ถามคุณ Mon Money
- ท้าวอุ่น ตีนเย็น
- Verified User
- โพสต์: 3
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคุณ Mon Money
โพสต์ที่ 1
ผมได้อ่านบทความของคุณ MM (ขอใช้ชื่อย่อนะครับ) มีประโยชน์มากสำหรับตัวผมเอง (และคงอีกหลายคนเช่นกัน) เลยแตกประเด็นจากบทความมาถามต่อหน่อยครับ
ประเด็นที่ว่า คงไม่มีอะไร มากไปกว่า หลักการ และขั้นตอนต่างๆ ที่ คุณ MM ใช้ศึกษาหุ้นซักตัวนึงที่กำลังสนใจ ไม่ทราบว่า มีขั้นตอนหรือหลักการ ในการศึกษา ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนอย่างไรบ้าง และความรู้ที่สำคัญที่จะนำมาวิเคราะห์หุ้น จะต้องเป็นความรู้ทางด้านไหนบ้าง และแหล่งความรู้นั้นอยู่ที่ไหนบ้างครับ
หากยกตัวอย่างได้ จะยิ่งดี
ปล. ผมเป็นมือใหม่ ที่เน้นศึกษาด้วยตนเอง แต่ตอนนี้รู้สึกสิ่งที่อ่านและศึกษามา กำลังตีกันมั่วอยู่ หากถามเยอะ หรือคำถามไม่ชัดเจน ต้องขออภัย ไว้ ณ ตรงกระทู้นี้ด้วยนะครับ
ด้วยความเคารพ
ประเด็นที่ว่า คงไม่มีอะไร มากไปกว่า หลักการ และขั้นตอนต่างๆ ที่ คุณ MM ใช้ศึกษาหุ้นซักตัวนึงที่กำลังสนใจ ไม่ทราบว่า มีขั้นตอนหรือหลักการ ในการศึกษา ก่อนตัดสินใจที่จะลงทุนอย่างไรบ้าง และความรู้ที่สำคัญที่จะนำมาวิเคราะห์หุ้น จะต้องเป็นความรู้ทางด้านไหนบ้าง และแหล่งความรู้นั้นอยู่ที่ไหนบ้างครับ
หากยกตัวอย่างได้ จะยิ่งดี
ปล. ผมเป็นมือใหม่ ที่เน้นศึกษาด้วยตนเอง แต่ตอนนี้รู้สึกสิ่งที่อ่านและศึกษามา กำลังตีกันมั่วอยู่ หากถามเยอะ หรือคำถามไม่ชัดเจน ต้องขออภัย ไว้ ณ ตรงกระทู้นี้ด้วยนะครับ
ด้วยความเคารพ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคุณ Mon Money
โพสต์ที่ 2
รู้สึกบทความของผมจะใช้ได้ดีทีเดียว
หลักการลงทุนแบบทีผมใช้ไม่ต่างกับหลัการของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าคนอื่นหรอกครับ หลักการที่ว่านี้คือ
1 คุณต้องเข้าใจธุรกิจที่คุณจะลงทุน เหมือนกับว่ามีเพื่อนมาชวนลงทุนทำธุรกิจนั่นแหละครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจคุณจะเสี่ยงกับมันไหมครับ แต่ถ้าคุณเข้าใจมันได้อย่างชัดเจนคุณจะเห็นถึงอนาคตของมันว่าดีหรือไม่ดี และตัดสินใจง่ายมาก
2 อ่านงบการเงินให้เป็น ซึ่งก็ไม่ยากอะไร ซื้อหนังสือรู้บัญชีมีประโยชน์ และอ่านงบการเงินให้เป็นของ ดร. ภาภรมาอ่านจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
3 Time Value Of money มูลค่าเงินตามเวลา บอกว่า เงินวันนี้มีค่ามากกว่าเงินวันพรุ่งนี้ ดังนั้นหากเราสามารถทำให้เงินของเราโตในอนาคตและมีค่ามากกว่าวันนี้นั้นก็หมายความว่าคุณลงทุนได้ผล มันก้จะมีวิธีคำนวนเพื่อหามูลค่าที่แท้จริงครับ
4 ทำจิตใจให้มั่นคง และอดทนรอรางวัลครับ
แค่นี้เอง
หลักการลงทุนแบบทีผมใช้ไม่ต่างกับหลัการของนักลงทุนแบบเน้นคุณค่าคนอื่นหรอกครับ หลักการที่ว่านี้คือ
1 คุณต้องเข้าใจธุรกิจที่คุณจะลงทุน เหมือนกับว่ามีเพื่อนมาชวนลงทุนทำธุรกิจนั่นแหละครับ ถ้าคุณไม่เข้าใจคุณจะเสี่ยงกับมันไหมครับ แต่ถ้าคุณเข้าใจมันได้อย่างชัดเจนคุณจะเห็นถึงอนาคตของมันว่าดีหรือไม่ดี และตัดสินใจง่ายมาก
2 อ่านงบการเงินให้เป็น ซึ่งก็ไม่ยากอะไร ซื้อหนังสือรู้บัญชีมีประโยชน์ และอ่านงบการเงินให้เป็นของ ดร. ภาภรมาอ่านจะทำให้เข้าใจง่ายขึ้น
3 Time Value Of money มูลค่าเงินตามเวลา บอกว่า เงินวันนี้มีค่ามากกว่าเงินวันพรุ่งนี้ ดังนั้นหากเราสามารถทำให้เงินของเราโตในอนาคตและมีค่ามากกว่าวันนี้นั้นก็หมายความว่าคุณลงทุนได้ผล มันก้จะมีวิธีคำนวนเพื่อหามูลค่าที่แท้จริงครับ
