พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 31
เห็นใน The new buffetology เขียนไว้เป็นข้อแรกของบท บัญญัติ 10 ประการเลยครับ <Warren checklist for potential investments:His ten point of light>
ให้ดู ROE ย้อนหลัง 10 ปี ว่าสม่ำเสมอ และดีขึ้นเรื่อยๆหรือไม่
keypoint -->บริษัทที่เป็นลักษณะ durable competitive advantage มักจะมี ROE >12%
บริษัทที่มีลักษณะ Price-competitive commodity-type bussiness มักจะมี ROE <12%
ข้อ 2 ให้ระวังว่าบางบริษัท อาจจะหลอกทำให้ตัวเลข ROE ของบริษัทตัวเอง ดูสูงๆ โดยการอาจจ่ายปันผลมากๆ ทำให้ ตัว E น้อยลง วิธีแก้คือให้ดู ROA ร่วมด้วยครับ
ว่าแต่ชอบกระทู้นี้มากครับ ว่าจะทำหาข้อมูลแบบนี้นานแล้วครับ ว่าจะลองทำตามหนังสือ หาข้อมูล ย้อนหลังหุ้น ดู ROE ROA EPS สัก 10 ปีแล้วมาทำเป็นตารางเปรียบเทียบกัน
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลที่ให้
ให้ดู ROE ย้อนหลัง 10 ปี ว่าสม่ำเสมอ และดีขึ้นเรื่อยๆหรือไม่
keypoint -->บริษัทที่เป็นลักษณะ durable competitive advantage มักจะมี ROE >12%
บริษัทที่มีลักษณะ Price-competitive commodity-type bussiness มักจะมี ROE <12%
ข้อ 2 ให้ระวังว่าบางบริษัท อาจจะหลอกทำให้ตัวเลข ROE ของบริษัทตัวเอง ดูสูงๆ โดยการอาจจ่ายปันผลมากๆ ทำให้ ตัว E น้อยลง วิธีแก้คือให้ดู ROA ร่วมด้วยครับ
ว่าแต่ชอบกระทู้นี้มากครับ ว่าจะทำหาข้อมูลแบบนี้นานแล้วครับ ว่าจะลองทำตามหนังสือ หาข้อมูล ย้อนหลังหุ้น ดู ROE ROA EPS สัก 10 ปีแล้วมาทำเป็นตารางเปรียบเทียบกัน
ขอบคุณมากครับ สำหรับข้อมูลที่ให้
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 32
ขอบคุณพี่ประจวบที่ให้เคล็ดวิชา เดี๋ยวผมจะลองหาดูทั้ง 400 ตัว เอาตัวที่มี ROE และ ROA เกิน 20 เปอร์เซ็นต์ ติดต่อกัน 3 ปี ดูซิว่าจะมีซักกี่บริษัท
แล้วเอามาเทียบกับน้องอนุสรณ์ดู
แล้วเอามาเทียบกับน้องอนุสรณ์ดู
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 35
พี่ประจวบ + kotaro
อิอิ เรื่อง ROE > 12 , ROA > 12 OK ครับ ว่า ใน The New เขาบอกไว้
คือเขาบอกเอาไว้ให้เรามองหาหุ้นดี ๆ ดูอย่างไร
แต่วิธีดูว่าราคาไหน น่าซื้อ ใน The New เขาใช้ EPS GROWTH 10 มาคำนวณ EPS ในอีก 10 ปีข้างหน้า แล้ว ดิสเค้า กลับมา ด้วยดอกเบี้ยที่เราต้องการ เช่น 20 เปอร์เซ็นต์
คือทั้งเล่มเน้นตรง EPS GROWTH ครับ
แต่ใน 2 เล่มแรก เขาจะเน้นให้ดู ROE สูงๆ เช่นกรณีซื้อโค๊ก
จาก
ตัวอย่างในหน้า 122 ในหนังสือ work book
วอเรนซื้อโค๊ก 592 ล้านเหรียญ ในปี 1988 ซึ่งตอนนี้ PE อยู่ที่ 15 book 1.07 กำไรต่อหุ้น .36 ROE 33.6 เปอร์เซ็นต์
ผ่านไป 12 ปี จากการคำนวณ ที่ลงให้เห็นอย่างชัดเจน ในหนังสือ เขาได้รับปันผล กลับมาที่ 686 ล้านเหรียญ หลังจากหักภาษีไปแล้ว 14 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าได้เงินทุนคืนมาหมดเลย
แถมราคาหุ้นที่เขาซื้อไว้ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 5.136 พันล้านเหรียญ
ซึ่งตัวอย่างแบบนี้ไม่ได้นำ EPS GROWTH ย้อนหลัง 10 ปีมาคำนวณ
