ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต ?" ค
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต ?" ค
โพสต์ที่ 1
เท่าที่ได้ฟังหรือศึกษามา นักลงทุนบางท่านจะมีความคิดเห็นกรณีรับมือกับวิกฤตว่า
1. ให้ถือหุ้นไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพอวิกฤตผ่านไป ราคาหุ้นก็กลับมาเอง ตราบใดที่เรารู้มูลค่าที่แท้จริงเราก็ไม่ต้องหวั่นไหวใดๆ
2. ให้ขายไปก่อน แล้วไปซื้อใหม่ที่ราคาต่ำๆ (Short Against Port) ถ้ามั่นใจว่า หุ้นจะลงต่อแน่ๆ แต่ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ จะทำอย่างไร?
ผมลองเสนอแบบนี้ อยากฟังความคิดเห็นของพี่ๆ เพื่อนๆ ว่าคิดอย่างไรกับวิธีนี้ครับ
สมมติฐาน คือ
1. ราคาหุ้นที่เราถือ ณ ปัจจุบัน มี MOS พอสมควรแล้ว เมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง (คำนวณมูลค่าที่แท้จริงได้ถูกต้อง ใกล้เคียงมาก)
2. พอร์ตไม่ใหญ่มากนัก (พอร์ตใหญ่อาจจะทำวิธีนี้ลำบาก)
3. ลงทุนในหุ้น 100% ไม่เหลือเงินสดแล้ว
วิธีการ คือ
1. กำหนดจุดที่จะขายหุ้นไว้เลย แต่เป็น "จุดในฝั่งกำไร" เช่น ถ้าราคาลงต่ำถึงจุดที่ "กำไรลดเหลือ 2% หรือต่ำกว่านั้น" ให้ขายทันที (ผมไม่กำหนดจุดขายในฝั่งขาดทุนนะครับ จะกำหนดไว้ที่ฝั่งกำไร เพื่อเป็นการรักษาเงินต้นให้คงอยู่เสมอ) ... มองเป็นการขายหมู เพื่อรักษาเงินต้นก็ได้ครับ
2. ถ้าราคาหุ้นลงต่อ เราจะมีเงินสดไว้ซื้อของถูก และมี MOS มากกว่าเดิม
3. ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ ให้ซื้อทันที อาจจะซื้อแพงกว่าทุนเดิมบ้าง แต่หากเทียบกับการรักษาเงินต้น ผมว่า อาจจะคุ้มค่ามากกว่า
4. อาจใช้กราฟเทคนิคประกอบการพิจารณา
ยินดีรับฟังคำชี้แนะจากทุกท่านนะครับ เพราะส่วนตัวก็ยังคิดว่า อาจจะมองไม่รอบด้านตรงไหนหรือเปล่า
หรือหากท่านใดมีวิธีอื่นที่น่าสนใจ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
1. ให้ถือหุ้นไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพอวิกฤตผ่านไป ราคาหุ้นก็กลับมาเอง ตราบใดที่เรารู้มูลค่าที่แท้จริงเราก็ไม่ต้องหวั่นไหวใดๆ
2. ให้ขายไปก่อน แล้วไปซื้อใหม่ที่ราคาต่ำๆ (Short Against Port) ถ้ามั่นใจว่า หุ้นจะลงต่อแน่ๆ แต่ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ จะทำอย่างไร?
