ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
โพสต์ที่ 1
เห็นน้องboybbcom โพสท์ถามการทำธุรกิจก็เลยขออนุญาตเอาคำของลุงขวดมาขยายความเพิ่มเติมให้ฟังนะครับ
ส่วนตัวแล้วผมชอบสโลแกนของลุงขวดมากๆเลยครับ เลยขออนุญาตลุงขวดนำคำนี้มาเล่าเป็นนิทานการตลาด มาให้ฟังซัก1เรื่อง ผู้รู้หลายๆท่านก็อย่าว่ากันเลยนะครับ เอาไว้ให้น้องๆที่ยังอ่านหนังสือน้อยกว่าผมเขาประดับความรู้แล้วกัน
เมื่อประมาณ8ปีที่แล้ว หลังวิกฤตสดๆซิงๆ นายN ได้เข้ามาจับทำธุรกิจซื้อมา-ขายไป ในต่างจังหวัด โดยมีนโยบาย low price ถูกกว่าที่อื่น(ได้อ่านหนังสือของ แซม วอลมาร์ท) เพื่อที่จะดึงลูกค้าที่อื่นมาเป็นของตน ผลตอบรับ ประสบความสำเร็จในเชิงยอดขาย แต่ เมื่อมีผู้ท้าชิง เจ้าถิ่นหรือจะยอม เราชกเขา เขาก็เตะเรา พลัดกันชก-ผลัดกันเตะ ผลที่ได้คือ มาร์จิ้น สาละวันเตี้ยลง ไอ้เราก็มาคิดว่าเป็นเพราะอะไร
คำตอบที่ได้คือ กรรมใดใครสร้าง กรรมนั้นย่อมตามสนอง ไอ้เราไปเปิดศึกด้านราคานี่หว่า ยอดขายเพิ่ม มาร์จิ้นลดลง กำไรสุทธิเท่าเดิม (เหนื่อยกว่าเดิม) นายN ก็เลยมาคิด เราหวังและต้องการอะไรในธุรกิจ กำไร หรือ ยอดขาย
ในเมื่อเราต้องการกำไร โจทย์ที่ต้องตีให้แตกคือ ทำอย่างไร ยอดขายเพิ่ม โดยที่มาร์จิ้น ต้องเพิ่มด้วย
หลังจากนั้นนายN ก็ได้ไปสมัครฝึกปรือวิชากับอาจารย์หลายสำนัก มีอาจารย์อยู่หลายคน คำภีร์ฝึกยุทธ์ หลาย10เล่ม ได้ข้อสรุปมาว่า
ส่วนตัวแล้วผมชอบสโลแกนของลุงขวดมากๆเลยครับ เลยขออนุญาตลุงขวดนำคำนี้มาเล่าเป็นนิทานการตลาด มาให้ฟังซัก1เรื่อง ผู้รู้หลายๆท่านก็อย่าว่ากันเลยนะครับ เอาไว้ให้น้องๆที่ยังอ่านหนังสือน้อยกว่าผมเขาประดับความรู้แล้วกัน
เมื่อประมาณ8ปีที่แล้ว หลังวิกฤตสดๆซิงๆ นายN ได้เข้ามาจับทำธุรกิจซื้อมา-ขายไป ในต่างจังหวัด โดยมีนโยบาย low price ถูกกว่าที่อื่น(ได้อ่านหนังสือของ แซม วอลมาร์ท) เพื่อที่จะดึงลูกค้าที่อื่นมาเป็นของตน ผลตอบรับ ประสบความสำเร็จในเชิงยอดขาย แต่ เมื่อมีผู้ท้าชิง เจ้าถิ่นหรือจะยอม เราชกเขา เขาก็เตะเรา พลัดกันชก-ผลัดกันเตะ ผลที่ได้คือ มาร์จิ้น สาละวันเตี้ยลง ไอ้เราก็มาคิดว่าเป็นเพราะอะไร
คำตอบที่ได้คือ กรรมใดใครสร้าง กรรมนั้นย่อมตามสนอง ไอ้เราไปเปิดศึกด้านราคานี่หว่า ยอดขายเพิ่ม มาร์จิ้นลดลง กำไรสุทธิเท่าเดิม (เหนื่อยกว่าเดิม) นายN ก็เลยมาคิด เราหวังและต้องการอะไรในธุรกิจ กำไร หรือ ยอดขาย
ในเมื่อเราต้องการกำไร โจทย์ที่ต้องตีให้แตกคือ ทำอย่างไร ยอดขายเพิ่ม โดยที่มาร์จิ้น ต้องเพิ่มด้วย
หลังจากนั้นนายN ก็ได้ไปสมัครฝึกปรือวิชากับอาจารย์หลายสำนัก มีอาจารย์อยู่หลายคน คำภีร์ฝึกยุทธ์ หลาย10เล่ม ได้ข้อสรุปมาว่า
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
โพสต์ที่ 2
1.กลยุทธ์ส่วนแบ่งการตลาด ไม่ได้สร้างผลกำไรให้ดีขึ้นเสมอไปในสถานการณ์ทั่วๆไป
