การลงทุนในเพชร
-
- Verified User
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 1
คือผมคุยกับแม่อะครับ เห็นแกบอกว่าเพชรที่น้ำระดับ96%เลย แล้วขนาดประมาณ1กะรัต แล้วราคาอยู่ในช่วง7แสนอัพอะครับ ราคาจะขึ้นประมาณ30%ทุกปีไปเรื่อย อย่างน้อยก็ช่วง3ปีที่ผ่านมาละครับ เพราะแม่ผมแกอยากได้ตามราคาตลอดแต่มันแพงขึ้นแพงขึ้นไม่ได้ซื้อซะที คิดว่าการซื้อเพชรมาเก็บแล้วฝากBankไว้เป็นการลงทุนที่ดีไหมครับ ยังไงเพชรก็เป็นสินค้าที่มีวันหมด ยังไง ราคาน่าจะแพงขึ้นเรื่อยๆนะครับ พี่ๆคิดเห็นว่าไง ช่วยแสดงความคิดเห็นด้วยครับ ถ้าใครมีความรู้เรื่องตลาดอัญมณีช่วยมาให้ข้อเท็จจริงหน่อยครับ ว่าที่ผมได้ยินมามันราคาขนาดนี้จริงไหมกับเพราะอะไรถึงขึ้นขนาดนี้อะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1688
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 2
หัวข้อนี้น่าจะอยู่ห้อง alternative investment :D
ผมได้ตัดแปะข้อความเกี่ยวกับเพชร
ที่ผมได้รับการอธิบายจากเพื่อนในห้องสินทร
ซึ่งอยู่วงการเพชร และเป็นอาจารย์พิเศษสอนเรื่องเพชร
เห็นว่าได้ความรู้ดี
--------------------------------------------------
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:45]
ดังนั้นที่พี่ถามว่าอันไหนมีผลต่อราคามากกว่ากัน มันตอบได้เลยว่า "มันตอบไม่ได้ครับ" เพราะว่า ในบางช่วงสีก็จะมีผลกระทบมากกว่า ในบางช่วง ความสะอาดก็จะมีผลมากกว่า
ราคาเพชรเนี่ย มันจะมีอยู่ในบางช่วง (หมายถึง บางช่วงของน้ำหนัก, สี และ น้ำหนัก เช่น ถ้าเป็น D,E,F Color + Clarity ประมาณ LC, VVS1, VVS2) ราคาจะไม่มีลงครับ แถมขึ้นเร็วด้วยซ้ำ
ราคาจากต้นปีที่แล้วจนถึงตอนนี้เนี่ย เปลี่ยนไปประมาณ 20% แล้วครับ
ถ้าจะบอกว่า แล้วเรื่องราคาเนี่ย หามาจากไหน (ผมว่าพี่คงงง แน่ ๆ )
คือ คนขายเพชรเนี่ยจะอ้างอิงราคาจาก rapaport report ซึ่งเป็นราคาที่อ้างอิงมาจากหน้าร้านใน New York USA ที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วในเมืองไทยก็จะบอกว่า "ลดกี่เปอร์เซนต์จาก Rapaport" อ่ะครับ จะเป็นระบบนี้หมด
เช่น่ I Color, VVS1 - 2 เนี่ยอาจจะลดอยู่ประมาณ 18 - 20% นะครับ
คือว่าถ้าซื้อเพชรเกินกว่า สี่สิบตัง 0.40 Pts เนี่ย ผมแนะนำให้ซื้อเพชรที่มีใบ Certificate ดีกว่า เพราะมีข้อดีในแง่ของการ Investment และการไม่ถูกกดราคาในกรณีของการขายคืนครับ
เดี๋ยวมีต่อ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:40]
ต่อนะครับ
ดังนั้น ในเรื่องของราคา จะแปรผันตาม 4 C + 1 หน่ะครับ
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าไซส์ 1 กะรัต สี D (100) ความสะอาด = LC แล้ว Cuting Very good, very good plus certificate แล้วหล่ะก็ พี่ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ กะรัตละ 600,000 - 700,000 แถมยังโคตรหายากในเมืองไทยด้วยครับ
