ถามเรื่อง FCF ครับ
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 1
จากสูตรของ FCF ที่
FCF = Net Earning + D + A - Fixed Asset Investmet - Additional WC
ถ้าบริษัทบริษัทหนึ่งมี
Net Earning เพิ่มทุกปี
D, A อยู่ในระดับคงที่ทุกปี ขึ้นลงเล็กน้อย
FAI มีค่าต่ำกว่า D + A ในทุกปี (ถามว่าเท่ากับบริษัทไม่ได้ลงทุน Fixed Asset เพิ่มใช่ไหมครับ)
และ Additional WC เพิ่มขึ้นทุกปี (ถามว่าจะประเมินอย่างไรว่า Additional WC ที่เพิ่มขึ้นนี้ คุ้มค่าต่อการเพิ่มของ Net Earning)
ปรากฏว่าบริษัทนี้มี FCF ที่มีแนวโน้มลดลงครับ จาก Additional WC ที่เพิ่มมากกว่า Net Earning แต่ Addtional WC เป็นเงินสดครับที่เพิ่มเห็นชัด (ถามว่าผมคิดการเพิ่ม Additonal WC โดยเอา Current Asset - Current Liability ของปีนี้ลบปีที่แล้ว ผิดหรือเปล่าครับ เพราะเห็นว่าเงินสดของบริษัทเพิ่มชัดเจน แต่กลายเป็น FCF ลดครับ)
และถ้าบริษัทนี้นำเงินไปชำระหนี้ระยะยาว คือหนี้ระยะยาวของบริษัทลดลงทุกปี ถามว่าจะนำมูลค่าหนี้ระยะยาวที่ลด ไปคิดร่วมกับตัว FCF อย่างไรครับ
แล้วสุดท้าย FCF นี่มันจะกลายเป็นส่วนไหนของงบดุลล่าสุดล่ะครับ เป็นส่วนหนึ่งของเงินสดที่เพิ่มระหว่างปีดำเนินการหรือครับ มันจะไปพันกับตัว Current Asset ระหว่างคิดหรือเปล่า
ยิ่งถามยิ่งงงงง โอย...
ด้วยความเคารพ
FCF = Net Earning + D + A - Fixed Asset Investmet - Additional WC
ถ้าบริษัทบริษัทหนึ่งมี
Net Earning เพิ่มทุกปี
D, A อยู่ในระดับคงที่ทุกปี ขึ้นลงเล็กน้อย
FAI มีค่าต่ำกว่า D + A ในทุกปี (ถามว่าเท่ากับบริษัทไม่ได้ลงทุน Fixed Asset เพิ่มใช่ไหมครับ)
และ Additional WC เพิ่มขึ้นทุกปี (ถามว่าจะประเมินอย่างไรว่า Additional WC ที่เพิ่มขึ้นนี้ คุ้มค่าต่อการเพิ่มของ Net Earning)
ปรากฏว่าบริษัทนี้มี FCF ที่มีแนวโน้มลดลงครับ จาก Additional WC ที่เพิ่มมากกว่า Net Earning แต่ Addtional WC เป็นเงินสดครับที่เพิ่มเห็นชัด (ถามว่าผมคิดการเพิ่ม Additonal WC โดยเอา Current Asset - Current Liability ของปีนี้ลบปีที่แล้ว ผิดหรือเปล่าครับ เพราะเห็นว่าเงินสดของบริษัทเพิ่มชัดเจน แต่กลายเป็น FCF ลดครับ)
และถ้าบริษัทนี้นำเงินไปชำระหนี้ระยะยาว คือหนี้ระยะยาวของบริษัทลดลงทุกปี ถามว่าจะนำมูลค่าหนี้ระยะยาวที่ลด ไปคิดร่วมกับตัว FCF อย่างไรครับ
แล้วสุดท้าย FCF นี่มันจะกลายเป็นส่วนไหนของงบดุลล่าสุดล่ะครับ เป็นส่วนหนึ่งของเงินสดที่เพิ่มระหว่างปีดำเนินการหรือครับ มันจะไปพันกับตัว Current Asset ระหว่างคิดหรือเปล่า
ยิ่งถามยิ่งงงงง โอย...
