ถามเรื่อง"อย่างว่า"
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 38
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 1
มีเพื่อนทำโรงไฟฟ้าขนาด 70 mw เพื่อใช้ในนิคม สร้างมาสองปีแล้ว
ไปขอ อนุญาตใช้โดน "อย่างว่า" m ละสองล้านบาท
เลยอยากทราบว่า ทางบัญชีจะซุกไว้ตรงไหน อ.วรศักดิ์ เคยบอกให้ดูที่
"ค่าที่ปรึกษา" หรือ ตั้งบ.ลูกที่อยู่นอกตลาดแล้วผ่องถ่ายไปให้
เรียนถามผู้รู้หรือผู้ตรวจสอบ ถ้าไม่มีทั้งสองค่านี้ในงบ จะดูที่ไหนครับ
อย่าบอกว่าเจ้าของจ่ายเองนะ ผมจะไม่เชื่อ...
ไปขอ อนุญาตใช้โดน "อย่างว่า" m ละสองล้านบาท
เลยอยากทราบว่า ทางบัญชีจะซุกไว้ตรงไหน อ.วรศักดิ์ เคยบอกให้ดูที่
"ค่าที่ปรึกษา" หรือ ตั้งบ.ลูกที่อยู่นอกตลาดแล้วผ่องถ่ายไปให้
เรียนถามผู้รู้หรือผู้ตรวจสอบ ถ้าไม่มีทั้งสองค่านี้ในงบ จะดูที่ไหนครับ
อย่าบอกว่าเจ้าของจ่ายเองนะ ผมจะไม่เชื่อ...
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 3
วิธีจ่ายแบบเนียนที่สุดคือการจ่ายผ่านผู้รับเหมาก่อสร้างครับ
วิธีนี้จะทำให้ค่าก่อสร้างสูงขึ้นเล็กน้อย มองผ่านๆจะไม่สังเกตุเลย เพราะจะบวกเข้าไปในค่าก่อสร้างเลย
โรงไฟฟ้า70MW เฉพาะค่าก่อสร้างก็น่าจะราวๆ1,400-1,500ล้านบาท
จ่ายอย่างว่าไปก็ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีกแค่10% ตรวจยังไงก็ไม่เจอ
แต่กรณีนี้เพื่อนคุณคงเป็นมือใหม่เลยโดนหนักหน่อย
ถ้ามืออาชีพจริงไม่โดนมากเท่านี้หรอกครับ ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
ยังไงภาครัฐก็มีหน้าที่ต้องออกใบอนุญาติให้เรา จะไถเอาดื้อๆไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในนิคมอุตฯ
แต่พวกที่อยู่นอกนิคมนี่โดนแน่ๆครับ
วิธีนี้จะทำให้ค่าก่อสร้างสูงขึ้นเล็กน้อย มองผ่านๆจะไม่สังเกตุเลย เพราะจะบวกเข้าไปในค่าก่อสร้างเลย
โรงไฟฟ้า70MW เฉพาะค่าก่อสร้างก็น่าจะราวๆ1,400-1,500ล้านบาท
จ่ายอย่างว่าไปก็ทำให้ต้นทุนก่อสร้างเพิ่มขึ้นอีกแค่10% ตรวจยังไงก็ไม่เจอ
แต่กรณีนี้เพื่อนคุณคงเป็นมือใหม่เลยโดนหนักหน่อย
ถ้ามืออาชีพจริงไม่โดนมากเท่านี้หรอกครับ ถ้าเราทำทุกอย่างถูกต้องตามกฏหมาย
ยังไงภาครัฐก็มีหน้าที่ต้องออกใบอนุญาติให้เรา จะไถเอาดื้อๆไม่ได้ โดยเฉพาะถ้าอยู่ในนิคมอุตฯ
แต่พวกที่อยู่นอกนิคมนี่โดนแน่ๆครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 4
ว่าแต่เมื่อก่อนยังจ่ายกันแค่MWละล้าน เดี๋ยวนี้ขึ้นเป็นสองล้านแล้วหรอ
ค่าแรง300บาทนี่กระทบทุกฝ่ายจริงๆ 555
ค่าแรง300บาทนี่กระทบทุกฝ่ายจริงๆ 555
- canuseeme
- Verified User
- โพสต์: 302
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 5
ขอบพระคุณ สำหรับ ข้อมูล ครับ เปิด กะโหลกดีแท้
มี ทั่วทุก ที่ เลย สินะฮะ 555
มี ทั่วทุก ที่ เลย สินะฮะ 555
ปัญญาไม่มีในผู้ไม่พิจารณา
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
There is no fate but what we make
https://www.facebook.com/pages/คัดหุ้นซวย
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 7
เจ้ากระทรวงเค้าคงติดนิสัยมาจากระบบค่ายมวยมั้งครับ เพราะเห็นชอบจัดThai Fight 555
