รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 1
เนื่องจาก
-หลายๆคนไม่อยากเข้าไปโพสต์ในหุ้นรายตัว
-หลายๆคนมีความรู้ มีบทความที่ดีมีประโยชน์ ในวงการไอที หาที่ลงไม่ได้
-ข่าวสาร นวัตกรรม ใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่ ไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นรายตัว
เอามารวมไว้ที่นี่ดีไหม
-หลายๆคนไม่อยากเข้าไปโพสต์ในหุ้นรายตัว
-หลายๆคนมีความรู้ มีบทความที่ดีมีประโยชน์ ในวงการไอที หาที่ลงไม่ได้
-ข่าวสาร นวัตกรรม ใหม่ๆ การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี่ ไม่เกี่ยวข้องกับหุ้นรายตัว
เอามารวมไว้ที่นี่ดีไหม
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 2
เชิญคุณ Ii'8N ทางนี้เลยนะครับ
Ii'8N Post subject: ระหว่าง ขุดหุ้น กับ ลอกหุ้น อันไหน รวยระยะยาว กว่ากัน Posted: Mon Jul 30, 2012 12:11 pm เขียน: นอกจากที่ที่ผ่านมา เอกลักษณ์ของ TVI คือมีการจัดหมวดหมู่เป็นตามชื่อหุ้น ห้องร้อยคนร้อยหุ้น
จะดีไหม เห็นความเห็นคุณ CONNICHIWA เลยคิดไปว่า ถ้าเราจะมีห้องถามตอบ หรือแพร่ความรู้เป็น sector ที่ไม่เกี่ยวกับหุ้นเลยก็ได้ เพื่อคนวิเคราะห์หุ้นจะได้มีความรู้เพิ่มเติมขยาย circle of competency ของตัวเองออกไป โดยมีเพื่อนที่มีความรู้เฉพาะด้าน แม้ไม่อยากลงทุน แต่ก็ช่วยให้ความรู้เป็นการแลกเปลี่ยน แล้วเราจะได้แหล่งรวมความรู้อีกชุดหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครและตรงประเด็นกับการลงทุน VI
อย่างผมตอนนี้ไม่มีหุ้น ICT ใน port เลย แต่ถ้ามีห้องขึ้นมา ตอนว่างยินดีจะไปช่วยตอบในหมวด Technology แต่ถ้าจะให้ตระเวณไปดูครบห้องหุ้น ICT ทั้งหมดคงไม่ไหว
เพราะความรู้บางอย่าง หาได้จาก net ก็จริง แต่บางทีเป็นทฤษฎีแบบกว้างเป็นแม้น้ำ คนที่เพิ่งเริ่มจะไม่รู้จะเจาะลงไปจุดไหน คนที่ทำงานคลุกคลีในวงการนั้นจะให้ข้อมูลที่ตรงประเด็นกว่า
และหลา่ยครั้ง ยิ่งกว่้านั้น ในตำราก็ไม่มีเขียน อย่างเช่น ที่บอกเครื่องมือแพทย์ ให้คนภายนอกประเมิน ก็ต้องคิดว่าโอกาสดี กำไรงามโดยไม่รู้จริงว่าเป็นงานหินที่ต้องมีอะไรซับศ้อนในการขาย หรืองานก่อสร้าง ต้องจ่ายเงินค่างวดอย่างไร ตรวจรับงานแล้วค่อยรับเงิน แบบนั้นเป็นต้น
ถ้า่ไม่รู้จะจัดกลุ่มยังไง ก็ง่ายๆ เอาแบบตามของตลท. เลย ระยะแรก อาจเอากลุ่มก่อน อนาคตค่อยซอยเป็นหมวดย่อยๆ
อย่างแพทย์ของคุณหมอเค ปัจจุบันอยู่ใน กลุ่ม SERVICE หมวด HELTH (Service/Health Care)
ก่อสร้างของคุณ CONNICHIWA ก็ PROPCON/PROP ชื่อคล้ายป๊อปคอร์น แต่คุ้นๆ ว่าชื่อเต็มๆ เป็น properties & construction
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 3
Apple Set for New iPhone Announcement in September
Published on: 31st Jul 2012
Apple is set to show off the next model in its iPhone family on the 12th September, according to multiple news reports, citing people familiar with the matter.
Speculation that an iPhone 5, or maybe a newer New iPhone would be launched this year has been growing recently, especially as many expected upgrades were not offered in the current model.
The new model is expected to come with a larger screen and thinner body, and probably work on the LTE networks being deployed in the USA. Whether it will work on overseas LTE networks is unclear, but the company did have difficulties with 4G claims for its iPad which turned out not be compatible with global LTE networks.
Suggestions that Apple is preparing to launch something though came in the most recent quarterly financial results which showed a rise in pre-orders for components.
Considering the rumoured problems that a redesigned model was having last year, leading to the lackluster new iPhone with minimal changes, it is thought that the forthcoming model will be the last that Steve Jobs personally worked on before his death.
http://www.cellular-news.com/story/55638.php?s=h
Published on: 31st Jul 2012
Apple is set to show off the next model in its iPhone family on the 12th September, according to multiple news reports, citing people familiar with the matter.
Speculation that an iPhone 5, or maybe a newer New iPhone would be launched this year has been growing recently, especially as many expected upgrades were not offered in the current model.
The new model is expected to come with a larger screen and thinner body, and probably work on the LTE networks being deployed in the USA. Whether it will work on overseas LTE networks is unclear, but the company did have difficulties with 4G claims for its iPad which turned out not be compatible with global LTE networks.
Suggestions that Apple is preparing to launch something though came in the most recent quarterly financial results which showed a rise in pre-orders for components.
Considering the rumoured problems that a redesigned model was having last year, leading to the lackluster new iPhone with minimal changes, it is thought that the forthcoming model will be the last that Steve Jobs personally worked on before his death.
http://www.cellular-news.com/story/55638.php?s=h
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 4
เทคโนโลยี 4 จี ไม่บูมอย่างที่คิด
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ไอที-นวัตกรรม : เทคโนโลยี
วันที่ 27 กรกฎาคม 2555 13:00
บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด่วนข้อมูลโอด "เทคโนโลยี 4 จี" ไม่ช่วยเพิ่มรายได้ เหตุคู่แข่งจีนตัดราคา
หากดูจากจำนวนการจราจรบนเครือข่ายโทรคมนาคมที่คับคั่งจากการที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดวีดิโอ และท่องอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมพกพา ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของบริการ 4 จี อย่าง อัลคาเทล-ลูเซ่น และโนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์คส ควรจะเฟื่องฟู
หรือถ้าจะเปรียบเทียบในอีกแง่มุมหนึ่ง คือ ขณะที่ผู้ถือหุ้นของแอ๊ปเปิ้ลมั่งคั่งขึ้น จากการปฏิวัติการสื่อสารที่ได้รับแรงผลักดันจากสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แทบเล็ต แต่บริษัทผู้ผลิตโครงสร้างพื้นฐานของทางด่วนข้อมูลกลับมีรายได้ถดถอยลง
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์อัพเกรดเป็นเครือข่าย 4 จี ซึ่งมีความเร็วสูง สามารถรองรับการส่งข้อมูลได้มากกว่า และที่สำคัญ ออกแบบมาเพื่อการเข้าชมวีดิโอ และดึงข้อมูลมาใช้โดยเฉพาะ แต่ตลาดอุปกรณ์โดยรวมอาจหดตัว หากผู้ให้บริการการพากันตัดงบสำหรับอัพเกรดเครือข่าย 2 จี และ 3 จี ที่ออกแบบมาเพื่อการจราจรเสียงเป็นหลัก
คำพูดที่เหมือนขัดแย้งกันของภาคอุตสาหกรรมอุปกรณ์โทรคมนาคมทำให้ผู้ถือหุ้นเกิดความไม่แน่ใจ และอาจบีบให้ต้องกำจัดผู้เล่นระดับโลกบางบริษัทออกไป โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 5 บริษัท
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ได้รับผลกระทบบางส่วนจากคู่แข่งต้นทุนต่ำสัญชาติจีน ทั้งหัวเหว่ย และแซททีอี เพราะเทคโนโลยี 4 จี มีส่วนในการกำหนดราคา และสร้างความลำบากแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่ดิ้นรนต่อรองกับซัพพลายเออร์ผู้นำตลาด อย่าง อีริคสัน
"ยอดขาย 4 จี ของอีริคสัน จะโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับยอดขายจีเอสเอ็มและ 3 จี ที่จะตกลงมากกว่าสัดส่วนการเติบโตของ 4 จี" มาร์ติน นิลสัน นักวิเคราะห์ของ แฮนเดลส์บานเกน กล่าว
แฮนเดลส์บานเกน ประเมินว่า ยอดรวมการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์เครือข่าย 2 จี 3 จี และ 4 จี จะลดลงเหลือ 45,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2563 ลดลงจากปี 2554 ซึ่งมียอดใช้จ่ายทั้งสิ้น 59,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ 4 จี จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%
ข้อมูลของ อีริคสัน ระบุว่า บริการข้อมูลแซงหน้าบริการเสียงเมื่อช่วงต้นปี 2552 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15 เท่า จากระดับการใช้งานในปัจจุบันภายในปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดใช้งานสมาร์ทโฟนพุ่งสูง จากปัจจุบันที่มีเพียงแค่ 700 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านคน
บริษัทเอ็กซ์ซาน บีเอ็นพี พาริบาส เสนอว่า เพื่อแก้ปัญหา ผู้ให้บริการต้องใช้จ่าย 15,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่ออัพเกรดเครือข่ายให้พร้อมเปิดใช้บริการ 4 จี และ 26,000 ล้านดอลลาร์ในปีต่อไป
การแข่งขันของผู้ผลิตสัญชาติจีนด้วยการตัดราคา ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้กดให้ราคาลดลง 10-15% ต่อปี ส่งกระทบกับอัตราการขยายตัวในแง่ปริมาณและกำไรของผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม
อย่างไรก็ดี ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายอุปกรณ์พกพาแทบจะไม่ได้ใหญ่กว่าปี 2543 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 55,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าผู้ใช้มือถือ และอินเทอร์เน็ตพกพาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ตลาดไม่ได้โตขึ้นเลยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการใช้งานข้อมูลและวีดิโอเพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ดี สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้ เหมือนกับช่วงผลัดเปลี่ยนจาก 2 จี เป็น 3 จี" นิลสันกล่าว
ปี 2552 เทเลียโซเนรา ผู้ให้บริการในนอร์เวย์ เป็นเจ้าแรกของโลกที่เปิดให้บริการ 4 จี ในเชิงพาณิชย์ หลังจากนั้น ผู้ให้บริการในสวีเดน 2 ใน 3 ก็เปิดให้บริการ 4 จี ในบ้านของตัวเอง เช่นเดียวกับเดนมาร์ก ที่ผู้ให้บริการ 3 ใน 4 เปิดให้บริการไปเรียบร้อยแล้ว
"บริการ 4 จี เกิดขึ้นในงบที่มีอยู่" ฮาคาน ดาห์ลสตรอม ประธานกลุ่มธุรกิจ โมบิลิตี้ เซอร์วิส ของเทเลียโซเนรา กล่าว
แม้ เทเลียโซเนรา คาดว่า การใช้บริการข้อมูลจะพุ่งสูงขึ้น แต่ ดาห์ลสตรอม กล่าวว่า บริษัทไม่มีนโยบายเพิ่มงบลงทุนด้านโครงสร้าง
ขณะที่อีกฟากนอกเขตสแกนดินีเวีย ผู้ให้บริการในอเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เปิดให้บริการ 4 จี แต่ อีริคสัน ประมาณว่า ในปี 2554 มีประชากรโลกเพียง 5% เท่านั้นที่เข้าถึงเครือข่าย 4 จี
