สรุปสัมนา กลยุทธ์เลือกหุ้นแบบวีไอ 9/9/55

[champ_st]

ขอสรุปย่อๆให้ผู้ที่พลาดงานสัมมนาครับ หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ด้วยครับ ได้ข่าวว่าเทปรอบนี้จะอัพขึ้นยูทูปเร็วนะครับ เห็นหลายท่านพลาดงานสัมนาไป

ถาม : ถามดร.ว่าถ้ามีคนมาบอกโพย ดร.จะซื้อตามไหม

ดร. : ไม่ตาม อะไรเร็วๆไม่ค่อยสนใจ แต่บางทีฟังเสร็จแล้วน่าสนใจก้จะเอากลัยมาพิจารณา มาคิดกว่าจะซื้อก็อีกนาน ถ้าชอบก็ดูว่าราคามันขึ้นไปรึยังถ้าขึ้นแล้วก็ต้องดูอีกที ที่ฟังๆก็เพื่อเอาไอเดียมาก่อน มันง่ายมีคนช่วยทำการบ้าน เดี่ยวนี้จะไปหาเองอ่านเองหมดมันก็ยาก หุ้นไทยก็มีไม่มากแล้ว แต่แล้วก็ต้องดูว่า หุ้นที่ได้มามันเข้ากับคาแรคเตอร์ของเราไหม อยู่ในวงความรู้ของเราหรือเปล่า

[champ_st]

ถาม : มีหลักการในการเลือกหุ้นอย่างไร

พี่โจ : เรียกว่าถ้าซื้อหุ้น เราต้องซื้อหุ้นที่มันกำลังจะขึ้น ซึ่งสาเหตุที่มันจะขึ้นก็มีมาจากผลทางธุรกิจ โดยเกิดการการเติบโตของกำไร ธุรกิจที่สนใจคือกำไรจะต้องโตมากๆเท่านั้น เมือกำไรโตราคาก็จะขึ้นตามมันไปในที่สุด ซึ่งกำไรที่โตนั้นเราก็ต้องมาดูโครงสร้างว่ามันโตแบบยั่งยืนไหท เป้นวัฎจักรหรือเปล่า คือดูที่มาของกำไร
โดยวิธีที่จะหาหุ้นเหล่านี้ ก็ต้องเปิดหู เปิดตา อ่านข่าวตลอดเวลา ซึ่งก็เน้นที่ข่าวของตลาดหลักทรัพย์ที่น่าเชือ่ถือ ข่าวที่เปิดเผยทั่วไป เดี่ยวนี้ต้องระหวังพวกหนังสือพิมนี่อย่าไปเชื่อมากเหมือนอ่านนิยาย บางทีพาดหัวทุกฉบับว่าด๊มากๆน่าสนใจพออ่านเนื้อข่าวไม่มีอะไรเลย โดยก็เข้าใจว่าข่วที่มีในตอนนี้มันเยอะมากๆ ต้องกรอบบริษัทที่เราสนใจศึกษา เลือกบริษัทที่ดี ที่ไว้ใจได้เพราถ้าบริษัทไม่ดีวิเคราะห์ดียังไงก็มีโอกาสขาดทุนได้ อย่าพี่โจจะคัดเหลือประมาณ 200 บริษัทแล้วก็ศึกษาไป เรือ่ยๆ ให้ความรู้มันทบต้นไป
โดยย้ำว่า ข้อมูลที่ต้องอ่านก็ต้องเป้นข้อมูลที่จะทำให้กำไรโตเท่านั้น เพราะเป้นตัวผลักดันราคา หุ้นสินทรัพแฝงไม่ค่อยเล่นมีแค่นิดๆหน่อยๆพำราะไม่รู้ว่าเขาจะปลอดปล่อยราคาที่แท้จริงออกมาเมือ่ไหร อย่าเลยดูบริษัทที่มีที่ดินจำนวนมาก อ่านโปรไฟล์ผู้บริหารเป้นคนดีมีธรรมะ ก็ไม่เอา เพราะเชือ่ว่าคนแบบนี้เค้าคงไม่ขนเอาที่ดินมาขายมาเล่นแร่ร่แปรธาตุ ต้องแยกให้ออก ว่าคนดีกับการลงทุนที่ดีไม่เหมือนกัน ส่วนเรื่องกลุ่มธุรกิจก็ไม่สนใจมากก็กระจายๆไปหลายๆกลุ่มตอนนี้ก้มีหุ้นอยู่ประมาณ 20ตัว มี 8 ตัวที่เป้นตัวหลักๆ

