อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความรู้]
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความรู้]
โพสต์ที่ 1
นักวิทยาศาสตร์มีการวิจัยว่า คนเราสามารถเรียนรู้ได้ จากการอ่าน/ฟัง/เห็น เพียง 10-50 % เท่านั้น
แต่จะสามารถเกิดการเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ถึง 70 %
ซึ่งหากนำไปลงมือปฏิบัติด้วย จะเพิ่มการเรียนรู้ได้ถึง 80 %
และยิ่งไปกว่านั้น หากนำสิ่งที่รู้ไปถ่ายทอดให้คนอื่นด้วย จะเพิ่มได้ถึง 90 %
ผมพอจำเป็นเด็นหนึ่งที่พี่ประธานธันวา กล่าวไว้ในงานเปิดตัวชมรมนักลงทุนคุณค่าว่า
อยากให้พวกเราเป็นสังคมที่มีการแบ่งปัน บางคนอ่านอย่างเดียว ก็อยากให้ออกมาโพสต์บ้าง
จะได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรผิดถูกหรือง่ายเกินไป
รวมไปถึงการช่วยสอนคนรอบข้างเราให้รู้จักการบริหารเงินออมครับ
จึงอยากเชิญชวน เพื่อนๆที่อบรมในรุ่นที่ 1
มาช่วยแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรือข้อสงสัย ถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
แต่จะสามารถเกิดการเรียนรู้เพิ่มเติมได้จากการถกเถียงและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้ถึง 70 %
ซึ่งหากนำไปลงมือปฏิบัติด้วย จะเพิ่มการเรียนรู้ได้ถึง 80 %
และยิ่งไปกว่านั้น หากนำสิ่งที่รู้ไปถ่ายทอดให้คนอื่นด้วย จะเพิ่มได้ถึง 90 %
ผมพอจำเป็นเด็นหนึ่งที่พี่ประธานธันวา กล่าวไว้ในงานเปิดตัวชมรมนักลงทุนคุณค่าว่า
อยากให้พวกเราเป็นสังคมที่มีการแบ่งปัน บางคนอ่านอย่างเดียว ก็อยากให้ออกมาโพสต์บ้าง
จะได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันและกัน ไม่มีอะไรผิดถูกหรือง่ายเกินไป
รวมไปถึงการช่วยสอนคนรอบข้างเราให้รู้จักการบริหารเงินออมครับ
จึงอยากเชิญชวน เพื่อนๆที่อบรมในรุ่นที่ 1
มาช่วยแบ่งปันสิ่งที่ได้เรียนรู้ หรือข้อสงสัย ถกเถียง แลกเปลี่ยนความเห็นกันครับ
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 2
เอาที่นึกออกก่อนนะครับ สิ่งผมที่เรียนรู้ คือ
- การลงทุนในระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องการสม่ำเสมอ หลายครั้งที่เรามักใช้การเติบโตระยะสั้น
มาประเมินคุณค่าให้กิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เสี่ยงพอสมควร เช่น การนำ PE ไปใช้กับหุ้นที่กำไรไม่สมำ่เสมอ หรือหุ้นวัฏจักร
- ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญมาก
- สุดยอดของหลักการ คือ ไม่ยึดติดกับหลักการ
- การประเมินมูลค่าที่ดี อย่ากำหนดเ็ป็นค่าเดียวเป๊ะๆ
- ความถูก/ความแพง มันมองเห็นกันได้ด้วยศักยภาพของกิจการนั้น
วิธีการหนึ่งที่ใช้ได้ คือเปรียบเทียบกับธุรกิจเดียวกันในประเทศที่พัฒนาแล้ว
- การลงทุนในระยะยาวเป็นสิ่งที่ต้องการสม่ำเสมอ หลายครั้งที่เรามักใช้การเติบโตระยะสั้น
มาประเมินคุณค่าให้กิจการ ซึ่งเป็นสิ่งที่เสี่ยงพอสมควร เช่น การนำ PE ไปใช้กับหุ้นที่กำไรไม่สมำ่เสมอ หรือหุ้นวัฏจักร
- ความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจเป็นสิ่งสำคัญมาก
- สุดยอดของหลักการ คือ ไม่ยึดติดกับหลักการ
- การประเมินมูลค่าที่ดี อย่ากำหนดเ็ป็นค่าเดียวเป๊ะๆ
- ความถูก/ความแพง มันมองเห็นกันได้ด้วยศักยภาพของกิจการนั้น
วิธีการหนึ่งที่ใช้ได้ คือเปรียบเทียบกับธุรกิจเดียวกันในประเทศที่พัฒนาแล้ว