เขาดูและประมาณการจาก ROE และปันผล ซึ่งไม่มีเขียนใน THe New Buffetology ครับ
ที่ผมหมายถึงเขาไม่เขียน คือเขาไม่ได้เน้น เรื่องนี้ครับ
มีน้องๆในห้องประชุม หลายคน ผมเปิด work book ให้ดู เล่มนี้ ไม่ใช่เล่ม The new buffetology นะคับ
อิอิ เรื่อง ROE > 12 , ROA > 12 OK ครับ ว่า ใน The New เขาบอกไว้
คือเขาบอกเอาไว้ให้เรามองหาหุ้นดี ๆ ดูอย่างไร
แต่วิธีดูว่าราคาไหน น่าซื้อ ใน The New เขาใช้ EPS GROWTH 10 มาคำนวณ EPS ในอีก 10 ปีข้างหน้า แล้ว ดิสเค้า กลับมา ด้วยดอกเบี้ยที่เราต้องการ เช่น 20 เปอร์เซ็นต์
คือทั้งเล่มเน้นตรง EPS GROWTH ครับ
แต่ใน 2 เล่มแรก เขาจะเน้นให้ดู ROE สูงๆ เช่นกรณีซื้อโค๊ก
จาก
ตัวอย่างในหน้า 122 ในหนังสือ work book
วอเรนซื้อโค๊ก 592 ล้านเหรียญ ในปี 1988 ซึ่งตอนนี้ PE อยู่ที่ 15 book 1.07 กำไรต่อหุ้น .36 ROE 33.6 เปอร์เซ็นต์
ผ่านไป 12 ปี จากการคำนวณ ที่ลงให้เห็นอย่างชัดเจน ในหนังสือ เขาได้รับปันผล กลับมาที่ 686 ล้านเหรียญ หลังจากหักภาษีไปแล้ว 14 เปอร์เซ็นต์ แสดงว่าได้เงินทุนคืนมาหมดเลย
แถมราคาหุ้นที่เขาซื้อไว้ มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเป็น 5.136 พันล้านเหรียญ
ซึ่งตัวอย่างแบบนี้ไม่ได้นำ EPS GROWTH ย้อนหลัง 10 ปีมาคำนวณ
เขาดูและประมาณการจาก ROE และปันผล ซึ่งไม่มีเขียนใน THe New Buffetology ครับ
ที่ผมหมายถึงเขาไม่เขียน คือเขาไม่ได้เน้น เรื่องนี้ครับ
มีน้องๆในห้องประชุม หลายคน ผมเปิด work book ให้ดู เล่มนี้ ไม่ใช่เล่ม The new buffetology นะคับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 36
แบ่งตามหน้าหนังสือพิมพ์แล้วกัน kotaro เอาฝั้งซ้าย ไป พี่เอาฝั่งขวาแล้วกัน ok นะครับ
แล้วพรุ่งนี้มา คุยกัน
แล้วพรุ่งนี้มา คุยกัน
แก้ไขล่าสุดโดย Jeng เมื่อ จันทร์ ก.ย. 15, 2003 11:52 pm, แก้ไขไปแล้ว 1 ครั้ง.
- kotaro
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1496
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 37
หนังสือพิมพ์อะไรพี่
เอาเป็น post today แล้วกันนะ เพราะที่ที่ผมอยู่ไม่มีหนังสือพิมพ์ขาย แต่วันนี้โชคดีได้ post today ว่าเล่มนึง
พี่ให้ผม ฝั่งไหนครับ งง ฝั่งซ้ายขวา ก็หมดแล้วสิครับ
เอาเป็น post today แล้วกันนะ เพราะที่ที่ผมอยู่ไม่มีหนังสือพิมพ์ขาย แต่วันนี้โชคดีได้ post today ว่าเล่มนึง
พี่ให้ผม ฝั่งไหนครับ งง ฝั่งซ้ายขวา ก็หมดแล้วสิครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 38
พูดแล้วไม่เคลียเดี๋ยวขออธิบาย หลัก ROE ใน WORK BOOK ต่อ
คือ เขาซื้อโค๊ก ในปี 1988 592,540,000 เหรียญ จำนวน 113,380,000 หุ้น ราคา 5.22 ซึ่งขณะที่ซื้อ มีโค๊กกำไรต่อหุ้น .36 book = 1.07
PE= 5.22/.36 เท่ากับ 14.5 ซึ่งถือว่าสูงมากในความคิดของผม
แต่เมื่อดูการคำนวณแล้วตกใจ
คือ
ROE = .36 / 1.07 = 33.6
เขาเล่นคำนวณซื่อๆเลยว่า
1988 book 1.07 กำไร .36 ปันผล .15 เข้าบริษัท .21
1989 book 1.28 กำไร .43 ปันผล .18 เข้าบริษัท .25
1990 book 1.53 กำไร .51 ปันผล .21 เข้าบริษัท .30