[champ_st]

หมอพงษ์ศัก : ชอบหุ้นขั้นเทพ คือมีความสามารถเหนือคู่แข่ง มีตัวเร่งที่จะทำให้มีกำไรได้ในระยะเวลาสั้นๆ จะได้ไม่ต้องรอนาน เพราะเวลาซื้อหุ้นพวกที่มีตัวเร่งใกล้ๆซัก 6 เดือน 1ปี มันจะปลอดภัยกับเงินต้นของตัวเอง ซึ่งไอ้หุ้นขั้นเทพก็คือ หุ้นที่มี DCA มีความสามารถในการแข่งขัน สามารถขึ้นราคาได้ ลูกค้าปฏิเสธไม่ได้ มีอำนาจในการกำหนดราคา มีแชร์ใหญ่ในตลาด ทำให้ผลประกอบการออกมาโดดเด่น แต่สุดท้ายก็ต้องดูว่าหุ้นเหล่านี้มีตัวกระตุ้นอะไรที่จะทำให้ผลประกอบการออกมาดี เช่น ปกติก็ปรับราคาปีละ 5% เป้นแบบนี้เรื่อยมาเป้นหุ้นที่ดีมากๆ แต่อยู่ดีๆก็มีแผนจะประบ 15% แบบนี้ก้คาดการได้เลยว่างบกำไรจะต้องออกมาดีแน่ๆเป้นต้น
หุ้นที่ตามอยู่ก้มี 15 ตัวซึ่งหุ้นขั้นเทพบอกไปใครๆก็รู้จัก แต่จังหวะซื้อนั้นก็สำคัญรวมถึงจังหวะขายด้วย ปีนึงเจอซัก ตัวก็ถือว่าโชคดีแล้ว

[champ_st]

พี่วิบูลย์ : มีความเชื่อใน ทบ”การลงทุนให้มีความสุข” คนส่วนใหย่เวลาหุ้นขึ้นก้มีความสุย เวลาลงก็ทุกบ์แบบนี้ก็มีความสุขความทุกข์ครึ่งๆ แต่ถ้าเราลงทุนแบบวีไอเลือกหุ้นที่ดี กิจการที่ดี ราคาเหมาะสม เวลาหุ้นขึ้นเราก็มีความสุข เวลาลงเราก้มีความสุขเพื่อเราจะได้ซื้อเพิ่ม โดยขอยกตัวอย่าง วิธีเลือกหุ้นที่สำคัญคือ ปีเตอร์ลิน ให้ซื้อหุ้นที่เรารู้จัก อยู่ในวงความรู้ เข้าใจมัน จากนั้นก็เอาแนวคิดของเกรแฮมที่ศึกษางบการเงิน ของบริษัทนั้นๆ แล้วก็ตามด้วยการวิเคราะหืเชิงคุณภาพตามแนวทางของ ฟิชเชอร์ ดูอุตสหกรรม ความสามารถในการแข่งขัน
ซึ่งถ้าเรายังไม่เข้าใจธุรกิจไหนก็พยายามศึกษาเพ่มไปเรื่อยๆให้วงของความรู้ของเราขยายออกไป

[champ_st]

ดร.นิเวศ : เล่าตอนสมัยวิกฤติที่ตนเองเริ่มต้น หุ้นคุณภาพดี ราคาถูกๆมีเยอะ เพราะตอนนั้นมันแย่ทั้งตลาดแต่เราก็มาแบ่งหุ้นออกเป้น 2 กลุ่มคือ 1 ไอ้พวกหนีเยอะๆ จะเจ้ง ราคาลงมาก็สมควรแต่อีกประเภท 2 คือไม่ได้กระทบกิจการก็ดี แต่ราคาก้ลงตามๆกันมา อย่างที่ดุ pe 7 บุค 0.5 กำไรก้โตสม่ำเสมอ ปันผลก็เกือบ 10% ก็ลงทุน แต่พอสมัยนี้ตอนนี้ หุ้นดีมากๆและถูกๆไม่มี ไอ้หุ้นที่ไม่ได้ดีมากๆราคาก็ไม่ถูกมากเท่าไหร มันก็เลยไม่รู้จะเลือกยังไง ส่วนหนึ่งก็เพราะกระแสวีไอ ทำให้หุ้นบางตัวที่ไม่ค่อยดี ไม่ค่อยมีอะไรแต่ราคาถูก คนก็มาซื้อราคามันก็ขึ้นทำให้ไม่ถูกแบบเดิม หุ้นธรรมดากำไรไม่ค่อยโตอะไร ราคาถูกมามีสินทรัพย์เยอะๆ มีปันผล ราคาต่ำมากๆจาก มาเกตแคปเทียบกับยอดขายก็เลยซื้อๆไป เพราะมองว่า 5 ปีก็น่าจะตอบสนองราคาขึ้นมาก้ขายทิ้งไปแต่ว่วนใหย่ไม่เกิน 3ปี แนวหุ้นก้นบุหรี เพราะไม่รู้จะซื้ออะไรมันแพงไปหมด
แต่ถ้าจะต้องลงทุนยาวๆ ก็ต้องหาหุ้นขั้นเทพ อีกแบบมองยาวๆถือไปเรื่อยๆ คิดถึงอนาคต กิจการจะเป้นบังไงในอีก 5ปี จะไปทางไหน เทรนจะไปต่อไป ขยายใหญ่ได้ขนาดไหน เป็นหลัก

