ขอถามเกี่ยวกับRHC (โรงแรมราชดำริ)ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเกี่ยวกับRHC (โรงแรมราชดำริ)ครับ
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ ผมเป็นสมาชิกใหม่และเพิ่งเริ่มลงทุนในหุ้นมาไม่นาน ผมได้ซื้อหุ้นของโรงแรมราชดำริ (RHC)ไว้ โดยหวังจะถือระยะยาวเพื่อรับเงินปันผล เหตุผลหลักคือคิดว่าp/eเมื่อเปรียบเทียบกับโรงแรมอื่นแล้วยังไม่สูงนัก roeและdivอยู่ในระดับใช้ได้ มูลค่ารวมตามราคาตลาดยังไม่มากเกินสมควร มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนในตลาดไม่มาก อัตราการจองห้องพักโรงแรมสูง และน่าจะมั่นใจได้ในความโปร่งใสเพราะพบว่าในหลวงและสมเด็จพระพี่นางเธอทรงถือหุ้นไว้ด้วย
แต่ข่าวล่าสุดจากหนังสือพิมพ์ today post ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12 ระบุว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ขายหุ้นโรงแรมรีเจนท์ทั้งหมดคือ6.2%ให้รอยัลการ์เด้นรีซอรท ส่งผลให้รอยังการ์เด้นรีซอร์ทถือหุ้นใหญ่ 49.05% บริษัทคอมลิงค์ ถือ 30% นอกจากนี้ รอยัลการ์เด้นยังซื้อหุ้นบริษัท แม่ริม เทอเรซ รีซอรท ที่เป็นบริษัทลูกของRHC ดำเนินกิจการโรงแรม เดอะรีเจนท์ รีซอร์ท เชียงไหม่ จำนวน 8.3% ซึ่งการซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้รอยังการ์เด้น เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่ริม เทอเรซ รีซอรท ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านบริษัท RHC
ขอรบกวนถามดังนี้ครับ
1. ข่าวนี้น่าจะส่งผลอย่างไรต่อราคาหุ้นrhcในระยะยาวครับ
2. ผู้บริหารของโรงแรมนี้มีความโปร่งใสมากน้อยอย่างไรครับ
3. ผู้บริหารของ RGR (รอยัลการ์เด้นรีสอร์ท) และผู้บริหารของบริษัท คอมลิงค์ มีประวัติความโปร่งใสอย่างไร และมีความสามารถในการบริหารโรงแรมดีไหม
4. จากหนังสือสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน2546 RHCได้มีการปรับเปลี่ยนสัญญาการบริหารจากที่ทำไว้กับ บริษัท รีเจนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ลส์ เป็น บริษัท Four Seasons Hotels & Resorts Asia Pacific Pte. Ltd. ไม่ทราบว่าความสามารถในการบริหารโรงแรม ชื่อเสียงและจำนวนลูกค้าประจำ ของFour Seasons เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับบริษัท รีเจนท์ และอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของrhc อย่างไรครับ
5. ที่ดินของโรงแรมรีเจนท์ กรุงเทพ เป็นที่เช่าจากสำนักงานพระคลังข้างที่ มีอายุสัญญาเหลือประมาณ 30ปี ไม่ทราบว่าหลังจากหมดสัญญาแลัว หุ้นที่ถือไว้จะถูกประเมินอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ
หมาป่า
แต่ข่าวล่าสุดจากหนังสือพิมพ์ today post ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12 ระบุว่า สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ได้ขายหุ้นโรงแรมรีเจนท์ทั้งหมดคือ6.2%ให้รอยัลการ์เด้นรีซอรท ส่งผลให้รอยังการ์เด้นรีซอร์ทถือหุ้นใหญ่ 49.05% บริษัทคอมลิงค์ ถือ 30% นอกจากนี้ รอยัลการ์เด้นยังซื้อหุ้นบริษัท แม่ริม เทอเรซ รีซอรท ที่เป็นบริษัทลูกของRHC ดำเนินกิจการโรงแรม เดอะรีเจนท์ รีซอร์ท เชียงไหม่ จำนวน 8.3% ซึ่งการซื้อหุ้นครั้งนี้ ส่งผลให้รอยังการ์เด้น เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแม่ริม เทอเรซ รีซอรท ทั้งทางตรงและทางอ้อมผ่านบริษัท RHC
ขอรบกวนถามดังนี้ครับ
1. ข่าวนี้น่าจะส่งผลอย่างไรต่อราคาหุ้นrhcในระยะยาวครับ
2. ผู้บริหารของโรงแรมนี้มีความโปร่งใสมากน้อยอย่างไรครับ
3. ผู้บริหารของ RGR (รอยัลการ์เด้นรีสอร์ท) และผู้บริหารของบริษัท คอมลิงค์ มีประวัติความโปร่งใสอย่างไร และมีความสามารถในการบริหารโรงแรมดีไหม
4. จากหนังสือสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน2546 RHCได้มีการปรับเปลี่ยนสัญญาการบริหารจากที่ทำไว้กับ บริษัท รีเจนท์ อินเตอร์เนชั่นแนล โฮเต็ลส์ เป็น บริษัท Four Seasons Hotels & Resorts Asia Pacific Pte. Ltd. ไม่ทราบว่าความสามารถในการบริหารโรงแรม ชื่อเสียงและจำนวนลูกค้าประจำ ของFour Seasons เป็นอย่างไร เมื่อเทียบกับบริษัท รีเจนท์ และอาจจะกระทบต่อชื่อเสียงและความสามารถในการแข่งขันในระยะยาวของrhc อย่างไรครับ
5. ที่ดินของโรงแรมรีเจนท์ กรุงเทพ เป็นที่เช่าจากสำนักงานพระคลังข้างที่ มีอายุสัญญาเหลือประมาณ 30ปี ไม่ทราบว่าหลังจากหมดสัญญาแลัว หุ้นที่ถือไว้จะถูกประเมินอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ
หมาป่า
- sirivajj
- Verified User
- โพสต์: 985
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเกี่ยวกับRHC (โรงแรมราชดำริ)ครับ
โพสต์ที่ 2
ผมไม่มีความเห็นในคำถามที่ถามมานะครับ
แต่รู้สึกทึ่ง ที่สมาชิกใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน ศึกษาและมาลงทุนในหุ้นที่
มีสภาพคล่องน้อยๆ แบบ RHC ได้
ยังไงถ้าวิเคราะห์แล้วมั่นใจว่าดี ก็ให้ถือยาวๆ เข้าไว้นะครับ
หุ้นแบบ RHC นี้ มีไม่ค่อยมากนักในตลาด
(ในกลุ่มประกัน ก็เห็นมีอยู่บ้างเหมือนกันครับ)
แต่รู้สึกทึ่ง ที่สมาชิกใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน ศึกษาและมาลงทุนในหุ้นที่
มีสภาพคล่องน้อยๆ แบบ RHC ได้
ยังไงถ้าวิเคราะห์แล้วมั่นใจว่าดี ก็ให้ถือยาวๆ เข้าไว้นะครับ
หุ้นแบบ RHC นี้ มีไม่ค่อยมากนักในตลาด
(ในกลุ่มประกัน ก็เห็นมีอยู่บ้างเหมือนกันครับ)
What do you mean.?
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติม1
โพสต์ที่ 4
สวัสดีครับ ผมตั้งกระทู้ไว้ในเวปนี้และในพันธ์ทิพย์ แต่ไม่ได้คำตอบเลยทั้งสองที่ คิดว่าคงมีคนติดตามบริษัทนี้ไม่มากครับ และคำถามอาจจะเป็นsubjuctiveมากไป อย่างไรก็ดี ในช่วงสองสามวันนี้ ผมได้รับข้อมูลบางส่วนของคำถามที่ตั้งไว้ จึงนำมาลงไว้ในที่นี้เพื่อเป็นการตอบแทนเวปนี้ครั้ง แต่คงไม่นำลงในพันธ์ทิพย์เพราะที่นั่นค่อนข้างเน้นการเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่า ผมเพิ่งเริ่มสนใจและศึกษาหุ้นมาประมาณ1เดือน เข้ามาอ่านและsearchข้อมูลในเวปviนี้บ่อย ได้รับความรู้จากเวปนี้มาก ต้องขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
ข้อมูลนี้ ผมได้จากหลายที่ครับ มีจากเวปของset จากหนังสือสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน2546 จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและโพสต์ today และจากการสอบถามเพื่อนที่ทำงานอยู่วงการโรงแรมครับ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลแต่ละที่จึงลดหลั่นกันไป ผมพยายามจะไม่ใส่ความเห็นของตนเองลงไป แต่การเขียน,การคัดเลือกข้อมูลมาลง และ การสรุปความ อาจมีการเบี่ยงเบนจากความเป็นจริงบ้าง ต้องใช้วิจารณญานในการพิจารณาด้วยครับ ส่วนข้อมูลหลักๆทั่วไป เข่นค่าpe pbv roa roe rev niหรือรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่หาได้ไม่ยากนัก ผมไม่นำเสนอครับ
ข้อมูลนี้ ผมได้จากหลายที่ครับ มีจากเวปของset จากหนังสือสรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน2546 จากหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจและโพสต์ today และจากการสอบถามเพื่อนที่ทำงานอยู่วงการโรงแรมครับ ความน่าเชื่อถือของข้อมูลแต่ละที่จึงลดหลั่นกันไป ผมพยายามจะไม่ใส่ความเห็นของตนเองลงไป แต่การเขียน,การคัดเลือกข้อมูลมาลง และ การสรุปความ อาจมีการเบี่ยงเบนจากความเป็นจริงบ้าง ต้องใช้วิจารณญานในการพิจารณาด้วยครับ ส่วนข้อมูลหลักๆทั่วไป เข่นค่าpe pbv roa roe rev niหรือรายชื่อผู้ถือหุ้น ที่หาได้ไม่ยากนัก ผมไม่นำเสนอครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติม2
โพสต์ที่ 5
1. ราคาหุ้นช่วงนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลงครับ ยืนอยู่ที่ประมาณ46บาท จำนวนหุ้นที่ซื้อขายก็น้อยตามปรกติ หรือบางวันก็ไม่มีการซื้อขายเลย แต่เป็นที่น่าสังเกตว่าระยะห่างของราคาเสนอซื้อและเสนอขายจะห่างกันค่อนข้างมาก โดยราคาเสนอขายนั้นถีบตัวสูงขึ้นกว่าที่ผ่านมา ส่วนในระยะยาว ผมไม่ทราบ แต่หุ้นตัวนี้มีค่าbetaติดลบอยู่เล็กน้อยครับ
