## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

การลงทุนแบบเน้นคุณค่า ลงทุนหุ้น VI เน้นที่ปัจจัยพื้นฐานเป็นหลัก

โพสต์ โพสต์
janelovehoon
Verified User
โพสต์: 485
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 1

โพสต์

PE ปี 49 เทียบกับราคา IPO เป็น 7.7 เท่า (Forecasted by Trinity)
(IPO  2.86)
เอาดีไหมคะ

กลุ่มก่อสร้างทำพวกฐานรากค่ะ

ใครมีข้อมูลเพิ่มเติมบ้าง

:wink:
ลูกอิสาน
สมาชิกกิตติมศักดิ์
โพสต์: 6483
ผู้ติดตาม: 1

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 2

โพสต์

หากจำไม่ผิดมีคู่แข่งมากนะครับ และบริษัทก็เป็นรายเล็ก
ที่ชัดเจนคือ seafco, ital-thai, และบริษัทญี่ปุ่น 1-2 ราย

สนใจลองเปรียบเทียบกับ seafco ครับ รายนั้นกำไรก็ตกลงมากครับ
การลงทุนคืออาหารอร่อยที่สุดเมื่อเย็นดีแล้ว
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 3

โพสต์

ทำฐานรากแบบไหนครับ

ถ้าเป็น specialist (เน้นที่งานขนาดใหญ่ของรัฐ หรืองานเข็มเจาะขนาดใหญ่) ให้เทียบกับ SEAFCO แล้ว discount สัก 10% ครับ

ถ้าเป็นฐานรากงานเอกชนทั่วๆ ไป โดยเฉพาะเข็มตอก ผมว่ามีเป็นร้อยๆ เจ้าในประเทศไทยนะ
janelovehoon
Verified User
โพสต์: 485
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 4

โพสต์

คุณ FE คะ

งานฐานรากที่เค้าทำได้แก่
งานเสาเข็มเจาะ งานปรับปรุงคุณภาพดินโดยวิธีอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูง และงานกำแพงกันดิน

ทำทั้งเอกชนและรัฐบาล
โดยงานจากรัฐบาล ส่วนใหญ่จะเป็นงานโครงสร้าง และสาธารณูปโภคพื้นฐาน เช่น งานเขื่อน งานทางรถไฟยกระดับ งานทางด่วน งานสะพานข้ามแยก งานโรงไฟฟ้า

เห็นบอกได้เปรียบเพราะว่ามีสัมพันธ์อันดีกับ Stec น่ะค่ะ
และงาน mega project ของรัฐบาลที่ออกมาต่อเนื่อง

ตกลงจองดีไหมคะ
:wink:
wizard
Verified User
โพสต์: 145
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 5

โพสต์

งานที่บอกเป็น specialist
ก็เหลือเพียง soil improvement ด้วย วิธี jet grouting เท่านั้น (เฉพาะออกแบบนะ ถ้าทำโดยไม่ได้ออกแบบนะ "รับเหมา" หมูเรียกพี่)
พวกทำ เข็มเจาะเปียก diafram wall เป็นงานพื้นๆแล้วคับ

ถ้าได้งานน่าจะได้ซับเฉพาะค่าแรง มาร์จิน น้อยโคตร

บ.เข็มเจาะใหญ่ หรือมีมากกว่า 30 บ.
ถ้า soil improvement อาจน้อยน้อยก็ประมาณ เกิน 10 บ.
wizard
Verified User
โพสต์: 145
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 6

โพสต์

เพิ่ม
ถ้าเมื่อประมาณ 20 ก่อนนะ
มาร์จินของ บ.พวกนี้ มากกว่า 100%
ปัจจุบัน มาร์จิน เหลือไม่เกิน 30%
(ตัวอย่างเข็มเล็กนะ เมื่อก่อนเข็มต้นละ 30000 ขึ้น ต้นทุน ไม่เกิน 4000 เมื่อ 20 ปีก่อน ปัจจุบัน ต้นละไม่เกิน 10000 ต้นทุนเกือบ 8000)
janelovehoon
Verified User
โพสต์: 485
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 7

โพสต์

ถ้าเป็น specialist (เน้นที่งานขนาดใหญ่ของรัฐ หรืองานเข็มเจาะขนาดใหญ่) ให้เทียบกับ SEAFCO แล้ว discount สัก 10% ครับ
SEAFCO ตอนนี้ ราคา 4.1 กำไรปีนี้ประมาณ .30
PE ตอนนี้ก็ 13.6 เท่า