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 3
- การวิเคราะห์ 5 force model สัมพันธ์กับการ DCF
ในลำดับแรก ควรฝึกมอธุรกิจในมุมของ DCF จะทำให้เห็นปัจจัยที่ครอบคลุมกับมูลค่ามากกว่า PE
เช่น ธุรกิจที่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าต่ำ จะทำให้มีลูกหนี้การค้ามาก
ทำให้ต้องใช้ working cap สูง -> มูลค่าจาก DCF ต่ำลง -> ควรมี PE ต่ำกว่า หุ้นที่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าดี
- หุ้นที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ควรมีการเติบโตเฉลี่ย มากกว่า GDP+เงินเฟ้อ (~6-7%)
เ็ป็นอุตสาหกรรมี่ตลาดเติบโตได้ดี หรือเป็น megatrend หรือมีโอกาสแย่ง market share จากเจ้าอื่นได้มาก
ในลำดับแรก ควรฝึกมอธุรกิจในมุมของ DCF จะทำให้เห็นปัจจัยที่ครอบคลุมกับมูลค่ามากกว่า PE
เช่น ธุรกิจที่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าต่ำ จะทำให้มีลูกหนี้การค้ามาก
ทำให้ต้องใช้ working cap สูง -> มูลค่าจาก DCF ต่ำลง -> ควรมี PE ต่ำกว่า หุ้นที่มีอำนาจต่อรองกับลูกค้าดี
- หุ้นที่ดีสำหรับการลงทุนในระยะยาว ควรมีการเติบโตเฉลี่ย มากกว่า GDP+เงินเฟ้อ (~6-7%)
เ็ป็นอุตสาหกรรมี่ตลาดเติบโตได้ดี หรือเป็น megatrend หรือมีโอกาสแย่ง market share จากเจ้าอื่นได้มาก
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 4
- สมัยนี้มีโครงการ EJIP ( Employee Joint Investment Program) เป็นการหักเงินเืดือนพนักงานและบริษัทช่วยสมทบให้ มาซื้อหุ้นของบริษัท (คล้าย Provident fund) ซึ่งอาจช่วยเสริม motivation ของพนักงานได้
- เรื่องความเสื่อมราคามี 3 ประเภท
1. ตัดค่าเสื่อมหมดแล้วต้องซื้อใหม่ทดแทน เช่น รถยนต์
2. ตัดค่าเสื่อมหมดแล้วยังใช้งานต่อได้ เช่น เครื่องจักร
3. ตัดความเสื่อมหมดแล้ว ใช้งานได้อีกนาน เช่น อาคาร
ทำให้ต้องพิจารณาในรายละเอียดหรือรอบในการเปลี่ยนสินทรัพย์ทดแทน ซึ่งมีผลต่อเงินลงทุนและในการคิดมูลค่ากิจการ
- อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัว ตัิดสินว่ากิจการนั้นไม่ดี เช่น ไปสังเกตหน้าร้านค้าแล้วไม่มีใครเดินเ้ข้าร้าน ใครจะไปซื้อสินค้านั้นใช้
ทุกธุรกิจมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเอง ซึ่งอาจไม่ใช่เรา
- การไปต่างประเทศเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่คุ้มค่า จะช่วยให้ได้มุมมองใหม่ๆ แต่ต้องหมั่นสังเกตสิ่งรอบข้าง
- เรื่องความเสื่อมราคามี 3 ประเภท
1. ตัดค่าเสื่อมหมดแล้วต้องซื้อใหม่ทดแทน เช่น รถยนต์
2. ตัดค่าเสื่อมหมดแล้วยังใช้งานต่อได้ เช่น เครื่องจักร
3. ตัดความเสื่อมหมดแล้ว ใช้งานได้อีกนาน เช่น อาคาร
ทำให้ต้องพิจารณาในรายละเอียดหรือรอบในการเปลี่ยนสินทรัพย์ทดแทน ซึ่งมีผลต่อเงินลงทุนและในการคิดมูลค่ากิจการ
- อย่าใช้ความรู้สึกส่วนตัว ตัิดสินว่ากิจการนั้นไม่ดี เช่น ไปสังเกตหน้าร้านค้าแล้วไม่มีใครเดินเ้ข้าร้าน ใครจะไปซื้อสินค้านั้นใช้
ทุกธุรกิจมีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของตนเอง ซึ่งอาจไม่ใช่เรา
- การไปต่างประเทศเป็นการลงทุนอย่างหนึ่งที่คุ้มค่า จะช่วยให้ได้มุมมองใหม่ๆ แต่ต้องหมั่นสังเกตสิ่งรอบข้าง
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 5
