คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
- Kritkarun
- Verified User
- โพสต์: 939
- ผู้ติดตาม: 0
คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 1
ผมคิดว่า แม้ว่ามาตรการค่าแรง 300 จะเริ่มต้นไปตั้งแต่ปีนี้ แต่ก็พึ่งจะมีผลในไม่กี่จังหวัด
ในปีหน้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะใช้กับทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ฉะั้นั้น สำหรับบางธุรกิจที่ใช้แรงงานมาก ที่มีสาขากระจายไปทั่วประเทศ ก็จะได้รับผลกระทบเพิ่มในปีหน้า
และยิ่งธุรกิจที่มีสาขาอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า สาขาที่มีอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมาก
ยกตัวอย่างเช่น se-ed ที่การเพิ่มค่าแรงใน 7 จังหวัด(ถ้าเข้าใจไม่ผิด) ก็ืำทำให้กำไรลดลงพอสมควร
หากปีหน้าเพิ่มค่าแรงทั่วประเทศ ก็คงได้รับผลกระทบมากขึ้น
รวมถึง APRINT , CPALL , ROBINS , PB ฯลฯ
ในขณะเดียวกัน คงจะมีธุรกิจในกรุงเทพและปริมณฑล
ที่จะประสบปัญหา แรงงานย้ายถิ่นฐานกลับบ้าน จนเกิดปัญหาแรงงานขาดแคลนได้
มา Discuss กันครับว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง
ในปีหน้าหากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ก็คงจะใช้กับทุกจังหวัดทั่วประเทศ
ฉะั้นั้น สำหรับบางธุรกิจที่ใช้แรงงานมาก ที่มีสาขากระจายไปทั่วประเทศ ก็จะได้รับผลกระทบเพิ่มในปีหน้า
และยิ่งธุรกิจที่มีสาขาอยู่ต่างจังหวัดมากกว่า สาขาที่มีอยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล ก็จะยิ่งได้รับผลกระทบมาก
ยกตัวอย่างเช่น se-ed ที่การเพิ่มค่าแรงใน 7 จังหวัด(ถ้าเข้าใจไม่ผิด) ก็ืำทำให้กำไรลดลงพอสมควร
หากปีหน้าเพิ่มค่าแรงทั่วประเทศ ก็คงได้รับผลกระทบมากขึ้น
รวมถึง APRINT , CPALL , ROBINS , PB ฯลฯ
ในขณะเดียวกัน คงจะมีธุรกิจในกรุงเทพและปริมณฑล
ที่จะประสบปัญหา แรงงานย้ายถิ่นฐานกลับบ้าน จนเกิดปัญหาแรงงานขาดแคลนได้
มา Discuss กันครับว่ามีความคิดเห็นยังไงบ้าง
- ลุงขวด
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 2448
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 2
แล้ว หุ้น CM ผมมีอยู่ จะ ถูก กระทบไหมครับ เขาใช้แรงงาน 300 บาท กันมากไหมครับ ใครทราบบอกด้วยครับ...
หุ้นจะขึ้นหรือลง อยู่ที่ผลประกอบการ ซึ่งประกอบด้วย ความสามารถของผู้บริหารกับ ธรรมาภิบาล.........ใหญ่ในเล็กย่อม ดีกว่าเล็กในใหญ่
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 101
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 3
ไม่แน่ใจว่ามีบางบริษัทเขาก็จ่าย 300 หรือมากกว่าอยู่แล้วก่อนจะมีนโยบายนี้ิีอีกมั้งครับ
พวกที่เขาใช้ฝีมือแรงงานสูงๆน่ะ ก็ต้องสืบดูว่ามีใครบ้าง พวกนี้เขาไม่กระทบแน่นอน เงินเดือนสูงอยู่แล้ว
พวกที่เขาใช้ฝีมือแรงงานสูงๆน่ะ ก็ต้องสืบดูว่ามีใครบ้าง พวกนี้เขาไม่กระทบแน่นอน เงินเดือนสูงอยู่แล้ว
If you don't know what you are doing. It's a jungle out there.