4 ทำจิตใจให้มั่นคง และอดทนรอรางวัลครับ
แค่นี้เอง
-
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคุณ Mon Money
โพสต์ที่ 3
ผมเข้าใจความหมายของคุณเท้าเย็นตีนอุ่นดีครับ ความจริงอจ.วิกรมตอบแล้วในmoney talk วันพุธที่22ธค
ก่อนอื่น1.roe>15%หา อ่านจากหนังสือพิมพ์และset.or.thsinvsettrade.com
2.ประวัติการดำเนิินการดีในระยะยาว และน่าจะดีต่อไปในอนาคต ซึ่งมักเป็นธุรกิจที่มีชื่อเสียงดีอยู่มานาน
3.หนี้น้อยอย่างมากโดยเฉพาะหนี้ระยะยาวเทียบกับส่วนของเจ้าของ
4.จากนั้นก็เข้าสูตรของคุณมนตรีแล้วครับ
ก่อนอื่น1.roe>15%หา อ่านจากหนังสือพิมพ์และset.or.thsinvsettrade.com
2.ประวัติการดำเนิินการดีในระยะยาว และน่าจะดีต่อไปในอนาคต ซึ่งมักเป็นธุรกิจที่มีชื่อเสียงดีอยู่มานาน
3.หนี้น้อยอย่างมากโดยเฉพาะหนี้ระยะยาวเทียบกับส่วนของเจ้าของ
4.จากนั้นก็เข้าสูตรของคุณมนตรีแล้วครับ
- Mon money
- สมาชิกกิตติมศักดิ์
- โพสต์: 3134
- ผู้ติดตาม: 0
ถามคุณ Mon Money
โพสต์ที่ 4
ผมว่าแล้วว่าผมพูดอย่างนี้มาเกือบห้าปีแล้ว
1 เข้าใจธุรกิจ
2 อ่านงบการเงินให้เป็น
3 time value of money
4 คุมอารมณ์ให้มั่นคง
หลังจากห้าปีที่ผ่านมา ผมยังได้รับคำถามเกี่ยวกับหุ้นที่เริ่มต้นด้วยว่า "หุ้นนี้มันมีอะไรดี" คำถามนี้แฝงนัยสองประการคือ
1 ผู้ถามรู้มาบ้างว่าบริษัทนั้นๆประกอบกิจการอะไร แต่ยังไม่เข้าใจในระดับที่มากพอจะตัดสินใจได้
2 เมื่อรู้ไม่ครบ แสดงว่ายังไม่เข้าใจ การตัดสินใจจะยากมากขึ้น
เมื่อสองประเด็นนี้เกิดจึงพยายามหาความเชื่อมั่นด้วยการถาม สิ่งที่ตามมาคือ
1 เมื่อถามแล้วเกิดแนวคิดที่จะทำความเข้าใจเพิ่ม เหมือนน้องที่น่ารักจากเชียงราย และซินแซใหญ่แห่งเมืองตราด จากนั้นการตัดสินใจจึงเริ่มขึ้นอย่างมั่นใจในเป้าหมายการลงทุนที่ตั้งกรอบเอาไว้
2 เมื่อถามแล้วไม่เข้าใจ แต่พี่มนซื้อก็ซื้อตาม อันนี้ขอบอกว่าอันตรายเพราะกรอบการลงทุนของผมไม่เหมือนใครแน่นอน บางบริษัทถือยาวและติดตามผลดำเนินงาน บางบริษัทเอาไว้เป็นก้นบุหรี่สูบแก้อยาก เวลาขายไม่บอกใครนะครับ
การที่จะลงทุนแล้วไม่ค่อยพลาด(มีพลาดเหมือนกันนะ) คือต้องรู้จักและเข้าใจธุรกิจธุรกิจ รู้และเข้าใจนโยบายและกลยุทธในการดำเนินงานที่จะเป็นตัวเร่งมูลค่าให้เห็นเด่นชัดขึ้น
ใช้งบการเงินประกอบว่ากลยุทธ์ธุรกิจนั้นๆได้นำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม พร้อมๆกับการตรวจสอบธรรมาภิบาลของผู้บริหารไปพร้อมๆกัน
Time Value Of Money ไม่ต้องนั่งผูกสูตรคำนวนอะไรให้ยากเย็นนัก คิดแต่เพียงง่ายๆ เช่นว่ากำไรที่เป็นเงินสดจะมีมูลค่าเท่าไรเพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะสู้กับInflationไหม บางบริษัทโตเกินเงินเฟ้อมากๆจะสวยงามนัก บางบริษัทต้องการโตโดยใช้เงินสด เราต้องดูว่าเขาจะโตได้เท่าไรและจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลตอบแทนได้เท่าไรคุ้มกับเงินที่จ่ายไปในหลายปี คล้ายๆกับการฝากเงินประจำไปห้าปีได้ดอกเบี้ยปีละ5%ปีที่ห้าจะได้เงินต้นพร้อมดอก ในขณะที่เงินเฟ้อ 6%ก็คงขาดทุนอยู่ไม่น้อย
สุดท้าย จิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตวันๆหนึ่งไม่ได้แค่มีเอาไว้เล่นหุ้นนะครับท่าน เอาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมประเทศชาติบ้าง
มูลค่าขึ้นอยู่กับการเติบดตที่มีคุณภาพของกิจการ
ราคาขึ้นกับอารมณ์และความคิดของผู้เล่น
คุณจะเลือกมูลค่าหรือราคากันครับ?
