เวลาเพื่อหุ้น

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

ล็อคหัวข้อ
non
ผู้ติดตาม: 0

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 1

โพสต์

เคยสงสัยว่า หากเราบอกว่าตัวเองต้องการลงทุน ควรใช้เวลาซักเท่าไรเกี่ยวกับเรื่องหุ้น เท่าที่รู้หากต้องการเป็นนักลงทุนควรอ่าน รายงานประจำปี ติดตาม pe,pb,div ดูข่าว ๆลๆ
ผมมีบริษัทของตัวเอง เงินเก็บที่เหลือเรียกว่าอยู่ในหุ้นหมด
ผลตอบแทนก็ธรรมดา ประมาณเท่าตลาด แต่เวลาที่ใช้ 4-5 ต่อวัน
สงสัยว่าเพื่อนใช้เวลาในหุ้น อย่างไรกันบ้าง
และเมื่อลงทุนแล้วรู้สึกว่าทำได้ดีขึ้นหรือไม่ เพราะตัวเองเล่นมาจริงจัง 4-5 ปีแล้ว ไม่แน่ใจว่าเก่งขึ้น :roll: :?:
thanwa
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 1011
ผู้ติดตาม: 0

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 2

โพสต์

ถ้าคุณ non ทำได้เท่าๆ กะตลาดในช่วงนี้ถือว่าเยี่ยมครับ
การลงทุนในแนว VI นั้นผลตอบแทนอาจจะแพ้ตลาดในช่วงขาขึ้น
แต่น่าจะชนะตลาดได้ไม่ยากในช่วงขาลง
เพราะฉนั้น VI หลายท่านก็ต้องใช้ความอดทน แน่วแน่ ในช่วงนี้ครับ
วันหนึ่งหุ้นที่ดีต้องสะท้อนมูลค่าของมันออกมาครับ

ผมเองทำงานประจำอยู่ เรียกว่าในช่างกลางวันแทบไม่ได้ติดตามเลยละครับ อาศัยอ่าน นสพ. ตอนเช้า นอกจากนี้โทรคุยกับเพื่อนเป็นประจำโดยเฉพาะเวลาอยู่บนรถตอนมาทำงานกับตอนกลับบ้าน ตอนดึกก็เข้า web นี้และครับ สรุปแล้วก็น่าจะให้เวลาประมาณ 2 ชม. ต่อวัน

ผมมองว่าการลงทุนเป็นสิ่งที่ท้าทาย ทั้งศาสตร์ และศิลป์ และผมก็ชอบเรื่องนี้ สรุปแล้วก็คือ ไม่ได้กำหนดหรอกครับว่าจะต้องใช้เวลาเท่าไร ที่ทำก็เพราะชอบ และก็สนุกกับการที่ได้ทำ ผมว่าคุณ non ชอบแล้วจะรู้สึกสนุกครับ ไม่ทราบว่าคุณ non ชอบกับมันหรือยังครับ
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ที่คุณ non ลงทุนในช่วงเวลา 4-5 ปีที่ผ่านมานั้น เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว ดังนั้นผลตอบแทนในช่วงนี้คงยังไม่สามารถบอกได้ว่าคุณจะประสบความสำเร็จในการลงทุนหรือไม่ เพราะคุณยังไม่เคยผ่านช่วงที่เลวร้ายของตลาด

ส่วนเวลาที่คุณใช้นั้น หมดไปกับการดูราคา หรือศึกษาข้อมูลบริษัทต่างๆละครับ ถ้าใช้กับการศึกษาข้อมูลก็ดีกว่านั่งเฝ้าราคาครับ แต่ที่ผมอยากจะบอกคือคุณควรที่จะศึกษาวิธีวิเคราะห์การลงทุนด้วยนะครับ ไม่ใช่อ่านแต่ Annual Report ข่าวต่างๆ หรือดูแค่ P/E P/B เท่านั้นครับ

การลงทุนที่จะประสบความสำเร็จที่ต่อเนื่องยาวนานนั้น คุณควรมีความรู้ที่มากกว่านั้นครับ ช่วงเวลาที่ตลาดเลวร้ายจะเป็นตัวตัดสินครับว่าใครจะประสบความสำเร็จในเส้นทางนี้
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 4

โพสต์

ส่วนตัวแล้วไม่ค่อยการแข่งขันกับใคร หรือกับอะไร ทั้งสิ้น เพื่อไม่ให้เครียด

ผมคิดว่าผมลงทุนแล้วได้กำไรต่อปี 20 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป ผมว่ายอดเยี่ยม

อิอิ ชมตัวเอง โดยที่ผมไม่สนใจว่า ตลาดจะได้เท่าไร จะชนะ จะแพ้ สำหรับผมแล้ว ไม่เห็นน่าสนใจเลย

