ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
โพสต์ที่ 1
แทบไม่เคยอ่านบทวิเคราะห์เลย เลือกหุ้นตามหลักการ ที่ศึกษาเองทั้งหมดทั้งทางเทคนิคและพื้นฐาน แต่ผมจะถามถึงบทวิเคราะห์ที่โบรคออกกันมา(เอาที่วิเคราะห์สภาพบริษัท) ดังนี้ครับ
1. วิธีการน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ เหมือนกับที่คุยกันในกระทู้ตะแกงร่อนไหมคือ หา intrinsic value หรือไม่ครับ
2. เวลาอ่านควรเน้นจุดไหน(ที่น่าเชื่อถือที่สุด)
3. มีบทวิเคราะห์ที่วิจารณ์ว่า มีแนวโน้มแย่ลงบ้างไหมครับ น่าเชื่อถือไหม?
4. ถ้าหลายโบรควิเคราะห์พร้อมๆกัน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ท่านใช้อะไรตัดสินใจ ทั้งกรณีที่วิเคราะห์ต่างหรือเหมือนกัน
5. ช่วยสรุปด้วยครับว่า คุ้มค่าในการหามาอ่านไหมครับ
ขอบคุณครับ
1. วิธีการน่าเชื่อถือแค่ไหนครับ เหมือนกับที่คุยกันในกระทู้ตะแกงร่อนไหมคือ หา intrinsic value หรือไม่ครับ
2. เวลาอ่านควรเน้นจุดไหน(ที่น่าเชื่อถือที่สุด)
3. มีบทวิเคราะห์ที่วิจารณ์ว่า มีแนวโน้มแย่ลงบ้างไหมครับ น่าเชื่อถือไหม?
4. ถ้าหลายโบรควิเคราะห์พร้อมๆกัน ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน ท่านใช้อะไรตัดสินใจ ทั้งกรณีที่วิเคราะห์ต่างหรือเหมือนกัน
5. ช่วยสรุปด้วยครับว่า คุ้มค่าในการหามาอ่านไหมครับ
ขอบคุณครับ
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2035
- ผู้ติดตาม: 0
ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
โพสต์ที่ 2
ผมขอตอบคำถามนี้แล้วกันครับ
ในฐานะที่เคยอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก
ผมคิดว่า
แต่ละโบรกก็มีวิธีการของแต่ละคน
เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง
แล้วแต่มุมมองของนักวิเคราะห์แต่ละคน
ต่อธุรกิจนั้นๆ
ส่วนใหญ่ผมจะอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก
ก่อนลงทุนทุกครั้ง
แต่ผมไม่เชื่อหมดหรอกครับ
เราเลือกสิ่งที่เราไม่รู้ ข่าววงใน
มาช่วยในการตัดสินใจของเรา
มากกว่าที่จะตัดสินใจตามที่โบรกแนะนำ
ถ้าอยากเห็นภาพชัด
ว่าทำตามโบรกแล้วเป็นอย่างไร
ผมแนะนำให้ลองดึงข้อมูลย้อนหลัง
การวิเคราะห์ของโบรกที่ใช้อยู่
เกี่ยวกับปูนซิเมนต์ไทยมาดู
ผมดูบทวิเคราะห์ของโบรกของผมแล้วครับ
ย้อนหลังประมาณสามปี
จะพบว่า
ทุกสามเดือน
เขาจะเชียร์ให้ซื้อหรือถือหรือขาย
หุ้นของบริษัทปูนซิเมนต์ไทยตลอดเวลา
ไตรมาศนี้ถือ
ไตรมาศนี้ขาย
ผมอ่านแล้วผมยังขำจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย
เอาง่ายๆ
ถ้าคุณUttoซื้อหุ้นปูนซิเมนต์ไทยเมื่อสามปีที่แล้ว
ราคาประมาณ 300 บาท
แล้วถือไว้ ไม่ยอมขาย
ตามแรงเชียร์ของโบรก
ถึงวันนี้
ราคาหุ้นก่อนแตกพาร์
จะเท่ากับ 1,700 บาท
