งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 1

โพสต์

ตามข้อเสนอของท่านพี่เจ๋ง

เรามาช่วยกันเลือกหุ้น 10x10x10 กันหน่อยครับ เสนอเข้ามาได้เลย
พร้อมเหตุผลประกอบ

เป้าหมายคือ การหาหุ้น 10 ตัว ที่ให้ผลตอบแทนมากกว่า 10 เท่า
ภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปี!

หรือตกปีละ > 26% โดยเฉลี่ย

ส่วนการวัดผลตอบแทน ก็เสนอเข้ามาได้ครับ ว่าจะวัดจาก
ราคาหุ้น ปันผล ผลประกอบการ หรือ ROI ของการถือหุ้นแบบ
reinvested dividend

แล้วอีก 10 ปี เรามาดูกันว่า หุ้นที่เราเลือกเหล่านี้
สามารถสร้างความมั่งคั่งให้กับผู้ถือหุ้นหรือไม่
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 2

โพสต์

10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ

ขอไปคิด(และซื้อ)ก่อนครับ :lol:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 3

โพสต์

>>> PCC

อืม บริษัทพี่เอง

อะ

ล้อเล่น ขอไปคิดก่อนนะ
qingwen
Verified User
โพสต์: 487
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 4

โพสต์

Jeng เขียน:>>> PCC

อืม บริษัทพี่เอง

อะ

ล้อเล่น ขอไปคิดก่อนนะ
PCC นี่บริษัทคุณกบหรือเปล่า
jiras
Verified User
โพสต์: 558
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 5

โพสต์

เสนอ HMPRO ครับวัดกันที่ราคาหุ้นครับ
วันนี้ 7.65 อีก 10 ปี 76.50 :idea:
booklover
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 1063
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 6

โพสต์

ticon พอไหวไหมครับ ปันผล 10% growth สัก 15-20%  :P
ภาพประจำตัวสมาชิก
songpon.s
Verified User
โพสต์: 134
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 7

โพสต์

SE-ED ครับ  ( หวังว่า  )
 เหตุผล ก็ ดูในร้อยคนร้อยหุ้นได้เลยครับ  :D
007s
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 8

โพสต์

ลูกอิสาน เขียน:10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ
อ่านตอนแรก กะเตรียมมาลอกเต็มที่ :oops:  :oops:  :oops:


[/quote]ขอไปคิด(และซื้อ)ก่อนครับ

อ่านบรรทัดสุดท้าย เลยต้องรีบไปคิด(และซื้อ)ก่อนเอง มั่ง  :wall:  :wall:  :wall:

..
007s
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 9

โพสต์

โอ้ยอาย ทำQuote ผิดอีกแว้ว :wall:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 10

โพสต์

007s เขียน:
อ่านตอนแรก กะเตรียมมาลอกเต็มที่ :oops:
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
007s
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 11

โพสต์

[quote="ลูกอิสาน"][quote="007s"][quote="ลูกอิสาน"]10 เด้ง :shock: เลยเหรอท่านพี่ :lol:

-น่าจะเป็นหุ้นขนาดเล็ก
-อยู่ในระยะเติบโต อุตสาหกรรมที่ขยายตัวอย่างมาก
-หรือกำลังเกิดจุดเปลี่ยนกับธุรกิจ


:D
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 12

โพสต์

ผมหมายถึงทั่วๆไปครับ :D  ไม่ได้เจาะจงหุ้นตัวใดตัวนึง

-หุ้นขนาดเล็ก มีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่าหุ้นขนาดใหญ่ เราจะคาดหวังให้ยอดขาย ptt advance bbl เติบโต 10 เท่า ภายใน 10 ปี มีโอกาสน้อยมากครับ

-หุ้นที่อยู่ในอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโต เช่น ยานยนต์ เครื่องปรับอากาศ ฮาร์ดดิสก์ ท่องเที่ยว ค้าปลีก น่าจะมีโอกาสที่กำไร-ยอดขายจะสูงขึ้น มากกว่าหุ้นในอุตสาหกรรมดาวร่วง เช่น กุ้งแช่แข็ง สิ่งทอ รองเท้า เครื่องหนัง

-หุ้นที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ อาจเกิดจากตัวกิจการเอง หรือวัฎจักรของอุตสาหกรรม




ส่วนหุ้นที่ผมพูดถึง อย่าเพิ่งเดานะครับ
ขอให้ผมไปทบทวน ทำการบ้านก่อน
มันอาจจะไม่ดีอย่างที่คาดหวังไว้ก็ได้
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
007s
Verified User
โพสต์: 36
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 13