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะอัพเกรดจาก 3 จี เป็น 4 จี มากขึ้น หรือเปิดให้บริการในเขตเมือง และแผนการใช้จ่ายอาจล่าช้าออกไปหากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ไอที-นวัตกรรม : เทคโนโลยี
วันที่ 27 กรกฎาคม 2555 13:00
บริษัทพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด่วนข้อมูลโอด "เทคโนโลยี 4 จี" ไม่ช่วยเพิ่มรายได้ เหตุคู่แข่งจีนตัดราคา
หากดูจากจำนวนการจราจรบนเครือข่ายโทรคมนาคมที่คับคั่งจากการที่ผู้ใช้ดาวน์โหลดวีดิโอ และท่องอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ ผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมพกพา ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของบริการ 4 จี อย่าง อัลคาเทล-ลูเซ่น และโนเกียซีเมนส์เน็ตเวิร์คส ควรจะเฟื่องฟู
หรือถ้าจะเปรียบเทียบในอีกแง่มุมหนึ่ง คือ ขณะที่ผู้ถือหุ้นของแอ๊ปเปิ้ลมั่งคั่งขึ้น จากการปฏิวัติการสื่อสารที่ได้รับแรงผลักดันจากสมาร์ทโฟนและคอมพิวเตอร์แทบเล็ต แต่บริษัทผู้ผลิตโครงสร้างพื้นฐานของทางด่วนข้อมูลกลับมีรายได้ถดถอยลง
ผู้ให้บริการโทรคมนาคมต้องใช้เงินหลายพันล้านดอลลาร์อัพเกรดเป็นเครือข่าย 4 จี ซึ่งมีความเร็วสูง สามารถรองรับการส่งข้อมูลได้มากกว่า และที่สำคัญ ออกแบบมาเพื่อการเข้าชมวีดิโอ และดึงข้อมูลมาใช้โดยเฉพาะ แต่ตลาดอุปกรณ์โดยรวมอาจหดตัว หากผู้ให้บริการการพากันตัดงบสำหรับอัพเกรดเครือข่าย 2 จี และ 3 จี ที่ออกแบบมาเพื่อการจราจรเสียงเป็นหลัก
คำพูดที่เหมือนขัดแย้งกันของภาคอุตสาหกรรมอุปกรณ์โทรคมนาคมทำให้ผู้ถือหุ้นเกิดความไม่แน่ใจ และอาจบีบให้ต้องกำจัดผู้เล่นระดับโลกบางบริษัทออกไป โดยในปัจจุบันมีทั้งหมด 5 บริษัท
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ได้รับผลกระทบบางส่วนจากคู่แข่งต้นทุนต่ำสัญชาติจีน ทั้งหัวเหว่ย และแซททีอี เพราะเทคโนโลยี 4 จี มีส่วนในการกำหนดราคา และสร้างความลำบากแก่ผู้ให้บริการโทรคมนาคม ที่ดิ้นรนต่อรองกับซัพพลายเออร์ผู้นำตลาด อย่าง อีริคสัน
"ยอดขาย 4 จี ของอีริคสัน จะโตอย่างต่อเนื่อง สวนทางกับยอดขายจีเอสเอ็มและ 3 จี ที่จะตกลงมากกว่าสัดส่วนการเติบโตของ 4 จี" มาร์ติน นิลสัน นักวิเคราะห์ของ แฮนเดลส์บานเกน กล่าว
แฮนเดลส์บานเกน ประเมินว่า ยอดรวมการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์เครือข่าย 2 จี 3 จี และ 4 จี จะลดลงเหลือ 45,000 ล้านดอลลาร์ต่อปีภายในปี 2563 ลดลงจากปี 2554 ซึ่งมียอดใช้จ่ายทั้งสิ้น 59,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าการใช้จ่ายเพื่อซื้ออุปกรณ์ 4 จี จะเพิ่มขึ้นมากกว่า 50%
ข้อมูลของ อีริคสัน ระบุว่า บริการข้อมูลแซงหน้าบริการเสียงเมื่อช่วงต้นปี 2552 และคาดว่าจะเพิ่มขึ้น 15 เท่า จากระดับการใช้งานในปัจจุบันภายในปี 2560 ซึ่งเป็นช่วงที่ยอดใช้งานสมาร์ทโฟนพุ่งสูง จากปัจจุบันที่มีเพียงแค่ 700 ล้านคน จะเพิ่มเป็น 3,000 ล้านคน
บริษัทเอ็กซ์ซาน บีเอ็นพี พาริบาส เสนอว่า เพื่อแก้ปัญหา ผู้ให้บริการต้องใช้จ่าย 15,000 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ เพื่ออัพเกรดเครือข่ายให้พร้อมเปิดใช้บริการ 4 จี และ 26,000 ล้านดอลลาร์ในปีต่อไป
การแข่งขันของผู้ผลิตสัญชาติจีนด้วยการตัดราคา ประกอบกับความก้าวหน้าของเทคโนโลยีได้กดให้ราคาลดลง 10-15% ต่อปี ส่งกระทบกับอัตราการขยายตัวในแง่ปริมาณและกำไรของผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคม
อย่างไรก็ดี ตลาดโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายอุปกรณ์พกพาแทบจะไม่ได้ใหญ่กว่าปี 2543 ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 55,000 ล้านดอลลาร์ แม้ว่าผู้ใช้มือถือ และอินเทอร์เน็ตพกพาจะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ยอดขายสมาร์ทโฟนพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
"ตลาดไม่ได้โตขึ้นเลยในช่วง 12 ปีที่ผ่านมา แม้จะมีการใช้งานข้อมูลและวีดิโอเพิ่มสูงขึ้นตลอดช่วงเวลาดังกล่าว อย่างไรก็ดี สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นตอนนี้ เหมือนกับช่วงผลัดเปลี่ยนจาก 2 จี เป็น 3 จี" นิลสันกล่าว
ปี 2552 เทเลียโซเนรา ผู้ให้บริการในนอร์เวย์ เป็นเจ้าแรกของโลกที่เปิดให้บริการ 4 จี ในเชิงพาณิชย์ หลังจากนั้น ผู้ให้บริการในสวีเดน 2 ใน 3 ก็เปิดให้บริการ 4 จี ในบ้านของตัวเอง เช่นเดียวกับเดนมาร์ก ที่ผู้ให้บริการ 3 ใน 4 เปิดให้บริการไปเรียบร้อยแล้ว
"บริการ 4 จี เกิดขึ้นในงบที่มีอยู่" ฮาคาน ดาห์ลสตรอม ประธานกลุ่มธุรกิจ โมบิลิตี้ เซอร์วิส ของเทเลียโซเนรา กล่าว
แม้ เทเลียโซเนรา คาดว่า การใช้บริการข้อมูลจะพุ่งสูงขึ้น แต่ ดาห์ลสตรอม กล่าวว่า บริษัทไม่มีนโยบายเพิ่มงบลงทุนด้านโครงสร้าง
ขณะที่อีกฟากนอกเขตสแกนดินีเวีย ผู้ให้บริการในอเมริกาเหนือ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ เป็นกลุ่มแรกๆ ที่เปิดให้บริการ 4 จี แต่ อีริคสัน ประมาณว่า ในปี 2554 มีประชากรโลกเพียง 5% เท่านั้นที่เข้าถึงเครือข่าย 4 จี
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการจำนวนมากมีแนวโน้มที่จะอัพเกรดจาก 3 จี เป็น 4 จี มากขึ้น หรือเปิดให้บริการในเขตเมือง และแผนการใช้จ่ายอาจล่าช้าออกไปหากภาวะเศรษฐกิจยังไม่ดีขึ้น
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 6
เดิมที ความหมายผม ไม่ได้หมาถึงการฝากข่าว แต่หมายถึงทำนองสมมติมีข้อข้องใจเรื่องแพทย์ ใน ThaiVI นี่ มีแพทย์ตรึม ถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรบางจุดเกี่ยวกับวงการแพทย์ เพราะอาจจะกำลังจะตัดสินใจ เอาเงินไปฝากลงทุนไว้กับโรงหมอทั้งหลาย แล้วรู้สึกตัน มีบางจุดจะประเมินแล้วมืดสิบด้าน เรื่องที่เป็น generic ไม่ต้องเกี่ยวกับหุ้นก็ได้ เพราะอาจจะยังไม่ได้ลงไปหุ้นใดหุ้นหนึ่ง โรง'บาลใดซักแห่ง ก็เข้าไปถามห้องเฉพาะอะไรแบบนั้น
แต่รวมแบบนี้ก็ได้ครับ ว่างๆ ผมจะข่าวมาลงด้วย
และใครมีข้อข้องใจวงการสื่อสาร ผมช่วยตอบได้ เพราะผมทำงานในแวดวงนี้มาเกือบ 20 ปี อาจมีเพื่อนๆ ท่านอื่นที่อยู่ในห้องนี้มีความรู้ ก็มาช่วยกันขียนต่อยอดด้วยก็ได้ เพราะผมก็ไม่ได้หมายความว่ารู้หมดทุกเรื่อง เชี่ยวชาญมากก็สิ่งที่ตัวเองทำอยู่ โลกยังมีสิ่งที่ต้องเรียนู้อยู่เรื่อยๆ เทคโนโลยีมีการพัฒนาเรื่อยๆ อย่างคุณโดมว่า
ผมไม่ได้เสียสละฟรีๆ อะไรเลยนะครับ อย่างที่บอกข้างบน เผื่อผมสงสัยในแวดวงอื่น ที่เพื่อนท่านอื่นเชี่ยวชาญอยากให้มีห้องใน sector อื่นด้วย
เพราะผม หรือคนอ่านอื่นๆ จะได้กำไรก็ได้
จึงเป็นที่มา อย่างที่เรียกกันว่าเชิญชวนกัน "แชร์" หรือ "แลกเปลี่ยน" (แบบ "แบ่งปัน") กัน เอาข้อมูลมารวมๆกัน เกิดพลังและเป็นระบบกว่ากระจัดกระจาย แล้วเมื่อช่วยกันต่อยอด ต่างคนต่างได้กำไร เป็น positive sum game ได้กำไรที่ว่า.... เขียน 1 เรื่อง อ่านของเพื่อนท่านอื่น 10 เรื่อง 10 ท่านที่เขียน เป็นการลงทุนที่ได้คุ้มเกินคุ้ม
แต่รวมแบบนี้ก็ได้ครับ ว่างๆ ผมจะข่าวมาลงด้วย
และใครมีข้อข้องใจวงการสื่อสาร ผมช่วยตอบได้ เพราะผมทำงานในแวดวงนี้มาเกือบ 20 ปี อาจมีเพื่อนๆ ท่านอื่นที่อยู่ในห้องนี้มีความรู้ ก็มาช่วยกันขียนต่อยอดด้วยก็ได้ เพราะผมก็ไม่ได้หมายความว่ารู้หมดทุกเรื่อง เชี่ยวชาญมากก็สิ่งที่ตัวเองทำอยู่ โลกยังมีสิ่งที่ต้องเรียนู้อยู่เรื่อยๆ เทคโนโลยีมีการพัฒนาเรื่อยๆ อย่างคุณโดมว่า
ผมไม่ได้เสียสละฟรีๆ อะไรเลยนะครับ อย่างที่บอกข้างบน เผื่อผมสงสัยในแวดวงอื่น ที่เพื่อนท่านอื่นเชี่ยวชาญอยากให้มีห้องใน sector อื่นด้วย
เพราะผม หรือคนอ่านอื่นๆ จะได้กำไรก็ได้
จึงเป็นที่มา อย่างที่เรียกกันว่าเชิญชวนกัน "แชร์" หรือ "แลกเปลี่ยน" (แบบ "แบ่งปัน") กัน เอาข้อมูลมารวมๆกัน เกิดพลังและเป็นระบบกว่ากระจัดกระจาย แล้วเมื่อช่วยกันต่อยอด ต่างคนต่างได้กำไร เป็น positive sum game ได้กำไรที่ว่า.... เขียน 1 เรื่อง อ่านของเพื่อนท่านอื่น 10 เรื่อง 10 ท่านที่เขียน เป็นการลงทุนที่ได้คุ้มเกินคุ้ม
- kongkiti
- Verified User
- โพสต์: 5830
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 7
สนับสนุนด้วยคน -> Synergy 1+1 > 2 ครับIi'8N เขียน:ต่างคนต่างได้กำไร เป็น positive sum game ได้กำไรที่ว่า.... เขียน 1 เรื่อง อ่านของเพื่อนท่านอื่น 10 เรื่อง 10 ท่านที่เขียน เป็นการลงทุนที่ได้คุ้มเกินคุ้ม
รบกวนท่าน Mod พิจารณาเปิดอีกห้องเลยดีกว่าไหมครับ "ร้อยคนร้อยธุรกิจ" แล้ว ตั้งกระทู้แยกตามหมวดธุรกิจเลย
"ร้อย" คำที่สอง นี่หมายถึง เอาความรู้มา "ร้อย" รวมกันอ่ะนะครับ (แลกเปลี่ยน แบ่งปันความรู้กัน เกี่ยวกับธุรกิจหมวดที่ตนถนัด)
“Its like a finger pointing away to the moon. Don't concentrate on the finger
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
or you will miss all that heavenly glory.”- Bruce Lee
FAQs เกี่ยวกับแนวทางลงทุนแบบ VI
Blog ใหม่ >> https://www.blockdit.com/articles/5d733 ... 270d7b530
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 8
นอกจากเล่าข่าวแปะในวงการ
ผมขอเริ่มแนวทาง เล่าเรื่องที่น่าสนใจแบบสั้นๆ
เรื่องเกี่ยวกับนิทานรองเท้าแตะ และอุตสากรรมไอซีที
ICT ที่หมายถึง Internet & Communication Technology (สื่อสารและเทคโนโลยีข่าวสาร)
หลายท่านคงรู้จักนิทานการตลาดสนุกๆ แต่แฝงด้วยความจริง เรื่องรองเท้าแตะ
ในวงการ ICT ก็มีอัตราตัวเลขที่สำคัญที่พูดถึงบ่อยๆ เหมือนอัตราการใช้รองเท้าแตะ
ท้าวความ นิทานที่ว่า เผื่อมีคนรุ่นใหม่ยังไม่เคยได้ยิน
ในอดีต เถ้าแก่บริษัทรองเท้าแตะ ส่งเจ้าหน้าที่การตลาด ออกไปเพื่อขยายตลาดของตัวเอง
นาย A ถูกส่งออกไปพื้นที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเกาะและจังหวัดใหญ่ที่ห่างไกล กลับมารายงาน ด้วยสีหน้าผิดหวัง
"เจ้านาย เราคงไม่มีหวังแถวเมืองสยึ๋มกึ๋ย มีพื้นที่พร้อมหลายหมู่กาะนี้ ไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลย ไม่มีใครรู้จักมากเท่าไหร่ แล้วเราจะขายให้เขาได้ไง เฮ้อ...." นาย A จึงเป็นเซลส์แมน Hard Sales ต่อไป เซลส์แมนที่ไม่รู้วันอวสานของตัวเองที่อาจมาได้ทุกเมื่อ
ถัดไปจากนั้นไม่กี่วัน นาย B ซึ่งออกไปสำรวจอีกพื้นที่หนึ่งเหมือนกัน กลับมารายงาน ด้วยความตื่นเต้น
"นายท่าน ผมไปพบมีอีกหลายหมู่เกาะอยู่ในเมืองสยิ๋วกิ้ว ที่ยังไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลย โอกาสในการขาย การเปิดตลาดใหม่มาถึงแล้ว เรารวยแบบลืมวันลืมคืนแน่ๆ"
นาย B จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น BD Manager (Business Development) คุมพื้นที่ใหญ่ก่อน อนาคตคงทำนายได้เหมือนกัน ว่ามีแต่เรื่องราวสืบสาวต่อ ไม่อวสานง่ายๆ
ถ้าจะเริ่มประเมินมูลค่ากิจการในวงการ ICT
อย่าลืมมอง "อัตราการใช้รองเท้าแตะ" ของประชากรในพื้นที่ด้วย อย่ามองแค่มีลูกค้าใช้รองเท้าแตะอยู่เท่าไหร่
เพราะมูลค่ากิจการ มีตัวเลขของความหวังสำหรับ "โอกาส" ในอนาคตเป็นส่วนผสมอยู่ ไม่ใช่การขายสินค้าในอดีต
"penetration rate" คืออัตราที่ว่า
ตัวเลขบอกว่า มีผู้ใช้ต่อประชากรรวมกี่ราย เพื่อจะได้รู้ว่ามีผู้ใช้ที่เหลืออีกกี่ราย แบบนาย B ตื่นเต้น
