แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 1
แค่ซื้อหุ้นปันผล เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่เลือกหุ้นจาก P/E, P/BV, D/E, ROE, ROA เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ดูงบกำไรขาดทุน งบดุล เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่อ่านแบบฟอร์ม 56-1 เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่แกะงบกระแสเงินสด เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้น เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ไปร่วม Company visit เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ลองใช้สินค้าของบริษัท เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ลองประเมินมูลค่าหุ้นจากข้อมูลงบการเงิน เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่พิจารณา Vision, Mission, SWOT ของกิจการ เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
ผมสงสัยว่าแค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI ได้ครับ
แค่เลือกหุ้นจาก P/E, P/BV, D/E, ROE, ROA เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ดูงบกำไรขาดทุน งบดุล เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่อ่านแบบฟอร์ม 56-1 เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่แกะงบกระแสเงินสด เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ไปร่วมประชุมผู้ถือหุ้น เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ไปร่วม Company visit เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ลองใช้สินค้าของบริษัท เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่ลองประเมินมูลค่าหุ้นจากข้อมูลงบการเงิน เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
แค่พิจารณา Vision, Mission, SWOT ของกิจการ เรียกว่าเป็น VI ได้มั้ย
ผมสงสัยว่าแค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI ได้ครับ
- คัดท้าย
- Verified User
- โพสต์: 2917
- ผู้ติดตาม: 0
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 3
ขออนุญาติ มั่วตอบตามความเข้าใจผมนะครับ พี่ FE หลังจากที่ได้เข้ามาที่นี่พักนึง
ผมจับความรู้สึกได้เลย ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง VI กับ VS
อยู่ 1 ข้อ
VI ซื้อ หุ้นหวังปันผลเหรอ ผมว่าไม่เกี่ยว
VI ต้องอ่านงบการเงินถูกหมด ผมก็ว่าไม่ใช่
VI ต้องเข้าใจธุรกิจจริงๆ ทำนายอนาคตได้ ผมก็ไม่เชื่อ
แต่ที่ผมเห็นความแตกต่างชัดเจนคือ Attitude ที่แตกต่างกันระหว่าง VI กับ VS คือ
VI จะสนใจมูลค่าที่แท้จริง ส่วน VS จะสนใจผลต่างของราคาตลาดเป็นหลัก ครับ
ส่วนจะเอาปันผลหรือไม่เอาปันผล ผมว่าเรื่องรอง แต่พี่ VI จะสนใจหุ้นที่ราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับมูลค่าที่ คาดว่า ควรจะเป็นเป็นหลัก
ส่วน VS จะสนใจหุ้นที่ราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับ ราคาที่ คาดว่า จะขายได้ในตลาดเป็นหลัก
คือ ทั้งคู่ ผมว่าก็ คาดว่า เหมือนกันครับ แต่เรื่องที่คาดคนละเรื่องกัน