เอา 13.6 * กำไรของ Pylon ปีนี้ที่ 0.27 ได้ 3.67
discount 10% เหลือ 3.3

แต่ถ้าเป็นกำไรปีหน้า ('49) forecase ไว้ที่ 0.37 จะได้ 5.0
discount 10% เหลือ 4.5

คิดอย่างนี้เป็นไงบ้างคะ คุณ FE
Stock Broker
Verified User
โพสต์: 2509
ผู้ติดตาม: 1

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 8

โพสต์

เช็คด้วยนะครับว่า EPS ของหุ้น IPO น่ะ รวมหุ้นใหม่แล้วรึยัง หลายๆ โบรกชอบลักไก่นะครับ ส่วน forecast EPS น่ะ ผมว่า discount ไปเยอะๆ เลย ถ้าอยากอ้างอิงเค้านะ เพราะร้อยละ 90  forecast เท่าไหร่ ของจริงออกมาจะเหลือแค่หารสองนะ (ไม่เชื่อไปดูตัวเก่าๆ ได้)

ที่เหลือพิจารณาเอาเองนะครับ  

อ้อ... ผมลืมอีกตัวนึง อดีตเคยเป็น big ฐานรากเหมือนกัน เมื่อก่อนตัวย่อ PP เดี๋ยวนี้เค้าเรียก POWER ครับ

* สำหรับ relationship กับ STEC  วันก่อนผมผ่านแถว MBK มี stie งานอยู่ตรงแยกนั้น จะสร้างหอศิลป์หรืออะไรทำนองนี้มั้ง ผู้รับเหมาเป็น STEC ส่วนงานฐานรากทำโดย SEAFCO ครับ
janelovehoon
Verified User
โพสต์: 485
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 9

โพสต์

เช็คด้วยนะครับว่า EPS ของหุ้น IPO น่ะ รวมหุ้นใหม่แล้วรึยัง
รวมแล้วค่ะ คุณ FE

ขอบคุณนะคะสำหรับข้อมูล
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 10

โพสต์

ผมเป็นคนหนึ่งที่สนใจหุ้น IPO ใหม่ๆที่เข้าช่วงเวลาผิด
และ PYLON ผมก็คิดว่าเป็นหนึ่งในนั้นครับ
ส่วนราคาที่ลดลงมาผมคิดว่าน่าจะเกิดจากการที่เข้าในตลาด MAI
เลยเกิด discount เทียบกับตัวอื่นครับ
ส่วนราคาปัจจุบัน 2.20 ผมมองแล้วเป็นจังหวะน่าทยอยสะสม
ส่วนอีกปัจจัยที่ผมมองว่าการนำเงินทุนครั้งนี้ไปซื้อเครื่องเจาะ
เพิ่มถึง 12 เครื่องน่าจะช่วยให้ การเติบโตปลาย q4 และปี 49 ดีขึ้นมากครับผม
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 11

โพสต์

วันก่อนผมส่งอีเมลไปถามแนวโน้มธุรกิจของบริษัทว่าเป็นอย่างไร
บริษัทได้ตอบกลับมาดังต่อไปนี้ครับผม
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 12

โพสต์

1. ธุรกิจของ PYLON ในปี 49 น่าจะมียอดขายที่เติบโตขึ้นจากปี 48 ค่อนข้างสูง และถ้ายิ่งมีโครงการ Mega Project ด้วยแล้วจะยิ่งทำให้อัตราการเติบโตของธุรกิจสูงมากขึ้นและมีความมั่นคงอย่างต่อเนื่องไปอีกหลายปีทีเดียว และเนื่องจากธุรกิจฐานรากเป็นงานต้นน้ำ บริษัทจะได้รับผลดีเป็นลำดับแรกๆเมื่อ Mega Project เริ่มการก่อสร้าง ในส่วนปัจจัยกดดัน จะมีในเรื่องของ ราคาน้ำมัน,ดอกเบี้ย และภาวะอุตสาหกรรมก่อสร้างโดยรวม



2. นโยบายปันผลไม่ต่ำกว่า 40% ของกำไรสุทธิ ยกเว้นมีความจำเป็นต้องใช้เงินทุนในการขยายกิจการหรืออื่นๆ ซึ่งทางคณะกรรมการจะพิจารณาถึงความจำเป็นในการใช้เงินลงทุนก่อนที่จะนำเสนออัตราเงินปันผลให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติ
phobenius
Verified User
โพสต์: 1976
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 13