น่าสังเกตว่าจำนวนหุ้นในตลาดที่อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะน้อยมาก เพราะจากข้อมูลใน webของSET ณ วันปิดบัญชีจ่ายเงินปันผลครั้งที่แล้ว มีจำนวนหุ้นในมือของรายย่อยที่ถือต่ำกว่า0.5% อยู่เพียง 5%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
น่าสังเกตว่าจำนวนหุ้นในตลาดที่อยู่ในมือของผู้ถือหุ้นรายย่อยน่าจะน้อยมาก เพราะจากข้อมูลใน webของSET ณ วันปิดบัญชีจ่ายเงินปันผลครั้งที่แล้ว มีจำนวนหุ้นในมือของรายย่อยที่ถือต่ำกว่า0.5% อยู่เพียง 5%ของจำนวนหุ้นทั้งหมด
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติม3
โพสต์ที่ 6
2 (Source : News Room ของเวปSET)
 RHCมีความเปลี่ยนแปลงมากในปีนี้ครับ ตั้งแต่ต้นปีแล้ว RGR (รอยัลการ์เด้นรีซอร์ท) เข้ามาซื้อหุ้นจาก Goldman Sachs เมื่อวันที่ 10มิถุนายน 2003 ส่งผลให้รายชื่อผู้ถือหุ้นมีดังนี้
% of outstanding shares
Royal Garden Resort Plc.42.84%
Com-Link Co., Ltd. 24.44%
SCB Securities 5.56%
 จากการเข้าถือหุ้นนี้ ทำให้RGR เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทน Goldman Sachs และการนี้ ส่งผลให้เปลี่ยนตัวผู้บริหาร ณ วันที่ 25 กรกฏาคม 2003 ดังต่อไปนี้
Resigned Directors
1. Mr. Henry Cornell
2. Mr. Akani Thapthimthong
3. Mr. Songkran Issara
New Directors
1. Mr. Pattawad Suksriwong
2. Mr. Santi Bhirom Bhakdi
3. Mr. Siritaj Rojanapruk
น่าสังเกตว่าค่าใช้จ่ายผลตอบแทนผู้บริหารในปีนี้สูงขึ้นเท่าตัว ตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ
Directors' remuneration:
During the second quarter of 2003, directors' remuneration was
Baht 1.06 million, as compared to directors' remuneration of
Baht 0.34 million for the comparable period last year due to
the shareholders' approval of the new remuneration scheme
in April 2003 retroactive from January 2003. For the first six
months the directors' remuneration was Baht 1.57 million,
as compared to that of Baht 0.62 million for the comparable
period in 2002.
 ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2003 บริษัทCom-link ได้ทำการซื้อหุ้นเพิ่มจากทั้งหมดที่ SCBS ถือไว้ โดยซื้อที่ราคา 43บาท เป็นผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็น 30% และในวันที่ 7 ตุลาคม 2003 Com-link ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มให้ถึงสัดส่วน 70% ที่ราคา 43บาท
 ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2003 RHC ได้แต่งตั้ง IFCT Advisory Company Limited เป็นที่ปรึกษาในการเสนอซื้อครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม RHC ได้ประกาศว่า บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินนี้ได้ประเมินราคาหลักทรัพย์ โดยใช้วิธี discounted method ผลปรากฏว่าราคาประเมินอยู่สูงกว่าราคาเสนอซึ้อมาก (เมื่อวาน ผมยังเข้าอ่านข่าวนี้ได้ แต่วันนี้เข้าไม่ได้ครับ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงยืนยันราคาไม่ได้ แต่ถ้าจำไม่ผิด ราคาประเมินจะอยู่ประมาณ ห้าสิบกว่าบาทต้นๆ ถึงหกสิบกว่าบาท) และเมื่อวันที่5 ตุลาคม 2003 RHCได้แจ้งการเสนอซื้อขายครั้งนี้อย่างเป็นทางการ โดยเป้าหมายของcom-linkยังคงเป็น 70% ที่ 43 บาท
The net price to be received by the Offerees is Bt. 42.884975 pershare since the Offerees are obliged to pay a selling fee of 0.25% ofthe offering price and the value-added tax of 7% of the said selling fee. The tender offer period is between October 21, 2003 and November25,2003, during the working hours of 9.00-16.00 hrs. of the business days.
