การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1047
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 61
หยุดเมื่อไหร่ไม่มีใครทราบได้หรอกครับ แต่ที่พอจะเดาออกก็ต่อเมื่อมันออกอาการตื้อๆเช่น
1 ยอดขายร้านเดิมไม่ค่อยดีซะแร๊ว
2 คุณและคนที่คุณรู้จักไม่ค่อยไปร้านนั้นอีกแล้ว ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่เช่น ขายแพงไป
ร้านสกปรก ไม่มีของที่ต้องการ
3 มีคู่แข่งที่น่ากลัวมา คุณและคนที่คุณรู้จักก็ชอบมัน
4 ราคาหุ้นแพงกว่าพื้นฐานไปมาก หรือมากซะจนกระทั่งอะไรมันจะขนาดนั้น กรณีนี้ตัวบริษัทไม่ผิดหรอกครับ แต่ตัวคนซื้อหุ้นนี่แหละที่ผิด ให้ราคาเวอร์ไป
ผมจะไม่แปลกใจหรอกที่สักวันหนึ่งหุ้นค้าปลีกจะตกลงมาโดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุเพราะราคามันสูงเกินไปแค่นั้นเอง
1 ยอดขายร้านเดิมไม่ค่อยดีซะแร๊ว
2 คุณและคนที่คุณรู้จักไม่ค่อยไปร้านนั้นอีกแล้ว ด้วยสาเหตุอะไรก็แล้วแต่เช่น ขายแพงไป
ร้านสกปรก ไม่มีของที่ต้องการ
3 มีคู่แข่งที่น่ากลัวมา คุณและคนที่คุณรู้จักก็ชอบมัน
4 ราคาหุ้นแพงกว่าพื้นฐานไปมาก หรือมากซะจนกระทั่งอะไรมันจะขนาดนั้น กรณีนี้ตัวบริษัทไม่ผิดหรอกครับ แต่ตัวคนซื้อหุ้นนี่แหละที่ผิด ให้ราคาเวอร์ไป
ผมจะไม่แปลกใจหรอกที่สักวันหนึ่งหุ้นค้าปลีกจะตกลงมาโดยที่พื้นฐานไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุเพราะราคามันสูงเกินไปแค่นั้นเอง
เลือกเด็กที่เรียนดี แล้วให้เค้าพาเราไป
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 62
กระทู้เรื่อง "### ค้าปลีกโต...ไม่ได้โตแค่ค้าปลีก ###"
By Pak ThaiVI
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 02436.html
By Pak ThaiVI
ที่ http://www.pantip.com/cafe/sinthorn/top ... 02436.html
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 63
ค้าปลีกชูการตลาดนำ 'ลานจอดรถ' ขุมทรัพย์'ซีอาร์เอ็ม'มัดใจลูกค้า [ กรุงเทพธุรกิจ, 26 เม.ย. 55 ]
คาร์ พาร์ค (Car Park) ไม่ได้ทำหน้าที่เพียง 'ลานจอดรถ' หากแต่เป็นขุมทรัพย์มหาศาลสำหรับ
เจ้าของพื้นที่ โดยเฉพาะบรรดาห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุง รวมทั้งย่านชานเมือง
ต่างปลุกปั้น...รังสรรค์ พื้นที่หลังร้าน กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้ 'ต่อยอด' สร้างมูลค่า
เพิ่มทางธุรกิจอย่างกว้างขวางผ่านรูปแบบบริการต่างๆ
คาร์ พาร์ค (Car Park) ไม่ได้ทำหน้าที่เพียง 'ลานจอดรถ' หากแต่เป็นขุมทรัพย์มหาศาลสำหรับ
เจ้าของพื้นที่ โดยเฉพาะบรรดาห้างสรรพสินค้าศูนย์การค้าขนาดใหญ่ใจกลางกรุง รวมทั้งย่านชานเมือง
ต่างปลุกปั้น...รังสรรค์ พื้นที่หลังร้าน กลายเป็นหนึ่งในเครื่องมือทางการตลาดที่ใช้ 'ต่อยอด' สร้างมูลค่า
เพิ่มทางธุรกิจอย่างกว้างขวางผ่านรูปแบบบริการต่างๆ
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 64
บทความเรื่อง "หุ้นค้าปลีกในประเทศญี่ปุ่น"
ที่ http://kabuvi.wordpress.com/2012/05/02/ ... %E0%B9%88/
ที่ http://kabuvi.wordpress.com/2012/05/02/ ... %E0%B9%88/
แนบไฟล์
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 66
สตาร์บัคส์สร้างปรากฎการณ์เปิด ร้านกาแฟแบบ ไดร์ฟ-ทรู สาขาแรก
โดย webmaster » Thu May 03, 2012 3:51 pm
สตาร์บัคส์สร้างปรากฎการณ์เปิด ร้านกาแฟแบบ ไดร์ฟ-ทรู สาขาแรกริมถ.พระราม2 ย้ำภาพผู้นำเทรนด์-ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
"สตา ร์บัคส์" สร้างปรากฏการณ์ร้านกาแฟรอบใหม่ ประเดิมเปิด "ไดรฟ์-ทรู" สาขาแรกคอมมิวนิตี้มอลล์ ริมถนนพระรามที่ 2 ย้ำภาพ Trend Setter สร้างความแปลกใหม่ในวงการ ชี้พร้อมเอาจริงไม่ใช่แค่ทดลอง ระบุโมเดลใหม่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ หลังเทรนด์กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟชื่อก้อง กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ โดยเฉพาะผู้นิยมกาแฟพรีเมี่ยม ด้วยการเปิดร้านในแบบ "ไดรฟ์-ทรู" แห่งแรกในประเทศไทย จากที่ผ่านมา ร้านกาแฟหมายเลขหนึ่งของโลกรายนี้มักเป็น Trend Setter สร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจประเภทนี้อยู่เสมอ
สาขาใน รูปแบบ "ไดรฟ์-ทรู" ดังกล่าว อยู่ภายใน "พอร์โต ชิโน่" คอมมิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ริมถนนพระรามที่ 2 ใกล้ตัวเมืองมหาชัย สุมทรสาคร เส้นทางสู่เมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยม ทั้งชะอำ และหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสตาร์บัคส์คาดหวังว่าจะเป็นลูกค้าเป้าหมายสำคัญ
ที่ ผ่านมา ผู้บริโภคคนไทยคุ้นเคยกับบริการ "ไดรฟ์-ทรู" ดีอยู่แล้ว เนื่องจากแมคโดนัลด์ถือเป็นเครือข่ายฟาสต์ฟู้ดที่เปิดบริการลักษณะนี้มาแล้ว หลายปี
เดินหน้าสาขา "ไดรฟ์-ทรู"
นางสาวสุมน พินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า สาขารูปแบบไดรฟ์-ทรู แห่งแรก ซึ่งมีกำหนดเปิดบริการในเร็ว ๆ นี้ จะตอบสนองความสะดวกสบายให้กับผู้ชื่นชอบกาแฟสตาร์บัคส์ สามารถขับรถเข้ามาออร์เดอร์และรับกาแฟไปดื่มโดยไม่ต้องลงจากรถ ประกอบกับคอมมิวนิตี้มอลล์แห่งนี้จะเป็นศูนย์รวม "ไดรฟ์-ทรู" ของรายอื่นๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้จะเปิดร้านลักษณะนี้เพียงแห่งเดียว แม้ว่าเส้นทางท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั้งเขาใหญ่ และมอเตอร์เวย์ไปจังหวัดภาคตะวันออก สาขาของสตาร์บัคส์จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่การเปิดสาขาไดรฟ์-ทรูในกรุงเทพฯ ยังติดปัญหาพื้นที่หน้าร้าน ซึ่งต้องใช้มากกว่าปกติ "ต้องบอกว่าเราเอาจริง ไม่ใช่แค่การทดลอง ทำเลที่ตั้งมีโพเทนเชียลสูงมาก และเรามองทำเลนี้มาสักพักแล้ว เฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางนี้จำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่มีกำลังซื้อ และที่นี่จะมีครบทั้งรูปแบบไดร์ฟ-ทรู และนั่งดื่มภายในร้าน"
ขณะที่การเปิดสาขาไดรฟ์-ทรู แห่งอื่น ๆ นางสาวสุมนพินท์ระบุว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ว่าจะมีที่ไหนบ้าง และจะเปิดบริการเมื่อไร
ตอกย้ำ "ผู้นำ" ร้านกาแฟ
นาง สาวสุมนพินทุ์กล่าวอีกว่า สตาร์บัคส์มักนำสิ่งใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะการดื่มกาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ที่ผ่านมา สาขาของไดรฟ์-ทรูได้รับความนิยมสูงมากในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ประเทศกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกมีสาขาลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทยคือสาขาล่าสุด