[champ_st]

ถาม ชอบหุ้นสไตล ไหน

หมอพงษ์ : ชอบหุ้นที่มีความเข้มแข็งเหนือคู่แข่ง อยู่ในเทรนอนาคต จะได้ถือนานๆไม่ต้องตามบ่อยๆ แต่ถ้ายังไม่มีที่เราต้องการ ก็อยามีพวก asstoplay เกบไว้เพื่อรอหุ้นที่เราชอบลงมาถูกๆแต่พวกนี้ยังไงก็ต้องขายเพราะเรามองไม่ออก อยากวื้อขายแค่ปีละครั้ง

[champ_st]

พี่โจ : ชอบหุ้นที่เติบโต กำไรโต โดยโตแบบยั่งยื่น ดูตัวเลขย้อนไป 4-5ปี ก็เห้นว่าเติบโต แล้วราคาไม่แพง เพราถ้าราคาแพงก็ไม่ใช่การลงทุนที่ดี อย่างยกตัวอย่างคิดคราวๆ กำไรโต 20% pe ก็ซัก 20 เท่าพอรับได้ แต่ถ้าธุรกิจเข้มแข็งมากๆ โต 20% pe 25 ก็พอไหว แต่ก้ต้องดูเป้ฯรายๆตัวไป เวลามองก็ต้องมอง Fw PE ซัก 1-3ปี ถ้าถูกก็ซือ้เก็บไว้ โดยเอา EPS มาคูณถ้าถูกก้ซื้อหลัการลงทุนที่ดีต้องดู ดาวไซ ก่อนเสมอเพื่อนรักษาเงินต้น
บางทีเวลาอานข่าวผู้บริหารบอกปีนี้โต 100 ปีหน้า 200 ก็ต้องมาดูแล้วว่าเป้นไปได้ไหม กำไรโตมาจากอะไร โดยส่วนตัวชอบกำไรโตจากยอดขายที่โต มันดีกว่ากำไรโตเพราะลดค้าใช้จ่ายเพราะตัวลดค่าใช้จ่ายมันก็มีขีดจำกัด หลังๆจะชอบพวกหุ้นฟื้นตัว ดูว่ามีปัญหากำไรหายแต่เป้ยนการหายชั่วคราว เช่นน้ำท่วมมันคงไม่ท่วมทุกปี

[champ_st]

พี่วิบูลย์ : ก็ยกตัวอย่างปีเตอร์ลิซให้เลือกหุ้นที่เรา เข้าใจกิจการ ต่อมาก็ต้องดูฐานะทางการเงินตามแนวทางเกรแฮม และสุดท้ายดูความสามารถในการแข่งขันตามแนวทางฟิชเชอร์ ถ้าเราเอา 3 หลักนี้มาจับจะไม่พลาดหุ้นดีๆ สุดท้ายเวลาซื้อ ก็ดูแนวคิดบับเฟด จงโลภเมื่อคนอื่นกลัว จงกลัวเมือคนอื่นโลภ ทางทีวิเคราะห์แล้วเจอตัวที่ใช่แต่ราคาแพงก็ต้องอดใจรอต่อไป ตัวอย่าง เมือ่ก่อนไปเดินเซนทรัลบางนาเห็นคนต่อคิวยาวมากเราก็ไปดูพบว่าเป้นบริษัทจดทะเบียนแห่งหนึ่ง พอไปดูงบก็เข้าท่า กิจการก็แข่งแกร่งแต่ราคา 240 pe 30 เท่า peตลาดสมัยนั้น 7 เท่าก็ไม่ซื้อ จนอยู่ดีดีแบงค์ชาติก็ประกาศคุมดอกเบี้ยบัตรเครดิต หุ้นตัวนี้ก็ลงถล่มถลายเหลือ 120 บาท เราก็ไปเชคว่าข่าวกระทบไหมปรากฏว่าไม่เกี่ยวกับมันเราก็ซื้อ 120 ลงไป 80 ก็ใจแป้ว แต่สุดท้ายพอตลาดรับรู้งบออกมาราคาก็กลับไป 240