- thaloengsak
- Verified User
- โพสต์: 2716
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 5
ฐานเงินเดือนมันปรับขึ้นทั้งระบบนะครับTORNN เขียน:ไม่แน่ใจว่ามีบางบริษัทเขาก็จ่าย 300 หรือมากกว่าอยู่แล้วก่อนจะมีนโยบายนี้ิีอีกมั้งครับ
พวกที่เขาใช้ฝีมือแรงงานสูงๆน่ะ ก็ต้องสืบดูว่ามีใครบ้าง พวกนี้เขาไม่กระทบแน่นอน เงินเดือนสูงอยู่แล้ว
ลงทุนเพื่อชีวิต
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 325
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 6
วันก่อนดู Money Channel สัมภาษณ์คุณสมชัยของ SNC .. บอกว่าคงได้ผลกระทบเพิ่มอีกแม้ว่า SNC เงินเดือนขั้นต่ำเกิน 300 ไปหมดแล้ว..
คือ คุณสมชัยอธิบายว่า ผลของ 300 บาทในปีหน้า จะทำให้ Supplier ที่มีอยู่มีต้นทุนเพิ่มและกลับมาขอเพิ่มราคาขาย
ผมฟังดูแล้วก็เออแฮะ.. เรามักมองแค่ตัวกิจการของเราที่ถืออยู่ แต่ว่าบางทีผลกระทบมันเกิดจากคู่ค้าที่เขามีต้นทุนเพิ่มและต้องส่งถ่ายต้นทุนเหล่านั้นกลับลงไปในราคาสินค้า และวัตถุดิบของเรา..
ถ้ามองแง่นี้ ก็เป็นผลกระทบเป็นลูกโซ่กระเพื่อมกันต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง 3-6 เดือนกว่าผลกระทบจะค่อยๆ ซาลง
คือ คุณสมชัยอธิบายว่า ผลของ 300 บาทในปีหน้า จะทำให้ Supplier ที่มีอยู่มีต้นทุนเพิ่มและกลับมาขอเพิ่มราคาขาย
ผมฟังดูแล้วก็เออแฮะ.. เรามักมองแค่ตัวกิจการของเราที่ถืออยู่ แต่ว่าบางทีผลกระทบมันเกิดจากคู่ค้าที่เขามีต้นทุนเพิ่มและต้องส่งถ่ายต้นทุนเหล่านั้นกลับลงไปในราคาสินค้า และวัตถุดิบของเรา..
ถ้ามองแง่นี้ ก็เป็นผลกระทบเป็นลูกโซ่กระเพื่อมกันต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง 3-6 เดือนกว่าผลกระทบจะค่อยๆ ซาลง
-
- Verified User
- โพสต์: 97
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 7
สำหรับบางกิจการที่จ่ายเกิน 300 อยู่แล้ว ก็กระทบครับ
1. ปัจจัยภายในกิจการเอง
เพราะการดันฐานขั้นต่ำขึ้นมา ขั้นอื่นก็อยู่เฉยไม่ได้
เช่น เมื่อก่อน แรงงานไร้ฝีมือ 150 แรงงานผ่านการฝึกแล้ว 300 แรงงานฝีมือ 400 หัวหน้ากะ 500
.... ทีนี้ เราไปดันขั้นต่ำ คือแรงงานใหม่ 300
แรงงานเก่าที่ทำมาซัก 2-3 ปี ซึ่งอาจจะได้ปรับขึ้นมาเรื่อย จาก 150 - 200 - 300 ถ้ายังจะได้ 300 เท่ากับเด็กใหม่ มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องขยับฐานขึ้นไปอีก ซึ่งก็จะไปชนกับระดับบน ก็ต้องปรับไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ
หรือที่ข้างบนยกตัวอย่าง snc แรงงานที่ได้รับเกิน 300 อยู่แล้ว ซึ่งเค้าก็คงพอใจ เพราะคิดว่าเป็นแรงงานฝีมือ และอยู่ในบริษัทที่ดี แต่ต่อไป แรงงานไร้ฝีมือ มือใหม่ อยู่ในบริษัทไก่กา ก็ได้รับ 300 ใกล้เคียงกัน มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว snc ก็ต้องปรับไล่ระดับขึ้นไปเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่ช้าเร็วมันก็ต้องเกิด
2. ปัจจัยภายนอก คือการกระทบเป็นลูกโซ่ คู่ค้ากระทบก็ส่งผลต่อต้นทุนเรา เมื่อต้นทุนเราขึ้น ก็จะส่งผลต่อคู่ค้าเรา วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าผลกระทบจะเข้าระดับสมดุล เนื่องจากการควบคุมของรัฐหรือตัวแปรอื่นๆ... ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะพอ ok ยอมรับได้