โพสต์

บริษัทไพลอน จำกัด (มหาชน) หรือ PYLON เตรียมแผนโรดโชว์ภายในประเทศ หวังดึงความเชื่อมั่นกลับคืนหลังจากราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าราคาจอง ค้านกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท  บดินทร์ แสงอารยะกุล ผู้บริหารระบุ มั่นใจแผนนี้ช่วยให้นักลงทุนมีความเข้าใจในธุรกิจของบริษัทมากขึ้น และจะช่วยผลักดันราคาปรับตัวดีขึ้นได้พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2549 เติบโต 30%

นายบดินทร์  แสงอารยะกุล กรรมการรองผู้จัดการ บริษัทไพลอน จำกัด(มหาชน) หรือ PYLON  ประกอบธุรกิจผู้รับเหมางานก่อสร้างงานรากฐาน เปิดเผยว่าขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมแผนการนำเสนอข้อมูลให้กับนักลงทุนภายในประเทศเพื่อให้นักลงทุนเข้าใจธุรกิจของบริษัทมากขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมาราคาหุ้นได้ปรับตัวลงไปค่อนข้างมากซึ่งถือว่าต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ซึ่งยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าจะเป็นช่วงไหน แต่คาดว่าจะเป็นเร็วๆ นี้เพราะได้มีการเตรียมการไปบ้างแล้ว
         หลังจากที่ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์mai นักลงทุนได้เทขายหุ้น PYLON ออกมาจนส่งผลทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลงต่ำกว่าราคาจองซื้อที่ 2.86 บาท ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริง ดังนั้นบริษัทจึงอยากจะทำให้นักลงทุนเข้าใจในตัวธุรกิจของบริษัทมากขึ้น โดยที่ผ่านมามีการเติบโตที่ดีมาโดยตลอด ซึ่งก็มั่นใจว่าหากนักลงทุนได้รับข้อมูลมากขึ้นน่าจะทำให้ราคาหุ้น PYLON กลับมาสู่ปัจจัยพื้นฐานที่แท้จริงได้  ส่วนการเคลื่อนไหวของราคาหุ้นในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมาค่อนข้างคึกคักนั้น คงเป็นเพราะนักลงทุนเข้ามาเก็งกำไร และมองว่าเป็นการเคลื่อนไหวตามราคาหุ้นบริษัทซีฟโก้ จำกัด(มหาชน) ประกอบกับภาวะตลาดช่วงนี้ปรับตัวขึ้นค่อนข้างดีนายบดินทร์กล่าว
         นายบดินทร์ กล่าวต่อว่า ณ ไตรมาส 3/2548 มูลค่างานที่อยู่ในมือรวมอยู่ที่ประมาณ 337 ล้านบาท แต่บางส่วนได้มีการทยอยรับรู้ไตรมาส 4/2548 ขณะที่มูลค่างานค่าแรงอยู่ที่ 112 ล้านบาท ดังนั้นทำให้ปัจจุบันบริษัทมีงานอยู่ในมือรวมมูลค่ามากกว่า 400 ล้านบาท โดยจะมีการทยอยรับรู้ภายในปี 2549
         นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างยื่นเสนองานอีกหลายโครงการแต่ยังไม่สามารถเปิดเผยตัวเลขได้  ซึ่งทำให้มั่นใจว่าอัตราการเติบโตของรายได้ปี 2549 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 30%  ซึ่งเป็นรายได้ที่มาจากงานที่ทยอยรับรู้จากโครงการต่างๆ และปีนี้บริษัทจะมีกำลังการผลิตงานประเภทเสาเข็มเจาะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 54,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปีเนื่องจากบริษัทได้ลงทุนซื้อเครื่องจักรเพื่อใช้ในงานเสาเข็มเจาะทำให้สามารถเพิ่มการทำงานของเสาเข็มเจาะได้อีกจำนวน 3 ชุด
         ทำให้มีเครื่องจักรในปีนี้ทั้งหมดจำนวน 15 ชุด รวมทั้งบริษัทได้พัฒนาเครื่องปั๊มแรงดันสูงของบริษัทเองเพื่อใช้ในงานอัดฉีดซีเมนต์ด้วยแรงดันสูงอีก 1-2 เครื่องทำให้สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ 40,000- 80,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี
         ปัจจุบันกำลังการผลิตของบริษัทคิดเป็น 25% ของตลาดรวมถือเป็นครองตลาดงานรากฐานอันดับ 2 ในประเทศ ซึ่งสัดส่วนการรับงานของบริษัทปีคงเน้นรับงานจากภาครัฐต่อไปเนื่องจากภาครัฐยังมีนโยบายต่อเนื่องในการขยายโครงการต่างๆ ปัจจุบันสัดส่วนการรับงานจากภาครัฐบาลที่อยู่ที่ 90% และงานจากภาคเอกชน 10%
         อย่างไรก็ตามบริษัทคาดว่าปีนี้อุตสาหกรรมงานรากฐานยังเติบโตต่อเนื่องจากปี 2548 แต่ภาวะโดยรวมยังถูกกดดันจากปัจจัยเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น,ราคาน้ำมันที่ทรงตัวในระดับสูง และราคาสินค้าที่เกี่ยวข้องปรับตัวขึ้นสูง ดังนั้นปัจจัยลบดังกล่าวจึงเป็นตัวกดดันในส่วนของต้นทุน
peaceful
Verified User
โพสต์: 308
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 14

โพสต์

ตัวนี้ดูๆแล้วน่าสนใจมั้ยคะ ช่วยกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ
ข่าวเก่าๆ
เนื่องจากผลงาน "ไตรมาส 2 ต่ำเป้า" ราคาหุ้น "ร่วงหนัก" บิ๊ก PYLON "บดินทร์ แสงอารยะกุล" เลยร้อนอกร้อนใจ รีบออกมาให้คำมั่นว่า "ครึ่งปีที่เหลือ" จะกวาดรายได้ตามเป้า(ทั้งปี)ที่วางไว้ 500-600 ล้านบาทได้แน่ ๐ และมั่นใจว่า ผลงานไตรมาส 3 และ 4 จะ "ฟื้นตัว" ชัวร์ๆ ล่าสุดเพิ่งได้รับงานใหม่มาอีก 4 โครงการ มูลค่า 36 ล้าน และอยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญาอีกกว่า 100 ล้านบาท


"บิ๊กไพลอน" เชื่อ 'Fair Price' ต้อง 3 บาท

ชเนศวร์ แสงอารยะกุล กรรมการผู้จัดการ บมจ.ไพลอน (PYLON) ผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างงานฐานราก อธิบายแนวทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทสำหรับปี 2549 ว่า จากเดิมที่มักจะอิงแหล่งรายได้ส่วนใหญ่จากงานก่อสร้างฐานรากของโครงการภาครัฐถึงกว่า 80% และได้งานจากภาคเอกชนเพียง 20%


จนเมื่อภาวะการเมืองและเศรษฐกิจของประเทศยังไม่ชัดเจน ทำให้โครงการก่อสร้างต่างๆ ของภาครัฐต้องชะลอออกไป ขณะที่ไพลอนก็พยายามปรับ "สัดส่วน" รายได้ใหม่ ด้วยการหันมาจับงานประมูลจากภาคเอกชนเพิ่มมากขึ้น

"รายได้จากภาครัฐและเอกชนของเราในตอนนี้เรียกได้ว่าครึ่งต่อครึ่ง"

เป้าหมายรายได้ของไพลอนในปี 2549 บริษัทตั้งไว้ที่ 550-600 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นรายได้ที่เติบโตขึ้นจากปีก่อน (280 ล้านบาท) ถึง "เท่าตัว"

โดยเราตั้งเป้าการเติบโตของกำไรไว้กว่า 30% จากปีก่อนที่มีกำไร 35.75 ล้านบาท...เท่ากับว่า กำไรของไพลอนในปีนี้จะไม่ต่ำกว่า 46.47 ล้านบาท

ย้อนกลับมาดูความเคลื่อนไหวราคาหุ้น PYLON หลังจากขายไอพีโอที่ 2.86 บาท (23 ธ.ค. 2548) ราคาหุ้นปรับลดลงมาตลอดเทรดกันที่หุ้นละประมาณ 2 บาท

"ผมก็ไม่เข้าใจ เพราะราคาหุ้น PYLON ควรจะสะท้อนจากผลประกอบการ และความสามารถในการเติบโต...ซึ่งปัจจุบันเราแข็งแกร่งมาก เชื่อว่าหุ้นของเรา 'ไม่เป็นที่นิยม' คือสภาพคล่องของหุ้นอาจจะน้อย และเคลื่อนไหวไม่หวือหวา นักลงทุนเข้าง่ายแต่กลัวว่าจะออกยาก"

