ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 1
ผมสงสัยในเรื่องของการคำนวนเรื่อง ROE กับ ROA ดังนี้ครับ
---->ROE คือ ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(%)
เช่น ROE=20% นั่นหมายความว่ากำไร 100 ได้มาจากผู้ถือหุ้น 20 แล้วที่เหลือเป็น
กำไรจากหนี้สิน 80% ใช่หรือไม่ครับ???
---->ROA คือ ผลตอบแทนจากทรัพย์สิน
เช่น ROA=20% นั่นหมายความว่ากำไร 100 ได้มาจากทรัพย์สิน 20 แล้วส่วนที่
เหลืออีก 80% ได้มาจากอะไรหรือครับ???
---->ROE คือ ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้น(%)
เช่น ROE=20% นั่นหมายความว่ากำไร 100 ได้มาจากผู้ถือหุ้น 20 แล้วที่เหลือเป็น
กำไรจากหนี้สิน 80% ใช่หรือไม่ครับ???
---->ROA คือ ผลตอบแทนจากทรัพย์สิน
เช่น ROA=20% นั่นหมายความว่ากำไร 100 ได้มาจากทรัพย์สิน 20 แล้วส่วนที่
เหลืออีก 80% ได้มาจากอะไรหรือครับ???
-
- Verified User
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 2
ROE คือนักลงทุนออกเงิน 100 บาทลงทุน เงิน 100 บาทให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้น 20 บาทครับ
ROA คือสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่บริษัทลงทุนไป 100 บาทให้ผลตอบแทนแก่บริษัท 20 บาทครับ
ROA คือสินทรัพย์ทั้งหมดของบริษัทที่บริษัทลงทุนไป 100 บาทให้ผลตอบแทนแก่บริษัท 20 บาทครับ
If you don't know what you are doing. It's a jungle out there.
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 3
สมมุติกิจการ A
1) ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมการทางบัญชี
สินทรัพย์ (Assets) = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ (Equity)
สมมุติ
100 = 50 + 50
2) ทำความเข้าใจสัดส่วนทางการเงิน
2.1) ROA = Return on Asset (ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์) = net income / Assets
สมมุติว่ามีกำไร(net income) 20 บาท
ROA = 20 / 100 = 20%
ความหมายคือ สินทรัพย์ 100 บาท สามารถนำไปทำให้เกิดผลตอบแทนเป็นกำไรได้ 20 บาท
2.2) ROE = Return on Equity (ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น) = net income / Equity
กำไรเท่าเดิมคือ 20 บาท
ROE = 20 / 50 = 40%
ความหมายคือ เงินส่วนของเจ้าของ 50 บาท ทำให้เกิดผลตอบแทนได้ 20 บาท คิดเป็น 40%
- โดยปกติ กิจการที่มีหนี้สินสูงๆ มักจะมี ROE สูงๆ เนื่องจากตัวหารในสูตร ROE มีน้อย
- โดยปกติแล้ว ROA จะต่ำกว่า ROE
- ส่วนของผู้ถือหุ้น มาจากทุนเรือนหุ้น + ส่วนเกินมูลค่าหุ้น + กำไรสะสม
- แหล่งเงินของกิจการ มาจากสองแหล่ง คือ เงินกู้ (หนี้สิน) กับ เงินกู(ส่วนของผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของ) รวมกันเป็นสินทรัพย์ที่จะนำไปประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนกลับมา
- การดูค่า ROA เป็นการมองภาพประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งกิจการ ซึ่ง Cover ส่วนของผู้ถือหุ้น และ เจ้าหนี้ด้วย
- การดูค่า ROE เป็นการมองผลตอบแทนเฉพาะส่วนของผู้ถือหุ้นก็คือเราที่เป็นนักลงทุน ที่อยู่ในสถานะเจ้าของกิจการ)
หากสงสัยเพิ่มเติม ยินดีตอบเพิ่มครับ
1) ทำความเข้าใจเกี่ยวกับสมการทางบัญชี
สินทรัพย์ (Assets) = หนี้สิน + ส่วนของเจ้าของ (Equity)
สมมุติ
100 = 50 + 50
2) ทำความเข้าใจสัดส่วนทางการเงิน
2.1) ROA = Return on Asset (ผลตอบแทนต่อสินทรัพย์) = net income / Assets
สมมุติว่ามีกำไร(net income) 20 บาท
ROA = 20 / 100 = 20%
ความหมายคือ สินทรัพย์ 100 บาท สามารถนำไปทำให้เกิดผลตอบแทนเป็นกำไรได้ 20 บาท
2.2) ROE = Return on Equity (ผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น) = net income / Equity
กำไรเท่าเดิมคือ 20 บาท
ROE = 20 / 50 = 40%
ความหมายคือ เงินส่วนของเจ้าของ 50 บาท ทำให้เกิดผลตอบแทนได้ 20 บาท คิดเป็น 40%
- โดยปกติ กิจการที่มีหนี้สินสูงๆ มักจะมี ROE สูงๆ เนื่องจากตัวหารในสูตร ROE มีน้อย
- โดยปกติแล้ว ROA จะต่ำกว่า ROE
- ส่วนของผู้ถือหุ้น มาจากทุนเรือนหุ้น + ส่วนเกินมูลค่าหุ้น + กำไรสะสม
- แหล่งเงินของกิจการ มาจากสองแหล่ง คือ เงินกู้ (หนี้สิน) กับ เงินกู(ส่วนของผู้ถือหุ้นหรือเจ้าของ) รวมกันเป็นสินทรัพย์ที่จะนำไปประกอบธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนกลับมา
- การดูค่า ROA เป็นการมองภาพประสิทธิภาพการดำเนินงานทั้งกิจการ ซึ่ง Cover ส่วนของผู้ถือหุ้น และ เจ้าหนี้ด้วย
- การดูค่า ROE เป็นการมองผลตอบแทนเฉพาะส่วนของผู้ถือหุ้นก็คือเราที่เป็นนักลงทุน ที่อยู่ในสถานะเจ้าของกิจการ)
หากสงสัยเพิ่มเติม ยินดีตอบเพิ่มครับ
สถิตย์ ชอบพิมาย
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 4
คำแนะนำ
1. เข้าใจระบบบัญชี 3 งบ + หมายเหตุประกอบงบ (Financial Accouting)
2. นำงบมาประเมินผ่าน อัตราส่วนทางการเงิน (Managerial Accouting)
ผมได้แนบอัตรส่วนทางการเงินที่แยกออกเป็นหมวดหมู่มาให้ครับ
พร้อมทั้งการแยกองค์ประกอบ ROE
ดาวน์โหลดจากไฟล์ที่แนบมาได้เลยครับ
1. เข้าใจระบบบัญชี 3 งบ + หมายเหตุประกอบงบ (Financial Accouting)
2. นำงบมาประเมินผ่าน อัตราส่วนทางการเงิน (Managerial Accouting)
ผมได้แนบอัตรส่วนทางการเงินที่แยกออกเป็นหมวดหมู่มาให้ครับ
พร้อมทั้งการแยกองค์ประกอบ ROE
ดาวน์โหลดจากไฟล์ที่แนบมาได้เลยครับ
แนบไฟล์
- 702711FIM#02-Financial Ratios&DuPont Rev.01.pdf.zip
- อัตราส่วนทางการเงินแยกเป็นหมวดหมู่ ง่าย ๆ
- (83.02 KiB) ดาวน์โหลด 906 ครั้ง
สถิตย์ ชอบพิมาย
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณคำชี้แนะของคุณ "TORNN" กับคุณ "sathitcmu" มากๆครับ...^^)
ถ้าสมมุติตามโจทย์ของคุณ "sathitcmu"
สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน โดยให้
100 = 50+50
แล้วสมมุติกำไร 20
หา ROE = 20/50 *100 = 40% นั่นคือ นำเงินของผู้ลงทุนไปสร้างผลตอบแทนได้ 40%
หา ROA = 20/100*100 = 20% นั่นคือ นำสินทรัพย์ไปสร้างผลตอบแทนได้ 20%
ถ้าผมเข้าใจถูกต้องตามนี้ ผมก็มีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกครับว่า
1) ทำไม ROA ถึงน้อยกว่า ROE เสมอหละครับ??