penetration rate รองเท้าแตะบนเกาะทั้งสองที่นาย A และ นาย B ไปสำรวจ คือ 0%
ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
penetration rate ของอุตสาหกรรม ICT เฉพาะอินเตอร์เน็ต คือ 0.4/66 = 0.66%
มือถือ
ผู้คนถึงได้ตื่นเต้น ถ้าตลาดเปิดใหม่จริง
ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนอย่างนาย B ... กำลังรอพม่าจับมือกันเปิดตลาดจริงๆ ตลาดไม่ถูกคุมกำเนิดเหมือนระยะเวลาที่ผ่านมา
ในการประเมิน "อนาคต" เราต้องสวมวิญญาณมองแบบนาย B
ซึ่งตัวตนจริงในตำนานคือ โคลัมบัสของชาวตะวันตก และเจิ้งเหอของชาวตะวันออก ที่สำรวจหา "โอกาส" หาพื้นที่ ที่คนใช้รองเท้าแตะน้อย หรือยังไม่รู้จักรองเท้าแตะเลย
ผมขอเริ่มแนวทาง เล่าเรื่องที่น่าสนใจแบบสั้นๆ
เรื่องเกี่ยวกับนิทานรองเท้าแตะ และอุตสากรรมไอซีที
ICT ที่หมายถึง Internet & Communication Technology (สื่อสารและเทคโนโลยีข่าวสาร)
หลายท่านคงรู้จักนิทานการตลาดสนุกๆ แต่แฝงด้วยความจริง เรื่องรองเท้าแตะ
ในวงการ ICT ก็มีอัตราตัวเลขที่สำคัญที่พูดถึงบ่อยๆ เหมือนอัตราการใช้รองเท้าแตะ
ท้าวความ นิทานที่ว่า เผื่อมีคนรุ่นใหม่ยังไม่เคยได้ยิน
ในอดีต เถ้าแก่บริษัทรองเท้าแตะ ส่งเจ้าหน้าที่การตลาด ออกไปเพื่อขยายตลาดของตัวเอง
นาย A ถูกส่งออกไปพื้นที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเกาะและจังหวัดใหญ่ที่ห่างไกล กลับมารายงาน ด้วยสีหน้าผิดหวัง
"เจ้านาย เราคงไม่มีหวังแถวเมืองสยึ๋มกึ๋ย มีพื้นที่พร้อมหลายหมู่กาะนี้ ไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลย ไม่มีใครรู้จักมากเท่าไหร่ แล้วเราจะขายให้เขาได้ไง เฮ้อ...." นาย A จึงเป็นเซลส์แมน Hard Sales ต่อไป เซลส์แมนที่ไม่รู้วันอวสานของตัวเองที่อาจมาได้ทุกเมื่อ
ถัดไปจากนั้นไม่กี่วัน นาย B ซึ่งออกไปสำรวจอีกพื้นที่หนึ่งเหมือนกัน กลับมารายงาน ด้วยความตื่นเต้น
"นายท่าน ผมไปพบมีอีกหลายหมู่เกาะอยู่ในเมืองสยิ๋วกิ้ว ที่ยังไม่มีใครใส่รองเท้าแตะเลย โอกาสในการขาย การเปิดตลาดใหม่มาถึงแล้ว เรารวยแบบลืมวันลืมคืนแน่ๆ"
นาย B จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็น BD Manager (Business Development) คุมพื้นที่ใหญ่ก่อน อนาคตคงทำนายได้เหมือนกัน ว่ามีแต่เรื่องราวสืบสาวต่อ ไม่อวสานง่ายๆ
ถ้าจะเริ่มประเมินมูลค่ากิจการในวงการ ICT
อย่าลืมมอง "อัตราการใช้รองเท้าแตะ" ของประชากรในพื้นที่ด้วย อย่ามองแค่มีลูกค้าใช้รองเท้าแตะอยู่เท่าไหร่
เพราะมูลค่ากิจการ มีตัวเลขของความหวังสำหรับ "โอกาส" ในอนาคตเป็นส่วนผสมอยู่ ไม่ใช่การขายสินค้าในอดีต
"penetration rate" คืออัตราที่ว่า
ตัวเลขบอกว่า มีผู้ใช้ต่อประชากรรวมกี่ราย เพื่อจะได้รู้ว่ามีผู้ใช้ที่เหลืออีกกี่ราย แบบนาย B ตื่นเต้น
penetration rate รองเท้าแตะบนเกาะทั้งสองที่นาย A และ นาย B ไปสำรวจ คือ 0%
ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
penetration rate ของอุตสาหกรรม ICT เฉพาะอินเตอร์เน็ต คือ 0.4/66 = 0.66%
มือถือ
ผู้คนถึงได้ตื่นเต้น ถ้าตลาดเปิดใหม่จริง
ส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นคนอย่างนาย B ... กำลังรอพม่าจับมือกันเปิดตลาดจริงๆ ตลาดไม่ถูกคุมกำเนิดเหมือนระยะเวลาที่ผ่านมา
ในการประเมิน "อนาคต" เราต้องสวมวิญญาณมองแบบนาย B
ซึ่งตัวตนจริงในตำนานคือ โคลัมบัสของชาวตะวันตก และเจิ้งเหอของชาวตะวันออก ที่สำรวจหา "โอกาส" หาพื้นที่ ที่คนใช้รองเท้าแตะน้อย หรือยังไม่รู้จักรองเท้าแตะเลย
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 9
ต่างกันกับไทยพอสมควรเลย..ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
ของไทย อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี54 (นับเฉพาะ6ขวบขึ้นไป)..ราว14.8ล้านคน..ราวๆ2.7ล้านครัวเรือน..มีจำนวนผู้ใช้คอมพ์19.9ล้านคน
ว่าแต่ไม่รู้ว่า..จะสามารถสอบถามว่ามีบริษัทไหน(ในหมวดICT) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรในห้องนี้ได้ป่าวครับ?(หมายถึงทิศทางอนาคตอะนะครับ)
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 10
Energy_eak เขียน:ต่างกันกับไทยพอสมควรเลย..ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
ของไทย อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี54 (นับเฉพาะ6ขวบขึ้นไป)..ราว14.8ล้านคน..ราวๆ2.7ล้านครัวเรือน..มีจำนวนผู้ใช้คอมพ์19.9ล้านคน
ว่าแต่ไม่รู้ว่า..จะสามารถสอบถามว่ามีบริษัทไหน(ในหมวดICT) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรในห้องนี้ได้ป่าวครับ?(หมายถึงทิศทางอนาคตอะนะครับ)
เพื่อตอบคำถามได้รวดเร็ว ลองจัดกิจการทั้งหมดตามหมวดหมู่ ของสินค้าและบริการ หรือลักษณะการจัดตั้งองค์กร
นั่นเป็นคำตอบ มองภาพเห็นชัด
Holding Company
INTUCH SHIN CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
SAMART SAMART CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
TRUE TRUE CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
ผู้ให้บริการ (Network Operator/Service Provider)
ADVANC ADVANCED INFO SERVICE PUBLIC COMPANY LIMITED
CSL CS LOXINFO PUBLIC COMPANY LIMITED
DTAC TOTAL ACCESS COMMUNICATION PUBLIC COMPANY LIMITED
INET INTERNET THAILAND PUBLIC COMPANY LIMITED
JAS JASMINE INTERNATIONAL PUBLIC COMPANY LIMITED
SAMTEL SAMART TELCOMS PUBLIC COMPANY LIMITED
THCOM THAICOM PUBLIC COMPANY LIMITED
TT&T TT&T PUBLIC COMPANY LIMITED
Services: ICT Solutions/System Integrator/Subcontract (Installation/Project Implementation)
JTS JASMINE TELECOM SYSTEMS PUBLIC COMPANY LIMITED
AIT ADVANCED INFORMATION TECHNOLOGY PUBLIC CO.,LTD.
FORTH FORTH CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
IEC THE INTERNATIONAL ENGINEERING PUBLIC COMPANY LIMITED
MFEC MFEC PUBLIC COMPANY LIMITED
MSC METRO SYSTEMS CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
PT PREMIER TECHNOLOGY PUBLIC COMPANY LIMITED
SYMC SYMPHONY COMMUNICATION PUBLIC COMPANY LIMITED
Trading/Retailer/Distributor
BLISS BLISS-TEL PUBLIC COMPANY LIMITED
JMART JAY MART PUBLIC COMPANY LIMITED
MLINK M-LINK ASIA CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
SIM SAMART I-MOBILE PUBLIC COMPANY LIMITED
SIS SIS DISTRIBUTION (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED
SVOA SVOA PUBLIC COMPANY LIMITED
SYNEX SYNNEX (THAILAND) PUBLIC COMPANY LIMITED
TWZ TWZ CORPORATION PUBLIC COMPANY LIMITED
คุณ Energy_eak ถามถึงอนาคต ซึ่งไม่มีใครตอบได้จริง
แต่กลุ่มที่ผมเรียงลำดับจะเรียงจากสิ่งที่เรียกว่า "Trend Setter" คือมักจะเป็นคนนำเทคโนโลยีล่าสุดมาให้บริการสำหรับตลาด ICT ไทย
ส่วนกลุ่มล่างๆ จะเป็นผู้ตามกระแส "Market follower" อาจมี R&D แต่ก็จับเอามาตรฐานที่ออกมาแล้วมาเป็นผลิตภัณฑ์หรือบริการ หรือรับสินค้ามาขาย
การดูอนาคต คือติดตามคามเคลื่อนไหวของกลุ่มบนก่อน จะเห็นว่า เมื่อดูชื่อบริษัทแต่ละรายคนส่วนใหญ่รู้จักเกินครึ่งบา่งคนรู้จักหมด เพราะเกี่ยวข้องกับที่เราใช้กันอยู่ในวงกว้าง
กลุ่มบน จะนำเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วในระดับโลก ลงมาให้บริการประเทศเรา
อย่างช่วงนี้ ในวงการกำลังรอประมูล 3G ต่อไป 4G 5G เมื่อต้องการความเร็วสูงขึ้น และต้องการส่ง data rate เร็วขึ้น เพราะ content ใหญ่ขึ้นตาม
แต่อนาคตการติดตาม กลุ่ม ICT อาจต้องรวมกลุ่มบันเทิงมาด้วย
อย่างกทช. (สื่อสารโทรคมนาคม) เคยแยกกับกสช. (กระจายเสียง/ภาพ = สื่อสารมวลชน) มารวมเป็นกสทช.
เพราะโลกยุคใหม่ content บันเทิง มาวิ่งด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลของโทรคมนาคม
ซึ่งเรามองเห็นกันทุกวัน โทรทัศน์ไง ผ่านดาวเทียม ผ่านเคเบิ้ล ผ่านสายอากาศ ผ่านอินเตอร์เน็ต
- Frioniel
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 11
ผมว่าถ้าจะรวมหมวดนี้ ต้องรวม IT เข้าไปอยู่ในประเภท Trading/Retailer/Distributor ของที่คุณ Ii'8N จัดไว้ด้วย
ผมก็เป็นอีกคนที่อยู่ในแวดวง IT มานานมากๆ แต่ไม่บอกว่ากี่ปี เดี๋ยวจะบ่งบอกอายุ
จะเข้ามาดูกระทู้นี้ และลองช่วยตอบเท่าที่พอจะตอบได้นะครับ
ผมก็เป็นอีกคนที่อยู่ในแวดวง IT มานานมากๆ แต่ไม่บอกว่ากี่ปี เดี๋ยวจะบ่งบอกอายุ
จะเข้ามาดูกระทู้นี้ และลองช่วยตอบเท่าที่พอจะตอบได้นะครับ
It Always Seems Impossible Until It Is DONE!!!
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 12
=ขออนุญาติตัดย่อนะครับ=Ii'8N เขียน:แต่อนาคตการติดตาม กลุ่ม ICT อาจต้องรวมกลุ่มบันเทิงมาด้วยEnergy_eak เขียน:ต่างกันกับไทยพอสมควรเลย..ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
ของไทย อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี54 (นับเฉพาะ6ขวบขึ้นไป)..ราว14.8ล้านคน..ราวๆ2.7ล้านครัวเรือน..มีจำนวนผู้ใช้คอมพ์19.9ล้านคน
ว่าแต่ไม่รู้ว่า..จะสามารถสอบถามว่ามีบริษัทไหน(ในหมวดICT) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรในห้องนี้ได้ป่าวครับ?(หมายถึงทิศทางอนาคตอะนะครับ)
อย่างกทช. (สื่อสารโทรคมนาคม) เคยแยกกับกสช. (กระจายเสียง/ภาพ = สื่อสารมวลชน) มารวมเป็นกสทช.
เพราะโลกยุคใหม่ content บันเทิง มาวิ่งด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลของโทรคมนาคม
ซึ่งเรามองเห็นกันทุกวัน โทรทัศน์ไง ผ่านดาวเทียม ผ่านเคเบิ้ล ผ่านสายอากาศ ผ่านอินเตอร์เน็ต
นี่เลยครับ!! ผมกำลังคิดอยู่เลย ว่ามีบริษัทไหน มีโอกาสเป็นแบบนี้บ้างครับ^__^ แบบครอบคุมมอกที่สุด..หรือบางทีอาจจะจับมือกันเป็นกลุ่มอะไรงี้ก็ได้^_^..ถ้ามีรบกวนช่วยกระซิบนิดนึงครับ..อยากศึกษาModelบริษัทมากๆ
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 13
ดีครับ อย่างที่บอก มาช่วยกัน เผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองถนัด ยิ่งแลกเปลี่ยนกัน ก็ยิ่งรู้ในหลายแง่มุมเพิ่มขึ้นFrioniel เขียน:ผมว่าถ้าจะรวมหมวดนี้ ต้องรวม IT เข้าไปอยู่ในประเภท Trading/Retailer/Distributor ของที่คุณ Ii'8N จัดไว้ด้วย
ผมก็เป็นอีกคนที่อยู่ในแวดวง IT มานานมากๆ แต่ไม่บอกว่ากี่ปี เดี๋ยวจะบ่งบอกอายุ
จะเข้ามาดูกระทู้นี้ และลองช่วยตอบเท่าที่พอจะตอบได้นะครับ
อายุไม่มีความหมาย ผมยัีงคิดว่าตัวเองเด็กอยู่เสมอเลย
ส่วนข้างบน คือผมดึงออกมาเฉพาะั ICT ที่จัดโดยตลท.
IT ตลท. จัดอยู่ในประเภทบริการ/พาณิชย์ (Modern Trade ล้วนอยู่ในกลุ่มนี้) แต่ก็เรารู้กันอยู่ ว่าเป็นบริการ/พาณิชย์ด้านนี้โดยเฉพาะงาน IT ตามชื่อ
มีอีกกิจการหนึ่งที่จัดอยู่บริการ/พาณิชย์ ไม่ได้เป็น Modern Trade แต่ trading แบบเข้าไปประมูลงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับ ICT คล้ายกลุ่ม SAMART นั่นคือ LOXLEY รับงานไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ...
