ลองมาวิเคราะห์หุ้น EGAT กันล่วงหน้าดีกว่า

[terati20]

โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่ามันเป็นหุ้นประเภทโตช้าเนื่องจากกำไรจากการขายไฟนั้นMargin ไม่มาก และไม่สามารถจะเพิ่ม Margin ได้เนื่องจากนโยบายของรัฐ   จะขายไฟให้ได้มากขึ้นก็ไม่ได้ต้องพึ่ง cycle  ของเศรษฐกิจประเทศอย่างเดียว ต้องพึ่งธุรกิจเสริมเท่านั้น     แต่อีกมุมนึงเขาอาจจะเป็นหุ้น hidden assests  ก็ได้ สรุปแล้ว trend น่าจะคล้าย EGCOMP,RATCH  ไม่น่าจะเปรี้ยงปร้างเหมือน ปตท.

[mustang]

ถ้าไม่มีการปั่นนะครับ

[hot]

สัดส่วนการถือครอง  
เห็นว่าต่างชาติ ถือไม่เท่าไร
หมายถึงต้องลง  ถ้าต่างชาติต้องการถือจำนวนมาก

แต่จะมีเหตุอะไรทำให้หุ้นลงละคับ
ผมยังมองไม่ออกเหมือนกัน

ความจริง ไม่อยากให้ขึ้นหรือลงมากกว่า

เพราะถ้าขึ้น  คนจะยอมขายออกมามากมาก
สัดส่วน  หุ้นจะเสียไปให้กับคนที่ต้องการอืมเป็นใครหว๋า

แต่หุ้นลง  ต่ำกว่าจอง  จะมีถูกรวบได้โดยง่าย

คราวนี้แหละคงหนาวกันเป็นแถว

[worapong]

1. ผมคิดว่าคงต้องแยกการเติบโตของการใช้ไฟฟ้า และการเติบโตของการสร้างโรงไฟฟ้าออกจากกันครับ เพราะโรงไฟฟ้าไม่ได้สร้างอย่างต่อเนื่องทุกปีไปเรื่อยๆ อย่างหลังฟองสบู่แตกนี่ความต้องการใช้ไฟลดฮวบ การสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ๆก็ไม่ค่อยมี แต่หลังจากนี้ไปอาจเติบโตในอัตราเร่งก็ได้ ผมเดาๆเอานะครับ ลองศึกษาดูแล้วมาโพสต์กันครับ
2. ต้องดูราคาที่ขายด้วย แล้วเปรียบเทียบดูราคาที่ควรจะเป็น ซึ่งมีวิธีดูหลายๆแบบ อาจดูจาก P/E P/BV Div Yield DCF ถ้าถามผม ผมคิดว่าหุ้นโรงไฟฟ้าที่ผูกขาด และมีสัมปทานที่โยนความเสี่ยงทุกอย่างทั้ง ค่าน้ำมัน อัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย และสารพัดให้ลูกค้าได้แล้วละก็ DCF คงจะเป็นวิธีการที่ไม่เลว หรืออาจดูจาก market cap / capacity ก็น่าจะบอกได้พอสมควร ปกติการสร้างโรงไฟฟ้าจะต้องลงทุน 5 แสนเหรียญต่อเม็กกะวัตต์ อันนี้ก็บอกได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องระวังนิดนึงคือ กำลังการผลิตของอีแกต อาจรวมโรงเก่าแก่อายุยี่สิบปีด้วยก็ได้ ต้องดูให้ดี
3. ถ้าเล่นสั้นๆต้องดูแนวโน้มตลาด ดูฟีลลิ่งด้วยครับ แต่ถ้าลงทุนยาวๆ เก็บปันผลกิน เอาชนะเงินเฟ้อ ก็ไม่ต้องสนใจแนวโน้มตลาดครับ
4. ยังคิดไม่ออก

[โป้ง]

ธุรกิจผลิตไฟฟ้าความเสี่ยงคืออะไรล่ะ ต้นทุนเชื้อเพลิงก็พลักภาระให้ผู้บริโภคได้

คุณลองไม่ใช้ไฟฟ้าซักวันหนึ่งซิ ขอบอกยิ่งกว่าปัจจัย 4 เสียอีก

[Supra]