1 เข้าใจธุรกิจ
2 อ่านงบการเงินให้เป็น
3 time value of money
4 คุมอารมณ์ให้มั่นคง
หลังจากห้าปีที่ผ่านมา ผมยังได้รับคำถามเกี่ยวกับหุ้นที่เริ่มต้นด้วยว่า "หุ้นนี้มันมีอะไรดี" คำถามนี้แฝงนัยสองประการคือ
1 ผู้ถามรู้มาบ้างว่าบริษัทนั้นๆประกอบกิจการอะไร แต่ยังไม่เข้าใจในระดับที่มากพอจะตัดสินใจได้
2 เมื่อรู้ไม่ครบ แสดงว่ายังไม่เข้าใจ การตัดสินใจจะยากมากขึ้น
เมื่อสองประเด็นนี้เกิดจึงพยายามหาความเชื่อมั่นด้วยการถาม สิ่งที่ตามมาคือ
1 เมื่อถามแล้วเกิดแนวคิดที่จะทำความเข้าใจเพิ่ม เหมือนน้องที่น่ารักจากเชียงราย และซินแซใหญ่แห่งเมืองตราด จากนั้นการตัดสินใจจึงเริ่มขึ้นอย่างมั่นใจในเป้าหมายการลงทุนที่ตั้งกรอบเอาไว้
2 เมื่อถามแล้วไม่เข้าใจ แต่พี่มนซื้อก็ซื้อตาม อันนี้ขอบอกว่าอันตรายเพราะกรอบการลงทุนของผมไม่เหมือนใครแน่นอน บางบริษัทถือยาวและติดตามผลดำเนินงาน บางบริษัทเอาไว้เป็นก้นบุหรี่สูบแก้อยาก เวลาขายไม่บอกใครนะครับ
การที่จะลงทุนแล้วไม่ค่อยพลาด(มีพลาดเหมือนกันนะ) คือต้องรู้จักและเข้าใจธุรกิจธุรกิจ รู้และเข้าใจนโยบายและกลยุทธในการดำเนินงานที่จะเป็นตัวเร่งมูลค่าให้เห็นเด่นชัดขึ้น
ใช้งบการเงินประกอบว่ากลยุทธ์ธุรกิจนั้นๆได้นำไปปฎิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพไหม พร้อมๆกับการตรวจสอบธรรมาภิบาลของผู้บริหารไปพร้อมๆกัน
Time Value Of Money ไม่ต้องนั่งผูกสูตรคำนวนอะไรให้ยากเย็นนัก คิดแต่เพียงง่ายๆ เช่นว่ากำไรที่เป็นเงินสดจะมีมูลค่าเท่าไรเพิ่มขึ้นเพียงพอที่จะสู้กับInflationไหม บางบริษัทโตเกินเงินเฟ้อมากๆจะสวยงามนัก บางบริษัทต้องการโตโดยใช้เงินสด เราต้องดูว่าเขาจะโตได้เท่าไรและจะเริ่มเก็บเกี่ยวผลตอบแทนได้เท่าไรคุ้มกับเงินที่จ่ายไปในหลายปี คล้ายๆกับการฝากเงินประจำไปห้าปีได้ดอกเบี้ยปีละ5%ปีที่ห้าจะได้เงินต้นพร้อมดอก ในขณะที่เงินเฟ้อ 6%ก็คงขาดทุนอยู่ไม่น้อย
สุดท้าย จิตใจเป็นเรื่องสำคัญ ชีวิตวันๆหนึ่งไม่ได้แค่มีเอาไว้เล่นหุ้นนะครับท่าน เอาไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมประเทศชาติบ้าง
มูลค่าขึ้นอยู่กับการเติบดตที่มีคุณภาพของกิจการ
ราคาขึ้นกับอารมณ์และความคิดของผู้เล่น
คุณจะเลือกมูลค่าหรือราคากันครับ?
เป็นบุญหนักหนาเหลือเกินที่ได้เกิดมาเป็นคนไทย เป็นคนไทยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชฯ