ทุกๆปีตลาดมักมีช่วงตลาดขาลงแบบนี้

[romee]

ตั้งกระทู้นี้ชวนคุยกับคนที่ไม่ได้ไปขึ้นเรือละกันครับ
ว่าช่วงซัพไพร์ม หรือวิกฤติแต่ละคนรอดกันมาได้ยังไง

ส่วนตัวผมเมื่อตอนนั้นผมทำตัวปกติครับ ทำงานหาเงินแล้วก็ เอาเงินมาซื้อหุ้นปกติ แต่ก็จิตตกมาก พอร์ตร่วงไปครึ่งนึง ดีที่มีกระทู้พี่ลูกอีสาน เลยเข้าไปอ่าน ถาม เพื่อเพิ่มความรู้ของเรา...และยังมีกระทู้ของคุณฮงที่ถามพี่invisible hand และอีกหลายๆทู้
โดยกะว่ารอบหน้าถ้าตลาดแย่หนักๆอีก ผมจะต้องเจ็บให้น้อยที่สุด และกลับมาให้ได้มากที่สุด

สำหรับช่วงนี้ ผมก็ไม่รู้หรอก ว่ามันจะขาลงยาวๆ หรือจะขาขึ้น(ไปก่ายหน้าผาก)
สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่ เล่นตามเกมที่ผมถนัด

ถ้าผมไม่ถนัดถือหุ้น100%ตลอดเวลา เพราะกลัวนอนไม่หลับ ถ้าหุ้นร่วงหนักเกิ๊น ผมก็ไม่ทำตามแบบนี้แน่นอน
ถ้าผมจะขายออกมาทั้งหมด แล้วดันหาจังหวะเข้าไม่เปน ผมก็ไม่ทำ

สิ่งที่ผมคงจะทำก็คงเรียนรู้หาหุ้นดีๆ หาเงินมาซื้อมัน แล้วหาวิธีจัดการพอร์ตที่ตรงจริตกับผม และที่สำคัญวิธีนั้นๆมันต้องได้ผลด้วย

[torpongpak]

เจอกระทู้นี้เลยกลับไปอ่านpmของตัวเองเพื่อดู"อารมณ์"ตอนเจอตลาดหุ้นตกหนัก
1) เจอวิกฤติครั้งเเรกในชีวิต...Black Monday2จนปลั๊กหลุด
ใช้หัวข้อว่า"เจ็บหวะพี่" pmไปวันที่23/7/2011

ผมCutLossหุ้นเก็งกำไรออกหมดเเล้วXmm,
XMเข้าเมื่อวานวันนี้ก็ตาย Cutไปเเล้ว คืนนี้จะไปRealizeว่าลบไปเท่าไหร่เเละคงนั่งเขียนบทเรียนอีก
ส่วนXe-Ed, Xprintขายเอากำไรไว้ก่อน....XTSอยากถือต่อเเต่SAPไปก่อน
อารมณ์ผมกระเจิงถูกนายตลาดทุบซะเละ

เหลือดอยXport-w, Xeonts(รอปันผล),XRTกิ๊กเก่า เเต่หวั่นๆเหมือนกัน

ตอนนี้พอเเล้วครับรอ...Warrant ตกเหลือ0.5, XTCเหลือ10บาท

ทว่าตอนนี้หุ้นที่ผมมองเป็น"วัชพืช"ทุกตัวกลายเป็น"ต้นไม้ใหญ่" ส่วนหุ้นที่SAPบางส่วนก็กลับมารับได้ที่ราคาต่ำกว่าตอนน้ำท่วม บางส่วนก็"Sell All Pigs"

2) pmในหัวข้อ"ผมBreak outไปเเล้ว" pmไปวันที่26/7/55

เพราะPortติดลบเยอะ...จนไม่กลัว กลายเป็น "กล้า" ไปเเล้วครับเหมือนนักมวยที่ได้กลิ่นคาวเลือด ตอนนี้Portผมยังกำไรรวมอยู่ราว200,000บาทเเต่ผมไม่คิดจะCut Lossขอกอดหุ้นที่มั่นใจเเละอยากเป็นเจ้าของเเล้วติดลบ สมศักดิ์ศรีกว่าCut Lossแล้วติดลบครับ

ส่วนหุ้นวัชพืชที่เคยหน้ามืดไปซื้อ ผมได้ถอนยวงทิ้งหมดเเล้ว...

