เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
- crazyrisk
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 4562
- ผู้ติดตาม: 0
เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 1
เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
updated: 10 ก.ค. 2555 เวลา 09:22:53 น.
สันติธาร เสถียรไทย
คอลัมน์ คิดนอกกรอบ
โดย สันติธาร เสถียรไทย ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและอินเดีย ธนาคารเครดิตสวิส สิงคโปร์
ถ้าดูความเป็นมาและประวัติศาสตร์ประเทศฟิลิปปินส์ เราจะรู้ว่าฟิลิปปินส์เคยเป็นศูนย์กลางของความเจริญในเอเชีย ที่มีกรุงมะนิลาเป็นใจกลางของประเทศ และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูง ตั้งแต่สมัยรุ่งเรืองของยุค ค.ศ. 1980
แต่ด้วยปัญหาคอร์รัปชั่นและความไม่มั่นคงทางการเมืองติดต่อกันมาหลายปี
ปิด ท้ายด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ "ต้มยำกุ้ง" เมื่อปี พ.ศ. 2540 ทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์โดนพายุแห่งวิกฤตการเงินทำลายจนกลายเป็นเศรษฐกิจที่ ถูกมองข้าม และประเทศเต็มไปด้วยคนยากจน ซึ่งสามารถเห็นได้จากสภาพของกรุงมะนิลาที่เต็มไปด้วยสลัม มลพิษสูง ถนนหนทางกับระบบการคมนาคมดูล้าสมัย และไม่เหลือเงาของผู้นำทางความยิ่งใหญ่ในอดีต
แต่วันนี้เราไม่ควรมอง ข้ามประเทศฟิลิปปินส์อีกต่อไปแล้ว เพราะขณะที่คนไทยกำลังดูแต่ความเจริญของประเทศจีน เราอาจจะลืมดูประเทศอื่น ๆ ที่ใกล้ตัวเรา เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา GDP ของประเทศฟิลิปปินส์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5% (ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 4% ตัวเลขนี้ยังไม่คำนวณรวมไปถึงความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม) เรื่องของเงินเฟ้อที่เคยเป็นปัญหาของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อต้นปีนี้ก็ลงมาอยู่ในช่วง 3% ถึงแม้หนี้สาธารณะต่อ GDP จะยังสูงกว่า 50% ซึ่งสูงกว่าประเทศไทยที่อยู่ที่ 41% แต่ฟิลิปปินส์ก็มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องทุกปี
อัตราส่วนที่ สำคัญที่สุดตัวหนึ่ง คืออัตราเงินตราสำรองต่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นของประเทศฟิลิปปินส์นั้นสูงก ว่า 1 (ถือว่าปลอดภัยตามกฎเกณฑ์ที่นักเศรษฐศาสตร์ รู้จักกันในชื่อว่า Guodotti-Greenspan Rule ที่เป็นสัญญาณเตือนภัยวิกฤตที่สำคัญมากตัวหนึ่ง) และก็สูงที่สุดในอาเซียนด้วย
ขนาด Fitch หน่วยงานที่ชำนาญการจัดอันดับเครดิต ก็เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ในปี ที่ผ่านมา (2554) ทําให้ประเทศฟิลิปปินส์อยู่แค่หนึ่งระดับต่ำกว่า Investment Grade ตามหลังอินโดนีเซียที่เพิ่งได้รับการยกระดับ เป็น Investment Grade ในปีที่แล้ว
และไม่นานนี้ S&P และ Moody′s ยังบอกว่าอยากจะเพิ่มอันดับของประเทศฟิลิปปินส์ให้อยู่ระดับเดียวกับที่ Fitch ให้เช่นกัน ซึ่งคิดว่าอีกไม่นาน
เรื่องอันดับความน่าเชื่อถือนี้มีความสําคัญ เพราะเป็นเงื่อนไขที่ทําให้ประเทศกู้เงินได้ง่ายขึ้น
สำหรับ ประเทศฟิลิปปินส์เวลานี้ ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น คนที่เล่นหุ้นอาจจะทราบว่าตอนนี้ตลาดฟิลิปปินส์มาแรงเช่นกัน และเมื่อปีที่แล้วดัชนีหุ้นฟิลิปปินส์ถูกจัดไปเป็นตลาดที่มีผลงานดีถึง อันดับ 2 ในเอเชีย ส่วนในปีนี้ (2555) ก็มาแรงเป็นอันดับ 1 อีกเช่นกัน
เหตุปัจจัยใดที่ทำให้ฟิลิปปินส์มาแรงถึงขนาดที่เราแทบหันกลับไปมองไม่ทัน !!
นักเศรษฐศาสตร์เดินดินให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเล่าถึงโฉมหน้าใหม่ของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์
"หาก ไปมะนิลาต้องไปมาคาติ" เป็นคำพูดของคนที่เคยไปประเทศฟิลิปปินส์สมัยก่อนบอกเล่ากัน แต่มา ณ ปัจจุบันยังมีอย่างน้อยอีกแห่งหนึ่งที่ไปกรุงมะนิลาแล้วต้องไปดูด้วย คือ Fort Bonifacio อยู่ไม่ไกลกันนัก
แล้วหากใครไปเยือน Fort Bonificio แวบแรกที่เห็น จะต้องคิดว่าที่นี่ต้องเป็นศูนย์กลางการเงินแบบย่านสาทรหรือสีลมของกรุงเทพฯ แน่ ๆ เพราะมีธนาคารและสถาบันการเงินมากมาย และหากเดินดู
รอบ ๆ เขตนี้ จะเห็นว่าถนนหนทางสะอาดสะอ้านใหม่เอี่ยมมาก จนดูเหมือนถนนในประเทศสิงคโปร์ก็ว่าได้
แต่ ความจริงแล้วถิ่นนี้ไม่ใช่ถิ่นการเงินการธนาคารของฟิลิปปินส์เสียทีเดียว เพราะตึกสูงเหล่านี้คือออฟฟิศของทีมที่คอยสนับสนุนบริการต่าง ๆ ของธนาคารอีกที (Back office support) ตั้งแต่คอยเป็นหน้าฉากคุยกับลูกค้าเรื่องบัตรเครดิต จนถึงทําเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ บริหารเก็บข้อมูลสําคัญให้ธนาคาร โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโทร.ศูนย์ (Call Center) ที่บางคนอาจจะคุ้นเคยจากประเทศอินเดีย อย่างในภาพยนตร์เรื่อง Slumdog Millionaire
"โทรศูนย์" เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ BPO หรือ Business Process Outsourcing ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อธนาคารและบริษัทนานาชาติขนาดใหญ่ได้ใช้วิธีนี้ในการลดต้นทุน เมื่อราคาการสื่อสารข้ามประเทศนั้นถูกลง
สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือประเทศฟิลิปปินส์ในตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดของ BPO ประเภท voice มากกว่าประเทศอินเดียเสียอีก
และ ด้วยความที่ธุรกิจนี้โตเร็วมาก จึงทำให้ยอดการขายเพิ่มขึ้นปีละกว่า 40% ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจโลก และหลังจากนั้นก็ยังโตได้ปีละ 20% จนถึงตอนนี้ ธุรกิจ BPO มีการเติบโตประมาณ 6% ของ GDP ซึ่งใกล้ ๆ กับสัดส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใน GDP ของไทยเลยทีเดียว
อย่าง ไรก็ดี แม้ว่าสัดส่วนใน GDP ของธุรกิจ BPO ยังไม่ถึงกับใหญ่มากนัก แต่ Call center ก็ยังมีความสำคัญทางอ้อมอีก เพราะคนเหล่านี้ทำงานกัน 24 ชั่วโมง ฉะนั้น บริเวณรอบ ๆ สำนักงานจึงต้องมีร้านอาหาร หอพัก และสถานบันเทิงต่าง ๆ สรุปคือกลายเป็นเมืองเล็ก ๆ ขึ้นมา ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีผลพลอยได้ไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เองรัฐบาล ฟิลิปปินส์จึงผลักดันให้ธุรกิจ BPO เกิดขึ้นในหลายเมือง เพื่อกระจายความเจริญออกไปจากกรุงมะนิลา เช่น เมืองเซบู และดาเวา
กล่าว แบบให้เข้าใจกันง่าย ๆ คือถ้าประเทศอย่างจีน มาเลเซีย หรือไทยเราเติบโตด้วยการเป็น "โรงงาน" ให้กับโลก ฟิลิปปินส์กับอินเดียก็เป็นออฟฟิศ (back office) ให้โลกนั่นเอง
แต่...อย่า เพิ่งคิดว่านี่คือคำตอบว่าทำไมเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในเวลานี้ถึงมาแรง ต้องขอบอกว่า "ยังไม่ใช่ทั้งหมดครับ" อยากรู้ว่าอะไรทำให้ฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปจนต้องเหลียวหลังมอง ต้องติดตามกันวันหลั
updated: 10 ก.ค. 2555 เวลา 09:22:53 น.