- อย่ากดดันกันเป้าหมายมากเกินไป สุดท้ายวันหนึ่งที่ไปถึงเป้าหมายได้แล้ว อาจไม่ได้รู้สึกมีความสุขอะไรเพิ่มเติมเลยก็ได้
ความสุขมันอยู่ระหว่างการเิดินทาง
- ความสุขอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นตามพอร์ตที่ใหญ่ขึ้น
- การให้โอกาสสำคัญกว่าให้เงิน ในสังคมยังมีคนขาดโอกาสอีกมาก
- สุดท้ายแล้วชีวิตคนเราเมื่อจากโลกไปก็เหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดีที่ทำไว้
ความสุขมันอยู่ระหว่างการเิดินทาง
- ความสุขอาจไม่ได้เพิ่มขึ้นตามพอร์ตที่ใหญ่ขึ้น
- การให้โอกาสสำคัญกว่าให้เงิน ในสังคมยังมีคนขาดโอกาสอีกมาก
- สุดท้ายแล้วชีวิตคนเราเมื่อจากโลกไปก็เหลือทิ้งไว้เพียงสิ่งที่ดีหรือสิ่งที่ไม่ดีที่ทำไว้
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 6
- อ่านให้มาก ทั้งเรื่องหุ้นและเรื่องรอบตัว สุดท้ายวันหนึ่งความรู้เหล่านี้จะมาเชื่อมโยงกันเอง
- นำเงินสด ฝากประจำได้ 3% คิดเป็น PE 33 และไม่มีการเติบโต ดังนั้นซื้อหุ้น PE 30 แต่เติบโตได้ทุกปีย่อมดีกว่า
- บางทีการเปรียบเทียบต่างประเทศมาก็ใช้กับเมืองไทยไม่ได้ เช่น การอ่านหนังสือ เวลาผ่านไปคนไทยก็คงอ่านหนังสือต่ำ
เหมือนเดิมอยู่ดี ต้องคอยสังเกตติดตาม
- ไม่มีหุ้นไหนที่ขึ้นตลอด หรือลงตลอด ในระยะยาวมันจะมีจุดสมดุล ถ้ามองยาวพอโดยไม่สนใจผลกำไรไตรมาส ก็อาจให้ผลตอบแทนที่ดีได้
- นำเงินสด ฝากประจำได้ 3% คิดเป็น PE 33 และไม่มีการเติบโต ดังนั้นซื้อหุ้น PE 30 แต่เติบโตได้ทุกปีย่อมดีกว่า
- บางทีการเปรียบเทียบต่างประเทศมาก็ใช้กับเมืองไทยไม่ได้ เช่น การอ่านหนังสือ เวลาผ่านไปคนไทยก็คงอ่านหนังสือต่ำ
เหมือนเดิมอยู่ดี ต้องคอยสังเกตติดตาม
- ไม่มีหุ้นไหนที่ขึ้นตลอด หรือลงตลอด ในระยะยาวมันจะมีจุดสมดุล ถ้ามองยาวพอโดยไม่สนใจผลกำไรไตรมาส ก็อาจให้ผลตอบแทนที่ดีได้
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 7
- บางครั้งเราสามารถพิจารณาคำพูดผู้บริหาร ได้จากตัวเลขที่แสดงในงบการเงิน
เช่น ผู้บริหารบอกไม่เก็งกำไร stock แต่ตัวเลขมันเพิ่มจากระดับ stock ปกติ
- การเปรียบเทียบกิจการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำได้ง่าย
หลายๆครั้ง มีการใ้ช้นโยบายทางบัญชีที่ต่างกัน ทำให้ตัวเลขที่แสดงในงบการเงินมีความหมายแตกต่างกัน
หน้าที่นักลงทุนที่ดีจึงควรศึกษาให้เข้าใจว่า บริษัทใช้นโยบายบัญชีแบบไหนโดยดูได้ในหมายเหตุประกอบงบ
และควรรู้ว่าบริษัทมีทางเลือกในการใช้นโบายบัญชีแบบไหนได้ มีข้อดีและ้ข้อเสียอย่างไร
- รายละเอียดทุกอย่างในงบการเงินและแบบ 56-1 ควรต้องอ่าน
เพียงแต่ความสำคัญมันอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเด็นของบริษัทนั้น
เช่น การมีคดีฟ้องร้อง และมีเงื่อนไขการจ่ายเงินสัมปทานเพิ่มเติม
- ค่าเสื่อมราคาแฝงอยู่ได้ทั้งค่าใช้จ่ายการผลิต การขาย หรือการบริหาร
เช่น ผู้บริหารบอกไม่เก็งกำไร stock แต่ตัวเลขมันเพิ่มจากระดับ stock ปกติ
- การเปรียบเทียบกิจการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน เป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำได้ง่าย
หลายๆครั้ง มีการใ้ช้นโยบายทางบัญชีที่ต่างกัน ทำให้ตัวเลขที่แสดงในงบการเงินมีความหมายแตกต่างกัน
หน้าที่นักลงทุนที่ดีจึงควรศึกษาให้เข้าใจว่า บริษัทใช้นโยบายบัญชีแบบไหนโดยดูได้ในหมายเหตุประกอบงบ