จุดพลาดอีกอันของผมคือไปซื้ออิออนกะเก็งกำไรผลประกอบการเเละปันผล...ตอนนี้คงถือรอปันผลไปเลยยกเว้นSuper Stock(BGH, CPN, Advanc, Kbank, LPN, BCP, pttep)จะมีSuper discount

วันนี้ซัดXTCตามที่เคยบอกพี่ 10 บาท สำหรับXTCเป้าต่อไปรอที่ 7 บาทครับค่อยลุยอีก เหตุผลที่ซื้อXTCเพราะ......

ตอนนี้รอXe-EDที่8บาทครับ รับกลับไม้เเรก จะตั้งซื้อทิ้งไว้เเ-่งให้ทุกวัน

XTS ตอนนี้P/BV<1 เข้าเเน่นอนครับเเต่คงทยอยๆ

ส่วนXport-w3จะรอปล่อยทำกำไรที่1.5ถึง1.8ผมมั่นใจว่าได้เห็นเเน่นอนอย่างเร็ว พ.ค. 2012, เเต่ถ้ามีวิกฤติมากๆ ก็อาจจะต้องรอบอลโลกในอีก3ปีข้างหน้า

ปิดท้ายด้วย Xlowถ้าเชื่อคุณXXว่าEPSจะไปที่6บาท ราคาตอนนี้ForwardPEเเค่7เองน่าสนใจมากครับ ปัญหาอย่างเดียวคือผมไม่มีPasssionจะเป็นเจ้าของกิจการนี้

ผมเจ็บตัวจากหุ้นที่ตั้งใจจะ"เก็งกำไร"ทั้งนั้นครับ รู้จักหุ้นนั้นๆน้อยเกินไป บทเรียนที่ได้รับมาตอนนั้นคือต้อง"ลงทุน"กิจการ ไม่เก็งกำไร

ไล่หาตอนน้ำท่วมหนักตอนนั้นportติดลบ45%...เเต่ไม่pmบ่นกับใครเเฮะ คงด้้านชา555....

สำหรับวิกฤติรอบนี้
...จากpm พบว่าผมไม่บ่นอย่างรอบที่เเล้วเเถมยัง"กล้า"เเละมีความสุขมากขึ้นด้วยครับ เพราะอะไรเหรอครับเพราะผมเป็นเด็กวัดรู้จักการลงทุนเเบบVIมากขึ้น (ถึงเเม้ปัจจุบันยังเป็นมวยวัดที่ขนาดportยังระดับอนุบาลอยู่ก็ตาม) ถ้าเราลงทุนเเบบเข้าใจกิจการมากขึ้น เราก็จะถือทนขึ้นเเละมันสร้างผลตอบเเทนได้ดีกว่าสองปีเเรกที่ลงทุนเเบบ"งูๆปลาๆ"มากครับ

จุดเปลี่ยนสำคัญคือ
-การได้รู้จักพี่chaitornซึ่งพี่เค้าpmมาเตือนสติให้ลดความเป็นนัก"พนัน"ของผมเสมอเเละร่วมกันวิเคราะห์กองทุนอสังหากองหนึ่งเเละหุ้นตัวนึง...เเต่จริงเเล้วผมเหมือนไปเป็นนักเรียนให้พี่เค้าสอนมากกว่า
-การได้เข้าไปเเลกเปลี่ยนความรู้ในห้องที่สร้างสรรค์มากคือห้องSimat ได้คุยกับนักลงทุนเก่งคุณkabu, นักเเกะงบที่เมื่อมีคำถามก็ช่วยตอบเสมออย่างคุณLaziale, เเละท่านผถห.รายใหญ่ที่คอยหาข่าวคอยถามคำถามเเละคุยกับผบห.บริษัทคุณnattawut30 ผมยอมรับมามีความสุขมากเพราะทุกคนที่ว่าถือหุ้นเเบบเจ้าของกิจการจริงๆ
(อีกห้องที่ประทับใจเเละควรให้รางวัลคือGL...อาจมีห้องอื่นๆที่ดีกว่านี้เเต่ผมอาจไม่เคยอ่าน)