ผมลองเสนอแบบนี้ อยากฟังความคิดเห็นของพี่ๆ เพื่อนๆ ว่าคิดอย่างไรกับวิธีนี้ครับ
สมมติฐาน คือ
1. ราคาหุ้นที่เราถือ ณ ปัจจุบัน มี MOS พอสมควรแล้ว เมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง (คำนวณมูลค่าที่แท้จริงได้ถูกต้อง ใกล้เคียงมาก)
2. พอร์ตไม่ใหญ่มากนัก (พอร์ตใหญ่อาจจะทำวิธีนี้ลำบาก)
3. ลงทุนในหุ้น 100% ไม่เหลือเงินสดแล้ว
วิธีการ คือ
1. กำหนดจุดที่จะขายหุ้นไว้เลย แต่เป็น "จุดในฝั่งกำไร" เช่น ถ้าราคาลงต่ำถึงจุดที่ "กำไรลดเหลือ 2% หรือต่ำกว่านั้น" ให้ขายทันที (ผมไม่กำหนดจุดขายในฝั่งขาดทุนนะครับ จะกำหนดไว้ที่ฝั่งกำไร เพื่อเป็นการรักษาเงินต้นให้คงอยู่เสมอ) ... มองเป็นการขายหมู เพื่อรักษาเงินต้นก็ได้ครับ
2. ถ้าราคาหุ้นลงต่อ เราจะมีเงินสดไว้ซื้อของถูก และมี MOS มากกว่าเดิม
3. ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ ให้ซื้อทันที อาจจะซื้อแพงกว่าทุนเดิมบ้าง แต่หากเทียบกับการรักษาเงินต้น ผมว่า อาจจะคุ้มค่ามากกว่า
4. อาจใช้กราฟเทคนิคประกอบการพิจารณา
ยินดีรับฟังคำชี้แนะจากทุกท่านนะครับ เพราะส่วนตัวก็ยังคิดว่า อาจจะมองไม่รอบด้านตรงไหนหรือเปล่า
หรือหากท่านใดมีวิธีอื่นที่น่าสนใจ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
- newbie_12
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2912
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 2
ระวังจะเจอวงจรอุบาทว์นะครับ
ซื้อเสร็จจังหวะฟลุ้กหุ้นเด้งไป 3% แล้วลงมาถึง 2% อ้าวถึงจุดขาย จัดการขายซะ ขายเสร็จ หุ้นเด้งไปอีก 2% อ้าวต้องซื้ออีกแล้ว ซื้อเสร็จตลาดปรับฐาน ลงอีก 3% อ้าวถึงจุดขายอีกแล้วเว้ยเฮ้ย
นี่ยังไม่นับว่าซื้อไม้แรกแล้วหุ้นลงพอดี
ผมว่าแทนที่จะมาเสียสุขภาพจิตมานั่งซื้อๆขายๆ จุดนั้นจุดนี้ เอาเวลาไปทำงาน หาเงินมาเติม port ให้มันเยอะๆดีกว่า
ยกเว้นว่าน้องมาร์สาวสวย ต้องการทำยอด trade เยอะๆ เพื่อชวนน้องมาร์ไปกินข้าว อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาครับ
ซื้อเสร็จจังหวะฟลุ้กหุ้นเด้งไป 3% แล้วลงมาถึง 2% อ้าวถึงจุดขาย จัดการขายซะ ขายเสร็จ หุ้นเด้งไปอีก 2% อ้าวต้องซื้ออีกแล้ว ซื้อเสร็จตลาดปรับฐาน ลงอีก 3% อ้าวถึงจุดขายอีกแล้วเว้ยเฮ้ย
นี่ยังไม่นับว่าซื้อไม้แรกแล้วหุ้นลงพอดี
ผมว่าแทนที่จะมาเสียสุขภาพจิตมานั่งซื้อๆขายๆ จุดนั้นจุดนี้ เอาเวลาไปทำงาน หาเงินมาเติม port ให้มันเยอะๆดีกว่า
ยกเว้นว่าน้องมาร์สาวสวย ต้องการทำยอด trade เยอะๆ เพื่อชวนน้องมาร์ไปกินข้าว อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาครับ
.
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
.