และกับราคาปัจจุบัน ประมาณ 2 บาท ผมในฐานะผู้ถือหุ้นคนหนึ่ง (38.17%) คงตอบได้ว่า "ไม่พอใจ" เพราะราคา PYLON ตอนนี้มันต่ำกว่าพื้นฐานมาก

"พื้นฐานของเราวันนี้ ราคาต้องไม่ต่ำกว่าไอพีโอ คิดว่า 3 บาท น่าจะเป็นราคาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับ PYLON ในเวลานี้" ชเนศวร์ กล่าวยืนยัน

เขามองต่อไปว่านักลงทุนที่มาลงทุนกับเรา (หุ้น PYLON) ในวันนี้ "ผมว่าถือหุ้นเราน่าจะดีกว่าถือเงินสด" เพราะเมื่อเทียบกับอัตราเติบโตอีก 2-3 ปีข้างหน้า รีเทิร์นที่นักลงทุนจะได้จาก PYLON ผมเชื่อว่าน่าจะได้ดีกว่านำเงินไปลงทุนทางเลือกอื่น ไม่อยากให้มองเพียงราคาแค่ระยะสั้น

สำหรับมาตรการที่บริษัทต้องดำเนินการในปีนี้คือ "หนึ่ง" ชะลอการลงทุนที่ไม่จำเป็น "สอง" เก็บสะสมเงินสด "สาม" ลดและควบคุมต้นทุน และ "สี่" ระมัดระวังในการรับงาน

ที่ผ่านมางานรับเหมาส่วนใหญ่ของไพลอนจะอิงกับการเข้าไปซับงานจาก บ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น" ถึงกว่า 80-90%

แต่ปีนี้รายได้ของไพลอนเริ่มกระจายตัวอย่างชัดเจน โดยช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ สัดส่วนงานจาก บ.ซิโน-ไทย ลดลงมาเหลือเพียง 35-40%

"แม้จะเทียบเป็นเปอร์เซ็นต์ที่ลดลง แต่มูลค่างานที่เรารับมาจาก บ.ซิโน-ไทย กลับไม่ลดลง นั่นเพราะเราเริ่มมีรายได้จากงานเอกชนรายอื่นเข้ามามากขึ้น"

ชเนศวร์ อธิบายต่อไปว่า เมื่อสิ้นปีก่อนบริษัทมีรายได้จากฐานลูกค้าเพียง 19 ราย แต่ตอนนี้ขยับมาเป็น 30 ราย โดยลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ มีตั้งแต่ "ทีซีซี แคปปิตอลแลนด์" "กรุงธน เอ็นจิเนียริ่ง" "พี คอนสตรักชั่น" และอีกหลายๆ บริษัท ซึ่งส่วนใหญ่จะได้มาหลังจากที่เข้าตลาด MAI เมื่อปลายปี 2548

"กับ บ.ซิโน-ไทย เราก็ยังรับงานจากเขาอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการที่ ถ.แจ้งวัฒนะ ส่วนโครงการแอร์พอร์ตเรลลิงค์ เราก็ยังทำให้เขาอยู่ และยังมีอีกหลายโครงการ"

ชเนศวร์ มองว่า ตรงนี้น่าจะเป็นจุดเด่นของไพลอนที่จะมีงานจากผู้รับเหมารายใหญ่ส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้งานและรายได้ของไพลอน...ไม่ขาดมือ

"แต่เราเองก็จำเป็นต้องมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มเข้ามา เพราะต้องการขยายฐานรายได้และกำไร"

ส่วน "งานในมือ" (backlog) ของไพลอนต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า "งานเสาเข็ม" เป็นงานระยะสั้น ใช้เวลาทำงานเพียง 2-4 เดือน หากเปิดประมูลเดือนนี้ อีก 1-2 เดือนก็เริ่มงาน แล้วรออีก 3-4 เดือน...งานก็จบ

เพราะฉะนั้น backlog ของบริษัทจะไม่ยาว เพราะมันไม่ใช่งานก่อสร้างอาคาร และทำให้งานในมือที่ค้างมาจากปีก่อน ตอนนี้ก็รับรู้รายได้ไปเกือบหมดแล้ว