แต่ถ้าผลกระทบมันเกิดไม่เข้าสู่ระดับสมดุล รัฐคุมไม่ได้ หรือเกิดปัจจัยตัวแปรในทางเร่ง ก็จะเกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ถ้าอย่างนั้นก็น่ากลัวครับ
1. ปัจจัยภายในกิจการเอง
เพราะการดันฐานขั้นต่ำขึ้นมา ขั้นอื่นก็อยู่เฉยไม่ได้
เช่น เมื่อก่อน แรงงานไร้ฝีมือ 150 แรงงานผ่านการฝึกแล้ว 300 แรงงานฝีมือ 400 หัวหน้ากะ 500
.... ทีนี้ เราไปดันขั้นต่ำ คือแรงงานใหม่ 300
แรงงานเก่าที่ทำมาซัก 2-3 ปี ซึ่งอาจจะได้ปรับขึ้นมาเรื่อย จาก 150 - 200 - 300 ถ้ายังจะได้ 300 เท่ากับเด็กใหม่ มันก็เป็นไปไม่ได้ ก็ต้องขยับฐานขึ้นไปอีก ซึ่งก็จะไปชนกับระดับบน ก็ต้องปรับไล่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ
หรือที่ข้างบนยกตัวอย่าง snc แรงงานที่ได้รับเกิน 300 อยู่แล้ว ซึ่งเค้าก็คงพอใจ เพราะคิดว่าเป็นแรงงานฝีมือ และอยู่ในบริษัทที่ดี แต่ต่อไป แรงงานไร้ฝีมือ มือใหม่ อยู่ในบริษัทไก่กา ก็ได้รับ 300 ใกล้เคียงกัน มันก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว snc ก็ต้องปรับไล่ระดับขึ้นไปเหมือนกัน แม้ว่าจะไม่ได้เกิดขึ้นในทันที แต่ช้าเร็วมันก็ต้องเกิด
2. ปัจจัยภายนอก คือการกระทบเป็นลูกโซ่ คู่ค้ากระทบก็ส่งผลต่อต้นทุนเรา เมื่อต้นทุนเราขึ้น ก็จะส่งผลต่อคู่ค้าเรา วนไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเข้าผลกระทบจะเข้าระดับสมดุล เนื่องจากการควบคุมของรัฐหรือตัวแปรอื่นๆ... ถ้าเป็นอย่างนั้นก็จะพอ ok ยอมรับได้
แต่ถ้าผลกระทบมันเกิดไม่เข้าสู่ระดับสมดุล รัฐคุมไม่ได้ หรือเกิดปัจจัยตัวแปรในทางเร่ง ก็จะเกิดปัญหาเงินเฟ้อรุนแรง ถ้าอย่างนั้นก็น่ากลัวครับ
- Kritkarun
- Verified User
- โพสต์: 939
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 8
ผมคิดว่า อุตสาหกรรมไหนที่ใช้แรงงานเยอะ ที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล น่าจะโดนปัญหาแรงงานขาดแคลนเยอะมาก
เพราะน่าจะมีแรงงานกลับภูมิลำเนาพอสมควร (ได้เงินเท่ากัน อยู่แถวบ้านดีกว่า)
เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รับเหมาก่อสร้าง(ซึ่งจะกระทบไปถึงอสังหาด้วย)
ในขณะเดียวกัน ก็น่าจะมีบางบริษัทที่เคยย้ายโรงงานไปต่างจังหวัดเพราะค่าแรงถูกกว่า
ส่วนหนึ่งคงจะต้องย้ายกลับมาที่กรุงเทพและปริมณฑล (จ่ายเท่ากัน กลับมาที่นี่ไม่เสียค่าขนส่ง)
เหมือนต่างฝ่ายต่างไหลไปมา
กว่าจะลงตัวก็คงใช้เวลาสักพัก
เพราะน่าจะมีแรงงานกลับภูมิลำเนาพอสมควร (ได้เงินเท่ากัน อยู่แถวบ้านดีกว่า)
เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รับเหมาก่อสร้าง(ซึ่งจะกระทบไปถึงอสังหาด้วย)
ในขณะเดียวกัน ก็น่าจะมีบางบริษัทที่เคยย้ายโรงงานไปต่างจังหวัดเพราะค่าแรงถูกกว่า
ส่วนหนึ่งคงจะต้องย้ายกลับมาที่กรุงเทพและปริมณฑล (จ่ายเท่ากัน กลับมาที่นี่ไม่เสียค่าขนส่ง)
เหมือนต่างฝ่ายต่างไหลไปมา
กว่าจะลงตัวก็คงใช้เวลาสักพัก
- JUMP
- Verified User
- โพสต์: 176
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 10
ลุงขวดต้องลองเข้าไปดูสัดส่วนต้นทุนการผลิตของ cm น่ะครับ ว่าเป็นเท่าไหร่ ก็จะทราบผลกระทบที่ไปอยู่กับตัวสินค้าหรือกำไรขาดทุนครับ แต่เท่าที่ผมพอจำได้เพราะเคยศึกษาอยู่น่าจะราวๆ 32-34% มั้งครับ จำไม่ค่อยได้ลุงขวด เขียน:แล้ว หุ้น CM ผมมีอยู่ จะ ถูก กระทบไหมครับ เขาใช้แรงงาน 300 บาท กันมากไหมครับ ใครทราบบอกด้วยครับ...