ลองคิดดูว่าคุณUttoจะมีกำไรเท่าไหร่
ขณะที่โบรกของคุณUtto จะอดอยากปากแห้งแค่ไหน
ใครคิดว่า Value Investing
ใช้กับตลาดเมืองไทยไม่ได้
ผมให้โอกาสกลับไปคิดใหม่ครับ
ส่วนจะเชื่อบทวิเคราะห์ของโบรกหรือไม่
ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละท่านครับ
ถ้าท่านไม่อยากเห็นโบรกของท่านเจ๊ง
ก็ทำตามบทวิเคราะห์ของโบรกได้ครับ
ส่วนผม ผมเชื่อตัวเองกับเชื่อบริษัทที่ผมจะลงทุนครับ
ในฐานะที่เคยอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก
ผมคิดว่า
แต่ละโบรกก็มีวิธีการของแต่ละคน
เหมือนกันบ้าง ต่างกันบ้าง
แล้วแต่มุมมองของนักวิเคราะห์แต่ละคน
ต่อธุรกิจนั้นๆ
ส่วนใหญ่ผมจะอ่านบทวิเคราะห์ของโบรก
ก่อนลงทุนทุกครั้ง
แต่ผมไม่เชื่อหมดหรอกครับ
เราเลือกสิ่งที่เราไม่รู้ ข่าววงใน
มาช่วยในการตัดสินใจของเรา
มากกว่าที่จะตัดสินใจตามที่โบรกแนะนำ
ถ้าอยากเห็นภาพชัด
ว่าทำตามโบรกแล้วเป็นอย่างไร
ผมแนะนำให้ลองดึงข้อมูลย้อนหลัง
การวิเคราะห์ของโบรกที่ใช้อยู่
เกี่ยวกับปูนซิเมนต์ไทยมาดู
ผมดูบทวิเคราะห์ของโบรกของผมแล้วครับ
ย้อนหลังประมาณสามปี
จะพบว่า
ทุกสามเดือน
เขาจะเชียร์ให้ซื้อหรือถือหรือขาย
หุ้นของบริษัทปูนซิเมนต์ไทยตลอดเวลา
ไตรมาศนี้ถือ
ไตรมาศนี้ขาย
ผมอ่านแล้วผมยังขำจนถึงทุกวันนี้อยู่เลย
เอาง่ายๆ
ถ้าคุณUttoซื้อหุ้นปูนซิเมนต์ไทยเมื่อสามปีที่แล้ว
ราคาประมาณ 300 บาท
แล้วถือไว้ ไม่ยอมขาย
ตามแรงเชียร์ของโบรก
ถึงวันนี้
ราคาหุ้นก่อนแตกพาร์
จะเท่ากับ 1,700 บาท
ลองคิดดูว่าคุณUttoจะมีกำไรเท่าไหร่
ขณะที่โบรกของคุณUtto จะอดอยากปากแห้งแค่ไหน
ใครคิดว่า Value Investing
ใช้กับตลาดเมืองไทยไม่ได้
ผมให้โอกาสกลับไปคิดใหม่ครับ
ส่วนจะเชื่อบทวิเคราะห์ของโบรกหรือไม่
ก็แล้วแต่วิจารณญานของแต่ละท่านครับ
ถ้าท่านไม่อยากเห็นโบรกของท่านเจ๊ง
ก็ทำตามบทวิเคราะห์ของโบรกได้ครับ
ส่วนผม ผมเชื่อตัวเองกับเชื่อบริษัทที่ผมจะลงทุนครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
โพสต์ที่ 3
ขอบคุณครับ พี่VB ที่แนะนำครับ ผมจะลองหามาอ่านประกอบดูบ้างแล้วครับ แต่ส่วนใหญ่บริษัทที่ผมเลือกไว้ ไม่ค่อยจะมีคนวิเคราะห์เท่าไร แต่ส่วนตัวผมมีอคติกับบทวิเคราะห์ของโบรค เพราะผลประโยชน์ทับซ้อน (conflict of interest) ซึ่งถ้าจำไม่ผิดบ้านเรายังมีช่องโหว่ ของกฎหมายอยู่ในเรื่องนี้ อาจจะจะเชียร์ให้ซื้อหุ้นของ ลูกค้ารายใหญ่ (เจ้ามือ) มากกว่าแต่ก็เป็นแค่อคติส่วนตัวไม่มีหลักฐาน
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
โพสต์ที่ 4