2) ทำไม ROA กับ ROE ถึงใช้กำไรสุทธิตัวเดียว
กันเป็นตัวตั้งในการคำนวนหละครับ??
3) แล้วทำไมถึงไม่มีการคำนวนผลตอบแทนจากหนี้สินหละครับ??
ที่ผมสงสัยเกิดจาก สมการพื้นฐานทางบัญชีครับว่า "สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน"
นั่นแปลว่าสินทรัพย์เกิดจากทุนส่วนนึงและหนี้ส่วนนึง แต่พอมาคำนวนผลตอบแทน
ที่บริษัททำได้โดยเปรียบเทียบกับสินทรัพย์(ROA) และส่วนทุน(ROE) ไหงมันถึงใช้
กำไรตัวเดียวกันหละ ตัวROAพอเข้าใจ แต่ทำไมROE ไม่เอากำไรที่เป็นสัดส่วนของ
ทุนมาคำนวน ทำไมเอากำไรที่เกิดจากสินทรัพย์ทั้งหมดมาคำนวนหละครับ???
(หวังว่าคงไม่งงกับคำถามของผมนะ....^^)
ถ้าสมมุติตามโจทย์ของคุณ "sathitcmu"
สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน โดยให้
100 = 50+50
แล้วสมมุติกำไร 20
หา ROE = 20/50 *100 = 40% นั่นคือ นำเงินของผู้ลงทุนไปสร้างผลตอบแทนได้ 40%
หา ROA = 20/100*100 = 20% นั่นคือ นำสินทรัพย์ไปสร้างผลตอบแทนได้ 20%
ถ้าผมเข้าใจถูกต้องตามนี้ ผมก็มีข้อสงสัยเพิ่มเติมอีกครับว่า
1) ทำไม ROA ถึงน้อยกว่า ROE เสมอหละครับ??
2) ทำไม ROA กับ ROE ถึงใช้กำไรสุทธิตัวเดียว
กันเป็นตัวตั้งในการคำนวนหละครับ??
3) แล้วทำไมถึงไม่มีการคำนวนผลตอบแทนจากหนี้สินหละครับ??
ที่ผมสงสัยเกิดจาก สมการพื้นฐานทางบัญชีครับว่า "สินทรัพย์=หนี้สิน+ทุน"
นั่นแปลว่าสินทรัพย์เกิดจากทุนส่วนนึงและหนี้ส่วนนึง แต่พอมาคำนวนผลตอบแทน
ที่บริษัททำได้โดยเปรียบเทียบกับสินทรัพย์(ROA) และส่วนทุน(ROE) ไหงมันถึงใช้
กำไรตัวเดียวกันหละ ตัวROAพอเข้าใจ แต่ทำไมROE ไม่เอากำไรที่เป็นสัดส่วนของ
ทุนมาคำนวน ทำไมเอากำไรที่เกิดจากสินทรัพย์ทั้งหมดมาคำนวนหละครับ???
(หวังว่าคงไม่งงกับคำถามของผมนะ....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 6
มาตอบคำถามครับ
ฃออภัยสำหรับคำตอบก่อนหน้าที่ทำให้เข้าใจผิดว่าใช้กำไรตัวเดียวกันในการคำนวณ ROE, ROA
(เป็นความผิดของผมเองที่พยายามจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เกินไป จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
แต่คราวนี้จะอธิบายในรูปแบบมาตรฐานของ การคำนวณจริงของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ
ตามสูตรมาตรฐาน ที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้
ROA = EBIT / Assets (เฉลี่ย)
ROE = Net Profit / Equity(เฉลี่ย)
ในการบันทึกบัญชี การใช้เงินเพื่อทำให้เกิดสินค้าและบริการ ไม่ได้แยกบันทึกบัญชีว่า เงินส่วนที่ใช้ไปเป็นเงินส่วนของเงินกู้ หรือ ส่วนของเจ้าของ
เช่น กิจการ A ซื้อวัตถุดิบ ก 20 บาท ซื้อวัตถุดิบ ข 20 บาท จ่ายค่าแรงพนักงาน 10 บาท (เกิดต้นทุน 50) และนำสินค้าไปขายได้ราคา 100 บาท เงิน 20+20+10 บาท ที่จ่ายออกไป ในทางบัญชีไม่ได้บันทึกว่า เป็นเงินส่วนผู้ถือหุ้น หรือ เงินส่วนของหนี้สินที่กู้ยืมมา ดังนั้นกำไรที่ได้กลับมา จึงไม่สามารถบอกได้ตรงๆ ว่าเป็นกำไรที่เกิดจากเงินส่วนไหน
*** สาเหตุในทางบัญชีไม่ได้บันทึกแยกการใช้เงินว่าเป็นเงินส่วนไหน เนื่องจากมีความยุ่งยาก และไม่มีบริษัทใดในโลกนี้ ทำแบบนี้ ***
สมมุติ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนผู้ถือหุ้น ( 100 = 50 + 50)
กิจการ A มีงบกำไรขาดทุนดังนี้
sale 100
หัก Cogs 50
เหลือ Gross profit 50
หัก SG&A 20
เหลือ EBIT 30
หัก interest 10
เหลือ EBT 20
หัก Tax 5 (สมมุติ)
เหลือ Net Profit 15
คำนวณ
1. ROA = EBIT / Assets
ROA = 30 /100 = 30%
สินทรัพย์ 1 บาท สร้างผลตอบแทนได้ 30 สตางค์
2. ROE = Net Profit / Equity
ROE = 15 / 50 = 30%
เงินส่วนผู้ถือหุ้น 1 บาท นำไปสร้างผลตอบแทนได้ 30 สตางค์
อธิบายเพิ่มเติม
สาเหตุที่ค่า ROE ใช้กำไรสุทธิ เนื่องจากได้ตัดดอกเบี้ยจ่ายออกไป ซึ่งดอกเบี้ยจ่ายนั้น ในอีกนัยหนึ่งคือเป็นการหักผลตอบแทนส่วนของหนี้สินออกไป และภาระยังหักภาษีออกไป เหลือเป็นกำไรสุทธิ ซึ่งจะกลายเป็นผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น ครับ
ตอบคำถาม
1) ทำไม ROA ถึงน้อยกว่า ROE เสมอหละครับ??
ตอบ ไม่เสมอไปครับ
แต่สาเหตุที่ ROE มักจะมากกว่า ROA เพราะตัวหารของ ROA ที่ปกติแล้วจะขนาดใหญ่กว่า ตัวหารของ ROE เนื่องจาก ROA ใช้ Total asset
ในขณะที่ ROE ใช้ Equity ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Total asset ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมา ได้มากกว่า
แต่ก็ไม่เสมอไป ให้ลองดูที่บริษัท ที่ขาดทุนที่เกิดจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงมาก ส่งผลทำให้กำไรสุทธิต่ำมากๆๆ หรือกำไรสุทธิติดลบ ทำให้ค่า ROE ติดลบ และหาก EBIT ยังเป็นบวกอยู่ แสดงว่า ROA ก็จะมากกว่า ROE ครับ
2) ทำไม ROA กับ ROE ถึงใช้กำไรสุทธิตัวเดียว
กันเป็นตัวตั้งในการคำนวนหละครับ??
ตอบ จริงๆ แล้ว ใช้คนละตัวครับ ตามสูตรด้านบน
3) แล้วทำไมถึงไม่มีการคำนวนผลตอบแทนจากหนี้สินหละครับ??
