เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และสุขภา
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 181
ตอนนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะหาเพิ่ม ในอนาคตคือ ประกันชดเชยรายได้ครับ แต่ชดเชยรายได้ นั้นมี ทั้ง จากอุบัติเหตุและผู้ป่วยใน พอมีใครช่วยแนะนำได้ไหมครับว่า ควรจะซื้อเจ้าไหน ดี ผมกำลังติดต่อธนาคารอยู่แห่งนึงครับมีการทำบัตรเอทีเอ็มพ่วง กับประกันชดเชยรายได้จากอุบัติเหตุ จ่ายประมาณ 900 แต่ชดเชยรายได้ 10,000 บาทต่อปี แต่ก็กำลังชั่งใจกับประกันคุ้มครองหนี้ 10ปี ซื้อเป็นประกันชีวิต แต่จะพ่วงประกันชดเชยรายได้ เพิ่มไปด้วยซึ่งจะได้ผู้ป่วยในเพิ่ม กำลังเช็คให้ชัวร์ครับ ในเรื่อง รายละเอียด
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
- Ryotaro
- Verified User
- โพสต์: 319
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 182
ผมอยากทราบด้วยเหมือนกันครับ ในเรื่องชดเชยรายได้ควรจะซื้อเจ้าไหนดีT_0007 เขียน:ตอนนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะหาเพิ่ม ในอนาคตคือ ประกันชดเชยรายได้ครับ แต่ชดเชยรายได้ นั้นมี ทั้ง จากอุบัติเหตุและผู้ป่วยใน พอมีใครช่วยแนะนำได้ไหมครับว่า ควรจะซื้อเจ้าไหน ดี ผมกำลังติดต่อธนาคารอยู่แห่งนึงครับมีการทำบัตรเอทีเอ็มพ่วง กับประกันชดเชยรายได้จากอุบัติเหตุ จ่ายประมาณ 900 แต่ชดเชยรายได้ 10,000 บาทต่อปี แต่ก็กำลังชั่งใจกับประกันคุ้มครองหนี้ 10ปี ซื้อเป็นประกันชีวิต แต่จะพ่วงประกันชดเชยรายได้ เพิ่มไปด้วยซึ่งจะได้ผู้ป่วยในเพิ่ม กำลังเช็คให้ชัวร์ครับ ในเรื่อง รายละเอียด
ที่ผมมี เป็นของ New Hamshire จ่ายเดือนละ 364 (ทำตอนปี 2009) รู้สึกว่าจะชดเชย(ไม่แน่ใจนะครับ)ในกรณี
ป่วย 2,000 บาท/คืน
อุบัติเหตุณ์ 4,000 บาท/คืน
ICU 6,000 บาท/คืน
โชคดีที่ไม่เคยได้ใช้บริการ แต่คิดว่าถ้ามีบริษัทประกันอื่นให้เปรียบเทียบด้วยจะได้ตัดสินใจเลือกตัวที่ดีที่สุดครับ
Believe in Yourself & Do Your Best.
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 183
ผมเคยผ่าไส้เลื่อนครังนึงครับ ตอนนั้นกู้บ้านของ ไทยพานิชย์ แล้วเขาให้ทำประกันหนี้ จำได้ว่าจ่ายไป ประมาณหมื่นนิดๆ คุ้มครองหนี้ 5 ปี และมีพ่วงประกันชดเชยรายได้ วันละ 2000 บาท แต่ตอนนั้นไม่แน่ใจว่า เบี้ยตรงคุ้มครงเท่าไหร่กันแน่ ปรากฏว่า อยู่ 5 วัน ก็เบิกได้ 10,000 บาทเป็นค่าชดเชยรายได้. (ผู้ป่วยใน) ก็จะมาชดเชยพวกค่าเวชภัณฑ์ (หรือ คนที่ทำธุรกิจส่วนตัวก็คงพอทดแทนโอกาสที่เสียไปได้ครับRyotaro เขียน:ผมอยากทราบด้วยเหมือนกันครับ ในเรื่องชดเชยรายได้ควรจะซื้อเจ้าไหนดีT_0007 เขียน:ตอนนี้ สิ่งที่ผมกำลังจะหาเพิ่ม ในอนาคตคือ ประกันชดเชยรายได้ครับ แต่ชดเชยรายได้ นั้นมี ทั้ง จากอุบัติเหตุและผู้ป่วยใน พอมีใครช่วยแนะนำได้ไหมครับว่า ควรจะซื้อเจ้าไหน ดี ผมกำลังติดต่อธนาคารอยู่แห่งนึงครับมีการทำบัตรเอทีเอ็มพ่วง กับประกันชดเชยรายได้จากอุบัติเหตุ จ่ายประมาณ 900 แต่ชดเชยรายได้ 10,000 บาทต่อปี แต่ก็กำลังชั่งใจกับประกันคุ้มครองหนี้ 10ปี ซื้อเป็นประกันชีวิต แต่จะพ่วงประกันชดเชยรายได้ เพิ่มไปด้วยซึ่งจะได้ผู้ป่วยในเพิ่ม กำลังเช็คให้ชัวร์ครับ ในเรื่อง รายละเอียด
ที่ผมมี เป็นของ New Hamshire จ่ายเดือนละ 364 (ทำตอนปี 2009) รู้สึกว่าจะชดเชย(ไม่แน่ใจนะครับ)ในกรณี
ป่วย 2,000 บาท/คืน
อุบัติเหตุณ์ 4,000 บาท/คืน
ICU 6,000 บาท/คืน
โชคดีที่ไม่เคยได้ใช้บริการ แต่คิดว่าถ้ามีบริษัทประกันอื่นให้เปรียบเทียบด้วยจะได้ตัดสินใจเลือกตัวที่ดีที่สุดครับ
จริงๆ ถ้าดูเบี้ยแล้ว พวกชดเชยรายได้ เบี้ยจะไม่ขึ้นตามอายุ. แต่ประกันสุขภาพเบี้ยจะขึ้นตามอายุ. มีอีกวิธีหนึ่งที่ พนักงานประกันแนะนำให้ใช้คือ ประกันส่วนใหญ่จะรับแต่ผู้ป่วยใน แต่จะไม่รับ opd เวลาเขาตรวจแพงๆ อย่าง ct scan หรือ ตรวจโรคอื่นๆ ทางโรงพยาบาลก็จะให้ admit คืนนึง แล้วเคลมประกัน. ก็จะไม่ต้องสำรองจ่ายก่อน. แต่ก็มีทั้งดีและไม่ดี คือ ดีตรงที่ค่าใช้จ่ายแต่ไม่ดีตรงที่มีประวัติ. ดีกับ รพ ที่ได้รายได่เพิ่ม คนไข้ไม่กังวลไม่ต้องออกเงินก่อน แต่ไม่ดีกับประกัน ที่ over claim (แต่เหมือนประกันเขาก็รู้นะ อย่างของบูพา ครบปีประกันกลุ่มก็อาจจะเรียกเก็บเบี้ยเพิ่ม เห็น hr ที่เก่าเคยเล่าให้ฟัง. แต่hr ก็พอมีอำนาจต่อรองโดยการย้ายบริษัทประกัย). อย่างตอนแฟนผมเฝ้าจนเป็นไข้ แล้วหมอแนะนำให้ตรวจละเอียดต่อ้นื่องโพรงจมูก หมอก็แนะนำให้ admit คืนนึง จะได้ตรวจครบ แต่แฟนผมไม่เอา เพราะไม่อยากนนอน รพ คนเดียวกลัวผี
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 184
เดี๋ยวนี้ มีประกันแปลกๆ หลายประเภท เคยลองทำประกันทำฟัน (เมืองนอกก็มีประเภท ฟัน กับ ทำแว่นด้วยครับ) ของ signa แต่พอเอาเข้าจริงไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่ครับ และหาที่ตรวจยากต้องนัดยากครับ ทำปีเดียวใช้สิทธิ์ครบเลยเลิก
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 185
คำขวัญวันเด็กปีนี้ว่าอะไร ใครตอบได้พี่ให้ตังี์กินหนม........ สู่อาเจี่ยนค๊าบ......
วันเบาๆเขียนเกล็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับวันเด็กวันเด็กแห่งชาติ ให้อ่านเล็กๆ ละกันครับ (มี2 ภาค ภาคไทย กับภาคนานาชาติ)
- คำขวัญวันเด็กปีนี้ คือ ?..... ....... ....... สู่อาเซียน.
- ไทยเริ่มมีวันเด็ก ตั้งแต่เมื่อไหร่? มีกี่ปีแล้ว? .....
เริ่ม ปี 2498 ถ้าเด็กที่เกิดปีนั้น ตอนนี้ก็อายุ 58 ปีแล้วครับ แต่วันเด็กของไทยมี 57 ปี เพราะปี 2507 ไม่มี
- วันเด็กครั้งแรกของไทยจัดในเดือนอะไร?...
ครั้งแรก 3 ต.ค. 2498 จัดเดือนตุลา
ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ
- แล้วทำไม จึงเปลี่ยน เป็น มกราคม?...
ในปี 2507 พบว่า เดือน ตุลา ฝนยังตก เด็กเที่ยวไม่สะดวก เลย เปลี่ยน เป็น เสาร์ที่สองของ เดือน มกรา (แต่ส่งผลให้ปี 2507 ไม่มีวันเด็กโดยเลื่อนไปปี 2508 เลย)
- คำขวัญวันเด็กที่สั้นที่สุด เป็นของใคร (ใบ้ให้ว่ามี 6 พยางค์เท่านั้น จำง่ายดี).
ตอบ: สามัคคีคือพลัง พ.ศ. 2517 สัญญา ธรรมศักดิ์
- คำขวัญวันเด็กต่อไปนี้เป็นของนายกท่านใดบ้าง ระลึกความจำกันนะครับ (เลือกมา 15 ข้อ)
1. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด.
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2503
2. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2505
3. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2506
4. สามัคคีคือพลัง
ตอบ: ธรรมศักดิ์ พ.ศ. 2517
5. พ.ศ. 2521 เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
ตอบ:พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พ.ศ. 2521
6. เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
ตอบ:พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พ.ศ. 2522
7. นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
ตอบ:พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พ.ศ. 2529
8. รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
ตอบ:พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
9. เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
ตอบ: พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
10. อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
ตอบ: พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
11. มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
ตอบ: พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
12. ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
ตอบ: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
13: รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
ตอบ: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
14: สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี
ตอบ: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
15: รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน
ตอบ: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นอย่างไรบ้างครับ ตอบได้กี่ข้อ และจำได้กี่ข้อครับ เพื่ิอนๆ
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/วันเด็กแห่ ... ประเทศไทย)
วันเบาๆเขียนเกล็ดเล็กน้อยเกี่ยวกับวันเด็กวันเด็กแห่งชาติ ให้อ่านเล็กๆ ละกันครับ (มี2 ภาค ภาคไทย กับภาคนานาชาติ)
- คำขวัญวันเด็กปีนี้ คือ ?..... ....... ....... สู่อาเซียน.
- ไทยเริ่มมีวันเด็ก ตั้งแต่เมื่อไหร่? มีกี่ปีแล้ว? .....
เริ่ม ปี 2498 ถ้าเด็กที่เกิดปีนั้น ตอนนี้ก็อายุ 58 ปีแล้วครับ แต่วันเด็กของไทยมี 57 ปี เพราะปี 2507 ไม่มี
- วันเด็กครั้งแรกของไทยจัดในเดือนอะไร?...
ครั้งแรก 3 ต.ค. 2498 จัดเดือนตุลา
ดังนั้น ในวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2498 ประเทศไทยจึงมีงานเฉลิมฉลองวันเด็กแห่งชาติเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก จากนั้นเป็นต้นมา ทางราชการได้กำหนดวันจันทร์แรกของเดือนตุลาคมของทุกปีเป็นวันเด็กแห่งชาติ
- แล้วทำไม จึงเปลี่ยน เป็น มกราคม?...
ในปี 2507 พบว่า เดือน ตุลา ฝนยังตก เด็กเที่ยวไม่สะดวก เลย เปลี่ยน เป็น เสาร์ที่สองของ เดือน มกรา (แต่ส่งผลให้ปี 2507 ไม่มีวันเด็กโดยเลื่อนไปปี 2508 เลย)
- คำขวัญวันเด็กที่สั้นที่สุด เป็นของใคร (ใบ้ให้ว่ามี 6 พยางค์เท่านั้น จำง่ายดี).
ตอบ: สามัคคีคือพลัง พ.ศ. 2517 สัญญา ธรรมศักดิ์
- คำขวัญวันเด็กต่อไปนี้เป็นของนายกท่านใดบ้าง ระลึกความจำกันนะครับ (เลือกมา 15 ข้อ)
1. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่รักความสะอาด.
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2503
2. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่ประหยัด
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2505
3. ขอให้เด็กสมัยปฏิวัติของข้าพเจ้า จงเป็นเด็กที่มีความขยันหมั่นเพียรมากที่สุด
ตอบ: จอมพล สฤษดิ์ ธนะรัชต์ พ.ศ. 2506
4. สามัคคีคือพลัง
ตอบ: ธรรมศักดิ์ พ.ศ. 2517
5. พ.ศ. 2521 เด็กดีเป็นศรีแก่ชาติ เด็กฉลาดชาติมั่นคง
ตอบ:พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พ.ศ. 2521
6. เด็กไทยคือหัวใจของชาติ
ตอบ:พลเอก เกรียงศักดิ์ ชมะนันทน์ พ.ศ. 2522
7. นิยมไทย มีวินัย ใช้ประหยัด ใจสัตย์ซื่อ ถือคุณธรรม
ตอบ:พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พ.ศ. 2529
8. รู้คุณค่าวัฒนธรรมไทย ตั้งใจใฝ่ศึกษา ไม่พึ่งพายาเสพติด
ตอบ:พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ
9. เรียนให้สนุก เล่นให้มีความรู้ สู่อนาคตที่สดใส
ตอบ: พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
10. อยากฉลาด ต้องขยันอ่าน ขยันคิด
ตอบ: พันตำรวจโท ทักษิณ ชินวัตร
11. มีคุณธรรมนำใจ ใช้ชีวิตพอเพียง หลีกเลี่ยงอบายมุข
ตอบ: พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์
12. ฉลาดคิด จิตบริสุทธิ์ จุดประกายฝัน ผูกพันรักสามัคคี
ตอบ: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
13: รอบคอบ รู้คิด มีจิตสาธารณะ
ตอบ: อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
14: สามัคคี มีความรู้ คู่ปัญญา คงรักษาความเป็นไทย ใส่ใจเทคโนโลยี
ตอบ: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
15: รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน
ตอบ: ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
เป็นอย่างไรบ้างครับ ตอบได้กี่ข้อ และจำได้กี่ข้อครับ เพื่ิอนๆ
อ้างอิง
http://th.wikipedia.org/wiki/วันเด็กแห่ ... ประเทศไทย)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 186
อ่านๆไปก็พอนึกๆ สะท้อนแนวคิดของนายกแต่ละค่ายเหมือนกัน ว่ากำลังมองอะไรสนใจอะไรอยฟุ่
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 187
วันเด็กภาคนานาชาติ
พออ่านเรื่องวันเด็กไทยจบ ก็คิดสงสัย เอ แล้วทั่วโลกเขามีวันเด็กกันบ้างไหมเนี่ย แล้วมีกันวันไหน เลยลองค้นหาดู ก็แปลกๆ ดีครับ พอสังเกต พฤติกรรมแปลกๆ ดี เลยลองจดใส่ปฏิทินดูเพื่อจำแนก
1. เดือน มกรา มีวันเด็ก 3 ประเทศ โดยวันเด็กวันแรกของปี คือวันเด็กของ อุรุกวัย วันที่ 6 ม.ค. (อีกสองประเทศคือ ตูนีเซียกับไทย)
2. ประเทศที่ขี้ตืดวันเด็กที่สุด คือ วันเด็กในวันที่ 29 ก.พ. (ให้ความสำคัญจริงๆ 4 ปีมีครั้ง ) คือ คาซักสถาน.
3. ประเทศที่มีวันเด็ก 2 วัน คือ ประเทศญี่ปุ่น ละเอียดและ อาร์ตจริงๆ คือมีวันเด็กหญิง 3 เดือน 3(วันตุ๊กตา) และวันเด็กชาย 5 เดือน 5(วันปลาคราฟ)
3.1 แต่ที่แปลกกว่านั้น เกาหลีใต้ก็ใช้วันเด็กวันที่ 5 เดือน 5 เช่นกัน (เหมือนญี่ปุ่นเลย)
4. เดือนที่มีวันเด็กมากที่สุด คือ เดือน มิถุนายน โดยมีถึง 19 ประเทศที่มีวันเด็กในวันที่ 1 มิย (โดยส่วนใหญ่มาจาก โซเวียต และอดีตคอมมิวนิส รวมลาว เมียนม่า และเวียดนามด้วย) ส่วน เกาหลีเหนือ มีวันเด็กวันที่ 2 มิย ใกล้ๆกันเลย
5. วันที่ 5 ธค ก็เป็นวันเด็กด้วย เป็นวันเด็ก ของประเทศสุรินาม
6. วันเด็กวันสุดท้ายของปี คือวันที่ 25 ธค วันคริสมาส พอดี เป็นวันเด็กของแอฟริกากลาง
7. ในฐานที่ผมดู ไม่ระบุครับ ว่า ประเทศกัมพูชาหรือไม่ และมีวันเด็กเป็นวันไหน
8. ประเทศฮ่องกง กับ ไต้หวัน มีบันทึกว่าเปลี่ยนใช้วันเด็กตามจีน
9.อีกประเทศที่ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก็คืออเมริกา ที่ ไม่มีวันเด็ก แต่จะใช้วันพ่อวันแม่แทน แถมแต่ละประธานาธิปดี ก็ให้วันเด็กไม่ตรงกัน และแต่ละรัฐ ก็ใช้วันไม่ตรงกันอีก - (ผมจำได้ ตอนที่ผมอยู่ มีวันมากมายหลายอย่างจริงๆ เช่นวัน คนผิวสี วันยิว วันเม็กซิกัน(คูลิโอซีซาร์) ไหนจะวันไอริชอีก มากมายครับ แต่เสมอภาค)
ลองอ่านๆ ดูก็สนุกดี นะ ไม่เป็นไร เด็กวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า. คิดแบบเด็กๆ ไม่กลัวที่จะเรียนรู้ครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Children's_Day#Azerbaijan
ปล. เพิ่งสังเกต ว่าตามฐานก็ไม่เห็นวันเด็กของพวก อังกฤษ กับฝรั่งเศส อิตาลี เหมือนกัน
พออ่านเรื่องวันเด็กไทยจบ ก็คิดสงสัย เอ แล้วทั่วโลกเขามีวันเด็กกันบ้างไหมเนี่ย แล้วมีกันวันไหน เลยลองค้นหาดู ก็แปลกๆ ดีครับ พอสังเกต พฤติกรรมแปลกๆ ดี เลยลองจดใส่ปฏิทินดูเพื่อจำแนก
1. เดือน มกรา มีวันเด็ก 3 ประเทศ โดยวันเด็กวันแรกของปี คือวันเด็กของ อุรุกวัย วันที่ 6 ม.ค. (อีกสองประเทศคือ ตูนีเซียกับไทย)
2. ประเทศที่ขี้ตืดวันเด็กที่สุด คือ วันเด็กในวันที่ 29 ก.พ. (ให้ความสำคัญจริงๆ 4 ปีมีครั้ง ) คือ คาซักสถาน.
3. ประเทศที่มีวันเด็ก 2 วัน คือ ประเทศญี่ปุ่น ละเอียดและ อาร์ตจริงๆ คือมีวันเด็กหญิง 3 เดือน 3(วันตุ๊กตา) และวันเด็กชาย 5 เดือน 5(วันปลาคราฟ)
3.1 แต่ที่แปลกกว่านั้น เกาหลีใต้ก็ใช้วันเด็กวันที่ 5 เดือน 5 เช่นกัน (เหมือนญี่ปุ่นเลย)
4. เดือนที่มีวันเด็กมากที่สุด คือ เดือน มิถุนายน โดยมีถึง 19 ประเทศที่มีวันเด็กในวันที่ 1 มิย (โดยส่วนใหญ่มาจาก โซเวียต และอดีตคอมมิวนิส รวมลาว เมียนม่า และเวียดนามด้วย) ส่วน เกาหลีเหนือ มีวันเด็กวันที่ 2 มิย ใกล้ๆกันเลย
5. วันที่ 5 ธค ก็เป็นวันเด็กด้วย เป็นวันเด็ก ของประเทศสุรินาม
6. วันเด็กวันสุดท้ายของปี คือวันที่ 25 ธค วันคริสมาส พอดี เป็นวันเด็กของแอฟริกากลาง
7. ในฐานที่ผมดู ไม่ระบุครับ ว่า ประเทศกัมพูชาหรือไม่ และมีวันเด็กเป็นวันไหน
8. ประเทศฮ่องกง กับ ไต้หวัน มีบันทึกว่าเปลี่ยนใช้วันเด็กตามจีน
9.อีกประเทศที่ไม่เหมือนใคร เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ก็คืออเมริกา ที่ ไม่มีวันเด็ก แต่จะใช้วันพ่อวันแม่แทน แถมแต่ละประธานาธิปดี ก็ให้วันเด็กไม่ตรงกัน และแต่ละรัฐ ก็ใช้วันไม่ตรงกันอีก - (ผมจำได้ ตอนที่ผมอยู่ มีวันมากมายหลายอย่างจริงๆ เช่นวัน คนผิวสี วันยิว วันเม็กซิกัน(คูลิโอซีซาร์) ไหนจะวันไอริชอีก มากมายครับ แต่เสมอภาค)
ลองอ่านๆ ดูก็สนุกดี นะ ไม่เป็นไร เด็กวันนี้ คือ ผู้ใหญ่ในวันหน้า. คิดแบบเด็กๆ ไม่กลัวที่จะเรียนรู้ครับ
อ้างอิงข้อมูลจาก
http://en.wikipedia.org/wiki/Children's_Day#Azerbaijan
ปล. เพิ่งสังเกต ว่าตามฐานก็ไม่เห็นวันเด็กของพวก อังกฤษ กับฝรั่งเศส อิตาลี เหมือนกัน
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
- whitecastle
- Verified User
- โพสต์: 406
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 188
ยินดีกับพี่ทีด้วยนะครับที่จะได้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว (หรือตอนนี้ออกแล้วไม่รู้)เป็นกำลังใจให้อีกหนึ่งความรู้สึกนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 189
วันนี้ได้โอกาสอัพรูป ยอดเงินทำบุญ จะเห็นว่า การเก็บเงินใน money market ยอดวิ่งขึ้นทุกวันเลย ใส่ไป 10 วันได้เงินทำบุญเพิ่มอีก 31 บาท อาจไม่เยอะนะ แต่ถ้าเทียบ กบ ฝากออมทรัพย์ หรือฝากประจำปกติคงยังไม่เห็นตัวเลขนี้เลย (ถ้าใช้กับหุ้น ATS T+2 ก็คงน่าสนใจอยู่)
สำหรับอาการของผมวันนี้ อยู่ รพ. เป็นวันที่ 40 พอดีครับ เปลี่ยนยาฉีดครึ่งหนึ่งเป็นยากิน ได้ 2 วัน ปรากฏว่า แผลในปากขึ้นอีก เลยได้เจาะเลือด กับขูดเยื่อบุไปตรวจ กำลังรอผลอยู่ครับ
ตาปกติแล้ว หมอบอกว่า เยี่ยม!! ไม่ active แล้ว ส่วนหนังหน้าชั้นสุดท้ายยังลอกไม่หมด ตอนนี้หน้าแดงเป็นกวนอูเลย หายคงเหมือน baby face
สำหรับอาการของผมวันนี้ อยู่ รพ. เป็นวันที่ 40 พอดีครับ เปลี่ยนยาฉีดครึ่งหนึ่งเป็นยากิน ได้ 2 วัน ปรากฏว่า แผลในปากขึ้นอีก เลยได้เจาะเลือด กับขูดเยื่อบุไปตรวจ กำลังรอผลอยู่ครับ
ตาปกติแล้ว หมอบอกว่า เยี่ยม!! ไม่ active แล้ว ส่วนหนังหน้าชั้นสุดท้ายยังลอกไม่หมด ตอนนี้หน้าแดงเป็นกวนอูเลย หายคงเหมือน baby face
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 190
เรื่อง ราคาวิ่งตามแนวโน้มกำไรจริงๆ ด้วย
ได้ดูกราฟครั้งที่ 2 ตั้งแต่เข้า รพ ดู set เหมือน MACD เตือนๆ เหมือนกัน Sto ก็ทำ ตัว V แล้ว ถ้าไปต่อ ก็คงไม่เท่าไหร่ แนวรับเส้นเหลืองก่อน ป่าว 1400-1407
แม่เอาพอร์ตหุ้น BGH ที่พอเหลืออยู่มาให้ ดู เพราะโบรคสรุปประจำปี พร้อมหุ้นกู้ ถึงกับตกใจ อุ้ย 113 แล้วเหรือ ซื้อมาตั้งแต่ 30 ก่าๆ การถือบริษัทดีๆ มันเป็นอย่างนี้เอง รู้งี้ไม่ขายก็ดี เลยจับภาพมาให้เห็นกันจะๆ ว่าการลงทุนนั้น ราคากับกำไรวิ่งทางเดียวกันจริงๆ ในระยะยาว แถมไม่หลุดเส้นอีก ไม่รู้พอไหม 3 ปี 300% นิ่งๆ เฉยๆ
เอาอีกตัวมาให้ คือ TTCL ที่อาจารย์วันชัยเคยแซวผมตามชื่อ Mr.T เข้าใจว่า ปี 2011 ให้ซีรี่ย์ตัว T ตอนนั้นก็ตรงเส้นที่ขีดไว้ แต่ตอนนี้ ก็แบบนี้ 2 ปี 400% อาจารย์รู้งี้ทำไมไม่บอกหนูเต็มๆ แอบบอกหนูแค่่ว่าผมกระดิกแค่ปีละสองครั้งเท่านั้น โถ หลอกหนู่มัวแต่ปั้นแป้ง นับ zone แล้วโยทิ้งลืมอบ หนูก็นับคลื่นได้แค่ร้อย% ตรงคลื่นนนน..... 5 แล้วขายลืมตามอีกรอบ ลืมซื้อกลับตอนตก รู้งี้ ใช้ จิวแปะทงกับหุ้นบ้างก็ดี หรือตามพื้นฐานก็ดีนะเนี่ย
ได้ดูกราฟครั้งที่ 2 ตั้งแต่เข้า รพ ดู set เหมือน MACD เตือนๆ เหมือนกัน Sto ก็ทำ ตัว V แล้ว ถ้าไปต่อ ก็คงไม่เท่าไหร่ แนวรับเส้นเหลืองก่อน ป่าว 1400-1407
แม่เอาพอร์ตหุ้น BGH ที่พอเหลืออยู่มาให้ ดู เพราะโบรคสรุปประจำปี พร้อมหุ้นกู้ ถึงกับตกใจ อุ้ย 113 แล้วเหรือ ซื้อมาตั้งแต่ 30 ก่าๆ การถือบริษัทดีๆ มันเป็นอย่างนี้เอง รู้งี้ไม่ขายก็ดี เลยจับภาพมาให้เห็นกันจะๆ ว่าการลงทุนนั้น ราคากับกำไรวิ่งทางเดียวกันจริงๆ ในระยะยาว แถมไม่หลุดเส้นอีก ไม่รู้พอไหม 3 ปี 300% นิ่งๆ เฉยๆ
เอาอีกตัวมาให้ คือ TTCL ที่อาจารย์วันชัยเคยแซวผมตามชื่อ Mr.T เข้าใจว่า ปี 2011 ให้ซีรี่ย์ตัว T ตอนนั้นก็ตรงเส้นที่ขีดไว้ แต่ตอนนี้ ก็แบบนี้ 2 ปี 400% อาจารย์รู้งี้ทำไมไม่บอกหนูเต็มๆ แอบบอกหนูแค่่ว่าผมกระดิกแค่ปีละสองครั้งเท่านั้น โถ หลอกหนู่มัวแต่ปั้นแป้ง นับ zone แล้วโยทิ้งลืมอบ หนูก็นับคลื่นได้แค่ร้อย% ตรงคลื่นนนน..... 5 แล้วขายลืมตามอีกรอบ ลืมซื้อกลับตอนตก รู้งี้ ใช้ จิวแปะทงกับหุ้นบ้างก็ดี หรือตามพื้นฐานก็ดีนะเนี่ย
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 191
มีอีกเรื่องนึง ยังไม่ได้ตามเลยครับ เพื่อน เขียนมาบอกว่า MK SUKI จะเข้าตลาดเหรอครับ
ไม่ได้รับรู้ข้อมูลเลย พอมีข้อมูลไหมครับ แหมตอนแรก หลงนึกว่าเพื่อนพูด MK อสังหาตั้งนาน
(จริงๆ มีช่วงหนึ่ง MK อสังหา เคยถูกแบบ หุ้นก้นบุหรี่ด้วยนะ)
ไม่ได้รับรู้ข้อมูลเลย พอมีข้อมูลไหมครับ แหมตอนแรก หลงนึกว่าเพื่อนพูด MK อสังหาตั้งนาน
(จริงๆ มีช่วงหนึ่ง MK อสังหา เคยถูกแบบ หุ้นก้นบุหรี่ด้วยนะ)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 192
วันนี้ดีขึ้นครับ หายเพลีย แล้ว เลยเอาเรื่อง รพ กับ AEC มาฝาก
วิชัย ทองแตง ชงโรดแมพ ชิงฮับ HEALTH CARE เอเชีย
Posted in: บทความและบทวิเคราะห์AEC 16 สิงหาคม 2555
วิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า นับถอยหลังสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือAEC (AEC : ASEAN Economic Community) มองภาพความพร้อมธุรกิจเฮลธ์แคร์ในเมืองไทย ที่จะรับมือกับกองทุนต่างชาติ ที่เรียกกันว่า “โซเรนเวฟ ฟันด์” ที่มีอยู่กว่า 10 กองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะการก่อกำเนิดของกลุ่ม ไอเอชเอช เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลมาเลเซีย ที่มุ่งลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ได้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบสองตลาด ทั้งในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย และสิงคโปร์ ปัจจุบันไอเอชเอช เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดในปัจจุบัน (มาร์เก็ตแคป) 250,000 ล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก มีโรงพยาบาลเครือข่ายใน 6 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ตุรกี จีน และอินเดีย รวม 88 โรงพยาบาล 12,000 เตียง รองรับผู้ใช้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งอาเซียน โดยมองว่า วันนี้ไทยเรายังมีความอ่อนด้อยการเตรียมความพร้อมเรื่องAECน้อยไปหน่อย ประเมินว่าเมื่อปีเปิดเสรีการค้า คงจะมีความขลุกขลัก ความเข้าใจของประชาชนก็ดี ภาครัฐ เอกชนก็ดี น่าจะยังไม่ค่อยพร้อมนัก เพราะบนโลกการแข่งขันเสรี หยุดไม่ได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยง การแข่งขันไปได้ ต้องเดินอยู่บนโอกาสที่เราสามารถยืนอยู่บนโลกการแข่งขันได้
การขับเคลื่อนธุรกิจเฮลธ์แคร์ไทยสู่การเป็นฮับของเอเชีย ต้องวางยุทธศาสตร์ใหม่ สร้างให้มากกว่าการเป็นแค่ “เมดิคัล ฮับ” เพราะคนดูเป็นเรื่องของการแพทย์ และโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลเป็นแค่ส่วนเล็กๆ มีมูลค่า 1 ใน 4 ของธุรกิจเฮลธ์แคร์เท่านั้น ต้องยกระดับให้เป็น “เวลเนส ออฟ เอเชีย” หมายรวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งในเชิงป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟูหลังเจ็บป่วย
จุดแข็งเป็นองค์ประกอบสำคัญใน 3 ด้าน ที่ดึงดูดให้ผู้ป่วยในต่างประเทศเข้ามารักษาในไทย ได้แก่ คุณภาพ ซึ่งประเทศไทยมีระบบมาตรฐานการแพทย์ที่เข้มแข็ง ขณะนี้ มีโรงพยาบาลในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCIA (Joint Commission international Accreddittation USA) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ เป็นที่รู้จัก และยอมรับของทั่วโลกถึง 28 แห่ง มากที่สุดในเอเชีย
รวมทั้งราคาค่ารักษาของไทย ยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อย่างเช่น สหรัฐถูกกว่าถึง 5 เท่า และถูกกว่าสิงคโปร์ 30-40% และสุดท้าย คือ บริการ ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2555 ชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาในไทยมีถึง 7 แสนคน ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 2.53 ล้านคน ถ้ามองโอกาสทางการตลาดมีอยู่มาก จากตัวเลขสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุต่อประชากรของประเทศ ในปี 2558 สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 17% และปี 2603 เพิ่มขึ้นถึง 40% ส่วนเวียดนาม ปี 2558 เพิ่มขึ้น 8% ปี 2603 เพิ่มขึ้น 35% และไทย ปี 2558 เพิ่มขึ้น 11-12% ปี 2603 เพิ่มขึ้น 34% (ข้อมูลจากสหประชาชาติ) เรามีโอกาส มีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เพราะมีพื้นฐานอยู่แล้ว เพียงแค่พัฒนาขึ้นมา มีแผนรองรับชัดเจน ใช้ความโดดเด่นความเป็นไทย วิถีไทย เป็นตัวขับเคลื่อน ขายความเป็นไทยเนส สำหรับแผนการลงทุนของกลุ่มบีจีเอชนั้น วิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาล ปัจจุบันในกลุ่มบีจีเอช มีอยู่ 30 แห่ง และยังมีแผนศึกษาการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดหัวเมือง ทั้งการลงทุนสร้างใหม่และการควบรวมกิจการ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
วิชัย ทองแตง ชงโรดแมพ ชิงฮับ HEALTH CARE เอเชีย
Posted in: บทความและบทวิเคราะห์AEC 16 สิงหาคม 2555
วิชัย ทองแตง รองประธานกรรมการบริษัท กรุงเทพดุสิต เวชการ จำกัด (มหาชน) (BGH) หรือโรงพยาบาลกรุงเทพ กล่าวว่า นับถอยหลังสู่การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือAEC (AEC : ASEAN Economic Community) มองภาพความพร้อมธุรกิจเฮลธ์แคร์ในเมืองไทย ที่จะรับมือกับกองทุนต่างชาติ ที่เรียกกันว่า “โซเรนเวฟ ฟันด์” ที่มีอยู่กว่า 10 กองทุน ซึ่งแต่ละกองทุนมีเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะการก่อกำเนิดของกลุ่ม ไอเอชเอช เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นกองทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลมาเลเซีย ที่มุ่งลงทุนในธุรกิจโรงพยาบาล ได้เข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แบบสองตลาด ทั้งในตลาดหลักทรัพย์กัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย และสิงคโปร์ ปัจจุบันไอเอชเอช เป็นกลุ่มโรงพยาบาลที่มีมูลค่าหุ้นตามราคาตลาดในปัจจุบัน (มาร์เก็ตแคป) 250,000 ล้านบาท ใหญ่เป็นอันดับ 1 ของโลก มีโรงพยาบาลเครือข่ายใน 6 ประเทศ คือ มาเลเซีย สิงคโปร์ บรูไน ตุรกี จีน และอินเดีย รวม 88 โรงพยาบาล 12,000 เตียง รองรับผู้ใช้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งอาเซียน โดยมองว่า วันนี้ไทยเรายังมีความอ่อนด้อยการเตรียมความพร้อมเรื่องAECน้อยไปหน่อย ประเมินว่าเมื่อปีเปิดเสรีการค้า คงจะมีความขลุกขลัก ความเข้าใจของประชาชนก็ดี ภาครัฐ เอกชนก็ดี น่าจะยังไม่ค่อยพร้อมนัก เพราะบนโลกการแข่งขันเสรี หยุดไม่ได้ และไม่สามารถหลีกเลี่ยง การแข่งขันไปได้ ต้องเดินอยู่บนโอกาสที่เราสามารถยืนอยู่บนโลกการแข่งขันได้
การขับเคลื่อนธุรกิจเฮลธ์แคร์ไทยสู่การเป็นฮับของเอเชีย ต้องวางยุทธศาสตร์ใหม่ สร้างให้มากกว่าการเป็นแค่ “เมดิคัล ฮับ” เพราะคนดูเป็นเรื่องของการแพทย์ และโรงพยาบาลเท่านั้น ซึ่งธุรกิจโรงพยาบาลเป็นแค่ส่วนเล็กๆ มีมูลค่า 1 ใน 4 ของธุรกิจเฮลธ์แคร์เท่านั้น ต้องยกระดับให้เป็น “เวลเนส ออฟ เอเชีย” หมายรวมถึงการดูแลสุขภาพองค์รวม ทั้งในเชิงป้องกัน การรักษา และการฟื้นฟูหลังเจ็บป่วย
จุดแข็งเป็นองค์ประกอบสำคัญใน 3 ด้าน ที่ดึงดูดให้ผู้ป่วยในต่างประเทศเข้ามารักษาในไทย ได้แก่ คุณภาพ ซึ่งประเทศไทยมีระบบมาตรฐานการแพทย์ที่เข้มแข็ง ขณะนี้ มีโรงพยาบาลในไทยที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCIA (Joint Commission international Accreddittation USA) ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลของโรงพยาบาลโดยเฉพาะ เป็นที่รู้จัก และยอมรับของทั่วโลกถึง 28 แห่ง มากที่สุดในเอเชีย
รวมทั้งราคาค่ารักษาของไทย ยังค่อนข้างถูกเมื่อเทียบกับต่างประเทศ อย่างเช่น สหรัฐถูกกว่าถึง 5 เท่า และถูกกว่าสิงคโปร์ 30-40% และสุดท้าย คือ บริการ ซึ่งในช่วง 5 เดือนแรก (ม.ค.-พ.ค.) ของปี 2555 ชาวต่างชาติที่เข้ามารักษาในไทยมีถึง 7 แสนคน ทั้งปีคาดว่าจะอยู่ที่ 2.53 ล้านคน ถ้ามองโอกาสทางการตลาดมีอยู่มาก จากตัวเลขสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุต่อประชากรของประเทศ ในปี 2558 สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 17% และปี 2603 เพิ่มขึ้นถึง 40% ส่วนเวียดนาม ปี 2558 เพิ่มขึ้น 8% ปี 2603 เพิ่มขึ้น 35% และไทย ปี 2558 เพิ่มขึ้น 11-12% ปี 2603 เพิ่มขึ้น 34% (ข้อมูลจากสหประชาชาติ) เรามีโอกาส มีความได้เปรียบเชิงการแข่งขัน เพราะมีพื้นฐานอยู่แล้ว เพียงแค่พัฒนาขึ้นมา มีแผนรองรับชัดเจน ใช้ความโดดเด่นความเป็นไทย วิถีไทย เป็นตัวขับเคลื่อน ขายความเป็นไทยเนส สำหรับแผนการลงทุนของกลุ่มบีจีเอชนั้น วิชัย กล่าวว่า ที่ผ่านมา เตรียมความพร้อมมาอย่างต่อเนื่อง นอกจากการขยายเครือข่ายโรงพยาบาล ปัจจุบันในกลุ่มบีจีเอช มีอยู่ 30 แห่ง และยังมีแผนศึกษาการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในต่างจังหวัดหัวเมือง ทั้งการลงทุนสร้างใหม่และการควบรวมกิจการ
ที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 193
มีลิ้งค์นี้ เกี่ยวกับเรื่อง AEC ดีจังครับ มีบทความวิเคราะห์จุดแข็งจุดอ่อนขิงประเทศต่างๆ น่าอ่านมาก
http://www.thai-aec.com
http://www.thai-aec.com
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 194
หลังจากได้ดู กระบี่ไร้เทียมทานจบ มีเพื่อนในนี้ ท่านหนึ่ง เขียนว่าผมเหมือน ฮุ้งพวยเอี้ยง
ที่้ป็นคนเลี้ยงหมูในบู้ตึ้ง แล้ว ตอนหลังป่วยหนัก จนสำเร็จวิชาไหมฟ้าในที่สุด เลยค่อยๆตามดูนิยายเรื่องนี้
กว่าจะป่วย ก็ตอนที่ 21 ตอนสุดท้ายพอดี. ในช่วงสุดท้าย พระเอก โดนซัดจนตาย แล้ว วิชาเก่าก็ถูกทำลาย
หลังจากตาย ก็เหมือนกับการเก็บตัว จิตใจเริ่มสงบ(เป็นคำเล่าของพระเอกว่าเกิดอะไรขณะตาย) จิตใจรวมกัน แล้วใยไหมก็ห่อตัว สุดท้าย เมื่อพร้อม ไหม ดักแด้ก็ถูกผ่าออก อาจารย์ป้าก็ถ่ายทอดพลัง ครึ่งหลังให้ จนสำเร็จวิชาไหมฟ้า เป็นวิชาวุดยอด (แต่ก็มีตัวโกงอีกหลายตัวที่สำเร็จวิชาอื่น้วเก่งพอๆกัน แปลว่าไม่ได้มีวาเดียวนะ)
ผมนึกถึงเพื่อนแสนดีของผมท่านหนึ่งครับ เมื่อก่อนเขาเป็นนักเก็งกำไรที่ทุ่มเทมาก เขาเคยเล่าว่าเขาต้องดูจอคอมถึง 7 จอ และมีvolume เทรด มากจนโบรคให้ราคาพิเศษ แต่ท้ายที่สุดเพื่อนท่านนั้นหักดิบ ไม่เทรดเร็ว แต่กลับยึดหลักลงทุน vi โดยเขาให้เหตุผลว่า การยังเก็งกำไรเร็วและเฝ้าจออยู่นั้นก็ยังเหมือนทำงานอยู่ แม้จะได้เงิน แต่สุขภาพก็เสียไป และยิ่งแก่ลง ความไวก็จะน้อยลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีความเครียดสะสม ในแนวทางการลงทุน นั้น เป็นเรื่องของการสะสมฐานความรู้ ยิ่งนานวัน ยิ่งแก่ลง ต่างกับแนวการลงทุนที่เข้าใจธุรกิจ ฐานความรู้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงข้ามกับวิธีแรก (แห่ะ ๆ คงคล้ายกับหนังจีนที่สะสมกำลังภายใน มากกว่าเพลงกระบี่) ก็มีเพื่อนอีกหลายๆ คน ที่ ตาเสีย หรือ สุดท้าย ต้องไปผ่าต้อ(ไม่เอ่ยชื่อละกันครับ คนนี้ระดับ ปรมจารย์ทีเดียวเชียว) จากการดูจอที่มากเกินไป. มีอีกท่านที่ เล่าว่า เก็งเร็วมาก ถึงหลักกราฟนาทีเลยทีเดียว (ผมเคยสงสัยว่าทำได้ไง เพราะทุกครั้งยิ่งเทรดมากก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดมาก ทั้ง กดผิด และตัดสินใจผิด เหมือนทำงานให้โบรคชัดๆ แถมนอนตีสองตีสามเพื่อศึกษากราฟทุกคืน ทำงานหนักมาก) เขาเล่าว่า บางทีเทรดเช้าแล้วถึงกับต้องนอนพักตอนบ่ายเลยทีเดียว เพราะเครียดและเหนื่ิอย แต่ท้ายที่สุด เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เขาก็เมลล์มาบอกผมว่าเขาไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้ว พอร์ตพอแล้ว และทุกวันนี้ก็ลงทุนไปเรื่อยๆ และช่วยวัดไปเรื่อยๆ เช่นกัน (แต่เพื่อนท่านนั้นก็ผ่านการเจ็บตามาเหมือนกันครับ แปลว่าได้ผ่านการทำลายวิชาเก่าและรับวิชาใหม่เข้ามาเหมือนกัน)
ที่้ป็นคนเลี้ยงหมูในบู้ตึ้ง แล้ว ตอนหลังป่วยหนัก จนสำเร็จวิชาไหมฟ้าในที่สุด เลยค่อยๆตามดูนิยายเรื่องนี้
กว่าจะป่วย ก็ตอนที่ 21 ตอนสุดท้ายพอดี. ในช่วงสุดท้าย พระเอก โดนซัดจนตาย แล้ว วิชาเก่าก็ถูกทำลาย
หลังจากตาย ก็เหมือนกับการเก็บตัว จิตใจเริ่มสงบ(เป็นคำเล่าของพระเอกว่าเกิดอะไรขณะตาย) จิตใจรวมกัน แล้วใยไหมก็ห่อตัว สุดท้าย เมื่อพร้อม ไหม ดักแด้ก็ถูกผ่าออก อาจารย์ป้าก็ถ่ายทอดพลัง ครึ่งหลังให้ จนสำเร็จวิชาไหมฟ้า เป็นวิชาวุดยอด (แต่ก็มีตัวโกงอีกหลายตัวที่สำเร็จวิชาอื่น้วเก่งพอๆกัน แปลว่าไม่ได้มีวาเดียวนะ)
ผมนึกถึงเพื่อนแสนดีของผมท่านหนึ่งครับ เมื่อก่อนเขาเป็นนักเก็งกำไรที่ทุ่มเทมาก เขาเคยเล่าว่าเขาต้องดูจอคอมถึง 7 จอ และมีvolume เทรด มากจนโบรคให้ราคาพิเศษ แต่ท้ายที่สุดเพื่อนท่านนั้นหักดิบ ไม่เทรดเร็ว แต่กลับยึดหลักลงทุน vi โดยเขาให้เหตุผลว่า การยังเก็งกำไรเร็วและเฝ้าจออยู่นั้นก็ยังเหมือนทำงานอยู่ แม้จะได้เงิน แต่สุขภาพก็เสียไป และยิ่งแก่ลง ความไวก็จะน้อยลงเรื่อยๆ นอกจากนี้ยังมีความเครียดสะสม ในแนวทางการลงทุน นั้น เป็นเรื่องของการสะสมฐานความรู้ ยิ่งนานวัน ยิ่งแก่ลง ต่างกับแนวการลงทุนที่เข้าใจธุรกิจ ฐานความรู้ก็ยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตรงข้ามกับวิธีแรก (แห่ะ ๆ คงคล้ายกับหนังจีนที่สะสมกำลังภายใน มากกว่าเพลงกระบี่) ก็มีเพื่อนอีกหลายๆ คน ที่ ตาเสีย หรือ สุดท้าย ต้องไปผ่าต้อ(ไม่เอ่ยชื่อละกันครับ คนนี้ระดับ ปรมจารย์ทีเดียวเชียว) จากการดูจอที่มากเกินไป. มีอีกท่านที่ เล่าว่า เก็งเร็วมาก ถึงหลักกราฟนาทีเลยทีเดียว (ผมเคยสงสัยว่าทำได้ไง เพราะทุกครั้งยิ่งเทรดมากก็ยิ่งมีโอกาสผิดพลาดมาก ทั้ง กดผิด และตัดสินใจผิด เหมือนทำงานให้โบรคชัดๆ แถมนอนตีสองตีสามเพื่อศึกษากราฟทุกคืน ทำงานหนักมาก) เขาเล่าว่า บางทีเทรดเช้าแล้วถึงกับต้องนอนพักตอนบ่ายเลยทีเดียว เพราะเครียดและเหนื่ิอย แต่ท้ายที่สุด เมื่อ 2 อาทิตย์ที่แล้ว เขาก็เมลล์มาบอกผมว่าเขาไม่ได้ทำอย่างนั้นแล้ว พอร์ตพอแล้ว และทุกวันนี้ก็ลงทุนไปเรื่อยๆ และช่วยวัดไปเรื่อยๆ เช่นกัน (แต่เพื่อนท่านนั้นก็ผ่านการเจ็บตามาเหมือนกันครับ แปลว่าได้ผ่านการทำลายวิชาเก่าและรับวิชาใหม่เข้ามาเหมือนกัน)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 195
วันนี้แป๊บๆ ศุกร์อีกแล้วหรือเนี่ย เวลาผ่านไปเร็วมากๆ นับไปมา ผมนอน รพ มา 44 วันแล้ว ก็ประมาณ หกอาทิตย์แล้ว ไม่ค่อยได้รับรู้อะไรเท่าไหร่ ข้างนอกบอกหนาว เราก็ไม่รู้ ก็หนาวก็ปิดแอร์ ร้อนก็เปิดแอร์ ใช้ชีวิตเรียบง่ายตามประสาคนไข้ทั่วไป เหนือม้งเหนือเมฆอะไรไม่รู้จัก
(กะจะโพสวันศุร์ แต่เมื่วานเพลีย เลย ต้องนับ 45 วันแล้ว)
วันนี้ ถอดสายยาฉีดออกแล้วครับ พรุ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นยากินทั้งหมด แล้วอาทิตย์หน้าน่าจะได้ออกไปพักที่บ้านอีกสักระยะ ยังต้องเก็บตัวอีกสักพัก ได้นั้น สงบ อยู่ในใยไหมต่อ อาจจะ ครึ่ง ถึง หนึ่งเดือน
(กะจะโพสวันศุร์ แต่เมื่วานเพลีย เลย ต้องนับ 45 วันแล้ว)
วันนี้ ถอดสายยาฉีดออกแล้วครับ พรุ่งนี้จะเปลี่ยนเป็นยากินทั้งหมด แล้วอาทิตย์หน้าน่าจะได้ออกไปพักที่บ้านอีกสักระยะ ยังต้องเก็บตัวอีกสักพัก ได้นั้น สงบ อยู่ในใยไหมต่อ อาจจะ ครึ่ง ถึง หนึ่งเดือน
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 196
ผมได้เรียนรู้ธรรมะเพิ่ม อีกข้อเรื่อง
" เจ้ายอดอกตัญญู"
เจ้ายอดอกตัญญู นั้นก็คือกายของเรานั้นเอง เพราะไม่ว่าเราจะตั้งใจดูแลฟูมฟักรักษา ประคบประหงมขนาดไหน ก็ยังมีการทรยศ และนำมาซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ปรารถนาตามเวลา ในที่สุด เช่นเหี่ยวย่น ปวดเมื่อย เจ็บป่วย และสิ้นไปในที่สุด นี่แหละคือการที่แสดงว่า ไม่ใช่ของเราจริงๆ เพราะว่าเราคุมไม่ได้ รับรู้แล้วก็ปล่อยวางไป
ช่วงนี้ใช้หูอย่างเดียว 2 วันนี้ ได้รู้ว่า ญาติหรือเพื่อนฝูงคนที่รู้จัก เป็นมะเร็งถึง 2 คน และเป็นลูคีเมียอีกหนึ่งคน ความเจ็บไข้เป็นเรื่งธรรมดาของชีวิตจริงๆ
(จริงๆ คุณแชมป์ ที่ช่วยผม อัพ บัญชี เขียน fb มาบอกว่า ป่วยเจ็บขาต้องนอนอยู่บ้านมาสามวันแล้ว เนื่องจากเก้าขึ้น แล้วชมว่า สังคมทุกวันนี้ แค่มี มือถือก็ติดต่อผ่าน net ได้แล้ว สะดวกมาก ช่วงนี้เลยไม่ได้ อัพบุ๊ค ผมก็เช่นกันครับ อาทิตย์ที่แล้วผมก็ได้ร่วมสัมมนาที่หน่ง ผ่าน internet และ conference เช่นกันเนื้อาดีมาก ครบถ้วน )
" เจ้ายอดอกตัญญู"
เจ้ายอดอกตัญญู นั้นก็คือกายของเรานั้นเอง เพราะไม่ว่าเราจะตั้งใจดูแลฟูมฟักรักษา ประคบประหงมขนาดไหน ก็ยังมีการทรยศ และนำมาซึ่งสิ่งต่างๆ ที่ไม่พึงประสงค์ ไม่ปรารถนาตามเวลา ในที่สุด เช่นเหี่ยวย่น ปวดเมื่อย เจ็บป่วย และสิ้นไปในที่สุด นี่แหละคือการที่แสดงว่า ไม่ใช่ของเราจริงๆ เพราะว่าเราคุมไม่ได้ รับรู้แล้วก็ปล่อยวางไป
ช่วงนี้ใช้หูอย่างเดียว 2 วันนี้ ได้รู้ว่า ญาติหรือเพื่อนฝูงคนที่รู้จัก เป็นมะเร็งถึง 2 คน และเป็นลูคีเมียอีกหนึ่งคน ความเจ็บไข้เป็นเรื่งธรรมดาของชีวิตจริงๆ
(จริงๆ คุณแชมป์ ที่ช่วยผม อัพ บัญชี เขียน fb มาบอกว่า ป่วยเจ็บขาต้องนอนอยู่บ้านมาสามวันแล้ว เนื่องจากเก้าขึ้น แล้วชมว่า สังคมทุกวันนี้ แค่มี มือถือก็ติดต่อผ่าน net ได้แล้ว สะดวกมาก ช่วงนี้เลยไม่ได้ อัพบุ๊ค ผมก็เช่นกันครับ อาทิตย์ที่แล้วผมก็ได้ร่วมสัมมนาที่หน่ง ผ่าน internet และ conference เช่นกันเนื้อาดีมาก ครบถ้วน )
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 197
อีกเรื่องของการใช้หู 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา แปลกมาก มีคนที่ไม่เคยมีบัญชีหุ้นเลย มาปรึกษาว่าจะเปิดบัญชี ถึง 4 คนทีเดียว บางคนถึงกับยอมขายรถเลยอะไรจะขนาดนั้น รวมถึงกระแสข่าวเรื่ิองเงินบาทอีก แถมการ เล่าขานทั้งหุ้น turn around และ หุ้น เศษสตางค์ พวก n-park iec นึกถงสมยหุ้นปั่นแบบ bnt rich live พวกนั้นจัง
และก็ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวหลายอย่าง ทั้ง ทฤษฎีค๊อกเทล แท๊กซี่ชวนล่นหุ้น หรือแม้กระทั่งการนับคลื่น ด้วยหู. ในขณะที่ คนเก่าๆ หลายคนเริ่มระวัง เราก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะ ว่าฟังอย่่างเดียว
และก็ทำให้หวนคิดถึงเรื่องราวหลายอย่าง ทั้ง ทฤษฎีค๊อกเทล แท๊กซี่ชวนล่นหุ้น หรือแม้กระทั่งการนับคลื่น ด้วยหู. ในขณะที่ คนเก่าๆ หลายคนเริ่มระวัง เราก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่ เพราะ ว่าฟังอย่่างเดียว
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 198
มีอีกเรื่องอีกสองเรื่องที่อยากจะเล่า คือ เมื่อวานมีเพื่อนที่ชอบเล่นหุ้นตามเซเลป โทรมาเล่าว่า ปีที่ผ่านมาเขา ได้ผลตอบแทนชนะตลาดถึง 30% ตอนแรก เราได้ยินก็ร้องโอ้โห นี่คุณได้ 80% เลยเหรอ เขาบอกว่า ปล่าวปีที่ผ่านมาเขาได้ 30% นิดๆ เลยบอกว่า อย่างนี้ไม่เรียกว่า ชนะตลาดเฟ้ย เขาเรียกว่า แพ้ตลาด 20% แต่ก็ยินดีที่ได้กำไร. ตลาดแบบนี้ทุกคนเป็นเซียนกันจริงๆ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 199
ว่างๆ ก็ลองอ่านบทความในวารสารนิด้าเพิ่ม ได้อ่านเรื่ิอง การสร้างมูลค่าเพิ่มของ บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ สูงสุด. โดยใช้ตัวเลยในการวัด MVA. กับ EVA. ผมยังไม่ค่อยข้าใจสงตัวเลขนี้เท่าไหร่ ในบทความปรับงบ เป็นงบบริารด้วย พอมีใครช่วยอธิบายคร่าวๆ ได้ไมครับ. (ผมคงต้งอ่านซ้ำเพราะบทความนี้เป็นการทำรอบที่ 4 แล้ว)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 200
ช่วงนี้ รพ แปลกๆ ลดยาไม่ได้ แต่เปลี่ยนเป็นยากิน มีใครพอรู้จัก cortef บ้างช่วงแน่นำหน่อย เหมือน กับว่าปริมาณมันไม่เทียบเท่า เพนนิสซิโลน กบ โซโลเมดอล หมอบอกว่าลดยา แต่ไหง ยากินเพิ่ม รวมเป็น 45 มก ซะงั่น ( หมออธิบายว่า เพราะ cortef มันแค่ 1/4 ของ เพนนิส(ซิโลน)). เริ่มมีการจะใหกลับ ไลดยาที่บ้านแลวมาหา อาทิตย์ละ 2 ครั้ง เริ่มรู้สึกว่า รพ ปกป้องความเสี่ยง ของการที่คนไข้ไม่จ่ายเงิน หรือขอลดค่าบริการ. อาารที่สริฟให้ ก็แปลกๆ เมื่อเช้า เสริฟมาได้ไง ข้าวต้ม ชาม โจ๊กอีกชาม ทำให้อดรู้สึกถึงการลด cost ยังไงก็ไม่รู้ แปลว่า รพ เอกชน ฝ่ายการเงินสำคัญมากเพราะจะมีเทคนิคการชาร์จค่าใช้จ่ายนั้นตามความสามารถการรับค่าใช้จ่ายของคนไข้ได้ลย และมีพี่เภสัชคนนึงมาเล่าให้ฟังกรณีชาร์จยาเบิ้ล ของคนไข้คนนึง ทำให้พอลิงค์ภาพของยาราคาถูกขงร้านยา แถวราชวิถี กับ ศิริราชได้บ้างแล้ว ว่าแอบเอายาราคาถูกมาจากไหน.
(ช่วงนี้ ได้เรียนรู้เทคนิคขง รพ อีกเพียบเลย แต่ยังไม่เล่าดีกว่า)
ประกอบกับมีการเจรจาต่อรอง จริงๆ ผมเคยสัญญา กับเพื่อนคนหนึ่งไว้ ว่าจะเขียน บทความเรื่องการเจรจาต่อรอง แต่ช่วงนี้ยังไม่เหมาะ ส่ง link ให้พอครับ
(ช่วงนี้ ได้เรียนรู้เทคนิคขง รพ อีกเพียบเลย แต่ยังไม่เล่าดีกว่า)
ประกอบกับมีการเจรจาต่อรอง จริงๆ ผมเคยสัญญา กับเพื่อนคนหนึ่งไว้ ว่าจะเขียน บทความเรื่องการเจรจาต่อรอง แต่ช่วงนี้ยังไม่เหมาะ ส่ง link ให้พอครับ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 201
หลักสำคัญ คือ BATNA (การรู้ว่าหาก ไม่ตกลง แล้วแย่สุดจะเป็นอะไร)
Best alternative to a negotiated agreement
http://en.wikipedia.org/wiki/Best_alter ... _agreement
MAZO
Zone การตัดสินใจที่เหมาะสมของแต่ละฝ่าย
เทคนิคการเจรจา นั้นจริงๆ ไม่ใช่เกมที่จะต้องทำให้ฝ่ายตีงข้ามนั้นย่อยยับ แต่เป็น เมเพื่อสร้าง win-win situation ในเขตที่ต่างฝ่ายต่ายยอมรับได้มากกว่า (คล้ายหุ้นไหม ว่ามีคนซื้อ ก็มีคนขาย )
และท้ายสุด คนชอบพูดว่า "ไม่มีทางเลือก" ไม่จริงเลยครับ ทุกคนต่างมีทางเลือกตลอดอย่างน้อย 2 ทางเป็นอย่างน้อยเสมอ อย่างน้อย คือ "การไม่ทำ" กับ"การทำ "
(เคยมี cd ของ ดร. สมชาย เรื่องนี้ขายตามร้านหนังสือ จำได้ว่าราาไม่แพง แต่คุณภาพเหลือล้นทีเดียวครับ)
Best alternative to a negotiated agreement
http://en.wikipedia.org/wiki/Best_alter ... _agreement
MAZO
Zone การตัดสินใจที่เหมาะสมของแต่ละฝ่าย
เทคนิคการเจรจา นั้นจริงๆ ไม่ใช่เกมที่จะต้องทำให้ฝ่ายตีงข้ามนั้นย่อยยับ แต่เป็น เมเพื่อสร้าง win-win situation ในเขตที่ต่างฝ่ายต่ายยอมรับได้มากกว่า (คล้ายหุ้นไหม ว่ามีคนซื้อ ก็มีคนขาย )
และท้ายสุด คนชอบพูดว่า "ไม่มีทางเลือก" ไม่จริงเลยครับ ทุกคนต่างมีทางเลือกตลอดอย่างน้อย 2 ทางเป็นอย่างน้อยเสมอ อย่างน้อย คือ "การไม่ทำ" กับ"การทำ "
(เคยมี cd ของ ดร. สมชาย เรื่องนี้ขายตามร้านหนังสือ จำได้ว่าราาไม่แพง แต่คุณภาพเหลือล้นทีเดียวครับ)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 874
- ผู้ติดตาม: 1
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 202
คอร์เทฟ= solu-cortef ลองดูในกูเกิ้ล
เป็นยากลุ่มสเตอร์รอยด์
ใช้กดอาการอักเสบที่ทำลายผิวหนัง เยื่อบุตาอยู่ครับ
ยาฉีดก็จะมี solu-medrol depo-medrol dexamethsone อะไรประมาณนี้
จำเป็นต้องใช้ เวลาถอยเป็นยากินก็จะคำนวนตามความแรง
แต่ละตัวแรงไม่เท่ากัน บางทีต้องใช้ยากินปริมาณมากกว่ายาฉีด
ชักเป็นห่วง เพราะถ้าใช้นานๆ ก็มีผลแทรกซ้อนได้
แต่เข้าใจว่าคุณหมอท่านคงพยามรีบลดอยู่
คิดในแง่ดี ใช้มาเดือนครึ่ง
ป่านนี้ไม่รู้คุณTหน้ากลม พุงกลม หนอกขึ้น
เป็นอรหันต์สังกัจจาย ไปตั้งแต่ยังไม่บวช
แทนที่จะเป็นฮุ้นปวยเอี๊ยงออกจากดักแด้
ซะงั้น?
เป็นยากลุ่มสเตอร์รอยด์
ใช้กดอาการอักเสบที่ทำลายผิวหนัง เยื่อบุตาอยู่ครับ
ยาฉีดก็จะมี solu-medrol depo-medrol dexamethsone อะไรประมาณนี้
จำเป็นต้องใช้ เวลาถอยเป็นยากินก็จะคำนวนตามความแรง
แต่ละตัวแรงไม่เท่ากัน บางทีต้องใช้ยากินปริมาณมากกว่ายาฉีด
ชักเป็นห่วง เพราะถ้าใช้นานๆ ก็มีผลแทรกซ้อนได้
แต่เข้าใจว่าคุณหมอท่านคงพยามรีบลดอยู่
คิดในแง่ดี ใช้มาเดือนครึ่ง
ป่านนี้ไม่รู้คุณTหน้ากลม พุงกลม หนอกขึ้น
เป็นอรหันต์สังกัจจาย ไปตั้งแต่ยังไม่บวช
แทนที่จะเป็นฮุ้นปวยเอี๊ยงออกจากดักแด้
ซะงั้น?
samatah
-
- Verified User
- โพสต์: 210
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 203
ขอให้คุณธีจงมีความสุขและปล่อยวางได้อย่างใจคิด
ไม่พูดว่าอยากเพราะมันไม่ปล่อยวาง
นักลงทุนแบบเราจะอยู่ในตลาดหุ้นและออกไปได้อย่างมีความสุข ต้องได้ธรรมเรื่องปล่อยวางนี้ล่ะครับ
ขอบคุณคุณธีและผู้ตอบกระทู้ทุกท่านมากที่มาถ่ายทอดความรู้ให้ครับ
ไม่พูดว่าอยากเพราะมันไม่ปล่อยวาง
นักลงทุนแบบเราจะอยู่ในตลาดหุ้นและออกไปได้อย่างมีความสุข ต้องได้ธรรมเรื่องปล่อยวางนี้ล่ะครับ
ขอบคุณคุณธีและผู้ตอบกระทู้ทุกท่านมากที่มาถ่ายทอดความรู้ให้ครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 206
ขอบคุณทุกคนมากครับ ตอนนี้เปลี่ยนยาฉีด เป็นยากินหมดแล้วครับ
อีก 1-2 วันคงกลับไปพักที่บ้านได้ ขอบคุณ คุณ dr มากครับ ท่าจะเป็นหมอจริงๆ พรุ่งนี้ผมยู่ที่นี่ครบ 50 วันพอดี
ผมเป็นอาการที่คุณ dr บอกมา ครบแล้วครับ ทั้ง moonface , truncal obesity, แต่ผลเลือดดียังคุมอยู่ ขาดแต่ buffalow hump ครับ. ไม่เป็นไร ปกติก็หน้ากลมอยู่แล้ว กลมอีกหน่อยไม่เป็นไร ดีที่มีคนว่าหน้าเหมือนพระจันทร์. น้ำหนักลดมา 13 กิโลก็ดีแล้วครับ
อีก 1-2 วันคงกลับไปพักที่บ้านได้ ขอบคุณ คุณ dr มากครับ ท่าจะเป็นหมอจริงๆ พรุ่งนี้ผมยู่ที่นี่ครบ 50 วันพอดี
ผมเป็นอาการที่คุณ dr บอกมา ครบแล้วครับ ทั้ง moonface , truncal obesity, แต่ผลเลือดดียังคุมอยู่ ขาดแต่ buffalow hump ครับ. ไม่เป็นไร ปกติก็หน้ากลมอยู่แล้ว กลมอีกหน่อยไม่เป็นไร ดีที่มีคนว่าหน้าเหมือนพระจันทร์. น้ำหนักลดมา 13 กิโลก็ดีแล้วครับ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 207
"คุณอยากได้ความสำเร็เท่าลมหายใจไหม?"
