ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 2
:lol:
ถ้าพรุ่งนี้ผมรู้ว่าจะต้องตาย ผมจะเล่นวอแรนต์ให้หมดหน้าตัก :lol: :lol: :lol:
ถ้าพรุ่งนี้ผมรู้ว่าจะต้องตาย ผมจะเล่นวอแรนต์ให้หมดหน้าตัก :lol: :lol: :lol:
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
- yoyo
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4833
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 4
ถ้าเป็นแบบนั้นจริงๆ ผมไม่เล่นหุ้นดีกว่า ...
คงจะไม่มีอารมณ์เล่นแล้ว ...
คงจะไม่มีอารมณ์เล่นแล้ว ...
การลงทุนที่มีค่าที่สุด คือการลงทุนในความรู้
http://www.yoyoway.com
http://www.yoyoway.com
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 5
[quote="chatchai"]เพื่อนๆเป็นห่วงพอร์ตการลงทุนที่เราลงทุนไว้มากน้อยแค่ไหนครับ
ถ้าเราลงทุนโดยคิดว่าเราจะมีชีวิตอยู่อีกเพียง 1 คืน
ถ้าเราลงทุนโดยคิดว่าเราจะมีชีวิตอยู่อีกเพียง 1 คืน
- por_jai
- Verified User
- โพสต์: 14338
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 7
8) ผมว่าใครที่มีชีวิตแบบประมาท คนข้างหลังก็ปวดหัวหน่อย
แต่ถ้าเตรียมอะไรไว้แล้ว มันก็ลงตัวหน่อย
เรื่องหุ้นผมอาจจะไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่
แต่เรื่องตายเนี่ยผมเตรียมไว้เยอะ
จุดเด่นในชีวิตคือผมไม่มีหนี้แล้ว
เรื่องที่เหลือก็ไม่หนักเท่าไหร่
อยากก็แค่ให้ไอ้หนุ่มของผมได้เรียนที่มันอยากเรียน
ไม่อยากให้มันลำเค็ญนัก
สวดซัก3วัน อย่าไปกวนคนห่างๆ
เผาซะ ลอยทะเลไปเลย
เกิดจากดินก็กลับไปสู่ดิน
แต่ถ้าเตรียมอะไรไว้แล้ว มันก็ลงตัวหน่อย
เรื่องหุ้นผมอาจจะไม่ได้เรื่องสักเท่าไหร่
แต่เรื่องตายเนี่ยผมเตรียมไว้เยอะ
จุดเด่นในชีวิตคือผมไม่มีหนี้แล้ว
เรื่องที่เหลือก็ไม่หนักเท่าไหร่
อยากก็แค่ให้ไอ้หนุ่มของผมได้เรียนที่มันอยากเรียน
ไม่อยากให้มันลำเค็ญนัก
สวดซัก3วัน อย่าไปกวนคนห่างๆ
เผาซะ ลอยทะเลไปเลย
เกิดจากดินก็กลับไปสู่ดิน
กรูเก่ง กิเลสเก่งกว่า
- Hero_man
- Verified User
- โพสต์: 270
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 9
ถ้ารู้ว่าจะตายก็จัดสรรมรดกให้คนข้างหลัง เช่นโอนหุ้น เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้คนที่ไว้ใจ และจัดการกิจต่าง ๆ ที่จำเป็นให้เรียบร้อยและนอนจากไปอย่างสงบ ว่าแต่ว่าจะมีใครซักกี่คนมีโอกาสได้เตรียมการแบบนี้น๊า ....
กระแสน้ำเปลี่ยนใจปลา..
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 11
ผมทำครับ กลัวว่า พรุ่งนี้ตาย แต่วันนี้อยู่ในสภาพที่ทำมรดกไม่ได้อ่ะดิถ้ารู้ว่าจะตายก็จัดสรรมรดกให้คนข้างหลัง เช่นโอนหุ้น เซ็นหนังสือมอบอำนาจให้คนที่ไว้ใจ และจัดการกิจต่าง ๆ ที่จำเป็นให้เรียบร้อยและนอนจากไปอย่างสงบ ว่าแต่ว่าจะมีใครซักกี่คนมีโอกาสได้เตรียมการแบบนี้น๊า ....