ในทางอื่น เช่น ไซส์กะรัต D Color SI2 (ความสะอาดต่างกัน 7 ระดับ..ซึ่งบางทีพี่อาจจะไม่ได้เห็นตำหนิด้วยตาเปล่าเช่นกันเนี่ย) very good very good plus certificate เหมือนกันเนี่ย ราคาก็จะอยู่ประมาณ กะรัตละ 170,000 - 180,000
ต่างกันเยอะดีมั๊ยพี่
อีกสักสองตัวอย่างนะพี่ ถ้าเป็นสี I Color; VVS1; very good very good, 1 Ct Size; plus certificate ราคาก็จะอยู่ประมาณ สองแสน
เดี๋ยวมาต่อที่พี่ถามต่อครับ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:34]
พี่เต่าฯครับ สงสัยผมจะพิมพ์ผิด แหะ แหะ มันสองแสนกว่าทั้งคู่แหละครับ
คือ ปัจจัยในการเลือกเพชรเนี่ย ต้องดูทั้งหมดได้แก่ 4C + 1 ครับ นั่นก็คือ
C = Color ขาว (100 = D) ลงไปเรื่อย ๆ ครับ
C = Clarity ความสะอาด ตั้งแต่ (IF = Internal Flawless/ LC = Loupe Clean ลงไปเรื่อย ๆ VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2..)
C = Cutting เรื่องของรูปร่างการเจียระไน ว่าได้สัดส่วน (propotion) กับการเจียระไนว่าดีหรือเปล่า (Making) ครับ Very good, very good จะทำให้การ เซ็ทในตัวเรือนสวยมากครับ
C = Carat Weight หรือน้ำหนักนั่นเอง คือ ถ้ายิ่งใหญ่ก็ยิ่งแพง (หรือยิ่งเล็กก็ยิ่งถูกครับ)
+ 1 ที่ว่าคือ Certificate ครับ ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีของ GIA (Gemological Institute of America) กับ HRD ของเบลเยี่ยมครับ
เดี๋ยวมาต่อ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 14:49]
มีอีกเยอะแยะเลยพี่ รายละเอียด
เดี๋ยวแว้บไปข้างนอกก่อน พี่แปะมาแล้วกันนะครับว่าอยากรู้เรื่องอะไร ผมบอกได้หมดอ่ะครับ
แหะ แหะ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 14:48]
ต่อนะครับ...
ดังนั้นเนี่ย ผมถึงถามว่า ขาวของพี่เนี่ยขนาดไหน เริ่มจาก D color คือน้ำร้อย (100) นะครับ
เมื่อสักสองอาทิตย์ก่อน ผมเพิ่งขายให้คุณแม่ของคุณเพื่อนไปที่ F Color (น้ำ 98) ที่ความสะอาด VS 1 โดยที่ Making และ Propotion ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ลักษณะการเจียและสัดส่วน Very Good; Very good นั่นคือดีที่สุดแล้ว พร้อมกับใบ Certificate จาก HRD (Belgium) ไซส์ 1.09 กะรัต ในราคา 2,900,000 ครับ ซึ่งถ้าพี่ไม่ต้องการขาวขนาดนั้นราคามันจะลดหลั่นตามกันมาครับ
สองเดือนก่อน E Color (น้ำ 99) ความสะอาด SI 2 (Small Inclusion ระดับ สอง) โชคดีที่ตำหนิไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใบเซอร์ IGI ขายไปสองแสนสามหมื่นกว่าบาท
อะไรประมาณเนี่ยอ่ะครับ
ผมได้ตัดแปะข้อความเกี่ยวกับเพชร