ธุรกิจผลิตไฟฟ้าความเสี่ยงคืออะไรล่ะ ต้นทุนเชื้อเพลิงก็พลักภาระให้ผู้บริโภคได้

คุณลองไม่ใช้ไฟฟ้าซักวันหนึ่งซิ ขอบอกยิ่งกว่าปัจจัย 4 เสียอีก  

:lol:  :lol:   ใช่เลยพี่...  สุดท้ายผู้รับกรรมก้อผู้บริโภคตาดำๆๆ  ตามที่เค้าให้สัญญาเป๊ะเลย  ทำเพื่อผู้บริโภคให้ได้ประโยชน์  :twisted:

[stp]

เอามาฝากเห็นหลายคนสนใจ
เป็นกระทู้เก่าๆที่เคยคุยกันในเวปนี้ครับ
อาจไม่ตรง EGAT 100% แต่ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับหุ้นในแวดวงการไฟฟ้า
พอทำให้เห็นภาพธุรกิจไฟฟ้าได้คร่าวๆ

จากเรื่องคราวก่อน ณ วันนี้ Condition หลายอย่างก็มีเปลี่ยนๆไปบ้างเหมือนกัน

http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... c&&start=0
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... egat#20786
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... egat#15623
http://www.thaivi.com/webboard/viewtopi ... egat#15208

[naris]

ต้องขึ้นกับนโยบายของเขาครับว่าเขาจะยืนอยู่จุดไหน ผมตั้งจุดยืนให้ฝ่ายบริหารเขา2กรณี
1.เรื่องRE-ENGINEERINGวัฒนธรรมองค์กรว่าเข้ามาตลาดเขาอยากเป็นอย่างไรระหว่างMCOT,PTTหรือTHAI
2.เรื่องนโนบายและกลยุทธ์ทางธุรกิจว่าเขาจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเองหรือเป็นเทรดดิ้งพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซี่ยนในอนาคต ถ้าเป็นอย่างหลังและผู้บริหารเก่งๆ ผมคงกอดหุ้นไปจนตายหล่ะครับ  :lovl:

[stp]

เห็นคุณ naris พูดถึง PTT
เลยนึกย้อนหลังดูตอนเข้าตลาดรู้สึก IPO 35 บาทสองวันแรกร่วงไป 29 บาท
จากนั้นไม่กี่ปีตอนนี้ 242 บาทไม่รู้ EGAT จะทำได้เหมือนหรือเปล่า

หลายๆอย่างตอนนี้ยังสีเทาไม่ค่อย Clear เท่าไหร่คงต้องรอดูข้อมูลตอน IPO อีกครั้ง
Regulator หรือคณะกรรมการกำกับดูแลก็กำลังจะจัดตั้ง แว็บๆ เห็นในกระทู้ก่อน

เรื่องนโนบายและกลยุทธ์ทางธุรกิจว่าเขาจะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเองหรือเป็นเทรดดิ้งพลังงานไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซี่ยนในอนาคต

อันนี้ก็เห็นเขาคุยมานานแล้วเหมือนกัน
ผมเคย download มาอ่าน
จะเห็นมี plan แต่ละขั้นของการเปลี่ยนแปลง....แต่ไม่ยักกะบอกไทม์เฟมว่าเมื่อไหร่เมื่อไหร่

[stp]

จะเห็นมี plan แต่ละขั้นของการเปลี่ยนแปลง....แต่ไม่ยักกะบอกไทม์เฟมว่าเมื่อไหร่เมื่อไหร่

ขอโทษทีครับเมื่อกี้ลองกลับไปดูเขาบอกเหมือนกันแต่ไม่ละเอียด ถ้าตอนนี้จะช้าไปประมาณ 2-3 ปี

[miracle]

เพิ่มเติมนิดหน่อย

ลืมเรื่องหนี้สินแล้วหรือ ตัวนี้มีหนี้สินมากพอๆๆกับสินทรัพย์ที่มีอยู่
กู้โดยมีรัฐค้ำประกัน นำเงินมาสร้างโรงไฟฟ้า

คือดูP/BV ประกอบกันเงินสดที่มีอยู่ในตัวบริษัท ประกอบกับราคาด้วย
ถึงจะได้เป็นเสือนอนกิน

[harry]

เห็นว่าหนังสือชี้ชวนออกแล้วนี่ครับ ดูที่เว็บ sec.or.th ก็น่าจะมีให้ดาวน์โหลด

[stp]