1991 book 1.83 กำไร .61 ปันผล .26 เข้าบริษัท .35
1992 book 2.18 กำไร .72 ปันผล .30 เข้าบริษัท .42
1993 book 2.60 กำไร .87 ปันผล .37 เข้าบริษัท .50
1994 book 3.10 กำไร 1.04 ปันผล .44 เข้าบริษัท .60
1995 book 3.70 กำไร 1.24 ปันผล .52 เข้าบริษัท .72
1996 book 4.42 กำไร 1.48 ปันผล .62 เข้าบริษัท .86
1997 book 5.28 กำไร 1.77 ปันผล .75 เข้าบริษัท 1.02
1998 book 6.30 กำไร 2.12 ปันผล .90 เข้าบริษัท 1.22
1999 book 7.52 กำไร 2.53 ปันผล 1.07 เข้าบริษัท 1.46
2000 book 8.98 กำไร 3.02 ปันผล 1.27 เข้าบริษัท 1.75
ปันผล รวม 7.04 เข้าบริษัทหรือ Retained Earnings 9.66
ปันผล 7.04 x 113.38 ล้านหุ้น หลังจากหักภาษี 14 เปอร์เซ็นต์
ได้เม็ดเงินกลับมา 686 ล้านเหรียญ
ในปี 2000 ประมาณการกำไร 3.02 เมื่อเมื่อคิด PE ที่ 15
จะมีมูลค่า 3.02 x 15 x 113.38 ล้าหุ้น เท่ากับ 5.136 พันล้านเหรียญ
สรุปว่า เม็ดเงินลงทุน 592.4 ล้านเหรียญในปี 1988 จะได้รับเงินต้นคืน 686 ล้านเหรียญ คงเหลือหุ้นฟรีๆ 113.38 ล้านหุ้น มูลค่า 5.136 พันล้านเหรียญ หลังจากการลงทุน และถือยาว 12 ปี
พิมพ์ซะเหนือยเลย
ข้อสังเกตุ คือไม่ได้นำ EPS ย้อนหลัง 10 ปี มาคำนวณ ในแบบ The New Buffetology
และไม่ได้บอกเรื่อง ROA ครับ
แต่ที่พี่ประจวบบอกไว้ ดีแล้วครับ
คือ เขาซื้อโค๊ก ในปี 1988 592,540,000 เหรียญ จำนวน 113,380,000 หุ้น ราคา 5.22 ซึ่งขณะที่ซื้อ มีโค๊กกำไรต่อหุ้น .36 book = 1.07
PE= 5.22/.36 เท่ากับ 14.5 ซึ่งถือว่าสูงมากในความคิดของผม
แต่เมื่อดูการคำนวณแล้วตกใจ
คือ
ROE = .36 / 1.07 = 33.6
เขาเล่นคำนวณซื่อๆเลยว่า
1988 book 1.07 กำไร .36 ปันผล .15 เข้าบริษัท .21
1989 book 1.28 กำไร .43 ปันผล .18 เข้าบริษัท .25
1990 book 1.53 กำไร .51 ปันผล .21 เข้าบริษัท .30
1991 book 1.83 กำไร .61 ปันผล .26 เข้าบริษัท .35
1992 book 2.18 กำไร .72 ปันผล .30 เข้าบริษัท .42
1993 book 2.60 กำไร .87 ปันผล .37 เข้าบริษัท .50
1994 book 3.10 กำไร 1.04 ปันผล .44 เข้าบริษัท .60
1995 book 3.70 กำไร 1.24 ปันผล .52 เข้าบริษัท .72
1996 book 4.42 กำไร 1.48 ปันผล .62 เข้าบริษัท .86
1997 book 5.28 กำไร 1.77 ปันผล .75 เข้าบริษัท 1.02
1998 book 6.30 กำไร 2.12 ปันผล .90 เข้าบริษัท 1.22
1999 book 7.52 กำไร 2.53 ปันผล 1.07 เข้าบริษัท 1.46
2000 book 8.98 กำไร 3.02 ปันผล 1.27 เข้าบริษัท 1.75
ปันผล รวม 7.04 เข้าบริษัทหรือ Retained Earnings 9.66
ปันผล 7.04 x 113.38 ล้านหุ้น หลังจากหักภาษี 14 เปอร์เซ็นต์
ได้เม็ดเงินกลับมา 686 ล้านเหรียญ
ในปี 2000 ประมาณการกำไร 3.02 เมื่อเมื่อคิด PE ที่ 15
จะมีมูลค่า 3.02 x 15 x 113.38 ล้าหุ้น เท่ากับ 5.136 พันล้านเหรียญ
สรุปว่า เม็ดเงินลงทุน 592.4 ล้านเหรียญในปี 1988 จะได้รับเงินต้นคืน 686 ล้านเหรียญ คงเหลือหุ้นฟรีๆ 113.38 ล้านหุ้น มูลค่า 5.136 พันล้านเหรียญ หลังจากการลงทุน และถือยาว 12 ปี
พิมพ์ซะเหนือยเลย
ข้อสังเกตุ คือไม่ได้นำ EPS ย้อนหลัง 10 ปี มาคำนวณ ในแบบ The New Buffetology
และไม่ได้บอกเรื่อง ROA ครับ