 RHCมีความเปลี่ยนแปลงมากในปีนี้ครับ ตั้งแต่ต้นปีแล้ว RGR (รอยัลการ์เด้นรีซอร์ท) เข้ามาซื้อหุ้นจาก Goldman Sachs เมื่อวันที่ 10มิถุนายน 2003 ส่งผลให้รายชื่อผู้ถือหุ้นมีดังนี้
% of outstanding shares
Royal Garden Resort Plc.42.84%
Com-Link Co., Ltd. 24.44%
SCB Securities 5.56%
 จากการเข้าถือหุ้นนี้ ทำให้RGR เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่แทน Goldman Sachs และการนี้ ส่งผลให้เปลี่ยนตัวผู้บริหาร ณ วันที่ 25 กรกฏาคม 2003 ดังต่อไปนี้
Resigned Directors
1. Mr. Henry Cornell
2. Mr. Akani Thapthimthong
3. Mr. Songkran Issara
New Directors
1. Mr. Pattawad Suksriwong
2. Mr. Santi Bhirom Bhakdi
3. Mr. Siritaj Rojanapruk
น่าสังเกตว่าค่าใช้จ่ายผลตอบแทนผู้บริหารในปีนี้สูงขึ้นเท่าตัว ตั้งแต่ต้นปีแล้วครับ
Directors' remuneration:
During the second quarter of 2003, directors' remuneration was
Baht 1.06 million, as compared to directors' remuneration of
Baht 0.34 million for the comparable period last year due to
the shareholders' approval of the new remuneration scheme
in April 2003 retroactive from January 2003. For the first six
months the directors' remuneration was Baht 1.57 million,
as compared to that of Baht 0.62 million for the comparable
period in 2002.
 ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2003 บริษัทCom-link ได้ทำการซื้อหุ้นเพิ่มจากทั้งหมดที่ SCBS ถือไว้ โดยซื้อที่ราคา 43บาท เป็นผลให้สัดส่วนการถือหุ้นเป็น 30% และในวันที่ 7 ตุลาคม 2003 Com-link ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ว่าจะซื้อหุ้นเพิ่มให้ถึงสัดส่วน 70% ที่ราคา 43บาท
 ณ วันที่ 16 ตุลาคม 2003 RHC ได้แต่งตั้ง IFCT Advisory Company Limited เป็นที่ปรึกษาในการเสนอซื้อครั้งนี้ และเมื่อวันที่ 30 ตุลาคม RHC ได้ประกาศว่า บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินนี้ได้ประเมินราคาหลักทรัพย์ โดยใช้วิธี discounted method ผลปรากฏว่าราคาประเมินอยู่สูงกว่าราคาเสนอซึ้อมาก (เมื่อวาน ผมยังเข้าอ่านข่าวนี้ได้ แต่วันนี้เข้าไม่ได้ครับ ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จึงยืนยันราคาไม่ได้ แต่ถ้าจำไม่ผิด ราคาประเมินจะอยู่ประมาณ ห้าสิบกว่าบาทต้นๆ ถึงหกสิบกว่าบาท) และเมื่อวันที่5 ตุลาคม 2003 RHCได้แจ้งการเสนอซื้อขายครั้งนี้อย่างเป็นทางการ โดยเป้าหมายของcom-linkยังคงเป็น 70% ที่ 43 บาท
The net price to be received by the Offerees is Bt. 42.884975 pershare since the Offerees are obliged to pay a selling fee of 0.25% ofthe offering price and the value-added tax of 7% of the said selling fee. The tender offer period is between October 21, 2003 and November25,2003, during the working hours of 9.00-16.00 hrs. of the business days.
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติม4
โพสต์ที่ 7
3.