สติ รู้ตัว, ปัญญา รู้คิด.
-
- Verified User
- โพสต์: 385
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 11
เห็นด้วยครับProxity เขียน:วันก่อนดู Money Channel สัมภาษณ์คุณสมชัยของ SNC .. บอกว่าคงได้ผลกระทบเพิ่มอีกแม้ว่า SNC เงินเดือนขั้นต่ำเกิน 300 ไปหมดแล้ว..
คือ คุณสมชัยอธิบายว่า ผลของ 300 บาทในปีหน้า จะทำให้ Supplier ที่มีอยู่มีต้นทุนเพิ่มและกลับมาขอเพิ่มราคาขาย
ผมฟังดูแล้วก็เออแฮะ.. เรามักมองแค่ตัวกิจการของเราที่ถืออยู่ แต่ว่าบางทีผลกระทบมันเกิดจากคู่ค้าที่เขามีต้นทุนเพิ่มและต้องส่งถ่ายต้นทุนเหล่านั้นกลับลงไปในราคาสินค้า และวัตถุดิบของเรา..
ถ้ามองแง่นี้ ก็เป็นผลกระทบเป็นลูกโซ่กระเพื่อมกันต่อเนื่องอีกระยะหนึ่ง 3-6 เดือนกว่าผลกระทบจะค่อยๆ ซาลง
ถ้าอย่างนั้นแสดงว่า เราควรลงทุนในกิจการที่สามารถปรับราคาได้ โดยผู้บริโภคมีอำนาจต่อรองน้อยสินะ
- Kritkarun
- Verified User
- โพสต์: 939
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 12
นางสุทธาภา อมรวิวัฒน์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์
เปิดเผยว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เกี่ยวกับผลกระทบการ
ปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันพบว่า ต้นทุนผู้ประกอบการทั้งทางตรงและทางอ้อมปรับตัวเพิ่มขึ้น
12% โดยภาคบริการ เช่น ก่อสร้าง โรงแรม ค้าปลีกและค้าส่ง ได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากมีต้นทุน
แรงงานสูงไม่สามารถนำเครื่องจักรมาทดแทนได้เหมือนกับธุรกิจอื่น รองลงมาเป็นภาคการผลิตและภาคการเกษตร
ส่วนผลกระทบทางอ้อมต่อภาคธุรกิจคือการปรับขึ้นสินค้าตลอดสายห่วงโซ่อุปทาน เช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ยานยนต์และชิ้นส่วน
โดยผู้ประกอบการสามารถผลักส่งจะผลักภาระต้นทุนมากสุดถึง 22% เพราะ
มีอำนาจต่อรองสูงกว่าผู้ซื้อ รองลงมาคือ ภาคบริการ 14% และภาคเกษตร 11%
เปิดเผยว่า จากการสำรวจผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมหรือเอสเอ็มอี เกี่ยวกับผลกระทบการ
ปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันพบว่า ต้นทุนผู้ประกอบการทั้งทางตรงและทางอ้อมปรับตัวเพิ่มขึ้น
12% โดยภาคบริการ เช่น ก่อสร้าง โรงแรม ค้าปลีกและค้าส่ง ได้รับผลกระทบมากสุด เนื่องจากมีต้นทุน
แรงงานสูงไม่สามารถนำเครื่องจักรมาทดแทนได้เหมือนกับธุรกิจอื่น รองลงมาเป็นภาคการผลิตและภาคการเกษตร
ส่วนผลกระทบทางอ้อมต่อภาคธุรกิจคือการปรับขึ้นสินค้าตลอดสายห่วงโซ่อุปทาน เช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม ยานยนต์และชิ้นส่วน
โดยผู้ประกอบการสามารถผลักส่งจะผลักภาระต้นทุนมากสุดถึง 22% เพราะ
มีอำนาจต่อรองสูงกว่าผู้ซื้อ รองลงมาคือ ภาคบริการ 14% และภาคเกษตร 11%
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 15
ลางร้ายก่อนปรับ 300 บาท รง.ปิดกิจการ 2.7 หมื่นล้าน [ เดลินิวส์, 11 ธ.ค. 55 ]
รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ช่วง 10 เดือนของปี 55 (ม.ค.-ต.ค.) มี
โรงงานที่จำหน่ายทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือปิดกิจการ 904 รายมูลค่า 27,574 ล้านบาท
และเลิกจ้างงาน 28,164 คน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 54 รวมถึงไม่สามารถแข่งขัน
ได้จากต้นทุนที่สูง และถูกผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งทั้งในและต่างประเทศแย่งตลาดสินค้า เช่น กลุ่ม
การซ่อมยานยนต์และมอเตอร์ไซค์, ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์, ออกแบบแม่พิมพ์ผลิตชิ้นส่วน,
โรงสีข้าว, เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
รายงานข่าวจากกระทรวงอุตสาหกรรมเปิดเผยว่า ช่วง 10 เดือนของปี 55 (ม.ค.-ต.ค.) มี
โรงงานที่จำหน่ายทะเบียนต่อกรมโรงงานอุตสาหกรรม หรือปิดกิจการ 904 รายมูลค่า 27,574 ล้านบาท
และเลิกจ้างงาน 28,164 คน ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ปลายปี 54 รวมถึงไม่สามารถแข่งขัน
ได้จากต้นทุนที่สูง และถูกผู้ประกอบการที่มีความเข้มแข็งทั้งในและต่างประเทศแย่งตลาดสินค้า เช่น กลุ่ม
การซ่อมยานยนต์และมอเตอร์ไซค์, ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์และอิเล็กทรอนิกส์, ออกแบบแม่พิมพ์ผลิตชิ้นส่วน,
โรงสีข้าว, เครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- Verified User
- โพสต์: 495
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 16
บริษัทจะมีแนวโน้มไปใช้ automation มากขึ้นนะครับ
เพื่อลดจำนวนแรงงานคน
เพื่อลดจำนวนแรงงานคน
-
- Verified User
- โพสต์: 5659
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 17
สภาพัฒน์ มองเศรษฐกิจไทยปี 56 ลุ้นขยายตัวสูงกว่าคาด 5.5%
ข่าวหุ้น, วันพุธที่ 02 มกราคม 2556 เวลา 11:51:13 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เชื่อว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้จะขยายตัวสูงเกินกว่า 5.5% จากเดิมก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.5-5.5% โดยมีปัจจัยหนุนทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ซึ่งช่วยหนุนให้การส่งออกขยายตัวได้กว่า 12%
ขณะที่ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 56 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่า 5.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ขณะที่การลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคที่มีแรงส่งต่อเนื่องจากปี 55
ทั้งนี้ สศช.มองเศรษฐกิจโลกปี 56 ในมุมบวก และคาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ 12.2% แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ท้วงติงว่า ปีหน้าไม่รู้ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกลางทางหรือไม่ จึงเห็นควรให้กำหนดเป้าหมายการส่งออกให้ขยายตัวที่ 9% ซึ่ง สศช.เห็นว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่รัฐบาลจะกำหนดเป้าหมายการส่งออกเช่นนั้น
สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาท/วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และทำให้แรงงานได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบนั้นรัฐบาลก็มีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การสร้างเทอร์มินอลทรัก และให้บริษัทไปรษณีย์ไทยที่จะลงทุนธุรกิจขนส่งสินค้าคิดค่าบริการในราคาพิเศษ
โดยจะไม่มีปรากฏการณ์แรงงานตกงานเป็นล้านคนจากการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วันแน่นอน เนื่องจากขณะนี้อัตราการว่างงานต่ำมาก และแรงงานไร้ฝีมือมีทางเลือก แต่รัฐบาลต้องเพิ่มทักษะที่จำเป็น และคนงานต้องไม่เลือกงาน
ข่าวหุ้น, วันพุธที่ 02 มกราคม 2556 เวลา 11:51:13 น.
นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ เลขาธิการ คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ เชื่อว่าอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปีนี้จะขยายตัวสูงเกินกว่า 5.5% จากเดิมก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์ไว้ที่ 4.5-5.5% โดยมีปัจจัยหนุนทั้งภายใน และภายนอกประเทศ ซึ่งช่วยหนุนให้การส่งออกขยายตัวได้กว่า 12%
ขณะที่ อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในปี 56 มีโอกาสขยายตัวสูงกว่า 5.5% เนื่องจากเศรษฐกิจโลกขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐ ยุโรป ญี่ปุ่น และจีน ขณะที่การลงทุนในประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการบริโภคที่มีแรงส่งต่อเนื่องจากปี 55
ทั้งนี้ สศช.มองเศรษฐกิจโลกปี 56 ในมุมบวก และคาดการณ์ว่าการส่งออกจะขยายตัวที่ 12.2% แต่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ท้วงติงว่า ปีหน้าไม่รู้ว่าจะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจกลางทางหรือไม่ จึงเห็นควรให้กำหนดเป้าหมายการส่งออกให้ขยายตัวที่ 9% ซึ่ง สศช.เห็นว่าไม่น่ามีปัญหาอะไรที่รัฐบาลจะกำหนดเป้าหมายการส่งออกเช่นนั้น
สำหรับการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ 300 บาท/วัน ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมา จะช่วยเพิ่มกำลังซื้อ และทำให้แรงงานได้รับค่าตอบแทนที่เป็นธรรม ส่วนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบนั้นรัฐบาลก็มีมาตรการช่วยเหลือ เช่น การสร้างเทอร์มินอลทรัก และให้บริษัทไปรษณีย์ไทยที่จะลงทุนธุรกิจขนส่งสินค้าคิดค่าบริการในราคาพิเศษ
โดยจะไม่มีปรากฏการณ์แรงงานตกงานเป็นล้านคนจากการเพิ่มค่าจ้างขั้นต่ำ 300 บาท/วันแน่นอน เนื่องจากขณะนี้อัตราการว่างงานต่ำมาก และแรงงานไร้ฝีมือมีทางเลือก แต่รัฐบาลต้องเพิ่มทักษะที่จำเป็น และคนงานต้องไม่เลือกงาน
"แม้การลงทุนจะมีความเสี่ยง แต่มันก็มีความฝันปะปนด้วยอยู่เสมอ..."
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 18
ผู้ประกอบการต่างๆในภาคใต้ ประสบปัญหาย่ำแย่ หลังจากปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาท ทำให้ธุรกิจได้กำไรน้อย แต่มีต้นทุนในด้านต่างๆ สูงขึ้น
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ผลพวงการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาทนั้น ได้สร้างผลกระทบกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในระดับหนึ่งที่ไม่สามารถปรับตัวสู้ได้ เช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา จึงทำให้หลายแห่งต้องลดกำลังผลิตลง ขณะที่ออเดอร์หรือยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศก็ยังไม่ค่อยจะดีนัก ส่งผลให้ราคาไม้ยางพาราปรับตัวลดลงเกือบ 50 % และมีแนวโน้มลดต่ำลงไปมากกว่านี้ในช่วงต้นปี 2556 เมื่อต้องมาปัญหาเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงซ้ำเติม
