โค้ด: เลือกทั้งหมด
ถ้าเห็นหุ้นตัวเองลดลง 50% ไม่ได้ ก็อย่ามาเสนอหน้าในตลาดหุ้น
.............................คำสอน วอร์เรน บัฟเฟต
แต่ไม่เปงไร คิดว่าคงโดนซะ 99 % เลยนะ
โค้ด: เลือกทั้งหมด
ถ้าเห็นหุ้นตัวเองลดลง 50% ไม่ได้ ก็อย่ามาเสนอหน้าในตลาดหุ้น
.............................คำสอน วอร์เรน บัฟเฟต
เคยอ่านบทสัมภาษณ์ผู้บริหารพี่เทพJackJune เขียน:คุณวิบูลย์ คิดว่าท่านเทพจะแปลงร่างแตกพาร์เพื่อให้นักลงทุนเบี้ยน้อยได้มีโอกาศเก็บเกี่ยวเปล่าครับ เคยได้ยินว่าทาง ท่านเทพบอกยังไม่มีแผนแต่ผมว่าอีกสักปีน่าจะมีโอกาสนะ่ครับ ยิ่งถ้า ท่านไฟฟ้าเข้าตลาดมา
อยู่ที่ความเข้าใจและความถนัดรวมทั้งประสบการณ์ของแต่ละคนJackJune เขียน:ผมอ่านหนังสือ แก่นแท้ของอ.บัฟเฟตต์ และเหนือกว่าวอลสตรีท ของ อ. Lynch อ.ปู่จะเน้นในsuper stock ที่มีความแข็งแกร่ง และแน่นอน แต่อ.Lynch บอกว่า การที่จะสร้างผลตอบแทนที่แตกต่าง จะต้องมาจากหุ้น turnaround หุ้นน่าเบื่อ หุ้นเติบโต
จากประสบการณ์ของคุณวิบูลย์
1.ผมเชื่อว่าข้อคิดของ อ.ทั้ง 2 ท่านถูกต้อง แต่ถ้าเรามีเงินลงทุน ประมาณ 1 ล้าน คุณวิบูลย์มีแนวคิดในการจัด port ลงทุนอย่างไร
ข้อผิดพลาดคือเราลงทุนในธูรกิจที่เราไม่เข้าใจอย่างแท้จริงJackJune เขียน:2. เกี่ยวกับการลงทุนหุ้นก้นบุหรี่ของคุณวิบูลย์ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นมีองค์ประกอบอะไรบ้าง เพราะผมเชื่อว่า เหตุผลในการเลือกหุ้นแต่ละตัวของคุณวิบูลย์จะต้องมี margin of safety พอสมควร
ด้วยความยินดีครับJackJune เขียน: ปัจจุบันผมยังไม่มีความมั่นใจในการคัดเลือกหุ้น ยังไม่มีความชำนาญเพียงพอ แต่หวังว่าจะหาแนวทางได้ในระยะเวลาไม่นานนัก ตอนนี้คงต้องสอบถามคุณวิบูลย์เป็นประสบการณ์เรื่อยๆ
มาแก้ให้ครับ เป็นถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 5 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน
40,000 บาทสำหรับพอร์ตของผม มันไม่น้อยน่ะสิครับถ้าอยากจะซื้อจริงๆ
หุ้นราคา 400 บาท พาร์ 5 จำนวน 100 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
กับ
หุ้นราคา 80 บาท พาร์ 1 จำนวน 500 หุ้น มูลค่า 40,000 บาท
ไม่ต่างกันครับ
ดังนั้น คนเบี้ยน้อยก็ซื้อได้ครับที่ราคาปัจจุบัน
แต่ก่อนผมก็คล้ายๆกันคือMonet เขียน:
40,000 บาทสำหรับพอร์ตของผม มันไม่น้อยน่ะสิครับ