มาดูpmของรอบนี้ครับ....
3)รอบนี้มีรุ่นพี่เรียนจบที่เดียวกันอีกคนที่คอยฟังคำบ่นเเละให้กำลังใจผมประจำpmมาคุยกับผมใช้หัวข้อว่า"เเดงทั้งเเผ่นดิน" รับpmเมื่อ14/5/55

วันนี้ลงหนัก รับมือยังไงบ้างครับ ของผมไม่ได้ทำอะไรเลย ตัวที่ผลประกอบการดี บวกแรงวันแรก ๆ เจอแแบบนี้แทบจะกลับมาที่เดิม แต่ผมแทบไม่ได้ตามข่าวเลยว่าเพราะอะไร เห็นตปท.มันก็ไม่ได้ลบแรง

XX ที่ผมเคยบอกไปประกาศแล้วนะครับ กลับมามีกำไรแล้ว หุ้นกลับนิ่งซะนี่ แต่ปล่อยออกไปเยอะเหมือนกันตั้งแต่อาทิตย์ก่อนโน้น ใจจริงอยากถือรอผลประกอบการ รู้ว่าน่าจะดีแต่ก็ต้องขายทำใจยากจริง ๆ ครับ เหลือตัวหลัก ๆ อย่าง XXX วันนี้ลงหนักจริง ๆ เหมือนรู้ว่างบจะออกมาไม่ดียังไงยังงั้น แต่หุ้นตัวนี้ชอบลงแบบไม่ค่อยมีวอลุมก่อนหรือหลังออกงบประจำ

ผมตอบกลับไปว่า....(pmเมื่อวันที่14/5/55)

เมื่อวานผมเหลือเงินในPort ราวXxx,xxxบาท วันนี้ผมเอาไปตี.....เกือบหมดเลยครับ555

ตอนนี้เหลือเงินสดเเค่X0,000 ยังอยากได้Xripเพิ่มเเต่ตังค์หมดเเล้ว "xxx"มันยั่วผมมากกว่าเลยผิดเเผน ส่วนXmat ก็ตกกระจุย เเต่ทุนต่ำอยู่ที่ 1.99บาท เเผนคือคงใช้เงินที่เหลือชอปจนหมดเเล้วภาวนาครับ

กำไรสุทธิเดิมราวXXXบาทตอนน้องอ้อนวิ่ง ตอนนี้ลดมาเหลือเเค่XXXเเล้วครับ5555

ทำใจครับ ตอนนี้ทำงานเก็บตังค์อย่างเดียว ยังเหลือเงินสดอยู่ในเเบงค์เเละตั๋วB/E อีกเกือบ X00,000 บาท เเต่ต้องเร่งปั้มเงินให้อยู่ในคลังราว 1 MB ก่อนวิกฤติของจริง

รอบนี้ผมว่ายังไม่ใช่ เเค่ความกังวล...เเต่ของจริงมาเเน่ครับ เมื่อมีข่าวของSpainเเบบกรีซ
สู้ๆครับพี่เเล้วเราจะผ่านไป

ส่วนpmอื่นที่ตามมาที่คุยกับพี่คนนี้กลายเรื่องWatch listลองวิเคราะห์หุ้นในWatchlistเเลกกันคร่าวๆ ถ้าสนใจตรงกันค่อยลงลึกขึ้น...
ข้อสรุปง่ายๆสำหรับ"มวยวัด"อย่างผมคือการลงทุนเเบบVI ช่วยให้ผลตอบเเทนดีขึ้นเเละมีความสุขขึ้นจริงๆครับ โดยเราต้องเข้าใจกิจการให้มากที่สุดเเละลงทุนเเบบเป็นเจ้าของ มันทำให้"ใจ"เราสู้วิกฤติได้จริงๆครับ

[torpongpak]