ตอบ ROA ได้รวมผลตอบแทนของส่วนของหนี้สินไว้อยู่แล้วครับ และการแยกกำไรที่มาจากหนี้สิน ทำได้ยาก เนื่องจากระบบบัญชีที่ได้อธิบายไว้ข้างบน
ให้ลองศึกษา ROCE = Return on Capital Employ
เพื่อเสริมความเข้าใจขึ้นอีกครับ
ยินดี ปรีดา ครับ
ฃออภัยสำหรับคำตอบก่อนหน้าที่ทำให้เข้าใจผิดว่าใช้กำไรตัวเดียวกันในการคำนวณ ROE, ROA
(เป็นความผิดของผมเองที่พยายามจะอธิบายให้เข้าใจง่ายๆ เกินไป จึงละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
แต่คราวนี้จะอธิบายในรูปแบบมาตรฐานของ การคำนวณจริงของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครับ
ตามสูตรมาตรฐาน ที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้
ROA = EBIT / Assets (เฉลี่ย)
ROE = Net Profit / Equity(เฉลี่ย)
ในการบันทึกบัญชี การใช้เงินเพื่อทำให้เกิดสินค้าและบริการ ไม่ได้แยกบันทึกบัญชีว่า เงินส่วนที่ใช้ไปเป็นเงินส่วนของเงินกู้ หรือ ส่วนของเจ้าของ
เช่น กิจการ A ซื้อวัตถุดิบ ก 20 บาท ซื้อวัตถุดิบ ข 20 บาท จ่ายค่าแรงพนักงาน 10 บาท (เกิดต้นทุน 50) และนำสินค้าไปขายได้ราคา 100 บาท เงิน 20+20+10 บาท ที่จ่ายออกไป ในทางบัญชีไม่ได้บันทึกว่า เป็นเงินส่วนผู้ถือหุ้น หรือ เงินส่วนของหนี้สินที่กู้ยืมมา ดังนั้นกำไรที่ได้กลับมา จึงไม่สามารถบอกได้ตรงๆ ว่าเป็นกำไรที่เกิดจากเงินส่วนไหน
*** สาเหตุในทางบัญชีไม่ได้บันทึกแยกการใช้เงินว่าเป็นเงินส่วนไหน เนื่องจากมีความยุ่งยาก และไม่มีบริษัทใดในโลกนี้ ทำแบบนี้ ***
สมมุติ สินทรัพย์ = หนี้สิน + ส่วนผู้ถือหุ้น ( 100 = 50 + 50)
กิจการ A มีงบกำไรขาดทุนดังนี้
sale 100
หัก Cogs 50
เหลือ Gross profit 50
หัก SG&A 20
เหลือ EBIT 30
หัก interest 10
เหลือ EBT 20
หัก Tax 5 (สมมุติ)
เหลือ Net Profit 15
คำนวณ
1. ROA = EBIT / Assets
ROA = 30 /100 = 30%
สินทรัพย์ 1 บาท สร้างผลตอบแทนได้ 30 สตางค์
2. ROE = Net Profit / Equity
ROE = 15 / 50 = 30%
เงินส่วนผู้ถือหุ้น 1 บาท นำไปสร้างผลตอบแทนได้ 30 สตางค์
อธิบายเพิ่มเติม
สาเหตุที่ค่า ROE ใช้กำไรสุทธิ เนื่องจากได้ตัดดอกเบี้ยจ่ายออกไป ซึ่งดอกเบี้ยจ่ายนั้น ในอีกนัยหนึ่งคือเป็นการหักผลตอบแทนส่วนของหนี้สินออกไป และภาระยังหักภาษีออกไป เหลือเป็นกำไรสุทธิ ซึ่งจะกลายเป็นผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น ครับ
ตอบคำถาม
1) ทำไม ROA ถึงน้อยกว่า ROE เสมอหละครับ??
ตอบ ไม่เสมอไปครับ
แต่สาเหตุที่ ROE มักจะมากกว่า ROA เพราะตัวหารของ ROA ที่ปกติแล้วจะขนาดใหญ่กว่า ตัวหารของ ROE เนื่องจาก ROA ใช้ Total asset
ในขณะที่ ROE ใช้ Equity ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Total asset ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมา ได้มากกว่า
แต่ก็ไม่เสมอไป ให้ลองดูที่บริษัท ที่ขาดทุนที่เกิดจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงมาก ส่งผลทำให้กำไรสุทธิต่ำมากๆๆ หรือกำไรสุทธิติดลบ ทำให้ค่า ROE ติดลบ และหาก EBIT ยังเป็นบวกอยู่ แสดงว่า ROA ก็จะมากกว่า ROE ครับ
2) ทำไม ROA กับ ROE ถึงใช้กำไรสุทธิตัวเดียว
กันเป็นตัวตั้งในการคำนวนหละครับ??
ตอบ จริงๆ แล้ว ใช้คนละตัวครับ ตามสูตรด้านบน
3) แล้วทำไมถึงไม่มีการคำนวนผลตอบแทนจากหนี้สินหละครับ??
ตอบ ROA ได้รวมผลตอบแทนของส่วนของหนี้สินไว้อยู่แล้วครับ และการแยกกำไรที่มาจากหนี้สิน ทำได้ยาก เนื่องจากระบบบัญชีที่ได้อธิบายไว้ข้างบน
ให้ลองศึกษา ROCE = Return on Capital Employ
เพื่อเสริมความเข้าใจขึ้นอีกครับ
ยินดี ปรีดา ครับ
สถิตย์ ชอบพิมาย
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 7
ไม่อยากให้สับสนนะครับ
ปกติ roa จะใช้ net income หารด้วย equity ครับ
มีบางกรณีที่จะใช้ ebit/equity
ลองหาข้อมูลกันดูครับ
ปกติ roa จะใช้ net income หารด้วย equity ครับ
มีบางกรณีที่จะใช้ ebit/equity
ลองหาข้อมูลกันดูครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 1575
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 8
ขออภัย แก้ไขครับ
roa ปกติใช้ net income/total assets
มีบางกรณีใช้ ebit/total assets ครับ
ขออภัย แก้ไขนะครับ
roa ปกติใช้ net income/total assets
มีบางกรณีใช้ ebit/total assets ครับ
ขออภัย แก้ไขนะครับ
ดู clip รายการ money talk ย้อนหลังได้ที่
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
http://www.facebook.com/MoneyTalkTV
-
- Verified User
- โพสต์: 67
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 9
ให้ดูสูตรในหน้าที่ 14, 15
ตามไฟล์ที่แนบมาครับ
ตามไฟล์ที่แนบมาครับ
แนบไฟล์
- SET_Formula_Glossary.zip
- สูตรคำนวณ ROA, ROE ของ SET
- (481.78 KiB) ดาวน์โหลด 617 ครั้ง
สถิตย์ ชอบพิมาย
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
"ที่สุดของความยาก คือ ความเรียบง่าย"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 490
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 10
ขอรบกวนถามคุณเด็กใหม่ไฟแรงนะครับ กรณีไหนถึงรู้ว่าต้องใช้ net income/total asset และ กรณีไหนถึงควรจะใช้ ebit/total asset ครับเด็กใหม่ไฟแรง เขียน:ขออภัย แก้ไขครับ
roa ปกติใช้ net income/total assets
มีบางกรณีใช้ ebit/total assets ครับ
ขออภัย แก้ไขนะครับ
้
้้ขอบคุณ plant ผู้ตั้งกระทู้ และคนตอบทุกท่านครับ กระทู้ดีๆแบบนีเริ่มหายากขึ้นไปทุกที
- Energy_eak
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 925
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 11
ขอถามเพิ่มเติมครับผม..(คืออยากทราบว่าเพื่อนคิดอย่างไร)
1.การใช้ ROA และ ROE ใช้เพื่อดูทิศทางในอนาคต เหมาะสมหรือไม่ครับ??
ความคิดผม คือ ROE และ ROA ล้วนใช้ตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ...แม้จะบอกได้บ้างว่าบริษัทเป็นอย่างไร?หรือบริหารมาอย่างไร?ในอดีตที่ผ่านมา ..แต่ผมคิดว่า ROE และ ROA ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของอนาคตบริษัทที่จะมาถึง ..แต่ผม งง ครับว่า(จากที่เคยๆคุย)ทำไมเพื่อนหลายๆท่านถึงใช้ ROEและROA ประกอบการตัดสินใจลงทุนเป็นหลัก..หรือ เป็นเฉพาะเพื่อนๆผมก็ไม่รู้^_^"
2.ความจริง..ผมสงสัย แทบจะทุก Ratio ที่ใช้ข้อมูลจากอดีตเลยอะครับ ..นอกจาก ประโยชน์เชิงสถิติ ว่าทิศทางในอดีตเป็นอย่างไร อนาคตก็น่าจะเป็นในทิศทางใกล้เคียงกัน ...ยังมีประโยชน์อื่นไหม??? เช่นในเชิง เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆเพื่อใช้ในการตัดสินใจ บลาๆๆๆ
ขอรบกวนความคิดเห็นครับผม ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ^_^
1.การใช้ ROA และ ROE ใช้เพื่อดูทิศทางในอนาคต เหมาะสมหรือไม่ครับ??