โพสต์

:D
thaistock2005
Verified User
โพสต์: 424
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 14

โพสต์

หุ้น super stock ในมือผมคือ tr
ติดที่บริษัทเขาจ่ายปันผลน้อยมาก
qingwen
Verified User
โพสต์: 487
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 15

โพสต์

ผมเสนอ s2y เข้าประกวดครับ
ราคาสูงสุด 10.10 วันเข้าตลาด น่าจะมีโอกาสเหลือ 1 บาทหรือต่ำกว่า
เผลอๆ 20 เท่าเอานะครับ ถ้าซื้อตอนต่ำสุดแล้วรอมันวิ่งกลับไปใหม่
对不起,请问一下.
存货是什么意思 ?
CK
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 9795
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 16

โพสต์

qingwen เขียน:ผมเสนอ s2y เข้าประกวดครับ
ราคาสูงสุด 10.10 วันเข้าตลาด น่าจะมีโอกาสเหลือ 1 บาทหรือต่ำกว่า
เผลอๆ 20 เท่าเอานะครับ ถ้าซื้อตอนต่ำสุดแล้วรอมันวิ่งกลับไปใหม่
หรือไม่ก็โดนดีลิสต์ไปเลยครับ :lol:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 17

โพสต์

ส่วนตัวผมคิดว่าหุ้นที่มีศักยภาพ
ที่จะให้ผลตอบแทน 1,000 % ภายใน 10 ปี
คือ SCNYL หรือ ไทยพานิชญ์นิวยอร์คไลท์ครับ

ต้องยกเครดิตให้คุณ worapong ครับ ที่ทำให้ผมรู้จักบริษัทนี้ :D



ที่ว่าน่าสนใจ ประเด็นหลักๆ เป็นดังนี้ครับ

1.ธุรกิจกำลังถึงจุดเปลี่ยน อย่างหน้ามือเป็นหลังเท้า

2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 18

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558
:shock:  :shock:  :shock:

เปงไปได้ไง
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 19

โพสต์

ขอขยายความนะครับ ว่าจะเป็นไปได้อย่างไร
และผมเชื่อตามข้อสมมุติฐานนะ
ซึ่งอาจจะเป็นหรือไม่เป็นอย่างนั้นก็ได้
ดังนั้นฟังหูไว้หูนะครับ

คุณ worapong หรือเพื่อนๆท่านใดมีความรู้ด้านนี้และต้องการเสริมหรือแย้ง
ก็ยินดีมากครับ


SCNYL เป็นบริษัทประกันชีวิตแห่งเดียวในตลาดหลักทรัพย์(ไม่แน่ใจนะ) เกิดจากการร่วมทุนระหว่างธนาคารไทยพานิชย์และกลุ่มนิวยอร์คไลท์ บริษัทประกันชีวิตกลุ่มที่ใหญที่สุดในสหรัฐอเมริกา

1.ธุรกิจถึงจุดเปลี่ยน ทุกท่านอาจจะทราบนะครับ ในอดีตธุรกิจประกันชีวิตต้องแข่งขันกันที่ทีมขาย พนักงานขาย ใครจะเข้ามาในธุรกิจนี้ ต้องมีการทุ่มเงินดึงทีมขายเก่งๆ เข้ามา ทำให้คนขายหรือทีมขายเก่งๆ ได้รับผลตอบแทนสูงมาก เช่นคุณ กฤษณะ    หรือของ AIA ก็จะมีทัพและภาคต่างๆมากมาย

แต่ปีที่แล้วเกิดจุดเปลี่ยน เพราะหลังจากธนาคารแห่งประเทศไทยอนุญาติให้ธนาคารพานิชย์ สามารถทำธุรกรรมเป็นนายหน้าขายประกันได้ เรียกว่า Bancassurance เพื่อให้ธนาคารเป็น universal banking อย่างแท้จริง หลายธนาคารก็เริ่มทำธุรกิจนี้ แต่ธนาคารที่เอาจริงเอาจังที่สุด คือธนาคารไทยพานิชย์ และทำได้ดีอย่างเหลือเชื่อ สร้างความตกตะลึงให้วงการประกันชีวิต โดยในปีที่แล้ว SCNYL สามารถทำเบี้ยประกันชีวิตปีแรกได้ประมาณ 4,300 ล้านบ. (โดย 90% เป็นเบี้ยที่ขายผ่านสาขาธนาคาร) กระโดดขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ทันที เป็นรองแค่ AIA และไทยประกันชีวิตเท่านั้น ทั้งที่เพิ่งเริ่มธุรกิจนี้ได้ 1-2 ปีเท่านั้น