 RGR (รอยัลการ์เด้นรีสอร์ท) เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ อยู่หมวดโรงแรม กิจการใหญ่คือ โรงแรมพัทยาแมริออทม เอ รอยัล การ์เด้น รีซอร์ท
- (Source: สรุปข้อสนเทศ2546) น่าจะเป็นบริษัทที่เน้นการเติบโตเพราะลงทุนในกิจการต่างๆมากมาย ทั้งโรงแรมในเครือ,ศูนย์การค้า, พิพิธภัณฑ์Beleive it or not, สปา, และฟาสต์ฟู้ด(Minor food group 30%) มีการเพิ่มทุนหลายครั้ง มีระดับหนี้สินสูง คือประมาณ 1ใน 3ของส่วนผู้ถือหุ้น roaต่ำ; roe,np margin ใช้ได้
-(Source: จากเพื่อน) ผู้จัดตั้งคือนายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เป็นฝรั่งที่มาลงทุนในไทยนานแล้ว มักลงทุนในธุรกิจโรงแรม เป็นคนมีฝีมือในการลงทุนและการบริหาร แต่ไม่ทราบเรื่องความโปร่งใส
-(Source: โพสต์ Today อังคารที่4พฤศจิกายน46 หน้า B9) RGRมีมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 3 พฤศจิการยน 2546 จัดสรรหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ จำนวน 8.579ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ในราคาหุ้นละ 19บาทต่อหุ้นโดยจะใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นบุริมสิทธในการขยายกิจการ
 Com-Link
-(Source: กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่3พฤศจิการยน2546 หน้า 12)
ที่จะละสายตาไปไม่ได้ก็คือกลุ่มคอมลิงค์ ศูนย์รวมตระกูลดังของเมืองไทย ไล่ตั้งแต่หม่อมอุ๋ย (มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล) ที่ถือหุ้น 8.34% นอกจากนี้ก็ยังมีคนในตะกูลล่ำซำ, ภิรมย์ภักดี, อดิเรกสาร ร่วมถือหุ้นอยู่ โดยมีโต้โผใหญ่ คือ ศิริธัช โรจนพฤกษ์
กลุ่มคอมลิงค์จัดเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีสายป่านยาวมีทุนจดทะเบียน 1000ล้านบาท ชอบจับหุ้นน้อยตัว แต่เน้น ถือยาว ที่ผ่านมาได้มีการขายหุ้น ทรีนิตี้ (TNITY) ออกมาแล้ว 29.6ล้านหุ้น หรือกว่า 329ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคอมลิงค์ขณะนี้ได้พุ่งเป้าไปที่หุ้น บง.ธนชาติ (NFS) เพราะเก็บสะสมหุ้นเข้าพอร์ตแล้วกว่า 69 ล้านหุ้น หรือ 5.19% และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโรงแรมราชดำริ (RHC)เป็น 30%
-(Souce: โพสต์ today ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12 [ฉบับและคอลัมภ์เดียวกับที่ผมใช้อ้างอิงตอนเปิดกระทู้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถคัดลอกข้อความมาได้เพราะไม่ได้เก็บหนังสือพิมพ์ไว้ จึงขออ้างอิงจากที่จำได้ครับ] ) RGRกล่าวว่าการที่ซื้อหุ้นRHCเพิ่ม ที่ราคา 45 บาท จนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการจะตัดหน้าคอมลิงค์ แต่เป็นนโยบายของบริษัทอยู่แล้ว ที่จะซื้อหุ้นบริษัทที่เข้าลงทุนให้เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่ได้ และไม่คิดว่าจะมีปัญหาในการร่วมทำงานกับคอมลิงค์ ส่วน คอมลิงค์ได้กล่าวว่า แท้จริงบริษัทคอมลิงค์ไม่ได้ต้องการซื้อหุ้นในRHCเพิ่มอยู่แล้ว จะเห็นได้จากการที่เสนอราคาซื้อเพียง43บาท คิดว่าคงไม่มีผู้ถือหุ้นคนใดขายในราคานี้ เพราะคงจะเอาเข้าไปขายในตลาดมากกว่า เนื่องจากราคาตลาดในขณะนี้อยู่ที่46บาท แต่สาเหตุที่บริษัทได้ซื้อหุ้นเพิ่มมา เพราะต้องการถือหุ้นให้ถึงระดับที่สามารถส่งตัวแทนเข้าไปบริหารได้
น่าสังเกตว่าข่าวการซื้อหุ้นเพิ่มของRGRนี้ ยังไม่ปรากฏในรายงานข่าวของเวปSETครับ แต่ปรากฏในโพสต์ today ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12
 RGR (รอยัลการ์เด้นรีสอร์ท) เป็นบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ อยู่หมวดโรงแรม กิจการใหญ่คือ โรงแรมพัทยาแมริออทม เอ รอยัล การ์เด้น รีซอร์ท