แต่มีที่ไม่เกี่ยวกับ ICT แบบทำบริษัทยามสุวรรณภูมิด้วยแน่ะ
(และอย่าง CSL คงไม่ลืมกันว่า กำเนิดมาจาก CS ของ shin + กับ internet Loxley สุดท้าย ไปอยู่ใต้ THCOM)
- Ii'8N
- Verified User
- โพสต์: 3682
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 14
ลองเข้าไปดูกระทู้นี้นะครับEnergy_eak เขียน:=ขออนุญาติตัดย่อนะครับ=Ii'8N เขียน:แต่อนาคตการติดตาม กลุ่ม ICT อาจต้องรวมกลุ่มบันเทิงมาด้วยEnergy_eak เขียน:ต่างกันกับไทยพอสมควรเลย..ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
ของไทย อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี54 (นับเฉพาะ6ขวบขึ้นไป)..ราว14.8ล้านคน..ราวๆ2.7ล้านครัวเรือน..มีจำนวนผู้ใช้คอมพ์19.9ล้านคน
ว่าแต่ไม่รู้ว่า..จะสามารถสอบถามว่ามีบริษัทไหน(ในหมวดICT) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรในห้องนี้ได้ป่าวครับ?(หมายถึงทิศทางอนาคตอะนะครับ)
อย่างกทช. (สื่อสารโทรคมนาคม) เคยแยกกับกสช. (กระจายเสียง/ภาพ = สื่อสารมวลชน) มารวมเป็นกสทช.
เพราะโลกยุคใหม่ content บันเทิง มาวิ่งด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลของโทรคมนาคม
ซึ่งเรามองเห็นกันทุกวัน โทรทัศน์ไง ผ่านดาวเทียม ผ่านเคเบิ้ล ผ่านสายอากาศ ผ่านอินเตอร์เน็ต
นี่เลยครับ!! ผมกำลังคิดอยู่เลย ว่ามีบริษัทไหน มีโอกาสเป็นแบบนี้บ้างครับ^__^ แบบครอบคุมมอกที่สุด..หรือบางทีอาจจะจับมือกันเป็นกลุ่มอะไรงี้ก็ได้^_^..ถ้ามีรบกวนช่วยกระซิบนิดนึงครับ..อยากศึกษาModelบริษัทมากๆ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=52526
เอกสาร ITU ประกอบการสัมมนา digital tv (analog switch off)
ยังไม่อาจรู้ได้ว่าใครจะจับมือกับใครบ้าง แต่จะมองภาพออกว่าผู้มีส่วนร่วม (ที่ฝรั่งเรียกว่า stakeholders) ในอุตสาหกรรมนี้มีใครบ้าง
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 15
ผมเชื่อว่าคนดีๆ มีความรู้ ความสามารถ พร้อมที่จะออกมาแบ่งปันอยากมากครับIi'8N เขียน: ผมไม่ได้เสียสละฟรีๆ อะไรเลยนะครับ อย่างที่บอกข้างบน เผื่อผมสงสัยในแวดวงอื่น ที่เพื่อนท่านอื่นเชี่ยวชาญอยากให้มีห้องใน sector อื่นด้วย
เพราะผม หรือคนอ่านอื่นๆ จะได้กำไรก็ได้
จึงเป็นที่มา อย่างที่เรียกกันว่าเชิญชวนกัน "แชร์" หรือ "แลกเปลี่ยน" (แบบ "แบ่งปัน") กัน เอาข้อมูลมารวมๆกัน เกิดพลังและเป็นระบบกว่ากระจัดกระจาย แล้วเมื่อช่วยกันต่อยอด ต่างคนต่างได้กำไร เป็น positive sum game ได้กำไรที่ว่า.... เขียน 1 เรื่อง อ่านของเพื่อนท่านอื่น 10 เรื่อง 10 ท่านที่เขียน เป็นการลงทุนที่ได้คุ้มเกินคุ้ม
ผมแค่อยากเปิดช่อง และ ส่งเสริม คนดีๆเหล่านั้น เท่านั้นครับ
ส่วนตัวผมไม่ค่อยมีความรู้ทางไอทีมากนัก แต่ชอบ และ สนใจมากๆครับ
ขอบคุณอย่างใจจริงครับ คุณ Ii'8N
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณครับผม^_^Ii'8N เขียน:ลองเข้าไปดูกระทู้นี้นะครับEnergy_eak เขียน:=ขออนุญาติตัดย่อนะครับ=Ii'8N เขียน:แต่อนาคตการติดตาม กลุ่ม ICT อาจต้องรวมกลุ่มบันเทิงมาด้วยEnergy_eak เขียน:ต่างกันกับไทยพอสมควรเลย..ตอนนี้ พม่ามีประชากร ราว 60 ล้านคน มีประชากรอินเตอร์เน็ตราว 4 แสนคน
ของไทย อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติปี54 (นับเฉพาะ6ขวบขึ้นไป)..ราว14.8ล้านคน..ราวๆ2.7ล้านครัวเรือน..มีจำนวนผู้ใช้คอมพ์19.9ล้านคน
ว่าแต่ไม่รู้ว่า..จะสามารถสอบถามว่ามีบริษัทไหน(ในหมวดICT) ทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไรในห้องนี้ได้ป่าวครับ?(หมายถึงทิศทางอนาคตอะนะครับ)
อย่างกทช. (สื่อสารโทรคมนาคม) เคยแยกกับกสช. (กระจายเสียง/ภาพ = สื่อสารมวลชน) มารวมเป็นกสทช.
เพราะโลกยุคใหม่ content บันเทิง มาวิ่งด้วยเทคโนโลยีดิจิตอลของโทรคมนาคม
ซึ่งเรามองเห็นกันทุกวัน โทรทัศน์ไง ผ่านดาวเทียม ผ่านเคเบิ้ล ผ่านสายอากาศ ผ่านอินเตอร์เน็ต
นี่เลยครับ!! ผมกำลังคิดอยู่เลย ว่ามีบริษัทไหน มีโอกาสเป็นแบบนี้บ้างครับ^__^ แบบครอบคุมมอกที่สุด..หรือบางทีอาจจะจับมือกันเป็นกลุ่มอะไรงี้ก็ได้^_^..ถ้ามีรบกวนช่วยกระซิบนิดนึงครับ..อยากศึกษาModelบริษัทมากๆ
http://board.thaivi.org/viewtopic.php?f=1&t=52526
เอกสาร ITU ประกอบการสัมมนา digital tv (analog switch off)
ยังไม่อาจรู้ได้ว่าใครจะจับมือกับใครบ้าง แต่จะมองภาพออกว่าผู้มีส่วนร่วม (ที่ฝรั่งเรียกว่า stakeholders) ในอุตสาหกรรมนี้มีใครบ้าง
- Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 17
ขอบคุณครับ
- Frioniel
- Verified User
- โพสต์: 34
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 18
ขอบคุณครับIi'8N เขียน:ดีครับ อย่างที่บอก มาช่วยกัน เผยแพร่ความรู้ที่ตัวเองถนัด ยิ่งแลกเปลี่ยนกัน ก็ยิ่งรู้ในหลายแง่มุมเพิ่มขึ้นFrioniel เขียน:ผมว่าถ้าจะรวมหมวดนี้ ต้องรวม IT เข้าไปอยู่ในประเภท Trading/Retailer/Distributor ของที่คุณ Ii'8N จัดไว้ด้วย
ผมก็เป็นอีกคนที่อยู่ในแวดวง IT มานานมากๆ แต่ไม่บอกว่ากี่ปี เดี๋ยวจะบ่งบอกอายุ
จะเข้ามาดูกระทู้นี้ และลองช่วยตอบเท่าที่พอจะตอบได้นะครับ
อายุไม่มีความหมาย ผมยัีงคิดว่าตัวเองเด็กอยู่เสมอเลย
ส่วนข้างบน คือผมดึงออกมาเฉพาะั ICT ที่จัดโดยตลท.
IT ตลท. จัดอยู่ในประเภทบริการ/พาณิชย์ (Modern Trade ล้วนอยู่ในกลุ่มนี้) แต่ก็เรารู้กันอยู่ ว่าเป็นบริการ/พาณิชย์ด้านนี้โดยเฉพาะงาน IT ตามชื่อ
มีอีกกิจการหนึ่งที่จัดอยู่บริการ/พาณิชย์ ไม่ได้เป็น Modern Trade แต่ trading แบบเข้าไปประมูลงานส่วนใหญ่เกี่ยวกับ ICT คล้ายกลุ่ม SAMART นั่นคือ LOXLEY รับงานไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ...
แต่มีที่ไม่เกี่ยวกับ ICT แบบทำบริษัทยามสุวรรณภูมิด้วยแน่ะ
(และอย่าง CSL คงไม่ลืมกันว่า กำเนิดมาจาก CS ของ shin + กับ internet Loxley สุดท้าย ไปอยู่ใต้ THCOM)
It Always Seems Impossible Until It Is DONE!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 19
ตอนนี้เดินไปทางไหน ในประเทศไทย
ถนนมุ่งสู่คำว่า Vm หรือ Big Data (คุยกันไม่ใช่ที่ 1TB เริ่มต้นที่ 10TB หรือมากกว่านั้นแล้ว)
แต่อย่างไงก็ตามตอนนี้งานยังไม่มากมายเท่าไร
แต่ที่มากจริงต้อง Network ที่หาคนทำยากมากตั้งแต่ต้นปี ยันถึงปัจจุบัน
งานมาเรื่อยๆเลยล่ะในกลุ่มของ Network
ส่วนกลุ่มของ System ก็ยิ่งทำยิ่งเข้าสู่ระบบ VM แบบซื้อเครื่องใหญ่ๆมาแล้วแบ่งทรัพยากร หรือ สามารถซื้อเพิ่มในอนาคตได้ มาทำกัน ส่วนของ big data ก็มากันแบบเป็นตู้เสื้อผ้าเป็นอย่างน้อยแล้วละ
ถนนมุ่งสู่คำว่า Vm หรือ Big Data (คุยกันไม่ใช่ที่ 1TB เริ่มต้นที่ 10TB หรือมากกว่านั้นแล้ว)
แต่อย่างไงก็ตามตอนนี้งานยังไม่มากมายเท่าไร
แต่ที่มากจริงต้อง Network ที่หาคนทำยากมากตั้งแต่ต้นปี ยันถึงปัจจุบัน
งานมาเรื่อยๆเลยล่ะในกลุ่มของ Network
ส่วนกลุ่มของ System ก็ยิ่งทำยิ่งเข้าสู่ระบบ VM แบบซื้อเครื่องใหญ่ๆมาแล้วแบ่งทรัพยากร หรือ สามารถซื้อเพิ่มในอนาคตได้ มาทำกัน ส่วนของ big data ก็มากันแบบเป็นตู้เสื้อผ้าเป็นอย่างน้อยแล้วละ
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 20
Wi-Fi Network to Be Deployed in Sierra Leone
Published on: 5th Aug 2012 http://www.cellular-news.com
Edgewater Wireless Systems says that it has won a C$4.9 million contract from World Affinity Telecom to supply Wi-Fi technology as part of a multi-phase program designed to deliver WiFi and WLAN coverage throughout several Western and Central African countries.
The initial deployment will take place in Freetown, Sierra Leone in the autumn of 2012.
Wi-Fi coverage will be initially offered throughout Freetown, and extending the network across the country by the autumn of 2013.
World Affinity Telecom and its local subsidiary, Sierra WiFi, are leveraging a fibre network within Sierra Leone to provide wireless broadband services. In addition to the national deployment of WiFi technology in Sierra Leone, World Affinity Telecom has secured licenses to deliver national WLAN coverage in a number of other Western African countries, including Guinea, where the company plans expansion of a WLAN network, backboned by Wi-Fi technology, by the end of 2012.
"This agreement with World Affinity represents a huge market opportunity for Edgewater Wireless to deliver broadband wireless services to Western & Central Africa," said Andrew Skafel, President of Edgewater Wireless. "We expect Africa to be one of the fastest-growing markets globally for WiFi over the next 5 to 10 years."
Published on: 5th Aug 2012 http://www.cellular-news.com
Edgewater Wireless Systems says that it has won a C$4.9 million contract from World Affinity Telecom to supply Wi-Fi technology as part of a multi-phase program designed to deliver WiFi and WLAN coverage throughout several Western and Central African countries.
The initial deployment will take place in Freetown, Sierra Leone in the autumn of 2012.
Wi-Fi coverage will be initially offered throughout Freetown, and extending the network across the country by the autumn of 2013.
World Affinity Telecom and its local subsidiary, Sierra WiFi, are leveraging a fibre network within Sierra Leone to provide wireless broadband services. In addition to the national deployment of WiFi technology in Sierra Leone, World Affinity Telecom has secured licenses to deliver national WLAN coverage in a number of other Western African countries, including Guinea, where the company plans expansion of a WLAN network, backboned by Wi-Fi technology, by the end of 2012.
"This agreement with World Affinity represents a huge market opportunity for Edgewater Wireless to deliver broadband wireless services to Western & Central Africa," said Andrew Skafel, President of Edgewater Wireless. "We expect Africa to be one of the fastest-growing markets globally for WiFi over the next 5 to 10 years."
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 21
Malaysia to Expand Rural Internet Access
Published on: 6th Aug 2012
The Malaysian telecoms regulator, the MCMC is looking to set up a further 500 "wireless villages" in Sabah by end of this year.
The region already has 300 villages equipped with computers offering free internet access, backhauled over a wireless link.
Sabah and Labuan MCMC Director Bukhari Yahya added that apart from the wireless villages, MCMC is also currently upgrading its 3G technology and reception to rural areas and providing 28 more Community Broadband Centers across Sabah.
Bukhari said that a ceremony where the announcement was made was organized by MCMC in collaboration with Digi, Maxis, Celcom, TM, Redtone and Pos Malaysia to strengthen ties between telcos during Ramadan.
http://www.cellular-news.com/story/55709.php
Published on: 6th Aug 2012
The Malaysian telecoms regulator, the MCMC is looking to set up a further 500 "wireless villages" in Sabah by end of this year.
The region already has 300 villages equipped with computers offering free internet access, backhauled over a wireless link.
Sabah and Labuan MCMC Director Bukhari Yahya added that apart from the wireless villages, MCMC is also currently upgrading its 3G technology and reception to rural areas and providing 28 more Community Broadband Centers across Sabah.