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4940
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 13
เรื่อง port ไม่เป็นห่วงอะไรครับ แม้จะขาดทุนอยู่ก็ตาม
ตายวันนี้ก็ไม่เป็นไร เตรียมตัวไว้บ้างแล้ว
บัญชีทรัพย์สินต่างๆ หนี้สินก้อนใหญ่ พึ่งมีเร็วๆนี้ ก็ทำไว้หมดแล้ว
หักลบแล้ว สินทรัพย์รวมก็ยังเป็นบวกอยู่ ไม่มีภาระให้คนด้านหลัง
แถมมีเงินจากประกันชีวิต ติดก้นถุงอีกนิด สบายๆ
ห่วงอย่างเดียวว่านอกจากผมแล้วไม่มีใครรู้ เท่านั้นเอง ก็ต้องรีบพิมพ์สรุปออกมา
แล้วทำพินัยกรรมรอไว้ สั่งเสียเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องทำศพ หนังสือแจกในงาน อีกนิดหน่อย ซื้อของท่านพุทธทาสมาแจกได้เลย แก่นพุทธศาสตร์ ก็ยอดเยี่ยมได้ หนังสือดีมีประโยชน์ ราคาถูกมากๆ
ลูก เมีย ก็ยังไม่มี สบายๆ
ตายวันนี้ก็ไม่เป็นไร เตรียมตัวไว้บ้างแล้ว
บัญชีทรัพย์สินต่างๆ หนี้สินก้อนใหญ่ พึ่งมีเร็วๆนี้ ก็ทำไว้หมดแล้ว
หักลบแล้ว สินทรัพย์รวมก็ยังเป็นบวกอยู่ ไม่มีภาระให้คนด้านหลัง
แถมมีเงินจากประกันชีวิต ติดก้นถุงอีกนิด สบายๆ
ห่วงอย่างเดียวว่านอกจากผมแล้วไม่มีใครรู้ เท่านั้นเอง ก็ต้องรีบพิมพ์สรุปออกมา
แล้วทำพินัยกรรมรอไว้ สั่งเสียเรื่องนู้นเรื่องนี้ เรื่องทำศพ หนังสือแจกในงาน อีกนิดหน่อย ซื้อของท่านพุทธทาสมาแจกได้เลย แก่นพุทธศาสตร์ ก็ยอดเยี่ยมได้ หนังสือดีมีประโยชน์ ราคาถูกมากๆ
ลูก เมีย ก็ยังไม่มี สบายๆ
สีลํ พลํ อปฺปฏิมํ สีลํ อาวุธมุตฺตมํ
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
สีลํ อาภรณํ เสฏฺฐํ สีลํ กวจมพฺภุตํ
ศีลเป็นกำลังไม่มีที่เปรียบ ศีลเป็นอาวุธสูงสุด
ศีลเป็นเครื่องประดับอย่างประเสริฐสุด ศีลเป็นเกราะอย่างอัศจรรย์
-
- Verified User
- โพสต์: 428
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 15
ร่างกายไม่ห่วงเนื่องจากอุทิศให้คณะแพทย์ไปศึกษาแล้ว ส่วนหุ้นก็ได้บอกเจ้าตัวเล็กเรื่องการดู port ไว้แล้วทั้งวิธีการซื้อและขาย หนังสือที่ใช้ศึกษาเรื่องการลงทุนแยกเป็นกองไว้ให้แล้ว บอกให้ศึกษาให้มาก ๆ ก่อนการลงทุน ที่สำคัญบอกให้ลูกตัวเล็กเข้า web นี้เป็นอันดับแรกและเข้าเป็นแรก ก่อนตายสักหนึ่งชั่วโมงจะ post บอก account และบอกพี่ ๆ เพื่อน ช่วยให้คำแนะนำลูกเรื่องการลงทุนด้วย :lovl: :lovl: :lovl:
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 16
ทำต้องรอล่ะครับท่าน iscssn
เว็บนี้ไม่ใช่เว็บต้องห้ามสำหรับเด็กนา :lovl:
ลูกเล่นเน็ตเป็นก็มาสมัครได้เลย
เว็บนี้ไม่ใช่เว็บต้องห้ามสำหรับเด็กนา :lovl:
ลูกเล่นเน็ตเป็นก็มาสมัครได้เลย
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 2273
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 21
[quote="Jeng"]
โค้ด: เลือกทั้งหมด
อืม
การลงทุนคือความเสี่ยง
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
แต่ความเสี่ยงสูงคือ ไม่รุ้ว่าอะไรคือจุดชี้เป็นชี้ตายของบริษัท
ความเสียงสุงที่สุด คือ ไม่รู้ว่าเลยว่าตัวเองทำอะไรอยู่
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 22