- (Source: สรุปข้อสนเทศ2546) น่าจะเป็นบริษัทที่เน้นการเติบโตเพราะลงทุนในกิจการต่างๆมากมาย ทั้งโรงแรมในเครือ,ศูนย์การค้า, พิพิธภัณฑ์Beleive it or not, สปา, และฟาสต์ฟู้ด(Minor food group 30%) มีการเพิ่มทุนหลายครั้ง มีระดับหนี้สินสูง คือประมาณ 1ใน 3ของส่วนผู้ถือหุ้น roaต่ำ; roe,np margin ใช้ได้
-(Source: จากเพื่อน) ผู้จัดตั้งคือนายวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค เป็นฝรั่งที่มาลงทุนในไทยนานแล้ว มักลงทุนในธุรกิจโรงแรม เป็นคนมีฝีมือในการลงทุนและการบริหาร แต่ไม่ทราบเรื่องความโปร่งใส
-(Source: โพสต์ Today อังคารที่4พฤศจิกายน46 หน้า B9) RGRมีมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ณ วันที่ 3 พฤศจิการยน 2546 จัดสรรหุ้นบุริมสิทธิแปลงสภาพ จำนวน 8.579ล้านหุ้น ให้แก่นักลงทุนเฉพาะเจาะจง ในราคาหุ้นละ 19บาทต่อหุ้นโดยจะใช้เงินที่ได้จากการขายหุ้นบุริมสิทธในการขยายกิจการ
 Com-Link
-(Source: กรุงเทพธุรกิจ จันทร์ที่3พฤศจิการยน2546 หน้า 12)
ที่จะละสายตาไปไม่ได้ก็คือกลุ่มคอมลิงค์ ศูนย์รวมตระกูลดังของเมืองไทย ไล่ตั้งแต่หม่อมอุ๋ย (มรว.ปรีดิยาธร เทวกุล) ที่ถือหุ้น 8.34% นอกจากนี้ก็ยังมีคนในตะกูลล่ำซำ, ภิรมย์ภักดี, อดิเรกสาร ร่วมถือหุ้นอยู่ โดยมีโต้โผใหญ่ คือ ศิริธัช โรจนพฤกษ์
กลุ่มคอมลิงค์จัดเป็นกลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่มีสายป่านยาวมีทุนจดทะเบียน 1000ล้านบาท ชอบจับหุ้นน้อยตัว แต่เน้น ถือยาว ที่ผ่านมาได้มีการขายหุ้น ทรีนิตี้ (TNITY) ออกมาแล้ว 29.6ล้านหุ้น หรือกว่า 329ล้านบาท
ความเคลื่อนไหวของกลุ่มคอมลิงค์ขณะนี้ได้พุ่งเป้าไปที่หุ้น บง.ธนชาติ (NFS) เพราะเก็บสะสมหุ้นเข้าพอร์ตแล้วกว่า 69 ล้านหุ้น หรือ 5.19% และเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นโรงแรมราชดำริ (RHC)เป็น 30%
-(Souce: โพสต์ today ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12 [ฉบับและคอลัมภ์เดียวกับที่ผมใช้อ้างอิงตอนเปิดกระทู้ครับ ผมต้องขอโทษด้วยที่ไม่สามารถคัดลอกข้อความมาได้เพราะไม่ได้เก็บหนังสือพิมพ์ไว้ จึงขออ้างอิงจากที่จำได้ครับ] ) RGRกล่าวว่าการที่ซื้อหุ้นRHCเพิ่ม ที่ราคา 45 บาท จนเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ ไม่ได้ต้องการจะตัดหน้าคอมลิงค์ แต่เป็นนโยบายของบริษัทอยู่แล้ว ที่จะซื้อหุ้นบริษัทที่เข้าลงทุนให้เป็นผู้มีสิทธิออกเสียงส่วนใหญ่ได้ และไม่คิดว่าจะมีปัญหาในการร่วมทำงานกับคอมลิงค์ ส่วน คอมลิงค์ได้กล่าวว่า แท้จริงบริษัทคอมลิงค์ไม่ได้ต้องการซื้อหุ้นในRHCเพิ่มอยู่แล้ว จะเห็นได้จากการที่เสนอราคาซื้อเพียง43บาท คิดว่าคงไม่มีผู้ถือหุ้นคนใดขายในราคานี้ เพราะคงจะเอาเข้าไปขายในตลาดมากกว่า เนื่องจากราคาตลาดในขณะนี้อยู่ที่46บาท แต่สาเหตุที่บริษัทได้ซื้อหุ้นเพิ่มมา เพราะต้องการถือหุ้นให้ถึงระดับที่สามารถส่งตัวแทนเข้าไปบริหารได้
น่าสังเกตว่าข่าวการซื้อหุ้นเพิ่มของRGRนี้ ยังไม่ปรากฏในรายงานข่าวของเวปSETครับ แต่ปรากฏในโพสต์ today ฉบับวันเสาร์ที่1/11/46 หน้าb12
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติม5
โพสต์ที่ 8
4. (source: เพื่อน) Regent มีชื่อเสียงในประเทศมาก แต่ในระดับโลกแล้ว Four Seasons ก็มีชื่อเสียงไม่แพ้กัน และอาจจะมีความเป็นinternationalมากกว่าด้วย การที่อาจจะเปลี่ยนสัญญาการบริหารจาก Regent เป็น Four Seasons จึงไม่น่ากระทบต่อผลการดำเนินงานมาก โรงแรมนี้มียอดจองห้องพักสูงครับ ส่วนเรื่องความโปร่งใสนั้นไม่ทราบ
5. ยังไม่ทราบครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์บ้าง ถ้ามีข้อมูลRHCเพิ่ม ผมจะนำมาลงอีกครับ