Bukhari said that a ceremony where the announcement was made was organized by MCMC in collaboration with Digi, Maxis, Celcom, TM, Redtone and Pos Malaysia to strengthen ties between telcos during Ramadan.
http://www.cellular-news.com/story/55709.php
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 22
แกรมมี่- ทรูอิงโอลิมปิก กระตุ้นกล่องดาวเทียม [ โพสต์ทูเดย์, 7 ส.ค. 55 ]Ii'8N เขียน:แต่อนาคตการติดตาม กลุ่ม ICT อาจต้องรวมกลุ่มบันเทิงมาด้วย
โอลิมปิกคึก ทรูวิชั่นส์-จีเอ็มเอ็ม แชท เร่งดันยอดขายกล่องอีกระลอก แกรมมี่ ดัมพ์ ราคา 999 บาท
หวัง 2 แสนกล่อง
นายฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม ผู้อำนวยการสายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท เปิด
เผยว่า ในช่วงการถ่ายทอดโอลิมปิกตั้งแต่ปลายเดือน ก.ค.ที่ผ่านมา ตลาดกล่องทีวีดาวเทียมคึกคักมาก
เนื่องจากมีกลุ่มผู้รับชมผ่านกล่องทีวีดาวเทียมรุ่นเก่าที่ซื้อไว้ ตั้งแต่ก่อนปี 2553 ไม่สามารถเข้ารหัสเพื่อรับ
ชมการถ่ายทอดสดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2012 หรือลอนดอนเกมส์ ได้ จึงมีความต้องการซื้อกล่องรับ
สัญญาณดาวเทียมรุ่นใหม่มากขึ้น
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 23
กสท.ผ่านฉลุย3ร่างทีวีดิจิตอล [ ข่าวสด, 7 ส.ค. 55 ]
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและ
โทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกสท. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. มีมติผ่านร่าง
ประกาศ 3 ฉบับคือ ร่างประกาศเรื่องแผนการเปลี่ยนระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็น
ระบบดิจิตอล ร่างประกาศเรื่องมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินใน
ระบบดิจิตอล และร่างประกาศเรื่องมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับเครื่องรับส่งสัญญาณโทรทัศน์
ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เพื่อเตรียมพร้อมสู่การให้ใบอนุญาตบริการ หรือไลเซนส์ ตามแผนที่
วางไว้เดือนต.ค.นี้ แบ่งเป็นไลเซนส์ทีวีดิจิตอลสาธารณะ และไลเซนส์กิจการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่น
ความถี่ คาดว่าจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือประชาพิจารณ์ได้ในวันที่ 7 ก.ย. เพื่อให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาทันภายในเดือนก.ย.
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ
กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและ
โทรทัศน์ (กสท.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกสท. เมื่อวันที่ 6 ส.ค. มีมติผ่านร่าง
ประกาศ 3 ฉบับคือ ร่างประกาศเรื่องแผนการเปลี่ยนระบบการรับส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์เป็น
ระบบดิจิตอล ร่างประกาศเรื่องมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับการให้บริการโทรทัศน์ภาคพื้นดินใน
ระบบดิจิตอล และร่างประกาศเรื่องมาตรฐานทางเทคนิคสำหรับเครื่องรับส่งสัญญาณโทรทัศน์
ภาคพื้นดินในระบบดิจิตอล เพื่อเตรียมพร้อมสู่การให้ใบอนุญาตบริการ หรือไลเซนส์ ตามแผนที่
วางไว้เดือนต.ค.นี้ แบ่งเป็นไลเซนส์ทีวีดิจิตอลสาธารณะ และไลเซนส์กิจการโทรทัศน์ที่ไม่ใช้คลื่น
ความถี่ คาดว่าจะเปิดรับฟังความเห็นสาธารณะ หรือประชาพิจารณ์ได้ในวันที่ 7 ก.ย. เพื่อให้
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาทันภายในเดือนก.ย.
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 24
สมัยก่อนเรามักจะแยกคำว่า ไอที และ ICT ออกจากกัน
คนทำซอฟต์แวร์ค่อนข้างชัดเจนว่าเราทำ ไอที
ถ้าเป็นไอทีแล้วก็จะต้องแยกออกจากกันง่าย ๆ เป็น ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ สำหรับ Enterprise นั้น จัดเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้ ขอแบบคร่าว ๆ นะครับ แต่ละส่วนมีรายละเอียดถ้าจะจัดแล้วจะลึกมาก ๆ กังวลว่าจะงงกัน
1 ระบบปฏิบัติการ เช่น Windows OS
2 Enterprise Application เช่น ระบบ ERP (Enterprise Resources Planning)
3 ระบบ Database เช่น DB2, Oracle, MS-SQL Server
4 Office Applications เช่น MS office
5 on the shelf ก็มีหลายส่วนครับ แยกกันไปอีกหลาย ๆ ทาง
ในทุก ๆ องค์กรต้องมีการควบคุมสารสนเทศในองค์กร ส่วนใหญ่ก็มีทางเลือกกันอยู่ไม่มาก คือ พัฒนาเอง หรือ ใช้ ERP ซึ่ง เมื่อซื้อระบบไปแล้วก็ต้องเลือก consultant เข้าไปทำงาน ส่วนหนึ่งก็ต่อยอดส่วนหนึ่งก็ Implement ลักษณะเหมือนงานโครงการครับ เช่น งาน ERP ก็จะประกอบด้วย
1 การผลิต
2 การบัญชี
3 จัดซื้อ
4 Sales
5 สินค้าคงคลัง
6 ฯลฯ
ก็คือทุกแผนกในองค์กรนั่นหล่ะครับ ทำไมต้องใช้ ERP ลองคิดดูนะครับถ้าองค์กรใหญ่ มาก ๆ ข้อมูลกระจัดกระจายก็ไม่บูรณาการจริงมั๊ยครับ ก็ต้องใช้ระบบพวกนี้ครับ
บริษัทที่ทำธุรกิจพวกนี้ private company เยอะครับ เจ๊งมั่ง ไรมั่ง ในตลาดก็เช่น เมโทร, IRCP เป็นต้น
ข้อกังวล ธุรกิจโครงการขึ้นอยู่กับการจัดการบุคลากรครับ และลักษณะงานเหมือนงานโครงการ กำไรและความสำเร็จอยู่ที่การบริหารความรู้และบุคลากรเพียว ๆ การควบคุม scope of work ไม่ให้บานปลาย
กำไรดีมั๊ย? ก็ลองแกะงบบริษัทที่ผมยกตัวอย่างดูครับ
คนทำซอฟต์แวร์ค่อนข้างชัดเจนว่าเราทำ ไอที
ถ้าเป็นไอทีแล้วก็จะต้องแยกออกจากกันง่าย ๆ เป็น ซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์
ซอฟต์แวร์ สำหรับ Enterprise นั้น จัดเป็นกลุ่มหลัก ๆ ดังนี้ ขอแบบคร่าว ๆ นะครับ แต่ละส่วนมีรายละเอียดถ้าจะจัดแล้วจะลึกมาก ๆ กังวลว่าจะงงกัน
1 ระบบปฏิบัติการ เช่น Windows OS
2 Enterprise Application เช่น ระบบ ERP (Enterprise Resources Planning)
3 ระบบ Database เช่น DB2, Oracle, MS-SQL Server
4 Office Applications เช่น MS office
5 on the shelf ก็มีหลายส่วนครับ แยกกันไปอีกหลาย ๆ ทาง
ในทุก ๆ องค์กรต้องมีการควบคุมสารสนเทศในองค์กร ส่วนใหญ่ก็มีทางเลือกกันอยู่ไม่มาก คือ พัฒนาเอง หรือ ใช้ ERP ซึ่ง เมื่อซื้อระบบไปแล้วก็ต้องเลือก consultant เข้าไปทำงาน ส่วนหนึ่งก็ต่อยอดส่วนหนึ่งก็ Implement ลักษณะเหมือนงานโครงการครับ เช่น งาน ERP ก็จะประกอบด้วย
1 การผลิต
2 การบัญชี
3 จัดซื้อ
4 Sales
5 สินค้าคงคลัง
6 ฯลฯ
ก็คือทุกแผนกในองค์กรนั่นหล่ะครับ ทำไมต้องใช้ ERP ลองคิดดูนะครับถ้าองค์กรใหญ่ มาก ๆ ข้อมูลกระจัดกระจายก็ไม่บูรณาการจริงมั๊ยครับ ก็ต้องใช้ระบบพวกนี้ครับ
บริษัทที่ทำธุรกิจพวกนี้ private company เยอะครับ เจ๊งมั่ง ไรมั่ง ในตลาดก็เช่น เมโทร, IRCP เป็นต้น
ข้อกังวล ธุรกิจโครงการขึ้นอยู่กับการจัดการบุคลากรครับ และลักษณะงานเหมือนงานโครงการ กำไรและความสำเร็จอยู่ที่การบริหารความรู้และบุคลากรเพียว ๆ การควบคุม scope of work ไม่ให้บานปลาย
กำไรดีมั๊ย? ก็ลองแกะงบบริษัทที่ผมยกตัวอย่างดูครับ
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 25
ผมเชื่อว่า วอล์มาร์ต เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจจากคนในวงการไอทีสูงทีเดียว เนื่องในโอกาสครบรอบ 50 ปีของวอล์มาร์ต ผมก็ขอบันทึกไว้ ณ ที่นี้
เมื่อสักประมาณปี 199x ต้น ๆ ผมค่อนข้างจะมีความไม่ชัดเจนเมื่อมีการพูดถึงคำศัพท์ว่า Supply Chain Management คือยังค่อนข้างคลุมเครือ (สำหรับผม) ในขณะนั้น ในขณะที่ระบบ ERP ยังไม่มากเท่าในปัจจุบัน โรงงานในบ้านเราใช้ระบบบัญชี ในขณะที่บางโรงงานอาจมีบ้างที่รู้จัก MRP หรือ MRPII ซึ่ง ณ ขณะนั้น คนส่วนใหญ่จะใช้ mainframe มีเครื่อง mini บ้าง ถ้าเป็น netware lan ก็จะเป็น PC ส่วน Microsoft ยังไม่ต้องพูดถึง ทุกคนมองว่าเป็น home use ณ ขณะนั้น ถ้าจะเขียน database กันเองก็มีเป็น flat file เลยครับ DBMS ก็เริ่มมี อันนี้ผมพูดถึงในไทยนะ ที่บางมดสมัยผมเรียนมี work station ของ Unix อยู่สี่เครื่อง ทั้งสถาบัน จะลงชื่อเข้าใช้ก็นู่น สี่ห้าทุ่มบางทีก็ตีสอง อะไรแบบนั้น
แต่หลังจากนั้นพอระบบ IT มีการพัฒนามากขึ้น บริษัทต่าง ๆ ก็ต้องปรับตัวครับหาระบบมาใช้กันเพื่อให้องค์กรสามารถเชื่อมโยงกับบริษัทคู่ค้าเข้าหากันได้ ผมจำได้ว่าผมเริ่มรู้จักศัพท์คำว่ CPFR, Planning, Forecasting and Replenishment มาพร้อม ๆ กับคำว่า Supply Chain และเนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่ค่อยรู้จักคำว่า ซัพพลายเชน และเนื่องจากผมเป็นวิศวะอุตสาหการ ผมเลยเก็ตกับคำว่า CPFR มากกว่าเพราะเรียนเรื่องพวกนี้มาเยอะกว่า และก็เริ่มได้ยินชื่อเสียงของ วอล์มาร์ตมาตั้งแต่นั้น จุดกำเนิดทางด้านไอทีหลายอย่างจนถึงปัจจุบันก็มาจากวอล์มาร์ตนี่หล่ะครับเค้าเป็นบริษัทแรกที่เชื่อมข้อมูลศูนย์กระจายกับสาขาด้วยไอที เริ่มทำ CPFR กับคู่ค้า รวมถึงเรื่อง RFID จนปัจจุบัน ครบ 50 ปี ผมเลยอยากรวบรวมไว้ครับ
1970: วอล์มาร์ต เปิด DC แห่งแรก ก่อนหน้านั้นของถูกส่งจากซัพพลายเออร์หรือผู้ค้าส่ง
1975: วอล์มาร์ตเริ่มใช้ เครื่อง IBM 370/135 บริหารจัดการระบบคลังสินค้า ดีซี และเป็นรีเทลรายแรกที่เชื่อมข้อมูลระหว่างดีซีกับสาขา
1980: ยอดขายแตะ $1 billion in sales
1985: เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แซม วาลตัน ออกแคมเปญจ์ เมดอินอเมริกา แคมเปญจ์ที่ commit ว่าวอล์มาร์ตซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ (ตอนหลังยกเลิกไปแล้ว)
1988: เริ่มต้นโครงการ continuous replenishment (CR)
1988: เปิด ซูเปอร์เซ็นเตอร์แห่งแรก เป็น Groceries Store มากกว่าที่จะเป็น General Merchandise
1992: วอล์มาร์ต อิมพลิเมนต์ระบบ Retail Link system ในการบริหารจัดการซัพพลายเชน
1995: วอล์มาร์ต เริ่มโครงการ CPFR Collaborative Planning, Forecasting and Replenishment (CPFR) กับบริษัท Warner Lambert เป็น Pilot project
2000: ลี สก๊อต (Lee Scott), ขึ้นมาเป็นซีอีโอ เค้าเป็น dispatcher ในกลุ่มขนส่งครับ ซึ่งตอนหลังนี้มีบทบาทอย่างสูงในการพัฒนาต่อยอดระบบ logistics ของวอล์มาร์ตต่อมา
2003: BusinessWeek เขียน คอลัมภ์ "Is Walmart too Powerful?"
2004: ปีนี้ครับที่วอล์มาร์ตเริ่มต้น นโยบาย RFID สำหรับ ท็อป 100 ซัพพลายเออร์ สำหรับ ดีซี 3 ดีซีในเท็กซ์ซัส
2004: ปีนี้วอร์มาร์ตเริ่มต้นโครงการ เค้าเรียกว่า Remix ซึ่งเป็นการจัดการเรื่องการลดสินค้าคงคลัง โดยการเพิ่มอัตราการไหลของสินค้าที่มีอัตราการหมุนเวียนสูง
2004: วอล์มาร์ตเริ่มเป็นสารคดี เท็กซ์บุ๊ค ต่าง ๆ เริ่มเขียนถึง ออก CNBC และอื่น ๆ อีกมากมาย
2009: ขอข้ามมาปี 2009 เลยครับ โครงการ RFID สะดุดและ การใช้ RFID ในการติดตาม เคสหรือpallet ประสบความล้มเหลวครับ นี่คือจุดหนึ่งซึ่งหากองค์กรท่านหรือบริษัทขาย RFID วาดฝันให้ท่านอาจพังทะลายหรือไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิดได้ ผมจะมาว่าให้ฟังเพิ่มครับ ซึ่งภายหลังวอล์มาร์ตก็เริ่มต้นใหม่ด้วย โครงการ item-level tagging of apparel.
2009: วิกฤตเกิดขึ้นครับ วอล์มาร์ตโล๊ะสินค้ากว่าพันรายการออกจากหิ้ง และมุ่งเน้นสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว และปรับปรุงประสิทธิภาพซัพพลายเชน
2009: วอล์มาร์ตประกาศแผนระยะยาว เพิ่มความยั่งยืนในการบริหารซัพพลายเออร์ เช่น โครงการ กรีนซัพพลายเออร์ ซัพพลายเออร์สกอร์การ์ด (ซึ่งยังใช้จนปัจจุบัน)
.
