China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 1
สวัสดีครับ ผมสนใจ เลือกลงทุน ในกองทุนเปิด ที่มีนโยบายลงทุนในตลาดประเทศจีน
ไม่ทราบเพื่อน มีวิธี เลือกลงทุนกองทุนเปิด ประเทศจีน กันอย่างไรบ้างครับ
รบกวน ขอ comment หน่อย
อันนี่เป็น list ครับ
1 กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index
2 กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ ไชน่า แวลู เอฟไอเอฟ
3 กองทุนเปิดเคเค ไชน่า ฟันด์
4 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Shares อิควิตี้
5 กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าอิควิตี้
6 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า
7 กองทุนเปิดวรรณไชน่าออโต้รีเด็มชั่นฟันด์
8 กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ ไชน่า-อินเดีย-อินโด อิควิตี้
9 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์
10 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ
11 กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน
12 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ไชน่า ซีรี่ส์ 2
13 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย ดิวิเดนด์ ฟัน
14 กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ไชน่า อินเดีย ชนิดไม่จ่ายเงินปันผ
15 กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (THB)
ไม่ทราบเพื่อน มีวิธี เลือกลงทุนกองทุนเปิด ประเทศจีน กันอย่างไรบ้างครับ
รบกวน ขอ comment หน่อย
อันนี่เป็น list ครับ
1 กองทุนเปิดทหารไทย China Equity Index
2 กองทุนเปิด แมนูไลฟ์ สเตร็งค์ ไชน่า แวลู เอฟไอเอฟ
3 กองทุนเปิดเคเค ไชน่า ฟันด์
4 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า H-Shares อิควิตี้
5 กองทุนเปิดกรุงศรีไชน่าอิควิตี้
6 กองทุนเปิด ไอเอ็นจี ไทย เกรทเทอร์ ไชน่า
7 กองทุนเปิดวรรณไชน่าออโต้รีเด็มชั่นฟันด์
8 กองทุนเปิดซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล เดลี่ ไชน่า-อินเดีย-อินโด อิควิตี้
9 กองทุนเปิดอเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์
10 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย เพื่อการเลี้ยงชีพ
11 กองทุนเปิดเค ไชน่า หุ้นทุน
12 กองทุนเปิดเอ็มเอฟซี อินเตอร์เนชั่นแนล ไชน่า ซีรี่ส์ 2
13 กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า อินเดีย ดิวิเดนด์ ฟัน
14 กองทุนเปิด ยูโอบี สมาร์ท ไชน่า อินเดีย ชนิดไม่จ่ายเงินปันผ
15 กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า แทร็กเกอร์ (THB)
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 2
อันนี้เป็นผลตอบแทน ย้อนหลัง ครับ
เครดิตจาก morning start thailand
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000005JN4]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
เครดิตจาก morning start thailand
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000005JN4]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
แนบไฟล์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 5
ผมเข้าใจว่า fund บอก sector weight ของกองทุน อาจเป็นประโยชร์ ในการเลือก sector
ผม เพิ่มค่าธรรมเนียม แต่ล่ะกองทุนด้วยครับ
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F000000RJ7]2]0]FOTHA$$ONS|F000000RU6]2]0]FOTHA$$ONS|F0000045SP]2]0]FOTHA$$ONS|F00000JZ7R]2]0]FOTHA$$ONS|F000005QMB]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000001AY0]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000001AY0]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
ผม เพิ่มค่าธรรมเนียม แต่ล่ะกองทุนด้วยครับ
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F000000RJ7]2]0]FOTHA$$ONS|F000000RU6]2]0]FOTHA$$ONS|F0000045SP]2]0]FOTHA$$ONS|F00000JZ7R]2]0]FOTHA$$ONS|F000005QMB]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000001AY0]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
http://tools.morningstarthailand.com/th ... F0000040ZY]2]0]FOTHA$$ONS|F00000J85Y]2]0]FOTHA$$ONS|F00000LKGL]2]0]FOTHA$$ONS|F0000044FI]2]0]FOTHA$$ONS|F000001AY0]2]0]FOTHA$$ONS&CurrencyId=THB&LanguageId=th-TH
แนบไฟล์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 19
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 6
ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลยครับ
ขอถามสักคำถามนะครับ
แล้วตัวหุ้น CHINA ข้อมูลละเอียดๆเปรียบเทียบกับกองทุนเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
(ขออภัยที่ถามคำถามแบบไม่ค่อยได้ศึกษาละเอียดมาก่อนนะครับ)
ผมยอมรับเลยว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดชัดเจน ตอนลงทุนในตัวหุ้น CHINA มองว่าเหมือนซื้อ Index
ผมลงทุนแบบ DCA เลยอ่ะครับ(สัดส่วนถือว่าน้อยในพอร์ตประมาณ 10 เปอร์เซนต์ เพราะมองว่าเป็นการลงทุนแบบ Passive)
และราคาตลาดของจีนตอนนี้ ก็ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับของไทย ^ ^ P/E เกือบๆ 10 เท่า
... เดิมก็ลงทุนแบบ DCA ในหุ้น TDEX แหละครับ
แต่พอตัว TDEX วัดด้วยค่า P/E สูงกว่า ค่าเฉลี่ยไปเยอะ ก็เลยขายแล้วมาสะสมใน CHINA แทน
(นำมาทำกราฟ เหมือนหาค่า SD อ่ะครับ ทำจุดตัดที่จะซื้อเมื่อ P/E ต่ำกว่าเท่าไหร่ และจะขายเมื่อ P/E สูงกว่าเท่าไหร่ )
แล้วก็มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องสูงเหมือนกันในตัวหุ้น CHINA TDEX ถึงแม้ว่าตอนนี้สำหรับผมอาจจะไม่มากมายเท่าไหร่
แต่ถ้าตลาด Crash ขึ้นมา ... ขายไม่ทันแน่ๆ 555+
จึงอยากจะศึกษา กองทุน ที่จะสามารถทะยอยซื้อเดือนละเล็กละน้อยได้หน่ะครับ
ขอถามสักคำถามนะครับ
แล้วตัวหุ้น CHINA ข้อมูลละเอียดๆเปรียบเทียบกับกองทุนเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
(ขออภัยที่ถามคำถามแบบไม่ค่อยได้ศึกษาละเอียดมาก่อนนะครับ)
ผมยอมรับเลยว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดชัดเจน ตอนลงทุนในตัวหุ้น CHINA มองว่าเหมือนซื้อ Index
ผมลงทุนแบบ DCA เลยอ่ะครับ(สัดส่วนถือว่าน้อยในพอร์ตประมาณ 10 เปอร์เซนต์ เพราะมองว่าเป็นการลงทุนแบบ Passive)
และราคาตลาดของจีนตอนนี้ ก็ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับของไทย ^ ^ P/E เกือบๆ 10 เท่า
... เดิมก็ลงทุนแบบ DCA ในหุ้น TDEX แหละครับ
แต่พอตัว TDEX วัดด้วยค่า P/E สูงกว่า ค่าเฉลี่ยไปเยอะ ก็เลยขายแล้วมาสะสมใน CHINA แทน
(นำมาทำกราฟ เหมือนหาค่า SD อ่ะครับ ทำจุดตัดที่จะซื้อเมื่อ P/E ต่ำกว่าเท่าไหร่ และจะขายเมื่อ P/E สูงกว่าเท่าไหร่ )
แล้วก็มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องสูงเหมือนกันในตัวหุ้น CHINA TDEX ถึงแม้ว่าตอนนี้สำหรับผมอาจจะไม่มากมายเท่าไหร่
แต่ถ้าตลาด Crash ขึ้นมา ... ขายไม่ทันแน่ๆ 555+
จึงอยากจะศึกษา กองทุน ที่จะสามารถทะยอยซื้อเดือนละเล็กละน้อยได้หน่ะครับ
"Life long Learner"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 7
สามารถหาข้อมลูจาก web Morningstarthailand ครับ
สามารถสมัครฟรีได้ครับ
แล้วก็ไปที่หน้านี้
http://tools.morningstarthailand.com/th ... geId=th-TH
จะเห็น ช่องให้เลือกกองทุน "Enter Name or ISIN"
ใส่ชื่อสั้นๆๆ ว่า China หรือ จีน แล้วก็กดแว่น ขยาย ครับ หลังจากนั้นก็จะเห็น ชื่อกองทุน
ผมเปรียบเทียบ โดยใส่ชื่อ กองทุนเข้า
สามารถสมัครฟรีได้ครับ
แล้วก็ไปที่หน้านี้
http://tools.morningstarthailand.com/th ... geId=th-TH
จะเห็น ช่องให้เลือกกองทุน "Enter Name or ISIN"
ใส่ชื่อสั้นๆๆ ว่า China หรือ จีน แล้วก็กดแว่น ขยาย ครับ หลังจากนั้นก็จะเห็น ชื่อกองทุน
ผมเปรียบเทียบ โดยใส่ชื่อ กองทุนเข้า
แนบไฟล์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 8
ผมคิดว่าแม้น port ของกองทุนบ้างกองทุนจะคล้ายกัน แต่เวลาตลาดเป็นลบหรือเป็นบวกlnw_earn เขียน:ขอบคุณสำหรับข้อมูลมากเลยครับ
ขอถามสักคำถามนะครับ
แล้วตัวหุ้น CHINA ข้อมูลละเอียดๆเปรียบเทียบกับกองทุนเหล่านี้เป็นอย่างไรบ้างครับ
(ขออภัยที่ถามคำถามแบบไม่ค่อยได้ศึกษาละเอียดมาก่อนนะครับ)
ผมยอมรับเลยว่าไม่ได้ศึกษารายละเอียดชัดเจน ตอนลงทุนในตัวหุ้น CHINA มองว่าเหมือนซื้อ Index
ผมลงทุนแบบ DCA เลยอ่ะครับ(สัดส่วนถือว่าน้อยในพอร์ตประมาณ 10 เปอร์เซนต์ เพราะมองว่าเป็นการลงทุนแบบ Passive)
และราคาตลาดของจีนตอนนี้ ก็ถือว่าต่ำมากเมื่อเทียบกับของไทย ^ ^ P/E เกือบๆ 10 เท่า
... เดิมก็ลงทุนแบบ DCA ในหุ้น TDEX แหละครับ
แต่พอตัว TDEX วัดด้วยค่า P/E สูงกว่า ค่าเฉลี่ยไปเยอะ ก็เลยขายแล้วมาสะสมใน CHINA แทน
(นำมาทำกราฟ เหมือนหาค่า SD อ่ะครับ ทำจุดตัดที่จะซื้อเมื่อ P/E ต่ำกว่าเท่าไหร่ และจะขายเมื่อ P/E สูงกว่าเท่าไหร่ )
แล้วก็มีปัญหาเรื่องสภาพคล่องสูงเหมือนกันในตัวหุ้น CHINA TDEX ถึงแม้ว่าตอนนี้สำหรับผมอาจจะไม่มากมายเท่าไหร่
แต่ถ้าตลาด Crash ขึ้นมา ... ขายไม่ทันแน่ๆ 555+
จึงอยากจะศึกษา กองทุน ที่จะสามารถทะยอยซื้อเดือนละเล็กละน้อยได้หน่ะครับ
จะเห็นว่าผลตอบแทนกลับไม่เท่ากัน แสดงถึง performance of fund manager.
กองทุนทหารไทย ค่าธรรมเนียมน้อยเกือบที่สุด performance ก็ดูไม่ดีสุด
Aberdent จะลบน้อยสุดในปี 2011 แต่ พอปี 2012 กลับ เป็น บวกไปเป็นอันดับ 6 จาก 14
สำหรับ CHINA ที่อยู่ใน SET ผมก็สนใจในประเด็นของ A share ครับ
ผมเคยได้ยินว่า ตลาด A share ที่เป็น local Market ตกลงไปเยอะมากเทียบกับ H share ที่กองทุนส่วนใหญ่ ลงทุน
Upside /ความเสี่ยงก็มากตามครับ
อย่างไงก็ลองหาข้อมลูมาแชร์กันครับ
อันนี้เพิ่มเต็มครับ
http://link.newfundstoday.com/%E0%B8%9A ... 7-etf.html
http://topicstock.pantip.com/sinthorn/t ... 22319.html
http://www.thaimutualfundnews.com/popup ... icle&id=87
รู้จักกับ ETF จีนกันซักนิดก่อนคิดลงทุนจีน การลงทุนใน Exchange Traded Fund: ETF ถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ของการลงทุนสไตล์ Passive Investment เนื่องจากการลงทุนใน ETF นั้นนักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนที่ใกล้เคียงกับดัชนีที่ ETF นั้นๆ อ้างอิง (Underlying Index) ดังนั้นก่อนจะลงทุนใน ETF นักลงทุนต้องสำรวจก่อนว่า ETF นั้นลงทุนโดยอ้างอิงกับผลตอบแทนของดัชนีอะไรเช่น การลงทุนในTDEX (ทีเด็กซ์) เป็น ETF ที่อ้างอิงผลตอบแทนของดัชนี SET50 หรือ TFTSE (ทีฟุตซี่) เป็น ETF ที่อ้างอิงผลตอบแทนของดัชนี FTSE SET Large Cap เป็นต้น ปัจจุบันมีนักลงทุนให้ความสนใจในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศจีนค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าประเทศจีนนั้นมีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ดี โดย GDP ของจีนในไตรมาสแรกนั้น เติบโตถึง 11.9% ส่วนไตรมาสสองก็สามารถเติบโตได้ 10.3% นอกจากนั้นด้วยศักยภาพของประเทศจีนก็เป็นสิ่งที่ทำให้นักลงทุนหลาย ๆ ท่านอยากที่จะลงทุนในตลาดหุ้นจีนกัน แต่การที่จะลงทุนในตลาดหุ้นจีนก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิดเนื่องจากนักลงทุนสามารถลงทุนผ่าน ETF ที่อ้างอิงดัชนีของตลาดหุ้นจีนได้ โดยส่วนใหญ่แล้วหลาย ๆ บลจ.ในประเทศไทยนั้นเลือกลงทุนใน ดัชนีที่ชื่อว่า Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI) วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ ETF ของดัชนีตัวนี้กัน Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI) หรือ H-Share Index เริ่มดัชนีครั้งแรกเมื่อวันที่ 8 ส.ค. 1994 ซึ่งเป็นดัชนีที่อ้างอิงผลตอบแทนของบริษัทจีนที่ไปจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ของฮ่องกง ดัชนี HSCEI นั้นใช้วิธีการคัดเลือกโดยวิธี Free Float-Adjusted และ Market Cap-Adjusted ในแง่ของ Free Float-Adjusted นั้น จะคำนึงถึงหุ้นที่สามารถลงทุนได้จริง ๆ ส่วน Market Cap-Adjusted นั้นจะคำนวณให้น้ำหนักหุ้นแต่ละตัวของดัชนีไม่เกิน 15% ทั้งนี้ดัชนีจะทำการ Review ทุก ๆ ครึ่งปี ปัจจุบันดัชนี HSCEI มีหุ้นอยู่ 40 หลักทรัพย์ (ข้อมูล ณ มิ.ย. 2010) ในส่วนของ ETF ที่อ้างอิงกับดัชนีนี้มีชื่อว่า Hang Seng H-Share Index ETF (H-Share ETF) ETF ดังกล่าวสามารถซื้อขายได้ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง ซึ่งซื้อขายกันเป็นสกุล HKD H-Share ETF จดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2003 และทำการซื้อขายวันแรกเมื่อวันที่ 10 ธ.ค.2003 ที่ตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีบริษัท Hang Seng Investment เป็นบริษัทจัดการ ลักษณะการบริหารจัดการของ ETF ดังกล่าวจะทำการสร้างผลตอบแทนของกองทุนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Hang Seng China Enterprises Index (H-Share Index) ก่อนหักค่าใช้จ่าย นักลงทุนที่ลงทุนใน ETF ไม่ว่าจะเป็น H-Share ETF หรือ ETF อื่น ๆ ต้องตระหนักไว้ว่าวัตถุประสงค์หลักของการบริหารจัดการ ETF คือการสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี (Passive Investment) ตามปกติแล้วการลงทุนที่เน้นผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีจะมีวิธีการบริหารจัดการทั่ว ๆ ไปอยู่ 2 แบบคือ Replication Strategy และ Representative Sampling Strategy Replication Strategy คือ การสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีโดยใช้วิธีการลงทุนในหุ้นทุกตัวของดัชนีที่อ้างอิงตามน้ำหนักของหุ้น อย่างเช่น TDEX ที่อ้างอิงดัชนี SET50 ลงทุนในหุ้นทั้ง 50 หลักทัรพย์ และเมื่อมีการ Review ดัชนีก็จะมีการปรับพอร์ตเช่นเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมานักลงทุนจะเห็นว่า SET50 มีการเปลี่ยนแปลงโดย ปรับเอาหลักทรัพย์5 หลักทรัพย์ออกเช่น BECL, MCOT, SCIB, TPC, และ TSTH และเพิ่ม BLA, HMPRO, IVL, TISCO, และ TPIPL เข้าไปแทน Representative Sampling Strategy คือ การสร้างผลตอบแทนอ้างอิงดัชนีโดยอาจจะเลือกหลักทรัพย์เพียงบางตัวเพื่อเป็นตัวแทนของดัชนีนั้น ๆ ในกรณีที่ ETF ใช้วิธีนี้ในการสร้างผลตอบแทน บางครั้งอาจจะมีความเสี่ยงที่ ETF จะไม่สามารถสร้างผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนี (เนื่องจากไม่ได้ลงทุนในหุ้นทุก ๆ หลักทรัพย์เหมือนกับดัชนี) นักลงทุนอาจจะมีคำถามว่าแล้ว H-Share ETF ใช้วิธีอะไร สำหรับ H-Share ETF นั้นโดยพื้นฐานแล้วจะใช้วิธีแบบแรกคือ Replication Strategy แต่โดยโครงการของกองทุนที่ระบุเอาไว้ก็ไม่ได้ปิดประตูว่าจะใช้วิธี Replication Strategy เพียงอย่างเดียว ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าวิธีไหนจะมีประสิทธิภาพมากกว่ากัน จากที่ได้กล่าวมาตั้งแต่ต้นจะสังเกตได้ว่านักลงทุนที่เลือกลงทุนใน ETF นั้น แตกต่างกับการเลือกลงทุนในกองทุนแบบ Active Fund ตามปกติ โดยส่วนใหญ่นักลงทุนมักจะเลือกลงทุนในกองทุนโดยพิจารณาจากผลตอบแทนย้อนหลังว่าทำได้ดีแค่ไหนเมื่อเทียบกับดัชนีที่อ้างอิง (Benchmark) แต่ถ้านักลงทุนเลือกลงทุนในกองทุนที่เป็น ETF นั้นสิ่งที่นักลงทุนต้องตระหนักก็คือการปรับตัวขึ้นหรือลงของผลตอบแทนจะไม่ได้อยู่ที่ว่าผู้จัดการกองทุนคนนั้นเก่งแค่ไหน แต่อยู่ที่ผลตอบแทนที่อ้างอิงต่างหาก ดังนั้นสิ่งที่ต้องพิจารณาก่อนลงทุนจะเป็นเรื่องของ Fundamental Analysis หรือการวิเคราะห์ในปัจจัยพื้นฐานว่าเหมาะสมที่จะลงทุนในดัชนีของประเทศนั้น ๆ อย่างเช่น H-Share ETF เป็น ETF ที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนี Hang Seng China Enterprise Index (HSCEI) ถ้านักลงทุนเห็นว่าดัชนีของ HSCEI น่าลงทุนเมื่อไหร่ก็สามารถลงทุนได้
-
- Verified User
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 9
จากที่อ่านดูเหมือนว่า A share จะน่าสนใจกว่า ในแง่เป็นตลาดหลัก และมีการกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายกว่า H share
และราคายังถูกกว่า H share
รบกวนสอบถามเพิ่มเติม ว่ามีกองทุนไหนบ้างครับที่ลงทุนใน A share
เท่าที่รู้ตอนนี่
กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า
มีที่ไหนอีกไหมครับ
และราคายังถูกกว่า H share
รบกวนสอบถามเพิ่มเติม ว่ามีกองทุนไหนบ้างครับที่ลงทุนใน A share
เท่าที่รู้ตอนนี่
กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า
มีที่ไหนอีกไหมครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 10
ผมยังหาไม่เจอเหมือนกัน ครับ ว่ามีตัวไหนนอกจาก CHINA ของ KTB ที่ลงทุน A-SHARE.thitaphat168 เขียน:จากที่อ่านดูเหมือนว่า A share จะน่าสนใจกว่า ในแง่เป็นตลาดหลัก และมีการกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายกว่า H share
และราคายังถูกกว่า H share
รบกวนสอบถามเพิ่มเติม ว่ามีกองทุนไหนบ้างครับที่ลงทุนใน A share
เท่าที่รู้ตอนนี่
กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า
มีที่ไหนอีกไหมครับ
รู้จักกองทุนก่อนลุยจีน
แม้ว่าในภาวะที่โลกเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจครั้งใหญ่ แต่จีนยังคงเป็น 1 ในประเทศที่เศรษฐกิจยังแข็งแกร่งดังเห็นได้จาก GDP จีนในไตรมาส 3/2552 โตขึ้น 8.9% เกินกว่าที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้
เราจึงมองจีนยังเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน แต่ด้วยข้อจำกัดในการลงทุนต่างประเทศ จึงต้องพึ่งกองทุนรวมที่ลงทุนในหุ้นจีนเป็นสื่อกลางในการลงทุน ทั้งนี้กองทุนจีนแต่ละกองมีข้อจำกัดและการลงทุนที่แตกต่างกันออกไป ก่อนจะตัดสินใจลงทุนเราจึงควรทำความเข้าใจ รู้จักกองทุนรวมจีนให้ดีเสียก่อน
รู้จักหุ้นจีน A, B, H Shares คืออะไร
หลายคนยังสงสัยเมื่อได้ยิน A Shares, B Shares และ H Shares หรือแม้แต่หุ้น Red Chips ว่าคืออะไร? ซึ่งคำตอบเราได้เตรียม ไว้ดังจะเห็นได้จากตาราง ทั้งนี้ตลาดในประเทศจีนแบ่งเป็น 2 ตลาดใหญ่ๆ ด้วยกัน คือ ตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้ และ ตลาดหลักทรัพย์เสิ่นเจิ้น ซึ่งทั้งสองตลาดจะเป็นตลาดที่ทำการ ซื้อขาย A Share (หุ้นจีนสำหรับนักลงทุนจีนโดยซื้อขายกันในสกุลเงินหยวน และมีโควตาสำหรับนักลงทุนต่างชาติ) และ B Share (หุ้นจีนที่ซื้อขายในสกุลเงินเหรียญสหรัฐสำหรับนักลงทุนต่างชาติ) ส่วน H Share นั้นจะเป็นหุ้นจีนที่ทำการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในฮ่องกงสำหรับนักลงทุนต่างชาติ และซื้อขายกันในสกุลเงินเหรียญฮ่องกง
สำหรับหุ้น Red Chips เป็นหุ้นของบริษัทที่ส่วนใหญ่อยู่ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลจีน จดทะเบียนในตลาดฮ่องกง และซื้อขายในสกุลเงินเหรียญฮ่องกง
ลักษณะที่แตกต่างกันของกองทุนจีนในตลาด
ปัจจุบันกองทุนจีนมีอยู่ด้วยกัน 5 กองทุน และอีก 1 กองใหม่ K-CHINA ที่ทำ IPO ไปเมื่อปลายเดือนต.ค. 2552 โดยทั้งหมดเป็นกองทุนในลักษณะ Feeder Funds แต่กอง Master Fund ที่ไปลงทุนจะมีความแตกต่างกัน โดยเราจะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม ด้วยกันคือ
1) กองทุนที่ลงทุนใน ETF ซึ่งมีลักษณะเป็น Passive Fund (บริหารกองทุนให้ผลตอบแทนออกมาใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง) ในกลุ่มนี้มีเพียงกองทุน TMBCHEQ ซึ่งลงทุนใน iShares FTSE/Xinhua A50 เป็น ETF โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนให้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี FTSE/Xinhua China A50 ที่ประกอบไปด้วยบริษัทเอกชนขนาดใหญ่ประเภท A Shares จำนวน 50 ตัว ที่จดทะเบียนในตลาดเซี่ยงไฮ้และเสิ่นเจิ้น ทั้งนี้ Master Fund ของ TMBCHEQ ไม่ได้ทำการลงทุนในหุ้น A Shares โดยตรง แต่จะลงทุนใน CAAPs (China A share Access Products) ซึ่งเป็นตราสารอนุพันธ์ที่อ้างอิงกับหุ้น A Shares 1 ตัว หรือ Index ที่ประกอบอยู่ในดัชนี FTSE/Xinhua China A50 ต่างกับกองทุนอีก 2 ประเภท ถัดไปที่มีรูปแบบการบริหารกองทุนของ Master Fund เป็นแบบ Active Fund (เป็นกองทุนที่เน้นบริหารกองทุนให้ผลตอบแทนออกมาดีกว่าผลตอบแทนของดัชนีอ้างอิง) และส่วนใหญ่ลงทุนในหุ้นประเภท H Shares
2) กองทุน Greater China
กองทุนจีนบางกองทุนจะหมายรวมไต้หวันและฮ่องกงเข้าเป็น ส่วนหนึ่งของจีนด้วย รวมเป็น Greater China กองทุนลักษณะนี้ ได้แก่ ING Greater China (INGGC), MS-CHINAVALUE และ UOB Smart Greater China (UOBSGC) โดยการวิเคราะห์ เชิงปริมาณด้วยข้อมูลที่มีอยู่ ณ วันที่ 15 ต.ค. 2552 (ข้อมูล บางกองอย่าง INGGC ยังไม่เพียงพอต่อการวิเคราะห์) เราเลือก MS-CHINAVALUE เป็น Top-Pick ในกลุ่มนี้ โดยนโยบาย การคัดเลือกหุ้นเป็นแบบ Bottom-Up เน้นหุ้น Value Stock ที่มีพื้นฐานดี เหมาะกับการลงทุนระยะยาว ล่าสุด (ณ เดือนก.ย. 2552) มีการปรับลดการลงทุนในกลุ่ม Telecommunication และ Utilities และเพิ่มการลงทุนในกลุ่ม Consumer Goods มากขึ้น อย่างไรก็ตามกองนี้จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมขายหากถือหน่วยลงทุนไม่ถึง 2 ปี
3) กองทุนหลักลงทุนในบริษัทที่มีรายได้หลักมาจากประเทศจีน
กองทุนประเภทนี้จะไม่สนใจตลาดที่บริษัทนั้นไปจดทะเบียน แต่จะคำนึงถึงรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทจะต้องมาจากประเทศจีนเป็นหลัก ซึ่งประกอบด้วย Aberdeen China Gateway Fund (ABCG) และกองทุนที่เพิ่งเปิดตัวไปอย่าง K-CHINA แม้ว่านโยบายการลงทุนจะเป็นแบบ Bottom-Up Approach เหมือนกัน แต่ลักษณะหุ้นที่ลงทุนของทั้งสองกองลงทุนนั้นกลับมีความแตกต่างกันมาก โดย ABCG จะเน้นการลงทุนในบริษัทฮ่องกงที่มีรายได้หลักมาจากจีน และต้องเป็นบริษัทที่แข็งแกร่งทั้งในด้านฐานะทางการเงินและธุรกิจ ในขณะที่ K-CHINA จะเน้นลงทุนในหุ้น H Share เป็นหลัก โดยจะเน้นลงทุนในบริษัทที่มีศักยภาพในการเติบโต นอกจากนี้ K-CHINA ยังมีนโยบายจ่ายปันผล และทำการป้องกันความเสี่ยงค่าเงินไม่น้อยกว่า 75% ของมูลค่าเงินลงทุนในต่างประเทศ
การลงทุนในกองทุนจีนถือว่าเป็นการลงทุนที่เน้นลงทุนในประเทศเดียว หรือกลุ่มประเทศที่คล้ายคลึงกัน นักลงทุนจึงควรคำนึงในแง่ของการกระจายความเสี่ยงในเชิงภูมิศาสตร์ด้วย ไม่ควรที่จะลงทุนแต่เฉพาะกองทุนจีนเพียงอย่างเดียวในพอร์ตการลงทุน และเนื่องจากเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ นักลงทุนควรทำความเข้าใจเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนด้วยเช่นกัน
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 11
อันนี่thitaphat168 เขียน:จากที่อ่านดูเหมือนว่า A share จะน่าสนใจกว่า ในแง่เป็นตลาดหลัก และมีการกระจายการลงทุนในอุตสาหกรรมที่หลากหลายกว่า H share
และราคายังถูกกว่า H share
รบกวนสอบถามเพิ่มเติม ว่ามีกองทุนไหนบ้างครับที่ลงทุนใน A share
เท่าที่รู้ตอนนี่
กองทุนเปิดดับเบิลยูไอเอสอี เคแทม ซีเอสไอ 300 ไชน่า
มีที่ไหนอีกไหมครับ
Tisco ให้ความเห็นว่า H-Share ดีกว่า ครับ
ทิสโก้แนะเพิ่มพอร์ตลงทุนหุ้นจีน หลังเศรษฐกิจเติบโตโดดเด่น พร้อมส่ง "ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8%" ตั้งเป้าทำกำไร 8%
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและที่ปรึกษาการลงทุน ธุรกิจกองทุนส่วนบุคคลและกองทุนรวม บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทิสโก้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2556 การลงทุนในตลาดหุ้นยังเป็นทางเลือกแรกที่น่าสนใจลงทุน เพื่อเพิ่มผลตอบแทน โดยตลาดหุ้นที่แนะนำให้ลงทุน คือ ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ยกเว้นญี่ปุ่น (Asia Pacific ex. Japan) ซึ่งมีเศรษฐกิจที่เติบโตสูงสุดทั้งในอดีตที่ผ่านมา และคาดว่าจะมีการเติบโตต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อย 2 ปีนับจากปัจจุบัน
โดยจีนเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุด เนื่องจากเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยประเด็นสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจจีนในปีนี้ คือ การเปลี่ยนถ่ายผู้นำของจีนที่จะเสร็จสิ้นในเดือน มี.ค. ซึ่งโดยปกติเมื่อจีนมีการเปลี่ยนถ่ายผู้นำ เศรษฐกิจมักจะมีการขยายตัวสูงขึ้น โดยปัจจัยขับเคลื่อนหลัก มาจากการลงทุนของภาครัฐบาล ซึ่งเป็นนโยบายแรกที่ทางการจีนสามารถทำได้ สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการเน้นการก่อสร้างสาธารณูปโภค เช่น การสร้างรถไฟทั่วประเทศ ส่งผลให้ความเจริญทางเศรษฐกิจจีนขยายไปทางตะวันตกมากขึ้น ทำให้รายได้ของประชาชนสูงขึ้น และการจับจ่ายใช้สอยสูงขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ คาดว่าภาคการเงินของจีนก็มีแนวโน้มได้รับการกระตุ้นเช่นเดียวกัน หลังจากที่อัตราเงินเฟ้อของจีนไม่เป็นปัญหาอย่างเช่นอดีตที่ผ่านมา ทำให้การที่ทางการจีนจะหามาตรการเพื่อผ่อนคลายทางการเงิน เช่น การปรับลด Reserve Requirement Ratio จากปัจจุบันอยู่ที่ 18% ซึ่งยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าระดับสูงสุดของปีที่ 17.5% รวมทั้ง ยังคงเป็นระดับที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยที่ในอดีตที่ผ่านมา และเมื่อทางการจีนผ่อนคลายนโยบายทางการเงิน คาดว่าจะส่งผลให้ปริมาณเงินในระบบ มีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลดีต่อการลงทุนในตลาดหุ้น