สันติธาร เสถียรไทย
คอลัมน์ คิดนอกกรอบ
โดย สันติธาร เสถียรไทย ฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจอาเซียนและอินเดีย ธนาคารเครดิตสวิส สิงคโปร์
ถ้าดูความเป็นมาและประวัติศาสตร์ประเทศฟิลิปปินส์ เราจะรู้ว่าฟิลิปปินส์เคยเป็นศูนย์กลางของความเจริญในเอเชีย ที่มีกรุงมะนิลาเป็นใจกลางของประเทศ และเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยตึกสูง ตั้งแต่สมัยรุ่งเรืองของยุค ค.ศ. 1980
แต่ด้วยปัญหาคอร์รัปชั่นและความไม่มั่นคงทางการเมืองติดต่อกันมาหลายปี
ปิด ท้ายด้วยวิกฤตเศรษฐกิจ "ต้มยำกุ้ง" เมื่อปี พ.ศ. 2540 ทำให้เศรษฐกิจฟิลิปปินส์โดนพายุแห่งวิกฤตการเงินทำลายจนกลายเป็นเศรษฐกิจที่ ถูกมองข้าม และประเทศเต็มไปด้วยคนยากจน ซึ่งสามารถเห็นได้จากสภาพของกรุงมะนิลาที่เต็มไปด้วยสลัม มลพิษสูง ถนนหนทางกับระบบการคมนาคมดูล้าสมัย และไม่เหลือเงาของผู้นำทางความยิ่งใหญ่ในอดีต
แต่วันนี้เราไม่ควรมอง ข้ามประเทศฟิลิปปินส์อีกต่อไปแล้ว เพราะขณะที่คนไทยกำลังดูแต่ความเจริญของประเทศจีน เราอาจจะลืมดูประเทศอื่น ๆ ที่ใกล้ตัวเรา เช่น ประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์
ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา GDP ของประเทศฟิลิปปินส์เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 5% (ของประเทศไทยอยู่ที่ประมาณ 4% ตัวเลขนี้ยังไม่คำนวณรวมไปถึงความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม) เรื่องของเงินเฟ้อที่เคยเป็นปัญหาของประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อต้นปีนี้ก็ลงมาอยู่ในช่วง 3% ถึงแม้หนี้สาธารณะต่อ GDP จะยังสูงกว่า 50% ซึ่งสูงกว่าประเทศไทยที่อยู่ที่ 41% แต่ฟิลิปปินส์ก็มีการปรับตัวมาอย่างต่อเนื่องทุกปี
อัตราส่วนที่ สำคัญที่สุดตัวหนึ่ง คืออัตราเงินตราสำรองต่างประเทศต่อหนี้ระยะสั้นของประเทศฟิลิปปินส์นั้นสูงก ว่า 1 (ถือว่าปลอดภัยตามกฎเกณฑ์ที่นักเศรษฐศาสตร์ รู้จักกันในชื่อว่า Guodotti-Greenspan Rule ที่เป็นสัญญาณเตือนภัยวิกฤตที่สำคัญมากตัวหนึ่ง) และก็สูงที่สุดในอาเซียนด้วย
ขนาด Fitch หน่วยงานที่ชำนาญการจัดอันดับเครดิต ก็เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรรัฐบาลให้แก่ประเทศฟิลิปปินส์ในปี ที่ผ่านมา (2554) ทําให้ประเทศฟิลิปปินส์อยู่แค่หนึ่งระดับต่ำกว่า Investment Grade ตามหลังอินโดนีเซียที่เพิ่งได้รับการยกระดับ เป็น Investment Grade ในปีที่แล้ว
และไม่นานนี้ S&P และ Moody′s ยังบอกว่าอยากจะเพิ่มอันดับของประเทศฟิลิปปินส์ให้อยู่ระดับเดียวกับที่ Fitch ให้เช่นกัน ซึ่งคิดว่าอีกไม่นาน
เรื่องอันดับความน่าเชื่อถือนี้มีความสําคัญ เพราะเป็นเงื่อนไขที่ทําให้ประเทศกู้เงินได้ง่ายขึ้น
สำหรับ ประเทศฟิลิปปินส์เวลานี้ ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจที่ดูดีขึ้น คนที่เล่นหุ้นอาจจะทราบว่าตอนนี้ตลาดฟิลิปปินส์มาแรงเช่นกัน และเมื่อปีที่แล้วดัชนีหุ้นฟิลิปปินส์ถูกจัดไปเป็นตลาดที่มีผลงานดีถึง อันดับ 2 ในเอเชีย ส่วนในปีนี้ (2555) ก็มาแรงเป็นอันดับ 1 อีกเช่นกัน
เหตุปัจจัยใดที่ทำให้ฟิลิปปินส์มาแรงถึงขนาดที่เราแทบหันกลับไปมองไม่ทัน !!
นักเศรษฐศาสตร์เดินดินให้คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ โดยเล่าถึงโฉมหน้าใหม่ของเศรษฐกิจฟิลิปปินส์
"หาก ไปมะนิลาต้องไปมาคาติ" เป็นคำพูดของคนที่เคยไปประเทศฟิลิปปินส์สมัยก่อนบอกเล่ากัน แต่มา ณ ปัจจุบันยังมีอย่างน้อยอีกแห่งหนึ่งที่ไปกรุงมะนิลาแล้วต้องไปดูด้วย คือ Fort Bonifacio อยู่ไม่ไกลกันนัก
แล้วหากใครไปเยือน Fort Bonificio แวบแรกที่เห็น จะต้องคิดว่าที่นี่ต้องเป็นศูนย์กลางการเงินแบบย่านสาทรหรือสีลมของกรุงเทพฯ แน่ ๆ เพราะมีธนาคารและสถาบันการเงินมากมาย และหากเดินดู
รอบ ๆ เขตนี้ จะเห็นว่าถนนหนทางสะอาดสะอ้านใหม่เอี่ยมมาก จนดูเหมือนถนนในประเทศสิงคโปร์ก็ว่าได้
แต่ ความจริงแล้วถิ่นนี้ไม่ใช่ถิ่นการเงินการธนาคารของฟิลิปปินส์เสียทีเดียว เพราะตึกสูงเหล่านี้คือออฟฟิศของทีมที่คอยสนับสนุนบริการต่าง ๆ ของธนาคารอีกที (Back office support) ตั้งแต่คอยเป็นหน้าฉากคุยกับลูกค้าเรื่องบัตรเครดิต จนถึงทําเรื่องระบบคอมพิวเตอร์ บริหารเก็บข้อมูลสําคัญให้ธนาคาร โดยส่วนใหญ่แล้วจะเป็นโทร.ศูนย์ (Call Center) ที่บางคนอาจจะคุ้นเคยจากประเทศอินเดีย อย่างในภาพยนตร์เรื่อง Slumdog Millionaire
"โทรศูนย์" เป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ BPO หรือ Business Process Outsourcing ซึ่งเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อธนาคารและบริษัทนานาชาติขนาดใหญ่ได้ใช้วิธีนี้ในการลดต้นทุน เมื่อราคาการสื่อสารข้ามประเทศนั้นถูกลง
สิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง คือประเทศฟิลิปปินส์ในตอนนี้มีส่วนแบ่งตลาดของ BPO ประเภท voice มากกว่าประเทศอินเดียเสียอีก
และ ด้วยความที่ธุรกิจนี้โตเร็วมาก จึงทำให้ยอดการขายเพิ่มขึ้นปีละกว่า 40% ก่อนวิกฤตเศรษฐกิจโลก และหลังจากนั้นก็ยังโตได้ปีละ 20% จนถึงตอนนี้ ธุรกิจ BPO มีการเติบโตประมาณ 6% ของ GDP ซึ่งใกล้ ๆ กับสัดส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวใน GDP ของไทยเลยทีเดียว
อย่าง ไรก็ดี แม้ว่าสัดส่วนใน GDP ของธุรกิจ BPO ยังไม่ถึงกับใหญ่มากนัก แต่ Call center ก็ยังมีความสำคัญทางอ้อมอีก เพราะคนเหล่านี้ทำงานกัน 24 ชั่วโมง ฉะนั้น บริเวณรอบ ๆ สำนักงานจึงต้องมีร้านอาหาร หอพัก และสถานบันเทิงต่าง ๆ สรุปคือกลายเป็นเมืองเล็ก ๆ ขึ้นมา ทำให้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มีผลพลอยได้ไปด้วย
ด้วยเหตุนี้เองรัฐบาล ฟิลิปปินส์จึงผลักดันให้ธุรกิจ BPO เกิดขึ้นในหลายเมือง เพื่อกระจายความเจริญออกไปจากกรุงมะนิลา เช่น เมืองเซบู และดาเวา
กล่าว แบบให้เข้าใจกันง่าย ๆ คือถ้าประเทศอย่างจีน มาเลเซีย หรือไทยเราเติบโตด้วยการเป็น "โรงงาน" ให้กับโลก ฟิลิปปินส์กับอินเดียก็เป็นออฟฟิศ (back office) ให้โลกนั่นเอง
แต่...อย่า เพิ่งคิดว่านี่คือคำตอบว่าทำไมเศรษฐกิจฟิลิปปินส์ในเวลานี้ถึงมาแรง ต้องขอบอกว่า "ยังไม่ใช่ทั้งหมดครับ" อยากรู้ว่าอะไรทำให้ฟิลิปปินส์เปลี่ยนไปจนต้องเหลียวหลังมอง ต้องติดตามกันวันหลั
"Champions aren't made in gyms. Champions are made from something they have deep inside them: A desire, a dream, a vision.