จริงๆแล้ว ผมอยากจะสื่อว่า ความตายนั้นอาจจะมาเยือนเราเมื่อไรก็ได้ อาจจะไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า
มีอะไรที่ควรจะทำก็ให้รีบทำซะ อย่าได้ประมาท
อีกทั้งพวกเราเป็นนักลงทุน การลงทุนของเราก็ควรที่จะรอบคอบเพียงพอให้เป็นมรดกตกทอดให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลัง
มีอะไรที่ควรจะทำก็ให้รีบทำซะ อย่าได้ประมาท
อีกทั้งพวกเราเป็นนักลงทุน การลงทุนของเราก็ควรที่จะรอบคอบเพียงพอให้เป็นมรดกตกทอดให้แก่ผู้ที่อยู่ข้างหลัง
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- Verified User
- โพสต์: 76
- ผู้ติดตาม: 0
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 23
คิดเรื่องจะตาย เหมือนกัน หลังจากที่หมอ(สวยด้วย ) ตรวจผมตอนบริจาคโลหิต แล้วบอกว่า เสียงเหมือนลิ้นหัวใจรั่ว ก่อนหน้านี้เคยมีหมอท่านหนึ่ง มาบอกว่า ลิ้นหัวใจผมยาว (ลืมถามว่า มี 2 แฉก แบบอสรพิษ ด้วยหรือเปล่า)
คิดว่า ถ้าตายก็คงยกหุ้นที่มี และทรัพย์สินทั้งหมดให้แม่นะครับ คิดถึงความตายแล้วก็หดหู่ :( ดูๆ แล้วเหมือนกับว่า ที่ทำงานงกๆ หาเงิน ผลสุดท้ายก็ต้องทิ้งไว้ในโลกนี้ทั้งหมด
แต่ผ่านไปวันสองวัน ผมว่าผมก็แข็งแรงดีนี่ วิ่งได้เป็น 10 km สอบนักบินเข้าไปถึงรอบ 6 ตกรอบนักจิตวิทยา
ไม่เคยเหนื่อย เจ็บหัวใจ จากการใช้แรงงาน (ทำงานเป็นวิศวกรในโรงงงาน)
ผมเลยว่า สงสัย ผมอาจจะลิ้นหัวใจยาวแบบที่หมอคนแรกทักครับ
หรือ อาจจะรั่วชัวคราว ตอนสบตาหมอก็ได้ :D
คิดว่า ถ้าตายก็คงยกหุ้นที่มี และทรัพย์สินทั้งหมดให้แม่นะครับ คิดถึงความตายแล้วก็หดหู่ :( ดูๆ แล้วเหมือนกับว่า ที่ทำงานงกๆ หาเงิน ผลสุดท้ายก็ต้องทิ้งไว้ในโลกนี้ทั้งหมด
แต่ผ่านไปวันสองวัน ผมว่าผมก็แข็งแรงดีนี่ วิ่งได้เป็น 10 km สอบนักบินเข้าไปถึงรอบ 6 ตกรอบนักจิตวิทยา
ไม่เคยเหนื่อย เจ็บหัวใจ จากการใช้แรงงาน (ทำงานเป็นวิศวกรในโรงงงาน)
ผมเลยว่า สงสัย ผมอาจจะลิ้นหัวใจยาวแบบที่หมอคนแรกทักครับ
หรือ อาจจะรั่วชัวคราว ตอนสบตาหมอก็ได้ :D
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 24
ความเป็นมาของการเจริญมรณัสสติ
พระพุทธองค์ตรัสถามภิกษุแปดรูปว่าแต่ละรูปมีวิธีเจริญมรณัสสติกันอย่างไร
ภิกษุทั้งแปดรูปได้กราบทูลวิธีเจริญมรณัสสติของตนตามลำดับว่า
1. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งคืนหนึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
2. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
3. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงกึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
4. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงมื้อหนึ่ง ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
5. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงกึ่งมื้อ (กึ่งมื้อคือตายคาวงข้าว ยังฉันไม่เสร็จ อาจสำลักเม็ดข้าวติดหลอดลมตาย) ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
6. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงเวลาฉันข้าวเพียงแค่ห้าหกคำ ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
7. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงขณะฉันข้าวหนึ่งคำ ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
8. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะลมหายใจเข้าลมหายใจออก ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
เมื่อได้ทรงสดับวิธีเจริญมรณัสสติดังกล่าวแล้ว ทรงสรุปว่า บรรดาภิกษุทั้งแปดรูปนี้
รูปที่หนึ่งถึงรูปที่หกนับว่ายังประมาทอยู่มาก วิธีการเจริญสติของภิกษุทั้งหกยังจัดได้ว่าเป็นการเจริญมรณัสสติแบบเบาๆ ยังตั้งอยู่ในความประมาท
ส่วนการเจริญมรณัสสติตามวิธีการของภิกษุรูปที่เจ็ดและรูปที่แปด เช่นนี้จึงนับว่าใช้ได้ มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
แล้วปุถุชนทั้งหลายซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยนึกถึงความตายเลยนั้น จะประมาทมากถึงเพียงไหน
จากหนังสือ สบตากับความตาย ว.วชิรเมธี
พระพุทธองค์ตรัสถามภิกษุแปดรูปว่าแต่ละรูปมีวิธีเจริญมรณัสสติกันอย่างไร
ภิกษุทั้งแปดรูปได้กราบทูลวิธีเจริญมรณัสสติของตนตามลำดับว่า
1. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งคืนหนึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
2. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงหนึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
3. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงกึ่งวัน ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
4. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงมื้อหนึ่ง ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
5. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงกึ่งมื้อ (กึ่งมื้อคือตายคาวงข้าว ยังฉันไม่เสร็จ อาจสำลักเม็ดข้าวติดหลอดลมตาย) ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
6. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงเวลาฉันข้าวเพียงแค่ห้าหกคำ ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
7. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะฉันอาหารอยู่เพียงขณะฉันข้าวหนึ่งคำ ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
8. ข้าพระองค์คิดว่า เราอาจมีชีวิตอยู่เพียงชั่วขณะลมหายใจเข้าลมหายใจออก ดังนั้นจึงควรรีบศึกษาคำสอนของพระองค์ให้เข้าใจ แล้วตั้งใจนำมาปฏิบัติ
เมื่อได้ทรงสดับวิธีเจริญมรณัสสติดังกล่าวแล้ว ทรงสรุปว่า บรรดาภิกษุทั้งแปดรูปนี้
รูปที่หนึ่งถึงรูปที่หกนับว่ายังประมาทอยู่มาก วิธีการเจริญสติของภิกษุทั้งหกยังจัดได้ว่าเป็นการเจริญมรณัสสติแบบเบาๆ ยังตั้งอยู่ในความประมาท
ส่วนการเจริญมรณัสสติตามวิธีการของภิกษุรูปที่เจ็ดและรูปที่แปด เช่นนี้จึงนับว่าใช้ได้ มีผลมาก มีอานิสงส์มาก
แล้วปุถุชนทั้งหลายซึ่งร้อยวันพันปีไม่เคยนึกถึงความตายเลยนั้น จะประมาทมากถึงเพียงไหน
จากหนังสือ สบตากับความตาย ว.วชิรเมธี
จงอยู่เหนือความดี อย่าหลงความดี
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 6483
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 26
คิดถึงหนังสือปรัชญาชีวิต ตอนที่ว่าอัลมิตรา ถามอัลมุตตาฟาถึงความตาย
