ถามคนที่ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี แล้วพอร์ตมีหุ้นเยอะเกิน

[Linzhi]

ถ้าเริ่มต้นสมมุติลงทุน 1 ล้านบาท สร้างพอร์ตเสร็จแล้วรู้สึกลงตัวมาก

ปีต่อมาต้องลงทุนต่อเพิ่มขึ้นปีละ 1 ล้านบาท ปีถัดมาเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้าน

ผมทำมา 3 ปีแล้ว รู้สึก port จะมีหุ้นหลากหลายขึ้นทุกที ทั้ง ๆ ที่อยากใจไม่อยากมีเกิน 10 ตัว เพราะหุ้นตัวเก่า ๆ ราคาขยับไปจนไม่ค่อยอยากซื้อ จะมีซื้อเพิ่มก็ทำใจนาน

พี่ ๆ คนอื่นทำยังไงในสถานการณ์นี้ครับ

[NTY]

แปลกใจ ทำไมหุ้นเยอะจัง มีเด็กดูแลให้เหรอคะ
นี่เพิ่งจะขยับเพิ่มทุนในพอร์ตแต่อยากลดจำนวนหุ้นค่ะ
ดูแลไม่ทั่วถึง

รอฟังคนอื่นๆอยู่เหมือนกัน

[chansaiw]

ผมว่า focus invest ดีกว่าที่จะเพิ่มหุ้นตัวอื่นเข้าไปเพราะมันจะดูแลไม่ทั่วแล้วก็ทำให้ไม่มั่นใจนะครับ
ถามว่าแพงเกินไปทำไง ก็รออะครับ
ถ้าคิดว่ากิจการมีอนาคต น่าจะรอดูช่วงที่ตกมากๆ แล้วดูว่ายอมรับได้มั้ย
เพราะจริงๆแล้ว ช่วงเวลาในการลงทุนนั้นมากแต่จังหวะที่ดีอาจต้องรอ
แล้วถ้าได้จังหวะที่เหมาะสมไม่ดีกว่าเหรอ
ไม่ต้องลงทุนบ่อย หรอกครับ

[ปรัชญา]

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวว่า  อาจตอบไม่ตรงคำถาม

อยากถามกลับว่าเจ้าของกระทู้

ซื้อหุ้นตัวใหม่เพิ่มเพราะเหตุผลอะไร
ซื้อหุ้นตัวใหม่เพิ่มด้วยต้องการอะไร+หวังผลอะไร



หากตอบว่าไม่ทราบก็คงต้องตั้งคำถามใหม่ล่ะครับ

คำตอบอยู่ในนั้นครับ

[Linzhi]

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำครับ

ตอบคุณปรัชญาครับว่า

ณ ราคาปัจจุบัน หุ้นที่มีอยู่ ราคาวิ่งหนีมูลค่าไปแล้ว
แต่มีหุ้นหลายตัวที่ดูแล้ว ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่ เงินที่เพิ่มทุนขึ้นมา จะให้นั่งรอมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ให้เหมาะสม ในความคิดผมคือเสียโอกาสในการลงทุนหุ้นตัวอื่นไป

เป้าหมายการลงทุนผมก็คือชนะตลาดครับ ถ้ามีเงินสดนิ่ง ๆ ไว้ 50% ของพอร์ต (หลังจากเพิ่มทุน) ผลตอบแทนจะไม่ถึงเป้าหมายครับ

อีกเรื่องผมมีปัญหาเรื่องการเปรียบเทียบหุ้นด้วยกันครับ ถ้าให้เทียบกับมูลค่าตัวมันเอง ผมจะตอบได้ดีกว่า เทียบว่าตัวไหนน่าจะดีกว่ากัน
ถ้ามันสูสีกันผมแทบแยกไม่ออก แบบว่ารักพี่เสียดายน้อง

[ลูกอิสาน]

ซื้อหุ้นตัวใหม่เพิ่มเพราะเหตุผลอะไร
ซื้อหุ้นตัวใหม่เพิ่มด้วยต้องการอะไร+หวังผลอะไร

ใช่ครับ เราต้องการให้พอร์ตเป็นอย่างไร
และซื้อหุ้นด้วยเหตุผลอะไร เพื่อให้พอร์ตได้ตามเป้าหมายนั้น

หากรักพี่เสียดายน้อง ต้องอ่านอันนี้ครับ..

บางทีเราก็ไม่อาจใขว่คว้าสิ่งที่เราชอบไว้ได้ทั้งหมด เพราะเราไม่มีมือจะถือแล้ว ก็ต้องปล่อยให้มันผ่านไป ให้คนอื่นที่มือเขายังว่างอยู่ ใขว่คว้ากันไปบ้าง แบ่งๆกันไป............ครรชิต ไพศาล

[Linzhi]

ขอบคุณครับ  

[nana]

ถามหน่อยดิคะ
หุ้นราคาหนีมูลค่าแล้วถือทำไมอีก

[yoyo]

ณ ราคาปัจจุบัน หุ้นที่มีอยู่ ราคาวิ่งหนีมูลค่าไปแล้ว
แต่มีหุ้นหลายตัวที่ดูแล้ว ราคาต่ำกว่ามูลค่าอยู่ เงินที่เพิ่มทุนขึ้นมา จะให้นั่งรอมูลค่าหุ้นที่มีอยู่ให้เหมาะสม ในความคิดผมคือเสียโอกาสในการลงทุนหุ้นตัวอื่นไป