ที่ผมได้รับการอธิบายจากเพื่อนในห้องสินทร
ซึ่งอยู่วงการเพชร และเป็นอาจารย์พิเศษสอนเรื่องเพชร
เห็นว่าได้ความรู้ดี
--------------------------------------------------
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:45]
ดังนั้นที่พี่ถามว่าอันไหนมีผลต่อราคามากกว่ากัน มันตอบได้เลยว่า "มันตอบไม่ได้ครับ" เพราะว่า ในบางช่วงสีก็จะมีผลกระทบมากกว่า ในบางช่วง ความสะอาดก็จะมีผลมากกว่า
ราคาเพชรเนี่ย มันจะมีอยู่ในบางช่วง (หมายถึง บางช่วงของน้ำหนัก, สี และ น้ำหนัก เช่น ถ้าเป็น D,E,F Color + Clarity ประมาณ LC, VVS1, VVS2) ราคาจะไม่มีลงครับ แถมขึ้นเร็วด้วยซ้ำ
ราคาจากต้นปีที่แล้วจนถึงตอนนี้เนี่ย เปลี่ยนไปประมาณ 20% แล้วครับ
ถ้าจะบอกว่า แล้วเรื่องราคาเนี่ย หามาจากไหน (ผมว่าพี่คงงง แน่ ๆ )
คือ คนขายเพชรเนี่ยจะอ้างอิงราคาจาก rapaport report ซึ่งเป็นราคาที่อ้างอิงมาจากหน้าร้านใน New York USA ที่เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก แล้วในเมืองไทยก็จะบอกว่า "ลดกี่เปอร์เซนต์จาก Rapaport" อ่ะครับ จะเป็นระบบนี้หมด
เช่น่ I Color, VVS1 - 2 เนี่ยอาจจะลดอยู่ประมาณ 18 - 20% นะครับ
คือว่าถ้าซื้อเพชรเกินกว่า สี่สิบตัง 0.40 Pts เนี่ย ผมแนะนำให้ซื้อเพชรที่มีใบ Certificate ดีกว่า เพราะมีข้อดีในแง่ของการ Investment และการไม่ถูกกดราคาในกรณีของการขายคืนครับ
เดี๋ยวมีต่อ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:40]
ต่อนะครับ
ดังนั้น ในเรื่องของราคา จะแปรผันตาม 4 C + 1 หน่ะครับ
ยกตัวอย่างเช่น
ถ้าไซส์ 1 กะรัต สี D (100) ความสะอาด = LC แล้ว Cuting Very good, very good plus certificate แล้วหล่ะก็ พี่ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณ กะรัตละ 600,000 - 700,000 แถมยังโคตรหายากในเมืองไทยด้วยครับ
ในทางอื่น เช่น ไซส์กะรัต D Color SI2 (ความสะอาดต่างกัน 7 ระดับ..ซึ่งบางทีพี่อาจจะไม่ได้เห็นตำหนิด้วยตาเปล่าเช่นกันเนี่ย) very good very good plus certificate เหมือนกันเนี่ย ราคาก็จะอยู่ประมาณ กะรัตละ 170,000 - 180,000
ต่างกันเยอะดีมั๊ยพี่
อีกสักสองตัวอย่างนะพี่ ถ้าเป็นสี I Color; VVS1; very good very good, 1 Ct Size; plus certificate ราคาก็จะอยู่ประมาณ สองแสน
เดี๋ยวมาต่อที่พี่ถามต่อครับ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 17:34]
พี่เต่าฯครับ สงสัยผมจะพิมพ์ผิด แหะ แหะ มันสองแสนกว่าทั้งคู่แหละครับ
คือ ปัจจัยในการเลือกเพชรเนี่ย ต้องดูทั้งหมดได้แก่ 4C + 1 ครับ นั่นก็คือ
C = Color ขาว (100 = D) ลงไปเรื่อย ๆ ครับ
C = Clarity ความสะอาด ตั้งแต่ (IF = Internal Flawless/ LC = Loupe Clean ลงไปเรื่อย ๆ VVS1, VVS2, VS1, VS2, SI1, SI2..)