ทั้งนี้ จะเห็นได้จาก ตลาดหุ้นจีนได้ปรับตัวขึ้นและเป็นตลาดที่ให้ผลตอบแทนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมา และคาดว่าตลาดหุ้นจีนยังคงมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ เนื่องจากปัจจุบันมีเม็ดเงินไหลเข้าตลาดหุ้นจีนอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งราคาหุ้นจีน ยังคงถือว่าถูกเมื่อเทียบกับประเทศในกลุ่มกำลังพัฒนาด้วยกัน ทั้ง ๆ ที่ความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจจีนเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ดังนั้น คาดว่าตลาดหุ้นจีนยังคงเป็นเป้าหมายต้น ๆ สำหรับการลงทุนของนักลงทุนในปีนี้
ทิสโก้เวลธ์ แนะนำการลงทุนในตลาดหุ้นจีนที่จดเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (H-Shares) มากกว่าการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ของประเทศจีนแผ่นดินใหญ่ (A-Shares) เนื่องจาก ตลาดหุ้น H-Shares จะได้ประโยชน์จากสภาพคล่องที่ล้นระบบมากกว่ากว่า A-Shares เนื่องจากการที่นักลงทุนต่างชาติเข้าไปลงทุนทำได้ง่ายกว่า ส่งผลให้ ในปี 2555 ที่ผ่านมา ตลาด H-Shares จึง Outperform ตลาด A-Shares นอกจากนี้ ตลาดหุ้น H-Shares เป็นตลาดที่มีความสัมพันธ์กับตลาดหุ้นต่างประเทศสูงกว่า ทำให้ ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกได้ดีกว่า A-Sharesนายสาห์รัช กล่าวว่า ด้วยความโดดเด่นของตลาดหุ้นจีน บลจ.ทิสโก้ จึงได้เปิดเสนอขาย “กองทุนเปิด ทิสโก้ ไชน่า ทริกเกอร์ 8% # 6” (TISCO China Trigger 8% Fund # 6) กองทาร์เก็ตฟันด์ลงทุนในหุ้นจีน โดยจะลงทุนผ่านกองทุนอีทีเอฟต่างประเทศ ได้แก่ กองทุน Hang Seng H-Share Index ETF ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง โดยมีนโยบายการลงทุนในตราสารทุนเพื่อให้ได้รับผลตอบแทนใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนี Hang Seng China Enterprise (HSCEI) หรือ H-Shares โดยมีอายุโครงการประมาณ 8 เดือน หรือสามารถเลิกโครงการก่อนครบกำหนดอายุโครงการ หากสามารถสร้างผลตอบแทนได้ถึง 8% มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท เปิดเสนอขายเพียงครั้งเดียว ตั้งแต่ 4 – 14 ม.ค. 56 มูลค่าจองซื้อขั้นต่ำ 5,000 บาท
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... B8%99.html
-
- Verified User
- โพสต์: 68
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 12
ตัวหุ้น CHINA ที่อยู่ในset นี่จะมีความเสี่ยงไหมครับถ้าตลาดไทยcrash หุ้นCHINAจะลงด้วยไหมครับ หรือแยกคนละส่วนกัน
เพราะ ที่มาหากองทุนจีนเพื่อจะหลบsetที่กำลังร้อนแรง กลัวหลบไม่พ้น
เพราะ ที่มาหากองทุนจีนเพื่อจะหลบsetที่กำลังร้อนแรง กลัวหลบไม่พ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 128
- ผู้ติดตาม: 0
Re: China การลงทุนในกองทุนประเทศจีน
โพสต์ที่ 13
ตามความเข้า China ถือ ETF ที่เป็น A-Share ถ้าตลาดไทยมีปัญหา ก็ไม่น่ากระทบโดยตรง แต่ทางอ้อม economy มาlink ถึงกันหมดคงมีกระทบบ้าง ไม่มากก็น้อย ตลาดจีนนี่ Turn around แล้วแต่จะเร็วจะช้าต้องดู รัฐบาลใหม่คร้บว่าเค้าเอาอยู่ไหมthitaphat168 เขียน:ตัวหุ้น CHINA ที่อยู่ในset นี่จะมีความเสี่ยงไหมครับถ้าตลาดไทยcrash หุ้นCHINAจะลงด้วยไหมครับ หรือแยกคนละส่วนกัน
เพราะ ที่มาหากองทุนจีนเพื่อจะหลบsetที่กำลังร้อนแรง กลัวหลบไม่พ้น
คงต้องเอาใจช่วยเค้า ครับ รัฐบาลใหม่น่าจะแสดงฝีมือเต็มที่นะ เพราะ ช่วงที่ผ่านมา ไม่ได้รับอำนาจเต็มที่ ยังมีรุ่นเก่า กั๊กไว้