และอัลมุตตาฟาบอกว่า
เธอต้องการรู้ความลับของความตาย
แต่เธอจะพบมันที่ไหนเล่า นอกจากจะแสวงเอาในท่ามกลางของชีวิต
นกแสกผู้มีตามือบอดต่อกลางวัน ย่ามไม่อาจเข้าใจกระจ่างถึงความลับแห่งแสงสว่างได้
ถ้าเธอต้องการเห็นวิญญานแห่งความตายจริงๆแล้ว ขอจงเปิดดวงใจของเธอต่อกายแห่งชีวิตเถิด
เพราะชีวิตและความตายเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังเช่นที่แม่น้ำและทะเลเป็นหนึ่งเดียวกัน
ความกลัวต่อความตายของเธอนั้น เป็นเพียงความสั่นกลัวของเด็กเลี้ยงแกะ เมื่อเขาได้ยืนเฉพาะพระพักต์ของกษัตริย์ ผู้ทรงเอื้อมพระหัตถ์มาเพื่อประทานศักดิ์แก่ตน
ภายใต้ความสั่นกลัวนั้น เขาไม่รู้สึกปราโมทย์หรือว่าจะได้เป็นข้าราชบริพาร
และเขาไม่สำนักถึงความสั่นกลัวของเขายิ่งขึ้นหรอกหรือ
เพราะการเข้าสู่ความตายนั้น จะเป็นอะไรอื่นจากการยืนเปล่าเปลือยในกระแสลม และการหลอมละลายเข้าสู่แสงอรุณ
และอัลมุตตาฟาบอกว่า
เธอต้องการรู้ความลับของความตาย
แต่เธอจะพบมันที่ไหนเล่า นอกจากจะแสวงเอาในท่ามกลางของชีวิต
นกแสกผู้มีตามือบอดต่อกลางวัน ย่ามไม่อาจเข้าใจกระจ่างถึงความลับแห่งแสงสว่างได้
ถ้าเธอต้องการเห็นวิญญานแห่งความตายจริงๆแล้ว ขอจงเปิดดวงใจของเธอต่อกายแห่งชีวิตเถิด
เพราะชีวิตและความตายเป็นหนึ่งเดียวกัน ดังเช่นที่แม่น้ำและทะเลเป็นหนึ่งเดียวกัน
ความกลัวต่อความตายของเธอนั้น เป็นเพียงความสั่นกลัวของเด็กเลี้ยงแกะ เมื่อเขาได้ยืนเฉพาะพระพักต์ของกษัตริย์ ผู้ทรงเอื้อมพระหัตถ์มาเพื่อประทานศักดิ์แก่ตน
ภายใต้ความสั่นกลัวนั้น เขาไม่รู้สึกปราโมทย์หรือว่าจะได้เป็นข้าราชบริพาร
และเขาไม่สำนักถึงความสั่นกลัวของเขายิ่งขึ้นหรอกหรือ
เพราะการเข้าสู่ความตายนั้น จะเป็นอะไรอื่นจากการยืนเปล่าเปลือยในกระแสลม และการหลอมละลายเข้าสู่แสงอรุณ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
ถ้าคืนนี้เราต้องตาย
โพสต์ที่ 27
นับถือคุณ RR และคุณ iscssn ที่บริจาคร่างกายให้เป็นอาจารย์ใหญ่
อืม
แบบนี้รู้สึกทางพุธเรียกว่า การให้แบบอุกฤต คือให้อวัยวะ ร่างกายได้
..................................................................................................
เรื่องเป็นเรื่องตาย พูดไปก็ยังทำให้นึกถึงรุ่นพี่วิดวะ ที่เพิ่งเสียชิวิตไปด้วยโรคหัวใจ แกไม่เคยตรวจนะ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ หุ้นดี ไม่อ้วน ไม่ผอมมากไป
แต่แกทำงานหนักไปหน่อย และเป็นคนคิดมากไปหน่อย
เห็นมีคนบอกว่า เครียดมากเป็นมะเร็ง
เหนื่อยมากเป็นโรคหัวใจ
ไม่รู้จริงหรือเปล่า
อืม
แบบนี้รู้สึกทางพุธเรียกว่า การให้แบบอุกฤต คือให้อวัยวะ ร่างกายได้
..................................................................................................
เรื่องเป็นเรื่องตาย พูดไปก็ยังทำให้นึกถึงรุ่นพี่วิดวะ ที่เพิ่งเสียชิวิตไปด้วยโรคหัวใจ แกไม่เคยตรวจนะ ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ หุ้นดี ไม่อ้วน ไม่ผอมมากไป
แต่แกทำงานหนักไปหน่อย และเป็นคนคิดมากไปหน่อย
เห็นมีคนบอกว่า เครียดมากเป็นมะเร็ง
เหนื่อยมากเป็นโรคหัวใจ
ไม่รู้จริงหรือเปล่า