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 2
วันหลังมาถึงยังคับ รออ่านคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 18364
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 3
สิ่งแรกคือ ค่าแรง ฟิลิปปินส์เ็ป็นประเทศที่มีค่าแรงถูก เมื่อเทียบกับไทย
สิ่งที่สองคือ ด้านประชากรของฟิลิปปินส์ มีคนเกิดมากกว่า เป็นรูปปีระมิด ไม่เหมือนของไทยที่ประชากรเกิดน้อยลง
สิ่งที่สามคือ ภาษาอังกฤษ เพราะฟิลิปปินส์ เป็นอดีตเมืองขึ้นของ สเปน และ อเมริกา
แต่อย่างไงก็ตาม สิ่งที่ทำให้ฟิลิปปินส์เสียเปรียบคือ
ภัยธรรมชาติ ไล่ตั้งแต่ พายุพัดถล่มอยู่เสมอทุกปี
ภัยทางด้านก่อการร้าย (ระยะหลังลดลง) รายงานข่าวเรื่องนี้ลดลงแล้ว
ภัยทางด้านแผ่นดินไหว และ ภูเขาไฟระเบิด เพราะ ประเทศนี้อยู่ในแนวของ Ring of Fire สำคัญของโลก
สิ่งที่สองคือ ด้านประชากรของฟิลิปปินส์ มีคนเกิดมากกว่า เป็นรูปปีระมิด ไม่เหมือนของไทยที่ประชากรเกิดน้อยลง
สิ่งที่สามคือ ภาษาอังกฤษ เพราะฟิลิปปินส์ เป็นอดีตเมืองขึ้นของ สเปน และ อเมริกา
แต่อย่างไงก็ตาม สิ่งที่ทำให้ฟิลิปปินส์เสียเปรียบคือ
ภัยธรรมชาติ ไล่ตั้งแต่ พายุพัดถล่มอยู่เสมอทุกปี
ภัยทางด้านก่อการร้าย (ระยะหลังลดลง) รายงานข่าวเรื่องนี้ลดลงแล้ว
ภัยทางด้านแผ่นดินไหว และ ภูเขาไฟระเบิด เพราะ ประเทศนี้อยู่ในแนวของ Ring of Fire สำคัญของโลก
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 4
ปีแล้วประชากรฟิลิปปินส์ 94 ล้านคนแล้วนะครับ
และคงจะถึง 100 ล้านคนในเร็วๆนี้ เพราะคนที่นั้นเค้าเป็นศาสนาคริสแบบเคร่ง ห้ามคุมกำเนิด
ถ้าดูปัจจัยด้านประชากร แรงงาน ทำให้เป็นเหมือนประเทศวัยรุ่น และดูมีแรงที่จะทำอะไรได้อีกมากในอนาคต
ต่างจากประเทศที่กำลังจะเข้าสู่ aging society ทั้งหลาย ที่เริ่มดูอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
และคงจะถึง 100 ล้านคนในเร็วๆนี้ เพราะคนที่นั้นเค้าเป็นศาสนาคริสแบบเคร่ง ห้ามคุมกำเนิด
ถ้าดูปัจจัยด้านประชากร แรงงาน ทำให้เป็นเหมือนประเทศวัยรุ่น และดูมีแรงที่จะทำอะไรได้อีกมากในอนาคต
ต่างจากประเทศที่กำลังจะเข้าสู่ aging society ทั้งหลาย ที่เริ่มดูอ่อนแรงลงเรื่อยๆ
- leaderinshadow
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1765
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 5
http://www.rappler.com/business/10420-p ... -economist
Strongest performing Asian economy? The Philippines
MANILA, Philippines - The Philippines is the brightest economic star in Asia now, according to an economist of multinational Deutsche Bank AG.
In an August 9 interview with Bloomberg's Susan Li, Duetsche's chief economist for Asia Michael Spencer touted the Philippines as the strongest as well as the safest place for funds to be.
"The strongest performing economy in Asia today is the Philippines," he said when Li asked him where the best place to be across the Asia-Pacific region.
This southeast Asian country recorded an impressive 6.4% growth in the first 3 months, making it the best performing economy in the region next to China.
Spencer's bold pronouncements is the newest addition to the long-awaited attention from foreign investors that had traditionally included only neighbors Thailand, Malaysia and Indonesia in their investment radar.
Already, eastward-bound hot money have made it to the Philippine Stock Exchange, which hit record highs almost 20-times since President Aquino took over in 2010.
Is Philippines safe?
Bloomberg's Li quickly followed-up Spencer: "Safest, as well?"
It's a question constantly considered by fund managers who have been stuck in western countries previously considered safe but are now in economic crisis.
To stress that the Philippines is indeed safe, Spencer cited the country's relatively low trade exposure to the U.S. and Europe, both now experiencing fiscal pains.
"Historically it's at least been very less dependent on the U.S. and Europe. Although what's really been driving growth today is exports [which is] surprisingly enough for them," said Spencer.
"There seem to be exports to Japan. I suspect there's something of a Japan outsourcing after the earthquakes last year from the Philippines. They've suddenly have discovered a billion dollars a month almost is the last two or 3 months. For them it's huge," said the chief economist.
Other economists and investors have also noted the Philippines relatively low budget deficit of 2.6% of gross domestic product (GDP), a measure of the overall economy.
A low deficit-to-GDP ratio is a traditional indicator that the country has the ability to pay back its debts or repay its investors.
.....................................
Strongest performing Asian economy? The Philippines
MANILA, Philippines - The Philippines is the brightest economic star in Asia now, according to an economist of multinational Deutsche Bank AG.
In an August 9 interview with Bloomberg's Susan Li, Duetsche's chief economist for Asia Michael Spencer touted the Philippines as the strongest as well as the safest place for funds to be.
"The strongest performing economy in Asia today is the Philippines," he said when Li asked him where the best place to be across the Asia-Pacific region.
This southeast Asian country recorded an impressive 6.4% growth in the first 3 months, making it the best performing economy in the region next to China.
Spencer's bold pronouncements is the newest addition to the long-awaited attention from foreign investors that had traditionally included only neighbors Thailand, Malaysia and Indonesia in their investment radar.
Already, eastward-bound hot money have made it to the Philippine Stock Exchange, which hit record highs almost 20-times since President Aquino took over in 2010.
Is Philippines safe?
Bloomberg's Li quickly followed-up Spencer: "Safest, as well?"
It's a question constantly considered by fund managers who have been stuck in western countries previously considered safe but are now in economic crisis.
To stress that the Philippines is indeed safe, Spencer cited the country's relatively low trade exposure to the U.S. and Europe, both now experiencing fiscal pains.
"Historically it's at least been very less dependent on the U.S. and Europe. Although what's really been driving growth today is exports [which is] surprisingly enough for them," said Spencer.
"There seem to be exports to Japan. I suspect there's something of a Japan outsourcing after the earthquakes last year from the Philippines. They've suddenly have discovered a billion dollars a month almost is the last two or 3 months. For them it's huge," said the chief economist.
Other economists and investors have also noted the Philippines relatively low budget deficit of 2.6% of gross domestic product (GDP), a measure of the overall economy.
A low deficit-to-GDP ratio is a traditional indicator that the country has the ability to pay back its debts or repay its investors.