และควรรู้ว่าบริษัทมีทางเลือกในการใช้นโบายบัญชีแบบไหนได้ มีข้อดีและ้ข้อเสียอย่างไร
- รายละเอียดทุกอย่างในงบการเงินและแบบ 56-1 ควรต้องอ่าน
เพียงแต่ความสำคัญมันอาจไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับประเด็นของบริษัทนั้น
เช่น การมีคดีฟ้องร้อง และมีเงื่อนไขการจ่ายเงินสัมปทานเพิ่มเติม
- ค่าเสื่อมราคาแฝงอยู่ได้ทั้งค่าใช้จ่ายการผลิต การขาย หรือการบริหาร
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 8
- การวิเคราะห์งบเฉพาะกิจการก็สำคัญ เช่น งบรวมมีเงินสด 100 บาท
แต่พอดูเจาะไปอาจพบว่าที่เงิน 99 บาทอยู่ในบริษัทย่อยที่ไปถือหุ้น
ซึ่งแสดงว่าตัวกิจการไม่ค่อยเหลือเงินสดอยู่
- ถ้าจะให้สะทอ้น ROE, ROA จริงๆ ก็ควรปรับมูลค่าสินทรัพย์ให้เป็นราคาตลาด
- Net profit ก็เช่นกัน ถ้าอยากสะท้อนให้เห็นผลกำไรที่ได้รับจริง ก็ควรดูที่ Cash flow
- กระแสเงินสดลงทุน เพื่อรักษาสภาพการดำเนินธุรกิจ ควรพิจารณาด้วยว่าสอดคล้องกับ
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจแค่ไหน ถ้าต้องใช้เงิน maintain มากเกินไปก็จะทำให้กำไรไม่ดี
แต่พอดูเจาะไปอาจพบว่าที่เงิน 99 บาทอยู่ในบริษัทย่อยที่ไปถือหุ้น
ซึ่งแสดงว่าตัวกิจการไม่ค่อยเหลือเงินสดอยู่
- ถ้าจะให้สะทอ้น ROE, ROA จริงๆ ก็ควรปรับมูลค่าสินทรัพย์ให้เป็นราคาตลาด
- Net profit ก็เช่นกัน ถ้าอยากสะท้อนให้เห็นผลกำไรที่ได้รับจริง ก็ควรดูที่ Cash flow
- กระแสเงินสดลงทุน เพื่อรักษาสภาพการดำเนินธุรกิจ ควรพิจารณาด้วยว่าสอดคล้องกับ
ค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ที่ใช้ดำเนินธุรกิจแค่ไหน ถ้าต้องใช้เงิน maintain มากเกินไปก็จะทำให้กำไรไม่ดี
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 10
- ในงบการเงินมีอะไรแปลกๆ เยอะจริง เช่น อยู่ดีๆ บริษัทมีการเติบโตจากรายได้อื่นๆ เพิ่มเข้ามา และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อีก ไปไปมามา บริษัทนั้นอาจมีกำไรหลักจากรายได้อื่นๆ นั้นก็ได้ จึงต้องคอยหมั่นสังเกต
หรือธุรกิจบางอย่างมี Gross profit ดี กระแสเงินสดดำเนินงานดี แต่มีหนี้เยอะมาก
ก็ทำให้เงินสดเหลือถึงผู้ถือหุ้นได้น้อยเหมือนกัน
- อ่านงบการเงินต้องสังเกตความผิดปกติด้วย เช่น รายงานผู้ตรวจสอบบัญชียาวๆ หรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหลาย ,
มีการเปลี่ยนนโยบายบัญชีให้หละหลวมขึ้น หรือมียอดหนี้มาก สินค้าคงค้างมาก โดยไม่สมดุลกับการขาย, รายการระหว่างกันต่างๆมากเกินไป
- ลูกหนี้การค้า เจ้าหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรติดตามในงบกระแสเงินสด
หรือธุรกิจบางอย่างมี Gross profit ดี กระแสเงินสดดำเนินงานดี แต่มีหนี้เยอะมาก
ก็ทำให้เงินสดเหลือถึงผู้ถือหุ้นได้น้อยเหมือนกัน
- อ่านงบการเงินต้องสังเกตความผิดปกติด้วย เช่น รายงานผู้ตรวจสอบบัญชียาวๆ หรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหลาย ,
มีการเปลี่ยนนโยบายบัญชีให้หละหลวมขึ้น หรือมียอดหนี้มาก สินค้าคงค้างมาก โดยไม่สมดุลกับการขาย, รายการระหว่างกันต่างๆมากเกินไป
- ลูกหนี้การค้า เจ้าหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรติดตามในงบกระแสเงินสด
Go against and stay alive.