เห็นว่าหนังสือชี้ชวนออกแล้วนี่ครับ ดูที่เว็บ sec.or.th ก็น่าจะมีให้ดาวน์โหลด

หาไม่เจอขอ link หน่อยครับ

[Blueblood]

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... _id=000710

ใช่อันนี้รึเปล่าครับ

[stp]

http://capital.sec.or.th/webapp/corp_fi ... _id=000710

ใช่อันนี้รึเปล่าครับ

เป็น ESOP ที่แจกหุ้นให้พนักงานครับ
แต่ก็คงมีรายละเอียดอย่างอื่นด้วยเดี่ยวคงลอง download มาดู
ขอบคุณมากครับคุณ Blueblood

 :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:

[Blueblood]

เป็น ESOP ที่แจกหุ้นให้พนักงานครับ
แต่ก็คงมีรายละเอียดอย่างอื่นด้วยเดี่ยวคงลอง download มาดู
ขอบคุณมากครับคุณ Blueblood

[stp]

วันนี้ผมเข้าไปดูอีกทีเห็นของ IPO ออกแล้วครับ

FYI.....

 :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:  :mrgreen:

[stp]

ดูแล้วยัง
เป็นฉบับร่าง
ยังไม่มีราคา ไม่มีวันที่จอง

[shanghai]

ธุรกิจเเสนล้าน ถ้าบริษัทไม่มีหนี้เลย  มีเเต่เงินสดในมือ จะเข้ามาในตลาดหุ้นทำไม
:lovl:  :mrgreen:  :lovl:  :mrgreen:  :lovl:  :mrgreen:  :lovl:  :mrgreen:  :lovl:

[Value_chain]

[quote="โป้ง"]
ธุรกิจผลิตไฟฟ้าความเสี่ยงคืออะไรล่ะ ต้นทุนเชื้อเพลิงก็พลักภาระให้ผู้บริโภคได้

คุณลองไม่ใช้ไฟฟ้าซักวันหนึ่งซิ ขอบอกยิ่งกว่าปัจจัย 4 เสียอีก

[genie]

มาลองวิเคราะห์ตามแบบ 5 forces กันดูดีกว่า

การแข่งขันในอุตสาหกรรม
อันนี้พูดได้คำเดียวครับ "ไร้คู่เปรียบ" กฟผ.เป็นผู้ซื้อกระแสไฟฟ้ารายเดียว(ในประเทศไทย)จากโรงผลิตไฟฟ้า แล้วนำมาจำหน่ายสู่ประชาชนผ่าน กฟน. และ กฟภ. ดังนั้นในมิตินี้ฟันได้เลยครับ "ไร้คู่เปรียบ"

การเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่
ตราบเท่าที่ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในข้อกฎหมายหรือข้อกำหนด ไม่มีใครสามารถเข้ามาได้ ถือเป็นประตูปิดตายครับ

สินค้าทดแทน
พอมีครับแต่ผู้บริโภคคงไม่เลือก (ใครไคร่ใช้ตะเกียงแทนนีออน ใช้เครื่องปั่นแทนขอไฟจากการไฟฟ้าฯ ก็ตามสบายครับ )

อำนาจต่อรองจากผู้ผลิต
ก็คงได้แก่โรงไฟฟ้าต่างๆทั้งหลาย ซึ่งก็มีอำนาจต่อรองอยู่บ้าง แต่ก็สามารถตั้งราคาได้ตามต้นทุนวัตถุดิบ+กำไร เท่านั้น ดังนั้นอำนาจต่อรองหลักตกเป็นของ กฟผ. อยู่ดี

อำนาจต่อรองจากผู้บริโภค
ใครกล้าต่อราคาค่าไฟฟ้าหรือขอเลื่อนการชำระค่าไฟบ้างครับ   :lovl:  

เมื่อมองในเชิงอำนาจต่อรองในตัวอุตสาหกรรมแต่เพียงอย่างเดียวก็อาจอนุมานได้ว่า กฟผ. เป็นบริษัทที่ควรค่าแก่การลงทุน แต่อย่างไรก็ดีการใช้เครื่องมือวิเคราะห์อำนาจในการแข่งขันแต่เพียงอย่างเดียว คงไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนักสำหรับชาวVIอย่างเราๆ สิ่งที่อาจจะต้องวิเคราะห์ตามมาอาจได้แก่

อัตราการเจริญเติบโต
ปริมาณการใช้กระแสไฟฟ้า อันเป็นแหล่งที่มาของรายได้หลักของ กฟผ. มีตัวแปรที่เป็นปัจจัยหลักสำคัญๆสามตัว คือ 1.การขยายตัวของประชากร  2.การขยายตัวทางเศรษฐกิจ และ3.การขยายตัวของการใช้เทคโนโลยี
ในอดีตปัจจัยแรกจะมีผลต่อการใช้ปริมาณกระแสไฟฟ้าเป็นอย่างมาก แต่ในปัจจุบันอัตราการเกิดลดลง(สามารถดูได้จากข้อมูลสถิติการเกิดฯ)ทำให้ปัจจัยด้านนี้ลดบทบาทลงไป
สำหรับปัจจัยหลังถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการใช้กระแสไฟฟ้า เนื่องจากเมื่อเศรษฐกิจขยายตัว การบริโภคกระแสไฟฟ้าไม่ว่าจะเป็นเพื่อการบริโภคสุดท้ายก็ดีหรือเพื่อการผลิตก็ดีหรือจะเพื่อการบันเทิงก็ดี จะผูกพันกับการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีนัยยะสำคัญ
ในปัจจัยสุดท้ายแบ่งได้สองกรณีคือการเพิ่มขึ้นของการใช้เทคโนโลยี กับการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อประหยัดพลังงาน ในปัจจัยนี้จะเหมือนมีการ weight กันอยู่ระหว่าง ปริมาณการใช้เทคโนโลยี กับคุณภาพของตัวเทคโนโลยีที่ประหยัดพลังงานมากขึ้น จะว่าไปก็เหมือน PxQ นั่นแหล่ะครับ ไม่Pคงที่ก็ให้Qเพิ่ม หรือQเพิ่มPคงที่ ประมาณนี้
ดังนั้นถ้าจะวิเคราะห์การเจริญเติบโตของรายได้ก็คงต้องพิจารณาจากปัจจัยที่กล่าวไว้ในข้างต้น

[Rocker]

:lol:  นึกว่าใครพี่ gennieนี่เอง แล้วสรุป พี่วิเคราะห์แล้วได้ไงหละครับ


ดังนั้นถ้าจะวิเคราะห์การเจริญเติบโตของรายได้ก็คงต้องพิจารณาจากปัจจัยที่กล่าวไว้ในข้างต้น[/quote]

ช่วยวิเคราะห์แล้วตอบทีครับ อย่าเกริ่นๆสิพี่ๆลองforcast growth รายได้ กําไร เลยสิครับ :lol:  รอคําตอบอยู่ครับพี่คนเก่ง

[genie]

(ต่อ)
ต่อไปวิเคราะห์ประสิทธิภาพในการจัดการ
อย่างที่ทราบๆกัน การบริหารงานของรัฐวิสาหกิจ ค่อนไปในลักษณะการบริหารแบบราชการ ซึ่งค่อนข้างเสียเปรียบในเชิงของความคล่องตัว และมีOverheadหรือโสวฮุ่ยค่อยข้างสูง ดังนั้นการดำเนินการจึงค่อนข้างจะต้วมเตี้ยม อีกทั้งมีการบริหารงานตามลำดับขั้นที่ค่อนข้างมาก จึงอาจเป็นช่องทางในการเกิดทุจริตได้ง่ายในขณะที่การตรวจสอบทำได้ยาก
อีกทั้งประเด็นที่สำคัญที่จะอดพิจารณาไม่ได้สองประการ นั่นก็คือ
1.การมีสหภาพแรงงานที่มีอำนาจสูง
ซึ่งในหัวข้อนี้ ส่งผลกระทบต่อนักลงทุนโดยตรงนั่นคือ หากผลประกอบการดีก็อาจจะเกิดการรวมกลุ่มเพื่อเรียกร้องผลตอบแทนหรือผลประโยชน์ที่เพิ่มขึ้น แต่หากผลประกอบการไม่ดีก็จะเป็นการยากที่จะลดสวัสดิการหรือผลตอบแทนที่เคยได้รับลง ซึ่งเคยเห็นหลายคราที่เคยเกิดขึ้นกับการบินไทย
2.ตัวธุรกิจเป็นธุรกิจเพื่อสังคม
ประเด็นนี้จะชี้ให้เห็นว่าในเมื่อ กฟผ. เป็นธุรกิจเพื่อสังคม ดังนั้นการผลิตจะผลิตเพื่อตอบสนอง Maximize Utilities ไม่ใช่ Maximize Margin คือโดยปกติในธุรกิจทั่วไปจะมุ่งผลิตที่ปริมาณผลิตที่ตอบสนองผลกำไรสูงสุดให้มากที่สุด แต่สำหรับกิจการเพื่อสังคมจะผลิตที่ปริมาณมากที่สุดต่ออัตราการบริโภคหรือพูดให้ง่ายก็คือผลิตให้ออกมาถูกที่สุดและมีปริมาณมากที่สุดที่ตอบสนองอุปสงค์ที่จุดคุ้มทุน ดังนั้นอย่าได้คิดว่า กฟผ. จะสามารถมีกำไรอย่างก้าวกระโดดได้ เว้นแต่มีการปั่นหรือเศรษฐกิจขยายตัวอย่างก้าวกระโดด