แต่ที่พี่ประจวบบอกไว้ ดีแล้วครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 40
WG ของผมก็ไม่ติดอันดับซิครับ เพราะมี Excess Cash เยอะมากเกินไปหน่อย ทั้งให้มี Equity และ Total Asset เกินความจำเป็น
คงต้องบอกลูกน้องที่บริษัท (กรรมการผู้จัดการบริษัท ซึ่งน่าจะเป็นลูกน้องของผมนะ ก็ผมเป็นเจ้าของบริษัทนิ จริงมะ) ให้พิจารณาเสนอจ่ายเงินปันผลพิเศษออกมาซะแล้วซิ เผื่อ ROE และ ROA จะได้สูงเข้าเกณฑ์บ้าง
ถ้ายังไม่พออาจจะต้องขายที่ดินและอาคารสำนักงานแล้วเปลี่ยนเป็นเช่า เมื่อได้เงินสดจากการขายแล้วก็นำเงินไปจ่ายปันผลเพิ่มอีก หวังว่ามาตรการนี้คงทำให้ ROE และ ROA ของบริษัทผมเพิ่มขึ้น จนเข้าตาบ้างนะครับ
คงต้องบอกลูกน้องที่บริษัท (กรรมการผู้จัดการบริษัท ซึ่งน่าจะเป็นลูกน้องของผมนะ ก็ผมเป็นเจ้าของบริษัทนิ จริงมะ) ให้พิจารณาเสนอจ่ายเงินปันผลพิเศษออกมาซะแล้วซิ เผื่อ ROE และ ROA จะได้สูงเข้าเกณฑ์บ้าง
ถ้ายังไม่พออาจจะต้องขายที่ดินและอาคารสำนักงานแล้วเปลี่ยนเป็นเช่า เมื่อได้เงินสดจากการขายแล้วก็นำเงินไปจ่ายปันผลเพิ่มอีก หวังว่ามาตรการนี้คงทำให้ ROE และ ROA ของบริษัทผมเพิ่มขึ้น จนเข้าตาบ้างนะครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 41
ตอบคุณjeng ครับ
ผมไม่ได้ใช้ตัวเลขแน่นอนครับในเรื่องroe และroa ครับแต่ขอให้สูงพอควรทั้งคู่ครับ ยิ่งสูงยิ่งดี
ผมจะดูคู่กับหนี้ ความแน่นอนสม่ำเสมอของกำไร เงินสด และที่สำคัญต้องอยู่มานานๆๆๆๆ ผ่านร้อนหนาวมามากพอสมควร และคูเมืองที่กิจการมีอยู่ครับ
ยกตัวอย่างmatichon roe 10 roa 10 เพราะไม่มีหนี้เลยจึงทำให้เท่ากัน แต่ผมเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแม้reo roa จะไม่สูงมาก มีeconomic goodwill ในตัวเอง มีคูเมืองเพราะคนอ่านติด ต้องอ่านทุกวัน สำคัญคือผู้บริหารไม่ลงมา"เล่น"หุ้นตัวเอง (น้องๆเพื่อนๆอย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ เพราะรักจะลงทุนvi ต้องวิเคราะห์เองครับ อย่าเชื่อเพราะมีใครวิเคราะห์ให้ฟัง หรือเชื่อเพราะไว้ใจในคนที่บอก .........ตามหลักกาลามสูตร)
ผมไม่ได้ใช้ตัวเลขแน่นอนครับในเรื่องroe และroa ครับแต่ขอให้สูงพอควรทั้งคู่ครับ ยิ่งสูงยิ่งดี
ผมจะดูคู่กับหนี้ ความแน่นอนสม่ำเสมอของกำไร เงินสด และที่สำคัญต้องอยู่มานานๆๆๆๆ ผ่านร้อนหนาวมามากพอสมควร และคูเมืองที่กิจการมีอยู่ครับ
ยกตัวอย่างmatichon roe 10 roa 10 เพราะไม่มีหนี้เลยจึงทำให้เท่ากัน แต่ผมเก็บเพิ่มขึ้นเรื่อยๆแม้reo roa จะไม่สูงมาก มีeconomic goodwill ในตัวเอง มีคูเมืองเพราะคนอ่านติด ต้องอ่านทุกวัน สำคัญคือผู้บริหารไม่ลงมา"เล่น"หุ้นตัวเอง (น้องๆเพื่อนๆอย่าเพิ่งเชื่อผมนะครับ เพราะรักจะลงทุนvi ต้องวิเคราะห์เองครับ อย่าเชื่อเพราะมีใครวิเคราะห์ให้ฟัง หรือเชื่อเพราะไว้ใจในคนที่บอก .........ตามหลักกาลามสูตร)
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 43
เรื่องการวิเคราะห์ROE แล้วใช้เป็นindicatorก็ไม่ผิดหรอกครับ แต่ขอให้ดูที่หนี้ ไม่ควรจะมาก
การดูindicatorเพียงไม่กี่ตัวไม่เป็นการยืนยันความถูกต้องครับ