ขอเเก้วันที่pmหัวข้อ
-"เจ็บหวะพี่" วันที่pm 23/9/2011
-"ผมBreak outไปเเล้วพี่" วันที่pm26/9/2011

[yoko]

pm อืมม ดีจริงๆครับ555 555

[torpongpak]

ใช่ครับpmเเละsmmนี่เเหละ555 ที่ตอนนั้นมองว่าเป็นหุน"วัชพืช"ในport ถ้าศึกษาดีกว่านี้รู้จักกิจการดีกว่านี้คงไม่มองเป็นหุ้นวัชพืชหรอกครับ 555
สำหรับpmผมซื้อที่2.46 cut lossตอนBlack Monday ตอนนี้เป็นไงหละครับ...555

พี่yokoกำไรเต็มอิ่มเลยซิครับ

[xavi]

คล้ายกันเลยครับ ผมก็ไม่ถือหุ้น 100%
แล้วก็ใจไม่แข็งพอทนถือหุ้นที่เราว่ามันดีแล้วไม่ได้ตอนตลาดตกเยอะๆ
ท้ายสุดหลายๆตัวราคามันก็กลับขึ้นมาอยู่ดี บางตัวกลับมาซื้อราคาเดิมไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

รอบนี้จะใจเย็นๆครับ ถ้าพื้นฐานดี มั่นใจ ไม่ขาย
แล้วจะรอซื้อเพิ่มถ้าได้ MOS ที่คำนวณด้วย

[torpongpak]

ได้ประจานความโง่ของตนเองช่วง"ปลั๊กหลุด"ไปเเล้ว(ก่อนPostก็คิดอยู่นานถึงขั้นลองSensorชื่อหุ้น เเต่มันอ่านเเล้วไม่ได้อารมณ์ครับ)...อย่างไรต้องขอโทษ จขกท. ล่วงหน้าด้วยนะครับ

รอบนี้ผมขอเสนอวิธีการกันสติเเตกกรณี"ขาขึ้น(ไปก่ายหน้าฝาก)"...สำหรับผมคือต้องจัดการ"อารมณ์"ตัวเองให้ได้

การจัดการกับอารมณ์ที่ดีที่สุดคือ
1) ต้องรู้จักกิจการนั้นจริงๆ ถ้าให้ดีต้องรู้จักเหมือนเป็นเจ้าของ...พอหุ้นตกถ้ากิจการยังดีอยู่ เราก็ไม่ต้องกลัว เเถมสร้างความ"กล้า"ในการซื้อเพิ่มอีก
2) ควรจะมีราคาเป้าหมายในอนาคต ที่ชัดเจน
3) ต้อง"สมดุล"ในอารมณ์ของตัวเอง...คือในPortต้องมี หุ้น+เงินสด เสมอ ขาดอันใดอันหนึ่งไม่ได้ สองอย่างนี้ต้องสมดุลในระดับที่เราสบายใจ บางคนบอกต้องมีเงินสดอย่างน้อย 10% ไว้ในportเสมอๆ บางคนบอก 20% เเล้วเเต่ชอบครับ เงินสดทำให้เราขยับตัว"ซื้อเพิ่ม"ได้ง่ายขึ้นเมื่อมีวิกฤติ

ณ วินาทีนี้ผมยังคุมอารมณ์ได้ดีครับ เเต่ถ้ายังเป็น"เด็กวัด"เเบบนี้อยู่เมื่อเจอSubprime(ซึ่งผมเข้ามาไม่ทัน)เพื่อนมันบอกว่าเจอCircuite Breaker 2 รอบใน 1 วันก็มี...ผมยอมรับครับว่าไม่ทราบเหมือนกันว่าจะคุม"อารมณ์"ได้หรือไม่
ถึงตอนนั้นผมจะมาเเจ้งให้ทราบอีกทีครับ

ส่วนสิ่งที่ต้องทำในภาวะเเบบนี้คือ
1) เก็บหรือหาเงินสดเยอะขึ้นเพื่อตุนกระสุนรอ
2) เร่งขยายCicle of competence ไม่เเน่ความรู้ที่เรามีมากขึ้นอาจสร้างผลตอบเเทนให้กับเราอย่างมากก็ได้

สู้ๆครับเเล้วมันจะผ่านไป....