ความคิดผม คือ ROE และ ROA ล้วนใช้ตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ...แม้จะบอกได้บ้างว่าบริษัทเป็นอย่างไร?หรือบริหารมาอย่างไร?ในอดีตที่ผ่านมา ..แต่ผมคิดว่า ROE และ ROA ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของอนาคตบริษัทที่จะมาถึง ..แต่ผม งง ครับว่า(จากที่เคยๆคุย)ทำไมเพื่อนหลายๆท่านถึงใช้ ROEและROA ประกอบการตัดสินใจลงทุนเป็นหลัก..หรือ เป็นเฉพาะเพื่อนๆผมก็ไม่รู้^_^"
2.ความจริง..ผมสงสัย แทบจะทุก Ratio ที่ใช้ข้อมูลจากอดีตเลยอะครับ ..นอกจาก ประโยชน์เชิงสถิติ ว่าทิศทางในอดีตเป็นอย่างไร อนาคตก็น่าจะเป็นในทิศทางใกล้เคียงกัน ...ยังมีประโยชน์อื่นไหม??? เช่นในเชิง เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆเพื่อใช้ในการตัดสินใจ บลาๆๆๆ
ขอรบกวนความคิดเห็นครับผม ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ^_^
- Mr.KANAT
- Thai VI Partner
- โพสต์: 52
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 12
ในความเห็นผมนะครับ ทั้ง ROA และ ROE เป็นตัวเลขที่หลอกตาทั้งสิ้น ผมได้ยินหลายๆคนพูดถึงแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงหลายๆเรื่องเท่าไหร่ จริงๆแล้วถ้าจะวิเคราะห์กันจริงๆ การใช้ DuPont มากกว่า เนื่องจาก DuPont ได้อธิบายในรายละเอียดว่าตัวเลขของ ROE เกิดจากอะไร เพราะจริงๆแล้ว ROE สามารถมองได้หลายรูปแบบ กล่าวคือ ROE = (net profit/sale)x(sale/asset)x(asset/equity) หรือเรียกได้ว่า (net profit margin)x(asset turnover)x(leverage ratio) ดังนั้นจะเห็นได้ครับว่าถ้าเราดูลึกๆเนี่ยจะทำให้ทราบได้ว่า roe ดีจากอะไร เช่น ดีจากการที่ leverage ratio สูงหรือเปล่า ดีจากการบริหารทรัพย์สินที่ดีหรือเปล่า หรือว่าขายของได้กำไรดี ซึ่งจริงๆแล้วรูปแบบของ roe ยังมีอีกมากมายนะครับ สามารถเอา ratio ต่างๆเข้ามาเป็นตัวแปรได้
Time is the friend of the wonderful company, the enemy of the mediocre.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 98
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 13
ขออนุญาติมือใหม่แสดงความเห็นนะครับEnergy_eak เขียน:ขอถามเพิ่มเติมครับผม..(คืออยากทราบว่าเพื่อนคิดอย่างไร)
1.การใช้ ROA และ ROE ใช้เพื่อดูทิศทางในอนาคต เหมาะสมหรือไม่ครับ??
ความคิดผม คือ ROE และ ROA ล้วนใช้ตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ...แม้จะบอกได้บ้างว่าบริษัทเป็นอย่างไร?หรือบริหารมาอย่างไร?ในอดีตที่ผ่านมา ..แต่ผมคิดว่า ROE และ ROA ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของอนาคตบริษัทที่จะมาถึง ..แต่ผม งง ครับว่า(จากที่เคยๆคุย)ทำไมเพื่อนหลายๆท่านถึงใช้ ROEและROA ประกอบการตัดสินใจลงทุนเป็นหลัก..หรือ เป็นเฉพาะเพื่อนๆผมก็ไม่รู้^_^"
2.ความจริง..ผมสงสัย แทบจะทุก Ratio ที่ใช้ข้อมูลจากอดีตเลยอะครับ ..นอกจาก ประโยชน์เชิงสถิติ ว่าทิศทางในอดีตเป็นอย่างไร อนาคตก็น่าจะเป็นในทิศทางใกล้เคียงกัน ...ยังมีประโยชน์อื่นไหม??? เช่นในเชิง เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆเพื่อใช้ในการตัดสินใจ บลาๆๆๆ
ขอรบกวนความคิดเห็นครับผม ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ^_^
ครับ เราใช้ตัวเลขในอดีตบอกทิศทางไม่ได้ทั้งหมดก็จริงอยู่ ถ้ามันบอกได้เราคงมีโปรแกรมคำนวนทุกอย่างได้อย่างเป๊ะๆแล้ว แต่การลงทุนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ข้อมูลในอดีตถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ก็น่าจะมีประโยชน์ในการตีความอยู่ไม่น้อยนะครับ
แล้วการใช้ตัวเลขคาดการณ์จากการคำนวน มันก็ใช้ตัวเลขในอดีตเป็นพื้นฐานในการคำนวนต่อยอดไปเช่นกัน ถ้าตัวเลขในอดีตเชื่อไม่ได้ การประมาณตัวเลขจะมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไร ถ้ามันเชื่อถือได้ก็คงต้องชั่งใจว่า ตัวเลขเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วนั้น กับตัวเลขการคาดการณ์อนาคตที่ยังไม่เกิด เราชอบอันไหนมากกว่ากัน เลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงเลยครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 14
การใช้ ROA และ ROE มาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆนั้น มีข้อจำกัดมากมายครับ
มีจุดหนึ่งที่ผมมักจะโพสต์บอก คือ หลักเกณฑ์ทางบัญชี
จุดอ่อนที่ว่าคืออะไร
เนื่องจาก การวิบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆบางประเภท มีการให้เลือกบันทึกมูลค่าด้วยวิธีทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน ย่อมทำให้สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าน้อยกว่าบริษัทที่เลือกวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน เมื่อคำนวณ ROA และ ROE ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดูเหมือนสูงกว่าอีกบริษัท
รวมทั้งเรื่องเงินเฟ้อ
บริษัทที่ซื้อสินทรัพย์มานานหลายปีแล้ว ย่อมมีมูลค่าทางบัญชีต่ำกว่า บริษัทที่เพิ่งซื้อสินทรัพย์ชิ้นเดียวกันในปัจจุบัน
มีจุดหนึ่งที่ผมมักจะโพสต์บอก คือ หลักเกณฑ์ทางบัญชี
จุดอ่อนที่ว่าคืออะไร
เนื่องจาก การวิบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆบางประเภท มีการให้เลือกบันทึกมูลค่าด้วยวิธีทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน ย่อมทำให้สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าน้อยกว่าบริษัทที่เลือกวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน เมื่อคำนวณ ROA และ ROE ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดูเหมือนสูงกว่าอีกบริษัท
รวมทั้งเรื่องเงินเฟ้อ
บริษัทที่ซื้อสินทรัพย์มานานหลายปีแล้ว ย่อมมีมูลค่าทางบัญชีต่ำกว่า บริษัทที่เพิ่งซื้อสินทรัพย์ชิ้นเดียวกันในปัจจุบัน
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 15
มีคนมาแนะนำเพิ่มเติมเยอะเลย ขอบคุณทุกๆคนครับ...^^)
ผมขอแยกเป็นทีละประเด็นเลยนะครับ
อีกประเด็นนึงถ้าหา ROA โดยใช้ EBIT มาคำนวน ผมคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ในเมื่อ ROA คือ
ผลตอบแทนจากทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินย่ิอมมีหนี้สินปะปนอยู่ด้วยในนั้น แต่พอมาคำนวนหาผลตอบแทนกลับ
ตัดตัวดอกเบี้ยจ่ายซึ่งเกิดจากหนี้สินที่นำมารวมคำนวนด้วยซะงั้น ผมว่ามันจะทำให้ตัวเลข ROA ที่โชว์ให้เห็น
ไม่ใช่ความจริง!!ที่กิจการทำได้หนะสิครับ....^^)
ผมขอแยกเป็นทีละประเด็นเลยนะครับ
ถ้าเป็นแบบนี้การใช้ค่า ROE มาใช้คำนวนผลตอบแทนจากการลงทุนของเรา ก็ผิด!! หนะสิครับsathitcmu เขียน:มาตอบคำถามครับ
ตามสูตรมาตรฐาน ที่ตลาดหลักทรัพย์ใช้
ROA = EBIT / Assets (เฉลี่ย)
ROE = Net Profit / Equity(เฉลี่ย)
สาเหตุที่ค่า ROE ใช้กำไรสุทธิ เนื่องจากได้ตัดดอกเบี้ยจ่ายออกไป ซึ่งดอกเบี้ยจ่ายนั้น ในอีกนัยหนึ่งคือเป็นการหักผลตอบแทนส่วนของหนี้สินออกไป และภาระยังหักภาษีออกไป เหลือเป็นกำไรสุทธิ ซึ่งจะกลายเป็นผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้น ครับ
ตอบคำถาม
1) ทำไม ROA ถึงน้อยกว่า ROE เสมอหละครับ??