2.กลยุทธ์การตลาดยุคใหม่จะต้องเป็นแบรนด์อันดับ1ในใจผู้บริโภคเท่านั้น
3.สร้างแบรนด์ อันดับ1ในใจผู้บริโภคเท่านั้น(ถ้าเขาคิดถึงสินค้าหรือบริการตัวนั้นๆ ให้เขานึกถึงเราเป็นอันดับแรก)
4.ต้องหาจุดยืน และจุดแข็งให้กับธุรกิจของเราเอง(เพื่อป้องกันไม่ให้ รายอื่นๆ เข้ามาโดยง่าย) เปรียบเสมือนการทอผ้าโบราณผืนหนึ่ง ที่ถักทอเป็นลวดลายที่บุคคลอื่นไม่สามารถลอกเลียน ถอดแบบได้โดยง่าย ยิ่งมีด้ายยืน ด้ายพุ่ง หลากด้าน หลายสี มากเท่าใด ยิ่ง เลียนแบบได้ยากเท่านั้น
5.หลักกลยุทธ์ ค้นหาลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง เริ่มจาก ต้องส่วนย่อยที่เรียกว่าด้าย ด้ายทุกสีที่นำมาต้องถักทอเป็นอันดับ1เท่านั้น
การลดราคาสินค้าก็เปรียบเสมือนการทำผ้าสีพื้น ซึ่งเรามีเพียงกลยุทธ์เดียวในการทำธุรกิจ เราไม่สามารถป้องกันคู่แข่งขันได้เด็ดขาด เพียงแต่เขาค้นหาผ้าแหล่งเดียวกับเราได้เมื่อไหร่ เขาก็ทำผ้าแบบเดียวกับเราได้เช่นกัน ธุรกิจเราก็อยู่ไม่นาน
การตลาดยุคใหม่ จึงเน้นมาที่niche marget หรือการตอบสนองผู้บริโภคเป็นรายกลุ่มโดยที่ตอบสนองให้เราเป็น1ในใจของผู้บริโภคกลุ่มนั้นๆ และตีวงเลือกด้ายแต่ละสีเข้ามาถักทอให้รวมกันเป็นผืน(แต่ละสีต้องไม่ขัดกันเอง) จากเล็กไปสู่ใหญ่ โดยมาร์จิ้นสูงขึ้น เพราะค่าการจัดการลดลง
ข้อสรุปที่ผ่านมา นายNได้ทำการเลือกด้ายย้อมชั้นเยี่ยมสีต่างๆ โดยการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มโดยไม่เน้นเรื่องราคา ทำมาปีนี้เป็นปีที่5 มาร์จิ้นสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แถมยอดขายเพิ่มกว่า60%เมื่อเทียบกับกับ5ปีที่แล้ว
ก็พอจะสรุปได้ว่า เราควรเริ่มเลือกความเป็นใหญ่ในจุดที่ยังเล็กแล้วสร้างฐานการได้เปรียบให้อยู่กับเรา(ถ้าเขาจะรบกับเรา ต้องรบอยู่บนสมรภูมิที่เราสร้างเท่านั้น)
ส่วนการเลือกลายผ้าก็มีหลายวิธีเช่น
-ด้านบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด
-สร้างแบรนด์เนมที่เรามี แล้วคู่แข่งไม่มีร
-มีการบริการในส่วนที่เขาอยากได้
-สร้างความพึงพอใจในสิ่งที่ๆอื่นไม่มีจนเป็นความเคยตัวของลูกค้า(ในสิ่งที่เราต้องการให้เป็น)จนกลายเป็นความโดดเด่นในสายตาผู้บริโภค
ท้ายสุดก็ขอให้ถึงจุด อย่ายึดติดกับผลกำไร รักษาลูกค้าให้เป็นเพื่อน รับรองยอดมีแต่เพิ่มครับ
2.กลยุทธ์การตลาดยุคใหม่จะต้องเป็นแบรนด์อันดับ1ในใจผู้บริโภคเท่านั้น
3.สร้างแบรนด์ อันดับ1ในใจผู้บริโภคเท่านั้น(ถ้าเขาคิดถึงสินค้าหรือบริการตัวนั้นๆ ให้เขานึกถึงเราเป็นอันดับแรก)
4.ต้องหาจุดยืน และจุดแข็งให้กับธุรกิจของเราเอง(เพื่อป้องกันไม่ให้ รายอื่นๆ เข้ามาโดยง่าย) เปรียบเสมือนการทอผ้าโบราณผืนหนึ่ง ที่ถักทอเป็นลวดลายที่บุคคลอื่นไม่สามารถลอกเลียน ถอดแบบได้โดยง่าย ยิ่งมีด้ายยืน ด้ายพุ่ง หลากด้าน หลายสี มากเท่าใด ยิ่ง เลียนแบบได้ยากเท่านั้น