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 11
คิดไม่ออกแล้ว ไว้นึกได้หรืออ่านทวนไปเจออะไร จะมาโพสต์อีกละกันครับ
โดยสรุปภาพรวม 2 วันนี้เกิดปัญญาว่า
ที่จริงแล้ว การลงทุนมันมีรายละเอียดมากกว่าที่คิดเยอะ
ที่ผ่านมาถือว่าโชคดี ที่แม้ว่าจะวิเคราะห์กิจการอย่างหละหลวมเกินไป ก็ยังได้ผลตอบแทนดี
มันไม่พอที่จะศึกษาแค่ธุรกิจ อุตสาหกรรม แนวโน้มหรือสินค้า ตัวเลขการเงิน ROE ROA PE DE อะไรเหล่านี้
แต่มันต้องเข้าใจในความเสี่ยงที่จับต้องได้ หรือเป็น detail เล็กๆน้อยๆ แต่บางครั้งก็มีความสำคัญมาก
ขณะเดียวกัน การลงทุนก็เป็นอะไรที่เรียบง่าย
แค่มองหาอะไรที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เข้าใจประเด็นหลักของการลงทุนตัวเองให้ชัดเจน
คิดให้จบว่าเงินที่เราเอาไปลงทุน กับกำไรที่กิจการจะทำได้มันคุ้มกันหรือไม่
ก็สามารถลงทุนและทำกำไรในตลาดหุ้นได้แล้ว
จะว่าไปแล้ว ก็อย่าหมกมุ่นกัีบหุ้นมากเกินไป การให้เวลาไปเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว ก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนอยู่แล้ว
และช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิตให้เราอีกด้วย
โดยสรุปภาพรวม 2 วันนี้เกิดปัญญาว่า
ที่จริงแล้ว การลงทุนมันมีรายละเอียดมากกว่าที่คิดเยอะ
ที่ผ่านมาถือว่าโชคดี ที่แม้ว่าจะวิเคราะห์กิจการอย่างหละหลวมเกินไป ก็ยังได้ผลตอบแทนดี
มันไม่พอที่จะศึกษาแค่ธุรกิจ อุตสาหกรรม แนวโน้มหรือสินค้า ตัวเลขการเงิน ROE ROA PE DE อะไรเหล่านี้
แต่มันต้องเข้าใจในความเสี่ยงที่จับต้องได้ หรือเป็น detail เล็กๆน้อยๆ แต่บางครั้งก็มีความสำคัญมาก
ขณะเดียวกัน การลงทุนก็เป็นอะไรที่เรียบง่าย
แค่มองหาอะไรที่ไม่ซับซ้อนเกินไป เข้าใจประเด็นหลักของการลงทุนตัวเองให้ชัดเจน
คิดให้จบว่าเงินที่เราเอาไปลงทุน กับกำไรที่กิจการจะทำได้มันคุ้มกันหรือไม่
ก็สามารถลงทุนและทำกำไรในตลาดหุ้นได้แล้ว
จะว่าไปแล้ว ก็อย่าหมกมุ่นกัีบหุ้นมากเกินไป การให้เวลาไปเรียนรู้สิ่งต่างๆรอบตัว ก็เป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนอยู่แล้ว
และช่วยเติมเต็มความสุขในชีวิตให้เราอีกด้วย
Go against and stay alive.