แต่ในส่วนของ backlog ปัจจุบัน มีงานอยู่ประมาณกว่า 300 ล้านบาท โดยเชื่อว่าอีกสัก 2-3 เดือน คงจะมีงานเพิ่มเข้ามาอีกราวๆ 200 ล้านบาท

"เราพยายามที่จะมีสะสมงานในมือให้ได้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท ตลอดช่วงครึ่งปีหลัง โดยงานส่วนใหญ่จะเริ่มรับรู้ภายในปี 2549 บางส่วนอาจจะคาบเกี่ยวไปถึงช่วงไตรมาส 1-2 ของปี 2550"

วันนี้ชื่อเสียงของไพลอนขึ้นไปติดอยู่บน "ท็อป 3" (ไพลอน-ซีฟโก้-อิตัลไทย เทรวี่) ของผู้ประกอบการรายใหญ่ทางด้านธุรกิจเสาเข็ม จึงทำให้โครงการต่างๆ ที่ออกมา มีโอกาสคว้างานจากทุกโครงการ


หุ้นที่ต้องจับตาอีก 1 ตัวคือ ไพลอน (PYLON) ที่จะหมดไซเลนท์พีเรียดในวันที่ 22 มิถุนายน นี้ โดยผู้บริหารยืนกรานยังไง...ยังงัย ก็ไม่ปล่อยหุ้นออกมาเด็ดขาด!! โดยให้เหตุผลว่าอนาคตของบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีกยาวไกล มูลค่าเพิ่มของบริษัทเติบโต และแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี แถมยังมีความมั่นคงกว่าการถือเงินสดเสียอีก!! แหม ไม่รู้เอาสมมติฐานไหนมาพิสูจน์เพราะตามหลักแล้วช่วงดอกเบี้ยสูงนี้ควรถือเงินสดไม่ใช่หรือ

เลขที่ PL-ADM-047/06

วันที่  15  สิงหาคม  2549

เรื่อง  ชี้แจงผลการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549

เรียน  กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) ขอชี้แจงผลประกอบการสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 ดังนี้
บริษัทฯมีกำไรสุทธิงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2549 เท่ากับ 3.59 ล้านบาท เมื่อเทียบกับกำไรสุทธิ
ในงวดเดียวกันของปี 2548 เท่ากับ 7.68 ล้านบาท ลดลง  4.09 ล้านบาท หรือร้อยละ 53.26
ซึ่งมีผลแตกต่างมากกว่าร้อยละ 20 เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามรายละเอียดดังนี้
1. ในงวดปี 2548 บริษัทฯมีกำไรจากการขายเครื่องจักรที่ไม่ได้ใช้งานจำนวน 4.51 ล้านบาท
2. ในไตรมาสนี้ มีจำนวนวันหยุดราชการเพิ่มขึ้นมาก เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2548
         ในขณะที่ค่าใช้จ่ายคงที่ของบริษัทฯยังคงมีอยู่
3. งานบางส่วนเป็นงานต่อเนื่องจากปี 2548 ซึ่งราคางานเป็นราคาเดิมตั้งแต่ปีที่แล้ว ในขณะที่ต้นทุนของปี 2549
         ปรับเพิ่มขึ้นเช่น  น้ำมัน  วัสดุต่างๆ  ค่าแรง ทั้งนี้งานต่อเนื่องดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในกลางไตรมาสที่ 3 ปีนี้
4. ในไตรมาสนี้ บริษัทฯประสบปัญหาสภาพพื้นที่ทำงานใน 3 โครงการ อาทิเช่นน้ำท่วม และเส้นทางเข้าหน่วยงาน
         ทำให้การทำงานไม่ต่อเนื่องและล่าช้า
ถึงแม้ว่าจะไม่มีเบี้ยปรับจากผู้ว่าจ้างแต่ทำให้ต้นทุนของโครงการเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาดังกล่าวได้แก้ไขเรียบร้อยแล้ว
ตั้งแต่เดือนมิถุนายน  2549 ทั้งนี้ บริษัทฯได้รับงานใหม่หลายโครงการ ซึ่งอยู่ระหว่างรอเอกสารยืนยันการจ้างงาน
โดยโครงการใหม่ที่ได้รับ บริษัทได้มีการปรับราคาให้เหมาะสมกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้นและสามารถแข่งขันกับตลาดได้
ซึ่งบริษัทฯจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบต่อไป

