งใส ความชัดเจนในอุดมการณ์ หลักการและวิธีการขององค์กร และความสะดวกฉับไว ทำให้ผู้บริจาคซึ่งอาจต่างผิวพรรณและถิ่นที่อยู่ สามารถแบ่งปันทรัพยากรเพื่อช่วยเหลือกันอย่างมีประสิทธิภาพ
ผมนำเงินที่ได้จากการลงทุนในตลาดหุ้น แบ่งส่วนออกเพื่อทำการกุศลโดยสม่ำเสมอ การที่เราเป็นผู้บริโภคนั้น เราก็เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างปัญหา การละลดเลิกเป็นสิ่งที่ควรปฏิบัติ ขอชมเชยท่านผู้อ่านซึ่งมีวินัยในการบริหารการเงินการลงทุนและได้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ต่อสังคมมาโดยตลอดครับ
การหยุดชะงักของระบบเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลกเนื่องจากโรคระบาดครั้งนี้ เปิดมติใหม่ให้เรามีโอกาสคิดไตร่ตรอง ถึงอะไรเป็นสิ่งสำคัญก่อนหลังในชีวิต สิ่งใดที่มีประโยชน์ในสังคมและผลบวกต่อเนื่องไปในอนาคต
กระแสเงินที่กำลังสะพัดเนื่องจากการอัดฉีดจากรัฐบาลทั่วโลกเพื่อช่วยประคองความอยู่รอดของประชาชน ส่วนหนึ่งทำให้เกิดความไม่เสมอภาค ยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกาซึ่งเงินเหล่านี้ส่วนใหญ่ ผ่านมือผู้บริโภคเร็วมากและมุ่งเข้าสู่ตลาดหุ้น ทำให้บริษัทยอดนิยมต่างๆเพิ่มมูลค่าบริษัทอย่างรวดเร็ว ดัชนีหุ้นพุ่งแรง จนทำลายสถิติแทบทุกสัปดาห์
ขณะที่เขียนบทความนี้ 3 กันยายน 2563 ตลาดหุ้นอเมริกาปิดติดลบ บริษัทเทคโนโลยีถูกเทขายราคาลดลงไปหลายเปอร์เซ็นต์ นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่บอกไม่ต้องกังวลเพราะเป็นการขายหุ้นบางส่วนเพื่อเก็บกำไร เนื่องจากราคาขึ้นสูงเกินไป และไม่ได้หมายความว่าผู้ขายเลิกเชื่อมั่นในบริษัทเหล่านี้ เพราะยังถือหุ้นส่วนใหญ่อยู่ แต่บางคนก็เริ่มกังวลว่า นี่อาจเป็นสัญญาณของการเริ่มร่วงของหุ้นแบบต่อเนื่อง เพราะราคาหุ้นบริษัทเหล่านี้ขึ้นเร็วเกินไป
ความวิตกอีกอย่างก็คือ การขึ้นลงของดัชนีตลาดหุ้นแบบหวือหวา ส่วนหนึ่งอาจมาจากพฤติกรรมของผู้ลงทุนมือสมัครเล่นซึ่งชอบความสะดวกฉับไวในการใช้เทคโนโลยี เช่น Robinhood App ซึ่งเป็นที่นิยมมากในอเมริกา เป็นเทคโนโลยีที่ให้ซื้อขายหุ้นโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมและปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 13 ล้านคน อายุเฉลี่ยประมาณ 26 ปี การซื้อขายหุ้นโดยกลุ่มสมาชิกของ Robinhood ปัจจุบันประมาณ 5 ล้านครั้งต่อวัน เป็นตัวเลขที่สูงกว่าทุกโบรกเกอร์ในอเมริกาทั้งหมดรวมกัน
ผมเองใช้บริการของ Fidelity มานานเพราะเป็นบริษัทใหญ่ที่มีชื่อเสียงและมีคุณภาพในการให้ข้อมูลวิเคราะห์เชิงลึก มีการปรับปรุงซอฟต์แวร์ใช้กับคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์ที่ดีมากพอสมควร ขณะเดียวกันก็ใช้บริการแบบสะดวกฉับไวโดยเฉพาะการซื้อขายหุ้นโดยใช้โทรศัพท์มือถือของ Robinhood ด้วย ซึ่งมีข้อสังเกตว่าเป็นซอฟต์แวร์จะสะดวกมากในการใช้กับโทรศัพท์มือถือแต่หากใช้เว็บไซต์ในคอมพิวเตอร์ทั่วไปจะเชื่องช้ากว่า