5. ยังไม่ทราบครับ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ หวังว่าข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์บ้าง ถ้ามีข้อมูลRHCเพิ่ม ผมจะนำมาลงอีกครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 78
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเกี่ยวกับRHC (โรงแรมราชดำริ)ครับ
โพสต์ที่ 11
ผมมีหุ้นโรงแรมเหมือนกัน รู้สึกคล้ายๆกันคือ สภาพคล่องน้อยซื้อยากถึงยากมาก ซื้อไม่ได้มากมีเงินก็ต้องไล่ซื้อ บางทีหุ้นเหมือนจะโดนกดราคาด้วยซ้ำไป ทำราคาก็ง่ายถ้าอยากทำ
ส่วนตัวผู้บริหาร RGR คือคุณวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ข้อมูลที่เพื่อนคุณให้มาถูกต้องครับ คนนี้ผมว่าแกไม่ธรรมดา แกเป็นฝรั่งที่มาอยู่เมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบ ไม่จบปริญญา แต่เป็นเจ้าของ rgr กับ mfg ที่ตั้ง brand "The Pizza" มาฟัดกับ Pizza Hut ได้คล้ายๆกับคนจีนโผ้นทะเล อยู่เมืองไทยมานาน รู้จักวงการธุรกิจไทยดีมาก
ผมแนะนำหนังสือที่ ชื่อว่า "เถ้าแก่มือโปร" ผมอ่านตั้งแต่ก่อนมาลงทุนครับ ไม่ยังเห็นเหมือนกัน แกไม่ได้เขียนเองเพราะเขียนไทยไม่ได้ แต่ให้คนทำให้ แต่อ่านแล้วจะเข้าใจผู้บริหารได้ดีขึ้น
อีกเล่มเป็นหนังสือที่พี่ VB แนะนำ เรื่อง "ราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างหนี้" คุณอุทัยแต่ง มีตัวอย่างการคำนวนราคาหุ้นและอธิบายธุรกิจโรงแรมไว้ชัดเจนมาก
ส่วนตัวผู้บริหาร RGR คือคุณวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค ข้อมูลที่เพื่อนคุณให้มาถูกต้องครับ คนนี้ผมว่าแกไม่ธรรมดา แกเป็นฝรั่งที่มาอยู่เมืองไทยแบบเสื่อผืนหมอนใบ ไม่จบปริญญา แต่เป็นเจ้าของ rgr กับ mfg ที่ตั้ง brand "The Pizza" มาฟัดกับ Pizza Hut ได้คล้ายๆกับคนจีนโผ้นทะเล อยู่เมืองไทยมานาน รู้จักวงการธุรกิจไทยดีมาก
ผมแนะนำหนังสือที่ ชื่อว่า "เถ้าแก่มือโปร" ผมอ่านตั้งแต่ก่อนมาลงทุนครับ ไม่ยังเห็นเหมือนกัน แกไม่ได้เขียนเองเพราะเขียนไทยไม่ได้ แต่ให้คนทำให้ แต่อ่านแล้วจะเข้าใจผู้บริหารได้ดีขึ้น
อีกเล่มเป็นหนังสือที่พี่ VB แนะนำ เรื่อง "ราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างหนี้" คุณอุทัยแต่ง มีตัวอย่างการคำนวนราคาหุ้นและอธิบายธุรกิจโรงแรมไว้ชัดเจนมาก
-
- Verified User
- โพสต์: 2513
- ผู้ติดตาม: 0
ขอถามเกี่ยวกับRHC (โรงแรมราชดำริ)ครับ
โพสต์ที่ 12
มีบทวิเคราะห์การเสนอซื้อหุ้น RHC ของคอมลิงค์ว่า "ราคาซื้อถูกเกินไป" นะครับ อยู่ในระบบข่าวของ www.set.or.th ถ้าให้สรุปตามบทวิเคราะห์ ราคาของ RHC คงจะมีโอกาสขึ้นไปมากกว่านี้ แต่ก็คงไม่มากครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 27
- ผู้ติดตาม: 0
ข้อมูลเพิ่มเติมครับ
โพสต์ที่ 13
ข่าวที่คุณนักดูดาวพูดถึงครับ: วันที่ 29ตุลาคม2003 IFCT Advisory Company Limited ได้ประเมินมูลค่าหุ้นของRHC โดยใช้วิธีdiscounted value approach ราคาประเมินอยู่ระหว่างBaht 52.19 และ Baht 66.87ต่อหุ้น ทำให้ราคาประเมินนี้สูงกว่าราคาที่คอมลิงค์เสนอซื้อ (ที่43บาท) อยู่ระหว่าง21% และ 56% ทางบริษัทจะใช้ข้อมูลนี้ในการพิจารณาข้อเสนอซื้อนี้ แต่ยังไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอครับ
ในเวป SET ผมยังไม่พบข่าวการที่RGRซื้อหุ้นเพิ่มครับ แต่พบข่าวดังกล่าวในกรุงเทพธุรกิจฉบับเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 6/11/2546 หน้า22) ดังต่อไปนี้