เมื่อ เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้วางจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูป "เวีย" เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดื่มกาแฟนอกสถานที่ ส่วนการขยายสาขาสู่ชุมชนรอบนอกกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
สตาร์บัคส์เปิดบริการครั้งแรกใน ประเทศไทยเมื่อปี 2541 ปัจจุบันมีสาขาในประเทศไทยทั้งสิ้น 137 แห่ง ถือเป็นผู้นำตลาดร้านกาแฟในขณะนี้ และสาขาล่าสุดของสตาร์บัคส์ ในศูนย์การค้า
เมกะ บางนา จะเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ 434 ตารางเมตร มีความจุ 161 ที่นั่ง มีกำหนดเปิดบริการวันที่ 3 พฤษภาคม
รวมแม่เหล็กดึงทราฟฟิก
นาย สุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ความพิเศษของโครงการนอกจากสตาร์บัคส์ที่เป็นไดรฟ์ทรูแห่งแรกในเมืองไทยแล้ว นั้น ยังมีร้านอื่น ๆ ที่เป็นแม่เหล็กเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า อาทิ แมค-ไดรฟ์ทรู, ฟู้ดแลนด์เปิด 24 ชั่วโมง และเป็นสาขาแรกที่ออกต่างจังหวัด, ร้านไอ-สตูดิโอ รวมถึงร้านยอดฮิตอื่น ๆ ในกรุงเทพฯที่จะมาเปิดในโครงการ "พอร์โต้ ชิโน่"
ด้วย พื้นที่ครอบคลุมทั้งโครงการ 15 ไร่ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะรวมไลฟ์สไตล์ในทุก ๆ ด้านไว้ที่นี่ที่เดียวจากการลงทุน 500 ล้านบาท แบ่งพื้นที่ทั้งหมดเป็น 6 โซน ในรูปแบบอาคาร 2 ชั้น ประกอบด้วย โซนอาหารและเครื่องดื่ม โซนสุขภาพและความงาม โซนบริการและธุรกรรมต่าง ๆ โซนการศึกษา โซนแฟชั่น และสุดท้ายได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งหากมีร้านค้าหรือร้านบริการเต็มพื้นที่จะมีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 150 ร้าน
โดย 65% ของพื้นที่จะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ซูเปอร์มาร์เก็ต แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ นอกจากนี้เป็นพื้นที่จอดรถ 400 คัน สำหรับรองรับผู้ใช้บริการได้ไม่ต่ำกว่า 10,000-15,000 คนต่อวัน โดยได้เริ่มก่อสร้างในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจะทดลองเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนจะเปิดเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ เชื่อว่าทำเลในย่านชานเมืองยังมีความต้องการ
คอมมิวนิตี้มอลล์อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะจากการขยายตัวของธุรกิจทำให้เมืองโดยรอบขยายตัวตามไปด้วย
ที่มา : http://www.flashfly.net/forums/viewtopi ... 0&t=434758
โดย webmaster » Thu May 03, 2012 3:51 pm
สตาร์บัคส์สร้างปรากฎการณ์เปิด ร้านกาแฟแบบ ไดร์ฟ-ทรู สาขาแรกริมถ.พระราม2 ย้ำภาพผู้นำเทรนด์-ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่
"สตา ร์บัคส์" สร้างปรากฏการณ์ร้านกาแฟรอบใหม่ ประเดิมเปิด "ไดรฟ์-ทรู" สาขาแรกคอมมิวนิตี้มอลล์ ริมถนนพระรามที่ 2 ย้ำภาพ Trend Setter สร้างความแปลกใหม่ในวงการ ชี้พร้อมเอาจริงไม่ใช่แค่ทดลอง ระบุโมเดลใหม่ตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ หลังเทรนด์กาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต
สตาร์บัคส์ ร้านกาแฟชื่อก้อง กำลังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ โดยเฉพาะผู้นิยมกาแฟพรีเมี่ยม ด้วยการเปิดร้านในแบบ "ไดรฟ์-ทรู" แห่งแรกในประเทศไทย จากที่ผ่านมา ร้านกาแฟหมายเลขหนึ่งของโลกรายนี้มักเป็น Trend Setter สร้างความแปลกใหม่ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจประเภทนี้อยู่เสมอ
สาขาใน รูปแบบ "ไดรฟ์-ทรู" ดังกล่าว อยู่ภายใน "พอร์โต ชิโน่" คอมมิวนิตี้มอลล์แห่งใหม่ ริมถนนพระรามที่ 2 ใกล้ตัวเมืองมหาชัย สุมทรสาคร เส้นทางสู่เมืองท่องเที่ยวชายทะเลยอดนิยม ทั้งชะอำ และหัวหิน ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งสตาร์บัคส์คาดหวังว่าจะเป็นลูกค้าเป้าหมายสำคัญ
ที่ ผ่านมา ผู้บริโภคคนไทยคุ้นเคยกับบริการ "ไดรฟ์-ทรู" ดีอยู่แล้ว เนื่องจากแมคโดนัลด์ถือเป็นเครือข่ายฟาสต์ฟู้ดที่เปิดบริการลักษณะนี้มาแล้ว หลายปี
เดินหน้าสาขา "ไดรฟ์-ทรู"
นางสาวสุมน พินทุ์ โชติกะพุกกณะ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสารองค์กร บริษัท สตาร์บัคส์ คอฟฟี่ ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า สาขารูปแบบไดรฟ์-ทรู แห่งแรก ซึ่งมีกำหนดเปิดบริการในเร็ว ๆ นี้ จะตอบสนองความสะดวกสบายให้กับผู้ชื่นชอบกาแฟสตาร์บัคส์ สามารถขับรถเข้ามาออร์เดอร์และรับกาแฟไปดื่มโดยไม่ต้องลงจากรถ ประกอบกับคอมมิวนิตี้มอลล์แห่งนี้จะเป็นศูนย์รวม "ไดรฟ์-ทรู" ของรายอื่นๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้จะเปิดร้านลักษณะนี้เพียงแห่งเดียว แม้ว่าเส้นทางท่องเที่ยวอื่น ๆ ทั้งเขาใหญ่ และมอเตอร์เวย์ไปจังหวัดภาคตะวันออก สาขาของสตาร์บัคส์จะมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก ขณะที่การเปิดสาขาไดรฟ์-ทรูในกรุงเทพฯ ยังติดปัญหาพื้นที่หน้าร้าน ซึ่งต้องใช้มากกว่าปกติ "ต้องบอกว่าเราเอาจริง ไม่ใช่แค่การทดลอง ทำเลที่ตั้งมีโพเทนเชียลสูงมาก และเรามองทำเลนี้มาสักพักแล้ว เฉพาะศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ มีนักท่องเที่ยวใช้เส้นทางนี้จำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่มีกำลังซื้อ และที่นี่จะมีครบทั้งรูปแบบไดร์ฟ-ทรู และนั่งดื่มภายในร้าน"
ขณะที่การเปิดสาขาไดรฟ์-ทรู แห่งอื่น ๆ นางสาวสุมนพินท์ระบุว่า ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ในขณะนี้ว่าจะมีที่ไหนบ้าง และจะเปิดบริการเมื่อไร
ตอกย้ำ "ผู้นำ" ร้านกาแฟ
นาง สาวสุมนพินทุ์กล่าวอีกว่า สตาร์บัคส์มักนำสิ่งใหม่ ๆ มาตอบสนองความต้องการผู้บริโภคอยู่เสมอ และครั้งนี้ก็เช่นกัน เพราะการดื่มกาแฟกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คน ที่ผ่านมา สาขาของไดรฟ์-ทรูได้รับความนิยมสูงมากในสหรัฐอเมริกา
ขณะที่ประเทศกลุ่มเอเชีย-แปซิฟิกมีสาขาลักษณะนี้เกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ในฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และไทยคือสาขาล่าสุด
เมื่อ เดือนกันยายนปีที่ผ่านมา สตาร์บัคส์ได้วางจำหน่ายกาแฟสำเร็จรูป "เวีย" เพื่อตอบสนองความต้องการกลุ่มลูกค้าที่ต้องการดื่มกาแฟนอกสถานที่ ส่วนการขยายสาขาสู่ชุมชนรอบนอกกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด สร้างการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด
สตาร์บัคส์เปิดบริการครั้งแรกใน ประเทศไทยเมื่อปี 2541 ปัจจุบันมีสาขาในประเทศไทยทั้งสิ้น 137 แห่ง ถือเป็นผู้นำตลาดร้านกาแฟในขณะนี้ และสาขาล่าสุดของสตาร์บัคส์ ในศูนย์การค้า
เมกะ บางนา จะเป็นสาขาใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีพื้นที่ 434 ตารางเมตร มีความจุ 161 ที่นั่ง มีกำหนดเปิดบริการวันที่ 3 พฤษภาคม
รวมแม่เหล็กดึงทราฟฟิก
นาย สุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ความพิเศษของโครงการนอกจากสตาร์บัคส์ที่เป็นไดรฟ์ทรูแห่งแรกในเมืองไทยแล้ว นั้น ยังมีร้านอื่น ๆ ที่เป็นแม่เหล็กเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้า อาทิ แมค-ไดรฟ์ทรู, ฟู้ดแลนด์เปิด 24 ชั่วโมง และเป็นสาขาแรกที่ออกต่างจังหวัด, ร้านไอ-สตูดิโอ รวมถึงร้านยอดฮิตอื่น ๆ ในกรุงเทพฯที่จะมาเปิดในโครงการ "พอร์โต้ ชิโน่"
ด้วย พื้นที่ครอบคลุมทั้งโครงการ 15 ไร่ ถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่จะรวมไลฟ์สไตล์ในทุก ๆ ด้านไว้ที่นี่ที่เดียวจากการลงทุน 500 ล้านบาท แบ่งพื้นที่ทั้งหมดเป็น 6 โซน ในรูปแบบอาคาร 2 ชั้น ประกอบด้วย โซนอาหารและเครื่องดื่ม โซนสุขภาพและความงาม โซนบริการและธุรกรรมต่าง ๆ โซนการศึกษา โซนแฟชั่น และสุดท้ายได้แก่ ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งหากมีร้านค้าหรือร้านบริการเต็มพื้นที่จะมีจำนวนรวมทั้งสิ้นกว่า 150 ร้าน
โดย 65% ของพื้นที่จะเป็นร้านอาหาร เครื่องดื่ม ซูเปอร์มาร์เก็ต แบรนด์ชั้นนำต่าง ๆ นอกจากนี้เป็นพื้นที่จอดรถ 400 คัน สำหรับรองรับผู้ใช้บริการได้ไม่ต่ำกว่า 10,000-15,000 คนต่อวัน โดยได้เริ่มก่อสร้างในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งจะทดลองเปิดในเดือนกรกฎาคมนี้ ก่อนจะเปิดเต็มรูปแบบในเดือนตุลาคม ทั้งนี้ เชื่อว่าทำเลในย่านชานเมืองยังมีความต้องการ
คอมมิวนิตี้มอลล์อีกจำนวนมาก โดยเฉพาะจากการขยายตัวของธุรกิจทำให้เมืองโดยรอบขยายตัวตามไปด้วย
ที่มา : http://www.flashfly.net/forums/viewtopi ... 0&t=434758
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 69
พีน่ามุ่งดิสนีย์แลนด์เมืองไทย ทุ่ม 500 ล้านบุกค้าปลีกแนวใหม่ มีครบสวนสนุก-สวนน้ำ-รีสอร์ต [ โพสต์ทูเดย์, 9 พ.ค. 55 ]
พีน่า กรุ๊ป เล็งบุกค้าปลีกแนวใหม่เพิ่มที่เขาใหญ่-ภูเก็ต หลัง "ซานโตรินี" ชะอำรุ่งเตรียมงบ 250
ล้าน ผุดสวนน้ำรีสอร์ตปีหน้าเทียบชั้นดีสนีย์แลนด์
นายสุพจน์ ตันติจิรสกุล ประธานบริษัท พีน่า กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทมีแผนพัฒนาธุรกิจค้าปลีกแนวใหม่
ที่ผสมผสานระหว่างสวนสนุกและร้านค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่ม โดยมีพื้นที่ที่
มีศักยภาพสามารถพัฒนาได้ที่บริเวณเขาใหญ่ 60 ไร่ และภูเก็ตอีก 24 ไร่
พีน่า กรุ๊ป เล็งบุกค้าปลีกแนวใหม่เพิ่มที่เขาใหญ่-ภูเก็ต หลัง "ซานโตรินี" ชะอำรุ่งเตรียมงบ 250
ล้าน ผุดสวนน้ำรีสอร์ตปีหน้าเทียบชั้นดีสนีย์แลนด์
นายสุพจน์ ตันติจิรสกุล ประธานบริษัท พีน่า กรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทมีแผนพัฒนาธุรกิจค้าปลีกแนวใหม่
ที่ผสมผสานระหว่างสวนสนุกและร้านค้าต่าง ๆ เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภครุ่นใหม่เพิ่ม โดยมีพื้นที่ที่
มีศักยภาพสามารถพัฒนาได้ที่บริเวณเขาใหญ่ 60 ไร่ และภูเก็ตอีก 24 ไร่
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 70
2 บิ๊ก ปตท.–เค.อี.แลนด์ผนึกกำลัง ยึด "ชัยพฤกษ์" ผุดคอมมูนิตี้มอลล์ [ ไทยรัฐ, 31 ส.ค. 55 ]
นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท PTTRM เปิดเผยถึงความร่วมมือในการพัฒนาสร้างโครงการ “The Crystal PTT” คอมมูนิตี้ มอลล์ ดีไซน์ล้ำสมัย มูลค่า 600 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ บนถนนชัยพฤกษ์ ร่วมกับบริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด ว่า นับเป็นก้าวสำคัญของวงการธุรกิจพลังงานในการจับมือลงทุนร่วมกับผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาคอมมูนิตี้ มอลล์ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Green Station
“The Crystal PTT จะเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ พร้อมสถานบริการน้ำมันที่รวมเอาจุดเด่นของสถานีเติมความสุข PTT Life Station ของ ปตท. เข้ากับประสบการณ์และความชำนาญในด้านการบริหารงานคอมมูนิตี้มอลล์ของเค.อี.แลนด์ เพื่อให้ประชาชนทั้งในบริเวณถนนชัยพฤกษ์และบริเวณใกล้เคียง หรือแม้แต่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว ได้มีสถานที่สำหรับซื้อหาสินค้าและบริการที่ครบวงจร”
นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมองเห็นศักยภายของทำเลที่ตั้งโครงการบนถนนชัยพฤกษ์ เพราะเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตของชุมชนมาก มีโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่สำคัญทำเลที่ตั้งโครงการยังเป็นจุดเชื่อมต่อสู่เส้นทางภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตก
“ธุรกิจค้าปลีกในรูปของคอมมูนิตี้ มอลล์ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นการที่บริษัทและ ปตท.ลงทุนร่วมกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการร่วมกัน ซึ่งคาดว่าโครงการ “The Crystal PTT” จะเป็นโครงการที่ทันสมัยที่สุดและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนได้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน ธ.ค.2555 นี้ และพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเดือน ต.ค.2556
นายสรัญ รังคสิริ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และประธานกรรมการ บริษัท PTTRM เปิดเผยถึงความร่วมมือในการพัฒนาสร้างโครงการ “The Crystal PTT” คอมมูนิตี้ มอลล์ ดีไซน์ล้ำสมัย มูลค่า 600 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 12 ไร่ บนถนนชัยพฤกษ์ ร่วมกับบริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด ว่า นับเป็นก้าวสำคัญของวงการธุรกิจพลังงานในการจับมือลงทุนร่วมกับผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพัฒนาคอมมูนิตี้ มอลล์ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Green Station
“The Crystal PTT จะเป็นคอมมูนิตี้ มอลล์ พร้อมสถานบริการน้ำมันที่รวมเอาจุดเด่นของสถานีเติมความสุข PTT Life Station ของ ปตท. เข้ากับประสบการณ์และความชำนาญในด้านการบริหารงานคอมมูนิตี้มอลล์ของเค.อี.แลนด์ เพื่อให้ประชาชนทั้งในบริเวณถนนชัยพฤกษ์และบริเวณใกล้เคียง หรือแม้แต่ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาในบริเวณดังกล่าว ได้มีสถานที่สำหรับซื้อหาสินค้าและบริการที่ครบวงจร”