ตอบ ไม่เสมอไปครับ
แต่สาเหตุที่ ROE มักจะมากกว่า ROA เพราะตัวหารของ ROA ที่ปกติแล้วจะขนาดใหญ่กว่า ตัวหารของ ROE เนื่องจาก ROA ใช้ Total asset
ในขณะที่ ROE ใช้ Equity ที่เป็นส่วนหนึ่งของ Total asset ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมา ได้มากกว่า
แต่ก็ไม่เสมอไป ให้ลองดูที่บริษัท ที่ขาดทุนที่เกิดจากภาระดอกเบี้ยจ่ายที่สูงมาก ส่งผลทำให้กำไรสุทธิต่ำมากๆๆ หรือกำไรสุทธิติดลบ ทำให้ค่า ROE ติดลบ และหาก EBIT ยังเป็นบวกอยู่ แสดงว่า ROA ก็จะมากกว่า ROE ครับ
2) ทำไม ROA กับ ROE ถึงใช้กำไรสุทธิตัวเดียว
กันเป็นตัวตั้งในการคำนวนหละครับ??
ตอบ จริงๆ แล้ว ใช้คนละตัวครับ ตามสูตรด้านบน
3) แล้วทำไมถึงไม่มีการคำนวนผลตอบแทนจากหนี้สินหละครับ??
ตอบ ROA ได้รวมผลตอบแทนของส่วนของหนี้สินไว้อยู่แล้วครับ และการแยกกำไรที่มาจากหนี้สิน ทำได้ยาก เนื่องจากระบบบัญชีที่ได้อธิบายไว้ข้างบน
อีกประเด็นนึงถ้าหา ROA โดยใช้ EBIT มาคำนวน ผมคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ในเมื่อ ROA คือ
ผลตอบแทนจากทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินย่ิอมมีหนี้สินปะปนอยู่ด้วยในนั้น แต่พอมาคำนวนหาผลตอบแทนกลับ
ตัดตัวดอกเบี้ยจ่ายซึ่งเกิดจากหนี้สินที่นำมารวมคำนวนด้วยซะงั้น ผมว่ามันจะทำให้ตัวเลข ROA ที่โชว์ให้เห็น
ไม่ใช่ความจริง!!ที่กิจการทำได้หนะสิครับ....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 16
เด็กใหม่ไฟแรง เขียน:roa ปกติใช้ net income/total assets
มีบางกรณีใช้ ebit/total assets ครับ
นั่นสิครับจุดนี้ผมก็สงสัยเหมือนคุณ "skyearth" เหมือนกัน ต้องขอให้คุณ "เด็กใหม่ไฟแรง"skyearth เขียน:ขอรบกวนถามคุณเด็กใหม่ไฟแรงนะครับ กรณีไหนถึงรู้ว่าต้องใช้ net income/total asset และ กรณีไหนถึงควรจะใช้ ebit/total asset ครับ
ช่วยชี้แนะแล้วหละครับ....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 17
Energy_eak เขียน:ขอถามเพิ่มเติมครับผม..(คืออยากทราบว่าเพื่อนคิดอย่างไร)
1.การใช้ ROA และ ROE ใช้เพื่อดูทิศทางในอนาคต เหมาะสมหรือไม่ครับ??
ความคิดผม คือ ROE และ ROA ล้วนใช้ตัวเลขที่เกิดขึ้นแล้วในอดีต ...แม้จะบอกได้บ้างว่าบริษัทเป็นอย่างไร?หรือบริหารมาอย่างไร?ในอดีตที่ผ่านมา ..แต่ผมคิดว่า ROE และ ROA ไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของอนาคตบริษัทที่จะมาถึง ..แต่ผม งง ครับว่า(จากที่เคยๆคุย)ทำไมเพื่อนหลายๆท่านถึงใช้ ROEและROA ประกอบการตัดสินใจลงทุนเป็นหลัก..หรือ เป็นเฉพาะเพื่อนๆผมก็ไม่รู้^_^"
2.ความจริง..ผมสงสัย แทบจะทุก Ratio ที่ใช้ข้อมูลจากอดีตเลยอะครับ ..นอกจาก ประโยชน์เชิงสถิติ ว่าทิศทางในอดีตเป็นอย่างไร อนาคตก็น่าจะเป็นในทิศทางใกล้เคียงกัน ...ยังมีประโยชน์อื่นไหม??? เช่นในเชิง เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นๆเพื่อใช้ในการตัดสินใจ บลาๆๆๆ
ขอรบกวนความคิดเห็นครับผม ..ขอบคุณล่วงหน้าครับ^_^
ผมมีความคิดเหมือนกับของคุณ"panadius" เลยครับ ....^^)panadius เขียน:ขออนุญาติมือใหม่แสดงความเห็นนะครับ
ครับ เราใช้ตัวเลขในอดีตบอกทิศทางไม่ได้ทั้งหมดก็จริงอยู่ ถ้ามันบอกได้เราคงมีโปรแกรมคำนวนทุกอย่างได้อย่างเป๊ะๆแล้ว แต่การลงทุนเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ข้อมูลในอดีตถึงจะไม่ใช่ทั้งหมดแต่ก็น่าจะมีประโยชน์ในการตีความอยู่ไม่น้อยนะครับ
แล้วการใช้ตัวเลขคาดการณ์จากการคำนวน มันก็ใช้ตัวเลขในอดีตเป็นพื้นฐานในการคำนวนต่อยอดไปเช่นกัน ถ้าตัวเลขในอดีตเชื่อไม่ได้ การประมาณตัวเลขจะมีความน่าเชื่อถือได้อย่างไร ถ้ามันเชื่อถือได้ก็คงต้องชั่งใจว่า ตัวเลขเหตุการณ์ในอดีตที่ผ่านมาแล้วนั้น กับตัวเลขการคาดการณ์อนาคตที่ยังไม่เกิด เราชอบอันไหนมากกว่ากัน เลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยงเลยครับ
ในคำถามของคุณ "Energy_eak" ผมมีความคิดเห็นแบบนี้ครับ
ข้อ1)ไม่แปลกครับที่หลายๆคนใช้ROE และ ROA มาประกอบการตัดสินใจการลงทุน เพราะจากนิยามความหมาย
ROA,ROE คือผลตอบแทนจากที่กิจการ/บริษัทนั้นทำได้โดยเทียบเป็นจากทรัพย์สินทั้งหมด หรือจากเงินลงทุน
จากผู้ถือหุ้น ซึ่งการที่เรามอง 2 ตัวนี้เพื่อที่จะดูว่ากิจการนั้นทำกำไรให้กับเราได้มากแค่ไหนเมื่อเราเอาเงินไป
ลงทุนร่วมกับเขา บางคนจึงใช้เปรียบเทียบกันหลายๆบริษัทในอุตสาหกรรมเดียวกัน...^^)
ข้อ2)เรื่องของสถิติในอดีตนั้นผมมอง 2 ประเด็นครับ
ประเด็นแรก คือ การมองเปรียบเทียบกันว่าผลการดำเนินงานดีขึ้นหรือไม่ เช่น
จากปีที่แล้วยอดขาย 100 ล้าน พอปีนี้เป็น 80 ล้าน หรือ ROE ปี่ที่แล้ว 10% ปีนี้เป็น 20%
แล้วก็มาดูต่อว่ามันดีขึ้นเพราะอะไร หรือมันแย่ลงเพราะอะไร เพื่อจะดูการบริหารงานว่าทำได้ดีหรือไม่
หนะครับ....^^)
ประเด็นที่สอง คือ การใช้มองไปในอนาคต เนื่องจากเราลงทุนในหุ้นเพื่อซื้ออนาคต
ของบริษัทนั้นๆไม่ใช่ซื้ออดีต แต่การที่จะมองไปในอนาคตได้ก็ต้องนำข้อมูลของอดีตมาพิจารณาด้วย เช่น
ตลอด 10 ปี ลองหาค่าเฉลี่ยบริษัท A ทำROE ได้ 20% บริษัท B ทำได้ 10% แล้วเราก็มาคาดเดาในอนาคต