มีหลายสาเหตุที่ทำให้ Bancassurance ประสบความสำเร็จ

1. ไม่ต้องสร้างทีมขายหรือทุ่มเงินดึงนักขายเก่งๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในธุรกิจประกัน แต่ได้พนักงานขายซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารทันทีนับหมื่นคน

2.พนักงานเหล่านี้ไม่ต้องวิ่งหาลูกค้า แต่มีลูกค้าเข้ามาหาทุกวัน วันละหลายหมื่นคนผ่านสาขาธนาคารทั้งประเทศ สาขาเหล่านี้เปลี่ยนเป็นสำนักงานขายทันทีกว่า 600 แห่ง

3.ฐานลูกค้าจากธนาคารจำนวนมาก ที่เป็นกลุ่มเป้มหมายในการขายประกัน เช่นฐานลูกค้าเงินฝาก ฐานลูกค้าสินเชื่อรายใหญ่ ฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อย ,ฐานลูกค้าผ่อนบ้าน (ลูกค้าต้องซื้อประกันการผ่อนบ้านหรือที่เรียกว่า credit life)นอกจากนี้ไทยพานิชย์ ยังมีฐานลูกค้าผ่านผู้ถือหุ้น เช่น บริษัทปูนซิเมนต์ไทย  ฐานลูกค้าผ่อนรถ(SPL auto) ของสยามพานิชย์ลิสซิ่ง  ไทยพานิชย์มีฐานลูกค้าสินเชื่อซื้อบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศ (ไม่รวมธ.อ.ส.) และเน้นขยายสาขาถึงประมาณ 60% ต่อปี เพื่อเข้าถึงรายย่อยให้มากที่สุด

4.ความน่าเชื่อถือ ไม่เหมือนธุรกิจประกันภัย ที่แข่งขันกันที่เบี้ยประกันว่าใครเสนอราคาต่ำ แต่ธุรกิจประกันชีวิต เป็นการฝากอนาคตในระยะยาว ดังนั้นความน่าเชื่อถือเป็นสิ่งที่สำคัญ และไทยพานิชย์ซึ่งเป็นธนาคารที่แข่งแกร่งที่สุดในประเทศ ก็คือความได้เปรียบ นอกจากนั้นหากมีปัญหาอะไร ก็สามารถไปติดต่อชำระค่าเบี้ยประกันได้ทันทีที่สาขาธนาคาร  ไม่เหมือนการซื้อประกันจากตัวแทน ที่ชำระเบี้ยได้ 1-2 ปี ตัวแทนก็หายคือเลิกทำไปซะแล้ว

5.การเป็นพันธมิตรร่วมกับธนาคารอาคารสงเคราะห์ ซึ่งมีพอร์ตลูกค้าผ่อนบ้านใหญ่ที่สุดในประเทศขายประกันชีวิต credit life
..
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 20

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Code: 
2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 


     

เปงไปได้ไง
ถามต่ออีกรอบ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 คำนวณอย่างไร
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 21

โพสต์

ประเภทของเบี้ยประกันหลักๆ

1.เบี้ยประกันสามัญ ที่เราคุ้นเคยกันดี ทั้งแบบสะสมทรัพย์และไม่สะสมทรัพย์ เป็นเบี้ยที่ผู้เอาประกันต้องจ่ายเบี้ยทุกปีตามเงื่อนใข อาจจะเป็น 7 ปี 10 หรือ 20 ปี เบี้ยประเภทนี้บริษัทต้องการมาก ถึงมากที่สุด เพราะผูกมัดให้ผู้ประกันตนต้องชำระเบี้ยทุกปี  ดังนั้นหากมีเบี้ยประเภทนี้ปีแรก 4,000 ล้าน เท่ากับว่าผู้ประกันต้องชำระเบี้ยอย่างต่ำ 28,000 ล้าน (สมมุติว่าชำระเบี้ยแค่ 7 ปี)  ดังนั้นหากบริษัทประกันมีเบี้ยประกันปีแรก 4,000 ล้าน ติดต่อกันแค่ 10 ปี จะมีรายได้เข้ามาถึง 280,000 ล้าน ตลอดช่วงเวลาการชำระเบี้ย  (เบี้ยประกันรวมจะทบขึ้นทุกปีเพราะรับทั้งเบี้ยใหม่และเบี้ยเก่าในปีก่อนๆ)