อดีตอันรุ่งโรจน์ ไม่ได้การันตีอนาคตจะรุ่งเรือง
----------------------------
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 4
ขอบคุณสำหรับ comment ครับพี่ ถ้าเจอวงจรแบบนั้นก็คงงงแบบที่พี่ว่าเหมือนกันครับ คิดว่าคงต้องไปประยุกต์ ปรับใช้ case by case ครับnewbie_12 เขียน:ระวังจะเจอวงจรอุบาทว์นะครับ
ซื้อเสร็จจังหวะฟลุ้กหุ้นเด้งไป 3% แล้วลงมาถึง 2% อ้าวถึงจุดขาย จัดการขายซะ ขายเสร็จ หุ้นเด้งไปอีก 2% อ้าวต้องซื้ออีกแล้ว ซื้อเสร็จตลาดปรับฐาน ลงอีก 3% อ้าวถึงจุดขายอีกแล้วเว้ยเฮ้ย
นี่ยังไม่นับว่าซื้อไม้แรกแล้วหุ้นลงพอดี
ผมว่าแทนที่จะมาเสียสุขภาพจิตมานั่งซื้อๆขายๆ จุดนั้นจุดนี้ เอาเวลาไปทำงาน หาเงินมาเติม port ให้มันเยอะๆดีกว่า
ยกเว้นว่าน้องมาร์สาวสวย ต้องการทำยอด trade เยอะๆ เพื่อชวนน้องมาร์ไปกินข้าว อันนี้ก็แล้วแต่ศรัทธาครับ
ส่วนอีกวิธีผมเห็นด้วยครับ ทำงานหาเงินเยอะๆ มาเติมพอร์ต อาจจะถือเงินสดไว้บ้าง เผื่อจะเป็นโอกาสในยามเกิดวิกฤตครับ
ขอบคุณมากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 6
TLSS เขียน:เท่าที่ได้ฟังหรือศึกษามา นักลงทุนบางท่านจะมีความคิดเห็นกรณีรับมือกับวิกฤตว่า
1. ให้ถือหุ้นไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพอวิกฤตผ่านไป ราคาหุ้นก็กลับมาเอง ตราบใดที่เรารู้มูลค่าที่แท้จริงเราก็ไม่ต้องหวั่นไหวใดๆ
2. ให้ขายไปก่อน แล้วไปซื้อใหม่ที่ราคาต่ำๆ (Short Against Port) ถ้ามั่นใจว่า หุ้นจะลงต่อแน่ๆ แต่ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ จะทำอย่างไร?
ผมลองเสนอแบบนี้ อยากฟังความคิดเห็นของพี่ๆ เพื่อนๆ ว่าคิดอย่างไรกับวิธีนี้ครับ
สมมติฐาน คือ
1. ราคาหุ้นที่เราถือ ณ ปัจจุบัน มี MOS พอสมควรแล้ว เมื่อเทียบกับมูลค่าที่แท้จริง (คำนวณมูลค่าที่แท้จริงได้ถูกต้อง ใกล้เคียงมาก)
2. พอร์ตไม่ใหญ่มากนัก (พอร์ตใหญ่อาจจะทำวิธีนี้ลำบาก)
3. ลงทุนในหุ้น 100% ไม่เหลือเงินสดแล้ว
วิธีการ คือ
1. กำหนดจุดที่จะขายหุ้นไว้เลย แต่เป็น "จุดในฝั่งกำไร" เช่น ถ้าราคาลงต่ำถึงจุดที่ "กำไรลดเหลือ 2% หรือต่ำกว่านั้น" ให้ขายทันที (ผมไม่กำหนดจุดขายในฝั่งขาดทุนนะครับ จะกำหนดไว้ที่ฝั่งกำไร เพื่อเป็นการรักษาเงินต้นให้คงอยู่เสมอ) ... มองเป็นการขายหมู เพื่อรักษาเงินต้นก็ได้ครับ
2. ถ้าราคาหุ้นลงต่อ เราจะมีเงินสดไว้ซื้อของถูก และมี MOS มากกว่าเดิม
3. ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ ให้ซื้อทันที อาจจะซื้อแพงกว่าทุนเดิมบ้าง แต่หากเทียบกับการรักษาเงินต้น ผมว่า อาจจะคุ้มค่ามากกว่า
4. อาจใช้กราฟเทคนิคประกอบการพิจารณา
ยินดีรับฟังคำชี้แนะจากทุกท่านนะครับ เพราะส่วนตัวก็ยังคิดว่า อาจจะมองไม่รอบด้านตรงไหนหรือเปล่า
หรือหากท่านใดมีวิธีอื่นที่น่าสนใจ ช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ
วิธีรับมือ เมื่อเกิดวิกฤติ
1. ให้ถือหุ้นไว้เฉยๆ ไม่ต้องทำอะไร เดี๋ยวพอวิกฤตผ่านไป ราคาหุ้นก็กลับมาเอง ตราบใดที่เรารู้มูลค่าที่แท้จริงเราก็ไม่ต้องหวั่นไหวใดๆ
2. ให้ขายไปก่อน แล้วไปซื้อใหม่ที่ราคาต่ำๆ (Short Against Port) ถ้ามั่นใจว่า หุ้นจะลงต่อแน่ๆ แต่ถ้าหุ้นไม่ลง แล้วขึ้นต่อ จะทำอย่างไร?