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ



22 พฤษภาคม 2549

เรื่อง แจ้งรับงานใหม่ 3 โครงการ
เรียน   กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

          บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน) มีความยินดีแจ้งให้ทราบว่าบริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานตามโครงการต่างๆ ดังนี้

1. โครงการศูนย์ราชการแห่งใหม่ สัญญาที่ 2
รายละเอียดของงาน:   เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง)
สถานที่ก่อสร้าง: ถนนแจ้งวัฒนะ
ผู้ว่าจ้าง:             บมจ. ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:  42,513,133 บาท
                          (สี่สิบสองล้านห้าแสนหนึ่งหมื่นสามพันหนึ่งร้อยสามสิบสามบาทถ้วน)
ระยะเวลาก่อสร้าง:     90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2549 โดยประมาณ

2. โครงการคอนโดมิเนียม เอ็มโพริโอ เพลส
รายละเอียดของงาน:   เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร
สถานที่ก่อสร้าง: สุขุมวิทซอย 24
ผู้ว่าจ้าง:             บจ. ทีซีซีซีแอล สุขุมวิท 24
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:  56,710,000 บาท
                          (ห้าสิบหกล้านเจ็ดแสนหนึ่งหมื่นบาทถ้วน)
ระยะเวลาก่อสร้าง:     90 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 พฤษภาคม 2549

3. โครงการทางเข้า-ออก อาคารสินค้าในประเทศ
รายละเอียดของงาน:   งานเสาเข็มดินซีเมนต์ สำหรับการปรับปรุงคุณภาพดิน
สถานที่ก่อสร้าง: สนามบินสุวรรณภูมิ
ผู้ว่าจ้าง:             บจ. พี คอนสตรัคชั่น แอนด์ แมทรีเรียล  
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:  3,616,600 บาท
                          (สามล้านหกแสนหนึ่งหมื่นหกพันหกร้อยบาทถ้วน)
ระยะเวลาก่อสร้าง:     30 วัน นับตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2549

รวมมูลค่า 3 โครงการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเป็นเงิน 102,839,733 บาท
(หนึ่งร้อยสองล้านแปดแสนสามหมื่นเก้าพันเจ็ดร้อยสามสิบสามบาทถ้วน)

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ




16 สิงหาคม 2549

เรื่อง     แจ้งรับงานใหม่ 4 โครงการ
เรียน   กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

บริษัท ไพลอน จำกัด (มหาชน)มีความยินดีแจ้งให้ทราบว่าบริษัทได้รับการยืนยันการจ้างงานตามโครงการต่างๆ ดังนี้

1.โครงการลุมพินีวิลล์ รามคำแหง 44
รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง)
สถานที่ก่อสร้าง:ซอยรามคำแหง 44
ผู้ว่าจ้าง:บริษัท แอล. พี. เอ็น. ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน)
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:12,416,226.50 บาท
              (สิบสองล้านสี่แสนหนึ่งหมื่นหกพันสองร้อยยี่สิบหกบาทห้าสิบสตางค์)
ระยะเวลาก่อสร้าง:68 วัน นับตั้งแต่วันที่  1สิงหาคม 2549

2.โครงการเดอะ เน็กซ์ คอนโดมิเนียม
รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร
สถานที่ก่อสร้าง:ซอยลาดพร้าว 44
ผู้ว่าจ้าง:บจ. เค.ดี.แอสเซท
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:11,770,000 บาท
              (สิบเอ็ดล้านเจ็ดแสนเจ็ดหมื่นบาทถ้วน)
ระยะเวลาก่อสร้าง:45 วัน นับตั้งแต่วันที่ 11 กรกฎาคม 2549

3.โครงการอาคารสถานีต้นทางชิดลม การไฟฟ้านครหลวง
รายละเอียดของงาน:เสาเข็มเจาะ สำหรับฐานรากอาคาร (งานเฉพาะค่าแรง)
สถานที่ก่อสร้าง:ชิดลม
ผู้ว่าจ้าง:บจ. ยูนิมา เอ็นจิเนียริ่ง
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:6,161,916 บาท
              (หกล้านหนึ่งแสนหกหมื่นหนึ่งพันเก้าร้อยสิบหกบาทถ้วน)
ระยะเวลาก่อสร้าง:60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 สิงหาคม 2549