นายกวีพันธ์ เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เค.อี.แลนด์ จำกัด กล่าวว่า บริษัทมองเห็นศักยภายของทำเลที่ตั้งโครงการบนถนนชัยพฤกษ์ เพราะเป็นเขตที่มีการเจริญเติบโตของชุมชนมาก มีโครงการหมู่บ้านขนาดใหญ่จำนวนมาก ที่สำคัญทำเลที่ตั้งโครงการยังเป็นจุดเชื่อมต่อสู่เส้นทางภาคเหนือ ภาคใต้ และภาคตะวันตก
“ธุรกิจค้าปลีกในรูปของคอมมูนิตี้ มอลล์ยังมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้นการที่บริษัทและ ปตท.ลงทุนร่วมกันถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาโครงการร่วมกัน ซึ่งคาดว่าโครงการ “The Crystal PTT” จะเป็นโครงการที่ทันสมัยที่สุดและตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนได้ดีที่สุดแห่งหนึ่ง โดยโครงการดังกล่าวจะเริ่มดำเนินการก่อสร้างในเดือน ธ.ค.2555 นี้ และพร้อมเปิดให้บริการเต็มรูปแบบเดือน ต.ค.2556
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 71
"เซ็นทรัลรีเทล"เล็งลงทุน 2 พันลบ.ใน 2ปีขยาย"แฟมิลีมาร์ท"หลังเทคฯ50.29% [ ทันหุ้น, 27 กันยายน 2555 ]
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(CRC) เปิดเผยว่า บริษัทลงนามในสัญญาการร่วมทุนกับบริษัท แฟมิลี่มาร์ท ประเทศญี่ปุ่น โดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท สยามแฟมิลี่ มาร์ท จำกัด เพื่อถือหุ้น 50.29% ส่งผลให้ CRC เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสยามแฟมิลี่ มาร์ท โดยบริษัทมีความสนใจในตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย และเห็นถึงการเติบโตที่มีอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการตัดสินใจร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เนื่องจากสยามแฟมิลี่ มาร์ท มีเครือข่ายสาขา 746 แห่งทั่วประเทศ ยอดขายรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารของ CRC เติบโตขึ้นทันทีเกือบ 50% อีกทั้งแบรนด์แฟมิลี่ มาร์ท เป็นที่รู้จักในไทยนานกว่า 20 ปีมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการร้านสะดวกซื้อที่สามารถนำมาพัฒนาในประเทศไทยได้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,500 สาขาภายใน 5 ปี และขยายเป็น 3,000 สาขาภายใน 10 ปี ซึ่งประมาณการว่าอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทต้องใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาทเพื่อใช้สำหรับการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม รวมทั้งขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและระบบโลจิสติกท์ด้วย
นายทศ กล่าวถึง กลยุทธ์การบริหารสยามแฟมิลี่ มาร์ท ในระยะต่อไปว่า จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคและซัพพลายเออร์ เพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าและนำเสนอบริการรูปแบบใหม่เพื่อความหลากหลายให้ลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่จะเป็นสินค้าหลักในการดึงลูกค้าเข้าร้าน
"เซ็นทรัลรีเทล ยังคงมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายสาขาธุรกิจปัจจุบัน และมุ่งเน้นการหาพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจโดยรวม" นายทศ กล่าว
นายทศ จิราธิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด(CRC) เปิดเผยว่า บริษัทลงนามในสัญญาการร่วมทุนกับบริษัท แฟมิลี่มาร์ท ประเทศญี่ปุ่น โดยการเข้าซื้อหุ้นบริษัท สยามแฟมิลี่ มาร์ท จำกัด เพื่อถือหุ้น 50.29% ส่งผลให้ CRC เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสยามแฟมิลี่ มาร์ท โดยบริษัทมีความสนใจในตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทย และเห็นถึงการเติบโตที่มีอย่างต่อเนื่อง
สำหรับการตัดสินใจร่วมเป็นพันธมิตรในครั้งนี้ เนื่องจากสยามแฟมิลี่ มาร์ท มีเครือข่ายสาขา 746 แห่งทั่วประเทศ ยอดขายรวม 10,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้ธุรกิจค้าปลีกด้านอาหารของ CRC เติบโตขึ้นทันทีเกือบ 50% อีกทั้งแบรนด์แฟมิลี่ มาร์ท เป็นที่รู้จักในไทยนานกว่า 20 ปีมีชื่อเสียงระดับนานาชาติ และมีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารจัดการร้านสะดวกซื้อที่สามารถนำมาพัฒนาในประเทศไทยได้
ทั้งนี้ บริษัทมีแผนจะขยายสาขาเพิ่มเป็น 1,500 สาขาภายใน 5 ปี และขยายเป็น 3,000 สาขาภายใน 10 ปี ซึ่งประมาณการว่าอีก 2 ปีข้างหน้า บริษัทต้องใช้เงินลงทุนราว 2,000 ล้านบาทเพื่อใช้สำหรับการเปิดสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม รวมทั้งขยายโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีและระบบโลจิสติกท์ด้วย
นายทศ กล่าวถึง กลยุทธ์การบริหารสยามแฟมิลี่ มาร์ท ในระยะต่อไปว่า จะเน้นการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่ง เพื่อเป็นอีกทางเลือกของผู้บริโภคและซัพพลายเออร์ เพิ่มผลิตภัณฑ์สินค้าและนำเสนอบริการรูปแบบใหม่เพื่อความหลากหลายให้ลูกค้า โดยเฉพาะสินค้าอาหารพร้อมรับประทานที่จะเป็นสินค้าหลักในการดึงลูกค้าเข้าร้าน
"เซ็นทรัลรีเทล ยังคงมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ทั้งการขยายสาขาธุรกิจปัจจุบัน และมุ่งเน้นการหาพันธมิตรทั้งในและนอกประเทศ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจโดยรวม" นายทศ กล่าว
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 73
ชัวร์'ลอว์สัน'ลุยไทย ถือหุ้น50:50 ผุด'สหลอว์สัน'ล้างบาง108ช้อป
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2012 เวลา 10:20 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 - คอลัมน์ : Big Stories
"สหพัฒน์" จูงมือลอว์สัน ยักษ์คอนวีเนียนสโตร์จากญี่ปุ่น จดทะเบียนตั้ง "บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" หลังบอร์ดไฟเขียวอนุมัติถือหุ้น 50 : 50 พร้อมเพิ่มทุนรับการโอน 108 ช้อปทั้ง 600 สาขาเข้ามาอยู่ในมือ ชี้มูลค่าทรัพย์สินราว 300 ล้านบาท คาดเดินหน้ายกเครื่อง 108 ช้อป เป็น "ลอว์สัน" ทันทีในปี 2556 "เซเว่น"
เผยปี 2556 ปีทองของค้าปลีกไซซ์เล็ก หลังแบรนด์ใหม่ ยักษ์ค้าปลีก
สืบเนื่องจากที่"ฐานเศรษฐกิจ"นำเสนอข่าว"สหพัฒน์ฮึดสู้บิ๊กค้าปลีก"ตีพิมพ์ในฉบับ 2,772 ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2555 หลังจากที่บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) มีการเจรจากับ บริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ผู้บริหารร้าน "ลอว์สัน" (Lawson) เบอร์2 ด้านคอนวีเนียนสโตร์จากญี่ปุ่นร่วมทุนในไทยเพื่อมาสร้างชื่อแทนที่ 108 ช้อปไปก่อนหน้านั้น ล่าสุดพบว่าสหพัฒนพิบูล ได้จองชื่อขอจดทะเบียนบริษัท ในนาม "บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" กับกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