[romee]

แฮ่ๆ รอบนี้พอร์ตผมก็ร่วงตามเซ็ทนั้นแหละครับ
ส่วนรอบซัพไพร์มรอบก่อน ที่รอดมาได้คือมือใหม่ครับ แล้วก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็กัดฟันตัดใจขายcut lossบางตัว บางตัวก็แช่ไปงั้นเพราะเห็นว่าธุรกิจมันยังดีอยู่ (จริงๆไม่รู้จะทำไงมากกว่า5555) แล้วก็ไม่ได้เดินหนีจากตลาดนั้นแหละครับ เอาเงินเติมไปเรื่อยๆ

เพียงแต่รอบนี้วิกฤตกรีซ ว่าถ้ามันมาจนทำให้ตลาดร่วงหนักๆ ผมก็เคยคิดเหมือนกันว่าจะทำไงดี

เท่าที่สังเกต ทุกปี มันจะมีร่วงแรงๆ10% UP ทุกทีแหละฮ่ะ

ปล.1 ไอ้เรื่องเทคนิคจะถือหุ้น100% หรือจะฟันโฟลว จะเทคนิค หรือจะคลายเครียดเรโช DSM ผมว่ามันก็ดีหมดนะ ถ้าใช้เป็นจนถึงแก่น

แต่ถ้า"ไม่พอใจ" อยากได้มากกว่านั้น ก็ต้องเรียนรู้มากขึ้น แล้วยอมเปลี่ยนวิธีอ่ะคับ

[nut776]

ตอนซับไพร์ม ติดหญิงคับ
ไม่ได้ดู สนใจหุ้นอะไรเลย
ที่ลบก็ปล่อย ไม่ซื้อไม่ขาย
ทั้งๆที่ตอนนั้นมีเงินในหุ้นแค่30%
แต่ตู้ว่าลบตัวแดงเกิน50%

พอเวลาผ่านไป ถ้ามันไม่ใช่หุ้นที่แย่จริง ก็กลับมา และกลับมาเยอะกว่าเดิม
น่าจะทุกตัวนะ ถ้าจำไม่ผิด
ก็คือ อดรวย ขาดทุนเวลา
แต่ไม่เจ๊ง

สรุป พลาดไปแล้ว ก็ช่างมัน อย่าไปถัว เก็บเงินไว้รอจังหวะดีๆ
ของเก่าก็ทำเป็นมองไม่เก็นมันไปซะ นานๆไปค่อยมาเปิดดู
จากประสพการณ์จริงของผมนะ

[charonp]

ถามว่าเครียดมั้ย ผมก็นิดหน่อยนะครับ เกร็งๆเหมือนกัน

ตอนแรกก็ไม่ได้หวังมากแค่ซัก 15 เปอร์เซ็นต์ในปีแรกที่ลงทุน พอตอนต้นปี มันดันขึ้นดีครับ

ไอ้เราได้ใจ เลยเติมเงินไปอีกเท่าตัวนึง แต่ไม่ได้ซื้อตัวเดิม ซื้อได้สองวันพี่กรีซมาเลย ฮ่าา

กลายเป็นขาดทุนตัวใหม่ที่ซื้อ ตัวเก่าก็กำไรลดลง โชคยังดีที่ยังเหลือกำไรอยู่

ตอนนี้ก็เลยอยู่ในช่วงมึนๆ คิดไรไม่ออก

คนเราพอคิดไรไม่ออกมักปล่อยมันผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่ทำอะไร แต่ถ้าทำแบบนี้กับตลาดหุ้นผมว่าไม่ค่อยปลอดภัยนัก

แต่มันก็มีอยู่สามทาง คือ ถือไปเรื่อย ๆ , ขาย , ซื้อเพิ่ม

เอาไงล่ะทีนี้ สงสัยต้องหาแผนรับรอง กับปรึกษาผู้รู้หลาย ๆ ท่านแล้วล่ะครับ

[tum_H]