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 8
นี่แค่ค่าแรกเข้ามั้ง
ต่อไป ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายรายปี หรือ ราย 5 ปี
ทุกๆ ครั้งที่มีการต่อใบอนุญาต
บางทีต้องจ่าย OT ให้ด้วย
เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานวันเสาร์
ต่อไป ก็ต้องมีค่าใช้จ่ายรายปี หรือ ราย 5 ปี
ทุกๆ ครั้งที่มีการต่อใบอนุญาต
บางทีต้องจ่าย OT ให้ด้วย
เพราะเจ้าหน้าที่จะทำงานวันเสาร์
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 11
มันอาจจะจริงอยู่ครับอยากได้งานมันต้องทำใจเพราะมันเป็นกันทุกประเทศจะน้อยรึมากแค่นั้นผมว่างั้นไม่น่ามีประเทศที่ไม่มีเลยเพราะมนุษย์มันก็มีกิเลสทุกประเทศ
แต่ความน่ากลัวของบ้านเราคือcorruptionที่เป็นอยู่ มันกำลังกลายเป็นธรรมเนียมหรือวัฒนธรรมไปแล้ว
และเมื่อเป็นเช่นนั้น ประเทศก็จะตกต่ำลง การพัฒนาคนจะทำได้ยากยิ่งขึ้น
ความเจริญแบบยั่งยืนก็จะไม่มีทางเกิดขึ้น
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 38
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 12
ใช่เลยครับ...คนที่คุณคิดนั่นแหละ...เจ้าเพื่อนคนนี้ผมอยู่วศ.08
อยู่ กฝผ.จนเกษียณคุณ power อาจรู้จัก
สรุปเรื่องนี้มีสองวิธีนะครับ ทีนี้สงสัยต่อว่าถ้าจะลงเป็นค่าที่ปรึกษา
ทางผู้สอบเขายอมรับโดยดีหรือครับ
ขอบคุณ คุณ can และ คุณ power ที่แลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
อยู่ กฝผ.จนเกษียณคุณ power อาจรู้จัก
สรุปเรื่องนี้มีสองวิธีนะครับ ทีนี้สงสัยต่อว่าถ้าจะลงเป็นค่าที่ปรึกษา
ทางผู้สอบเขายอมรับโดยดีหรือครับ
ขอบคุณ คุณ can และ คุณ power ที่แลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
-
- Verified User
- โพสต์: 1837
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 13
ถ้ามีสัญญาว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร ระบุรายละเอียดการให้คำปรึกษาและค่าบริการสรุปเรื่องนี้มีสองวิธีนะครับ ทีนี้สงสัยต่อว่าถ้าจะลงเป็นค่าที่ปรึกษา
ทางผู้สอบเขายอมรับโดยดีหรือครับ
ทางผู้สอบก็คงพอรับได้นะครับ
แต่คนรับเงินไม่ได้มาทำสัญญาด้วยนะครับ
คนที่เป็นคนให้คำปรึกษา จะเป็นคนไปจ่ายต่ออีกทอดนึง
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 845
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 14
ที่ผมเคยเจอ ไม่ได้จ่ายไปที่บุคคลตรงๆครับ เค้าใช้วิธีจ่ายไปที่บริษัทหนึ่ง และบริษัทนั้นตกลงจะ "เคลียร์ให้" และก็ทำเป็นสัญญาขึ้นมาว่าจะให้บริการด้านกฎหมายนู่นนั่นนี่ครับ ผู้สอบก็พอรับได้ครับ บางอย่างก็ทำอะไรไม่ได้ - -"jaeger_04 เขียน:ใช่เลยครับ...คนที่คุณคิดนั่นแหละ...เจ้าเพื่อนคนนี้ผมอยู่วศ.08
อยู่ กฝผ.จนเกษียณคุณ power อาจรู้จัก
สรุปเรื่องนี้มีสองวิธีนะครับ ทีนี้สงสัยต่อว่าถ้าจะลงเป็นค่าที่ปรึกษา
ทางผู้สอบเขายอมรับโดยดีหรือครับ
ขอบคุณ คุณ can และ คุณ power ที่แลกเปลี่ยนความรู้กันนะครับ
all i need is Zero
-
- Verified User
- โพสต์: 55
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 15
ต้องใช้ลังส้มใส่ไปนะครับ จะมีการกำหนดขนาดของลังส้มว่าขนาดไหนครับ