++ ถือหุ้น 50:50 ตั้ง "สหลอว์สัน"
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สหพัฒนพิบูลเจรจาร่วมทุนกับบริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่นจริง โดยขณะนี้ผลการเจรจามีความคืบหน้ามากแล้ว พร้อมยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเกิดการลงทุนร่วมกันอย่างแน่นอน เพราะมีจุดยืนที่ไปในทิศทางเดียวกันในการขยายตัวของธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์และล่าสุดเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2555 คณะกรรมการ (บอร์ด) ของSPC และบริษัทในเครือ ได้อนุมัติให้ตั้งบริษัทใหม่ในนาม"บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" ขึ้นมา เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเพิ่มทุน และโอนทรัพย์สินจาก108ช้อปมายังบริษัทดังกล่าว
โดยบริษัท สหลอว์สัน จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น ดังนี้ SPC และบริษัทในเครือรวมทั้งสิ้น 50% ในจำนวนนี้ SPC จะถือหุ้น 20% ที่เหลือเป็นสัดส่วนของบริษัทอื่นๆในเครือ และ อีก 50% ถือหุ้นโดย บริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น
"ต่อจากนี้ไปบริษัท สหลอว์สันฯจะต้องทำการเพิ่มทุนให้เกิน 300 ล้านบาทแน่นอน เพราะจะนำไปใช้สำหรับการซื้อทรัพย์สินจาก 108 ช้อป ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ 600 สาขา โดยเบื้องต้นประเมินราคาอย่างไม่เป็นทางการไว้ราว 300 ล้านบาท และจะต้องมีเงินทุนอีกจำนวนหนึ่งสำหรับใช้ในการพัฒนาปรับปรุง คอนวีเนียนสโตร์ทั้ง 600 สาขาใหม่ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนชื่อเป็น "ลอว์สัน" โดยเงินทุนดังกล่าวจะมาจากการเรียกเงินค่าหุ้นตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่อไป"
++ ใช้ไทยประตูสู่อาเซียน
แหล่งข่าวกล่าวย้ำอีกว่าความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง SPC กับลอว์สันได้เจรจากันจบแล้ว ดังนั้นขั้นตอนต่อจากนี้ไปรอเพียงขาย 108 ช้อป ให้เสร็จภายในปีนี้ จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ต้องใส่เม็ดเงินลงทุนเข้ามา จะลงทุนเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่ที่ขนาดของกิจการว่ามีเป้าหมายจะขยายสาขาเพิ่มอีกเท่าไร เมื่อสิ้นสุดใน 2 ส่วนนี้แล้ว ลอว์สัน ญี่ปุ่น จะส่งผู้บริหารเข้ามาดำเนินการบริหารและวางแผนตกแต่งร้าน ด้วยการรื้อป้าย108ช้อปออก แล้วปรับโฉมเป็น"ลอว์สัน" ในทุกสาขา ดังนั้นภายในปี 2556 จะได้เห็นคอนวีเนียนสโตร์ของ "ลอว์สัน"เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ผลการเจรจาครั้งนี้ประสบผลสำเร็จได้เร็วเกินคาด หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวคิดคล้ายกันและสามารถจูนเข้าหากันได้ง่าย โดยที่กลุ่มสหพัฒน์ต้องการโนว์ฮาวจากลอว์สัน เพื่อมาพัฒนาธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ในประเทศไทย เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ มีระบบการบริหารจัดการ รวมถึงมีการตกแต่งร้านที่ดูทันสมัย
พร้อมกับมองว่า สินค้าในเครือสหพัฒน์ มีความหลากหลาย ควรจะมีช่องทางการขายมากขึ้น หลังจากที่ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มสหพัฒน์ขายอยู่ในคอนวีเนียนสโตร์ทุกแห่งในประเทศไทยอยู่แล้ว ดังนั้นถ้ามี "ลอว์สัน" ในประเทศไทยก็จะยิ่งเพิ่มช่องทางการขายให้กับกลุ่มสหพัฒน์ได้มากขึ้นอีก ส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านจะมีทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยและนำเข้ามาจากลอว์สันประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับสินค้าในเครือสหพัฒน์ก็จะมีขายในลอว์สัน ประเทศญี่ปุ่นด้วย
"ลอว์สันต้องการจะขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวออกนอกประเทศ พร้อมกับขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาดอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นฐานการขยายเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนที่มีกำลังซื้อกว่า 600 ล้านคน"
++ จับมือร่วมทุนแบบ win win
แหล่งข่าวระดับสูง จากบริษัท สหพัฒนพิบูลฯ อีกรายกล่าวยืนยันว่า สหพัฒน์ ได้เจรจาร่วมทุนกับลอว์สัน ประเทศญี่ปุ่น ในการเข้ามาขยายการลงทุนคอนวีเนียน สโตร์ในเมืองไทยจริง โดยขณะนี้เตรียมพร้อมยื่นจดทะเบียนบริษัททันที หลังจากที่บรรลุข้อตกลงต่างๆและเซ็นสัญญา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการเดินหน้าให้แล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างแท้จริงในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะส่งผลต่อทั้งสองฝ่ายแบบ win win แน่นอน
อย่างไรก็ดีการร่วมทุนเป็นพันธมิตรกันรุกตลาดค้าปลีกเมืองไทยครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของสหพัฒนพิบูล ในการขยายธุรกิจปลายน้ำ หลังจากที่เพียรพยายามสร้างฐานธุรกิจปลายน้ำ ด้วยการปั้น "108 ช้อป" ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร การจับมือกับลอว์สันครั้งนี้ จึงถือเป็นจิ๊กซอว์ที่ลงตัวที่สุดครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันร้านลอว์สัน อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ผลประกอบการในปี 2555 ( 1 มีนาคม 2554-29 กุมภาพันธ์ 2555) มียอดขายรวม 1.82 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 7.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 1.68 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 6.72 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.5% ปัจจุบันมีสาขารวม 1.08 หมื่นแห่งในญี่ปุ่น (ณ เดือนกรกฎาคม 2555) เป็นอันดับ 2 รองจากเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีสาขาเกือบ 1.5 หมื่นแห่ง
โดยร้านลอว์สันเปิดให้บริการใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน (Lawson) , ร้านลอว์สัน สโตร์ 100 (Lawson Store 100) ร้านสะดวกซื้อพร้อมจำหน่ายอาหารสด และร้านเนเชอรัล ลอว์สัน (Natural Lawson) ร้านสะดวกซื้อจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม ขณะที่ในต่างประเทศ ร้านลอว์สันเปิดให้บริการในเมือง Dalian , Chonqing และ Shanghai ประเทศจีน , อินโดนีเซีย และฮาวาย สหรัฐอเมริกา
++ ซุ่มจองชื่อจดทะเบียนที่พณ.