ผมจับความรู้สึกได้เลย ถึงความแตกต่างอย่างชัดเจนระหว่าง VI กับ VS
อยู่ 1 ข้อ
VI ซื้อ หุ้นหวังปันผลเหรอ ผมว่าไม่เกี่ยว
VI ต้องอ่านงบการเงินถูกหมด ผมก็ว่าไม่ใช่
VI ต้องเข้าใจธุรกิจจริงๆ ทำนายอนาคตได้ ผมก็ไม่เชื่อ
แต่ที่ผมเห็นความแตกต่างชัดเจนคือ Attitude ที่แตกต่างกันระหว่าง VI กับ VS คือ
VI จะสนใจมูลค่าที่แท้จริง ส่วน VS จะสนใจผลต่างของราคาตลาดเป็นหลัก ครับ
ส่วนจะเอาปันผลหรือไม่เอาปันผล ผมว่าเรื่องรอง แต่พี่ VI จะสนใจหุ้นที่ราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับมูลค่าที่ คาดว่า ควรจะเป็นเป็นหลัก
ส่วน VS จะสนใจหุ้นที่ราคาต่ำกว่าหรือเท่ากับ ราคาที่ คาดว่า จะขายได้ในตลาดเป็นหลัก
คือ ทั้งคู่ ผมว่าก็ คาดว่า เหมือนกันครับ แต่เรื่องที่คาดคนละเรื่องกัน
The crowd, the world, and sometimes even the grave, step aside for the man who knows where he's going, but pushes the aimless drifter aside. -- Ancient Roman Saying
-
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 14784
- ผู้ติดตาม: 1
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 4
แค่ไหนเป็น VI ก็แค่ถือหุ้นแบบ ถ้าตลาดปิดไป 5 ปีแล้วยังกล้าถือ ถึงจะเรียกว่า VI
ดีมั๊ย
ก็คงไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ
แต่ ส่วนตัวแล้วคิดว่า VI ควรที่จะกล้าคิดแบบนั้นจริงๆ
เช่นการถือหุ้น Makro นี่สำหรับผมแล้ว ตลาดหุ้นปิดไปเลย 5 ปี ผมก็ถือนะ ผมไม่กลัว
เพราะ บริษัทที่มียอดขาย 4 หมื่นล้านบาทต่อปี และไม่มีหนี้สินระยะยาวเลย คือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเลย สักกะบาท
กำไรต่อเนื่องอย่างยาวนาน
เมื่อราคาหุ้นลงมามากๆ ถ้าใช้หลัก intrinsic value = มูลค่าที่แท้จริง = มูลค่าปัจจุบันของเงินที่เราจะได้จากธุรกิจตลอดระยะเวลาที่เหลือ
มีใครคำนวณเป็นบ้าง ว่า intrinsic value ของ Makro อยู่ที่เท่าไร
แหมเพิ่งอ่านมาหมาดๆ
...........................................................................
และสำหรับผมแล้ว ในกรณี Makro นี่ ผมไม่เชื่อว่า Makro จะมีปัญหาอะไรมากมายนะครับ เกี่ยวกับ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู เพราะ ถ้ามี Makro ก็มีไปนานแล้วครับ ไม่มีหน้า มามียอดขาย 4 หมื่นล้านบาทหรอกครับ
พูดไปพูดมาเข้า Makro จนได้
ดีมั๊ย
ก็คงไม่ต้องขนาดนั้นหรอกครับ
แต่ ส่วนตัวแล้วคิดว่า VI ควรที่จะกล้าคิดแบบนั้นจริงๆ
เช่นการถือหุ้น Makro นี่สำหรับผมแล้ว ตลาดหุ้นปิดไปเลย 5 ปี ผมก็ถือนะ ผมไม่กลัว
เพราะ บริษัทที่มียอดขาย 4 หมื่นล้านบาทต่อปี และไม่มีหนี้สินระยะยาวเลย คือไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยเลย สักกะบาท
กำไรต่อเนื่องอย่างยาวนาน
เมื่อราคาหุ้นลงมามากๆ ถ้าใช้หลัก intrinsic value = มูลค่าที่แท้จริง = มูลค่าปัจจุบันของเงินที่เราจะได้จากธุรกิจตลอดระยะเวลาที่เหลือ
มีใครคำนวณเป็นบ้าง ว่า intrinsic value ของ Makro อยู่ที่เท่าไร
แหมเพิ่งอ่านมาหมาดๆ
...........................................................................