.....................................
- romee
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1961
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 6
คงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปด้วยอ่ะครับ เพราะรัฐบาลฟิลิปินส์ก็คอรัปชั่นตัวพ่อเลย (ไม่ต่างกับประเทศแถวๆนี้)
จะว่าไปก็น่าเห็นใจนะ เพราะคนฟิลิปินเก่งๆแบบพวก Overseas Filipino Workers เห็นว่าส่งเงินกลับให้ประเทศตัวเองถึง10%ของ GDP เลยอ่ะ
ถ้าตลาดหุ้นฟิลิปินดีจริง ก็ดีใจด้วยแหละครับ ชาติ AEC รุ่งไปเรื่อยๆ ผมว่าผลดีก็ต้องตกกับไทยเราด้วยแหละ
จะว่าไปก็น่าเห็นใจนะ เพราะคนฟิลิปินเก่งๆแบบพวก Overseas Filipino Workers เห็นว่าส่งเงินกลับให้ประเทศตัวเองถึง10%ของ GDP เลยอ่ะ
ถ้าตลาดหุ้นฟิลิปินดีจริง ก็ดีใจด้วยแหละครับ ชาติ AEC รุ่งไปเรื่อยๆ ผมว่าผลดีก็ต้องตกกับไทยเราด้วยแหละ
การลงทุนแนวvi ไม่ได้แปลว่า นักลงทุนคนนั้นดีกว่า หรือมีวรรณะสูงกว่าคนที่ลงทุนแนวอื่นๆหรอก
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 7
ขอแชร์ด้วยนะครับ
จากประสบการณ์ที่เคยไปย่ำฟิลิปินส์เมื่อสัก5-6ปีก่อน ครั้งนั้นผมไปสามเมืองคือเมืองหลวงมะนิลา บาเกียวเมืองทางตอนเหนือของเกาะลูซอน และalaminos อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เนื่องด้วยผมไปแบบแบกเป้เดินเท้าเป็นหลัก สิ่งที่จะถ่ายทอดก็จะออกแนวบ้านๆ ไม่ได้มีตัวเลขเชิงปริมาณวิเคราะห์แต่อย่างใด พลันเมื่อเท้าสัมผัสปฐพีเมืองเขา แน่นอนว่าสถานที่แรกที่เหยียบลงไปคือสนามบินครับ คนปินอย(ชาวฟิลิปินส์) เค้าเรียกสนามบินแห่งมะนิลานี้ว่า นาเอีย ครับ ถ้าไม่ผิดมันย่อมาจากชื่อประธานาธิบดี นินอย อาคีโน่ สนามบินนี้คนปินอยเค้าภูมิใจนักว่าเป็นสนามบินแห่งแรกในเอเชีย ซึ่งมันก็คงจะจริงมาจากครั้งที่อเมริกามาตั้งฐานบัญชาการที่นี่ แต่สภาพที่เห็นนี่ต้องบอกว่าเสียดายครับกับภาพอดีตอันรุ่งโรจน์ เก่าและเล็กดูเหมือนไม่ค่อยมีการบูรณะสักเท่าใด
หลังจากเช็คอินรร.ผมก็ออกมาเดินเล่นหาข้าวทาน ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเยอะมากครับ มีแทบจะทุกช่วงตึกเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแมคโดนัลกับjolly bee ร้านข้าวเอกเทศนี่หายากครับ ขากลับเข้ารร. เห็นชาวบ้านถือคล้ายๆขัน ตักน้ำขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ เข้าใจว่าเอาไปใช้ต่อ โดยเลือกเอาแต่ส่วนที่ใส เห็นแล้วก็อึ้งครับ ที่พักผมอยู่ในย่านมาลาเต้ ก็จัดว่ากลางเมืองไม่ไกลจากมากาติ พูดถึงมากาติแล้ว ก็ให้อลังการกับย่านการเงินแห่งนี้ทีเดียว
ผมเหมือนหลงเข้าไปในป่าคอนกรีตขนาดยักษ์ เดินไปมาคล้ายอยู่ในเขาวงกตแท่งปูนสูงเสียดฟ้า มันวกวนจับต้นชนปลายไม่ถูก แถมแต่ละตึกยังตั้งติดๆกัน สูงไม่ยอมแพ้กันทีเดียว ถ้าไม่ได้รถไฟฟ้าเป็นเครื่องหมายบอกทาง คงหลงทางตายเป็นแน่ แต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าเขาวงกตแห่งตึกก็คือ เมื่อพ้นจากศูนย์กลางการเงินรัศมีประเมินจากเท้าผมไม่เกิน300เมตร ผมได้พบกับสลัมครับ สลัมขนาดใหญ่ทีเดียว ใหญ่แค่ไหนไม่รู้เพราะเดินไม่สุด
มีสถานที่นึงที่เรียกว่าอินทรามูรอซ เป็นคล้ายๆเขตเมืองเก่าสมัยอาณานิคม จุดเด่นๆก็คือเป็นสถานที่ใช้คุมขัง โฮเซ่ ไรซาล วีรบุรุษของชาติ ก็ประมาณลุงโฮของเวียดนามอ่ะครับ รู้สึกว่าอินทรามูรอสจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย สภาพโดยทั่วไปก็จัดว่าสวยงามครับ แต่ถ้าเดินซอกแซกหน่อยก็จะได้กลิ่นปัสาสาวะลอยมาเตะจมูกเป็นระยะๆ โดยเฉพาะตามแนวรั้ว หรือมุมอับ ลองคิดดูว่ารัฐบาลเค้าบริหารพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้แย่แค่ไหน
ไม่ไกลจากอินทรามูรอส จะเป็นสวนสาธารณะไรซาล ก็ตรงตามชื่อครับมีอนุสาวรีย์ของ ดร.ไรซาลอยู่หน้าสวนสาธารณะ ประชาชนในสวนเท่าที่ผมสังเกตุ ก็จะประมาณสวนหลวงร.9 วันพ่อน่ะครับ เต็มไปด้วยชนชั้นแรงงาน อันนี้ผมสังเกตุจากบุคลิกการแต่งกาย กริยา ครับ ว่าถึงคนของเขา ผมพอจะจำแนกด้วยตัวผมเองอย่างมั่วๆได้ดังนี้ครับ1.ชนพื้นเมือง ก็ประมาณพวกชนเผ่าตามหมู่เกาะ 2.พวกที่สืบสายเลือดจากพวกล่าอาณานิคม ซึ่งตอนนี้ก็คงจางไปมากแล้ว 3.ชาวจีนอพยพ กลุ่มแรกเนี่ยรูปร่างหน้าตาเหมือนๆคนไทยคนเขมรเนี่ยแหละครับ กลุ่มที่2 หน้าตาจะสวยหล่อมาก ยิ่งถ้ามาทางสายสเปนด้วยแล้ว สวยกริ๊บเลยครับ กลุ่มสุดท้ายเป็นผู้กุมชะตาเศรษฐกิจประเทศ
เอาเท่านี้ก่อน ว่างจะมาต่อนะครับ
จากประสบการณ์ที่เคยไปย่ำฟิลิปินส์เมื่อสัก5-6ปีก่อน ครั้งนั้นผมไปสามเมืองคือเมืองหลวงมะนิลา บาเกียวเมืองทางตอนเหนือของเกาะลูซอน และalaminos อยู่ทางทิศตะวันตกของเกาะ เนื่องด้วยผมไปแบบแบกเป้เดินเท้าเป็นหลัก สิ่งที่จะถ่ายทอดก็จะออกแนวบ้านๆ ไม่ได้มีตัวเลขเชิงปริมาณวิเคราะห์แต่อย่างใด พลันเมื่อเท้าสัมผัสปฐพีเมืองเขา แน่นอนว่าสถานที่แรกที่เหยียบลงไปคือสนามบินครับ คนปินอย(ชาวฟิลิปินส์) เค้าเรียกสนามบินแห่งมะนิลานี้ว่า นาเอีย ครับ ถ้าไม่ผิดมันย่อมาจากชื่อประธานาธิบดี นินอย อาคีโน่ สนามบินนี้คนปินอยเค้าภูมิใจนักว่าเป็นสนามบินแห่งแรกในเอเชีย ซึ่งมันก็คงจะจริงมาจากครั้งที่อเมริกามาตั้งฐานบัญชาการที่นี่ แต่สภาพที่เห็นนี่ต้องบอกว่าเสียดายครับกับภาพอดีตอันรุ่งโรจน์ เก่าและเล็กดูเหมือนไม่ค่อยมีการบูรณะสักเท่าใด