1) ROEสูง แต่FCFต่ำ ไม่ดีแน่ เพราะ อาจจะเป็นแค่การรับรู้รายได้ ยังไม่ได้รับเงินสด
2) FCF สูง ROE ต่ำ บริษัทสร้างมูลค่าได้ต่ำครับ
3) ROE สูง FCFสูง ยอดเยี่ยมครับ
ส่วนสูตรDupont ผมจะเอามาคุยพรุ่งนี้ครับวันนี้ดึกแล้ว
การดูindicatorเพียงไม่กี่ตัวไม่เป็นการยืนยันความถูกต้องครับ
1) ROEสูง แต่FCFต่ำ ไม่ดีแน่ เพราะ อาจจะเป็นแค่การรับรู้รายได้ ยังไม่ได้รับเงินสด
2) FCF สูง ROE ต่ำ บริษัทสร้างมูลค่าได้ต่ำครับ
3) ROE สูง FCFสูง ยอดเยี่ยมครับ
ส่วนสูตรDupont ผมจะเอามาคุยพรุ่งนี้ครับวันนี้ดึกแล้ว
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 44
มาแล้วครับ Du Pont เป็นการแตกส่วนของROE ออกเพื่อวิเคราะห์ปัจจัยอื่นๆที่กระทบกับ ROE
ROE = (Net income / sales) x (Sales / Assets) x (Assets / Equity)
Net income / sales = Net Profit Magin มีกำไรกี่บาทจากการขายทุกๆ 1 บาท ยิ่งมายิ่งดี
Sales / Assets = Assets turn over สินทรัพย์ที่มี 1 บาทสามารถสร้างกำไรได้กี่บาท ยิ่งมายิ่งดี
Assets / Equity = Financial Leverage สินทรัพย์ที่มีอยู่1บาทมาจากทุนกี่บาท ค่านี้ยิ่งต่ำยิ่งเสี่ยงน้อย ค่าต่ำหมายถึงสินทรัพย์ส่วนใหญ่มาจากทุน ไม่ใช่มาจากการก่อหนี้
การที่บริษัทจะมีROEสูงๆได้อย่างต่อเนื่อง นั่นหมายถึงบริษัทจะต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งคงทน สามารถสร้างกำไรได้สูง สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ต้องมีมาก(ส่วนใหญ่มีไม่มาก เพราะเอาไปลงทุนที่ไม่ก่อประโยชน์) หากความเสี่ยงจากการใช้เงินทุนต่ำจะเป็นการดีมาก บริษัทที่มีROEสูงมากจะเป็นบริษัทที่มีผลกำดำเนินงานที่ดี มีแนวโน้มที่จะมีคู่แข่งขันสูง ดังนั้นบริษัทที่ROEสูงๆเป็นเวลานานๆจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่สูงปกป้องตลาดได้ดีมานานครับ
ROE = (Net income / sales) x (Sales / Assets) x (Assets / Equity)
Net income / sales = Net Profit Magin มีกำไรกี่บาทจากการขายทุกๆ 1 บาท ยิ่งมายิ่งดี
Sales / Assets = Assets turn over สินทรัพย์ที่มี 1 บาทสามารถสร้างกำไรได้กี่บาท ยิ่งมายิ่งดี
Assets / Equity = Financial Leverage สินทรัพย์ที่มีอยู่1บาทมาจากทุนกี่บาท ค่านี้ยิ่งต่ำยิ่งเสี่ยงน้อย ค่าต่ำหมายถึงสินทรัพย์ส่วนใหญ่มาจากทุน ไม่ใช่มาจากการก่อหนี้
การที่บริษัทจะมีROEสูงๆได้อย่างต่อเนื่อง นั่นหมายถึงบริษัทจะต้องมีความสามารถในการแข่งขันที่แข็งแกร่งคงทน สามารถสร้างกำไรได้สูง สินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้ต้องมีมาก(ส่วนใหญ่มีไม่มาก เพราะเอาไปลงทุนที่ไม่ก่อประโยชน์) หากความเสี่ยงจากการใช้เงินทุนต่ำจะเป็นการดีมาก บริษัทที่มีROEสูงมากจะเป็นบริษัทที่มีผลกำดำเนินงานที่ดี มีแนวโน้มที่จะมีคู่แข่งขันสูง ดังนั้นบริษัทที่ROEสูงๆเป็นเวลานานๆจะแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการแข่งขันที่สูงปกป้องตลาดได้ดีมานานครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 46
อย่างนี้แสดงว่า เราควรพิจารณาด้วยใช้ไหมครับว่า ที่บริษัทมี ROE สูงนั้นมาจากอัตราส่วนไหน เช่น