C = Cutting เรื่องของรูปร่างการเจียระไน ว่าได้สัดส่วน (propotion) กับการเจียระไนว่าดีหรือเปล่า (Making) ครับ Very good, very good จะทำให้การ เซ็ทในตัวเรือนสวยมากครับ
C = Carat Weight หรือน้ำหนักนั่นเอง คือ ถ้ายิ่งใหญ่ก็ยิ่งแพง (หรือยิ่งเล็กก็ยิ่งถูกครับ)
+ 1 ที่ว่าคือ Certificate ครับ ซึ่งหลัก ๆ ก็จะมีของ GIA (Gemological Institute of America) กับ HRD ของเบลเยี่ยมครับ
เดี๋ยวมาต่อ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 14:49]
มีอีกเยอะแยะเลยพี่ รายละเอียด
เดี๋ยวแว้บไปข้างนอกก่อน พี่แปะมาแล้วกันนะครับว่าอยากรู้เรื่องอะไร ผมบอกได้หมดอ่ะครับ
แหะ แหะ
From : Bo@Home [3 พฤศจิกายน 2548 14:48]
ต่อนะครับ...
ดังนั้นเนี่ย ผมถึงถามว่า ขาวของพี่เนี่ยขนาดไหน เริ่มจาก D color คือน้ำร้อย (100) นะครับ
เมื่อสักสองอาทิตย์ก่อน ผมเพิ่งขายให้คุณแม่ของคุณเพื่อนไปที่ F Color (น้ำ 98) ที่ความสะอาด VS 1 โดยที่ Making และ Propotion ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ลักษณะการเจียและสัดส่วน Very Good; Very good นั่นคือดีที่สุดแล้ว พร้อมกับใบ Certificate จาก HRD (Belgium) ไซส์ 1.09 กะรัต ในราคา 2,900,000 ครับ ซึ่งถ้าพี่ไม่ต้องการขาวขนาดนั้นราคามันจะลดหลั่นตามกันมาครับ
สองเดือนก่อน E Color (น้ำ 99) ความสะอาด SI 2 (Small Inclusion ระดับ สอง) โชคดีที่ตำหนิไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ใบเซอร์ IGI ขายไปสองแสนสามหมื่นกว่าบาท
อะไรประมาณเนี่ยอ่ะครับ
==หากบริษัทไม่ได้อยู่ในตลาดฯ หุ้นยังน่าซื้อหรือไม่ ==
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 3
จริงอยู่ช่วง 1-2 ปีล่าสุดนี้ราคาเพชรเพิ่มสูงขึ้นมาก (โดยเฉพาะขนาดกะรัตไซส์ ขึ้นไป) เท่าที่ได้ยินมาน่าจะสืบเนื่องมาจาก การที่ De beers พยายามควบคุมปริมาณเพชรก้อนไม่ให้มีปริมาณมากนักในตลาด แต่การลงทุนในเพชร ถ้าไม่ใช่คนในวงการ ทำได้ลำบากนะครับ เพราะเพชรนั้นเวลาขายสภาพคล่องต่างจากทองมาก (ไม่ได้ขายง่ายเหมือนทอง และมักถูกกดราคามาก โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้บริโภคเป็นผู้ขายต่อ)
ราคาเพชรน้ำประมาณ 96% ความสะอาด VVS ราคาตลาดจะประมาณ 240,000-250,000 บาท/กะรัต ครับ (ราคากลางจาก Rapaport = US$7000/carat, คิดส่วนลดประมาณ 15%) เพชรที่นิยมนำมาใช้เป็นแหวนหมั้น ควรจะมีน้ำ 94% ขึ้นไป (ถ้าต่ำกว่านี้เพชรจะออกเหลือง) และความสะอาดระดับ VS ขึ้นไปครับ
ราคาเพชรน้ำประมาณ 96% ความสะอาด VVS ราคาตลาดจะประมาณ 240,000-250,000 บาท/กะรัต ครับ (ราคากลางจาก Rapaport = US$7000/carat, คิดส่วนลดประมาณ 15%) เพชรที่นิยมนำมาใช้เป็นแหวนหมั้น ควรจะมีน้ำ 94% ขึ้นไป (ถ้าต่ำกว่านี้เพชรจะออกเหลือง) และความสะอาดระดับ VS ขึ้นไปครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 4
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วไปเดินหาเพชรแถวที่ต่างๆทั้งบ้านหม้อ