ทั้งนี้ เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง จะเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร หากแต่ละโรงงานต้องเผชิญกับปัญหาค่าแรงวันละ 300 บาท ต้นทุนก็ย่อมลงไปสู่วัตถุดิบ คือ ยางพารา หรือไม้ยางพารา ซึ่งขณะนี้ด้วยอำนาจต่อรองที่ลดลง และสภาวะเศษรฐกิจที่ถดถอย จึงไม่อาจปรับขึ้นราคายางพารา หรือไม้ยางพารา ได้ ท้ายสุดภาระทั้งหมดจึงต้องตกไปอยู่ที่เกษตรกร และถ้าหากธุรกิจ SME หรือร้านค้ารายย่อย สู้ไม่ไหวด้วย ก็จะส่งผลไปถึงค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อความอยู่รอด
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... อ่วม!.html
นายวิถี สุพิทักษ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดตรัง เปิดเผยว่า ผลพวงการปรับขึ้นค่าแรงเป็นวันละ 300 บาทนั้น ได้สร้างผลกระทบกับผู้ประกอบการรายใหญ่ในระดับหนึ่งที่ไม่สามารถปรับตัวสู้ได้ เช่น ธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จากไม้ยางพารา จึงทำให้หลายแห่งต้องลดกำลังผลิตลง ขณะที่ออเดอร์หรือยอดการสั่งซื้อจากต่างประเทศก็ยังไม่ค่อยจะดีนัก ส่งผลให้ราคาไม้ยางพาราปรับตัวลดลงเกือบ 50 % และมีแนวโน้มลดต่ำลงไปมากกว่านี้ในช่วงต้นปี 2556 เมื่อต้องมาปัญหาเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงซ้ำเติม
ทั้งนี้ เนื่องจากภาพรวมของอุตสาหกรรมในจังหวัดตรัง จะเกี่ยวเนื่องกับการเกษตร หากแต่ละโรงงานต้องเผชิญกับปัญหาค่าแรงวันละ 300 บาท ต้นทุนก็ย่อมลงไปสู่วัตถุดิบ คือ ยางพารา หรือไม้ยางพารา ซึ่งขณะนี้ด้วยอำนาจต่อรองที่ลดลง และสภาวะเศษรฐกิจที่ถดถอย จึงไม่อาจปรับขึ้นราคายางพารา หรือไม้ยางพารา ได้ ท้ายสุดภาระทั้งหมดจึงต้องตกไปอยู่ที่เกษตรกร และถ้าหากธุรกิจ SME หรือร้านค้ารายย่อย สู้ไม่ไหวด้วย ก็จะส่งผลไปถึงค่าครองชีพที่ถีบตัวสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการต้องปรับขึ้นราคาสินค้าเพื่อความอยู่รอด
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... อ่วม!.html
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 153
- ผู้ติดตาม: 0
Re: คำเตือน ยังมีหุ้นที่รอรับผลกระทบของ 300 ในปีหน้าอยู่อีก
โพสต์ที่ 19
เห็นด้วยกับคุณ Kritkarun เช่นกันครับKritkarun เขียน:ผมคิดว่า อุตสาหกรรมไหนที่ใช้แรงงานเยอะ ที่อยู่ในกรุงเทพและปริมณฑล น่าจะโดนปัญหาแรงงานขาดแคลนเยอะมาก
เพราะน่าจะมีแรงงานกลับภูมิลำเนาพอสมควร (ได้เงินเท่ากัน อยู่แถวบ้านดีกว่า)
เช่น อุตสาหกรรมรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า รับเหมาก่อสร้าง(ซึ่งจะกระทบไปถึงอสังหาด้วย)
ในขณะเดียวกัน ก็น่าจะมีบางบริษัทที่เคยย้ายโรงงานไปต่างจังหวัดเพราะค่าแรงถูกกว่า
ส่วนหนึ่งคงจะต้องย้ายกลับมาที่กรุงเทพและปริมณฑล (จ่ายเท่ากัน กลับมาที่นี่ไม่เสียค่าขนส่ง)
เหมือนต่างฝ่ายต่างไหลไปมา
กว่าจะลงตัวก็คงใช้เวลาสักพัก
ผมว่าแรงงานคงไม่ไหลกลับต่างจังหวัดในทันทีทันใดหรอกมั้งครับ อาจจะต้องเช็คข่าวให้ชัวร์ก่อนว่าเมื่อ
เขากลับบ้านไป จะได้ค่าแรง 300 จริงหรือเปล่า ?? อาจจะสัก 2 - 3 ไตรมาส ถึงจะเห็นผลส่วนโรงงานที่
ไปตั้งสาขาอยู่ต่างจังหวัด และใช้คนงานเยอะๆ ก็จะมี HANA (มีทั้ง อยุธยา และ ลำพูน) ซึ่งอาจจะจุกได้
โดยเฉพาะลำพูน เพราะค่าแรงขั้นต่ำอยู่ที่ 236 บาท/วัน และมีพนักงานประมาณ 4,000 คน
มงคลชีวิต 38 ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ
คือ บทมงคลสูตรที่พระพุทธเจ้าตรัสตอบปัญหาเทวดาที่ถามว่า คุณธรรมอันใดที่ทำให้ชีวิตประสบความเจริญ หรือ มี "มงคลชีวิต" ซึ่งมี ทั้งหมด ๓๘ ประการ