[champ_st]

ดร. : ชอบลงทุนยาวๆ พอตหลักก็ต้องเป้นหุ้นที่อยู่ในกระแสเมกะเทรน เดี่ยวนี้ศึกษาเรื่องสงคราม มองภาพรวมของธุระกิจเหมอืนสนามรบก็ต้องเลือกหุ้นที่มีความได้เปรียบเป้นผู้ชนะ โดยเฉพาะการชนะแล้วตนเองแข็งแกร่งขึ้นอย่าง ค้าปลีกโตด้วยการขยายสาขาไปยึดพื้นที ผู้ชนะจะได้พื้นที่เป้นจำนวนมาก รายใหม่เข้ามาก็ลำบาก บางช่วงพวกนี้กาจกำไรลดลงบ้างก็เป้นเพราะการแข่งขันมันดุเดือด แต่เราต้องมองให้ออกว่าใครจะเป้นผู้ชนะ เพราะเมื่อชนะแล้ว กิจการจะแข็งเกรง จะขึ้นราคากำไรก็จะกลับมา บางทีทั้งอุตสหกรรมโตหมด ทุกบรัก็กำไรเราก็ต้องดูคนที่กำไรดีที่สุดแย่งคนอื่นมา น่าสนใจ แต่บางทีอุตหกรรมหดตัว มันแค่ทรงๆไม่หดตามแต่คู่แข่งล้มหายตายจากไป มันก็พอน่าสนใจ โดยส่วนตัวชอบอุตสหกรรมที่โต 10%ขึ้นไปและธุรกิจเป้นเบอร์ 1 ของอุตสาหกรรมนั้นๆ ถ้าอุตสาหกรรมไม่โตก็ไม่ค่อยสนใจ

[champ_st]

ถาม : ประสบการณ์ลงทุน

หมอพงษ์ : กิจการ XXX ตอนนั้นพึ่งเข้ามาใหม่ เปิดสาขา เราก้มองเป๋นกิจการที่อยู่ในเทรนสุขภาพออกกำลังกาย ก็ลองไปใช้บริการดูก็เห็นคนเยอะ เลยตัดสินใจซื้อ เพราะอะไรก็ดูดีหมด แต่ที่พลาดคือกิจการใหม่ๆเรายังไม่เข้าใจไม่มีข้อมูลย้อนหลังมากพอ คือรีบซื้อเกินไป ปีเตอร์ลิชก็บอกว่าพวกนี้ไม่ต้องรีบ สุดท้ายก็ผิด เพราะเห็นหนี้เยอะมาก กำไรมมี ขายสมาชิคแปลกๆ ก็ขาดทุนไป 20%
ตัวที่ประสบความสำเร้จ ก็ค้าปลีกตัวหนึ่ง มองราคามันมานานก็ไมได้ซื้อ เพราะมันแพง พอวิกฤตราคาลงมาก็ซื้อไปเรื่อยๆ สนสุดท้ายเห้น bid offer น้อยมากๆ เราก็ไม่ได้กดเพื่มก็เสียดายที่ไม่ได้ซื้อรคาต่ำสุด

[champ_st]

พี่โจ : ที่ผิดพลาดปีที่ผ่านมาก็ขาดทุนไปหลายๆตัว อย่างคอมโมตัวหนึ่ง เป็นกิจการกลางน้ำก็เห็นมีแผนสวยหรูจะไปซื้อต้นน้ำมา เราก็เคลิ้ม แต่ตอนหลังเราก้คิดว่ามันผิดเพราะไปซื้อบริษัทที่มันขาดทุนมามันแก้ไขยาก จนสุดท้ายก็ขายขาดทุนไป 30% ได้บทเรียนเรื่องหุ้นฟื้นตัว ต้องดูปัจจัยที่จะทำให้มันฟื้นว่าเกิดจากอะไร ถ้าไม่ฟื้นราคาที่เราซื้อตอนนี้จะขาดทุนไหมหรือจะแย่ไปกว่านี้ไหม
ส่วนตัวที่ถูกก็คือ ลิสซิ่งตัวหนึ่งมีปัญหาผู้บริหารลาออกยกทีม โดนน้ำท่วม กำไรก็หายไปเยอะมาก แต่สุดท้ายบริษัทก็มีแผนงานชัดเจน ว่าจะปล่ยเงินกู้เพิ่ม 10 เท่า เหนราคาถูกก็เลยซื้อไป