ขอบคุณเพื่อนอีกสองท่านที่ช่วยแชร์ ไฟล์ CFA ให้ด้วยนะครับ หาโอกาศยากที่จะได้มีเวลาว่างขนาดนี้(พอดีได้อ่านอีกกระทู้ที่ทำงาน 12 ชม. ต่อ) สู้ๆครับ มีคนคนหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า เคยคุยกับเจ้าของเว็บสนุกว่า จะทำธุรกิจหนึ่ง
เขาถามว่า "น้องอยากได้จริงหรือเปล่า อยากสำเร็จจริงหรือเปล่า? " น้องเขาตอบว่า "อยากค่ะ"
เขาถามต่อว่า "อยากได้แค่ไหน? " "อยากได้เท่าลมหายใจไหม? ". "ถ้าน้องอยากได้เท่่าลมหายใจ น้องจะสำเร็จ"
สู้ๆ ครับ ทำงาน 12 ชม ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกคนมี 24 ชม เท่ากัน ไม่มีใครมีมากกว่านี้ คุณแค่ต้องการ หา 3 สิ่งเท่านั้นที่เหนือกว่าคน 80% ส่วนใหญ่ให้ครบ คือ "เงิน เวลา ความรู้" ถ้าเราต้องการจริงๆเท่าลมหายใจ เดี๋ยวเราก็หาได้เองครับ 2 สิ่งมาแล้วสิ่งที่ 3 ก็จะมาเอง
ขอบคุณเพื่อนอีกสองท่านที่ช่วยแชร์ ไฟล์ CFA ให้ด้วยนะครับ หาโอกาศยากที่จะได้มีเวลาว่างขนาดนี้(พอดีได้อ่านอีกกระทู้ที่ทำงาน 12 ชม. ต่อ) สู้ๆครับ มีคนคนหนึ่งเคยเล่าให้ผมฟังว่า เคยคุยกับเจ้าของเว็บสนุกว่า จะทำธุรกิจหนึ่ง
เขาถามว่า "น้องอยากได้จริงหรือเปล่า อยากสำเร็จจริงหรือเปล่า? " น้องเขาตอบว่า "อยากค่ะ"
เขาถามต่อว่า "อยากได้แค่ไหน? " "อยากได้เท่าลมหายใจไหม? ". "ถ้าน้องอยากได้เท่่าลมหายใจ น้องจะสำเร็จ"
สู้ๆ ครับ ทำงาน 12 ชม ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ทุกคนมี 24 ชม เท่ากัน ไม่มีใครมีมากกว่านี้ คุณแค่ต้องการ หา 3 สิ่งเท่านั้นที่เหนือกว่าคน 80% ส่วนใหญ่ให้ครบ คือ "เงิน เวลา ความรู้" ถ้าเราต้องการจริงๆเท่าลมหายใจ เดี๋ยวเราก็หาได้เองครับ 2 สิ่งมาแล้วสิ่งที่ 3 ก็จะมาเอง
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 208
อุเบกขา
บางคนบอกว่าอุเบกขาคือการปล่อยว่าง แปลว่าไม่ทำอะไรเลย(การไม่ทำอะไรเลยคือความเกียจคร้าน เป็นสิ่งกีดขวางความสำเร็จ อย่าสับสนกัน -ถีนมิทธะ ความขี้เกียจ ) จริงๆไม่ใช่นะครับ อุเบกขาคือการวางเฉย รับรู้แต่เข้าใจว่าเป็นธรรมดาว่าก็เป็นอย่างงั้น และไม่นำมากระทบจิตใจเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด มนุษย์เรานี้ มีทั้ง ได้ลาภ เสื่อมลาภ สุข ทุกข์ เป็นปกติอยู่แล้วที่ต้องเจอ แต่จะทำอย่างไรให้เราเห็นว่าเป็นปกติต่างหาก เพราะเป็นธรรมชาติ
บางคนบอกว่าอุเบกขาคือการปล่อยว่าง แปลว่าไม่ทำอะไรเลย(การไม่ทำอะไรเลยคือความเกียจคร้าน เป็นสิ่งกีดขวางความสำเร็จ อย่าสับสนกัน -ถีนมิทธะ ความขี้เกียจ ) จริงๆไม่ใช่นะครับ อุเบกขาคือการวางเฉย รับรู้แต่เข้าใจว่าเป็นธรรมดาว่าก็เป็นอย่างงั้น และไม่นำมากระทบจิตใจเป็นสิ่งที่ทำได้ยากที่สุด มนุษย์เรานี้ มีทั้ง ได้ลาภ เสื่อมลาภ สุข ทุกข์ เป็นปกติอยู่แล้วที่ต้องเจอ แต่จะทำอย่างไรให้เราเห็นว่าเป็นปกติต่างหาก เพราะเป็นธรรมชาติ
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 209
มีอีกหลายตัวอย่างเช่น
ราคาหุ้นมันยังไงก็ผันผวน มันเป็นธรรมชาติ เราก็รับรู้ นั่งดูแล้วก็ไม่เอาอารมย์ไปยุ่งกับมัน เราก็สบายใจ ทำสิ่งที่เราควรทำตามหน้าที่เราเท่านั้น (เช่นเฟ้นหาธุรกิจที่ดีแล้วอยู่กับมัน) ธรรมชาติ ของตลาดเดี๋ยวก็มีขึ้น มีลง มี crash แล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันก็เป็นธรรมชาติ เราก็แค่ตามดู หาจังหวะ เป็นธรรมชาติ เข้าใจอย่างนี้เราก็จะไม่ทุกข์กับมัน และคุมจิตใจอยู่ เป็นนักเก็งกำไร และนักลงทุนที่มีเหตุล(rational)
ราคาหุ้นมันยังไงก็ผันผวน มันเป็นธรรมชาติ เราก็รับรู้ นั่งดูแล้วก็ไม่เอาอารมย์ไปยุ่งกับมัน เราก็สบายใจ ทำสิ่งที่เราควรทำตามหน้าที่เราเท่านั้น (เช่นเฟ้นหาธุรกิจที่ดีแล้วอยู่กับมัน) ธรรมชาติ ของตลาดเดี๋ยวก็มีขึ้น มีลง มี crash แล้วเดี๋ยวมันก็ผ่านไป มันก็เป็นธรรมชาติ เราก็แค่ตามดู หาจังหวะ เป็นธรรมชาติ เข้าใจอย่างนี้เราก็จะไม่ทุกข์กับมัน และคุมจิตใจอยู่ เป็นนักเก็งกำไร และนักลงทุนที่มีเหตุล(rational)
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1569
- ผู้ติดตาม: 0
Re: เรื่องเล่าจากโรงพยาบาล จากสมองอันน้อยนิด ด้วยอุปกรณ์และส
โพสต์ที่ 210
หรือ เวลา พอร์ตขึ้น เป็น ล้านแรก สิบล้านแรก เราก็คงตื่นเต้น ดีใจ ดีใจมาก น้ำตาไหล(ภาษาพุทธ เรียกปิติ) แต่ พอจาก สิบ เป็นยี่สิบ เป็นสามสิบ ทุกสิบใหม่ความดีใจ คงเทียบไม่ได้กับสิบแรก. (อันนี้ผมก็ยังไม่เคย เคยแต่เด้ง มีพี่ๆท่านไหนเคย ช่วยแชร์หน่อยครับ). เป็น ร้อย เป็นพันล้าน ปริมาณความดีใจ ปิติ มันเท่ากันไหม กับล้านแรก. - อันนี้ผมเปรียบเทียบกับทางการทำสมาธิ คือ ทางพุทธ ฝึกถึงแค่ ฌาณ4 เท่านั้น แต่ไม่จำเป็นที่จะต้อง ฌาณ 8 (เรียกอรูปฌาณเหมือนพวกฤษีฝึก) เพราะไม่ใช่หนทางแห่งความดับทุกข์ จะติดยึดปล่าวๆ แต่ ให้ปล่อยวางไป ก็สังเกตครับ เศรษฐีต่าง ก็บริจาค สร้างกองทุน ไม่ว่าจะเป็น บิลเกต บัฟเฟต หรือแม้กระทั่ง โซรอสที่ได้ชื่อว่า เป็นนักบุญคนบาปก็ตาม
ผมเป็นคนความจำสั้น จึง post สิ่งที่อ่านหรือพบเจอที่คิดว่าอาจจะใช้ประโยชน์ใน board
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ
เพื่อจะได้กลับมาอ่านทีหลัง
หากเยอะไปหรือ ทำให้เพื่อนๆ รำคาญในต้องขออภัยด้วยครับ
หากบางหัวข้อไม่มีเนื้อ หรือ เพื่อนๆ บันทึกเนื้อข่าวเพิ่มให้จะขอบคุณอย่างยิ่งครับ