5.หลักกลยุทธ์ ค้นหาลายผ้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเราเอง เริ่มจาก ต้องส่วนย่อยที่เรียกว่าด้าย ด้ายทุกสีที่นำมาต้องถักทอเป็นอันดับ1เท่านั้น
การลดราคาสินค้าก็เปรียบเสมือนการทำผ้าสีพื้น ซึ่งเรามีเพียงกลยุทธ์เดียวในการทำธุรกิจ เราไม่สามารถป้องกันคู่แข่งขันได้เด็ดขาด เพียงแต่เขาค้นหาผ้าแหล่งเดียวกับเราได้เมื่อไหร่ เขาก็ทำผ้าแบบเดียวกับเราได้เช่นกัน ธุรกิจเราก็อยู่ไม่นาน
การตลาดยุคใหม่ จึงเน้นมาที่niche marget หรือการตอบสนองผู้บริโภคเป็นรายกลุ่มโดยที่ตอบสนองให้เราเป็น1ในใจของผู้บริโภคกลุ่มนั้นๆ และตีวงเลือกด้ายแต่ละสีเข้ามาถักทอให้รวมกันเป็นผืน(แต่ละสีต้องไม่ขัดกันเอง) จากเล็กไปสู่ใหญ่ โดยมาร์จิ้นสูงขึ้น เพราะค่าการจัดการลดลง
ข้อสรุปที่ผ่านมา นายNได้ทำการเลือกด้ายย้อมชั้นเยี่ยมสีต่างๆ โดยการเจาะตลาดเฉพาะกลุ่มโดยไม่เน้นเรื่องราคา ทำมาปีนี้เป็นปีที่5 มาร์จิ้นสูงขึ้นเกือบเท่าตัว แถมยอดขายเพิ่มกว่า60%เมื่อเทียบกับกับ5ปีที่แล้ว
ก็พอจะสรุปได้ว่า เราควรเริ่มเลือกความเป็นใหญ่ในจุดที่ยังเล็กแล้วสร้างฐานการได้เปรียบให้อยู่กับเรา(ถ้าเขาจะรบกับเรา ต้องรบอยู่บนสมรภูมิที่เราสร้างเท่านั้น)
ส่วนการเลือกลายผ้าก็มีหลายวิธีเช่น
-ด้านบริหารต้นทุนให้ต่ำที่สุด
-สร้างแบรนด์เนมที่เรามี แล้วคู่แข่งไม่มีร
-มีการบริการในส่วนที่เขาอยากได้
-สร้างความพึงพอใจในสิ่งที่ๆอื่นไม่มีจนเป็นความเคยตัวของลูกค้า(ในสิ่งที่เราต้องการให้เป็น)จนกลายเป็นความโดดเด่นในสายตาผู้บริโภค
ท้ายสุดก็ขอให้ถึงจุด อย่ายึดติดกับผลกำไร รักษาลูกค้าให้เป็นเพื่อน รับรองยอดมีแต่เพิ่มครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร
-
- Verified User
- โพสต์: 1435
- ผู้ติดตาม: 0
ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
โพสต์ที่ 5
โห คุณ นริศ เยี่ยมจริงๆ เอาสิ่งที่ทำได้แล้วมาพูด
ผมคงต้องขอคำชี้แนะจากคุณ นริศ อีกมากเลย
ผมเพิ่งไปสัมนา กับ บริษัทกระเบื้องห้าห่วงมา เอเย่นต์อีสาน ยอดขายมหาศาล รวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ
ผมคงต้องขอคำชี้แนะจากคุณ นริศ อีกมากเลย
ผมเพิ่งไปสัมนา กับ บริษัทกระเบื้องห้าห่วงมา เอเย่นต์อีสาน ยอดขายมหาศาล รวยๆ ทั้งนั้นเลยครับ
- naris
- Verified User
- โพสต์: 6726
- ผู้ติดตาม: 1
ใหญ่ในเล็ก ดีกว่า เล็กในใหญ่
โพสต์ที่ 10
ผมไม่ได้เก่งอะไรหรอกครับ เพียงแต่รักการอ่าน พยายามจับแนวคิดของแต่ละคน มาประมวลผลเพื่อนำมาปฎิบัติตามเขาแค่นั้นเอง
มีหนังสือไทยไหมครับจะได้ซื้อมาอ่านMuffin เขียน:คล้ายกับหลักการของ blue ocean strategy มากครับ
ราคาระยะสั้นตามข่าว--ราคาระยะยาวตามผลกำไร