ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 2
ซื้อมา 20.9 ยังไม่ได้ขายครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้เห็นข่าวอัดงบสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เริ่มชักลังเลซะแล้ว
ปล.เห็นข่าวนี้แล้วอยากซื้อ CPN ตรงคำสัมภาษณ์ของคุณตันที่บอกว่า "ธุรกิจร้านอาหารโตได้ไม่มากแล้ว เพราะที่ดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว"
ตอนแรกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้เห็นข่าวอัดงบสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เริ่มชักลังเลซะแล้ว
ปล.เห็นข่าวนี้แล้วอยากซื้อ CPN ตรงคำสัมภาษณ์ของคุณตันที่บอกว่า "ธุรกิจร้านอาหารโตได้ไม่มากแล้ว เพราะที่ดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว"
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 3
http://www.manager.co.th/Business/ViewN ... 0000165988สุมาอี้ เขียน:ซื้อมา 20.9 ยังไม่ได้ขายครับ
ตอนแรกว่าจะไม่ขาย แต่วันนี้เห็นข่าวอัดงบสร้างโรงงานแห่งที่ 3 เริ่มชักลังเลซะแล้ว
ปล.เห็นข่าวนี้แล้วอยากซื้อ CPN ตรงคำสัมภาษณ์ของคุณตันที่บอกว่า "ธุรกิจร้านอาหารโตได้ไม่มากแล้ว เพราะที่ดีๆ ถูกจับจองไปหมดแล้ว"
ตันงัดพันล.ปักธงเครื่องดื่มวอเตอร์พลัส แผ่วธุรกิจอาหาร-บุกก.พาณิชย์ยื่นเอกสาร
โดย ผู้จัดการออนไลน์ 2 ธันวาคม 2548 09:18 น.
ตัน เจ้าพ่อชาเขียวชูนโยบายขยายธุรกิจเครื่องดื่มแทนกลุ่มอาหารอิ่มตัว ทุ่ม 1,000 ล้านบาท ผุดโรงงานแห่งที่ 3 พื้นที่ 100 ไร่ ปั้นเครื่องดื่มแนวเพื่อสุขภาพเพิ่ม ล่าสุดทุ่ม 70 ล้านบาท ดันเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเคแจ้งเกิดทดแทนตลาดชาเขียวซบ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 1,200 ล้านบาท เร่งแจงก.พาณิชย์ เตรียมยื่นเอกสารดีเดย์ภายหลังวันที่ 2 ธ.ค.นี้
นางสุนิสา สุขพันธุ์ถาวร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า นโยบายการตลาดในช่วง 2-3 ปีจากนี้ บริษัทฯได้วางทิศทางขยายธุรกิจกลุ่มเครื่องดื่มในเชิงรุกมากขึ้น โดยวางเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนรายได้กลุ่มเครื่องดื่มจากปัจจุบัน 75% เป็น 90% ส่วนรายได้จากธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเบเกอรี่จาก 25% จะเหลือ 10%
ทั้งนี้เป็นเพราะตลาดเครื่องดื่มมีอัตราการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับธุรกิจร้านอาหารเริ่มมีข้อจำกัดด้านพื้นที่ในการขยายสาขาภายในกรุงเทพฯ ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีร้านอาหารในเครือ 80 สาขา และตั้งเป้าจะขยายเพิ่มในช่วง 2-3 ปีนี้ครบ 120 แห่งเท่านั้น โดยปีหน้าเปิด 10 แห่ง ใช้งบลงทุน 100 ล้านบาท
ขณะนี้บริษัทฯกำลังศึกษาเพื่อสร้างโรงงานแห่งที่ 3 ขนาดพื้นที่ 100 ไร่ โดยคาดว่าจะใช้งบลงทุนมากกว่า 1,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายไลน์โปรดักส์ใหม่ในแนวเพื่อสุขภาพ รวมทั้งการเติบโตกลุ่มเครื่องดื่มชาเขียวและเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเค ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ และการขยายตลาดต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันส่งออกชาเขียว 12 ประเทศ และอะมิโน โอเค 2 ประเทศ ในลาวและเขมร โดยหากกำลังการผลิตใช้ถึง 75% ก็จำเป็นต้องหาโรงงานแห่งใหม่ จากปัจจุบันบริษัทมีโรงงานผลิตเครื่องดื่ม 2 แห่ง มีกำลังการผลิตรวม 45 ล้านขวดต่อเดือน แบ่งเป็น โรงงานอมตะนครมีกำลังการผลิต 15 ล้านขวดต่อเดือน และโรงงานนวนคร 30 ล้านขวดต่อเดือน