4.งานรับเหมาก่อสร้างโรงอาหาร U-Center ส่วนเพิ่มเติมโครงการตักสิลานคร
รายละเอียดของงาน:งานก่อสร้างโรงอาหาร
สถานที่ก่อสร้าง:จังหวัดมหาสารคาม
ผู้ว่าจ้าง:บจ. ซีทีที เรียล เอสเตท
มูลค่าสัญญาที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม:5,978,382.55 บาท
              (ห้าล้านเก้าแสนเจ็ดหมื่นแปดพันสามร้อยแปดสิบสองบาทห้าสิบห้าสตางค์)
ระยะเวลาก่อสร้าง:60 วัน นับตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2549

รวมมูลค่า 4 โครงการที่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วเป็นเงิน 36,326,525.05 บาท
(สามสิบหกล้านสามแสนสองหมื่นหกพันห้าร้อยยี่สิบห้าบาทห้าสตางค์)

จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ

หุ้นที่ต้องจับตาอีก 1 ตัวคือ ไพลอน (PYLON) ที่จะหมดไซเลนท์พีเรียดในวันที่ 22 มิถุนายน นี้ โดยผู้บริหารยืนกรานยังไง...ยังงัย ก็ไม่ปล่อยหุ้นออกมาเด็ดขาด!! โดยให้เหตุผลว่าอนาคตของบริษัทยังสามารถเติบโตได้อีกยาวไกล มูลค่าเพิ่มของบริษัทเติบโต และแข็งแรงเพิ่มมากขึ้นทุกปี แถมยังมีความมั่นคงกว่าการถือเงินสดเสียอีก!! แหม ไม่รู้เอาสมมติฐานไหนมาพิสูจน์เพราะตามหลักแล้วช่วงดอกเบี้ยสูงนี้ควรถือเงินสดไม่ใช่หรือ

***ผู้บริหารมีแต่ซื้อเข้าไม่มีขายออกมาเลยเป็นไปตามที่ให้สัมภาษณ์กับสื่อ***

ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 25/08/2549 24/08/2549 39,100 1.85 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 28/08/2549 25/08/2549 125,000 1.90 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 29/08/2549 28/08/2549 48,500 1.90 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 30/08/2549 29/08/2549 36,100 1.92 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 31/08/2549 30/08/2549 87,700 1.95 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 01/09/2549 31/08/2549 44,800 1.91 ซื้อ  
ชเนศวร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/09/2549 08/09/2549 10,000 1.91 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 07/04/2549 04/04/2549 100,000 2.02 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 07/04/2549 05/04/2549 140,000 2.06 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 11/04/2549 10/04/2549 90,900 2.10 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/04/2549 11/04/2549 116,100 2.15 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 18/04/2549 12/04/2549 172,000 2.23 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 01/09/2549 31/08/2549 60,000 1.91 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 04/09/2549 01/09/2549 10,900 1.90 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 06/09/2549 05/09/2549 4,100 1.91 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 08/09/2549 07/09/2549 13,000 1.92 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 12/09/2549 11/09/2549 12,000 1.92 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 13/09/2549 12/09/2549 10,000 1.92 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 14/09/2549 13/09/2549 9,100 1.92 ซื้อ  
บดินทร์  แสงอารยะกุล ผู้จัดทำ หุ้นสามัญ 15/09/2549 14/09/2549 20,000 1.94 ซื้อ  

น้ำมันลง ตัวนี้ก็น่าจะได้ไปเต็มๆ ดูตัว  seafco ธุรกิจคล้ายๆกัน หุ้นไปไกลแล้ว ตอบรับกับการที่ราคาน้ำมันลง  แต่ตัวนี้ยังถูกทอดทิ้งอยู่เลย น่าจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจในตลาดใหม่อีกตัวมั้ยคะ ช่วยๆกันวิเคราะห์หน่อยค่ะ
striker
สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
โพสต์: 166
ผู้ติดตาม: 0

## Pylon นี่เป็นไงบ้างคะ เห็นเค้าว่าไม่ค่อยมีคู่แข่ง ##

โพสต์ที่ 15

โพสต์

เท่าที่ผมทราบ PYLON น่าจะเป็นบริษัทที่แปลงร่างมาจาก Power P สมัยก่อนซึ่งได้ล้มกิจการไปแล้ว ดังนั้นควรจะต้องดูในด้าน Good Governance ด้วยนะครับ ว่าดีหรือเปล่า
โพสต์โพสต์