2010: วอล์มาร์ตพยายามบริหารจัดการ การขนส่งในประเทศ อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเพราะก็มีแรงต้าน พอสมควรจากซัพพลายเออร์
2010: สังเกตุนะครับช่วงปีหลัง ๆ นี่วอล์มาร์ตจะมีนโยบายในการบริหารจัดการซัพพลายเออร์มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น อยากให้มีการเพิ่มคุณค่าจากซัพพลายเออร์เช่นให้เป็นผู้ผลิตผู้ขายผู้ขนพร้อมกันในตัวเช่น ผลไม้ เป็นต้น วอล์มาร์ตอาจจะมีส่วนร่วมลงทุนในบางกรณีสำหรับขายในประเทศ และทั่วโลก
2010: ปีนี้เริ่มโครงการ global sourcing ครับเป้าหมายในการลด คชจ. ในการบริหารจัดการ
2012: มีข่าว scandal ว่า ผบห. ไปมีสินบนกินนอกกินในกับ Mexico แต่ตอนหลังเรื่องก็เลือน ๆ ไป
................
ผมอยากเริ่มต้นจากวอล์มาร์ตเพราะเป็นกรณีศึกษาที่ให้เราเห็นภาพของไอที โดยเฉพาะ B2B ได้ค่อนข้างเร็ว แล้วเราจะมาศึกษาต่อยอดกันต่อถึงที่ว่า ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงอินฟรา ที่ใช้ในระบบต่าง ๆ เป็นอย่างไร บริษัทในไทยในตลาดหุ้นที่ขายอุปกรณ์พวกนี้ขายให้ใครอย่างไร? ได้มาร์จิ้นสูงมั๊ย การแข่งขันเป็นอย่างไร
เมื่อสักประมาณปี 199x ต้น ๆ ผมค่อนข้างจะมีความไม่ชัดเจนเมื่อมีการพูดถึงคำศัพท์ว่า Supply Chain Management คือยังค่อนข้างคลุมเครือ (สำหรับผม) ในขณะนั้น ในขณะที่ระบบ ERP ยังไม่มากเท่าในปัจจุบัน โรงงานในบ้านเราใช้ระบบบัญชี ในขณะที่บางโรงงานอาจมีบ้างที่รู้จัก MRP หรือ MRPII ซึ่ง ณ ขณะนั้น คนส่วนใหญ่จะใช้ mainframe มีเครื่อง mini บ้าง ถ้าเป็น netware lan ก็จะเป็น PC ส่วน Microsoft ยังไม่ต้องพูดถึง ทุกคนมองว่าเป็น home use ณ ขณะนั้น ถ้าจะเขียน database กันเองก็มีเป็น flat file เลยครับ DBMS ก็เริ่มมี อันนี้ผมพูดถึงในไทยนะ ที่บางมดสมัยผมเรียนมี work station ของ Unix อยู่สี่เครื่อง ทั้งสถาบัน จะลงชื่อเข้าใช้ก็นู่น สี่ห้าทุ่มบางทีก็ตีสอง อะไรแบบนั้น
แต่หลังจากนั้นพอระบบ IT มีการพัฒนามากขึ้น บริษัทต่าง ๆ ก็ต้องปรับตัวครับหาระบบมาใช้กันเพื่อให้องค์กรสามารถเชื่อมโยงกับบริษัทคู่ค้าเข้าหากันได้ ผมจำได้ว่าผมเริ่มรู้จักศัพท์คำว่ CPFR, Planning, Forecasting and Replenishment มาพร้อม ๆ กับคำว่า Supply Chain และเนื่องจากในสมัยนั้นยังไม่ค่อยรู้จักคำว่า ซัพพลายเชน และเนื่องจากผมเป็นวิศวะอุตสาหการ ผมเลยเก็ตกับคำว่า CPFR มากกว่าเพราะเรียนเรื่องพวกนี้มาเยอะกว่า และก็เริ่มได้ยินชื่อเสียงของ วอล์มาร์ตมาตั้งแต่นั้น จุดกำเนิดทางด้านไอทีหลายอย่างจนถึงปัจจุบันก็มาจากวอล์มาร์ตนี่หล่ะครับเค้าเป็นบริษัทแรกที่เชื่อมข้อมูลศูนย์กระจายกับสาขาด้วยไอที เริ่มทำ CPFR กับคู่ค้า รวมถึงเรื่อง RFID จนปัจจุบัน ครบ 50 ปี ผมเลยอยากรวบรวมไว้ครับ
1970: วอล์มาร์ต เปิด DC แห่งแรก ก่อนหน้านั้นของถูกส่งจากซัพพลายเออร์หรือผู้ค้าส่ง
1975: วอล์มาร์ตเริ่มใช้ เครื่อง IBM 370/135 บริหารจัดการระบบคลังสินค้า ดีซี และเป็นรีเทลรายแรกที่เชื่อมข้อมูลระหว่างดีซีกับสาขา
1980: ยอดขายแตะ $1 billion in sales
1985: เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย แซม วาลตัน ออกแคมเปญจ์ เมดอินอเมริกา แคมเปญจ์ที่ commit ว่าวอล์มาร์ตซื้อสินค้าที่ผลิตในประเทศ (ตอนหลังยกเลิกไปแล้ว)
1988: เริ่มต้นโครงการ continuous replenishment (CR)
1988: เปิด ซูเปอร์เซ็นเตอร์แห่งแรก เป็น Groceries Store มากกว่าที่จะเป็น General Merchandise
1992: วอล์มาร์ต อิมพลิเมนต์ระบบ Retail Link system ในการบริหารจัดการซัพพลายเชน
1995: วอล์มาร์ต เริ่มโครงการ CPFR Collaborative Planning, Forecasting and Replenishment (CPFR) กับบริษัท Warner Lambert เป็น Pilot project
2000: ลี สก๊อต (Lee Scott), ขึ้นมาเป็นซีอีโอ เค้าเป็น dispatcher ในกลุ่มขนส่งครับ ซึ่งตอนหลังนี้มีบทบาทอย่างสูงในการพัฒนาต่อยอดระบบ logistics ของวอล์มาร์ตต่อมา
2003: BusinessWeek เขียน คอลัมภ์ "Is Walmart too Powerful?"
2004: ปีนี้ครับที่วอล์มาร์ตเริ่มต้น นโยบาย RFID สำหรับ ท็อป 100 ซัพพลายเออร์ สำหรับ ดีซี 3 ดีซีในเท็กซ์ซัส
2004: ปีนี้วอร์มาร์ตเริ่มต้นโครงการ เค้าเรียกว่า Remix ซึ่งเป็นการจัดการเรื่องการลดสินค้าคงคลัง โดยการเพิ่มอัตราการไหลของสินค้าที่มีอัตราการหมุนเวียนสูง
2004: วอล์มาร์ตเริ่มเป็นสารคดี เท็กซ์บุ๊ค ต่าง ๆ เริ่มเขียนถึง ออก CNBC และอื่น ๆ อีกมากมาย
2009: ขอข้ามมาปี 2009 เลยครับ โครงการ RFID สะดุดและ การใช้ RFID ในการติดตาม เคสหรือpallet ประสบความล้มเหลวครับ นี่คือจุดหนึ่งซึ่งหากองค์กรท่านหรือบริษัทขาย RFID วาดฝันให้ท่านอาจพังทะลายหรือไม่ประสบความสำเร็จอย่างที่คิดได้ ผมจะมาว่าให้ฟังเพิ่มครับ ซึ่งภายหลังวอล์มาร์ตก็เริ่มต้นใหม่ด้วย โครงการ item-level tagging of apparel.
2009: วิกฤตเกิดขึ้นครับ วอล์มาร์ตโล๊ะสินค้ากว่าพันรายการออกจากหิ้ง และมุ่งเน้นสินค้าที่มีการเคลื่อนไหวเร็ว และปรับปรุงประสิทธิภาพซัพพลายเชน
2009: วอล์มาร์ตประกาศแผนระยะยาว เพิ่มความยั่งยืนในการบริหารซัพพลายเออร์ เช่น โครงการ กรีนซัพพลายเออร์ ซัพพลายเออร์สกอร์การ์ด (ซึ่งยังใช้จนปัจจุบัน)
.
2010: วอล์มาร์ตพยายามบริหารจัดการ การขนส่งในประเทศ อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด แต่ก็ยังไม่ค่อยประสบความสำเร็จเพราะก็มีแรงต้าน พอสมควรจากซัพพลายเออร์
2010: สังเกตุนะครับช่วงปีหลัง ๆ นี่วอล์มาร์ตจะมีนโยบายในการบริหารจัดการซัพพลายเออร์มากขึ้นเรื่อย ๆ เช่น อยากให้มีการเพิ่มคุณค่าจากซัพพลายเออร์เช่นให้เป็นผู้ผลิตผู้ขายผู้ขนพร้อมกันในตัวเช่น ผลไม้ เป็นต้น วอล์มาร์ตอาจจะมีส่วนร่วมลงทุนในบางกรณีสำหรับขายในประเทศ และทั่วโลก
2010: ปีนี้เริ่มโครงการ global sourcing ครับเป้าหมายในการลด คชจ. ในการบริหารจัดการ
2012: มีข่าว scandal ว่า ผบห. ไปมีสินบนกินนอกกินในกับ Mexico แต่ตอนหลังเรื่องก็เลือน ๆ ไป
................
ผมอยากเริ่มต้นจากวอล์มาร์ตเพราะเป็นกรณีศึกษาที่ให้เราเห็นภาพของไอที โดยเฉพาะ B2B ได้ค่อนข้างเร็ว แล้วเราจะมาศึกษาต่อยอดกันต่อถึงที่ว่า ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ รวมถึงอินฟรา ที่ใช้ในระบบต่าง ๆ เป็นอย่างไร บริษัทในไทยในตลาดหุ้นที่ขายอุปกรณ์พวกนี้ขายให้ใครอย่างไร? ได้มาร์จิ้นสูงมั๊ย การแข่งขันเป็นอย่างไร
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 26
ทีโอทีเดินหน้าลงทุน 3G เฟส 2
15 สิงหาคม 2555 09:10 น.
เปิดแผน 3G TOT เฟส 2 ลงทุน 1.2 หมื่นสถานีฐาน คาดแผนถึงมือสภาพัฒน์ ในเดือนต.ค. ประธานบอร์ด 'พันธ์เทพ' เล็งใช้บล.ภัทรแต่งตัวบริษัทลูกทาวเวอร์โค ให้เสร็จภายในเดือนต.ค.รวบรวมโครงข่ายให้เอกชนเช่า พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สานยุทธศาสตร์เน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์
นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่า ทีโอทีอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุนและให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G เฟส 2 โดยคาดว่าหลังจากบอร์ดทีโอทีอนุมัติ และกระทรวงไอซีทีให้ความเห็นชอบ จะสามารถส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พิจารณาได้ภายในเดือนต.ค.หลังจากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุมครม.ต่อไป
สำหรับการลงทุนในเฟส 2นั้น มีหลักการในวันนี้คือ ทีโอทีจะลงทุนติดตั้งสถานีฐานเองทั้งหมด ไม่มีการขอทำโค-ไซต์ หรือการร่วมเช่าใช้โครงข่ายกับเอกชนรายอื่นเหมือนอย่างที่ทำในเฟสแรก เพราะจะทำให้การติดตั้งเครือข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โดยทีโอทีเตรียมที่จะประสานงานกับหน่วยงานราชการทั่วประเทศ เพื่อขอเช่าใช้สถานที่ราชการเหล่านั้นในการติดตั้งสถานีฐานสำหรับ 3G ในเฟส 2 ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะส่วนราชการนั้นมีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศและน่าจะอำนวยความสะดวกแก่รัฐวิสาหกิจด้วยกัน
'โครงข่ายของ 3G เฟส 2นั้น จะมีการลงทุนในราว 12,000 สถานีฐาน เพื่อบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ'
ทีโอทีจะเข้าหารือกับกสทช.ในเร็วๆ นี้ เพื่อขอใบอนุญาตให้บริการ LTE หรือ 4G ในความถี่ 2.3 GHz ที่ทีโอทีมีแบนด์วิธอยู่ 64 MHz ทั้งนี้ LTE ที่ความถี่ 2.3GHz นั้นจะรวมอยู่ในส่วนหนึ่งของโครงการ 3G เฟส 2 ด้วย โดยการลงทุนอุปกรณ์ LTE นั้น ไม่น่าจะมีปัญหาในการติดตั้ง เพราะจะลงทุนแบบไมโครเซลล์ ที่เล็กและเบามีน้ำหนักเพียง 10 กิโลกรัมต่อสถานีฐานเท่านั้น โดยไมโครเซลล์ของบริการ LTE จะเป็นตัวเชื่อมต่อเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ต่างๆให้สมบูรณ์และครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้เพื่อเดินตามยุทธศาสตร์เน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์หรือผู้ให้บริการโครงข่าย ทีโอทีเตรียมว่าจ้างบล.ภัทร เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการจัดตั้งบริษัท ทาวเวอร์ โค คัมปานี และเตรียมตัวในการเป็นบริษัทย่อยที่จะเข้าขอใบอนุญาตทำธุรกิจให้เช่าโครงข่ายเพื่อให้บริการมือถือในยุคใหม่หรือ Infrastructure sharing company ที่กสทช.เตรียมที่จะให้ใบอนุญาตนี้ในช่วงปลายปีโดยบล.ภัทร มีประสบการณ์ในด้านวาณิชธนกิจ และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มายาวนาน
ทั้งนี้บริษัท ทาวเวอร์ โค คัมปานี ของทีโอทีคาดว่าจะจัดตั้งภายในเดือนต.ค.นี้ โดยบริษัทลูกของทีโอทีจะมีการจัดการกองทุนในรูปผู้ถือหุ้น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันไม่เกิน 50% ขณะที่ทีโอทีจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่มีสัดส่วนไม่เกิน 49% และเมื่อดำเนินงานได้ระยะหนึ่งก็จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานและการระดมทุน โดยจะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มกองทุนเพื่อสาธารณูปโภค และการบริหารงานจะเป็นไปโดยกองทุน
'บริษัททาวเวอร์โค ของทีโอทีไม่มีปัญหาเหมือนของกสท เราเดินหน้าได้ทันที ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการรองรับนโยบายของกระทรวงไอซีที เรื่อง สมาร์ทไทยแลนด์ และบริการไวไฟทั่วประเทศ'
ในการเตรียมพร้อมก่อนตั้งเป็นบริษัททาวเวอร์ โคนั้น ทีโอทีจะทยอยขายหรือโอนทรัพย์สินเข้าไปที่บริษัทย่อย ตั้งแต่โครงข่ายกว่า 13,000 สถานีฐานของเอไอเอสที่ทีโอทีรับโอนมาตามลำดับ และโครงข่าย 3G เฟสแรกที่มีกว่า 5,200 สถานีฐาน โดยวันนี้ติดตั้งดำเนินการได้แล้วกว่า 3,000 สถานีฐานและจะครบทั้ง 5,200ในราวเดือนต.ค. โดยความล่าช้าในการติดตั้งสถานีฐานนอกจากปัญหาอุทกภัยช่วงปลายปีที่แล้ว ยังเกิดจากความล่าช้าในเรื่องโคไซต์กับเอไอเอสและกลุ่มทรู
นอกจากนี้ทีโอทียังมีโครงข่ายรุ่นเก่าที่สามารถประยุกต์มาใช้เป็นโครงข่ายในการให้บริการรุ่นใหม่มากมายที่จะถูกโอนไปที่บริษัทย่อยเช่นเสาซีเมนต์ที่เคยใช้ในการพาดสายเคเบิลทองแดง โดยเสาแบบนี้มีความสูงตั้งแต่ 8-20 เมตร และอยู่ทั่วประเทศกว่า 300,000 ต้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นโครงข่ายยุค 3G-4G รวมทั้งเป็นโครงข่ายระบบสื่อสัญญาณสำหรับบริการไวไฟหรือบริการไร้สายอื่นๆได้ ยิ่งกว่านั้นทีโอทียังมีเสาของบริการ MSAN ที่กระจายตัวในทั่วประเทศอีกกว่า 10,000 ต้น ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้บริการในยุคหน้า และเป็นสินทรัพย์ที่ดีของทีโอทีในการสร้างรายได้จากการเช่าให้กับบริษัทย่อยด้วย
'โครงการของบริษัทย่อย ถ้าเกิดขึ้นมาก็จะเลี้ยงตัวเองได้ และมีสินทรัพย์เป็นเสาโทรคมนาคมมากกว่า 325,000 เสา ซึ่งเพียงพอที่จะดึงดูดนักลงทุนทั้งจากกองทุนที่จะเข้ามาบริหารและผู้ลงทุนหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป นอกจากนี้ในระยะกลางบริษัทย่อยนี้จะมีสินทรัพย์ที่มาจากการโอนทรัพย์สินในโครงข่ายทีโอที 3G เฟส 2 อีกด้วย'
source: http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewN ... 0000100159
15 สิงหาคม 2555 09:10 น.
เปิดแผน 3G TOT เฟส 2 ลงทุน 1.2 หมื่นสถานีฐาน คาดแผนถึงมือสภาพัฒน์ ในเดือนต.ค. ประธานบอร์ด 'พันธ์เทพ' เล็งใช้บล.ภัทรแต่งตัวบริษัทลูกทาวเวอร์โค ให้เสร็จภายในเดือนต.ค.รวบรวมโครงข่ายให้เอกชนเช่า พร้อมดันเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ สานยุทธศาสตร์เน็ตเวิร์กโพรวายเดอร์
นายพันธ์เทพ จำรัสโรมรัน ประธานบอร์ดบริษัท ทีโอที กล่าวว่า ทีโอทีอยู่ระหว่างการจัดทำแผนการลงทุนและให้บริการโทรศัพท์มือถือ 3G เฟส 2 โดยคาดว่าหลังจากบอร์ดทีโอทีอนุมัติ และกระทรวงไอซีทีให้ความเห็นชอบ จะสามารถส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) พิจารณาได้ภายในเดือนต.ค.หลังจากนั้นจะนำเสนอเข้าที่ประชุมครม.ต่อไป
สำหรับการลงทุนในเฟส 2นั้น มีหลักการในวันนี้คือ ทีโอทีจะลงทุนติดตั้งสถานีฐานเองทั้งหมด ไม่มีการขอทำโค-ไซต์ หรือการร่วมเช่าใช้โครงข่ายกับเอกชนรายอื่นเหมือนอย่างที่ทำในเฟสแรก เพราะจะทำให้การติดตั้งเครือข่ายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว โดยทีโอทีเตรียมที่จะประสานงานกับหน่วยงานราชการทั่วประเทศ เพื่อขอเช่าใช้สถานที่ราชการเหล่านั้นในการติดตั้งสถานีฐานสำหรับ 3G ในเฟส 2 ซึ่งไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเพราะส่วนราชการนั้นมีอยู่ทุกพื้นที่ทั่วประเทศและน่าจะอำนวยความสะดวกแก่รัฐวิสาหกิจด้วยกัน
'โครงข่ายของ 3G เฟส 2นั้น จะมีการลงทุนในราว 12,000 สถานีฐาน เพื่อบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ'
ทีโอทีจะเข้าหารือกับกสทช.ในเร็วๆ นี้ เพื่อขอใบอนุญาตให้บริการ LTE หรือ 4G ในความถี่ 2.3 GHz ที่ทีโอทีมีแบนด์วิธอยู่ 64 MHz ทั้งนี้ LTE ที่ความถี่ 2.3GHz นั้นจะรวมอยู่ในส่วนหนึ่งของโครงการ 3G เฟส 2 ด้วย โดยการลงทุนอุปกรณ์ LTE นั้น ไม่น่าจะมีปัญหาในการติดตั้ง เพราะจะลงทุนแบบไมโครเซลล์ ที่เล็กและเบามีน้ำหนักเพียง 10 กิโลกรัมต่อสถานีฐานเท่านั้น โดยไมโครเซลล์ของบริการ LTE จะเป็นตัวเชื่อมต่อเพื่อให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงในพื้นที่ต่างๆให้สมบูรณ์และครอบคลุมมากขึ้น
นอกจากนี้เพื่อเดินตามยุทธศาสตร์เน็ตเวิร์ก โพรวายเดอร์หรือผู้ให้บริการโครงข่าย ทีโอทีเตรียมว่าจ้างบล.ภัทร เข้ามาเป็นที่ปรึกษาในการจัดตั้งบริษัท ทาวเวอร์ โค คัมปานี และเตรียมตัวในการเป็นบริษัทย่อยที่จะเข้าขอใบอนุญาตทำธุรกิจให้เช่าโครงข่ายเพื่อให้บริการมือถือในยุคใหม่หรือ Infrastructure sharing company ที่กสทช.เตรียมที่จะให้ใบอนุญาตนี้ในช่วงปลายปีโดยบล.ภัทร มีประสบการณ์ในด้านวาณิชธนกิจ และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์มายาวนาน
ทั้งนี้บริษัท ทาวเวอร์ โค คัมปานี ของทีโอทีคาดว่าจะจัดตั้งภายในเดือนต.ค.นี้ โดยบริษัทลูกของทีโอทีจะมีการจัดการกองทุนในรูปผู้ถือหุ้น ซึ่งมีสัดส่วนรวมกันไม่เกิน 50% ขณะที่ทีโอทีจะเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่มีสัดส่วนไม่เกิน 49% และเมื่อดำเนินงานได้ระยะหนึ่งก็จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารงานและการระดมทุน โดยจะเข้าจดทะเบียนในกลุ่มกองทุนเพื่อสาธารณูปโภค และการบริหารงานจะเป็นไปโดยกองทุน
'บริษัททาวเวอร์โค ของทีโอทีไม่มีปัญหาเหมือนของกสท เราเดินหน้าได้ทันที ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นการรองรับนโยบายของกระทรวงไอซีที เรื่อง สมาร์ทไทยแลนด์ และบริการไวไฟทั่วประเทศ'
ในการเตรียมพร้อมก่อนตั้งเป็นบริษัททาวเวอร์ โคนั้น ทีโอทีจะทยอยขายหรือโอนทรัพย์สินเข้าไปที่บริษัทย่อย ตั้งแต่โครงข่ายกว่า 13,000 สถานีฐานของเอไอเอสที่ทีโอทีรับโอนมาตามลำดับ และโครงข่าย 3G เฟสแรกที่มีกว่า 5,200 สถานีฐาน โดยวันนี้ติดตั้งดำเนินการได้แล้วกว่า 3,000 สถานีฐานและจะครบทั้ง 5,200ในราวเดือนต.ค. โดยความล่าช้าในการติดตั้งสถานีฐานนอกจากปัญหาอุทกภัยช่วงปลายปีที่แล้ว ยังเกิดจากความล่าช้าในเรื่องโคไซต์กับเอไอเอสและกลุ่มทรู
นอกจากนี้ทีโอทียังมีโครงข่ายรุ่นเก่าที่สามารถประยุกต์มาใช้เป็นโครงข่ายในการให้บริการรุ่นใหม่มากมายที่จะถูกโอนไปที่บริษัทย่อยเช่นเสาซีเมนต์ที่เคยใช้ในการพาดสายเคเบิลทองแดง โดยเสาแบบนี้มีความสูงตั้งแต่ 8-20 เมตร และอยู่ทั่วประเทศกว่า 300,000 ต้น ซึ่งสามารถนำไปประยุกต์ใช้เป็นโครงข่ายยุค 3G-4G รวมทั้งเป็นโครงข่ายระบบสื่อสัญญาณสำหรับบริการไวไฟหรือบริการไร้สายอื่นๆได้ ยิ่งกว่านั้นทีโอทียังมีเสาของบริการ MSAN ที่กระจายตัวในทั่วประเทศอีกกว่า 10,000 ต้น ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อให้บริการในยุคหน้า และเป็นสินทรัพย์ที่ดีของทีโอทีในการสร้างรายได้จากการเช่าให้กับบริษัทย่อยด้วย
'โครงการของบริษัทย่อย ถ้าเกิดขึ้นมาก็จะเลี้ยงตัวเองได้ และมีสินทรัพย์เป็นเสาโทรคมนาคมมากกว่า 325,000 เสา ซึ่งเพียงพอที่จะดึงดูดนักลงทุนทั้งจากกองทุนที่จะเข้ามาบริหารและผู้ลงทุนหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ต่อไป นอกจากนี้ในระยะกลางบริษัทย่อยนี้จะมีสินทรัพย์ที่มาจากการโอนทรัพย์สินในโครงข่ายทีโอที 3G เฟส 2 อีกด้วย'
source: http://www.manager.co.th/Cyberbiz/ViewN ... 0000100159
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- kabu
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2149
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 27
เข้ามาเก็บเกี่ยวความรู้จากพี่ NB ครับ
มารอฟังภาคต่อของเคส วอลมาร์ท
มารอฟังภาคต่อของเคส วอลมาร์ท
"หนทางเดียวที่จะก้าวพ้นขอบเขตของความเป็นไปได้ คือก้าวเข้าสู่ความเป็นไปไม่ได้", Arthur C. Clarke
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
สมุดบันทึก: http://kabuvi.wordpress.com/
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 28
ขอบคุณครับ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 29
เอสเอพีโตต่อเนื่อง 10 ไตรมาส
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2555 16:33 น.
เอสเอพีระบุผลประกอบการไตรมาส 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังแรงไม่ตก โตมากกว่าใครในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ติดกัน 10ไตรมาส โดยไทยยังติดท็อป 3 ประเทศที่เติบโตสูง แจงลูกค้าใหม่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีถึง 95%
นายโทมัส คอนราด แซค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอพี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการของเอสเอพีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 2 ยังคงมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเป็นตัวเลข 2 หลักได้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 10 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทางเอสเอพีมีการลงทุนในนวัตกรรมต่างๆ ทั้งที่พัฒนาขึ้นเองและจากการเข้าซื้อกิจการในเชิงยุทธศาสตร์ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยระบบฐานข้อมูลที่เรียกว่า เอสเอพี ฮาน่า ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเข้าสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้เติบโตสูงสุด 103% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่โซลูชันโมบายล์มีอัตราการเติบโตที่มากกว่าถึง 181% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ เอสเอพี เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นมีรายรับจากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์โตขึ้น 23% ในขณะที่ยอดรายรับโดยรวมโตขึ้น 25%"
สำหรับผลประกอบการในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ติดท็อป 3 ในภูมิภาคนี้ โดยกระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต น้ำมันและก๊าซ โดยเฉพาะตลาดทางด้านโทรคมนาคม และตลาดธนาคาร
"หลายคนมักจะติดภาพว่าเอสเอพีเป็นบริษัทซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ แต่จริงๆ แล้วสัดส่วนรายได้ของเอสเอพีประมาณ 80% มาจากตลาดเอสเอ็มอี ที่เหลือมาจากตลาดองค์กรขนาดใหญ่"
นายโทมัสกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เอสเอพีในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการที่เอสเอพีมีการพัฒนาโครงการอีโคซิสเต็มส์สำหรับพาร์ตเนอร์ที่ช่วยขยายตลาดให้กับเอสเอพีให้เติบโตอย่างรวดเร็ว อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทในประเทศไทยมีความพร้อมที่จะลงทุนระบบไอที โดยทางเอสเอพีเองก็มีโซลูชันที่ตรงความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันบริหารจัดการทางด้านธุรกิจที่เรียกว่า บี1 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ รวมถึงโซลูชันอื่นๆ กว่า 30 โซลูชันให้เลือกใช้ตรงความต้องการขององค์กรในแต่ละอุตสาหกรรม
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ ลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเอสเอ็มอีประมาณ 90-95% ขณะที่ลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่จะเป็นลักษณะของการซื้อโซลูชันเพิ่มเติมมากกว่า"
นายโทมัสยอมรับว่า สัดส่วนการใช้งานซอฟต์แวร์ในรูปแบบเก่าในตลาดประเทศไทยยังคงสูงอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่บริษัทต่างๆ เริ่มหันเปลี่ยนมาใช้โซลูชันใหม่ๆ อย่างเช่นเทคโนโลยีดาต้าเบสที่รวมถึงเอสเอพี ฮาน่า โซลูชันทางด้านโมบิลิตี และระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจหรือบีไอมากขึ้น ซึ่งเอสเอพีมีความพร้อมในโซลูชันใหม่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเซอร์วิสในแบบออนดีมานด์ รวมถึงโซลูชันซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยสามารถตัดสินใจได้ทันทีด้วยข้อมูลวิเคราะห์ธุรกิจในแบบเรียลไทม์รับกับสภาพการแข่งขันในตลาดที่กำลังเปิดเสรี
"สิ่งที่บริษัทในไทยจะนำไปใช้แข่งขันหลังจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนไม่ใช่เรื่องของผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของการบริหารทรัพยากรมนุษย์มากกว่า ซึ่งเอสเอพีมีโซลูชันทางด้านนี้ที่เรียกว่า ซักเซสแฟกเตอร์บนระบบคลาวด์ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างบริษัทซีเมนส์ โคลาโคล่า ที่นำโซลูชันนี้มาใช้แล้ว ปัจจุบันมีผู้ใช้โซลูชันนี้อยู่ทั่วโลก 15 ล้านราย"
นายโทมัสกล่าวว่า สำหรับโซลูชันบนระบบคลาวด์นั้น ทางเอสเอพี ประเทศไทยยังไม่ได้ผลักดันตลาดนี้มากนัก เนื่องจากตลาดคลาวด์ในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีบริษัทใหญ่ๆ ในเมืองไทยที่เริ่มลงทุนโซลูชันซอฟต์แวร์ในระบบคลาวด์มากขึ้น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 16 สิงหาคม 2555 16:33 น.