2.เบี้ยประกันชำระครั้งเดียวหรือ single premium เป็นการชำระเบี้ยครั้งเดียว และคุ้มครองตลอดอายุกรรมธรรม์ หากเป็นประกันคุ้มครองการผ่อนบ้านเรียกว่า credit life  นอกจากนั้นยังมีประกันคุ้มครองการผ่อนรถด้วย

ปีที่แล้ว SCNYL มีเบี้ยปีแรก 4,300 ล้าน เป็นเบี้ยสามัญประมาณ 65% และเบี้ยชำระครั้งเดียวประมาณ 35%  ส่วนปีนี้คาดว่าจะมีเบี้ยปีแรกประมาณ 4,500 ล้าน แบ่งเป็นเบี้ยสามัญ และเบี้ยชำระครั้งเดียว 50: 50

ส่วนปีต่อๆไปเราสมมุติให้ SCNYL มีเบี้ยปีแรก 4,000 ล้านทุกปี และสัดส่วนเบี้ยประกันอย่างละ 50:50

เบี้ยรับทั้งหมด(ทั้งปีแรก+ปีก่อนๆ)รวมเรียกว่าเบี้ยประกันรวม ซึ่งยังไม่หักค่าใช้จ่าย ดังนั้นต้องหักออกก่อน ถึงจะได้รับเบี้ยสุทธิที่จะนำไปลงทุน ซึ่งเป็นรายได้หลักของธุรกิจประกัน

จะไปดูกันว่าธุรกิจประกันชีวิตมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
อองตวน
Verified User
โพสต์: 320
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 22

โพสต์

10% ของเบี้ยthaire ก็เป็นประกันชีวิตฮะ
jiras
Verified User
โพสต์: 558
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 23

โพสต์

การจะได้ 4,000 ล้านทุกปีไม่ง่ายนะครับ เพื่อนผมอยู่ไทยพาณิชย์เล่าให้ฟังเรื่องให้พนักงานช่วยขายประกัน มันคงได้แค่ปีแรกๆเท่านั้น ปีต่อๆไปคงต้องหาช่องทางอื่นเพิ่มแล้วบริษัทอื่นเค้าจะไม่ปกป้องมาร์เก็ตแชร์เหรอครับ :idea:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 24

โพสต์

ตัวเลข 140,000 ล.แต่คิดแบบอนุรักษ์นิยมขอลดเป็น 130,000 ล้าน
โดยที่ 130,000 ล้าน เป็นตัวเลขสุทธิที่หักค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินแล้ว ไม่ใช่เบี้ยรับรวมซึ่งจะสูงกว่ามาก

ค่าใช้จ่ายที่เป็นตัวเงินในธุรกิจประกัน

1.ค่าคอมมิสชั่น คิดปีแรก 30% ของเบี้ยและคิด 20% 10% และ 5% ในปีที่ 4 ซึ่งเป็นปีสุดท้ายที่ต้องจ่ายค่าคอม

2.อัตราการจ่ายสินไหมทดแทน รวมถึงการจ่ายปันผล ประมาณ 30% ของเบี้ยรับแต่ละปี

3.ค่าใช้จ่ายในการประกัน กรณี AIA ประมาณ 5% ของเบี้ยรับ แต่ SCNYL มีขนาดเล็กกว่าคิดที่ 8% ของเบี้ยรับ

นอกจากนั้นยังมีอัตราส่วนที่จะทำให้เบี้ยประกันรับลดลง คืออัตราการต่อประกัน เนื่องจากจะมีลูกค้าบางส่วนที่ไม่ส่งเบี้ยประกันในปีถัดไป ตัวเลขส่งประกันเฉลี่ยทั่วไปของบริษัทประกันชีวิตคือ 90% ดังนั้นหากคิดลดด้วยอัตราการต่อประกัน (renewal) ทุกปี ในปีที่ 7 จะมีลูกค้าที่ส่งครบ 7 ปีประมาณ 53 คนจาก 100 คนในปีแรก


ทุกบริษัทประกันชีวิตขาดทุนจากกิจกรรมประกันชีวิต แต่มีรายได้หลักจากการนำเบี้ยประกันที่ยังไม่ถึงกำหนดทดแทนสินใหม-ชำระคืน ไปหาดอกผล ส่วนใหญ่จะนำไปลงทุนในพันธบัตร หุ้นกู้เอกชน และส่วนน้อยในหุ้น  จากตัวเลขเฉลี่ยบริษัทประกันชีวิตจะมีกำไรสุทธิเป็น 50% ของรายได้จากกิจกรรมการลงทุน หาก SCNYL มีเงินทุน 130,000 นำไปลงทุนได้ดอกเบี้ย 5% หรือ 6,500 ล้านบาท (ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น 1% ทำให้รายได้เพิ่ม 1,300 ล้าน) ดังนั้นจะมีกำไรประมาณ 3,300 ล้าน