เมื่อก่อน ผมยังคงหาแบบในการลงทุนฉบับของตัวเองไม่เจอ เพราะมักมีความคาดหวังในแบบของคนอื่นที่ไม่ใช่แนวทางของตนเอง จนวิกฤต 2-3 รอบที่ผ่านมานี้ ทำให้ผมเข้าใจตัวเองมากขึ้น ว่ารูปแบบการลงทุนแบบไหนที่เหมาะสมกับผมที่สุด ระยะเวลาการลงทุนตลอด 7 ปีที่ผ่านถึงแม้จะไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ก็เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากที่สุด เพราะมันคือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้และค้นหารูปแบบการลงทุนในแบบฉบับของตน ซึ่งตอนนี้ผมก็หาแบบการลงทุนที่เหมาะสมและมีความสุข ในรูปแบบฉบับของตน

ไม่เสียใจ เมื่อต้องสูญเสียโอกาส เพราะโอกาสยังมีเข้ามาเสมอ สำหรับคนที่ค้นหามัน
ไม่ยึดติด เมื่อผิดพลาดให้รีบแก้ไข อย่าจมอยู่กับเรื่องในอดีต จงทิ้งมันไว้แล้วมุ่งหน้าต่อไป
ไม่ผิดวินัย เมื่อตั้งกฎใดๆในการลงทุนขึ้นมาแล้ว จงลงมือทำและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ผมเองไม่ใช่ VI เต็มร้อย แต่ผมก็ผสมหลักการในการลงทุนจนได้ส่วนผสมที่ลงตัวกับแนวของตน
ผลตอบแทนการลงทุนของผมไม่ได้มากมายอย่างหลายๆคน แต่ผมก็พอใจที่ผมทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้
การลงทุนไม่ใช่เป้าหมายสุดท้ายของผม แต่ผมต้องใช้มันเพื่อให้ได้อิสรภาพ จนกว่ามันจะพาผมไปจนถึงจุดหมายสุดท้ายที่วางไว้ของชีวิต เพราะผมรู้แล้วว่า การลงทุนสำหรับผมนั้นคือเรือลำน้อย ที่ช่วยให้เราข้ามไปถึงฝั่งฝันของชีวิต ในที่สุดครับ

[torpongpak]

เวลาผมทำ"พลาด" ผมจะเซ็งตอนเเรกๆเช่นกันครับ....

เเต่หลังจากนั้น ก็จะดีขึ้น เพราะคติประจำที่ผมนำมาใช้ทั้งชีวิตเเละการลงทุนคือ...

"อะไรเกิดขึ้นเเล้ว ย่อมดีเเละเหมาะสมกับเราที่สุด"

นอกจากนี้การพยายามมองโลกในเเง่ดีเเละการบำบัดตนเองด้วยการ"เขียนบ่น"ก็ช่วยได้เยอะ

-ถ้าเจอหุ้นตกหนักๆเเล้วมา"เขียนบ่น"ให้อ่านในห้องร้อยคนร้อยหุ้น...เมื่อก่อนผมรำคาญเเต่ตอนนี้ผมจะไม่ว่าเค้าเลยครับเพราะมันช่วยได้จริงๆเหมือนการระบาย(Vemtilation) ที่สำคัญถ้ามีพี่ในห้องเห็นใจเเละช่วยเสนอความเห็นดีๆทุกอย่างจะดีขึ้น
-ส่วนการมองโลกเเง่ดีเช่น
"การขายหมู" ผมมองว่าเป็นกลไกที่สร้างความสุขในตลาดทุนนะครับ...เป็น"การเเบ่งกันรวย" ทำบุญกระจายรายได้ ผมยังเคยคิดเล่นๆว่าถ้าตลาทุนมีนโยบายForce sellถ้าใครที่ถือหุ้นได้กำไรเกิน80%ก็คงดีนะครับ เพราะถ้าหุ้นตัวนั้นวึ้นต่อไปอีกหลายเด้งก็จะมีคนที่มีเงินมากขึ้นมากมาย
กรณีลงทุนเเล้ว"ขาดทุน"มากๆ ผมมองว่าเป็น"การเสียทรัพย์" ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีเปรียบเหมือนการสะเดาะห์เคราะห์
ดีกว่าเราไป"เสียทรัพย์"จากเหตุการณ์อื่นเช่นอุบัติเหตุต่างๆ
(เเต่ถ้าคุณลงทุนเเบบVIจริงๆ ผมเชื่อว่า"การมองโลกในเเง่ดี"คงเกิดขึ้นไม่บ่อย)