ด้วยความเคารพ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 2
ผมว่าคุณ"ไม่จ๊ะ"ต้องมีอะไรผิดแน่ๆเพราะ
1.สูตรหาowner earningที่ลงมาถูกต้องครับ แต่additional working capitalไม่น่าจะเป็นเงินสดเพราะตัวของเค้าคือบัญชีลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งทั้ง2ตัวไม่ใช่เงินสด
2.การที่fixed asset investmentน้อยกว่าdepreciation+amortization เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะแสดงว่าจะมีเงินสดเหลือมาสู่ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น (ปันผล) แต่พอมาเจอว่าadditional working capital สูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีแสดงว่าต้องใช้เงินสดไปในการลงทุนปล่อยบัญชีลูกหนี้และตุนสินค้าคงคลังเพิ่มทำให้เงินสดลดลง และถ้าหนี้นั้นขาดส่งนานกลายเป็นหนี้สูญ(ชักดาบ) หรือสินค้าคงเหลืออยู่ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วอาจตกรุ่น(=ใช้งานต่อไม่ได้)ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนworking capital ก้อนนั้นกลับมาเป็นเงินสดอีกได้ก็จะถึงคราวเศร้าของผู้ถือหุ้นล่ะครับ คืองบบัญชีลงไว้ว่าบริษัทมีกำไรแต่ปันผลไม่ได้เพราะขาดเงินสดในมือมีแต่ตัวเลข
1.สูตรหาowner earningที่ลงมาถูกต้องครับ แต่additional working capitalไม่น่าจะเป็นเงินสดเพราะตัวของเค้าคือบัญชีลูกหนี้+สินค้าคงเหลือ ที่เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ซึ่งทั้ง2ตัวไม่ใช่เงินสด
2.การที่fixed asset investmentน้อยกว่าdepreciation+amortization เป็นสิ่งที่ดีครับ เพราะแสดงว่าจะมีเงินสดเหลือมาสู่ผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น (ปันผล) แต่พอมาเจอว่าadditional working capital สูงขึ้นเรื่อยๆในแต่ละปีแสดงว่าต้องใช้เงินสดไปในการลงทุนปล่อยบัญชีลูกหนี้และตุนสินค้าคงคลังเพิ่มทำให้เงินสดลดลง และถ้าหนี้นั้นขาดส่งนานกลายเป็นหนี้สูญ(ชักดาบ) หรือสินค้าคงเหลืออยู่ในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงเร็วอาจตกรุ่น(=ใช้งานต่อไม่ได้)ก็จะไม่สามารถเปลี่ยนworking capital ก้อนนั้นกลับมาเป็นเงินสดอีกได้ก็จะถึงคราวเศร้าของผู้ถือหุ้นล่ะครับ คืองบบัญชีลงไว้ว่าบริษัทมีกำไรแต่ปันผลไม่ได้เพราะขาดเงินสดในมือมีแต่ตัวเลข
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 3
แต่ผมว่าผมเคยอ่านเจอใน Web นะครับ (จำไม่ได้ว่าใคร Post ไว้ให้ ขอบคุณและขออภัยครับ) ว่า
ในการหามูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ หรือที่เรียกว่า Intrinsic Value เราจะใช้กระแสเงินสดที่ผู้ถือหุ้นได้รับ(Free Cash flow to owner) ไม่ใช่ earning ที่ประกาศหรือกำไรสุทธิ(Net income) เพราะตัวเลขนี้ไม่ใช่เงินสด(เป็นตัวเลขทางบัญชี ตามเกณฑ์คงค้าง คือรับรู้รายได้ ค่าใช้จ่ายก่อนรับเงินสด) ก่อนจะนำมาคำนวณหาIntrinsic Valueเราก็ต้องปรับเสียก่อนโดยเอาDepre & Amortiz.(เป็นตัวเลขทางบัญชีเหมือนกัน) มาบวกกลับ หักออกด้วย Capital Expenditure หรีองบลงทุนนั้นเอง ในงบลงทุนนี้ให้เอา เงินสดจ่ายเพื่อการซื้อสินทรัพย์ถาวร หักออกด้วย เงินสดที่ได้จากการขายสินทรัพย์