เอสเอพีระบุผลประกอบการไตรมาส 2 ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังแรงไม่ตก โตมากกว่าใครในอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ติดกัน 10ไตรมาส โดยไทยยังติดท็อป 3 ประเทศที่เติบโตสูง แจงลูกค้าใหม่เป็นกลุ่มเอสเอ็มอีถึง 95%
นายโทมัส คอนราด แซค กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอสเอพี ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ผลประกอบการของเอสเอพีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นในไตรมาสที่ 2 ยังคงมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเป็นตัวเลข 2 หลักได้ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 10 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทางเอสเอพีมีการลงทุนในนวัตกรรมต่างๆ ทั้งที่พัฒนาขึ้นเองและจากการเข้าซื้อกิจการในเชิงยุทธศาสตร์ทำให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น โดยระบบฐานข้อมูลที่เรียกว่า เอสเอพี ฮาน่า ซึ่งเพิ่งเปิดตัวเข้าสู่ตลาดเมื่อไม่นานมานี้เติบโตสูงสุด 103% เมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่โซลูชันโมบายล์มีอัตราการเติบโตที่มากกว่าถึง 181% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ เอสเอพี เอเชียแปซิฟิกและญี่ปุ่นมีรายรับจากซอฟต์แวร์และบริการที่เกี่ยวข้องกับซอฟต์แวร์โตขึ้น 23% ในขณะที่ยอดรายรับโดยรวมโตขึ้น 25%"
สำหรับผลประกอบการในประเทศไทยยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ติดท็อป 3 ในภูมิภาคนี้ โดยกระจายไปในหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมการผลิต น้ำมันและก๊าซ โดยเฉพาะตลาดทางด้านโทรคมนาคม และตลาดธนาคาร
"หลายคนมักจะติดภาพว่าเอสเอพีเป็นบริษัทซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ แต่จริงๆ แล้วสัดส่วนรายได้ของเอสเอพีประมาณ 80% มาจากตลาดเอสเอ็มอี ที่เหลือมาจากตลาดองค์กรขนาดใหญ่"
นายโทมัสกล่าวอีกว่า สาเหตุที่ทำให้เอสเอพีในไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง ส่วนหนึ่งมาจากการที่เอสเอพีมีการพัฒนาโครงการอีโคซิสเต็มส์สำหรับพาร์ตเนอร์ที่ช่วยขยายตลาดให้กับเอสเอพีให้เติบโตอย่างรวดเร็ว อีกส่วนหนึ่งมาจากการที่บริษัทในประเทศไทยมีความพร้อมที่จะลงทุนระบบไอที โดยทางเอสเอพีเองก็มีโซลูชันที่ตรงความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นโซลูชันบริหารจัดการทางด้านธุรกิจที่เรียกว่า บี1 ที่ออกแบบมาสำหรับตลาดเอสเอ็มอีโดยเฉพาะ รวมถึงโซลูชันอื่นๆ กว่า 30 โซลูชันให้เลือกใช้ตรงความต้องการขององค์กรในแต่ละอุตสาหกรรม
"ในไตรมาสที่ 2 นี้ ลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นเอสเอ็มอีประมาณ 90-95% ขณะที่ลูกค้าที่เป็นบริษัทขนาดใหญ่จะเป็นลักษณะของการซื้อโซลูชันเพิ่มเติมมากกว่า"
นายโทมัสยอมรับว่า สัดส่วนการใช้งานซอฟต์แวร์ในรูปแบบเก่าในตลาดประเทศไทยยังคงสูงอยู่ แต่ก็มีแนวโน้มที่บริษัทต่างๆ เริ่มหันเปลี่ยนมาใช้โซลูชันใหม่ๆ อย่างเช่นเทคโนโลยีดาต้าเบสที่รวมถึงเอสเอพี ฮาน่า โซลูชันทางด้านโมบิลิตี และระบบวิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจหรือบีไอมากขึ้น ซึ่งเอสเอพีมีความพร้อมในโซลูชันใหม่เหล่านี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเซอร์วิสในแบบออนดีมานด์ รวมถึงโซลูชันซอฟต์แวร์บนระบบคลาวด์ ที่จะช่วยให้องค์กรธุรกิจในประเทศไทยสามารถตัดสินใจได้ทันทีด้วยข้อมูลวิเคราะห์ธุรกิจในแบบเรียลไทม์รับกับสภาพการแข่งขันในตลาดที่กำลังเปิดเสรี
"สิ่งที่บริษัทในไทยจะนำไปใช้แข่งขันหลังจากเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเชียนไม่ใช่เรื่องของผลิตภัณฑ์ แต่เป็นเรื่องของการบริหารทรัพยากรมนุษย์มากกว่า ซึ่งเอสเอพีมีโซลูชันทางด้านนี้ที่เรียกว่า ซักเซสแฟกเตอร์บนระบบคลาวด์ ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถบริหารจัดการบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างบริษัทซีเมนส์ โคลาโคล่า ที่นำโซลูชันนี้มาใช้แล้ว ปัจจุบันมีผู้ใช้โซลูชันนี้อยู่ทั่วโลก 15 ล้านราย"
นายโทมัสกล่าวว่า สำหรับโซลูชันบนระบบคลาวด์นั้น ทางเอสเอพี ประเทศไทยยังไม่ได้ผลักดันตลาดนี้มากนัก เนื่องจากตลาดคลาวด์ในประเทศไทยยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น แต่ก็มีบริษัทใหญ่ๆ ในเมืองไทยที่เริ่มลงทุนโซลูชันซอฟต์แวร์ในระบบคลาวด์มากขึ้น
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/
- Nevercry.boy
- Verified User
- โพสต์: 4641
- ผู้ติดตาม: 0
Re: รวมข่าว และ ความรู้ อุตสาหกรรมไอที
โพสต์ที่ 30
"โซนี่โมบายล์"ปรับทัพ หั่นคน-ย้ายฐานไปญี่ปุ่น
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2555 09:36 น.
หน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโซนี่ "โซนี่โมบายล์ (Sony Mobile)" ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 1,000 คน พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่จากเมือง Lund ในสวีเดนกลับโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนี้ ถือเป็นสัญญาณแยกจากบริษัทร่วมทุน "อีริกสัน (Ericsson)" อย่างเป็นทางการ หลังโซนี่ซื้อคืนหุ้นทั้งหมดเมื่อ 6 เดือนก่อน
การปรับโครงสร้างโซนี่โมบายล์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ"โซนี่อีริกสัน" ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โซนี่และอีริกสันเคยร่วมทุนในชื่อบริษัท Sony Ericsson Mobile Communications โดยแผนเลย์ออฟพนักงาน 1,000 คนนี้มีสัดส่วนเท่ากับ 15% คาดว่าพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในสำนักงานใหญ่ดั้งเดิมในเมือง Lund ประเทศสวีเดน
เบื้องต้นคาดว่าพนักงานกว่า 650 คนในสำนักงานใหญ่เมือง Lund อาจจะได้รับผลกระทบจากแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานใหญ่ใน Lund จะยังคงดำเนินการต่อไป ท่ามกลางพนักงานกว่า 2,000 คนที่จะดำเนินงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเช่นเดิม
โซนี่โมบายล์กำหนดกรอบเวลาปรับโครงสร้างให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือนมีนาคม 2014 เป้าหมายของการปรับลดพนักงานกว่า 15% ในครั้งนี้คือการลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทสามารถกลับมาทำกำไรได้มากขึ้น
นอกจากปรับโครงสร้าง โซนี่โมบายล์มีแผนดำเนินการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยการผนึกธุรกิจอื่นๆที่ประสบความสำเร็จของโซนี่เข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ทั้งหมดนี้โซนี่เชื่อมั่นว่าสินค้าในเครือโซนี่นี้เองที่จะเป็นจุดแข็งให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟนได้
ที่ผ่านมา โซนี่อีริกสันหรือที่เปลี่ยนเป็นโซนี่โมบายล์ในขณะนี้ต้องพยายามกู้วิกฤติในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งคู่แข่งสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า โดยถึงขณะนี้ โซนี่ยังคงเชื่อมั่นว่าสินค้าตระกูลเอ็กซ์เพอเรีย (Xperia) จะไปได้ดีในตลาด พร้อมกับคาดการณ์ว่าเอ็กซ์เพอเรียจะมียอดขายเกิน 12% ของตลาดสินค้าแอนดรอยด์รวม (Android)
ยอดขาย 12% นี้ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง (Samsung) ที่การสำรวจล่าสุดพบว่าสามารถครองตลาดได้ถึง 41% ตอกย้ำดีกรีความเป็นอันดับ 1 ของซัมซุงมากขึ้นอีกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ไม่เพียงโซนี่โมบายล์ บริษัทแม่อย่างโซนี่คอร์ปอเรชัน (Sony Corporation) ก็อยู่ในช่วงฟื้นตัวเช่นกัน โดยล่าสุดโซนี่ใหญ่ประกาศผลขาดทุนสุทธิ 312 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสปัจจุบัน
สำหรับโอกาสในการฟื้นตัวของโซนี่โมบายล์ นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่ตั้งตารอว่าโซนี่จะเปิดตัวสินค้าใดในงาน IFA มหกรรมสินค้าคอนซูเมอร์ที่จะจัดขึ้นในกรุงเบอร์ลินช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชี้ว่าโซนี่โมบายล์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหรือไม่
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 27 สิงหาคม 2555 09:36 น.
หน่วยธุรกิจโทรศัพท์มือถือของโซนี่ "โซนี่โมบายล์ (Sony Mobile)" ประกาศแผนเลิกจ้างพนักงาน 1,000 คน พร้อมย้ายสำนักงานใหญ่จากเมือง Lund ในสวีเดนกลับโตเกียวประเทศญี่ปุ่นในเดือนตุลาคมนี้ ถือเป็นสัญญาณแยกจากบริษัทร่วมทุน "อีริกสัน (Ericsson)" อย่างเป็นทางการ หลังโซนี่ซื้อคืนหุ้นทั้งหมดเมื่อ 6 เดือนก่อน
การปรับโครงสร้างโซนี่โมบายล์ครั้งนี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดของ"โซนี่อีริกสัน" ซึ่งเป็นแบรนด์ที่โซนี่และอีริกสันเคยร่วมทุนในชื่อบริษัท Sony Ericsson Mobile Communications โดยแผนเลย์ออฟพนักงาน 1,000 คนนี้มีสัดส่วนเท่ากับ 15% คาดว่าพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นพนักงานในสำนักงานใหญ่ดั้งเดิมในเมือง Lund ประเทศสวีเดน
เบื้องต้นคาดว่าพนักงานกว่า 650 คนในสำนักงานใหญ่เมือง Lund อาจจะได้รับผลกระทบจากแผนปรับโครงสร้างครั้งนี้ อย่างไรก็ตาม สำนักงานใหญ่ใน Lund จะยังคงดำเนินการต่อไป ท่ามกลางพนักงานกว่า 2,000 คนที่จะดำเนินงานด้านพัฒนาซอฟต์แวร์และแอปพลิเคชันเช่นเดิม
โซนี่โมบายล์กำหนดกรอบเวลาปรับโครงสร้างให้แล้วเสร็จภายในปลายเดือนมีนาคม 2014 เป้าหมายของการปรับลดพนักงานกว่า 15% ในครั้งนี้คือการลดค่าใช้จ่ายให้บริษัทสามารถกลับมาทำกำไรได้มากขึ้น
นอกจากปรับโครงสร้าง โซนี่โมบายล์มีแผนดำเนินการเข้าถึงผู้บริโภคด้วยการผนึกธุรกิจอื่นๆที่ประสบความสำเร็จของโซนี่เข้ากับอุปกรณ์สมาร์ทโฟน ทั้งหมดนี้โซนี่เชื่อมั่นว่าสินค้าในเครือโซนี่นี้เองที่จะเป็นจุดแข็งให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดสมาร์ทโฟนได้
ที่ผ่านมา โซนี่อีริกสันหรือที่เปลี่ยนเป็นโซนี่โมบายล์ในขณะนี้ต้องพยายามกู้วิกฤติในตลาดสมาร์ทโฟน ซึ่งคู่แข่งสามารถครองส่วนแบ่งตลาดได้มากกว่า โดยถึงขณะนี้ โซนี่ยังคงเชื่อมั่นว่าสินค้าตระกูลเอ็กซ์เพอเรีย (Xperia) จะไปได้ดีในตลาด พร้อมกับคาดการณ์ว่าเอ็กซ์เพอเรียจะมียอดขายเกิน 12% ของตลาดสินค้าแอนดรอยด์รวม (Android)
ยอดขาย 12% นี้ยังถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับยักษ์ใหญ่อย่างซัมซุง (Samsung) ที่การสำรวจล่าสุดพบว่าสามารถครองตลาดได้ถึง 41% ตอกย้ำดีกรีความเป็นอันดับ 1 ของซัมซุงมากขึ้นอีกในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา
ไม่เพียงโซนี่โมบายล์ บริษัทแม่อย่างโซนี่คอร์ปอเรชัน (Sony Corporation) ก็อยู่ในช่วงฟื้นตัวเช่นกัน โดยล่าสุดโซนี่ใหญ่ประกาศผลขาดทุนสุทธิ 312 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งคาดว่าจะฟื้นตัวในช่วงไตรมาสปัจจุบัน
สำหรับโอกาสในการฟื้นตัวของโซนี่โมบายล์ นักสังเกตการณ์ส่วนใหญ่ตั้งตารอว่าโซนี่จะเปิดตัวสินค้าใดในงาน IFA มหกรรมสินค้าคอนซูเมอร์ที่จะจัดขึ้นในกรุงเบอร์ลินช่วงสัปดาห์หน้า ซึ่งจะเป็นหนึ่งในสัญญาณที่ชี้ว่าโซนี่โมบายล์จะกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้งหรือไม่
เด็กผู้ชายไม่ร้องไห้
http://nevercry-boy.blogspot.com/
http://nevercry-boy.blogspot.com/