ถ้าสูงเพราะ Total Asset / Equity สูง ก็แสดงว่าเป็นเพราะบริษัทมีหนี้เยอะ
แต่ถ้าสูงเพราะ Sale / Total Asset สูง ก็แสดงว่าบริษัทมีการใช้สินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ อาจจะขายสินค้าที่เน้นปริมาณ แต่มีคุณภาพที่ไม่สูงนัก
แต่ถ้าสูงเพราะ Net Profit / Sale ก็แสดงว่า เพราะบริษัทมี Margin ที่ดี อาจจะขายสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาสินค้าและ Margin เลยสูง
ถ้าสูงเพราะ Total Asset / Equity สูง ก็แสดงว่าเป็นเพราะบริษัทมีหนี้เยอะ
แต่ถ้าสูงเพราะ Sale / Total Asset สูง ก็แสดงว่าบริษัทมีการใช้สินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ อาจจะขายสินค้าที่เน้นปริมาณ แต่มีคุณภาพที่ไม่สูงนัก
แต่ถ้าสูงเพราะ Net Profit / Sale ก็แสดงว่า เพราะบริษัทมี Margin ที่ดี อาจจะขายสินค้าที่มีคุณภาพ ราคาสินค้าและ Margin เลยสูง
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 49
บางบริษัททำไมถึงมี
ROA >ROE ได้ครับ
ROA >ROE ได้ครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 50
Asset = E + L
R/A > R/E
แสดงว่า
A < E
มันจะเป็นไปได้ไง ผมเข้าใจถูกหรือเปล่านี่??
R/A > R/E
แสดงว่า
A < E
มันจะเป็นไปได้ไง ผมเข้าใจถูกหรือเปล่านี่??
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 52
WG : WHITE GROUP PUBLIC COMPANY LIMITED (Mil.Baht)
2003 2002 2001 2000 1999
Assets 773.55 738.69 694.69 731.05 758.93
Liabilities 144.86 117.06 108.25 165.05 235.23
Equity 628.07 620.89 585.50 564.72 522.44
Paid-up Capital 178.50 178.50 178.50 178.50 178.50
Revenue 333.08 637.74 629.21 678.09 698.17
Net Profit 33.70 52.90 38.58 43.24 65.65
EPS(Baht) 1.89 2.96 2.16 2.42 3.67
ROA(%)* 6.13 9.88 8.25 9.01 12.32
ROE(%)* 5.52 8.77 6.71 7.95 12.57
Net Profit Margin(%) 10.12 8.29 6.13 6.38 9.40
2003 2002 2001 2000 1999
Assets 773.55 738.69 694.69 731.05 758.93
Liabilities 144.86 117.06 108.25 165.05 235.23
Equity 628.07 620.89 585.50 564.72 522.44
Paid-up Capital 178.50 178.50 178.50 178.50 178.50
Revenue 333.08 637.74 629.21 678.09 698.17
Net Profit 33.70 52.90 38.58 43.24 65.65
EPS(Baht) 1.89 2.96 2.16 2.42 3.67
ROA(%)* 6.13 9.88 8.25 9.01 12.32
ROE(%)* 5.52 8.77 6.71 7.95 12.57
Net Profit Margin(%) 10.12 8.29 6.13 6.38 9.40
-
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 54
SCCC ก็ด้วย และอีกหลายตัว ที่ หนี้น้อยๆ เมื่อเทียบกับ ทุน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 55
พอดีผมกำลังจะออกไปธุระ แต่ในมือมีงบรายไตรมาส 2 ของ WG
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน มีกำไรสุทธิ 33.70 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.89 บาทต่อหุ้น
รวมสินทรัพย์ 773.54 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 628.69 ล้านบาท
ROA = 33.70/773.54 คูณ 2 คูณ 100 = 8.7 เปอร์เซ็นต์
ROE = 33.70/628.69 คูณ 2 คูณ 100 = 10.7 เปอร์เซ็นต์
ถ้าเปิดงบรายไตรมาสแล้ว ผมคิดแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ
ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน มีกำไรสุทธิ 33.70 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.89 บาทต่อหุ้น
รวมสินทรัพย์ 773.54 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 628.69 ล้านบาท
ROA = 33.70/773.54 คูณ 2 คูณ 100 = 8.7 เปอร์เซ็นต์
ROE = 33.70/628.69 คูณ 2 คูณ 100 = 10.7 เปอร์เซ็นต์
ถ้าเปิดงบรายไตรมาสแล้ว ผมคิดแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่าครับ
ผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 56
มี 2 จุดนะครับ ที่ผมคิดว่าไม่ตรง
1. การคำนวณ ROA นั้น ไม่ใช้กำไรสุทธิครับ แต่จะใช้กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีครับ ( EBIT ) เนื่องจากมองว่าหนี้สินเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ ดังนั้นจึงต้องบวกกลับดอกเบี้ยจ่ายที่จ่ายเป็นค่าเวลาให้กับหนี้สินครับ
2. สินทรัพย์และส่วนผู้ถือหุ้นนั้นจะใช้เฉลี่ยสองปีครับ หลักการคือ ค่าในงบกำไรขาดทุนนั้นเป็นค่าของช่วงเวลา เช่น รวมใน 1 ปี แต่ค่าในงบดุลเป็นค่า ณ.จุดเวลาครับ ดังนั้นจึงควรใช้ค่าเฉลี่ยเสมอครับ ถ้ามีการคำนวณตัวเลขระหว่างงบดุลและงบกำไรขาดทุน
จากข้อมูล WG ในงวดสิ้นปี 2545 และ 2544 ดังนี้นะครับ
สินทรัพย์รวม 738.69 694.69 ดังนั้นเฉลี่ยได้ 716.69
ส่วนผู้ถือหุ้น 621.63 586.44 ดังนั้นเฉลี่ยได้ 604.04
กำไรสุทธิ 52.90
กำไรก่อนจ่ายดอกเบี้ยและภาษี 70.75
ROE = 52.90 / 604.04 = 8.76%
ROA = 70.75 / 716.69 = 9.87%
บริษัทที่มีหนี้น้อยมักจะมี ROA มากกว่า ROE เนื่องจากว่า
ถ้าสังเกตจะพบว่าค่า E และ A ของบริษัทจะต่างกันไม่มาก เพราะไม่ค่อยมีหนี้
แต่ค่า Net Profit และ EBIT จะต่างกันมาก ถึงแม้บริษัทจะเสียดอกเบี้ยจ่ายน้อย แต่ต้องเสียกำไรสุทธิในอัตราที่สูงครับ
คงจะเห็นภาพชัดเจนนะครับ สำหรับบริษัทที่มีค่า ROA มากกว่า ROE
1. การคำนวณ ROA นั้น ไม่ใช้กำไรสุทธิครับ แต่จะใช้กำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีครับ ( EBIT ) เนื่องจากมองว่าหนี้สินเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ ดังนั้นจึงต้องบวกกลับดอกเบี้ยจ่ายที่จ่ายเป็นค่าเวลาให้กับหนี้สินครับ
2. สินทรัพย์และส่วนผู้ถือหุ้นนั้นจะใช้เฉลี่ยสองปีครับ หลักการคือ ค่าในงบกำไรขาดทุนนั้นเป็นค่าของช่วงเวลา เช่น รวมใน 1 ปี แต่ค่าในงบดุลเป็นค่า ณ.จุดเวลาครับ ดังนั้นจึงควรใช้ค่าเฉลี่ยเสมอครับ ถ้ามีการคำนวณตัวเลขระหว่างงบดุลและงบกำไรขาดทุน
จากข้อมูล WG ในงวดสิ้นปี 2545 และ 2544 ดังนี้นะครับ
สินทรัพย์รวม 738.69 694.69 ดังนั้นเฉลี่ยได้ 716.69
ส่วนผู้ถือหุ้น 621.63 586.44 ดังนั้นเฉลี่ยได้ 604.04
กำไรสุทธิ 52.90
กำไรก่อนจ่ายดอกเบี้ยและภาษี 70.75
ROE = 52.90 / 604.04 = 8.76%
ROA = 70.75 / 716.69 = 9.87%