*** 3. (เพิ่มเติมครับ) ปรับพอร์ต (Portfolio management) โดยดูจาก upside ของหุ้นในพอร์ต จากบทความเรื่อง ใครว่า VI ไม่มีจังหวะซื้อขาย โดยคุณ yoyo ครับ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 7
ให้นึกถึงหนังสงครามครับ
1.สู้จนกว่ากองหนุนจะมา(ถ้าคิดว่าไ่ม่แรง)
2.ถอยก่อนเพื่อรักษาชีวิต(ถ้าคิดว่าโดนแน่ๆ)
ถ้าคลื่นมันแรงมาก คงไม่อุบาวท์ครับ ผมเชื่อว่าหลายล็อคอินในนี้ เจอมาแล้วในปี2008
ถ้ามันเกิดแบบปี2008 คงไม่มีใคร อยู่ เพื่อเจอคลื่นหรอกครับ
พอรท์โฟลิโอหายไปหลัก 50-60% คงยิ้มไม่ออกหรอกครับ
วงจรอุบาวท์คือ พวกซื้อๆขายๆ ทุกสถานการณ์
เราจะถอย ก้ต่อเมื่อ คลื่นมันแรงจน เอาไม่อยู่
ถ้าน้ำเชี่ยวก้อย่าเอาเรือไปขวางครับ ถ้าน้ำปกติ ก้อย่าพายไปพายมา
เราเดินตามธรรมชาติ แต่ไม่ ฝืน ธรรมชาติ
1.สู้จนกว่ากองหนุนจะมา(ถ้าคิดว่าไ่ม่แรง)
2.ถอยก่อนเพื่อรักษาชีวิต(ถ้าคิดว่าโดนแน่ๆ)
ถ้าคลื่นมันแรงมาก คงไม่อุบาวท์ครับ ผมเชื่อว่าหลายล็อคอินในนี้ เจอมาแล้วในปี2008
ถ้ามันเกิดแบบปี2008 คงไม่มีใคร อยู่ เพื่อเจอคลื่นหรอกครับ
พอรท์โฟลิโอหายไปหลัก 50-60% คงยิ้มไม่ออกหรอกครับ
วงจรอุบาวท์คือ พวกซื้อๆขายๆ ทุกสถานการณ์
เราจะถอย ก้ต่อเมื่อ คลื่นมันแรงจน เอาไม่อยู่
ถ้าน้ำเชี่ยวก้อย่าเอาเรือไปขวางครับ ถ้าน้ำปกติ ก้อย่าพายไปพายมา
เราเดินตามธรรมชาติ แต่ไม่ ฝืน ธรรมชาติ
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 8
ขอบคุณสำหรับบทสรุปที่ชัดเจนครับ เห็นภาพชัดมากครับchukieat30 เขียน:ให้นึกถึงหนังสงครามครับ
1.สู้จนกว่ากองหนุนจะมา(ถ้าคิดว่าไ่ม่แรง)
2.ถอยก่อนเพื่อรักษาชีวิต(ถ้าคิดว่าโดนแน่ๆ)
ถ้าคลื่นมันแรงมาก คงไม่อุบาวท์ครับ ผมเชื่อว่าหลายล็อคอินในนี้ เจอมาแล้วในปี2008
ถ้ามันเกิดแบบปี2008 คงไม่มีใคร อยู่ เพื่อเจอคลื่นหรอกครับ
พอรท์โฟลิโอหายไปหลัก 50-60% คงยิ้มไม่ออกหรอกครับ
วงจรอุบาวท์คือ พวกซื้อๆขายๆ ทุกสถานการณ์
เราจะถอย ก้ต่อเมื่อ คลื่นมันแรงจน เอาไม่อยู่
ถ้าน้ำเชี่ยวก้อย่าเอาเรือไปขวางครับ ถ้าน้ำปกติ ก้อย่าพายไปพายมา
เราเดินตามธรรมชาติ แต่ไม่ ฝืน ธรรมชาติ
- chukieat30
- Verified User
- โพสต์: 3531
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 9
ถ้ามีพายุถล่ม
จะไม่มีการซื้อๆขายๆครับ ต้องรอให้เค้าขาย