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า มีผู้ขอจองชื่อจดทะเบียน บริษัท สหลอว์สัน จำกัดจริง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการยื่นเอกสารประกอบใดๆ ซึ่งขั้นตอนต่อไป ผู้ที่ขอจองชื่อไว้ จะต้องมาดำเนินการจดทะเบียนบริษัท สหลอว์สัน จำกัด ภายใน 1 เดือน หากพ้นกำหนดยังไม่มีการจดทะเบียนบริษัท จะต้องกลับมายื่นขอจองชื่อใหม่อีกครั้ง
++ เซเว่นยันลอว์สันไม่น่ากลัว
ด้านนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า ลอว์สัน ถือเป็นผู้ประกอบการที่แข็งแรง เปิดสาขาจำนวนมาก และมีประสบการณ์เก่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ เห็นได้จากการเข้าไปลงทุนในจีน และประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งการเข้ามาของลอว์สัน เชื่อว่าเพราะต้องการใช้ไทยเป็นฐานในการขยายตลาดเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีด้วย
"มองว่าการเข้ามาของลอว์สันไม่น่ากลัว เพราะเซเว่น เองมีนโยบายที่ชัดเจน คือมุ่งพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถให้คู่แข่งก้าวตามไม่ทัน อีกทั้งการที่ลอว์สันเข้ามาลงทุนในไทย ยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกมาก เช่นเดียวกับที่เซ็นทรัล เข้ามาบริหารแฟมิลี่ มาร์ท ยังต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีในการปรับปรุงและขยายสาขา เชื่อว่าลอว์สันเองก็ต้องการเวลาเช่นกัน"
++ ชู 56 ปีทองคอนวีเนียนสโตร์
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากมาตรการต่างๆของภาครัฐ ทั้งการจำนำข้าว การปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ การขยายการส่งออก ฯลฯ เชื่อว่า ปี 2556 ถือเป็นปีทองของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กอย่างคอนวีเนียน สโตร์ รวมทั้งการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ จะช่วยผลักดันให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของค้าปลีกประเภทคอนวีเนียน สโตร์จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากรายใหม่ที่เข้ามา และค้าปลีกรายใหญ่ที่ลงมาเล่นในค้าปลีกขนาดเล็ก เพราะมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งไม่มีข้อจำกัดทางกฏหมายในการขยายสาขาด้วย ทำให้ค้าปลีกไซซ์เล็กสามารถขยายตัวได้อีกมาก
ทั้งนี้นโยบายของเซเว่น จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นราว 450-500 สาขาต่อปี และเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะรุนแรงมากขึ้นในปีหน้า เซเว่น ได้ปรับยุทธศาสตร์ ด้วยการขยายไลน์สินค้าเฮาส์แบรนด์ เซเว่นเฟรซ (7Fresh) ในหมวดอาหารพร้อมทาน หรือเรดดี้ ทู โก และ เซเว่น ซีเล็ค (7 Select) สำหรับหมวดสินค้าเครื่องใช้ทั่วไป รวมทั้งหาพาร์ตเนอร์ หรือการทำตลาดแบบโค แบรนด์ วางจำหน่ายสินค้าโอนลี่ แอท เซเว่นอีเลฟเว่น (Only at 7-11) โดยในปีหน้าตั้งเป้าที่จะเปิดตัวสินค้าให้ครบ 500 รายการ พร้อมวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เกือบ 7 พันแห่ง นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดให้บริการออนไลน์ http://www.shopat7.com อย่างจริงจังด้วย
จากการรวบรวมของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2555 มีร้านสะดวกซื้อที่มีสาขา เปิดให้บริการในประเทศไทยรวมทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นแห่ง อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น 6.8 พันแห่ง , โลตัส เอ็กซ์เพรส 850 แห่ง , แฟมิลี่ มาร์ท 740 แห่ง , 108 ช้อป 600 แห่ง เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,787 วันที่ 28-31 ตุลาคม พ.ศ. 2555
วันอาทิตย์ที่ 28 ตุลาคม 2012 เวลา 10:20 น. กอง บก.ฐานเศรษฐกิจ ข่าวหน้า1 - คอลัมน์ : Big Stories
"สหพัฒน์" จูงมือลอว์สัน ยักษ์คอนวีเนียนสโตร์จากญี่ปุ่น จดทะเบียนตั้ง "บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" หลังบอร์ดไฟเขียวอนุมัติถือหุ้น 50 : 50 พร้อมเพิ่มทุนรับการโอน 108 ช้อปทั้ง 600 สาขาเข้ามาอยู่ในมือ ชี้มูลค่าทรัพย์สินราว 300 ล้านบาท คาดเดินหน้ายกเครื่อง 108 ช้อป เป็น "ลอว์สัน" ทันทีในปี 2556 "เซเว่น"
เผยปี 2556 ปีทองของค้าปลีกไซซ์เล็ก หลังแบรนด์ใหม่ ยักษ์ค้าปลีก
สืบเนื่องจากที่"ฐานเศรษฐกิจ"นำเสนอข่าว"สหพัฒน์ฮึดสู้บิ๊กค้าปลีก"ตีพิมพ์ในฉบับ 2,772 ระหว่างวันที่ 6-8 กันยายน 2555 หลังจากที่บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) มีการเจรจากับ บริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ผู้บริหารร้าน "ลอว์สัน" (Lawson) เบอร์2 ด้านคอนวีเนียนสโตร์จากญี่ปุ่นร่วมทุนในไทยเพื่อมาสร้างชื่อแทนที่ 108 ช้อปไปก่อนหน้านั้น ล่าสุดพบว่าสหพัฒนพิบูล ได้จองชื่อขอจดทะเบียนบริษัท ในนาม "บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" กับกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 11 ตุลาคมที่ผ่านมา
++ ถือหุ้น 50:50 ตั้ง "สหลอว์สัน"