ส่วน additional working capital หรือ change in working capital จริงๆแล้วเมื่อมีโครงการใหม่ๆก็จำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจึงต้องนำมาคิดเป็นกระแสเงินสดด้วย และสูตรของ working Cap = Current Assets - Current Liabilities นั้นถูกแล้วเพราะสินทรัพย์หมุนเวียนจะมีอายุไม่เกินหนึ่งปีนะคะ แต่มันเป็นAdditional หรือ change in working cap. นะคะ คือเราต้องเอา working cap ของปีปัจจุบันหักออกด้วย working cap ของปีก่อน เราจะได้ เป็นAdditional หรือ change in working cap ถ้าตัวเลขออกมาสูงมาก ก็ต้องระวังให้ดีๆเลย มีอะไรผิดแน่ๆ
ผมก็เลยงงงง มาณ. ที่นี้ล่ะครับ
ตกลงผมควรใช้เลขตัวไหนดีครับระหว่าง
WC=บช. ลูกหนี้ + สินค้าคงเหลือ ปีนี้ลบปีก่อน
หรือ
WC=Current Asset-Current liability ปีนี้ลบปีก่อน
เพราะเงินสดถ้ามันเพิ่มมากๆ ก็น่าจะดีไม่ใช่หรือครับ แต่จากสูตรนี้กลับไม่ดีแฮะ
ในการหามูลค่าที่แท้จริงของธุรกิจ หรือที่เรียกว่า Intrinsic Value เราจะใช้กระแสเงินสดที่ผู้ถือหุ้นได้รับ(Free Cash flow to owner) ไม่ใช่ earning ที่ประกาศหรือกำไรสุทธิ(Net income) เพราะตัวเลขนี้ไม่ใช่เงินสด(เป็นตัวเลขทางบัญชี ตามเกณฑ์คงค้าง คือรับรู้รายได้ ค่าใช้จ่ายก่อนรับเงินสด) ก่อนจะนำมาคำนวณหาIntrinsic Valueเราก็ต้องปรับเสียก่อนโดยเอาDepre & Amortiz.(เป็นตัวเลขทางบัญชีเหมือนกัน) มาบวกกลับ หักออกด้วย Capital Expenditure หรีองบลงทุนนั้นเอง ในงบลงทุนนี้ให้เอา เงินสดจ่ายเพื่อการซื้อสินทรัพย์ถาวร หักออกด้วย เงินสดที่ได้จากการขายสินทรัพย์
ส่วน additional working capital หรือ change in working capital จริงๆแล้วเมื่อมีโครงการใหม่ๆก็จำเป็นต้องใช้เงินทุนหมุนเวียนจึงต้องนำมาคิดเป็นกระแสเงินสดด้วย และสูตรของ working Cap = Current Assets - Current Liabilities นั้นถูกแล้วเพราะสินทรัพย์หมุนเวียนจะมีอายุไม่เกินหนึ่งปีนะคะ แต่มันเป็นAdditional หรือ change in working cap. นะคะ คือเราต้องเอา working cap ของปีปัจจุบันหักออกด้วย working cap ของปีก่อน เราจะได้ เป็นAdditional หรือ change in working cap ถ้าตัวเลขออกมาสูงมาก ก็ต้องระวังให้ดีๆเลย มีอะไรผิดแน่ๆ
ผมก็เลยงงงง มาณ. ที่นี้ล่ะครับ
ตกลงผมควรใช้เลขตัวไหนดีครับระหว่าง
WC=บช. ลูกหนี้ + สินค้าคงเหลือ ปีนี้ลบปีก่อน
หรือ
WC=Current Asset-Current liability ปีนี้ลบปีก่อน
เพราะเงินสดถ้ามันเพิ่มมากๆ ก็น่าจะดีไม่ใช่หรือครับ แต่จากสูตรนี้กลับไม่ดีแฮะ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 4
ที่คุณอ่านและเข้าใจนั่นนะถูกแล้วworking Cap = Current Assets - Current Liabilities ไม่ผิดหรอก และใช้ได้เลย แต่คุณต้องหาadditionalจากปีที่แล้วมาไม่ใช่working Cap ง่ายๆก็คือ working Capปีนี้ - working Capปีก่อน= add. working cap.ซึ่งตัวเลขจะเป็นค่าต่าง ซึ่งก็คือคุณเตรียมเงินสดเพื่อใช้ในการเป็นเงินทุนหมุนเวียนในช่วงเวลานั้นเท่าไร เมื่อครบปีรายการนี้ถือเป็นเงินสดที่คุณใช้ไปในการลงทุนเหมือนกัน
ส่วนowner's earning ก็คือกระแสเงินสดนั่นแหละครับ สังเกตุว่าใช้ Net profit ซึ่งหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีไปแล้ว และบวกกลับด้วยdrepre&amort.เพราะไม่ได้จ่ายจริง ลบด้วยเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรหักด้วยadd. working cap เป็นเงินสดที่ผู้ถือหุ้นได้รับจริงๆ ส่วนสูตรที่คุณเข้าใจนั้นใช้earning before interest and taxesคือยังไม่ได้หักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีออกไปอันนี้เขาเรียกว่า intrinsic value of the firm เมื่อหาค่าได้แล้วต้องหักออกด้วยหนี้สินระยะยาวจึงจะได้intrinsic value of the equity ส่วนสูตรที่ใช้ ower's earning นั้นคือintrinsic value of the equity เลย
งงไหม ถ้างงเอาไว้คุยกันตอนงานเลี้ยง
ส่วนowner's earning ก็คือกระแสเงินสดนั่นแหละครับ สังเกตุว่าใช้ Net profit ซึ่งหักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีไปแล้ว และบวกกลับด้วยdrepre&amort.เพราะไม่ได้จ่ายจริง ลบด้วยเงินลงทุนในสินทรัพย์ถาวรหักด้วยadd. working cap เป็นเงินสดที่ผู้ถือหุ้นได้รับจริงๆ ส่วนสูตรที่คุณเข้าใจนั้นใช้earning before interest and taxesคือยังไม่ได้หักดอกเบี้ยจ่ายและภาษีออกไปอันนี้เขาเรียกว่า intrinsic value of the firm เมื่อหาค่าได้แล้วต้องหักออกด้วยหนี้สินระยะยาวจึงจะได้intrinsic value of the equity ส่วนสูตรที่ใช้ ower's earning นั้นคือintrinsic value of the equity เลย
งงไหม ถ้างงเอาไว้คุยกันตอนงานเลี้ยง
- Meeja
- Verified User
- โพสต์: 333
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 5
ขอบคุณ คุณ Mon money มากครับ
เรื่อง Additional WC ยังมีที่สงสัยอยู่คือ
ถ้า WC เพิ่มขึ้นเป็นเงินสดจะประเมินได้ไหมว่าดีหรือไม่ดี (น่าจะดี แต่มันทำให้ FCF ลดนะครับ)
อยากให้อธิบายเรื่อง Intrisic value of firm และ equity ใหม่อีกรอบครับ
แบบเป็นสมการนะครับ ยอมรับว่างงจริงๆ : )
เรื่อง Additional WC ยังมีที่สงสัยอยู่คือ
ถ้า WC เพิ่มขึ้นเป็นเงินสดจะประเมินได้ไหมว่าดีหรือไม่ดี (น่าจะดี แต่มันทำให้ FCF ลดนะครับ)
อยากให้อธิบายเรื่อง Intrisic value of firm และ equity ใหม่อีกรอบครับ
แบบเป็นสมการนะครับ ยอมรับว่างงจริงๆ : )
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 6
ไอ้น้องเอ้ย เรื่องอย่างนี้มันยากจะคุยกันผ่านกระทู้จริงๆ
ถ้าWC เพิ่มขึ้นนะทำให้เงินสดลดลง ใช่ แต่ถ้า กำไรเพิ่มด้วยในอัตราที่สูงกว่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานี่นา (อย่าเอาความเป็นวิศวกรมาคิดเรื่องลงทุนเด็ดขาดนะ เพราะมันไม่ใช่Static มันเป็นDinamic ตัวแปรมันแยอะ)
Vlue of the firm = EBIT + Drepre& Amort. - Capex -Add. Wc
Value of Equity = Value of the firm - Book Value of debt.