ว่าบริษัท A ก็น่าจะทำROE ได้อยู่ที่ประมาณ 15-20% จึงน่าที่จะลงทุน และอีกมุมนึงผู้บริหารก็ต้องพยายาม
รักษาค่าสถิติให้อยู่ในเกณดีเหมือนเดิม หรือไม่ตำ่กว่าเดิมมาก มันจึงน่าลงทุนครับ.....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 18
Mr.KANAT เขียน:ในความเห็นผมนะครับ ทั้ง ROA และ ROE เป็นตัวเลขที่หลอกตาทั้งสิ้น ผมได้ยินหลายๆคนพูดถึงแล้วรู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกับความเป็นจริงหลายๆเรื่องเท่าไหร่ จริงๆแล้วถ้าจะวิเคราะห์กันจริงๆ การใช้ DuPont มากกว่า เนื่องจาก DuPont ได้อธิบายในรายละเอียดว่าตัวเลขของ ROE เกิดจากอะไร เพราะจริงๆแล้ว ROE สามารถมองได้หลายรูปแบบ กล่าวคือ ROE = (net profit/sale)x(sale/asset)x(asset/equity) หรือเรียกได้ว่า (net profit margin)x(asset turnover)x(leverage ratio) ดังนั้นจะเห็นได้ครับว่าถ้าเราดูลึกๆเนี่ยจะทำให้ทราบได้ว่า roe ดีจากอะไร เช่น ดีจากการที่ leverage ratio สูงหรือเปล่า ดีจากการบริหารทรัพย์สินที่ดีหรือเปล่า หรือว่าขายของได้กำไรดี ซึ่งจริงๆแล้วรูปแบบของ roe ยังมีอีกมากมายนะครับ สามารถเอา ratio ต่างๆเข้ามาเป็นตัวแปรได้
ความเห็นของทั้งสองท่านนี้ ผมยังต้องไปศึกษาและวิเคราะห์เพิ่มเติมครับ(ยังไม่ค่อยเข้าใจในหลายๆประเด็นchatchai เขียน:การใช้ ROA และ ROE มาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆนั้น มีข้อจำกัดมากมายครับ
มีจุดหนึ่งที่ผมมักจะโพสต์บอก คือ หลักเกณฑ์ทางบัญชี
จุดอ่อนที่ว่าคืออะไร
เนื่องจาก การวิบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆบางประเภท มีการให้เลือกบันทึกมูลค่าด้วยวิธีทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน ย่อมทำให้สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าน้อยกว่าบริษัทที่เลือกวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน เมื่อคำนวณ ROA และ ROE ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดูเหมือนสูงกว่าอีกบริษัท
รวมทั้งเรื่องเงินเฟ้อ
บริษัทที่ซื้อสินทรัพย์มานานหลายปีแล้ว ย่อมมีมูลค่าทางบัญชีต่ำกว่า บริษัทที่เพิ่งซื้อสินทรัพย์ชิ้นเดียวกันในปัจจุบัน
...T-T)
ที่ผมได้ตั้งกระทู้ถาม ROA,กับROE เนื่องจากผมไปลงเรียนคอร์สอบรมมา แล้วมีจุดที่ให้มองอยู่คือการมอง
ที่ ROE = ผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น ซึ่งทำให้ผมสงสัยว่าค่า ROE ที่ได้มามันคือผลตอบแทนที่
เกิดจากส่วนของผู้ถือหุ้นจริงๆหรือ??? เพราะที่ผมเรียนมาเขาใช้วัดดูความคุ้มค่าในการลงทุนของหุ้น
ที่เราจะเลือกซื้อหนะครับ พอมาดูในwww.set.or.th ก็เจอ ROA เพิ่มเข้าไปอีกทีนี้เลยยิ่งสงสัยเพิ่ม
ขึ้นไปใหญ่เลยครับ ว่าทำไมต้องใช้ROA กับ ROE ด้วย แล้วตามที่ผมเคยเรียนมามันก็ใช้ตัวกำไรสุทธิ
ในการคำนวนเหมือนกันด้วย แต่กับใช้ตัวหารแปลกๆทั้งๆที่ส่วนของผู้ถือหุ้นก็คือส่วนหนึ่งของสินทรัพย์
แล้วทำไมถึงใช้กำไรที่เท่ากัน ทำไมไม่นำกำไรจากทุนมาคิด แบบนี้ไม่แปลกเหรอครับ เช่น
บริษัทสินทรัพย์(100)=หนี้สิน(50)+ทุน(50) มีกำไร 20
ROA=บริษัททำกำไรได้ 20 จากทรัพย์สิน 100
ROE=บริษัททำกำไรได้ 20 จากทุน 50
แล้วบริษัททำกำไรได้ 20 จากหนี้สิน 50 เหอๆๆๆ ไปกันใหญ่แล้ว....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 19
ROA ดูว่าทรัพย์สินที่เราลงไปมีผลตอบแทนกลับมาเท่าไรก่อนแบ่งให้แหล่งที่มาของเงินครับPlant เขียน: ถ้าเป็นแบบนี้การใช้ค่า ROE มาใช้คำนวนผลตอบแทนจากการลงทุนของเรา ก็ผิด!! หนะสิครับ
อีกประเด็นนึงถ้าหา ROA โดยใช้ EBIT มาคำนวน ผมคิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลยนะครับ ในเมื่อ ROA คือ
ผลตอบแทนจากทรัพย์สิน ซึ่งทรัพย์สินย่ิอมมีหนี้สินปะปนอยู่ด้วยในนั้น แต่พอมาคำนวนหาผลตอบแทนกลับ
ตัดตัวดอกเบี้ยจ่ายซึ่งเกิดจากหนี้สินที่นำมารวมคำนวนด้วยซะงั้น ผมว่ามันจะทำให้ตัวเลข ROA ที่โชว์ให้เห็น
ไม่ใช่ความจริง!!ที่กิจการทำได้หนะสิครับ....^^)
บางบริษัท ROA เป็นบวกแต่ ROE ติดลบก็มี แสดงว่าทรัพย์สินของบริษัทที่มีสามารถสร้าง return มาได้แต่ไม่พอเลี้ยงต้นทุนของเิิงินทุน(ดอกเบี้ยจ่าย) เลยไม่เหลือตกถึงท้องเรา
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 20
ถ้าเป็นในรูปแบบนี้ ROA ก็จะเกิดก่อน ROE โดย ROA หาจากกำไรก่อนภาษีและดอกเบี้ยpat4310 เขียน:ROA ดูว่าทรัพย์สินที่เราลงไปมีผลตอบแทนกลับมาเท่าไรก่อนแบ่งให้แหล่งที่มาของเงินครับ
บางบริษัท ROA เป็นบวกแต่ ROE ติดลบก็มี แสดงว่าทรัพย์สินของบริษัทที่มีสามารถสร้าง return มาได้แต่ไม่พอเลี้ยงต้นทุนของเิิงินทุน(ดอกเบี้ยจ่าย) เลยไม่เหลือตกถึงท้องเรา
ก่อนเพื่อดูว่าทรัพย์สินที่มีสร้างรายได้กลับมาเท่าไร แล้วมาวิเคราะห์ ROE ต่อโดยใช้
กำไรสุทธิ(หักภาษีและดอกเบี้ยแล้ว) เพื่อดุว่าหากเอากำไรหักดอกเบี้ย(ค่าใช้จ่ายจากหนี้
)และภาษี เพื่อดูว่ากำไรที่ได้มานั้นจริงตกถึงเราเท่าไรหรือมันไปอยู่ที่เจ้าหนี้(ดอกเบี้ย)
กับสรรพากร(ภาษี)หมดกันแน่ โอ้เข้าใจกระจ่างแจ้งเลยครับ!!!