บริษัทมีหุ้น 66 ล้านหุ้น จะได้กำไรต่อหุ้นเท่ากับ 50 บาท
ให้ เทรดที่พีอี 10 เท่าเพื่อสะท้อนความแข็งแกร่ง จะได้ราคาหุ้นในปี 2558 ประมาณ 500 บ./หุ้น หรือ 10 เท่าตัวจากวันนี้



เดี๋ยวไปดูความเสี่ยง...
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 25

โพสต์

ไม่มีหุ้นตัวใดในโลก ไม่มีความเสี่ยง
มากน้อยแตกต่างกันไปตัวนี้ก็เช่นกัน

1.ความเสี่ยงของเบี้ยประกันรับปีแรก ซึ่งจะกำหนดเบี้ยในปีต่อๆไป ต้องยอมรับว่าเบี้ยปีแรก 4,000 ล้าน เป็นปริมาณที่สูงมาก ติด 1 ใน 4 ทั้งที่บริษัทเพิ่งเริ่มธุรกิจไม่นาน เปรียบเทียบกับเจ้าตลาดที่ทำตลาดมาก่อนหลายสิบปี

ประเด็นที่ทำให้เบี้ยปีแรกลด..
-ฐานลูกค้าขายประกันลดลง คือที่มีอยู่ก็ซื้อประกันไปหมดแล้ว ประเด็นนี้เป็นเรื่องจริงแน่นอน แต่ผมคิดว่าในระยะยาว เบี้ยประกันปีแรกปีละ 2-3 พันล้าน ก็นับว่าสูงอยู่ดี
-ธนาคารแลนแอนด์เฮ้า จะแย่งลูกค้าไปบางส่วน เพราะปัจจุบันลูกค้า LH ผ่อนกับ SCB เป็นส่วนใหญ่
-ธนาคารอื่นๆ เริ่มรุกธุรกิจ Bancassurance ทำให้แย่งลูกค้าที่เปิดบัญชีหลายธนาคาร
-ดอกเบี้ยขาขึ้น ทำให้ประกันแบบสะสมทรัพย์ขายได้ยากขึ้น

โอกาสเพิ่มเบี้ย...
-การเร่งเข้าหาลูกค้ารายย่อยของ SCB โดยโหมขยายสาขาถึงปีละ 60 สาขาต่อปี (ไม่ใช่ 60% พิมพ์ด้านบนผิดครับ) ทำให้ได้ลูกค้าใหม่ๆ ทั้งลูกค้าผ่อนบ้านและลูกค้าประกันสามัญ
-การรุกขายประกันในฐานลูกค้าใหม่ๆ เช่นลูกค้า sME ที่ยังไม่ได้ทำ ลูกค้าผ่อนรถยนต์ของ SPL ลูกค้าจากธนาคารอาคารสังเคราะห์
-ลูกค้าที่เปิดบัญชีเงินฝาก เพิ่มขึ้นทุกปี

2.การคำนวณเบี้ยประกันผิดพลาด ทำให้เกิดการขาดทุนในระยะยาว มีความเป็นไปได้แต่ น้อย เพราะมีประกันหลายรูปแบบ และความรู้ด้านการคำนวณคณิตศาตร์ประกันภัยของกลุ่มนิวยอร์คไลฟ์

3.ข้อนี้สำคัญที่สุด คือหากเกิดอะไรก็ตามที่ทำให้ผู้ประกันตนเสียชีวิตเป็นจำนวนมากๆ อาจจะทำให้บริษัทต้องจ่ายสินใหมจำนวนมาก จนทำให้บริษัทขาดทุนจนเจ๊งได้ แม้ในอดีตความเสี่ยงนี้จะน้อยถึงน้อยมาก แต่ก็ใช่ว่าจะเกิดขึ้นไม่ได้ ทั้งภัยพิบัติที่ไม่คาดคิด หรือโรคระบาด   แต่ผมคาดว่าหากเกิดขึ้นนี้ขึ้นจริงๆ บริษัทประกันทั้งหมดอาจจะบอกปฏิเสธการจ่ายสินใหม โดยอ้างเหตุสุดวิสัย เหมือนเหตุสงครามหรือจลาจล
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 26

โพสต์

ผมมองว่าตลาดกำลังประเมิน SCNYL ต่ำหรือน้อยกว่าความเป็นจริง แม้ว่าราคาหุ้นจะเพิ่มขึ้นมาแล้วนับ 100% ในปีนี้..