บางลำพู เซนทรัลเวิร์ล ไปเจออยู่เม็ดนึงครับที่สยามพารากอน ร้าน De Mond
สุดยอดเพชรเลยครับ หายากมากๆ สำหรับเพชรเม็ดนี้
D colour ตำหนิ IF
ได้ excellent คู่
เซอร์ GIA ลงว่าเป็น Heart & Arrow ด้วยครับ
เกิน 1.5 กะรัต ราคาล้านกว่าๆ เห็นแล้วน้ำลายไหล
น่าลงทุนมากๆ แต่ผมสู้ราคาไม่ไหว
เลยไปได้ที่ไท้เซ่งฮง G/IF ราคา 350,000
บางลำพู เซนทรัลเวิร์ล ไปเจออยู่เม็ดนึงครับที่สยามพารากอน ร้าน De Mond
สุดยอดเพชรเลยครับ หายากมากๆ สำหรับเพชรเม็ดนี้
D colour ตำหนิ IF
ได้ excellent คู่
เซอร์ GIA ลงว่าเป็น Heart & Arrow ด้วยครับ
เกิน 1.5 กะรัต ราคาล้านกว่าๆ เห็นแล้วน้ำลายไหล
น่าลงทุนมากๆ แต่ผมสู้ราคาไม่ไหว
เลยไปได้ที่ไท้เซ่งฮง G/IF ราคา 350,000
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 6
ตอบคุณหมอครับว่า ไม่ถือเป็นการลงทุนครับ
เพราะมีแต่เสียเปรียบร้านค้าเวลาคือที่หัก 15-20 %
ถือว่า ซื้อมาเป็นเครื่องประดับมากกว่า
ถ้าจะลงทุนเพชร ควรซื้อที่มีใบเซอร์ครับ และขนาดควรจะ 1 กะรัตขึ้นไปครับ อนาคตจะหายาก แล้วราคาคงขึ้นไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่คิดว่าเป็นการลงทุนอะไร แต่อย่างน้อยก็กำไรใส่นะครับ :lol: :lol:
เพราะมีแต่เสียเปรียบร้านค้าเวลาคือที่หัก 15-20 %
ถือว่า ซื้อมาเป็นเครื่องประดับมากกว่า
ถ้าจะลงทุนเพชร ควรซื้อที่มีใบเซอร์ครับ และขนาดควรจะ 1 กะรัตขึ้นไปครับ อนาคตจะหายาก แล้วราคาคงขึ้นไปเรื่อยๆ ผมเองก็ไม่คิดว่าเป็นการลงทุนอะไร แต่อย่างน้อยก็กำไรใส่นะครับ :lol: :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 8
ลองดูที่เวบนี้ก็ได้ครับ
มีผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรมาตอบให้ครับ
http://www.weddingsquare.com/forum/foru ... FID=9&PN=1
มีผู้เชี่ยวชาญด้านเพชรมาตอบให้ครับ
http://www.weddingsquare.com/forum/foru ... FID=9&PN=1
- worapong
- Verified User
- โพสต์: 929
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 9
ดอกเตอร์สุวรรณบอกว่าเป็นการลงทุนที่ดีถ้าคุณมีเมียแล้วครับ เพราะอย่างน้อยที่สุดเธอก็จะรักคุณมากขึ้น ส่วนเรื่องที่ว่าราคาเพชรขึ้นปีละ30%นั้นก็คงจะเกินความจริงไปหน่อยครับ ส่วนอนาคตจะราคาขึ้นไปเรื่อยๆเหมือนปัจจุบันนั้นยากที่จะบอกได้ครับ เพราะผมเคยอ่านเจอว่าตอนนี้มีการเลี้ยงเพชรแท้เกรดจิวเวอรี่ได้สำเร็จแล้ว ซึ่งจะนำมาใช้ในการทำโพรเซสเซอร์ยุคถัดไป ถ้าเกิดขึ้นจริงก็อาจจะทำให้เพชรน้ำงามมีราคากะรัตละ2-300บาทเท่านั้น ซึ่งมันก็เป็นเพชรแท้ แต่ไม่ได้เกิดตามธรรมชาติเท่านั้นเอง
margin of safety
circle of competence
waiting for the perfect pitch
circle of competence
waiting for the perfect pitch
- drchatri
- Verified User
- โพสต์: 767
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 10
ดอกเตอร์สุวรรณบอกว่าเป็นการลงทุนที่ดีถ้าคุณมีเมียแล้วครับ เพราะอย่างน้อยที่สุดเธอก็จะรักคุณมากขึ้น
เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่งครับ ผมรู้สึกว่าเธอจะอารมณ์ดีเป็นพิเศษเสมอที่ผมสนับสนุนให้เธอซื้อเพชรและเครื่องประดับ ส่วนดัวผมเองก็เลยมองว่าเป็นการลงทุนอย่างหนึ่ง
-
- Verified User
- โพสต์: 1608
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 11
บรึ๋ย.. เลขศูนย์เกินมาหรือเปล่าครับ ผมได้ยินว่า น้ำ 96 ราคากะรัตละแถว ๆ สามแสนนะครับผมเพิ่งขายให้คุณแม่ของคุณเพื่อนไปที่ F Color (น้ำ 98) ที่ความสะอาด VS 1 โดยที่ Making และ Propotion ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า ลักษณะการเจียและสัดส่วน Very Good; Very good นั่นคือดีที่สุดแล้ว พร้อมกับใบ Certificate จาก HRD (Belgium) ไซส์ 1.09 กะรัต ในราคา 2,900,000 ครับ
มนุษย์เห่อลูก :lol:
http://tyakon.multiply.com
http://tyakon.multiply.com
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 12
น่าจะเลข 0 เกินไปตัวนึงจริงๆนะครับ
ดูแล้วน่าจะประมาณ 290,000 บาท
ตอบคุณวรพงษ์ เรื่องเพชรเลี้ยงก็ทำได้แล้วครับ
กะรัตนึงไม่เกิน 500 บาท แต่ไม่สามารถรอดพ้นจากการตรวจสอบในห้อง LAB ได้ครับ และของเทียมยังไงก็เป็นของเทียมครับ จะให้มีคุณค่าเหมือนของแท้ไปไม่ได้ครับ
ที่ราคาเพชรขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากอ้างอิงจาก RAPAPORT PRICE ในนิวยอร์ค และบริษัท DE BEER ควบคุม SUPPLY ไม่ให้ออกมามากเกินไป
แต่ยังไงก็แล้วแต่ผมก็ยังคิดว่า "เพชร"ไม่น่าลงทุนเท่ากับ" ทองคำ"ครับ เพราะขาดสภาพคล่องและมักถูกกดราคาเวลาไปขายคืนครับ แต่มันก็เป็นความสุขทางใจเหมือนคุณหมอว่าไว้ เวลาเอามาส่องดูนะครับ
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะชื่นชอบเป็นพิเศษ
ดูแล้วน่าจะประมาณ 290,000 บาท
ตอบคุณวรพงษ์ เรื่องเพชรเลี้ยงก็ทำได้แล้วครับ
กะรัตนึงไม่เกิน 500 บาท แต่ไม่สามารถรอดพ้นจากการตรวจสอบในห้อง LAB ได้ครับ และของเทียมยังไงก็เป็นของเทียมครับ จะให้มีคุณค่าเหมือนของแท้ไปไม่ได้ครับ
ที่ราคาเพชรขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากอ้างอิงจาก RAPAPORT PRICE ในนิวยอร์ค และบริษัท DE BEER ควบคุม SUPPLY ไม่ให้ออกมามากเกินไป
แต่ยังไงก็แล้วแต่ผมก็ยังคิดว่า "เพชร"ไม่น่าลงทุนเท่ากับ" ทองคำ"ครับ เพราะขาดสภาพคล่องและมักถูกกดราคาเวลาไปขายคืนครับ แต่มันก็เป็นความสุขทางใจเหมือนคุณหมอว่าไว้ เวลาเอามาส่องดูนะครับ
โดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะชื่นชอบเป็นพิเศษ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 249
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 15