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) หรือ SPC ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายสินค้าคอนซูเมอร์รายใหญ่ เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า สหพัฒนพิบูลเจรจาร่วมทุนกับบริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่นจริง โดยขณะนี้ผลการเจรจามีความคืบหน้ามากแล้ว พร้อมยืนยันว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะเกิดการลงทุนร่วมกันอย่างแน่นอน เพราะมีจุดยืนที่ไปในทิศทางเดียวกันในการขยายตัวของธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์และล่าสุดเมื่อกลางเดือนตุลาคม 2555 คณะกรรมการ (บอร์ด) ของSPC และบริษัทในเครือ ได้อนุมัติให้ตั้งบริษัทใหม่ในนาม"บริษัท สหลอว์สัน จำกัด" ขึ้นมา เพื่อให้เกิดความสะดวกในการเพิ่มทุน และโอนทรัพย์สินจาก108ช้อปมายังบริษัทดังกล่าว
โดยบริษัท สหลอว์สัน จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น ดังนี้ SPC และบริษัทในเครือรวมทั้งสิ้น 50% ในจำนวนนี้ SPC จะถือหุ้น 20% ที่เหลือเป็นสัดส่วนของบริษัทอื่นๆในเครือ และ อีก 50% ถือหุ้นโดย บริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น
"ต่อจากนี้ไปบริษัท สหลอว์สันฯจะต้องทำการเพิ่มทุนให้เกิน 300 ล้านบาทแน่นอน เพราะจะนำไปใช้สำหรับการซื้อทรัพย์สินจาก 108 ช้อป ที่มีสาขากระจายอยู่ทั่วประเทศ 600 สาขา โดยเบื้องต้นประเมินราคาอย่างไม่เป็นทางการไว้ราว 300 ล้านบาท และจะต้องมีเงินทุนอีกจำนวนหนึ่งสำหรับใช้ในการพัฒนาปรับปรุง คอนวีเนียนสโตร์ทั้ง 600 สาขาใหม่ พร้อมทั้งปรับเปลี่ยนชื่อเป็น "ลอว์สัน" โดยเงินทุนดังกล่าวจะมาจากการเรียกเงินค่าหุ้นตามสัดส่วนผู้ถือหุ้นต่อไป"
++ ใช้ไทยประตูสู่อาเซียน
แหล่งข่าวกล่าวย้ำอีกว่าความร่วมมือทางธุรกิจระหว่าง SPC กับลอว์สันได้เจรจากันจบแล้ว ดังนั้นขั้นตอนต่อจากนี้ไปรอเพียงขาย 108 ช้อป ให้เสร็จภายในปีนี้ จากนั้นต่างฝ่ายต่างก็ต้องใส่เม็ดเงินลงทุนเข้ามา จะลงทุนเท่าไหร่ก็ขึ้นอยู่ที่ขนาดของกิจการว่ามีเป้าหมายจะขยายสาขาเพิ่มอีกเท่าไร เมื่อสิ้นสุดใน 2 ส่วนนี้แล้ว ลอว์สัน ญี่ปุ่น จะส่งผู้บริหารเข้ามาดำเนินการบริหารและวางแผนตกแต่งร้าน ด้วยการรื้อป้าย108ช้อปออก แล้วปรับโฉมเป็น"ลอว์สัน" ในทุกสาขา ดังนั้นภายในปี 2556 จะได้เห็นคอนวีเนียนสโตร์ของ "ลอว์สัน"เกิดขึ้นในประเทศไทยอย่างแน่นอน
ผลการเจรจาครั้งนี้ประสบผลสำเร็จได้เร็วเกินคาด หลังจากที่ทั้ง 2 ฝ่ายมีแนวคิดคล้ายกันและสามารถจูนเข้าหากันได้ง่าย โดยที่กลุ่มสหพัฒน์ต้องการโนว์ฮาวจากลอว์สัน เพื่อมาพัฒนาธุรกิจคอนวีเนียนสโตร์ในประเทศไทย เพราะเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง มีความเชี่ยวชาญเฉพาะ มีระบบการบริหารจัดการ รวมถึงมีการตกแต่งร้านที่ดูทันสมัย
พร้อมกับมองว่า สินค้าในเครือสหพัฒน์ มีความหลากหลาย ควรจะมีช่องทางการขายมากขึ้น หลังจากที่ปัจจุบันสินค้าในกลุ่มสหพัฒน์ขายอยู่ในคอนวีเนียนสโตร์ทุกแห่งในประเทศไทยอยู่แล้ว ดังนั้นถ้ามี "ลอว์สัน" ในประเทศไทยก็จะยิ่งเพิ่มช่องทางการขายให้กับกลุ่มสหพัฒน์ได้มากขึ้นอีก ส่วนสินค้าที่วางจำหน่ายในร้านจะมีทั้งสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยและนำเข้ามาจากลอว์สันประเทศญี่ปุ่น เช่นเดียวกับสินค้าในเครือสหพัฒน์ก็จะมีขายในลอว์สัน ประเทศญี่ปุ่นด้วย
"ลอว์สันต้องการจะขับเคลื่อนธุรกิจดังกล่าวออกนอกประเทศ พร้อมกับขยายการลงทุนเข้าสู่ตลาดอาเซียน โดยใช้ไทยเป็นฐานการขยายเข้าสู่ภูมิภาคอาเซียนที่มีกำลังซื้อกว่า 600 ล้านคน"
++ จับมือร่วมทุนแบบ win win
แหล่งข่าวระดับสูง จากบริษัท สหพัฒนพิบูลฯ อีกรายกล่าวยืนยันว่า สหพัฒน์ ได้เจรจาร่วมทุนกับลอว์สัน ประเทศญี่ปุ่น ในการเข้ามาขยายการลงทุนคอนวีเนียน สโตร์ในเมืองไทยจริง โดยขณะนี้เตรียมพร้อมยื่นจดทะเบียนบริษัททันที หลังจากที่บรรลุข้อตกลงต่างๆและเซ็นสัญญา ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ เพราะต่างฝ่ายต่างต้องการเดินหน้าให้แล้วเสร็จ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกันอย่างแท้จริงในปีหน้า ซึ่งเชื่อว่าการร่วมทุนครั้งนี้จะส่งผลต่อทั้งสองฝ่ายแบบ win win แน่นอน
อย่างไรก็ดีการร่วมทุนเป็นพันธมิตรกันรุกตลาดค้าปลีกเมืองไทยครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จอีกก้าวของสหพัฒนพิบูล ในการขยายธุรกิจปลายน้ำ หลังจากที่เพียรพยายามสร้างฐานธุรกิจปลายน้ำ ด้วยการปั้น "108 ช้อป" ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา แต่กลับไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร การจับมือกับลอว์สันครั้งนี้ จึงถือเป็นจิ๊กซอว์ที่ลงตัวที่สุดครั้งหนึ่ง
ปัจจุบันร้านลอว์สัน อยู่ภายใต้การบริหารงานของบริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น ผลประกอบการในปี 2555 ( 1 มีนาคม 2554-29 กุมภาพันธ์ 2555) มียอดขายรวม 1.82 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 7.28 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มียอดขาย 1.68 ล้านล้านเยน หรือคิดเป็นเงินไทย 6.72 แสนล้านบาท มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น 8.5% ปัจจุบันมีสาขารวม 1.08 หมื่นแห่งในญี่ปุ่น (ณ เดือนกรกฎาคม 2555) เป็นอันดับ 2 รองจากเซเว่นอีเลฟเว่น ที่มีสาขาเกือบ 1.5 หมื่นแห่ง
โดยร้านลอว์สันเปิดให้บริการใน 3 รูปแบบ ได้แก่ ร้านสะดวกซื้อลอว์สัน (Lawson) , ร้านลอว์สัน สโตร์ 100 (Lawson Store 100) ร้านสะดวกซื้อพร้อมจำหน่ายอาหารสด และร้านเนเชอรัล ลอว์สัน (Natural Lawson) ร้านสะดวกซื้อจำหน่ายสินค้าเพื่อสุขภาพ ความงาม ขณะที่ในต่างประเทศ ร้านลอว์สันเปิดให้บริการในเมือง Dalian , Chonqing และ Shanghai ประเทศจีน , อินโดนีเซีย และฮาวาย สหรัฐอเมริกา
++ ซุ่มจองชื่อจดทะเบียนที่พณ.