1.ตลาดประเมินศักยภาพของ Bancassurance น้อยเกินไป บริษัทเพิ่งรุกตลาดด้านนี้แค่ 1-2 ปี

2.ตลาดยังไม่รับรู้ว่า SCNYL ขาดทุนในปีที่แล้ว เพราะต้องจ่ายค่าคอมมิสชั่นปีแรกจำนวนมากๆ ซึ่งเป็นปกติของธุรกิจนี้

3.ตลาดยังไม่รับรู้ว่าเบี้ยประกันรวมจะเพิ่มแบบก้าวกระโดดในปีต่อๆไป จากผลของการทบของเบี้ยประกันในปีก่อนๆหน้า

4.ค่าใช้จ่ายประกันชีวิตผ่านธนาคาร น่าจะมีต้นทุนโดยรวมต่ำกว่าผ่านตัวแทน




สรุปว่าเหตุผลประกอบของผมอาจจะยืดยาวไปหน่อย
ท่านใดจะนำไปต่อยอด ทาบกิ่ง ติดตา ก็เชิญนะครับ
เพราะผมก็ต่อยอดมากจากคุณ worapong เช่นกัน

ท่านใดมีความรู้ด้านนี้ก็เสริมด้วยนะครับ ช่วยกันคิด ช่วยกันทำ

หากถามผมว่า มีผลประโยชน์กับหุ้นตัวนี้หรือเปล่า
ผมไม่ขอตอบ แต่ขออ้างคำพูดของวอร์เรน ที่ว่า..

''ผมกินในสิ่งที่ผมปรุงเอง''

:D  :D
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
jiras
Verified User
โพสต์: 558
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 27

โพสต์

ขึ้นมาเยอะเหมือนกันนะคุณลูกอีสานจากแถวๆ 15 บาท
วันนี้ 55 บาท :?:
Jeng
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 14784
ผู้ติดตาม: 1

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 28

โพสต์

โค้ด: เลือกทั้งหมด

Code: 
Code: 
2.เบี้ยประกันสำรองที่นำไปลงทุน ซึ่งเป็นที่มาของรายได้จะเพิ่มจาก 13,000 ล้านบ. สิ้นปีนี้ เป็นประมาณ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 


     

เปงไปได้ไง 


ถามต่ออีกรอบ 146,000 ล้านบ. ในปี 2558 คำนวณอย่างไร
ขอถามอีกรอบ ไทยประกันเปิดมากี่ปี ปัจจุบันมี 146,000 ล้านแล้วหรือยัง

AIA เปิดมาอีกปี ปัจจุบัน มี 146,000 แล้วหรือยัง
ภาพประจำตัวสมาชิก
Hero_man
Verified User
โพสต์: 270
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 29

โพสต์

ตอนนี้ในตลาดมีบริษัทไหนเป็นประกันชีวิตล้วน ๆ บ้างครับ  :(
กระแสน้ำเปลี่ยนใจปลา..
กาลเวลาเปลี่ยนใจคน...
adi
Verified User
โพสต์: 1155
ผู้ติดตาม: 0

งบออกหมดแล้ว มาเลือกหุ้น 10x10x10 กันเถอะ

โพสต์ที่ 30

โพสต์

ผมไม่มีความรู้เรื่องบริษัทประกัน แต่ผมรู้สึกว่าตัวเลข 130000 แทบจะเป็นไปไม่ได้สำหรับผม เลยอยากขอถามดังนี้ครับ

1. ตัวเลข 30% ของ claim/premium นี่เป็นปกติของอุตสาหกรรมประกันชีวิตใช่ไหมครับ แล้วตัวเลขนี้รวม benefits ที่จะคืนลูกค้ารึยังครับ น่าใช่ก็น่าจะโอเค

2. ในสมมุติฐานคิดรวมตอนที่ตัด  reserve ทิ้งตอนครบอายุประกัน (เรียกยังงี้เปล่าหว่า) รึยังครับ พอดีอ่านแล้วยังงงๆครับ

3. การได้เบี้ยประกันปีแรก 4000 ล้านทุกปีนี่เป็นไปได้ขนาดไหนครับ