หลังจากเช็คอินรร.ผมก็ออกมาเดินเล่นหาข้าวทาน ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดเยอะมากครับ มีแทบจะทุกช่วงตึกเลย ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแมคโดนัลกับjolly bee ร้านข้าวเอกเทศนี่หายากครับ ขากลับเข้ารร. เห็นชาวบ้านถือคล้ายๆขัน ตักน้ำขึ้นมาจากท่อระบายน้ำ เข้าใจว่าเอาไปใช้ต่อ โดยเลือกเอาแต่ส่วนที่ใส เห็นแล้วก็อึ้งครับ ที่พักผมอยู่ในย่านมาลาเต้ ก็จัดว่ากลางเมืองไม่ไกลจากมากาติ พูดถึงมากาติแล้ว ก็ให้อลังการกับย่านการเงินแห่งนี้ทีเดียว
ผมเหมือนหลงเข้าไปในป่าคอนกรีตขนาดยักษ์ เดินไปมาคล้ายอยู่ในเขาวงกตแท่งปูนสูงเสียดฟ้า มันวกวนจับต้นชนปลายไม่ถูก แถมแต่ละตึกยังตั้งติดๆกัน สูงไม่ยอมแพ้กันทีเดียว ถ้าไม่ได้รถไฟฟ้าเป็นเครื่องหมายบอกทาง คงหลงทางตายเป็นแน่ แต่สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจมากกว่าเขาวงกตแห่งตึกก็คือ เมื่อพ้นจากศูนย์กลางการเงินรัศมีประเมินจากเท้าผมไม่เกิน300เมตร ผมได้พบกับสลัมครับ สลัมขนาดใหญ่ทีเดียว ใหญ่แค่ไหนไม่รู้เพราะเดินไม่สุด
มีสถานที่นึงที่เรียกว่าอินทรามูรอซ เป็นคล้ายๆเขตเมืองเก่าสมัยอาณานิคม จุดเด่นๆก็คือเป็นสถานที่ใช้คุมขัง โฮเซ่ ไรซาล วีรบุรุษของชาติ ก็ประมาณลุงโฮของเวียดนามอ่ะครับ รู้สึกว่าอินทรามูรอสจะขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกด้วย สภาพโดยทั่วไปก็จัดว่าสวยงามครับ แต่ถ้าเดินซอกแซกหน่อยก็จะได้กลิ่นปัสาสาวะลอยมาเตะจมูกเป็นระยะๆ โดยเฉพาะตามแนวรั้ว หรือมุมอับ ลองคิดดูว่ารัฐบาลเค้าบริหารพื้นที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ได้แย่แค่ไหน
ไม่ไกลจากอินทรามูรอส จะเป็นสวนสาธารณะไรซาล ก็ตรงตามชื่อครับมีอนุสาวรีย์ของ ดร.ไรซาลอยู่หน้าสวนสาธารณะ ประชาชนในสวนเท่าที่ผมสังเกตุ ก็จะประมาณสวนหลวงร.9 วันพ่อน่ะครับ เต็มไปด้วยชนชั้นแรงงาน อันนี้ผมสังเกตุจากบุคลิกการแต่งกาย กริยา ครับ ว่าถึงคนของเขา ผมพอจะจำแนกด้วยตัวผมเองอย่างมั่วๆได้ดังนี้ครับ1.ชนพื้นเมือง ก็ประมาณพวกชนเผ่าตามหมู่เกาะ 2.พวกที่สืบสายเลือดจากพวกล่าอาณานิคม ซึ่งตอนนี้ก็คงจางไปมากแล้ว 3.ชาวจีนอพยพ กลุ่มแรกเนี่ยรูปร่างหน้าตาเหมือนๆคนไทยคนเขมรเนี่ยแหละครับ กลุ่มที่2 หน้าตาจะสวยหล่อมาก ยิ่งถ้ามาทางสายสเปนด้วยแล้ว สวยกริ๊บเลยครับ กลุ่มสุดท้ายเป็นผู้กุมชะตาเศรษฐกิจประเทศ
เอาเท่านี้ก่อน ว่างจะมาต่อนะครับ
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 422
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 9
เคยไป มะนิลา ย่าน มากาติ ไปเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ตอนไปค่าเงิน 49 บาทต่อดอลล่ากลับมาเหลือ 45 ต่อดอล แค่ 7 วันเอง
ทุกคนแม้กระทั่ง แม่บ้านถูพื้น พนักงานเก็บเงินตามห้าง สาวคาราโอเกะ ก็พูดอังกฤษได้
แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมประเทศ ไม่ได้ดีกว่า เราเลย
ซื้อของตามศูนย์การค้า ต้องแม็กใบเสร็จไว้กับถุง ก่อนออกยามสะพายปืนยาวๆทุกประตู มีเครื่องตรวจอาวุธ และซุ้มตรวจระเบิด ยามจะคอยสุ่มตรวจเช็ค ว่าสินค้าตรงไหม แม้กระทั่ง 7-11 ก็ทำเหมือนกัน ดูไม่ปลอดภัยเสียเลย(ไปก่อน บ้านเรามีเรื่อง 3จังหวัดใต้ แต่ตอนนี้เรามีซุ้มตรวจอาวุธเหมือนเค้าแล้ว)
การขับรถก็ไม่มีระเบียบ แบบไม่หวงรถบุบ บีบแตรสนั่น
แต่สาวคาราโอเกะ มารยาทระเบียบดีมาก เทรนมาเอาใจ ดีกว่าสาวไทยเยอะเลย
อีกเรื่องคือข้าว กินข้าวที่นั่นถึงรู้ว่า ข้าวไทยดีกว่ายังไง ส่วนมากข้าวที่นั่นเป็นข้าวหักๆไม่เต็มเม็ด บางร้าน หุงแข็งโป๊กอีก
ที่กลัวฟิลิปปินเรื่อง ภาษาอังกฤษ อย่างเดียวแหละครับ
ทุกคนแม้กระทั่ง แม่บ้านถูพื้น พนักงานเก็บเงินตามห้าง สาวคาราโอเกะ ก็พูดอังกฤษได้
แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าทำไมประเทศ ไม่ได้ดีกว่า เราเลย
ซื้อของตามศูนย์การค้า ต้องแม็กใบเสร็จไว้กับถุง ก่อนออกยามสะพายปืนยาวๆทุกประตู มีเครื่องตรวจอาวุธ และซุ้มตรวจระเบิด ยามจะคอยสุ่มตรวจเช็ค ว่าสินค้าตรงไหม แม้กระทั่ง 7-11 ก็ทำเหมือนกัน ดูไม่ปลอดภัยเสียเลย(ไปก่อน บ้านเรามีเรื่อง 3จังหวัดใต้ แต่ตอนนี้เรามีซุ้มตรวจอาวุธเหมือนเค้าแล้ว)
การขับรถก็ไม่มีระเบียบ แบบไม่หวงรถบุบ บีบแตรสนั่น
แต่สาวคาราโอเกะ มารยาทระเบียบดีมาก เทรนมาเอาใจ ดีกว่าสาวไทยเยอะเลย
อีกเรื่องคือข้าว กินข้าวที่นั่นถึงรู้ว่า ข้าวไทยดีกว่ายังไง ส่วนมากข้าวที่นั่นเป็นข้าวหักๆไม่เต็มเม็ด บางร้าน หุงแข็งโป๊กอีก
ที่กลัวฟิลิปปินเรื่อง ภาษาอังกฤษ อย่างเดียวแหละครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 10
เมื่อวานพิมพ์เสร็จ พอดีทางเวปเค้าย้ายserver ก็เลยลงไม่ได้ แต่saveไว้ในnotebookแล้ว เด๋วแปะให้อ่านครับคุณ sorawitch
สิ่งที่พี่skidเจอ เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ผมเจอทุกประการครับ
ผมว่าปัญหาหลักของฟิลิปินส์คือการกระจายรายได้ ความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้สูงมากครับ
ปิรามิดการกระจายรายได้ของเค้ายอดแหลมกว่าของไทยเรามาก
อีกเรื่องที่ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว คนของเค้าดูจะฉลาดน้อยกว่าของไทยเรามาก
ตามห้างที่พี่skidเจอตรวจค้นกระเป๋า ผมก็เจอเช่นกัน เหตุมันเนื่องมาจากเกาะมินดาเนาทางใต้สุด
ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนมุสลิม พยายามจะแบ่งแยกดินแดง ตั้งประเทศของตนขึ้นมา การก่อการร้ายมันจึงลามขึ้นมาถึงเกาะใหญ่
สาธารณูประโภคพื้นฐานหลายๆอย่าง ฟิลิปินส์มีมาก่อนหลายประเทศย่านนี้ แต่ดูเหมือนไม่มีการพัฒนามานาน
ผมเห็นด้วยครับที่เราสู้ฟิลิปินส์ไม่ได้เลยก็คือเรื่องภาษาอังกฤษ กับสาวคาราโอเกะ แถมไม่แพงด้วย