บริษัทที่มีหนี้น้อยมักจะมี ROA มากกว่า ROE เนื่องจากว่า
ถ้าสังเกตจะพบว่าค่า E และ A ของบริษัทจะต่างกันไม่มาก เพราะไม่ค่อยมีหนี้
แต่ค่า Net Profit และ EBIT จะต่างกันมาก ถึงแม้บริษัทจะเสียดอกเบี้ยจ่ายน้อย แต่ต้องเสียกำไรสุทธิในอัตราที่สูงครับ
คงจะเห็นภาพชัดเจนนะครับ สำหรับบริษัทที่มีค่า ROA มากกว่า ROE
-
- Verified User
- โพสต์: 49
- ผู้ติดตาม: 0
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 57
เพราถ้าสูงะ Total Asset / Equity สูง ก็แสดงว่าเป็นเพราะบริษัทมีหนี้เยอะchatchai เขียน:อย่างนี้แสดงว่า เราควรพิจารณาด้วยใช้ไหมครับว่า ที่บริษัทมี ROE สูงนั้นมาจากอัตราส่วนไหน เช่น
ราคาสินค้าและ Margin เลยสูง
แต่ถ้าสูงเพราะ Sale / Total Asset สูง ก็แสดงว่าบริษัทมีการใช้สินทรัพย์ที่มีประสิทธิภาพ อาจจะขายสินค้าที่เน้นปริมาณ แต่มีคุณภาพที่ไม่สูงนัก
แต่ถ้าสูงเพราะ Net Profit / Sale ก็แสดงว่า เพราะบริษัทมี Margin ที่ดี อาจจะขายสินค้าที่มีคุณภาพ
ขอรบกวนหน่อยครับ....
เราสามารถใช้เกณฑ์ใด เป็นมาตรฐาน ว่าค่าที่แสดงออกมา สูง/ตำ ครับ
"การลงทุนที่ชาญฉลาดที่สุด จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ เราลงทุนแบบทำธุรกิจ"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
พี่ Jeng ขอรายชื่อ 7 เซียนซามูไรหน่อยครับ (Please&ซิลวูเ
โพสต์ที่ 58
ที่ว่าสูงนั้น ผมหมายถึงว่าเวลาเราพบบริษัทที่มี ROE สูงอาจจะ 25% ถ้าเราวิเคราะห์ลึกลงไปอีก เราก็จะหาสาเหตุได้ว่าบริษัทมี ROE สูงเพราะสาเหตุใด โดยดูจากอัตราส่วนทั้งสาม หรือถ้าบริษัทที่มี ROE ต่ำ เราก็จะได้รู้ว่าที่ต่ำเพราะอะไร ลองดู WG ในงวดปี 2545 นะครับ
ROE = 8.76%
Net Profit / Sale = 52.90/625.93 = 8.45%
Sale / Total Asset = 625.93/716.69 = 0.87 เท่า
Total Asset / Equity = 716.69/604.04 = 1.19 เท่า
คุณได้อะไรบ้างครับกับตัวเลขทั้งสามตัว
แล้วคุณคิดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่ม ROE ได้ด้วยวิธีไหนบ้างครับ
การพิจารณาว่าตัวเลขแต่ละตัวมีค่าเหมาะสมหรือไม่คงจะต้องเปรียบเทียบกับธุรกิจที่บริษัทนั้นดำเนินอยู่ครับ เช่น
MAKRO Net Profit / Sale คงจะไม่มาก แต่ Sale / Total Asset ควรจะสูง
แต่ CPN ผมว่า Sale / Total Asset ไม่น่าจะสูงเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าเช่า และการทยอยรับรู้ค่าเซ้งพื้นที่ในศูนย์การค้า
ROE = 8.76%
Net Profit / Sale = 52.90/625.93 = 8.45%
Sale / Total Asset = 625.93/716.69 = 0.87 เท่า
Total Asset / Equity = 716.69/604.04 = 1.19 เท่า
คุณได้อะไรบ้างครับกับตัวเลขทั้งสามตัว
แล้วคุณคิดว่าบริษัทจะสามารถเพิ่ม ROE ได้ด้วยวิธีไหนบ้างครับ
การพิจารณาว่าตัวเลขแต่ละตัวมีค่าเหมาะสมหรือไม่คงจะต้องเปรียบเทียบกับธุรกิจที่บริษัทนั้นดำเนินอยู่ครับ เช่น
MAKRO Net Profit / Sale คงจะไม่มาก แต่ Sale / Total Asset ควรจะสูง
แต่ CPN ผมว่า Sale / Total Asset ไม่น่าจะสูงเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่มาจากค่าเช่า และการทยอยรับรู้ค่าเซ้งพื้นที่ในศูนย์การค้า