ตาม lab ตรวจได้แน่นอนครับ เพชรสังเคราะห์ (Synthetic Diamond) ปัจจุบันมี 2 ประเภท คือ CVD กับ HPHT (High Pressure High Temperature) สามารถตรวจสอบได้โดยใช้เครื่องลำแสงอุลตร้าไวโอเลตครับ หรือเครื่องมือเช็ค fluorescence ซึ่งจะทำให้ทราบลักษณะการฟอร์มตัวของผลึกเพชร ว่าเกิดจากธรรมชาติ หรือเกิดจากมนุษย์ แต่วิธีที่ร้านค้า และพ่อค้ามักใช้คือ การตรวจการนำความร้อน และดัชนีหักเหจะแยกเพชรสังเคราะห์กับเพชรจริงไม่ออก เพราะมีคุณสมบัติทางกายภาพเหมือนกันทุกอย่างตรวจได้จริงหรือครับ เพราะเพชรเลี้ยงที่ผมอ่านเจอ ไม่ได้หมายถึงเพชรสังเคราะห์พวก moisanite นะครับ หมายถึงเครื่องเลี้ยงคาร์บอนให้เป็นเพชร
-
- Verified User
- โพสต์: 123
- ผู้ติดตาม: 0
การลงทุนในเพชร
โพสต์ที่ 16
ถ้าตรวจสอบในห้อง LAB ไม่ได้ว่าอันไหนเป็นเพชรแท้
เพชรเทียม ลองคิดดูนะครับว่า อุตสาหกรรมอัญมณีทั่วโลกซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจะเป็นยังไง?
เพชรเกิดจากการรวมตัวกันของผลึกคาร์บอน ภายใต้แรงดันและอุณหภูมิที่สูงมาก (แรงดันประมาณ 3 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว ที่อุณหภูมิ 5,000 องศาเซลเซียส)
ภายใต้เปลือกโลกใกล้กับบริเวณที่เป็นจุดหลอมเหลว (Molten Area) ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า พันล้านปีก่อนที่เพชรจะค่อยๆเดินทางขึ้นมาสู่เปลือกโลกโดยผ่านออกมากับลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟ
กว่าจะได้เพชรที่เจียรไออกมา 1 กะรัตนั้น (ซึ่งเทียบเท่าน้ำหนักประมาณ 2 กะรัตก่อนเจียระไน) ต้องทำการขุดมากกว่า 500 ตัน เพราะโดยปกติแล้วการเจียระไนจะทำให้น้ำหนักของเพชรสูญหายไ ป 50-70% ของน้ำหนักเพชรดิบที่ขุดพบ แหล่งสำคัญที่ค้นพบเพชรดิบทั่วโลกคือ Boswanna, Russia, Namibia, และ South Africa.
จะเห็นได้ว่ากว่าจะได้เพชรที่เจียระไนแล้วมาแต่ละเม็ดนั้น ต้องมีการลงทุนสูงมาก ตั้งแต่การทำเหมืองเพชรและผ่านขบวนการแล ะ ขั้นตอนที่ซับซ้อนจนได้มาเป็นเพชร ที่เราใช้สำหรับสวมใส่ในปัจจุบันนี้ ราคาของเพชรจึงเพิ่มมูลค่าขึ้นในทุกปี
สาเหตุที่สำคัญเหล่านี้จึงทำให้บรรดาผู้ที่หลงรักในคุณค่าของ เพชร ต้องใช้ความพยายาม ในการเสาะหาเพชรในดวงใจและเก็บไว้ชื่นชม เปรียบเสมือนของขวัญที่ล้ำค่าจากธรรมชาติ
ราคาของเพชรขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ (4 Cs)
คือ น้ำหนัก(carat), สี(Color), ความบริสุทธิ์(Clarity), การเจียระไน(Cutting)
เพชรยิ่งคุณภาพสูงและขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้เพชรเม็ดนั้นหายากและมีมูลค่าสูงมากขึ้นเท่านั้น
อันนี้ต่างจากเพชรเทียมมากครับ ที่ใช้การบีบอัดธาตุคาร์บอนในห้องทดลองโดยการเร่งระยะเวลาให้เร็วขึ้น
เพชรแท้ๆ เค้ามีเอกลักษ์ของเค้าอยู่ในตัวแต่ละเม็ดอยู่แล้ว ซึ่งเพชรเทียมนั้นไม่มี ถึงจะสวยกว่าเพชรแท้สักแค่ไหน มันก้อไม่ใช่เพชรจริงๆ เพชรแท้ก็คือเพชรแท้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาใช้เวลานับล้านๆ ปี หาสิ่งอื่นสิ่งใดมาเลียนแบบนั้นยากครับ
*** ข้อมูลบางส่วนนำมาจากบทความของคุณเปิ้ล
หิรัญญา ตั้งทรัพย์กุล นะครับ ***
เพชรเทียม ลองคิดดูนะครับว่า อุตสาหกรรมอัญมณีทั่วโลกซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจะเป็นยังไง?