ผู้สื่อข่าว "ฐานเศรษฐกิจ" ได้ตรวจสอบไปยังกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า มีผู้ขอจองชื่อจดทะเบียน บริษัท สหลอว์สัน จำกัดจริง เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่ยังไม่มีการยื่นเอกสารประกอบใดๆ ซึ่งขั้นตอนต่อไป ผู้ที่ขอจองชื่อไว้ จะต้องมาดำเนินการจดทะเบียนบริษัท สหลอว์สัน จำกัด ภายใน 1 เดือน หากพ้นกำหนดยังไม่มีการจดทะเบียนบริษัท จะต้องกลับมายื่นขอจองชื่อใหม่อีกครั้ง
++ เซเว่นยันลอว์สันไม่น่ากลัว
ด้านนายสุวิทย์ กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวว่า ลอว์สัน ถือเป็นผู้ประกอบการที่แข็งแรง เปิดสาขาจำนวนมาก และมีประสบการณ์เก่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ เห็นได้จากการเข้าไปลงทุนในจีน และประสบความสำเร็จได้รับการตอบรับที่ดี ซึ่งการเข้ามาของลอว์สัน เชื่อว่าเพราะต้องการใช้ไทยเป็นฐานในการขยายตลาดเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือเออีซีด้วย
"มองว่าการเข้ามาของลอว์สันไม่น่ากลัว เพราะเซเว่น เองมีนโยบายที่ชัดเจน คือมุ่งพัฒนาตัวเองให้เข้มแข็ง เพิ่มขีดความสามารถให้คู่แข่งก้าวตามไม่ทัน อีกทั้งการที่ลอว์สันเข้ามาลงทุนในไทย ยังต้องใช้เวลาปรับตัวอีกมาก เช่นเดียวกับที่เซ็นทรัล เข้ามาบริหารแฟมิลี่ มาร์ท ยังต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีในการปรับปรุงและขยายสาขา เชื่อว่าลอว์สันเองก็ต้องการเวลาเช่นกัน"
++ ชู 56 ปีทองคอนวีเนียนสโตร์
นายสุวิทย์ กล่าวอีกว่า ด้วยแนวโน้มเศรษฐกิจที่ดีขึ้น จากมาตรการต่างๆของภาครัฐ ทั้งการจำนำข้าว การปรับค่าแรง 300 บาททั่วประเทศ การขยายการส่งออก ฯลฯ เชื่อว่า ปี 2556 ถือเป็นปีทองของธุรกิจค้าปลีกขนาดเล็กอย่างคอนวีเนียน สโตร์ รวมทั้งการเข้ามาของแบรนด์ใหม่ๆ จะช่วยผลักดันให้มีการขยายตัวเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ดี ภาพรวมของค้าปลีกประเภทคอนวีเนียน สโตร์จะมีการแข่งขันที่รุนแรงมากขึ้น จากรายใหม่ที่เข้ามา และค้าปลีกรายใหญ่ที่ลงมาเล่นในค้าปลีกขนาดเล็ก เพราะมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากขึ้น รวมทั้งไม่มีข้อจำกัดทางกฏหมายในการขยายสาขาด้วย ทำให้ค้าปลีกไซซ์เล็กสามารถขยายตัวได้อีกมาก
ทั้งนี้นโยบายของเซเว่น จะขยายสาขาเพิ่มขึ้นราว 450-500 สาขาต่อปี และเพื่อรองรับการแข่งขันที่จะรุนแรงมากขึ้นในปีหน้า เซเว่น ได้ปรับยุทธศาสตร์ ด้วยการขยายไลน์สินค้าเฮาส์แบรนด์ เซเว่นเฟรซ (7Fresh) ในหมวดอาหารพร้อมทาน หรือเรดดี้ ทู โก และ เซเว่น ซีเล็ค (7 Select) สำหรับหมวดสินค้าเครื่องใช้ทั่วไป รวมทั้งหาพาร์ตเนอร์ หรือการทำตลาดแบบโค แบรนด์ วางจำหน่ายสินค้าโอนลี่ แอท เซเว่นอีเลฟเว่น (Only at 7-11) โดยในปีหน้าตั้งเป้าที่จะเปิดตัวสินค้าให้ครบ 500 รายการ พร้อมวางจำหน่ายให้ครบทุกสาขาทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่เกือบ 7 พันแห่ง นอกจากนี้ยังเตรียมเปิดให้บริการออนไลน์ http://www.shopat7.com อย่างจริงจังด้วย
จากการรวบรวมของ "ฐานเศรษฐกิจ" พบว่า จนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2555 มีร้านสะดวกซื้อที่มีสาขา เปิดให้บริการในประเทศไทยรวมทั้งสิ้นกว่า 1 หมื่นแห่ง อาทิ เซเว่นอีเลฟเว่น 6.8 พันแห่ง , โลตัส เอ็กซ์เพรส 850 แห่ง , แฟมิลี่ มาร์ท 740 แห่ง , 108 ช้อป 600 แห่ง เป็นต้น
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 32 ฉบับที่ 2,787 วันที่ 28-31 ตุลาคม พ.ศ. 2555
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 74
อ.ต.ก.ผุดร้าน MOF SHOP [ ข่าวสด, 23 พ.ย. 55 ]
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผย
ภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
(อสค.) เรื่องการใช้ทรัพยากรและความร่วมมือระหว่างกัน ว่า เดือนธ.ค.2555 อ.ต.ก. จะเปิดร้าน
MOF SHOP เพื่อจำหน่ายสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่ผลิตได้จากรัฐวิสาหกิจและเกษตร
ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหลัก ทั้งชนิดฝากขาย และอ.ต.ก. ซื้อมาจำหน่ายเอง มี
ลักษณะคล้ายกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเวลา 09.00-20.00 น. สาขาแรกที่ตลาด อ.ต.ก.จตุ
จักร
นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ ผู้อำนวยการองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เปิดเผย
ภายหลังลงนามบันทึกข้อตกลง (เอ็มโอยู) กับองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย
(อสค.) เรื่องการใช้ทรัพยากรและความร่วมมือระหว่างกัน ว่า เดือนธ.ค.2555 อ.ต.ก. จะเปิดร้าน
MOF SHOP เพื่อจำหน่ายสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปที่ผลิตได้จากรัฐวิสาหกิจและเกษตร
ภายใต้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหลัก ทั้งชนิดฝากขาย และอ.ต.ก. ซื้อมาจำหน่ายเอง มี
ลักษณะคล้ายกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เปิดเวลา 09.00-20.00 น. สาขาแรกที่ตลาด อ.ต.ก.จตุ
จักร
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: การเติบโตแบบขยายสาขา ค้าปลีก จะหยุดเมื่อไรคับ
โพสต์ที่ 76
พรบ ค้าปลีก ออกกันไปรึยังครับ