อาร์จีอาร์ซื้อหุ้นราชดำริ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของโรงแรมราชดำริ จำกัด(มหาชน)จาก บริษัทรอยัล การ์เด้นท์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6.2% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทำให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 49.05%ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ขณะที่บริษัททุนลดาวัลย์แจ้งว่า ได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทโรงแรมราชดำริ จำนวน 6.20% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ขอบคุณคุณuttoสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคุณวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค และรายชื่อหนังสือที่แนะนำครับ ผมเพิ่งซื้อ"ราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างหนี้" มา แต่ยังไม่ได้อ่านครับ
ส่วนที่คุณนักดูดาวว่าราคาของ RHC คงจะมีโอกาสขึ้นไปมากกว่านี้ ผมคิดว่าคงต้องขึ้นอยู่กับความ'อึด'ของฝ่ายผู้เสนอขายและฝ่ายผู้เสนอซื้อครับ ผมเข้าไปเสนอซื้อเพิ่มนิดหน่อยตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายเสนอขายดึงราคาไว้สูงมาก เหมือนเล่นชักเย่ออยู่ครับ ไม่รู้ใครจะหมดแรงก่อน แต่คิดไปแล้วก็ไม่รู้จะซื้อเพิ่มไปทำไม รอให้ราคาลงหน่อยดีกว่า
ผมเพิ่งสังเกตเห็นค่าเงินปันผลของปีก่อนๆของrhc แล้วรู้สึกผิดหวังครับ roeสูงแต่ให้divต่ำไปหน่อย มีที่ให้สูงก็แต่ในปีล่าสุด ปีนี้กำไรก็ลดลงมากเพราะเรื่องsars อาจให้เงินปันผลต่ำอีก แต่ก็ไม่แน่เพราะเปลี่ยนผู้บริหารและสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว อาจจะเพิ่มเงินปันผลมากขึ้นครับ อย่างไรก็ดี นี่ก็เป็นธุรกิจที่ผมเลือกแล้ว เวลานั่งรถไฟฟ้าผ่านไปก็มองลงไปทีหนึ่ง สวยดีครับ ยิ่งซื้อยากเท่าไร ก็ยิ่งอยากเก็บไว้เป็นความภูมิใจครับ
ในเวป SET ผมยังไม่พบข่าวการที่RGRซื้อหุ้นเพิ่มครับ แต่พบข่าวดังกล่าวในกรุงเทพธุรกิจฉบับเมื่อวานนี้ (พฤหัสบดีที่ 6/11/2546 หน้า22) ดังต่อไปนี้
อาร์จีอาร์ซื้อหุ้นราชดำริ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) แจ้งว่า ก.ล.ต. ได้รับแบบรายงานการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของโรงแรมราชดำริ จำกัด(มหาชน)จาก บริษัทรอยัล การ์เด้นท์ รีสอร์ท จำกัด (มหาชน) จำนวน 6.2% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ทำให้จำนวนหลักทรัพย์ภายหลังการได้มาคิดเป็น 49.05%ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด ขณะที่บริษัททุนลดาวัลย์แจ้งว่า ได้จำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัทโรงแรมราชดำริ จำนวน 6.20% ของจำนวนหลักทรัพย์ที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมด
ขอบคุณคุณuttoสำหรับข้อมูลเกี่ยวกับคุณวิลเลี่ยม เอ็ลล์วู๊ด ไฮเน็ค และรายชื่อหนังสือที่แนะนำครับ ผมเพิ่งซื้อ"ราคาหุ้นและการปรับโครงสร้างหนี้" มา แต่ยังไม่ได้อ่านครับ
ส่วนที่คุณนักดูดาวว่าราคาของ RHC คงจะมีโอกาสขึ้นไปมากกว่านี้ ผมคิดว่าคงต้องขึ้นอยู่กับความ'อึด'ของฝ่ายผู้เสนอขายและฝ่ายผู้เสนอซื้อครับ ผมเข้าไปเสนอซื้อเพิ่มนิดหน่อยตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้ว แต่ดูเหมือนฝ่ายเสนอขายดึงราคาไว้สูงมาก เหมือนเล่นชักเย่ออยู่ครับ ไม่รู้ใครจะหมดแรงก่อน แต่คิดไปแล้วก็ไม่รู้จะซื้อเพิ่มไปทำไม รอให้ราคาลงหน่อยดีกว่า
ผมเพิ่งสังเกตเห็นค่าเงินปันผลของปีก่อนๆของrhc แล้วรู้สึกผิดหวังครับ roeสูงแต่ให้divต่ำไปหน่อย มีที่ให้สูงก็แต่ในปีล่าสุด ปีนี้กำไรก็ลดลงมากเพราะเรื่องsars อาจให้เงินปันผลต่ำอีก แต่ก็ไม่แน่เพราะเปลี่ยนผู้บริหารและสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว อาจจะเพิ่มเงินปันผลมากขึ้นครับ อย่างไรก็ดี นี่ก็เป็นธุรกิจที่ผมเลือกแล้ว เวลานั่งรถไฟฟ้าผ่านไปก็มองลงไปทีหนึ่ง สวยดีครับ ยิ่งซื้อยากเท่าไร ก็ยิ่งอยากเก็บไว้เป็นความภูมิใจครับ