นายตัน ภาสกรนที ประธานกรรมการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภายหลังจากวันที่ 1-2 ธันวาคม นี้ ทางโออิชิได้เตรียมเอกสารยื่นต่อกระทรวงพาณิชย์ จากที่ผ่านมาทางกระทรวงฯได้วางแนวทางเร่งจัดทำรายละเอียดของสินค้าเครื่องดื่มชาเขียวสำเร็จรูปพร้อมดื่ม เพื่อส่งเรื่องไปยังกรมสรรพสามิตให้พิจารณาสินค้าชาเขียวเป็นสินค้าฟุ่มเฟือยที่ต้องเสียภาษี เพราะที่ผ่านมาเครื่องดื่มชาเขียวได้รับการยกเว้นภาษี เพราะถือว่าเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการรับซื้อใบชา
ทั้งนี้โออิชิออกมายืนยันว่าที่ผ่านมาชาเขียวโออิชิ ใช้วัตถุดิบในการผลิตโดยเฉพาะใบชาเป็นวัตถุดิบจากประเทศไทย 100% มาตั้งแต่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แล้ว
กรณีราคาชาเขียวพร้อมดื่มเราอยากชี้แจงว่า ปัจจุบันโออิชิจำหน่ายในราคาขวดละ 16-17 บาท ผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด โดยราคาดังกล่าวยังรวมค่าแวท 7% ส่วนในร้านค้าสะดวกซื้อที่ต้องขายแพงคือ 18-20 บาท เพราะต้องเสียค่าแรกเข้า ค่าไฟ ตู้แช่ โดยปัจจุบันราคาหน้าโรงงานราคา 12 บาทเท่านั้น อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีกระแสข่าวลบมาโดยตลอด แต่ผลประกอบการโออิชิยังคงมีอัตราการเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานี้
ล่าสุดทุ่มงบ 70 ล้านบาท เปิดตัวเครื่องดื่มน้ำผลไม้ผสมวิตามิน อะมิโน โอเค โดยจะเป็นสินค้าหลักที่บริษัทฯเน้นทำตลาดในปีหน้า เพื่อแจ้งเกิดในตลาดภายหลังจากที่ตลาดชาเขียวเริ่มมีอัตราการเติบโตที่ลดลง ในขณะที่แนวโน้มตลาด วอเตอร์พลัส จะเป็นกระแสที่มาแรงในประเทศไทย ซึ่งเป็นกระแสที่เกิดขึ้นเช่นเดียวกับญี่ปุ่นและไต้หวันโดยวอเตอร์พลัส ถือว่าเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับสองหรือสามรองจากชาเขียวพร้อมดื่มซึ่งเป็นอันดับหนึ่งของตลาด โดยในช่วงแรกของการทำตลาดบริษัทฯจะเน้นใช้อะโบฟเดอะไลน์ 60 ล้านบาท และบีโลว์เดอะไลน์ 10 ล้านบาท เพราะต้องการสร้างการรับรู้และให้ข้อมูลกับกลุ่มเป้าหมายอายุ 18-35 ปี
โพซิชันนิ่งของ อะมิโน โอเค เราวางไว้เป็นเครื่องดื่มที่ดื่มแทนน้ำ ทำให้ไปชนกับคู่แข่งทางอ้อมหลายกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม น้ำเปล่า ไอเฟิร์ม รวมทั้งตลาดน้ำผลไม้ที่เหมือนจะเป็นคู่หลักมากกว่า ซึ่งแนวโน้มตลาดน้ำผลไม้มีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 1-2% จากมูลค่า 1,300 ล้านบาทเท่านั้น เพราะตลาดน้ำผลไม้ 25-40% ไม่โตมาก ส่วนตลาดน้ำผลไม้พรีเมียมเติบโตสูง สำหรับในช่วงแรกบริษัทฯได้แจกสินค้าตัวอย่างตามโรงเรียน สถาบันกวดวิชา จตุจักร ฯลฯ เพื่อกระตุ้นการทดลองดื่ม ทั้งนี้บริษัทฯตั้งเป้ายอดขายในปีแรก 1,000-1,200 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดเครื่องดื่มจะแยกเป็นเซกเมนต์ชัดเจนว่า ต้องการดื่มเพื่อประโยชน์ด้านใด โดยจากนี้ไปจะเห็นเครื่องดื่มแนววอเตอร์พลัสมากขึ้น ทั้งนี้เพราะพฤติกรรมของคนไทยต้องการเครื่องดื่มที่ตอบสนองความต้องการได้เพิ่มขึ้น โดยมองว่าการดื่มน้ำผลไม้จะไม่เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย และคนไทยจะไม่ได้ดื่มน้ำเพื่อต้องการความอร่อยแต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป โดยคาดว่าภายใน 2-3 ปีนี้พฤติกรรมของคนไทยจะเริ่มเปลี่ยนแปลงและเห็นเป็นรูปธรรมอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตามเครื่องดื่มกลุ่มวอเตอร์ พลัส ในญี่ปุ่นมีอีกหลายประเภทที่น่าสนใจ อาทิ ไฟเบอร์ โอลิโกะ แลคติก เป็นต้น