- iSpurs
- Verified User
- โพสต์: 169
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 14
A/R, A/P, inventory ดูจากงบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล) หรือเปล่าครับi-salmon เขียน:- ในงบการเงินมีอะไรแปลกๆ เยอะจริง เช่น อยู่ดีๆ บริษัทมีการเติบโตจากรายได้อื่นๆ เพิ่มเข้ามา และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อีก ไปไปมามา บริษัทนั้นอาจมีกำไรหลักจากรายได้อื่นๆ นั้นก็ได้ จึงต้องคอยหมั่นสังเกต
หรือธุรกิจบางอย่างมี Gross profit ดี กระแสเงินสดดำเนินงานดี แต่มีหนี้เยอะมาก
ก็ทำให้เงินสดเหลือถึงผู้ถือหุ้นได้น้อยเหมือนกัน
- อ่านงบการเงินต้องสังเกตความผิดปกติด้วย เช่น รายงานผู้ตรวจสอบบัญชียาวๆ หรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหลาย ,
มีการเปลี่ยนนโยบายบัญชีให้หละหลวมขึ้น หรือมียอดหนี้มาก สินค้าคงค้างมาก โดยไม่สมดุลกับการขาย, รายการระหว่างกันต่างๆมากเกินไป
- ลูกหนี้การค้า เจ้าหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรติดตามในงบกระแสเงินสด
- Financeseed
- Verified User
- โพสต์: 1304
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 16
ขอบคุณครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 87
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 17
มาช่วยเพิ่มเติมบางส่วนนะครับ
- เวลาซื้อหุ้น ให้ซื้อโดยมีทัศนคติว่าจะไม่ขายเลย
- ค่าตัวเลขต่างๆ เป็นตัวเลขที่เป็นจริงเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งๆ แต่ไม่มีอะไรมาการันตีว่ามันจะเป็นจริงตลอดไป (เช่นค่า P, E, G)
- ซื้อบริษัทโดยการดูจาก Market Cap ว่าถ้าต้องซื้อทั้งบริษัทด้วยราคาดังกล่าว มันถูกหรือแพงไปหรือไม่
- ในระยะยาว บริษัทที่ดี จะโตแค่ 10-15%
- ไม่มีบริษัทที่โต >20-30% ตลอดไป
- อย่าดูถูก "Mr. Market"
- บริษัทที่ซื้อวัตถุดิบเป็น Commo แต่ขายสินค้าเป็น Brand name จะได้เปรียบ
- GDP ต้องคิดรวมเงินเฟ้อด้วย เช่นโต 4% + เงินเฟ้อ 3% ดังนั้นบริษัทที่ดีควรโตมากกว่า 7%
- Retail is detail สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจค้าปลีก คือการ Control และ Logistic
- ธุรกิจที่ดี ไม่ควรต้องลงทุนหนักๆ บ่อยๆ
- เวลาซื้อหุ้น ให้ซื้อโดยมีทัศนคติว่าจะไม่ขายเลย
- ค่าตัวเลขต่างๆ เป็นตัวเลขที่เป็นจริงเฉพาะช่วงเวลาหนึ่งๆ แต่ไม่มีอะไรมาการันตีว่ามันจะเป็นจริงตลอดไป (เช่นค่า P, E, G)
- ซื้อบริษัทโดยการดูจาก Market Cap ว่าถ้าต้องซื้อทั้งบริษัทด้วยราคาดังกล่าว มันถูกหรือแพงไปหรือไม่
- ในระยะยาว บริษัทที่ดี จะโตแค่ 10-15%
- ไม่มีบริษัทที่โต >20-30% ตลอดไป
- อย่าดูถูก "Mr. Market"
- บริษัทที่ซื้อวัตถุดิบเป็น Commo แต่ขายสินค้าเป็น Brand name จะได้เปรียบ
- GDP ต้องคิดรวมเงินเฟ้อด้วย เช่นโต 4% + เงินเฟ้อ 3% ดังนั้นบริษัทที่ดีควรโตมากกว่า 7%
- Retail is detail สิ่งสำคัญสำหรับธุรกิจค้าปลีก คือการ Control และ Logistic
- ธุรกิจที่ดี ไม่ควรต้องลงทุนหนักๆ บ่อยๆ
-----------------------
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเราไม่รู้
และก็มีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้
สุดท้าย หลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้ เราอาจจะไม่รู้ก็ได้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้
มีหลายสิ่งที่เรารู้ว่าเราไม่รู้