ผมมีอยู่ทั้งพอร์ต 100,000 บาท (เงินออมที่รับความเสี่ยงได้)
ตั้งใจจะลงทุนสัก 4 บริษัท
ก็เป็นบริษัทละประมาณ 25,000 บาท
ตอนนี้มีอยู่ 3 ตัวแล้ว มีตัวใหญ่สุดคือ SCC ได้ซื้อ 100 หุ้น
ส่วน PTTEP, TR, TF ก็เลยได้แต่มองดู
กำลังหาตัวที่ 4 อยู่ครับ
ผมว่าที่ราคานี้ก็แล้วแต่"ใจ"ละครับjiras เขียน: เคยแต่อ่านมานาน รบกวนถามคุณวิบูลย์เกี่ยงกับ pttep ในราคาปัจจุบันนี้
คุณวิบูลย์ ยังสะสมเพิ่มหรือไม่ครับ (ผมมีแล้ว 1,000 หุ้น) อยากซื้อเพิ่มถ้า
มีจังหวะครับ
บางบริษัทผมอ่านฟอร์ม 56-1 แล้วยังไม่เข้าใจเลยครับว่าบริษัททำอะไรBelffet เขียน:คำว่า วิเคราะห์บริษัทให้เข้าใจของพี่วิบูลย์เนี่ย ถ้าบริษัทที่ทำธุรกิจหลากหลาย และใหญ่โตอย่าง _ นใ_ญ่ เราก็ต้องเสียเวลามากขึ้นในการทำความเข้าใจใช่มั๊ยครับ แล้วข้อมูลที่มีอยู่ตามเวบไซต์ หรืองบการเงินตามปกติที่เราใช้วิเคราะห์กันอยู่เนี่ยมันเพียงพอสำหรับการทำความเข้าใจเพื่อลงทุนในบริษัทนั้นๆหรือไม่
คิดว่ามีก็มีBelffet เขียน:อีกอย่างพี่เห็นด้วยแค่ไหนกับคำพูดที่ว่า "หาหุ้นที่คุณคิดจะกอดไปจนตายให้เจอ" ในตลาดมันมีอะไรที่แน่นอนขนาดนั้นเลยหรือครับ
ผมว่าเราอาจจะเข้าใจคำว่า "Scuttlebutt" กันคลาดเคลื่อนBelffet เขียน:
แต่มีรุ่นน้องผมคนหนึ่งได้คาบข้อมูลบางอย่างมาครับ เพราะเขาทำงานอยู่กับองค์กรนั้น พบว่า การบริหารงานมีหลายอย่างไม่ชอบมาพากล ผู้บริหารดูแล้วไม่โปร่งใส มีนอกมีใน รวมถึงบรรยากาศของพนักงานดูไม่ค่อยรักในองค์กรมากนัก การ Turnover ของพนักงานค่อนข้างเยอะมาก
ข้อมูลแบบนี้ เราหาไม่ได้จากการ Scattlebut นี่ครับ การ Scattlebut อาจกลายเป็นกับดักกับนักลงทุนก็ได้ในกรณีดังกล่าว
ไม่รู้เหมือนกันครับว่าควรจะทำยังไงดีBelffet เขียน: แม้แต่การทำ Company Visit ก็อาจไม่ได้ข้อมูลจำพวกนี้ ซึ่งเป็นเรื่องวงในของบรรดาพนักงานและผู้บริหารจริงๆ
ทีนี้ในนามผู้ลงทุนรายย่อยอย่างเราจะทำยังไงดีครับ ในเมื่อภายนอกมันดูโอเค แต่ภายในที่เราไม่รู้ (หรือรู้ได้ยาก) เราจะไปทราบได้ยังไงหากไม่มีผู้คลุกคลีอยู่ภายในมาบอก
8) first man on the moonVIB007 เขียน: ใครไม่ทราบอายุผม บอกให้ก็ได้ว่า
ผมเกิดปีเดียวกับที่ นิล อาร์มสตรองค์เหยียบดวงจันทร์ (ถ้าเหยียบจริง)
แถมเดือนเดียวกันอีกต่างหาก
ถ้ายังไม่ทราบก็ใบ้อีกหน่อย
คือ ผมกับคุณมนตรีเกิดปีเดียวกัน