หลายเดือนที่ผ่านมา สรุปได้ว่าเมื่อใช้สองบริษัทควบคู่กันทำให้สะดวกมากและมีประสิทธิภาพมากกว่าการเลือกแบบใดแบบหนึ่ง เพราะทั้งสองแบบมีจุดอ่อนและแข็งต่างกัน ซอฟต์แวร์ Robinhood ที่ใช้กับมือถือซึ่งออกแบบเพื่อคนรุ่นใหม่จะมีความเหนือกว่าเรื่องความคล่องตัว ความเร็วของการวิเคราะห์ตัดสินใจและสั่งซื้อขายหุ้น โดยตรงโดยไม่ต้องผ่านนายหน้า เป็นมิติใหม่ที่สำคัญมาก
แต่ความเร็วอย่างเดียวโดยที่ไม่รู้ทิศทางก็เป็นอันตราย ข้อมูลเชิงลึกจากบริษัทใหญ่อย่าง Fidelity ช่วยให้มีความรอบคอบทำให้เดินทางด้วยความระมัดระวัง ความเร็วและทิศทางที่ถูกต้องควบคู่กันจะส่งผลตอบแทนที่ดีกว่า
ตลาดหุ้นอเมริกาเปิดปกติเวลา 9.30 น.ถึง 16.00 น.วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ยกเว้นวันหยุดราชการ Robinhood มีความสะดวกเรื่องการซื้อขายครึ่งชั่วโมงก่อนตลาดเปิดและ 2 ชั่วโมงหลังจากตลาดปิด แต่สำหรับ Fidelity ยังขลุกขลักอยู่
Bitcoin Cryptocurrency ซื้อขายได้ตลอด 24 ชั่วโมงหากใช้แอพของ Robinhood แนวโน้มของการจัดเปิดตลาดหุ้นตลอด 24 ชั่วโมง 7 วันต่อสัปดาห์ กำลังเป็นสิ่งที่วิเคราะห์วิจารณ์กันมาก ความเป็นไปได้อาจจะยังต้องใช้ระยะเวลาไปอีกระยะหนึ่งเพราะว่าผู้ตรวจสอบและควบคุมตลาดหุ้นต่างๆอาจจะรับมือไม่ไหว โอกาสผิดพลาดเนื่องจากอุบัติเหตุหรือเจตนาไม่ชอบอาจเกิดขึ้นได้หากไม่มีมาตรการเตรียมพร้อมรัดกุม
สิ่งที่ต้องระมัดระวังก็คือการขาดประสบการณ์ของนักลงทุน รวมทั้งความประมาทและรีบร้อน ซึ่งอาจโทษนวัตกรรมอย่างเดียวไม่ได้ แต่เป็นผลของการขาดสมาธิและบางครั้งเกิดจากความโลภ ทำให้การซื้อขายหุ้นกลับกลายเป็นการพนันที่ได้และเสียอย่างรวดเร็ว
การประกอบอาชีพในปัจจุบันโดยเฉพาะการปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์วิถีชีวิตใหม่ รวมทั้งการลงทุนในตลาดหุ้นและการบริจาคหรืออาสาสมัครในการช่วยสังคม สะดวกมากขึ้นทุกวัน ความนิยมและแพร่หลายของการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ยิ่งทวีคูณ เยาวชนปัจจุบันต้องปรับตัวเรียนออนไลน์ คนแทบทุกวัยต้องเรียนรู้และเพิ่มความเชี่ยวชาญในการใช้อุปกรณ์สื่อสารต่างๆเหล่านี้เพราะเป็นความจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือกเหมือนแต่ก่อน การฝึกหัดทำให้เกิดความคล่องตัว กลายเป็นความชำนาญ และเป็นสิ่งสามัญในที่สุด
สภาวะของตลาดหุ้นในสหรัฐอเมริกาทั้งสิ่งดีและไม่ดี กระทบกับทุกมุมโลก รวมทั้งตลาดหุ้นไทย ติดตามข่าวสารและปรับตัวให้ทันกับกระแสของอเมริกา จับตามองการเมืองเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนครับ การเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายน หรือประมาณ 60 วัน รัฐบาลเร่งให้วัคซีนออกสู่ท้องตลาดภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ แต่ประสิทธิภาพและความปลอดภัยของสิ่งต่างๆที่กำลังพัฒนาอยู่ยังเป็นที่น่าเป็นห่วงอยู่ การเมืองแทรกแซงวิทยาศาสตร์การแพทย์ การเมืองปั่นจิตวิทยาของผู้ลงทุน เราจึงต้องตั้งการ์ดสูง กระจายความเสี่ยงและเพิ่มความรอบคอบรัดกุมครับ
รวดเร็วฉับไว แต่ต้องถูกทิศทาง/กฤษฎา บุญเรือง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1827
- ผู้ติดตาม: 1