รอมันขายให้พอใจถล่มจนเมื่อไหร่คนกลัวจนไม่อยากจะซื้อแล้ว
อันนั้นแหล่ะ ซื้อได้
เมื่อไหร่คนกลัวจนเวบบอรด์เงียบๆ สัมนาหุ้นไม่มี ข่าวรายงานทุกวันเรื่ืองเศรษฐกิจแย่
อันนั้น ยิ่งน่าซื้อ
ซื้อแล้วก้ ดื่มวีต้าและก้ไปนอนซะ คนหายกลัวเมื่อไหร่ เด็วเค้าก้กลับมาเอง
จะไม่มีการซื้อๆขายๆครับ ต้องรอให้เค้าขาย
รอมันขายให้พอใจถล่มจนเมื่อไหร่คนกลัวจนไม่อยากจะซื้อแล้ว
อันนั้นแหล่ะ ซื้อได้
เมื่อไหร่คนกลัวจนเวบบอรด์เงียบๆ สัมนาหุ้นไม่มี ข่าวรายงานทุกวันเรื่ืองเศรษฐกิจแย่
อันนั้น ยิ่งน่าซื้อ
ซื้อแล้วก้ ดื่มวีต้าและก้ไปนอนซะ คนหายกลัวเมื่อไหร่ เด็วเค้าก้กลับมาเอง
ถ้าคุณตีลูกตามไทเกอร์ คุณก้ไม่มีทางจะเหนือกว่า ไทเกอร์ จงนำวงสวิงของไทเกอร์มาปรับใช้ให้เหมาะกับคุณ
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
หวิ่งชุนหวอซาน หวิ่งชุนยิปมันจีทคุดโด้ พื้นฐานก้มาจากหวิ่งชุน แม้ชื่อจะต่าง
แต่หวิ่งชุนก้คือ หวิ่งชุน
ทำวันนี้ให้ดี ทำพรุ่งนี้ให้ดีกว่า และทำวันข้างหน้าให้ดีที่สุด
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 11
ผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ....^^)
1.ต้องดูว่าวิกฤตนั้นร้ายแรงขนาดไหน มีผลกระทบต่อทั้งตลาดยังไง
2.ดูว่าตัวบริษัทที่เราถือไว้กระทบมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำให้ปัจจัยต่างๆของบริษัท
ที่เราเคยมองไว้เปลี่ยนแปลงไป ก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตหละครับ...^^)
ปล.ปรับตัวเพื่ออยู่รอด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ...^^)
1.ต้องดูว่าวิกฤตนั้นร้ายแรงขนาดไหน มีผลกระทบต่อทั้งตลาดยังไง
2.ดูว่าตัวบริษัทที่เราถือไว้กระทบมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำให้ปัจจัยต่างๆของบริษัท
ที่เราเคยมองไว้เปลี่ยนแปลงไป ก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตหละครับ...^^)
ปล.ปรับตัวเพื่ออยู่รอด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 12
ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ เห็นด้วยเลยครับ ... พอดีผมถามเรื่องนี้มาเพื่อเตรียมความพร้อม หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน รู้สึกดัชนีมันขึ้นมาสูงมาก เริ่มกลัวครับPlant เขียน:ผมขอเสนอความคิดเห็นนะครับ....^^)