สิ่งที่พี่skidเจอ เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ผมเจอทุกประการครับ
ผมว่าปัญหาหลักของฟิลิปินส์คือการกระจายรายได้ ความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้สูงมากครับ
ปิรามิดการกระจายรายได้ของเค้ายอดแหลมกว่าของไทยเรามาก
อีกเรื่องที่ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว คนของเค้าดูจะฉลาดน้อยกว่าของไทยเรามาก
ตามห้างที่พี่skidเจอตรวจค้นกระเป๋า ผมก็เจอเช่นกัน เหตุมันเนื่องมาจากเกาะมินดาเนาทางใต้สุด
ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนมุสลิม พยายามจะแบ่งแยกดินแดง ตั้งประเทศของตนขึ้นมา การก่อการร้ายมันจึงลามขึ้นมาถึงเกาะใหญ่
สาธารณูประโภคพื้นฐานหลายๆอย่าง ฟิลิปินส์มีมาก่อนหลายประเทศย่านนี้ แต่ดูเหมือนไม่มีการพัฒนามานาน
ผมเห็นด้วยครับที่เราสู้ฟิลิปินส์ไม่ได้เลยก็คือเรื่องภาษาอังกฤษ กับสาวคาราโอเกะ แถมไม่แพงด้วย
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 11
พอมีรูปให้ดูมั้ยครับอินทรีย์ทองแดง เขียน:เมื่อวานพิมพ์เสร็จ พอดีทางเวปเค้าย้ายserver ก็เลยลงไม่ได้ แต่saveไว้ในnotebookแล้ว เด๋วแปะให้อ่านครับคุณ sorawitch
สิ่งที่พี่skidเจอ เป็นสิ่งเดียวกันกับที่ผมเจอทุกประการครับ
ผมว่าปัญหาหลักของฟิลิปินส์คือการกระจายรายได้ ความเหลื่อมล้ำในด้านรายได้สูงมากครับ
ปิรามิดการกระจายรายได้ของเค้ายอดแหลมกว่าของไทยเรามาก
อีกเรื่องที่ผมไม่รู้ว่าคิดไปเองรึป่าว คนของเค้าดูจะฉลาดน้อยกว่าของไทยเรามาก
ตามห้างที่พี่skidเจอตรวจค้นกระเป๋า ผมก็เจอเช่นกัน เหตุมันเนื่องมาจากเกาะมินดาเนาทางใต้สุด
ซึ่งประชากรส่วนใหญ่เป็นชนมุสลิม พยายามจะแบ่งแยกดินแดง ตั้งประเทศของตนขึ้นมา การก่อการร้ายมันจึงลามขึ้นมาถึงเกาะใหญ่
สาธารณูประโภคพื้นฐานหลายๆอย่าง ฟิลิปินส์มีมาก่อนหลายประเทศย่านนี้ แต่ดูเหมือนไม่มีการพัฒนามานาน
ผมเห็นด้วยครับที่เราสู้ฟิลิปินส์ไม่ได้เลยก็คือเรื่องภาษาอังกฤษ กับสาวคาราโอเกะ แถมไม่แพงด้วย
In search of super stocks
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 12
ไม่มีอ่ะสิครับพี่ IB ตอนนั้นมือถือยังกากๆอยู่เลย เสียดายจนถึงทุกวันนี้
เอางี้ดีไหมครับ เราจัด"ทัวร์นกขมิ้น ฟิลิปินส์ฮาเฮ " สำรวจประเทศสมาชิกAECกัน
เอางี้ดีไหมครับ เราจัด"ทัวร์นกขมิ้น ฟิลิปินส์ฮาเฮ " สำรวจประเทศสมาชิกAECกัน
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 206
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 14
อันนี้จิงครับ จากประสบการณ์ที่ทำงานกับชาวต่างชาติมา ส่วนใหญ่เค้ายอมรับด้านความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษและการเขียนรายงานของคนฟิลิปปินส์รวมทั้งการทำงานที่ถูกสอนให้ทำงานในแบบอเมริกันด้วยนะครับ เพื่อนผมคนฟิลิปปินส์บอกว่าตอนนี้ที่บ้านเค้าเด็กรุ่นใหม่พูดภาษาอังกฤษร้อยเปอร์เซ็นต์ไม่มีพูดปนภาษาตากาล็อกแล้ว นอกจากนี้บางคนยังสามารถพูดสเปนได้ด้วย ถ้าในอนาคตเปิดเออีซี แรงงานไทยที่จบใหม่หรือสายงานไหนที่คนบ้านเค้ามีเยอะรับรองลำบากครับ แต่บริษัทชอบเพราะมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น คัดคุณภาพได้มากขึ้น ค่าแรงอาจถูกกว่าอีกด้วยromee เขียน:คงต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปด้วยอ่ะครับ เพราะรัฐบาลฟิลิปินส์ก็คอรัปชั่นตัวพ่อเลย (ไม่ต่างกับประเทศแถวๆนี้)
จะว่าไปก็น่าเห็นใจนะ เพราะคนฟิลิปินเก่งๆแบบพวก Overseas Filipino Workers เห็นว่าส่งเงินกลับให้ประเทศตัวเองถึง10%ของ GDP เลยอ่ะ
ถ้าตลาดหุ้นฟิลิปินดีจริง ก็ดีใจด้วยแหละครับ ชาติ AEC รุ่งไปเรื่อยๆ ผมว่าผลดีก็ต้องตกกับไทยเราด้วยแหละ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1284
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 15
น่าสน ๆ ว่าแต่จะขอ visa ที่บ้านยังไงดีหว่าอินทรีย์ทองแดง เขียน:ไม่มีอ่ะสิครับพี่ IB ตอนนั้นมือถือยังกากๆอยู่เลย เสียดายจนถึงทุกวันนี้
เอางี้ดีไหมครับ เราจัด"ทัวร์นกขมิ้น ฟิลิปินส์ฮาเฮ " สำรวจประเทศสมาชิกAECกัน
In search of super stocks
-
- Verified User
- โพสต์: 513
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 16
ต่อครับ
ที่ว่าถึงชาวฟิลิปินส์นั้น ผมมีความรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ที่คนเชื้อสายจีนเป็นคนกุมเศรษฐกิจส่วนใหญ่เอาไว้ และคนที่สืบสายเลือดชนชาวพื้นเมืองเป็นพลเมืองระดับรองลงมา หรือไม่ก็เป็นชนชั้นกรรมาชีพ แต่ที่ฟิลิปินส์อาจจะมีพิเศษขึ้นอีกหน่อย ตรงที่มีพวกที่สืบเชือสายจากยุคล่าอาณานิคมอยู่ในสังคมระดับบน ที่เห็นชัดๆเลยก็คือตะกูลอยาล่า เป็นตระกูลคหบดีร่ำรวย ถึงขนาดเอาไปตั้งเป็นชื่อถนน เมืองต่อไปที่ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสก็คือบาเกียว จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะไปบาเกียวหรอกครับ ใจผมอยากไปเซบูมากกว่า เซบูเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากมะนิลา ตั้งอยู่ตอนกลางของหมู่เกาะฟิลิปินส์ แล้วก็อยากไปเกาะโบราไคย์ เกาะที่ได้ชื่อว่าหาดทรายสวยที่สุดในโลก ได้ยินมาว่าสาวๆเกาหลีนิยมมาตากแดดที่นี่กัน แต่เนื่องด้วยเวลาไม่อำนวยก็เลยบ่ายหน้าขึ้นเหนือแทน บาเกียวเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่สูงhighland อากาศหนาวเย็นตลอดปี ขนาดผมไปตอนเมษา อากาศที่มะนิลาร้อนตับแตก แต่ที่บาเกียวหนาวครับ เคยได้ยินว่าคนปินอยเรียกบาเกียวว่า"เมืองหลวงฤดูร้อน" เพราะคนจะหนีร้อนมาอยู่ที่นี่กัน