get บ่
ถ้าWC เพิ่มขึ้นนะทำให้เงินสดลดลง ใช่ แต่ถ้า กำไรเพิ่มด้วยในอัตราที่สูงกว่าก็ไม่น่าจะเป็นปัญหานี่นา (อย่าเอาความเป็นวิศวกรมาคิดเรื่องลงทุนเด็ดขาดนะ เพราะมันไม่ใช่Static มันเป็นDinamic ตัวแปรมันแยอะ)
Vlue of the firm = EBIT + Drepre& Amort. - Capex -Add. Wc
Value of Equity = Value of the firm - Book Value of debt.
get บ่
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 9
ผมเข้าใจนะครับ
แต่ว่าถ้าเราจะใช้แบบหยาบๆโดยการเอาค่า
Net Cash Financing Activities เข้าแทนที่ Net Capital Expenditures เลยจะได้ไหมครับ
แต่ว่าถ้าเราจะใช้แบบหยาบๆโดยการเอาค่า
Net Cash Financing Activities เข้าแทนที่ Net Capital Expenditures เลยจะได้ไหมครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 11
เกียบลืมตอบคุณKEN
คำตอบก็คือไม่ได้ครับ คนละเรื่องกันเลย Net Cash Financing Activitiesคือการจัดหาเงิน ส่วนNet Capital Expenditures คือแผนการใช้จ่ายในการลงทุน ครับ จริงNet Capital Expenditures ก็หาไม่ยากนี่ครับ ดูในส่วนกิจกรรมลงทุนก็มีหมดครับ
คำตอบก็คือไม่ได้ครับ คนละเรื่องกันเลย Net Cash Financing Activitiesคือการจัดหาเงิน ส่วนNet Capital Expenditures คือแผนการใช้จ่ายในการลงทุน ครับ จริงNet Capital Expenditures ก็หาไม่ยากนี่ครับ ดูในส่วนกิจกรรมลงทุนก็มีหมดครับ
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 12
ขอโทษครับผมพิมพ์ผิด เปลี่ยน Net Cash Financing Activities เป็น Net Cash Flows From Investing Activities ครับ
คือว่าผมอยากเอาอัตราส่วนตัวนี้มาเทียบกับกลุ่มเดียวกันต้องใช้ตัวเลขมากมายไปหมดก็เลยอยาก เปลี่ยน Net Capital Expenditures เป็น Net Cash Flows From Investing Activities ถ้าได้ก็จะสะดวกมากเลยครับ
ช่วยตอบอีกทีนะครับพี่ mon
คือว่าผมอยากเอาอัตราส่วนตัวนี้มาเทียบกับกลุ่มเดียวกันต้องใช้ตัวเลขมากมายไปหมดก็เลยอยาก เปลี่ยน Net Capital Expenditures เป็น Net Cash Flows From Investing Activities ถ้าได้ก็จะสะดวกมากเลยครับ
ช่วยตอบอีกทีนะครับพี่ mon
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 11444
- ผู้ติดตาม: 1
ถามเรื่อง FCF ครับ
โพสต์ที่ 13
ผมขอตอบแทนคุณ Mon Money ก่อนละกันครับ ผมว่ามันจะไม่สอดคล้องกับความหมายที่คุณจะนำตัวเลขที่ได้จากการคำนวณ เพราะว่าปัจจุบันการลงทุนระยะสั้น เช่น การฝากประจำ การซื้อพันธบัตร การซื้อหน่วยลงทุนต่างๆ เหล่านี้จะถูกจัดลงใน Investing แต่ทั้งที่จริงแล้วไม่ใช้การลงทุนในความหมายของการคำนวณ Free Cash Flow นะครับ