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์โดยอิงหลักทฤษฎีเป็นเกณฑ์ โดยไม่มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ดังนั้นหากหวังผลการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรใช้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพมาประกอบการพิจารณา  

[โอ@]

ผมว่าตัวนี้อาจไม่เหมือน PTT นะครับ ในเมื่อโดนว่ามาเยอะว่าเอาเข้าเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

เราอาจจะได้เห็นมันมีราคานิ่งอยู่กับที่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม เพื่อจะได้ไม่มีคำครหาใดๆ

และก็จะไม่ได้เห็นคนในที่สื่อต่างๆพาดพิงถือหุ้นอยู่ด้วย

[Rocker]

ทั้งหมดนี้เป็นการวิเคราะห์โดยอิงหลักทฤษฎีเป็นเกณฑ์ โดยไม่มีการนำข้อมูลมาวิเคราะห์ ดังนั้นหากหวังผลการวิเคราะห์ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ควรใช้ข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพมาประกอบการพิจารณา  

เอาอีกแล้ว :lol:  วิเคราะห์ต่อให้หมด สิๆ :lol: เกริ่น ปริมาณคุณภาพอีกแล้ว แน่จริงปล่าว :lol:  ชาว viรออยู่ครับ รบกวนวิเคราะห์ แบบfull analysis แบบพี่chatchaiทําที

น่าจะดีกว่านักวิเคราะห์ :lol:

[genie]

โอ่ๆๆๆๆ ไม่ว่างพอครับ และขอออกตัวว่าไม่เก่งขนาดนั้นหรอกครับ เอาเป็นว่าผมวิเคราะห์ตามทฤษฎีเป็นแกนก่อน แล้วคุณRockerลองเอาตัวเลขต่างๆมาผูกตามทฤษฎีดูสิครับ อาจจะได้ไอเดียดีๆก็เป็นได้  :lovl:

[BB_ZMBT]

เมื่อเช้า วาน นี้ 13 sept 05 ผู้ประกาศข่าวช่อง 32 Money Channel ทาง Cable TV ออกมา บอกว่า ทาง คุณพ่อ หล่อน ที่ทำงานอยู่ การไฟฟ้า รู้แล้ว ว่าจะได้รับ หุ้น เป็น จำนวน เท่าใด ราคา หุ้น เท่าใด.....ผมอยากรู้จังว่า เขาตั้ง ราคาที่เท่าใด พอจะมีใครทราบมั๊ย ครับ ขอ share หน่อย

[charun]

เห็นเพื่อนเขาบอกมาว่าเป็นราคาคาดการณ์ประมาณ 28-30 บาท ส่วนพนักงานจะได้คนละกี่หุ้นก็ขื้นอยู่กับราคาตัวนี้เหมือนกัน คือถ้าราคาตำจะได้หุ้นมากแต่ถ้าราคาสูงจะได้หุ้นน้อยลง เขาบอกว่าส่วนของพนักงานจะเริ่มเปิดจองประมาณต้นเดือน ตค.นี้ และจะให้ประชาชนจองและเข้าตลาดประมาณเดือน พย. ส่วนข้อมูลตัวเลขเกี่ยวกับปัจจัยพื้นฐานยังไม่ชัดเจน

[shanghai]

ขาดทุน 9 พันล้าน ครึ่งปีเเรกซะเเล้ว

[Kopite]

ได้มาจาก mail ครับ

------------------------------------------------------------------------------------
มองอย่างเซียน