ดูๆไปเมืองนี้ก็มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูงทีเดียว แต่แปลกครับฝรั่งนี่นับหัวได้เลย จริงๆเรื่องนักท่องเที่ยวผมเองแปลกใจตั้งแต่อยู่มะนิลาแล้ว รู้สึกมันน้อยๆชอบกล อย่างตามผับบาร์ที่ขายพวกฝรั่งก็ดูโหรงเหรง ลับมาที่บาเกียว ถ้าเทียบกับเมืองไทยนี่ ผมยังไม่เห็นเมืองที่จะสวยสู้ได้เลยครับ ภูมิประเทศ ภูมิทัศน์ของเค้าสวยจริงๆ แต่ธรรมชาติเหล่านั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เชื่อมั้ยครับขณะที่รถแล่นวนรอบเขา ข้างทางเป็นหน้าผา ผมมองเห็นขยะเกลื่อนหน้าผา หรือมีอยู่ทีนึง ขณะที่รถบัสที่ผมโดยสารจอดปั๊มเติมน้ำมันนั้น ผู้โดยสารก็ลงไปหาอะไรกิน พ่อค้าแม่ค้าก็ขายของผ่านหน้าต่าง เชื่อมั้ยครับว่าหลังจากรถออก ผมมองย้อนกลับไป ขยะถูกทิ้งรอบรถเป็นกรอบเลยครับ วินัยในการรักษาความสะอาดของชาวปินอยนี่เข้าขั้นแย่ ผมใช้เวลาอยู่ที่บาเกียว1คืนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ พยายามหาซื้อทัวร์พวกone day trip แต่หาไม่มีครับ ไม่รู้พวกที่ขายทัวร์มันไปหลบอยู่มุมไหน ผมก็เลยมูฟดีกว่า เปิดหนังสือ ดาวเคราะห์อ้างว้าง อยากไปดูทะเลสวยๆ มองไปใกล้สุดมีจุดหนึ่งชื่อ hundred islands ชื่อฟังเพราะดี ต้องมีเป็นร้อยเกาะเป็นแน่ ซื้อตั๋วโดยพลัน ต้องต่อรถสองสามทอดครับ ไปเที่ยวฟิลิปินส์นี่ดีอย่าง คนของเขาพูดภาษาอังกฤษได้เสียส่วนใหญ่ ไม่รู้อะไรถามโลดครับ และก็ทำให้ทราบว่าชาวฟิลิปินส์มีอุปนิสัยใจคอเป็นมิตรมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อนักท่องเที่ยวมากครับ เมืองที่hundred islands ตั้งอยู๋มีชื่อว่าalaminos ทีแรกผมคิดว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่โต ที่ไหนได้เล็กพอๆกับตลาดบางพลี และผมคิดว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวเพียงคนเดียวในเมืองนี้
ได้เวลาไปท่องhundred islandsกันแล้ว ก่อนอื่นต้องจับรถชายทะเล แล้วหาซื้อone day trip ซึ่งผมคิดว่าคงหาได้ไม่ยาก แต่พอไปถึงชายทะเลเท่านั้นแหละครับ ผมถึงตะหนักว่าความจริงกับความคิด บางทีมันก็สวนทางกันอย่างแรง มันยังงี้ครับ ชายหาดที่ผมฝันไว้ว่าจะเจอทรายนุ่มฝ่าเท้า กลับกลายเป็นหาดเลน บริษัททัวร์ที่ผมคาดว่าไม่น่าหายาก ไม่มีเลยครับอึ้งสิครับพี่น้อง นี่มันหมู่บ้านชาวประมงดีๆนี่เอง สรุปผมก็ไม่ได้ออกทะเลช่นเคย งั้นไม่ปงไม่ไปแล้วครับ กลับเขาเมืองหารร.นอนดีกว่า ในห้องพักมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจ มันคือตู้เสื้อผ้าครับ มันเป็นตู้เสื้อผ้าน็อคดาวน์ธรรมดาๆเนี่ยแหละครับ แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือยี่ห้อ Indexครับ indexของไทยเรานี่แหละครับ เห็นแล้วปลื้มแทนเจ้าของ ตูเสื้อผ้าไทยไปไกลถึงฟิลิปินส์ แถมเป็นชนบทไกลปืนเที่ยงอีกตังหาก alaminosเป็นเมืองชนบทเงียบๆ แต่ที่นั่นก็เหมือนอีกหลายเมืองคือ มีMcdonaldประจำเมือง ผมว่าผมขอจบนิทานตรงนี้ดีกว่าขี้เกียจโม้แล้ว
โดยสรุปผมว่าประเทศไทยเราดีกว่าหลายๆๆๆๆเรื่องมาก คนที่บ่นประเทศไทยไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ น่าจะลองออกไปดูชาวโลกเค้าก่อน นี่ยังแค่ฟิลิปินส์ ถ้าหากเป็นอินเดียยิ่งไม่ต้องพูด ยังมีอีกเรื่องหนึ่งในสายตาผมที่คิดว่าฟิลิปินส์มีศักยภาพสูงมากนอกจากสาวคาราโอเกะกับภาษาอังกฤษ ก็คือธรรมชาติทางการท่องเที่ยวครับ ของเค้าหลากหลายจริงๆ เพียงแต่ดูเหมือนขาดการใส่ใจจากภาครัฐ และความอ่อนด้อยประสิทธิภาพของภาคเอกชน ถ้าหากเค้าเอาจริงขึ้นมา ผมว่าน่ากลัวมากครับ
จบดีกั่ว
ที่ว่าถึงชาวฟิลิปินส์นั้น ผมมีความรู้สึกว่าคล้ายคลึงกับหลายประเทศในภูมิภาคนี้ ที่คนเชื้อสายจีนเป็นคนกุมเศรษฐกิจส่วนใหญ่เอาไว้ และคนที่สืบสายเลือดชนชาวพื้นเมืองเป็นพลเมืองระดับรองลงมา หรือไม่ก็เป็นชนชั้นกรรมาชีพ แต่ที่ฟิลิปินส์อาจจะมีพิเศษขึ้นอีกหน่อย ตรงที่มีพวกที่สืบเชือสายจากยุคล่าอาณานิคมอยู่ในสังคมระดับบน ที่เห็นชัดๆเลยก็คือตะกูลอยาล่า เป็นตระกูลคหบดีร่ำรวย ถึงขนาดเอาไปตั้งเป็นชื่อถนน เมืองต่อไปที่ผมได้มีโอกาสไปสัมผัสก็คือบาเกียว จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะไปบาเกียวหรอกครับ ใจผมอยากไปเซบูมากกว่า เซบูเป็นเมืองใหญ่อันดับสองรองจากมะนิลา ตั้งอยู่ตอนกลางของหมู่เกาะฟิลิปินส์ แล้วก็อยากไปเกาะโบราไคย์ เกาะที่ได้ชื่อว่าหาดทรายสวยที่สุดในโลก ได้ยินมาว่าสาวๆเกาหลีนิยมมาตากแดดที่นี่กัน แต่เนื่องด้วยเวลาไม่อำนวยก็เลยบ่ายหน้าขึ้นเหนือแทน บาเกียวเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่สูงhighland อากาศหนาวเย็นตลอดปี ขนาดผมไปตอนเมษา อากาศที่มะนิลาร้อนตับแตก แต่ที่บาเกียวหนาวครับ เคยได้ยินว่าคนปินอยเรียกบาเกียวว่า"เมืองหลวงฤดูร้อน" เพราะคนจะหนีร้อนมาอยู่ที่นี่กัน ดูๆไปเมืองนี้ก็มีศักยภาพทางการท่องเที่ยวสูงทีเดียว แต่แปลกครับฝรั่งนี่นับหัวได้เลย จริงๆเรื่องนักท่องเที่ยวผมเองแปลกใจตั้งแต่อยู่มะนิลาแล้ว รู้สึกมันน้อยๆชอบกล อย่างตามผับบาร์ที่ขายพวกฝรั่งก็ดูโหรงเหรง ลับมาที่บาเกียว ถ้าเทียบกับเมืองไทยนี่ ผมยังไม่เห็นเมืองที่จะสวยสู้ได้เลยครับ ภูมิประเทศ ภูมิทัศน์ของเค้าสวยจริงๆ แต่ธรรมชาติเหล่านั้นไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า เชื่อมั้ยครับขณะที่รถแล่นวนรอบเขา ข้างทางเป็นหน้าผา ผมมองเห็นขยะเกลื่อนหน้าผา หรือมีอยู่ทีนึง ขณะที่รถบัสที่ผมโดยสารจอดปั๊มเติมน้ำมันนั้น ผู้โดยสารก็ลงไปหาอะไรกิน