[champ_st]

พี่วิบูล : ปกติถ้ายึดแนวทางที่ให้ไป 3 คนข้างต้นโอกาสขาดทุนน้อยมากมีแต่ขายหมู แต่ไม่เคยซื้อควายเพราะรู้ว่าความคืออะไร อย่างเมือ่ 4-5ปีที่แล้วก็เจออสังหาตัวหนึ่งที่สร้างทาวเฮ้าได้เร็วมาก 45วันปกติ 90วัน มีแผนจะเป้นเบอร์ 1 ในอสังหาเราห็สนใจศึกษา งบการเงินก็ดีมาก หนี้ไม่เยอะเทียบกับรายอื่น ความสามารถในการแข่งกันก็เป้ฯอันดับต้นๆ มีแผนงานจัดเจนที่จะเป้นเบอร์ 1 ก็เลยซื้อราคา 4บาท เพราะคำนวณว่าถ้าเป้นเบอร์ มันต้อง 8บาทแน่ๆ พอผ่านไป 6เดือนมันก้มา 8 บาทจริงๆก็เลยขาด สุดท้ายวิ่งไป 25 บาทขายหมุไป 400% ต่อมาก็ดชคดีที่น้ำท่วมใหย่ ตัวนี้โดนหนักสุดลงมา 10 บาทก็ซื้อไปอีกทีเพราะมองว่า คนไทยไม่ค่อยย้ายถิ่นอาศัยบ่อยก็คิดว่าจะให้เวลา 3ปีราคากลับมาคนก็กลัวเราก็ซื้อ ก็ยืนยันแนวคิดบัเฟดว่า จงกล้าเมื่อคนอื่นกลัว

[champ_st]

ดร.นิเวศ : เลือกหุ้นผิดพลาดก็มีคือวิเคราะห์เร็วๆผิดก็ขายทิ้งเลยไม่ค่อยได้จำ อย่าง โลจิสติกรายหนึ่งก็เคยดูราคาถูกมาก มีอำนาจล้นเหลือกุมโลจิสติกไว้เข้าถึงได้ทุกที่ ถือวานานมาก ที่ดินที่แฝงไว้ก็มี กำไรก็โอเค แต่มันก็ไม่ไปไหนเบื่อมากถือมานานมาก สุดท้ายพอกำไรนิดหน่อยก็ขายทิ้งแล้วก็มีข่าว คนมาเทค ยกเลิกสัญญา ราคาก็วิ่งพรวดๆ อีกตัวก็ แบรนอาหารอันหนึ่งที่มีข่าวต่างชาติยกเลิกแบรนไป เราก็ตกใจเพราะมองว่าแบรนมันสำคัญก็ขายไปสุดท้ายมันก็กลับมาได้เพราะมันมีบริการ มีโลเคชั่น มีสาขา การจัดการเจ้มแข็ง ตอนนั้นมองแต่แบรนอย่างเดียว
ในแต่ละอุตสาหกรรมที่จะลงทุนก้ต้องรู้ว่า อำนาจอยู่ตรงไหน อย่างอสังหา มันก็ซื้อที่พัฒนาขายก็หมดไปเป็นที่ๆ เหมือนนักรบบนหลังม้าที่ต้องหาที่ดินพัฒนา ขาย หมดไปแบบนี้ไปเรื่อยๆ เหนื่อย เมือ่ก่อนย้อนไปดูอย่างบีแลนเป้ฯรายใหญ่ เบอร์1 ตอนนี้ก็แย่ไปเลยมีรายใหญ่ใหม่ๆมาแทนที่ ระยะยาวมันคาดเดาอะไรได้ไม่หมด ต่สงจากบางกิจการยิ่งทำยิ่งมีเครือขาย ยึดพื้นที่ ผู้ชนะเข้มแข็งไปเรื่อยๆ คนมาใหม่สู้ยาก

[champ_st]

ถาม : อุตสาหกรรมที่น่าลงทุน กับหลีกเลี่ยง

พี่วิบูล : ชั่วโมงนี้ต้องดู AEC ไปทำควาเข้าใจว่าคืออะไร ตลาดซื้อขายเดียว เคลื่อนย้ายเงินทุนเสรี แรงงานบางอาชีเสรี ธุนะกิจไหนได้ประโยช อย่างโรงบาลไทย ใหญ่สุดในเอเชีย โรงบาลแห่งหนึ่งในสุขุมวิท ลูกค้าต่างชาติทั้งปีที่นี่ เท่ากับลุกค้าต่างทั้งทั้งประเทศสิงคโปเป้นต้น
กลุ่มรับเหมาจะไม่ค่อยสนใจลงทุนเพราะเวลาซื้อหุ้นต้องมอง 3-5ปีกลุ่มนี้มองอะไรไม่ออกยึ่งมีปัญหาขึ้นค่าแรงยื่งน่าจะเหนื่อย

[champ_st]

พี่โจ : มองอุตสาหกรรม อาจดูยาก เน้นดูรายบริษัทมากกว่า วิเคราะห์ ไฟว์ฟอซโมเดล ความสามารแข่งขัน แข็งแกร่ง ไม่มีสินค้าทดแทน เป้นหลัก อย่างเมือ่ 2-3ปีที่แล้วห้มองถ่านหินจะมาจะดี เป้นดาวรุง ตอนนี้ก็มีปัญหามากมาย แต่ก็สนใจกลุ่มที่มีเครือข่ายที่เข้าถึงผู้บริโภค ซึ่งจะมีพลังมาก อย่างปูนซื้อโกลบอลก็เพื่อหาแขนขาเข้าถึงผู้บริโภคโดยตรง สินค้าที่ดีอาจต้องไม่มีอะไรมาทดแทนได้ คอมโมระยะสั้นก็ต้องระวังผันผวน

[champ_st]

หมอพงษ์ : ประเทศเรากำลังเปลี่ยนฐานรายได้ประชากร สินค้าที่ตอบสนองชนชั้นกลางน่าจะดี อย่างพวก สุขภาพ ห้าง ก็น่าสนใจ พวกที่จะเหนื่อยไม่น่าสนใจก็พวกบริษัทที่รับ OEM ไม่มีแบรนเป้นของตนเอง เพราะอำนาจต่อรองไม่มีบิ่งค่าแรงขึ้นอาจมีปัญหากำไรหายไปความสามารถในการแข่งขันจะลดลง อาจมีการย้ายฐานการผลิตไปประเทศเพื่อนบ้าน

[champ_st]

ดร. : ตอนนี้ดูยาก บริษัทที่ดีมาก ก็แพงมาก ไม่ค่อยมีราคาถุกๆ ก็เลยมองการไปลงทุนต่างประเทศ สั้นๆมองว่าเสี่ยง อย่างกลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงถ้าไม่เข้าใจก็พวก ถ่านหิน ปิโต เหล้ก เพราะมันขึ้นลงตามตลาดโลก ช่วงนี้เงินจากพันธบัตรก็ไหลมาตลาดหุ้นเยอะพอควร มีแนะนำญาติๆไปก็เอาที่ปลอดภัย ( EXXXX TXX เป้นต้น อาจารไพบูลย์ใบ้มา 555 )

[champ_st]

สุดท้ายขอให้ทุกท่านโชคดีในการลงทุน และขอขอบคุณทีมงานที่จัดสัมนาในครั้งนี้ทุกท่านครับ

[TLSS]

ขอบคุณมากครับ

[vi_tal signs]

ขอบคุณครับ

[charun]

เลคเชอร์ขั้นเทพ ขอบคุณมากครับ

[dome@perth]

โห เทพเล็คเชอร์ มาโปรดผมแล้ว

ผมไม่ค่อยมีสมาธิได้ฟังเลยเพราะ
ผมนั่งไม่เป็นสูขเลยวันนี้ ปวดเข่า
เสียสละที่นั่งให้ ป้าๆอาๆ ครับ

ขอบคุณแชมพ์มากๆครับ

[Rocker]

ขอบคุณครับ จดเก่งมาก

[blueplanet]

ขอบคุณครับ คุณchamp_st

[ส.สลึง]

ขอบคุณครับ

[i-salmon]

ขอบคุณครับ อ่านประโยคแรกเห็นคำว่าโพย แว่บๆ ตั้งใจอ่านเลย 555

[multipleceilings]

+ 1000000000 ครับ

[Muffin]

ขอบคุณมากเลยครับ

[kissme]

ขอบคุณมากครับผม

[Giroro]

ขอบคุณมากครับ