และก็มีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ว่าเราไม่รู้
สุดท้าย หลายสิ่งที่เรารู้ว่าเรารู้ เราอาจจะไม่รู้ก็ได้
-
- Verified User
- โพสต์: 732
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 19
งบกระแสเงินสดจะแสดงการเปลี่ยนแปลงในสินทรัพย์ หนี้สิน ทุนในงบดุลครับ ถ้าเห็นตัวเลขติดลบ แปลว่าเงินสดลดลงiSpurs เขียน:A/R, A/P, inventory ดูจากงบแสดงฐานะการเงิน (งบดุล) หรือเปล่าครับi-salmon เขียน:- ในงบการเงินมีอะไรแปลกๆ เยอะจริง เช่น อยู่ดีๆ บริษัทมีการเติบโตจากรายได้อื่นๆ เพิ่มเข้ามา และมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อีก ไปไปมามา บริษัทนั้นอาจมีกำไรหลักจากรายได้อื่นๆ นั้นก็ได้ จึงต้องคอยหมั่นสังเกต
หรือธุรกิจบางอย่างมี Gross profit ดี กระแสเงินสดดำเนินงานดี แต่มีหนี้เยอะมาก
ก็ทำให้เงินสดเหลือถึงผู้ถือหุ้นได้น้อยเหมือนกัน
- อ่านงบการเงินต้องสังเกตความผิดปกติด้วย เช่น รายงานผู้ตรวจสอบบัญชียาวๆ หรือบ่งชี้ว่ามีสิ่งที่ไม่แน่นอนทั้งหลาย ,
มีการเปลี่ยนนโยบายบัญชีให้หละหลวมขึ้น หรือมียอดหนี้มาก สินค้าคงค้างมาก โดยไม่สมดุลกับการขาย, รายการระหว่างกันต่างๆมากเกินไป
- ลูกหนี้การค้า เจ้าหนี้การค้า สินค้าคงเหลือ เป็นข้อมูลสำคัญที่ควรติดตามในงบกระแสเงินสด
สินทรัพย์เพิ่ม = เงินสดลด
หนี้สินลด = เงินสดลด
ทุนลด = เงินสดลด
ลงทุนหุ้นดี มีสตอรี่ ราคาไม่แพง เดี๋ยวก็รวย
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
หนังสือเล่มสองผมครับ เจาะหุ้นร้อน สแกนหุ้นเด้ง การแคะหุ้นจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป
-
- Verified User
- โพสต์: 62
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 22
ขอบคุณค่ะ
Win Win
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 9
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 23
ขอบคุณครับ
เริ่มต้นด้วยการหาความรู้ ไม่ใช่เริ่มต้นด้วยเงิน
- i-salmon
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 293
- ผู้ติดตาม: 0
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 28
>>ขอบคุณ dr.momo ที่เข้ามาช่วยแชร์ครับ
>>ขอบคุณ pat4310 ที่เข้ามาช่วยตอบ
ประเด็นของ A/R, A/P, inventory ก็เป็นตามที่คุณ pat4310 ตอบมาเลยครับ
หัวใจหลักที่พี่ฉัตรสอนเรื่องงบการเงิน คือ
ต้องรู้จักจับประเด็นสำคัญ รายละเอียดมันเยอะครับ
ดูหัวข้อใหญ่ๆที่มีสัดส่วนมาก หรือมีผลกระทบมากกับกิจการ
บางบริษัทอาจจะต้องเน้นดูที่ค่าเสื่อมราคา หรือ การจ่ายหนี้ก็ได้นะครับ
แต่สำหรับบริษัททั่วไปมักมีstockสินค้าและซื้อขายเงินเชื่อ
ดังนั้น A/R, A/P, inventory เป็นสิ่งที่ควรติดตามเพื่อให้พอเข้าใจว่าเกิดอะไรกับกระแสเงินสดครับ
>>ขอบคุณครับพี่ake V2 สู้ัๆ ครับ
>>ขอบคุณ pat4310 ที่เข้ามาช่วยตอบ
ประเด็นของ A/R, A/P, inventory ก็เป็นตามที่คุณ pat4310 ตอบมาเลยครับ
หัวใจหลักที่พี่ฉัตรสอนเรื่องงบการเงิน คือ
ต้องรู้จักจับประเด็นสำคัญ รายละเอียดมันเยอะครับ
ดูหัวข้อใหญ่ๆที่มีสัดส่วนมาก หรือมีผลกระทบมากกับกิจการ
บางบริษัทอาจจะต้องเน้นดูที่ค่าเสื่อมราคา หรือ การจ่ายหนี้ก็ได้นะครับ
แต่สำหรับบริษัททั่วไปมักมีstockสินค้าและซื้อขายเงินเชื่อ
ดังนั้น A/R, A/P, inventory เป็นสิ่งที่ควรติดตามเพื่อให้พอเข้าใจว่าเกิดอะไรกับกระแสเงินสดครับ
>>ขอบคุณครับพี่ake V2 สู้ัๆ ครับ
Go against and stay alive.