ผมว่าขายตัวที่ถืออยู่ไปซื้อตัวใหม่ที่ราคาถูกกว่ามูลค่าดีมั๊ยครับ
ปกติเวลาผมซื้อขายหุ้นผมจะพยายามลืมว่าผมถือหุ้นอะไรอยู่ที่ราคาเท่าไหร่
แล้วตัวสินใจ ณ เวลาปัจจุบันว่าตัวไหนดีที่สุดทั้งในแง่คุณภาพและราคา แล้วก็ซื้อตัวอันดับต้นๆซัก 2-3 ตัว
ช่วงแรกๆที่เล่นหุ้นผมมีหุ้นใน port 5-6
ทุกวันนี้มีอยู่ 2 ตัวเองครับ

[Linzhi]

ตอบคุณ nana
เพราะว่ามูลค่าน่าจะเติบโตขึ้นได้อีกครับ ผมแค่ไม่ซื้อเพิ่ม แต่ก็ไม่ขายเหมือนกัน กอดมันไว้จนกว่าความสามารถในการแข่งขันมันหายไป รายได้ผมคือปันผลที่มากขึ้น หลังจากซื้อแล้วผมแทบไม่มองราคาหุ้นเลย ขอแค่ไม่ขาดทุนก็พอแล้ว (แต่โดยปกติจะวิ่งไปด้วยกัน) ราคาบางครั้งเกินมูลค่าบ้างก็หยวน ๆ ไป เพราะบางครั้งผมงงกับการให้ราคาหุ้นของตลาดเหมือนกัน ผมดูที่กิจการมากกว่าครับ

ไม่รู้เรียก VI รึเปล่าแบบนี้ ผมเข้าซื้อแบบประเมินมูลค่ากิจการ แต่ผมขายออกแบบประเมินความสามารถในการแข่งขัน อีกสาเหตุคือเครียดเปล่า ๆ ครับ ขายเข้าขายออก สำหรับผมนอนดูเฉย ๆ รับปันผลที่มากขึ้น มีความสุขกว่าครับ

ถามคุณ yoyo
ผมแชร์ได้มั๊ยครับว่าการมีหุ้น 2 ตัวไม่เสี่ยงเกินไปหรอครับ
ถึงผมจะไม่อยากมีหุ้นเยอะ ก็ไม่อยากมีน้อยเหมือนกัน เพราะบางตัวผมคาดว่าน่าจะดีมาก ๆ แต่กลับธรรมดา บางตัวธรรมดา(คือแพงมากแล้ว)ก็กลับดีเหลือเกิน บางตัวคิดว่าน่าจะดีกลับบ๊วยเลย

ผมไม่อยากมีหุ้นเยอะเพราะดูแลยาก แต่ให้ผมมีน้อยกว่า 6-7 ตัว ผมก็คิดว่าเสี่ยงเหมือนกัน คือเอาเวลาหาหุ้นดี ๆ เพิ่มง่ายกว่าเอาเวลาเข้าไปเจาะหุ้นที่มีอยู่ 2-5 ตัว เพราะบางทียิ่งเจาะแล้ว เดี๋ยวรู้สึกเริ่มไม่อยากถือแล้ว พอไปเริ่มหุ้นตัวใหม่แล้วรู้สึกขี้เกียจเริ่มต้นใหม่ (คนละหลักการกับหาแฟนนะครับ)  :lol:

[yoyo]

2 ตัวเสี่ยงมั๊ย
ผมก็ว่าเสี่ยงครับ
แต่ผมพยายามหาหุ้นตัวที่ 3 ตัวที่4 ดู
ผมกลับรู้สึกว่าถ้าให้ผมถือไอ้ 2 ตัวแรกกับ ขยายไปซื้อตัวที่ 3 กับ 4 ผมกลับมาว่าความเสียงของตัวธุรกิจของหุ้นอันดับรองๆลงมามันมากกว่าความเสี่ยงที่ผมจะถือหุ้นเพียง 2 ตัวพอดูเลยครับ
อีกอย่างหุ้น 2 ตัวนี้ก็เป็นหุ้นที่ผมติดตามศึกษามานานมากพอดู อย่างตัวแรกนี่ผมติดตามมาตั้งแต่ผมเริ่มเล่นหุ้นครั้งแรกเมื่อ 3 ปีก่อน ตามธุรกิจตามดูงบไปประชุมผู้ถือหุ้น ไป company visit ไปงาน oppday จนผมมั่นใจว่าเป็นหุ้นที่ความเสี่ยงต่ำมากกว่าหุ้นตัวอื่นๆเยอะ
แต่อันนี้ก็แล้วแต่คนนะครับ .. วิธีของผมอาจจะไม่ได้ถูกต้องก็ดี ยินดีรับฟังทุกความเห็นครับ

[nana]

ดีค่ะ แต่สำหรับข้าพเจ้า แค่ราคามาใกล้มูลค่า(ที่คำนวณมั่วๆเอา)
สัก 80% ก็เผ่นแล้วค่ะ เพราะคิดว่า
1. ประเมินมูลค่ายังไง มันก็มีโอกาสผิดได้
คือ ไม่เชื่อตัวเองนั่นเอง
2. หุ้นที่เราถืออยู่ ยังไงมันก็ไม่ได้ control
ไม่มีใครซื้อเต็มมูลค่าหรอก

ก็แชร์กันค่ะ สนุกดี