[multipleceilings]

ดูสถานการณ์เป็นหลักจะดีกว่าไปดูว่าดัชนีลงกี่จุด

[chukieat30]

ถ้าน้ำจะท่วม เราจะรอในบ้านจนน้ำถึงคอ หรือ จะใช้สติ ซื้อเรือยาง อาหารแห้ง

และเตรียมของจำเป็นไว้

แน่นอน ขณะที่น้ำยังไม่ท่วม การซื้อพวกนี้ไว้ คนย่อมหัวเราะ เพราะจะ แปลก กว่าคนอื่น

ต้นไม้สีเขียวบนดินที่แดง

น้ำท่วม ของบางอย่างก้ขายดี ไม่จำเป็นว่าน้ำท่วมจะเป็นวิกฤติ

บางที ในน้ำท่วมก้มีโอกาศครับ หุ้นบางตัวก้จะขึ้น ในวันที่หุ้นหลายตัวลง

หน้าที่ของเราคือ แยกให้ออก อันไหนดอกไม้หรือวัชพืช

บนดินที่แดง ก้ย่อมจะมีพืชบางชนิดอยู่ได้ เช่น ตะบองเพชรในทะเลทราย

ขณะที่พืช ไม่ทนแล้ง ก้ต้องล้มหายไป

[chukieat30]

หน้าที่ของเราคือ

1.ใช้สติ และสตางค์ในการ เลือกหุ้นที่ดี เมื่อราคาลงมา

2.ของดีต้องซื้อ เมื่อ ราคาแบกะดิน ถ้าคุณชอบ ของงานลดราคาแกรนเซลล์

แสดงว่า คุณเป็น นักลงทุนที่เน้นคุณค่า

3.วัชพืช หรือดอกไม้ ขึ้นกับว่า ช่วงเวลานั้น ตลาดให้เค้าเป็นดอกไม้หรือวัชพืช

4.เราอาจจะไม่ได้ซื้อ หุ้นราคาถูกที่สุด แน่นอน เราก้อาจจะไม่ได้ขายที่ราคาแพงที่สุด

ดังนั้น เมื่อเรามั่นใจ ก้ อย่าขายหมูไปซื้อควาย

เพราะ หมูที่ดูเหมือนควาย ในวันนี้ วันหน้าอาจจะเป็น หมูทองคำ

5.ตลาดหุ้นไม่ได้เปิดวันเดียว ปีเดียว ดังนั้น 1.อย่าขาดทุนให้ตลาดหุ้น 2.ย้อนไปดูข้อ1

ค่อยๆพิจารณา ถ้าคิดว่าแพ้ ถอย ถ้าคิดว่าดีก้รับเพิ่ม

6.คำว่า วิกฤติ =ภัย+โอกาศ เลือกหยิบแต่โอกาศ และระวังภัย

วิกฤติมีหลายแบบ เราต้องเข้าใจ ถ้าบ้านเราพัง ของในบ้านเราย่อมไม่ดี

แต่ถ้าบ้านเราไม่พัง การทิ้งหุ้น domestic play ในราคาแบกะดิน

แสดงว่า เรายังไม่เข้าใจว่า อะไร คือ โอกาศ

[dr1]

เวลาเดินเข้าไปขอรีผอรท
มักถามว่า
ไหนดูซิ อิ๊บอ๋ายไปเท่าไหร่แหล่ว

พอเห็นออกมาแดงเถือก
ก็บอกมาร์ว่า
โอ้ว. ไทยแลนด์แกรนด์เซล
ซื้อเพิ่มดีก่า

ไม่นึกว่าผอรทเราจะ"เป๊ะ" ขนาดนี้

"เละตุ้มเป๊ะ" นะจ๊ะ
ไม่ใช่เป๊ะเชะเด๊ะ
555+

หรือจะเชื่อ
Sale and go away in may?