1.ต้องดูว่าวิกฤตนั้นร้ายแรงขนาดไหน มีผลกระทบต่อทั้งตลาดยังไง
2.ดูว่าตัวบริษัทที่เราถือไว้กระทบมากน้อยแค่ไหน ถ้าทำให้ปัจจัยต่างๆของบริษัท
ที่เราเคยมองไว้เปลี่ยนแปลงไป ก็คงต้องมีการปรับเปลี่ยนพอร์ตหละครับ...^^)
ปล.ปรับตัวเพื่ออยู่รอด เป็นสิ่งที่ดีที่สุดครับ...^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 667
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 13
เป็นสิ่งที่ดีครับ....^^)TLSS เขียน:ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ เห็นด้วยเลยครับ ... พอดีผมถามเรื่องนี้มาเพื่อเตรียมความพร้อม หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน รู้สึกดัชนีมันขึ้นมาสูงมาก เริ่มกลัวครับ
งั้นเพิ่มเติมให้อีกนิดครับ ถ้ากังวลเรื่องของ Mr.Market ต้องกลับไปมองปัจจัยต่างๆ
ณ ตอนแรกที่เราเข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนั้น เราเข้าเพราะเหตุผลอะไร ทำไมถึงซื้อบริษัทนี้
แล้วทำไมต้องซื้อราคานี้ มันจะสามารถช่วยเราได้เยอะครับ สำหรับตัวผม ณ เวลานี้
ผมยังเห็นมีหุ้นบางตัวก็ยังน่าลงทุนอยู่เลยครับ....^^)
-
- Verified User
- โพสต์: 616
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ขอถามเรื่อง "วิธีเอาตัวรอด (รักษาเงินต้น) เวลาเกิดวิกฤต
โพสต์ที่ 14
ขอบคุณมากครับคุณ Plant เห็นด้วยครับเรื่องให้สนใจว่า วิกฤตนั้นส่งผลกระทบต่อพื้นฐานบริษัทเราหรือไม่ อย่างไร ^^Plant เขียน:เป็นสิ่งที่ดีครับ....^^)TLSS เขียน:ขอบคุณสำหรับความคิดเห็นนะครับ เห็นด้วยเลยครับ ... พอดีผมถามเรื่องนี้มาเพื่อเตรียมความพร้อม หาทางหนีทีไล่ไว้ก่อน รู้สึกดัชนีมันขึ้นมาสูงมาก เริ่มกลัวครับ
งั้นเพิ่มเติมให้อีกนิดครับ ถ้ากังวลเรื่องของ Mr.Market ต้องกลับไปมองปัจจัยต่างๆ
ณ ตอนแรกที่เราเข้ามาลงทุนในหุ้นตัวนั้น เราเข้าเพราะเหตุผลอะไร ทำไมถึงซื้อบริษัทนี้
แล้วทำไมต้องซื้อราคานี้ มันจะสามารถช่วยเราได้เยอะครับ สำหรับตัวผม ณ เวลานี้
ผมยังเห็นมีหุ้นบางตัวก็ยังน่าลงทุนอยู่เลยครับ....^^)
ที่ผมกังวลคือ ถ้ามันเป็น วิกฤตที่หนักมากๆ เหมือน คลื่นที่แรงมากๆ และเราคาดว่าจะต้านไม่อยู่ ... ผมจะมีเงินสดในมือไว้ลงทุนเพิ่มเติมได้อย่างไร ... เลยหาทางเตรียมการไว้ก่อนครับ