ผมก็อ่านอยู่บ้าง แต่ไม่รู้เป็นไร ผมกลับสนใจแต่บริษัทที่ไม่มีที่ไหนวิเคราะห์ถึงเลย อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยมีใครรู้จักบริษัทเหล่านั้นมั๊ง ราคาเลยถูกกว่าปัจจัยพื้นฐาน ก็มีบริษัทในตลาดตั้ง 410 บริษัทแนะ แต่ถ้าดูวันละบริษัทก็เกือบครบเนอะ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามทุกท่านที่อ่านบทวิเคราะห์ครับ
โพสต์ที่ 5
สำหรับบทวิเคราะห์ของโบรกเกอร์นี่อ่านได้ครับ ส่วนที่เป็นประโยชน์ก็พอมี เราดูว่าเขาวิเคราะห์เชิงคุณภาพออกมาอย่างไร ซึ่งที่จริงจะมีผลต่อจิตวิทยากับนักลงทุนพอควร ดูความน่าจะเป็นต่อการวิเคราะห์ของเขาเทียบกับของเราด้วยครับ ราคาเป้าหมายที่เขาให้ไว้มักเป็นราคาในระสั้นๆไม่เกินหนึ่งปี สังเกตุว่าจะใช้คำว่าราคาเป้าหมายในระยะหนึ่งปี หรือบางทีให้ราคาเอาไว้ก่อนแล้วจะupdateทีหลัง
สิ่งสำคัญอย่าลืมว่านักวิเคราะห์เหล่านั้นเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ไม่ใช่นักวิเคราะห์ธุรกิจครับ เขาจะมองว่าหุ้นเป็นหลักทรัพย์ไม่ได้มองเป็นส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของในกิจการ เขาก็มักบอกให้ซื้อๆขายๆ เขาก็ได้คอมมิสชั่น เราก็ได้ผลตอบแทน
สำหรับผมจะอ่านบทวิเคราะห์เสมือนเราเป็นเจ้าของกิจการ เราจะรู้สึกได้ว่าบริษัทของเราเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า แล้วเราจะได้คำตอบสำหรับตัวเอง
ผมอยากเล่าอีกอย่างหนึ่ง ผมเคยศึกษาธุรกิจหนึ่งที่ออกจากตลาดไปแล้ว ผมดูงบย้อนหลังหลายปี พบข้อมูลน่าสนใจหลายอย่าง แล้วโทรคุยกับนักวิเคราะห์ว่าบริษัทนี้น่าจะเตรียมถูกtake over แน่ๆแต่นักวิเคราะห์สาวสวยบออกว่าผมคิดมากไป หลังจากนั้นอีก5เดือนเป็นไปตามที่ผมคิดจริงๆด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่บริษัทที่กำลังเติบโต มีเงินสดมากมาย แต่ไม่ลงทุนทำอะไรเลย ถ้าเราป็นเจ้าของคงไม่ปล่อยไว้อย่างนั้นแน่ จริงไหมครับ
สิ่งสำคัญอย่าลืมว่านักวิเคราะห์เหล่านั้นเป็นนักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ไม่ใช่นักวิเคราะห์ธุรกิจครับ เขาจะมองว่าหุ้นเป็นหลักทรัพย์ไม่ได้มองเป็นส่วนแบ่งความเป็นเจ้าของในกิจการ เขาก็มักบอกให้ซื้อๆขายๆ เขาก็ได้คอมมิสชั่น เราก็ได้ผลตอบแทน
สำหรับผมจะอ่านบทวิเคราะห์เสมือนเราเป็นเจ้าของกิจการ เราจะรู้สึกได้ว่าบริษัทของเราเป็นอย่างนั้นจริงหรือเปล่า แล้วเราจะได้คำตอบสำหรับตัวเอง
ผมอยากเล่าอีกอย่างหนึ่ง ผมเคยศึกษาธุรกิจหนึ่งที่ออกจากตลาดไปแล้ว ผมดูงบย้อนหลังหลายปี พบข้อมูลน่าสนใจหลายอย่าง แล้วโทรคุยกับนักวิเคราะห์ว่าบริษัทนี้น่าจะเตรียมถูกtake over แน่ๆแต่นักวิเคราะห์สาวสวยบออกว่าผมคิดมากไป หลังจากนั้นอีก5เดือนเป็นไปตามที่ผมคิดจริงๆด้วย มันไม่มีเหตุผลเลยที่บริษัทที่กำลังเติบโต มีเงินสดมากมาย แต่ไม่ลงทุนทำอะไรเลย ถ้าเราป็นเจ้าของคงไม่ปล่อยไว้อย่างนั้นแน่ จริงไหมครับ