ผมสนใจเงินของผม และผลตอบแทนที่ผมต้องการมากกว่า

ผมจะไม่เทียบกับ LOSO ลุงขวด พี่ครรชิต คุณมน คุณธันวา พี่ปรัชญา คุณฉัตรชัย คุณวิบูลย์ และท่านอื่นๆ

ตลาดจะได้เท่าไร ใครจะได้แค่ไหน ผมไม่สน ผมสนใจอย่างเดียว ผมได้เท่าไร
ภาพประจำตัวสมาชิก
moo
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1150
ผู้ติดตาม: 0

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เรียนถามพี่ฉัตรชัยครับว่า ช่วงที่เลวร้ายของตลาดชาว VI ควรตั้งรับอย่างไรครับ บังเอิญส่วนตัวก็เพิ่งเข้าตลาดในช่วงขาขึ้น ไม่มีประสพการณ์ครับ ซึ่งน่าห่วงและวิตกอยู่ครับ

ขอบพระคุณครับ
vic
Verified User
โพสต์: 32
ผู้ติดตาม: 0

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 6

โพสต์

คุณ thanwa ครับ แฟนคุณต้องโชคดีมาก ที่รู้จักคุณ :?:
คุณ chatchai ผมเห็นด้วย ความสามารถที่แท้จริงมาเมื่อสถานการณ์เลวร้าย
จริงๆแล้วผมซื้อหุ้นครั้งแรกเมื่อปี 30 แต่มาจริงจังเมื่อ 4-5 ปีนี่เอง
ผ่านประสพการณ์มาพอสมควร ส่วนใหญ่เป็นทางแย่เช่น
gold ซื้อ 64.50 ราคาสูงสุดตั้งแต่เปิดตลาด ขาย 3.50 บาท
แต่ทำไม คุณเลือก wg ล่ะ ผมสงสัยจัง :roll:
chatchai
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 11444
ผู้ติดตาม: 1

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ดูรายละเอียดในโครงการร้อยคนร้อยหุ้นซิครับ

แต่โดยสรุปนะครับ ในช่วงที่ผมซื้อคือต้นปีก่อน บริษัทไม่มีหนี้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว ไม่มีภาระการลงทุนมากมายในแต่ละปี แต่มีเงินสดที่ได้จากการดำเนินงานปีละ 5 บาท ในปี 2544 บริษัทมีกำไร 2 บาทต่อหุ้น ปันผล 1 บาทต่อหุ้น ราคาอยู่ที่ 13 บาทนะครับ น่าลงทุนซื้อไหมครับ

จากการลงทุนไม่ถึง 2 ปี ผมได้รับเงินปันผล 2 งวด 2.5 บาทต่อหุ้น (ไม่รวมเครดิตภาษีอีกนะครับ) บริษัทมีฐานะเงินสดสุทธิเกือบ 8 บาทต่อหุ้น (เกือบเท่าเงินลงทุนที่ผมซื้อแล้วครับ)
ภาพประจำตัวสมาชิก
ลุงขวด
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 2448
ผู้ติดตาม: 0

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 8

โพสต์

คุณ Jeng ครับ ผมว่า ปีละ 20% นี่ เก่งแล้วนะครับ ผมปีนี้คาดได้ ได้ ปันผล จากเงินลงทุน ประมาณ 10% และ ได้ส่วนต่างจากราคาประมาณ อีก 5% รวม ผมคาดว่าจะทำได้ปีนี้ เพียง 15% เองนะครับ.....ปีที่แล้วทำได้มากกว่า นี้ แสดงว่า มันยากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะ หุ้นมันแพงขึ้นทุกขณะ.......ตลาดหุ้น มีความไม่แน่นอน สูง ต้องใช้ความระวัง ยังดัชนี สูง ๆ ขึ้น เรื่อยๆ ก็ยังระวังตัวมากขึ้น.....แต่ก็ยังเชื่อเหมือนนักวิเคราะห์ทั่วไปที่บอกว่า ตลาด หุ้นเป็นขา ขึ้น ไป จน กลางปี 2548 ถึงตอนนั้น ก็ต้องพิจารณาอย่างหนักอีกว่าจะทำอย่างไรกับเงินที่ลงทุนไป ตอนนี้ผมให้น้ำหนัก 95% เป็นหุ้นสามัญ มีเงินฝากและพันธบัตรเพียง 5% เท่านั้นเอง
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

เวลาเพื่อหุ้น

โพสต์ที่ 9

โพสต์

ลุงขวดได้ 15 เปอร์เซ็นต์ ผมก็เลยเอานิ้วทั้งหมด สิบนิ้วที่ผมมี ขึ้นมานับว่าลุงขวดมีรายได้ในปีนี้เท่าไร

โอ้โห ลุงขวดปีนี้ มีรายได้ 15 ล้านบาท ผมคำนวณผิดละเปล่า อิอิ
ล็อคหัวข้อ