ขอบคุณ คุณ"pat4310" มากๆครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 21
asset มาจากหนี้ บวกทุน
ดังนั้น reteurn ก็ต้องมาจากส่วนที่เป็นของเจ้าหนี้ และเจ้าของ
เวลาคิดกลับ
ต้องถามว่า การใช้ np มาคิด มีสมมติฐานอะไรมากกว่า
ทำไมถึงตัด return ส่วนเจ้าหนี้ออก
ดังนั้น reteurn ก็ต้องมาจากส่วนที่เป็นของเจ้าหนี้ และเจ้าของ
เวลาคิดกลับ
ต้องถามว่า การใช้ np มาคิด มีสมมติฐานอะไรมากกว่า
ทำไมถึงตัด return ส่วนเจ้าหนี้ออก
show me money.
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 22
คุณ "nut776" ต้องการถามว่าทำไม ROA ถึงใช้ Net Profitnut776 เขียน:asset มาจากหนี้ บวกทุน
ดังนั้น reteurn ก็ต้องมาจากส่วนที่เป็นของเจ้าหนี้ และเจ้าของ
เวลาคิดกลับ
ต้องถามว่า การใช้ np มาคิด มีสมมติฐานอะไรมากกว่า
ทำไมถึงตัด return ส่วนเจ้าหนี้ออก
มาคิด โดยตัดดอกเบี้ย+ภาษีทิ้งใช่ไหมครับ..-_-??)
ผมขอขยายความจากคำตอบของคุณ "pat4310" นะครับ
ROA จะเป็นตัวบ่งบอกว่าบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจาก
ทรัพย์สินที่ตนเองมีอยู่ได้เท่าไร แต่ไม่ได้บอกว่าผลตอบแทน
ที่ได้มานั้นเกิดจากทุนหรือหนี้ จึงใช้กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี(EBIT)
เพื่อดูผลตอบแทนที่เกิดขึ้นครับ...^^)
ส่วน ROE จะเป็นตัวบอกถึงผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจาก
บริษัทที่นำเงินไปลงทุน จึงต้องใช้กำไรหลังหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษี(EBITDA)
ซึ่งก็คือหักต้นทุนจากการกู้=ดอกเบี้ยจ่าย
และหักเงินที่ต้องจ่ายสรรพากร=ภาษี
สุดท้ายจึงเหลือผลตอบแทนกลับมาถึงผู้ถือหุ้นครับ...^^)
ปล.เพราะแบบนี้ผมถึงเห็นว่าหนังสือหลายเล่มให้วิเคราะห์หุ้นจาก ROE มากกว่า
วิเคราะห์จาก ROA ครับ....อืมอืม...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 3350
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 23
เปล่าคับ
ผมรู้อยู่แล้ว roa ต้องใช้ กำไร ก่อนดอกเบี้ยมาคิด
แต่ผมงงว่า คนที่ใช้ np นอกจากความสะดวกแล้ว
มีสมมติฐานอะไรอื่นอีกหรือไม่
จริงๆผมมองว่า ratio ต่างๆ รวมทั้ง roa roe etc
เหมือน profile คร่าวๆ ควรใช้เป็น kpi ในการติดตามหุ้นมากกว่า
เหมือนกับมันเป็นรายละเอียดในใบสมัครงาน
ซึ่งบอกว่า จบ ม.ดี เกรดดี เป็นเด็กกิจกรรม
แต่ไม่ได้บอกว่าหรือทำนายได้ทั้งหมดว่าจะทำงานดี
และเห็นด้วยกับพี่ข้างบนว่า ควรใช้ dupont ดีกว่า
ยกตัวอย่าง ถ้า ใช้ roe กรองและตัดสินใจเลือก
ได้หุ้นที่ roe สูง แต่เราไม่ได้มองว่า npm มันต่ำมาก
แล้วหุ้นตัวนี้ ดันมี growth กำลังสูงอีก
นั่นหมายถึง สัญญาณหายนะของการเพิ่มทุนเลยนะคับ
ผมรู้อยู่แล้ว roa ต้องใช้ กำไร ก่อนดอกเบี้ยมาคิด
แต่ผมงงว่า คนที่ใช้ np นอกจากความสะดวกแล้ว
มีสมมติฐานอะไรอื่นอีกหรือไม่
จริงๆผมมองว่า ratio ต่างๆ รวมทั้ง roa roe etc
เหมือน profile คร่าวๆ ควรใช้เป็น kpi ในการติดตามหุ้นมากกว่า
เหมือนกับมันเป็นรายละเอียดในใบสมัครงาน
ซึ่งบอกว่า จบ ม.ดี เกรดดี เป็นเด็กกิจกรรม
แต่ไม่ได้บอกว่าหรือทำนายได้ทั้งหมดว่าจะทำงานดี
และเห็นด้วยกับพี่ข้างบนว่า ควรใช้ dupont ดีกว่า
ยกตัวอย่าง ถ้า ใช้ roe กรองและตัดสินใจเลือก
ได้หุ้นที่ roe สูง แต่เราไม่ได้มองว่า npm มันต่ำมาก
แล้วหุ้นตัวนี้ ดันมี growth กำลังสูงอีก
นั่นหมายถึง สัญญาณหายนะของการเพิ่มทุนเลยนะคับ
show me money.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 24
Quote
"ROA จะเป็นตัวบ่งบอกว่าบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจาก
ทรัพย์สินที่ตนเองมีอยู่ได้เท่าไร แต่ไม่ได้บอกว่าผลตอบแทน
ที่ได้มานั้นเกิดจากทุนหรือหนี้ จึงใช้กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี(EBIT)
เพื่อดูผลตอบแทนที่เกิดขึ้นครับ...^^)
ส่วน ROE จะเป็นตัวบอกถึงผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจาก
บริษัทที่นำเงินไปลงทุน จึงต้องใช้กำไรหลังหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษี(EBITDA)
ซึ่งก็คือหักต้นทุนจากการกู้=ดอกเบี้ยจ่าย
และหักเงินที่ต้องจ่ายสรรพากร=ภาษี
สุดท้ายจึงเหลือผลตอบแทนกลับมาถึงผู้ถือหุ้นครับ...^^)"
อ่านไปอ่านมาเริ่มงง ตกลงเค้าใช้ EBIT กับ EBITDA คิดหรอครับ
ความคิดผมจะใช้อะไรคิดก็ได้นะอยู่ที่มุมมองที่จะตีความต่อ
จะเป็น root ที่สุดเลยตั้งแต่ Production volume ไปเป็น Net sales จนถึง FCF เอามาเทียบเลยก็ได้ครับ
ประเด็นสำคัญต้องแยกให้ออกว่า ratio พวกนี้
ใช้มองผลตอบแทนที่จะได้รับ หรือใช้ดูธรรมชาติธุรกิจกันแน่
"ROA จะเป็นตัวบ่งบอกว่าบริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนจาก
ทรัพย์สินที่ตนเองมีอยู่ได้เท่าไร แต่ไม่ได้บอกว่าผลตอบแทน
ที่ได้มานั้นเกิดจากทุนหรือหนี้ จึงใช้กำไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี(EBIT)
เพื่อดูผลตอบแทนที่เกิดขึ้นครับ...^^)
ส่วน ROE จะเป็นตัวบอกถึงผลตอบแทนที่ผู้ถือหุ้นจะได้รับจาก
บริษัทที่นำเงินไปลงทุน จึงต้องใช้กำไรหลังหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษี(EBITDA)
ซึ่งก็คือหักต้นทุนจากการกู้=ดอกเบี้ยจ่าย
และหักเงินที่ต้องจ่ายสรรพากร=ภาษี
สุดท้ายจึงเหลือผลตอบแทนกลับมาถึงผู้ถือหุ้นครับ...^^)"
อ่านไปอ่านมาเริ่มงง ตกลงเค้าใช้ EBIT กับ EBITDA คิดหรอครับ
ความคิดผมจะใช้อะไรคิดก็ได้นะอยู่ที่มุมมองที่จะตีความต่อ
จะเป็น root ที่สุดเลยตั้งแต่ Production volume ไปเป็น Net sales จนถึง FCF เอามาเทียบเลยก็ได้ครับ
ประเด็นสำคัญต้องแยกให้ออกว่า ratio พวกนี้
ใช้มองผลตอบแทนที่จะได้รับ หรือใช้ดูธรรมชาติธุรกิจกันแน่
Go against and stay alive.