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 14
- ผู้ติดตาม: 0
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 16
ขออนุญาตนอกเรื่องครับ
อ่านรอบแรกแล้วงง โรงไฟฟ้าบ้าอะไรผลิตกระแสไฟฟ้า 70 milliWatt อ่านที่ท่านอื่นมาตอบแล้วพึ่งกระจ่างว่ากำลังผลิต 70 MegaWatt แหะแหะ
ขออภัยที่มาโฟกัสเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ พอดีจบวิทยาศาสตร์
อ่านรอบแรกแล้วงง โรงไฟฟ้าบ้าอะไรผลิตกระแสไฟฟ้า 70 milliWatt อ่านที่ท่านอื่นมาตอบแล้วพึ่งกระจ่างว่ากำลังผลิต 70 MegaWatt แหะแหะ
ขออภัยที่มาโฟกัสเรื่องหยุมหยิมพวกนี้ พอดีจบวิทยาศาสตร์
-
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 4254
- ผู้ติดตาม: 1
Re: ถามเรื่อง"อย่างว่า"
โพสต์ที่ 18
ผลสำรวจม.หอการค้าไทย ชึ้สถานการณ์คอร์รัปชันไทยยังน่าห่วง แม้ดัชนีปรับตัวดีขึ้น แต่ยังต้องจ่ายใต้โต๊ะ มากกว่า 25% ของรายรับ
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ความรุนแรงของปัญหาคอร์รัปชันยังมีอยู่มาก และน่าจะรุนแรงมากขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลกำลังจะใช้กับโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร งบบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และปรับโครงสร้างอนาคตประเทศไทย 2 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้ารัฐบาลดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส ก็อาจเกิดการคอร์รัปชันได้มาก แม้จากผลสำรวจพบว่า การตระหนักรู้ถึงปัญหาคอร์รัปชัน การสร้างจิตสำนึก และความพยายามในการแก้ปัญหาจะดีขึ้น
"จากตัวเลขดัชนีคอร์รัปชัน ที่แม้จะดีขึ้นกว่าการสำรวจครั้งก่อน แต่ยังถือว่า สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และไทยยังสอบตก เพราะทุกดัชนีได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง หรือไม่ถึง 5 คะแนน โดยเฉพาะดัชนีความรุนแรงของปัญหาคอร์รัปชัน ที่ยังต่ำมากเพียง 3.4 คะแนน ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินเสริมสร้างความโปรงใส และรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเราวชนไทยที่จะเป็นอนาคตของชาติ"นายธนวรรธน์กล่าว
ทั้งนี้ดัชนีการปัองกันปัญหา ดัชนีการปราบปรามปัญหา และดัชนีการสร้างจิตสำนึก สูงได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่ามิถุนายน 2555 จาก 4, 3.7, และ 3.2 มาอยู่ที่ 4.1, 4.3 และ 4.4 คะแนนในเดือนธันวาคม นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Thai Corrption Situtaion Index: CSI) จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ 2,400 ตัวอย่าง ในเดือนธ.ค.55 ว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยโดยรวมอยู่ที่ 3.9 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.5 คะแนนในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนมิ.ย.55 ส่วนดัชนีสถานการณ์ในปัจจุบัน อยู่ที่ 3.8 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.2 คะแนน และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์ อยู่ที่ 4.2 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.7 คะแนน โดย 0 คะแนนหมายถึงมีการคอร์รัปชันรุนแรงที่สุด และ 10 คะแนนหมายถึงไม่มีการคอร์รัปชัน
ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นกลุ่มของผู้ตอบ ในดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน โดยรวมที่ 3.9 คะแนนนั้น กลุ่มข้าราชการให้คะแนนมากสุดที่ 4.2 ตามด้วยกลุ่มประชาชน 3.9 และนักธุรกิจ 3.8 ส่วนดัชนีสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มข้าราชการยังคงให้คะแนนสูงสุดที่ 4.1 ตามด้วยกลุ่มประชาชน ที่ 3.8 และกลุ่มนักธุรกิจที่ 3.7 ขณะที่ดัชนีแนวโน้มสถานการณ์ กลุ่มข้าราชการให้คะแนนมากสุดที่ 4.4 ส่วนกลุ่มประชาชน และภาคเอกชนให้เท่ากันที่ 4.1 หมายความว่า กลุ่มข้าราชการมองปัญหาคอร์รัปชัน ทั้งในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตดีขึ้นกว่ากลุ่มภาคเอกชน และประชาชน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐมากถึง 76.9% ระบุว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษแก่ข้าราชการ/นักการเมืองที่ทุจริตเพื่อให้ได้สัญญา มีเพียง 7% เท่านั้นที่ไม่จ่าย ส่วนอีก 15.4% ตอบไม่ทราบ โดยกลุ่มที่ต้องจ่ายเงินพิเศษนั้น ส่วนใหญ่ถึง 38.5% ระบุปีนี้จ่ายมากกว่า 25% ของรายรับ ซึ่งลดลงจากปี 55 ที่มีสัดส่วนผู้ตอบถึง 39.7% ที่จ่ายมากกว่า 25% ขณะที่อีก 26.7% ระบุจ่ายที่ 16-25% ของรายรับ ส่วนอีก 16.1% ระบุจ่ายที่ 11-15% อีก 13.3% ระบุจ่ายที่ 6-10% และมีเพียง 5.4% เท่านั้นที่จ่ายเพียง 1-5%
โดยเมื่อประเมินวงเงินคอร์รัปชันจากงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 56 ที่มีเม็ดเงินรวม 942,608 ล้านบาทแล้ว หากผู้ประกอบการที่ระบุว่าจ่ายเงินพิเศษที่ 25% จะคิดเป็นเม็ดเงินที่ประเทศต้องเสียหายจากการคอร์รัปชันสูงถึง 235,652 ล้านบาท คิดเป็น 9.82%ของงบประมาณรายจ่ายที่ 2.40 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 1.88% ต่อจีดีพี ที่มีมูลค่า 12.544 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีเม็ดเงินจากการคอร์รัปชัน 210.035.8 ล้านบาท คิดเป็น 8.83% ของงบประมาณรายจ่ายที่ 2.38 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 1.81% ต่อจีดีพีที่มีมูลค่า 11.57 ล้านล้านบาท แต่หากในปีนี้ ผู้ประกอบการต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 30% จะคิดเป็นเม็ดเงินจากการคอร์รัปชันสูงถึง 282,782.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.78% ของงบประมาณรายจ่าย และ 2.25% ต่อจีดีพี และหากต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 35% จะคิดเป็นเม็ดเงินจากการคอร์รัปชันที่ 329,912.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.75% ของงบประมาณรายจ่าย และคิดเป็น 2.63% ต่อจีดีพี