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
- สุมาอี้
- Verified User
- โพสต์: 4576
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 6
อย่างว่าแหละครับ ถึงราคาจะลงมาขนาดนี้ แต่ปีนี้ OISHI ก็ยังเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับต้นๆ ของตลาดอยู่ดี เพราะปีนี้ตลาดแย่มาก หุ้นส่วนใหญ่จึงให้ผลตอบแทนติดลบ หุ้นที่ให้ผลตอบแทนเป็นบวกน้อยๆ จึงกลายเป็นหุ้นที่ให้ผลตอบแทนที่ดี
http://dekisugi.net
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
ไม่ค่อยได้เช็ค PM เลยครับ ต้องการติดต่อผม อีเมลไปที่ [email protected] จะชัวร์กว่าครับ
- Suysak
- Verified User
- โพสต์: 691
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 7
อย่างนี้เท่ากับว่า OISHI เสียความเป็นตัวเองไปรึเปล่าครับ เพราะถ้าพูดถึง OISHI จะรู้สึกถึง อาหารบุฟเฟต์ญี่ปุ่น อร่อยๆ แล้วก็ชาเขียว แต่ อะมิโนโอเค นี่สื่อถึงความเป็นญี่ปุ่นตรงไหนครับ ดูอย่างฟูจิ ทำอาหารญีปุ่นเหมือนกัน เมื่อก่อนมีไม่กี่สาขา เดี๋ยวนี้ไปที่ไหนก็เจอ คนเข้าคิวรอกันยาวเหยียด ไม่เคยเห็นเขาคิดไปออกผลิตภัณฑ์อะไรแปลกๆ นอกจากขยายสาขา ร้านอาหาร 8)
-
- Verified User
- โพสต์: 2
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 8
ชาเขียวมาร์จิ้นสูงมากครับอย่างที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งข้อสังเกต คุณตันไม่อยากกลับลุยบุฟเฟต์อย่างเดิมหรอกครับ ทั้งเหนื่อยและมาร์จิ้นต่ำครับ ขายน้ำหวานผสมสีกำไรเยอะกว่าครับ... :twisted: [/b][/quote]
I wanna be...I wanna be Jim Morrison...
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 9
ถ้าเป็นผมนะ
ผมจะสั่งปิดโรงงาน เลิกทำชาเขียวเลย และปลดคนงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แล้วให้ไปประท้วงรัฐบาลเอาเอง ถ้าไม่พอใจ
เพราะผมเป็นนักธุรกิจ ค้าขายต้องมีกำไร ผมทำถูกต้อง(ถ้าถูกจริงนะ) มัยต้องใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้ง
ผมจะสั่งปิดโรงงาน เลิกทำชาเขียวเลย และปลดคนงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
แล้วให้ไปประท้วงรัฐบาลเอาเอง ถ้าไม่พอใจ
เพราะผมเป็นนักธุรกิจ ค้าขายต้องมีกำไร ผมทำถูกต้อง(ถ้าถูกจริงนะ) มัยต้องใช้อำนาจรัฐกลั่นแกล้ง
Expecto Patronum!!!!!!
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 1063
- ผู้ติดตาม: 0
ใครยังไม่ขาย OISHI มั่ง
โพสต์ที่ 11
ผมถือตั้งแต่ ipo ตกก็ซื้อเพิ่มครับ แต่พอช่วงปลายๆโปรโมชั่นเริ่มเห็นคนกินน้อยลงมาก ไปกินอาหารคนก็น้อยเลยเริ่มขายออกครับ
ตอนนี้รอดูกระแสอยู่ว่าจะผ่านได้ไหม กับอะมิโนว่าจะรุ่งเหมือนที่ญี่ปุ่นไหมถ้าเห็นเด็กวัยรุ้นซื้อกันเยอะๆก็ว่าจะลุยอีกรอบครับ
ตอนนี้รอดูกระแสอยู่ว่าจะผ่านได้ไหม กับอะมิโนว่าจะรุ่งเหมือนที่ญี่ปุ่นไหมถ้าเห็นเด็กวัยรุ้นซื้อกันเยอะๆก็ว่าจะลุยอีกรอบครับ