พ่อค้าแม่ค้าก็ขายของผ่านหน้าต่าง เชื่อมั้ยครับว่าหลังจากรถออก ผมมองย้อนกลับไป ขยะถูกทิ้งรอบรถเป็นกรอบเลยครับ วินัยในการรักษาความสะอาดของชาวปินอยนี่เข้าขั้นแย่ ผมใช้เวลาอยู่ที่บาเกียว1คืนเท่านั้น ที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะ พยายามหาซื้อทัวร์พวกone day trip แต่หาไม่มีครับ ไม่รู้พวกที่ขายทัวร์มันไปหลบอยู่มุมไหน ผมก็เลยมูฟดีกว่า เปิดหนังสือ ดาวเคราะห์อ้างว้าง อยากไปดูทะเลสวยๆ มองไปใกล้สุดมีจุดหนึ่งชื่อ hundred islands ชื่อฟังเพราะดี ต้องมีเป็นร้อยเกาะเป็นแน่ ซื้อตั๋วโดยพลัน ต้องต่อรถสองสามทอดครับ ไปเที่ยวฟิลิปินส์นี่ดีอย่าง คนของเขาพูดภาษาอังกฤษได้เสียส่วนใหญ่ ไม่รู้อะไรถามโลดครับ และก็ทำให้ทราบว่าชาวฟิลิปินส์มีอุปนิสัยใจคอเป็นมิตรมีน้ำใจเอื้อเฟื้อต่อนักท่องเที่ยวมากครับ เมืองที่hundred islands ตั้งอยู๋มีชื่อว่าalaminos ทีแรกผมคิดว่าจะเป็นเมืองท่องเที่ยวใหญ่โต ที่ไหนได้เล็กพอๆกับตลาดบางพลี และผมคิดว่าผมเป็นนักท่องเที่ยวเพียงคนเดียวในเมืองนี้
ได้เวลาไปท่องhundred islandsกันแล้ว ก่อนอื่นต้องจับรถชายทะเล แล้วหาซื้อone day trip ซึ่งผมคิดว่าคงหาได้ไม่ยาก แต่พอไปถึงชายทะเลเท่านั้นแหละครับ ผมถึงตะหนักว่าความจริงกับความคิด บางทีมันก็สวนทางกันอย่างแรง มันยังงี้ครับ ชายหาดที่ผมฝันไว้ว่าจะเจอทรายนุ่มฝ่าเท้า กลับกลายเป็นหาดเลน บริษัททัวร์ที่ผมคาดว่าไม่น่าหายาก ไม่มีเลยครับอึ้งสิครับพี่น้อง นี่มันหมู่บ้านชาวประมงดีๆนี่เอง สรุปผมก็ไม่ได้ออกทะเลช่นเคย งั้นไม่ปงไม่ไปแล้วครับ กลับเขาเมืองหารร.นอนดีกว่า ในห้องพักมีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจ มันคือตู้เสื้อผ้าครับ มันเป็นตู้เสื้อผ้าน็อคดาวน์ธรรมดาๆเนี่ยแหละครับ แต่ที่ไม่ธรรมดาก็คือยี่ห้อ Indexครับ indexของไทยเรานี่แหละครับ เห็นแล้วปลื้มแทนเจ้าของ ตูเสื้อผ้าไทยไปไกลถึงฟิลิปินส์ แถมเป็นชนบทไกลปืนเที่ยงอีกตังหาก alaminosเป็นเมืองชนบทเงียบๆ แต่ที่นั่นก็เหมือนอีกหลายเมืองคือ มีMcdonaldประจำเมือง ผมว่าผมขอจบนิทานตรงนี้ดีกว่าขี้เกียจโม้แล้ว
โดยสรุปผมว่าประเทศไทยเราดีกว่าหลายๆๆๆๆเรื่องมาก คนที่บ่นประเทศไทยไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ น่าจะลองออกไปดูชาวโลกเค้าก่อน นี่ยังแค่ฟิลิปินส์ ถ้าหากเป็นอินเดียยิ่งไม่ต้องพูด ยังมีอีกเรื่องหนึ่งในสายตาผมที่คิดว่าฟิลิปินส์มีศักยภาพสูงมากนอกจากสาวคาราโอเกะกับภาษาอังกฤษ ก็คือธรรมชาติทางการท่องเที่ยวครับ ของเค้าหลากหลายจริงๆ เพียงแต่ดูเหมือนขาดการใส่ใจจากภาครัฐ และความอ่อนด้อยประสิทธิภาพของภาคเอกชน ถ้าหากเค้าเอาจริงขึ้นมา ผมว่าน่ากลัวมากครับ
จบดีกั่ว
ได้เวลาเหล่าอินทรีย์ ผงาดบนฟากฟ้า
-
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 18
เคยไปอาศัยอยู่เซบูราวสองอาทิตย์เมื่อย่ีสิบกว่าปีที่แล้วครับ
เซบูเหมือนหาดใหญ่ บาเกียวเหมือนเชียงใหม่ มานิลาเหมือนกรุงเทพ มากาตีเหมือนสีลม
การศึกษา เขาเคยดีที่สุดในเอเซียเมื่อสักสี่สิบปีก่อน
ไม่แน่ใจว่าที่เขาช้าไปเลยเพราะผู้นำที่อยู่ในอำนาจนานไม่มีการกระจายรายได้ที่ดีมั้ย
คือลีกวนยูกะมหาเดร์ก็ทำผลงานแบบนึง
มาร์กอสกะซูฮาร์โต้ก็ผลงานอีกแบบนึง
เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเห็นชาวบ้านนั่งยองๆมุงอะไรอยู่ริมฟุตบาทครับ
ปรากฎว่ารวมกันเปิบข้าวกินจากกะละมัง
ทราบว่าตอนนี้เขาเอาขันตักน้ำจากคูริมถนนก็ปลง
ตอนนั้นไทยยังไม่มีซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่แต่ปินส์มีแล้ว
คนที่เดินข้างในเข็นรถอย่างมีความสุขราวกับได้มีชีวิตแบบอเมริกันเวย์
ในรถเข็นมีขนมปังแถวนึงแยมกระปุก
มานึกถึงตอนนี้ผมได้แต่คิดถึงเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมายังไงไม่รู้
เซบูเหมือนหาดใหญ่ บาเกียวเหมือนเชียงใหม่ มานิลาเหมือนกรุงเทพ มากาตีเหมือนสีลม
การศึกษา เขาเคยดีที่สุดในเอเซียเมื่อสักสี่สิบปีก่อน
ไม่แน่ใจว่าที่เขาช้าไปเลยเพราะผู้นำที่อยู่ในอำนาจนานไม่มีการกระจายรายได้ที่ดีมั้ย
คือลีกวนยูกะมหาเดร์ก็ทำผลงานแบบนึง
มาร์กอสกะซูฮาร์โต้ก็ผลงานอีกแบบนึง
เมื่อยี่สิบกว่าปีที่แล้วเห็นชาวบ้านนั่งยองๆมุงอะไรอยู่ริมฟุตบาทครับ
ปรากฎว่ารวมกันเปิบข้าวกินจากกะละมัง
ทราบว่าตอนนี้เขาเอาขันตักน้ำจากคูริมถนนก็ปลง
ตอนนั้นไทยยังไม่มีซุปเปอร์มาเก็ตใหญ่แต่ปินส์มีแล้ว
คนที่เดินข้างในเข็นรถอย่างมีความสุขราวกับได้มีชีวิตแบบอเมริกันเวย์
ในรถเข็นมีขนมปังแถวนึงแยมกระปุก
มานึกถึงตอนนี้ผมได้แต่คิดถึงเศรษฐกิจพอเพียงขึ้นมายังไงไม่รู้
samatah
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 19
เห่อ ไปทีไีทะเลาะกะแท้กซี่ทุกที พี่แกไม่กดมิเตอร์เลย แต่เมืองเจริญดีนะมีการก่อสร้างใหม่ๆเยอะ สนามบินเก่าอะสุวรรณภูมิเราเจ๋งกว่าเยอะ
โอ้ละหนอดวงเดือนเอย พี่มาเว้ารักเจ้าสาวคำดวง
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
โอ้ดึกแล้วหนอพี่ขอลาล่วง อกพี่เป็นหวงรักเจ้าดวงเดือนเอย
- dome@perth
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4741
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เศรษฐกิจฟิลิปปินส์มาแรงจริงหรือ ?
โพสต์ที่ 20
สงสัยต้องแวะเที่ยวฟิลิปปิน ซะแล้ว สาวคาราโอเกะ
"ไม่มีสุตรสำเร็จ ไม่มีทางลัด ไม่ใช่แค่โชค
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"
หนทางจะได้มาซึ่ง อิสระภาพทางการเงิน
มันมาจาก ความขยัน การไขว่คว้า หาความรู้
เชื่อและตั้งมั้นในหลักการลงทุนที่ถูกต้อง"