นอกจากนี้ นายอุทิศ บัวศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่าป.ป.ช.และศูนย์วิจัยหอการค้าไทย จะร่วมกันจัดทำดัชนีวัดความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment Index: ITA) เพื่อใช้ประเมินความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นระบบ โดยคาดจะเริ่มเผยแผ่ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ และนำร่องที่ 8 หน่วยงานคือ กรมศุลกากร กรมทางหลวง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ตำรวจภูธรนนทบุรีและปทุมธานี การท่าเรือแห่งประเทศไทย และการเคหะแห่งชาติ
=
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... ายรับ.html
นายธนวรรธน์ พลวิชัย ผู้อำนวยการศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย กล่าวว่า ความรุนแรงของปัญหาคอร์รัปชันยังมีอยู่มาก และน่าจะรุนแรงมากขึ้นอีก โดยเฉพาะในช่วงที่รัฐบาลกำลังจะใช้กับโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร งบบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และปรับโครงสร้างอนาคตประเทศไทย 2 ล้านล้านบาท ซึ่งถ้ารัฐบาลดำเนินการอย่างไม่โปร่งใส ก็อาจเกิดการคอร์รัปชันได้มาก แม้จากผลสำรวจพบว่า การตระหนักรู้ถึงปัญหาคอร์รัปชัน การสร้างจิตสำนึก และความพยายามในการแก้ปัญหาจะดีขึ้น
"จากตัวเลขดัชนีคอร์รัปชัน ที่แม้จะดีขึ้นกว่าการสำรวจครั้งก่อน แต่ยังถือว่า สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น และไทยยังสอบตก เพราะทุกดัชนีได้คะแนนไม่ถึงครึ่ง หรือไม่ถึง 5 คะแนน โดยเฉพาะดัชนีความรุนแรงของปัญหาคอร์รัปชัน ที่ยังต่ำมากเพียง 3.4 คะแนน ซึ่งรัฐบาลต้องเร่งดำเนินเสริมสร้างความโปรงใส และรณรงค์สร้างจิตสำนึกให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเราวชนไทยที่จะเป็นอนาคตของชาติ"นายธนวรรธน์กล่าว
ทั้งนี้ดัชนีการปัองกันปัญหา ดัชนีการปราบปรามปัญหา และดัชนีการสร้างจิตสำนึก สูงได้ปรับตัวสูงขึ้นกว่ามิถุนายน 2555 จาก 4, 3.7, และ 3.2 มาอยู่ที่ 4.1, 4.3 และ 4.4 คะแนนในเดือนธันวาคม นางเสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยถึงดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย (Thai Corrption Situtaion Index: CSI) จากการสำรวจกลุ่มตัวอย่างทั่วประเทศ ทั้งประชาชน ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ 2,400 ตัวอย่าง ในเดือนธ.ค.55 ว่า ดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทยโดยรวมอยู่ที่ 3.9 คะแนน จากเต็ม 10 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.5 คะแนนในการสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนมิ.ย.55 ส่วนดัชนีสถานการณ์ในปัจจุบัน อยู่ที่ 3.8 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.2 คะแนน และดัชนีแนวโน้มสถานการณ์ อยู่ที่ 4.2 คะแนน เพิ่มขึ้นจาก 3.7 คะแนน โดย 0 คะแนนหมายถึงมีการคอร์รัปชันรุนแรงที่สุด และ 10 คะแนนหมายถึงไม่มีการคอร์รัปชัน
ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นกลุ่มของผู้ตอบ ในดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชัน โดยรวมที่ 3.9 คะแนนนั้น กลุ่มข้าราชการให้คะแนนมากสุดที่ 4.2 ตามด้วยกลุ่มประชาชน 3.9 และนักธุรกิจ 3.8 ส่วนดัชนีสถานการณ์ปัจจุบัน กลุ่มข้าราชการยังคงให้คะแนนสูงสุดที่ 4.1 ตามด้วยกลุ่มประชาชน ที่ 3.8 และกลุ่มนักธุรกิจที่ 3.7 ขณะที่ดัชนีแนวโน้มสถานการณ์ กลุ่มข้าราชการให้คะแนนมากสุดที่ 4.4 ส่วนกลุ่มประชาชน และภาคเอกชนให้เท่ากันที่ 4.1 หมายความว่า กลุ่มข้าราชการมองปัญหาคอร์รัปชัน ทั้งในปัจจุบัน และแนวโน้มในอนาคตดีขึ้นกว่ากลุ่มภาคเอกชน และประชาชน