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 315
- ผู้ติดตาม: 1
Re: อบรมการลงทุนแบบเน้นคุณค่า รุ่นที่ 1 [Part 2/2 ตกผลึกความ
โพสต์ที่ 30
มาร่วมแจมด้วยคนครับ
-ให้พิจารณาตอนซื้อเหมือนกับการซื้อลงทุนที่ไม่ได้คิดจะขาย
-มองภาพใหญ่ให้ออกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว ซึ่งต้องเอา 5 force มาช่วยพิจารณา
-พิจารณาเหมือนการซื้อทั้งบริษัท ว่าเท่าไหร่ มันเหมาะสมกับที่ตลาดให้ Mkt Cap มั๊ย
-อุตสาหกรรมที่มีกำไรสูง จะอยู่ได้ไม่นานเพราะกำไรจะล่อให้คู่แข่งเข้ามาเพิ่มการแข่งขันเรื่อยๆ ฉะนั้นกิจการที่อยู่ก่อนถ้าสามารถสร้างป้อมค่ายคูเมืองป้องกันไว้ดีแล้วคู่แข่งที่มาทีหลังก็ไม่สามารถเอาชนะได้
-เงินลงทุนของกิจการมี 2 อย่างคือเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันเดิม กับเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันต้องแยกให้ออก
-บริษัทไหนยิ่งขยายยิ่งได้ประโยชน์ ยิ่งใช้เงินเจ้าหนี้เยอะๆมาหมุน ก็ยิ่งสบาย ต่างจากบริษัทที่ยิ่งขยาย ยิ่งต้องการ W/C จะเหนื่อยและเสี่ยงต่อการเพิ่มทุนด้วย
-งบการเงินบอกอดีต แต่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เรารู้จักบริษัท รวมถึงการดำเนินงานและการบริหารงานของผู้บริหาร ทั้งเรื่องความโปร่งใส ธรรมาภิบาล สภาพการแข่งขัน วงจรของธุรกิจ รวมถึงความน่าสนใจในการลงทุนด้วย
-ถ้าบริษัทไหนมันยากเกินไป ก็อย่าไปลงทุน ไปหาบริษัทอื่นที่ง่ายที่เราเข้าใจดีกว่า
นึกไม่ออกแล้ว ถ้านึกได้จะมาเพิ่มต่อ ขอเวลารีวิวก่อนครับ
ขอบคุณครับ
-ให้พิจารณาตอนซื้อเหมือนกับการซื้อลงทุนที่ไม่ได้คิดจะขาย
-มองภาพใหญ่ให้ออกว่าใครจะเป็นผู้ชนะในระยะยาว ซึ่งต้องเอา 5 force มาช่วยพิจารณา
-พิจารณาเหมือนการซื้อทั้งบริษัท ว่าเท่าไหร่ มันเหมาะสมกับที่ตลาดให้ Mkt Cap มั๊ย
-อุตสาหกรรมที่มีกำไรสูง จะอยู่ได้ไม่นานเพราะกำไรจะล่อให้คู่แข่งเข้ามาเพิ่มการแข่งขันเรื่อยๆ ฉะนั้นกิจการที่อยู่ก่อนถ้าสามารถสร้างป้อมค่ายคูเมืองป้องกันไว้ดีแล้วคู่แข่งที่มาทีหลังก็ไม่สามารถเอาชนะได้
-เงินลงทุนของกิจการมี 2 อย่างคือเพื่อรักษาความสามารถในการแข่งขันเดิม กับเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันต้องแยกให้ออก
-บริษัทไหนยิ่งขยายยิ่งได้ประโยชน์ ยิ่งใช้เงินเจ้าหนี้เยอะๆมาหมุน ก็ยิ่งสบาย ต่างจากบริษัทที่ยิ่งขยาย ยิ่งต้องการ W/C จะเหนื่อยและเสี่ยงต่อการเพิ่มทุนด้วย
-งบการเงินบอกอดีต แต่ก็เป็นสิ่งที่สำคัญที่ทำให้เรารู้จักบริษัท รวมถึงการดำเนินงานและการบริหารงานของผู้บริหาร ทั้งเรื่องความโปร่งใส ธรรมาภิบาล สภาพการแข่งขัน วงจรของธุรกิจ รวมถึงความน่าสนใจในการลงทุนด้วย
-ถ้าบริษัทไหนมันยากเกินไป ก็อย่าไปลงทุน ไปหาบริษัทอื่นที่ง่ายที่เราเข้าใจดีกว่า
นึกไม่ออกแล้ว ถ้านึกได้จะมาเพิ่มต่อ ขอเวลารีวิวก่อนครับ
ขอบคุณครับ
-----------------------------------------
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ
เกิดเหตุอะไร อย่าตื่นใจ ไปตามเขา
ปัญญาเรา มีหน้าที่ พิพากษา
ต้องดูน้ำ ดูลม ระดมมา
พิจารณา เชิงชั้น หมั่นตริตรอง
-----------------------------------------
ท่านพุทธทาสภิกขุ