เพชรเกิดจากการรวมตัวกันของผลึกคาร์บอน ภายใต้แรงดันและอุณหภูมิที่สูงมาก (แรงดันประมาณ 3 ล้านปอนด์ต่อตารางนิ้ว ที่อุณหภูมิ 5,000 องศาเซลเซียส)
ภายใต้เปลือกโลกใกล้กับบริเวณที่เป็นจุดหลอมเหลว (Molten Area) ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า พันล้านปีก่อนที่เพชรจะค่อยๆเดินทางขึ้นมาสู่เปลือกโลกโดยผ่านออกมากับลาวาจากการระเบิดของภูเขาไฟ
กว่าจะได้เพชรที่เจียรไออกมา 1 กะรัตนั้น (ซึ่งเทียบเท่าน้ำหนักประมาณ 2 กะรัตก่อนเจียระไน) ต้องทำการขุดมากกว่า 500 ตัน เพราะโดยปกติแล้วการเจียระไนจะทำให้น้ำหนักของเพชรสูญหายไ ป 50-70% ของน้ำหนักเพชรดิบที่ขุดพบ แหล่งสำคัญที่ค้นพบเพชรดิบทั่วโลกคือ Boswanna, Russia, Namibia, และ South Africa.
จะเห็นได้ว่ากว่าจะได้เพชรที่เจียระไนแล้วมาแต่ละเม็ดนั้น ต้องมีการลงทุนสูงมาก ตั้งแต่การทำเหมืองเพชรและผ่านขบวนการแล ะ ขั้นตอนที่ซับซ้อนจนได้มาเป็นเพชร ที่เราใช้สำหรับสวมใส่ในปัจจุบันนี้ ราคาของเพชรจึงเพิ่มมูลค่าขึ้นในทุกปี
สาเหตุที่สำคัญเหล่านี้จึงทำให้บรรดาผู้ที่หลงรักในคุณค่าของ เพชร ต้องใช้ความพยายาม ในการเสาะหาเพชรในดวงใจและเก็บไว้ชื่นชม เปรียบเสมือนของขวัญที่ล้ำค่าจากธรรมชาติ
ราคาของเพชรขึ้นอยู่กับปัจจัยที่สำคัญ 4 ประการ (4 Cs)
คือ น้ำหนัก(carat), สี(Color), ความบริสุทธิ์(Clarity), การเจียระไน(Cutting)
เพชรยิ่งคุณภาพสูงและขนาดใหญ่มากขึ้นเท่าใด ยิ่งทำให้เพชรเม็ดนั้นหายากและมีมูลค่าสูงมากขึ้นเท่านั้น
อันนี้ต่างจากเพชรเทียมมากครับ ที่ใช้การบีบอัดธาตุคาร์บอนในห้องทดลองโดยการเร่งระยะเวลาให้เร็วขึ้น
เพชรแท้ๆ เค้ามีเอกลักษ์ของเค้าอยู่ในตัวแต่ละเม็ดอยู่แล้ว ซึ่งเพชรเทียมนั้นไม่มี ถึงจะสวยกว่าเพชรแท้สักแค่ไหน มันก้อไม่ใช่เพชรจริงๆ เพชรแท้ก็คือเพชรแท้เป็นสิ่งที่ธรรมชาติสร้างมาใช้เวลานับล้านๆ ปี หาสิ่งอื่นสิ่งใดมาเลียนแบบนั้นยากครับ
*** ข้อมูลบางส่วนนำมาจากบทความของคุณเปิ้ล
หิรัญญา ตั้งทรัพย์กุล นะครับ ***