นอกจากนี้ ยังพบว่า ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐมากถึง 76.9% ระบุว่าต้องจ่ายเงินเพิ่มพิเศษแก่ข้าราชการ/นักการเมืองที่ทุจริตเพื่อให้ได้สัญญา มีเพียง 7% เท่านั้นที่ไม่จ่าย ส่วนอีก 15.4% ตอบไม่ทราบ โดยกลุ่มที่ต้องจ่ายเงินพิเศษนั้น ส่วนใหญ่ถึง 38.5% ระบุปีนี้จ่ายมากกว่า 25% ของรายรับ ซึ่งลดลงจากปี 55 ที่มีสัดส่วนผู้ตอบถึง 39.7% ที่จ่ายมากกว่า 25% ขณะที่อีก 26.7% ระบุจ่ายที่ 16-25% ของรายรับ ส่วนอีก 16.1% ระบุจ่ายที่ 11-15% อีก 13.3% ระบุจ่ายที่ 6-10% และมีเพียง 5.4% เท่านั้นที่จ่ายเพียง 1-5%
โดยเมื่อประเมินวงเงินคอร์รัปชันจากงบประมาณรายจ่าย ค่าครุภัณฑ์ ที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง รวมถึงงบลงทุนรัฐวิสาหกิจในปี 56 ที่มีเม็ดเงินรวม 942,608 ล้านบาทแล้ว หากผู้ประกอบการที่ระบุว่าจ่ายเงินพิเศษที่ 25% จะคิดเป็นเม็ดเงินที่ประเทศต้องเสียหายจากการคอร์รัปชันสูงถึง 235,652 ล้านบาท คิดเป็น 9.82%ของงบประมาณรายจ่ายที่ 2.40 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 1.88% ต่อจีดีพี ที่มีมูลค่า 12.544 ล้านล้านบาท ซึ่งตัวเลขเหล่านี้เพิ่มขึ้นจากปี 55 ที่มีเม็ดเงินจากการคอร์รัปชัน 210.035.8 ล้านบาท คิดเป็น 8.83% ของงบประมาณรายจ่ายที่ 2.38 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 1.81% ต่อจีดีพีที่มีมูลค่า 11.57 ล้านล้านบาท แต่หากในปีนี้ ผู้ประกอบการต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 30% จะคิดเป็นเม็ดเงินจากการคอร์รัปชันสูงถึง 282,782.4 ล้านบาท หรือคิดเป็น 11.78% ของงบประมาณรายจ่าย และ 2.25% ต่อจีดีพี และหากต้องจ่ายเพิ่มขึ้นเป็น 35% จะคิดเป็นเม็ดเงินจากการคอร์รัปชันที่ 329,912.8 ล้านบาท หรือคิดเป็น 13.75% ของงบประมาณรายจ่าย และคิดเป็น 2.63% ต่อจีดีพี
นอกจากนี้ นายอุทิศ บัวศรี ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวว่าป.ป.ช.และศูนย์วิจัยหอการค้าไทย จะร่วมกันจัดทำดัชนีวัดความโปร่งใสของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment Index: ITA) เพื่อใช้ประเมินความโปร่งใสในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอย่างเป็นระบบ โดยคาดจะเริ่มเผยแผ่ได้ตั้งแต่เดือนตุลาคมปีนี้ และนำร่องที่ 8 หน่วยงานคือ กรมศุลกากร กรมทางหลวง องค์การบริหารส่วนจังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ตำรวจภูธรนนทบุรีและปทุมธานี การท่าเรือแห่งประเทศไทย และการเคหะแห่งชาติ
=
http://www.bangkokbiznews.com/home/deta ... ายรับ.html
// Stay Hungry, Stay Foolish.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.
// Stay Calm, Stay Invest.
// Price is what you pay, Value is what you get.