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 25
เหอๆงั้นต้องขอโทษคุณ "nut776" ด้วยนะครับที่ผมเข้าใจผิด...^^)
ขอบคุณ คุณ "i-salmon" และคุณ "nut776" มากๆครับ
จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ใช้ ROA หรือ ROE มาตัดสินการซื้อหุ้นหรอกครับ
แต่พอดีผมไปลงเรียนคอร์สอบรมมา แล้วกลับมาศึกษาเองที่บ้านแล้วเกิด
สงสัยระหว่าง ROE กับ ROA จึงได้มาสอบถามในกระทู้นี้หนะครับ...^^)
ขอบคุณ คุณ "i-salmon" และคุณ "nut776" มากๆครับ
จริงๆแล้วผมก็ไม่ได้ใช้ ROA หรือ ROE มาตัดสินการซื้อหุ้นหรอกครับ
แต่พอดีผมไปลงเรียนคอร์สอบรมมา แล้วกลับมาศึกษาเองที่บ้านแล้วเกิด
สงสัยระหว่าง ROE กับ ROA จึงได้มาสอบถามในกระทู้นี้หนะครับ...^^)
- KissmeBrow
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 26
chatchai เขียน:การใช้ ROA และ ROE มาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆนั้น มีข้อจำกัดมากมายครับ
มีจุดหนึ่งที่ผมมักจะโพสต์บอก คือ หลักเกณฑ์ทางบัญชี
จุดอ่อนที่ว่าคืออะไร
เนื่องจาก การวิบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆบางประเภท มีการให้เลือกบันทึกมูลค่าด้วยวิธีทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน ย่อมทำให้สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าน้อยกว่าบริษัทที่เลือกวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน เมื่อคำนวณ ROA และ ROE ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดูเหมือนสูงกว่าอีกบริษัท
รวมทั้งเรื่องเงินเฟ้อ
บริษัทที่ซื้อสินทรัพย์มานานหลายปีแล้ว ย่อมมีมูลค่าทางบัญชีต่ำกว่า บริษัทที่เพิ่งซื้อสินทรัพย์ชิ้นเดียวกันในปัจจุบัน
- KissmeBrow
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 27
ขอบคุณพี่ฉัตรชัยแนะนำให้ระวัง..ปกติผมจะชอบดู ROE สูง ๆ แบบขี้เกียจไปแกะงบต่อKissmeBrow เขียน:chatchai เขียน:การใช้ ROA และ ROE มาเปรียบเทียบผลการดำเนินงานของบริษัทต่างๆนั้น มีข้อจำกัดมากมายครับ
มีจุดหนึ่งที่ผมมักจะโพสต์บอก คือ หลักเกณฑ์ทางบัญชี
จุดอ่อนที่ว่าคืออะไร
เนื่องจาก การวิบันทึกมูลค่าสินทรัพย์ต่างๆบางประเภท มีการให้เลือกบันทึกมูลค่าด้วยวิธีทุน หรือวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน ย่อมทำให้สินทรัพย์และส่วนของผู้ถือหุ้นมีมูลค่าน้อยกว่าบริษัทที่เลือกวิธีมูลค่ายุติธรรม
บริษัทที่เลือกวิธีทุน เมื่อคำนวณ ROA และ ROE ก็จะมีอัตราผลตอบแทนที่ดูเหมือนสูงกว่าอีกบริษัท
รวมทั้งเรื่องเงินเฟ้อ
บริษัทที่ซื้อสินทรัพย์มานานหลายปีแล้ว ย่อมมีมูลค่าทางบัญชีต่ำกว่า บริษัทที่เพิ่งซื้อสินทรัพย์ชิ้นเดียวกันในปัจจุบัน
แล้วเราจะไปดูในงบตได้อย่างไร และต้องทำอย่างไรเพื่อจะเปรียบเทียบ ROE ของบริษัทกันได้
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 28
ถ้าถามแบบนี้ก็แปลว่า คุณ"KissmeBrow" ยังไ่ม่เข้าใจความหมายที่คุณKissmeBrow เขียน:ขอบคุณพี่ฉัตรชัยแนะนำให้ระวัง..ปกติผมจะชอบดู ROE สูง ๆ แบบขี้เกียจไปแกะงบต่อ
แล้วเราจะไปดูในงบตได้อย่างไร และต้องทำอย่างไรเพื่อจะเปรียบเทียบ ROE ของบริษัทกันได้
"chatchai" บอกนะครับ....^^)
ในส่วนของผมผมใช้เปรียบเทียบ ROE ของบริษัทในแต่ละปี แต่ไม่ได้ใช้เปรียบเทียบ
กับบริษัทอื่นครับ ส่วนถ้าใช้เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นต้องดุตัวแปรอื่นๆหลายๆตัว
ในการวิเคราะห์ครับ ไม่ได้ใช้ ROE เพียงอย่างเดียวครับ....^^)
- KissmeBrow
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 29
โดยปกติผมก็ไม่ได้ดู ROE เพียงอย่างเดียวนะPlant เขียน:ถ้าถามแบบนี้ก็แปลว่า คุณ"KissmeBrow" ยังไ่ม่เข้าใจความหมายที่คุณKissmeBrow เขียน:ขอบคุณพี่ฉัตรชัยแนะนำให้ระวัง..ปกติผมจะชอบดู ROE สูง ๆ แบบขี้เกียจไปแกะงบต่อ
แล้วเราจะไปดูในงบตได้อย่างไร และต้องทำอย่างไรเพื่อจะเปรียบเทียบ ROE ของบริษัทกันได้
"chatchai" บอกนะครับ....^^)
ในส่วนของผมผมใช้เปรียบเทียบ ROE ของบริษัทในแต่ละปี แต่ไม่ได้ใช้เปรียบเทียบ
กับบริษัทอื่นครับ ส่วนถ้าใช้เปรียบเทียบกับบริษัทอื่นต้องดุตัวแปรอื่นๆหลายๆตัว
ในการวิเคราะห์ครับ ไม่ได้ใช้ ROE เพียงอย่างเดียวครับ....^^)
คำถามของผม ถามต่อยอดจากพี่ฉัตรชัยครับ..ถ้าต้องการปรับเกณท์ทางบัญชี เพื่อพอจะเทียบได้บ้าง..ให้ดูตัวไหนประกอบ
ไม่เช่นนั้น เราคงไม่ต้องดูมาดู ROE กันปล่าวประโยชน์นะครับ
- KissmeBrow
- Verified User
- โพสต์: 30
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ข้อสงสัยใน ROE และ ROA ครับ....-.-??)
โพสต์ที่ 30
ถ้าจะดูการเติบโตในบริษัทไม่จำเป็นต้องดู ROE เพื่อเทียบปีต่อปี..ก็ดูแค่การเติบโตยอดขาย กำไรและรูปแบบการพัฒนาธุรกิจ
ยกเว้นเราต้องการวิเคราะห์ปีต่อปีด้วย Dupont analysis ว่าROE ที่ดีหรือแย่ลง..มาจากส่วนไหน..เช่น ความสามารถทำกำไร ROS หรือใช้ leverage ด้วยการกู้หนี้สูงๆ เราถึงจะเทียบภายในบริษัทเอง
ที่ผมถามพี่ฉัตรชัยเพื่ออยากทราบว่าท่านมีมุมมองอย่างไร.แล้วถ้าต้องการเทียบต่างบริษํทควรปรับหรือหาข้อมูลอะไรบ้าง
ยกเว้นเราต้องการวิเคราะห์ปีต่อปีด้วย Dupont analysis ว่าROE ที่ดีหรือแย่ลง..มาจากส่วนไหน..เช่น ความสามารถทำกำไร ROS หรือใช้ leverage ด้วยการกู้หนี้สูงๆ เราถึงจะเทียบภายในบริษัทเอง
ที่ผมถามพี่ฉัตรชัยเพื่ออยากทราบว่าท่านมีมุมมองอย่างไร.แล้วถ้าต้องการเทียบต่างบริษํทควรปรับหรือหาข้อมูลอะไรบ้าง