และสำหรับผมแล้ว ในกรณี Makro นี่ ผมไม่เชื่อว่า Makro จะมีปัญหาอะไรมากมายนะครับ เกี่ยวกับ โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟู เพราะ ถ้ามี Makro ก็มีไปนานแล้วครับ ไม่มีหน้า มามียอดขาย 4 หมื่นล้านบาทหรอกครับ
พูดไปพูดมาเข้า Makro จนได้
-
- ผู้ติดตาม: 0
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 6
VI มีส่วนร่วมในการเป็นเจ้าของธุรกิจนั้นๆ
ส่วนVอื่นๆ เข้าใจว่า เป็นเจ้าของเฉพาะ ราคา ของหุ้นในธุรกิจนั้นๆ :lol:
ส่วนVอื่นๆ เข้าใจว่า เป็นเจ้าของเฉพาะ ราคา ของหุ้นในธุรกิจนั้นๆ :lol:
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 7
อยากให้นักลงทุนหน้าใหม่ๆ มาอ่านกระทู้นี้จัง แทนที่จะไปอ่านพวกกระทู้ใบ้หุ้น
-
- Verified User
- โพสต์: 143
- ผู้ติดตาม: 0
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 8
คนไม่เจ็บ ไม่มีใครเข้าใจหรอกครับ ลองถามบรรดา VI ทั้งหลายในห้องนี้สิครับ มีใครไม่เคยเจ็บจากการเก็งกำไรมาก่อนบ้าง ถ้าไม่เคยเจ็บหนักๆ คงยากที่จะทนความเย้ายวนของการเก็งกำไรลำบาก ทีสำคัญคืออธิบายให้ฟัง ก็ไม่เข้าใจว่าความเสี่ยงจากการผันผวนของราคามันเป็นอย่างไร และความสุขของการได้ซื้อหุ้นแล้วไม่ต้องเลือดสูบฉีด เสี่ยงกับหัวใจวายในทุกๆวันมันเป็นอย่างไร เรื่องนี้ไม่ต้องไปคาดหวังหรอกครับ สำหรับนักลงทุนมือใหม่ มันเป็นสัจจธรรมของโลก ที่แมงเม่าต้องบินเข้ากองไฟ
- harry
- Verified User
- โพสต์: 4200
- ผู้ติดตาม: 0
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 9
ผมว่า การลงทุนแบบ VI คือการลงทุนที่เราเข้าใจว่าธุรกิจนั้นผลิตสินค้าอะไร ขายให้กับใคร มีกำไรเท่าไหร่ มีแนวโน้มก้าวหน้าเติบโตอย่างไร แล้วก็มองในแง่ผู้บริโภคด้วยว่าสินค้าของธุรกิจนั้นดีมั้ย คนใช้กันเยอะมั้ย ถ้ามองว่าก็ลงทุนครับ เพราะผมคิดว่า VI ถือหุ้นประหนึ่งคือเราร่วมเป็นเจ้าของธุรกิจ ไม่ใช่ถือเพื่อรอวันราคาขึ้นแล้วขายเอากำไรส่วนต่าง
Expecto Patronum!!!!!!
-
- Verified User
- โพสต์: 2509
- ผู้ติดตาม: 1
แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 11
VI คือ คนที่ยอมจ่ายเงินเพื่อซื้อบ้านสักหลัง หากมองแล้วว่าเงินที่จ่ายไปมันคุ้มค่ากับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ การพักอาศัย ระบบสาธารณูปโภค การเดินทาง ความปลอดภัย ฯลฯ
VS คือ คนที่ยอมจ่ายเงินซื้อบ้านหลังเดียวกันนั้น หากรู้ว่ามีคนอื่นอีกหลายคนจ้องตาเป็นมันอยู่ และพร้อมที่จะยอมจ่ายแพงกว่าราคาที่ตนเองซื้อมา โดยไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่ามันคุ้มค่าสมราคาหรือไม่
VS คือ คนที่ยอมจ่ายเงินซื้อบ้านหลังเดียวกันนั้น หากรู้ว่ามีคนอื่นอีกหลายคนจ้องตาเป็นมันอยู่ และพร้อมที่จะยอมจ่ายแพงกว่าราคาที่ตนเองซื้อมา โดยไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำว่ามันคุ้มค่าสมราคาหรือไม่
- koh
- Verified User
- โพสต์: 273
- ผู้ติดตาม: 0
- Paul Octopus
- สมาชิกสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า
- โพสต์: 803
- ผู้ติดตาม: 0
Re: แค่ไหนถึงเรียกว่าเป็น VI
โพสต์ที่ 13
VI เป็นเหมือนคนที่ปลูกต้นไม้ ...มันต้องอาศัยความพยายาม การดูแล ฟันฝ่าอุปสรรค ทั้งโรค ฝน ความแห้งแล้ง ฯลฯ ลองอ่านประโยคนี้ครับ มันบอกได้ว่าแค่ใหนเป็น VI
“Someone's sitting in the shade today because someone planted a tree a long time ago.”
― Warren Buffett
“Someone's sitting in the shade today because someone planted a tree a long time ago.”
― Warren Buffett